คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : [ Beautiful in like ] ยัยตัวแสบ แอบรัก...เจ้าชาย : Chapter 2
+ Chapter 2 +
ห้องเดียวกัน
!?
ฉันมองผู้ชายสามคนที่ยืนอยู่หน้าห้องอย่างตกใจ แบงค์ บอล เรย์ เจ้าชายของโรงเรียนพวกเขากำลังยืนเต๊ะท่าอยู่หน้าห้อง แบงค์ยิ้มให้สาวๆอย่างมีมารยาท บอลเสยผมอย่างมีมาดเพื่อเรียกเสียงกรี๊ดจากสาวๆ ส่วนนายเรย์ ยืนท่าธรรมดา แต่ว่าเรียกเสียงกรี๊ดจากสาวๆ ได้ไม่แพ้แบงค์กับบอลเลย
เฮอะ -_-^^ ไม่ยักรู้นะ ว่าอีตาเรย์นี่ขี้เก๊กสุด
“นี่คือ นายอภิภู (กรี๊ด!!!ดูดิแก แบงค์น่ารักโคตรเลยอ่ะ!!!) นายวิทวัส (นี่ๆๆๆแก บอลก็น่ารักน้า!!!) และนายภาณุพงศ์ (เรย์ก็เท่ห์นะแก!!!) ที่จะย้ายเข้ามาเรียนในห้องของเรา (ท่านิ่งๆ แต่หล่อโคตรเลยอ่ะแก!!!!!) นี่นักเรียน ช่วยเงียบกันหน่อยสิ” อาจารย์ประไพพยายามตะเบ็งเสียงแข่ง แต่ก็คงสู้เสียงของนักเรียนหญิงในห้องกว่าสามสิบคนไม่ได้หรอก
“นักเรียน ให้เกียรตินักเรียนใหม่หน่อยสิ”
นี่=_=++ ความอดทนของฉันมันมีจำกัดนะ
“เท่ห์ทุกคนเลยแก!!!!!” ไอ้อิ๊ดหันมากรี๊ดบ้าง และแล้ว ความอดทนที่เหลืออยู่เพียงน้อยนิดของฉันก็ได้หมดลง
อ๊าก!!!!! ไม่ไหวแล้วเฟ้ย! >o<
“เงียบ!!!!!!!!!!!!!” เสียงหลายร้อยเดซิเบลของฉันดังออกมาจากลำคออันแสนเล็ก แต่มันก็ดังพอที่จะทำให้ทุกคนหันมามองได้ พร้อมกับความเงียบ
“ไอ้บ้า แกคิดอะไรฟะ!” ไอ้อิ๊ดวีนแตก ฮะๆ ก็ตอนที่ฉันร้องอ่ะนะ ฉันหันหน้าไปทางหูของมันแล้วค่อยตะโกน ขอโทษเว้ย! เพื่อน
“เอ่อ...ขอบใจ เนยา ส่วนพวกเธอ ไปนั่งตรงนั้นละกัน ข้างหลังเนยา กับ นีรนุช อ่ะนะ มีที่ว่างสามที่พอดี” อาจารย์พูดแล้วชี้มาทางด้านหลังของฉันกับไอ้อิ๊ด แบงค์เดินมายิ้มให้ฉัน บอลก็ยิ้มกว้างให้ฉันเช่นกัน เรย์ทำหน้าปกติดี แต่ว่าเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย
ฉันนี่ท่าจะบ้าแฮะ ไปสังเกตขนาดนั้นน่ะ =*=
แต่ว่า มันน่าสงสัยนะ ว่าคนที่ชอบอีตานี่อ่ะนะ มันชอบที่ตรงไหน ออกจะขี้เก๊ก เย็นชา เหมือนพวกไม่มีความรู้สึก เอ๊ะ หรืออีตานี่เป็นมนุษย์น้ำแข็ง
“สวัสดีครับ สาวๆ” บอลเมื่อนั่งแล้วรีบหันมาทักฉันกับไอ้อิ๊ด
ดูจากท่าทางแล้ว อีตาบอลนี่เป็นเพลย์บอยชัวร์ๆ
“ดีค่ะ” ไอ้อิ๊ดหันไปตอบ แล้วมองบอลอย่างสนอกสนใจ ส่วนฉันอ่ะ อยากจะละลายเป็นธาตุไฮโตรเจนให้รู้แล้วรู้รอดเลยทีเดียว
อ๊าก! ก็แบงค์น่ารักขนาดนี้ ใครไม่รัก ก็บ้าแล้ว
แบงค์ส่งยิ้มให้กับฉัน บอลกำลังคุยเรื่องสัพเพเหระกับไอ้อิ๊ดไปทั่ว เรย์นั่งเงียบๆ หยิบหนังสือคณิตขึ้นมาแล้วทดเลขอย่างเอาเป็นเอาตาย
“เธอนี่คุ้นๆนะ!?” แบงค์พูดเมื่อจ้องหน้าฉันมานานสองนาน นานจนฉันอาย “อ๋อ เธอ คนเมื่อกลางวัน ที่ฉันเตะบอลไปโดนหัวใช่ป่ะ”
อ๋า เขาต้องแอบชอบฉันแน่เลยอ่ะ >o< จำฉันได้ด้วย (ไอ้หลงตัวเอง!!! - - - เสียงจากช่องแคบอ่ะค่ะ)
“อะไรนะไอ้แบงค์! มึงเนี่ยนะเตะกรูไปโดนหัวสาวน้อยคนนี้!” บอลพูดแล้วชี้มือมาที่ฉัน แบงค์เลยตบหัวบอลไปทีนึง
-_-^ เกิดมาไม่เคยพบเคยเห็นใครโง่ขนาดนี้เลยอ่ะ
“มึงจะบ้าเรอะ กูหมายถึง เตะฟุตบอลเว้ย!” แบงค์ตะโกนใส่ บอลหน้าแตกขนาดหมอไม่รับเย็บ จึงเสยิ้มไป แล้วหันไปหาไอ้อิ๊ดพูดคุยเพื่อกลบเกลื่อนความอาย
“ใช่ป่ะ เธอคือคนที่ฉันเตะบอลใส่หัว” แบงค์พูดแล้วยิ้มหน่อยๆ โอ้ แบงค์ คุณจะรู้รึเปล่านะ ว่ารอยยิ้มของคุณอ่ะ มันทำให้ฉันก้นไม่ติดเก้าอี้แล้วนะ
“อืม ค่ะ ^^” ฉันตอบแล้วพยายามเก๊กหน้าสวย พร้อมกับส่งรอยยิ้มพิมพ์ใจ ให้เขาไป เขาดูท่าจะอึ้งกับรอยยิ้มของฉันซะด้วยอ่ะ
“บ้านอยู่แถวไหนเหรอครับ?” แบงค์เท้าคางถาม เอียงคอนิดๆ ทำมุมยี่สิบห้าองศากับไหล่
โอะโอ๊ย! รู้ป่ะ น่ารักเป็นบ้าเลย >,< ใจละลายอ่านะ
“แถว...แถวเอ็มโพเรี่ยม ถนนสุขุมวิท 24 ค่ะ” ฉันตอบตะกุกตะกัก
โอ๊ย! ใจเต้นไม่เป็นสำเลยอ่ะ
“เล่นเอ็มรึเปล่าอ่ะ”
“เล่นค่ะ”
“ขอเมล์ได้ป่ะ?”
“เอ่อ...”
“นะนะ พลีส...” เขาทำท่าลูกแมว แล้วส่งสายตาอ้อน
ว้าย! ใครสอน ใครสอน ให้ทำตัวน่ารักแบบนี้อ่ะ >o<
“เอ่อ...ก็ได้” ฉันทำท่าลำบากใจอยู่ซักพัก ก่อนจะจดส่งเมล์แล้วให้กับเขา เขายิ้มร่า บอลมองแล้วแย่งกระดาษใบนั้นมาจากมือของแบงค์ ส่วนเรย์นั่งอ่านหนังสือเป็นตาย แบบว่า ถ้าหนังสือมีชีวิตมันคงขยับหนีไปให้รู้แล้วรู้รอด
“เฮ้ย! ไอ้บอล เอาคืนมานะโว้ย!” แบงค์ร้อง ก่อนจะตรงเข้าไปล็อคคอเพื่อนตัวดี แต่ด้วยเหตุที่บอลสูงกว่าแบงค์เล็กน้อย แบงค์จึงเสียเปรียบ
“ไอ้เรย์ มึงเลิกพิศวาสหนังสือ แล้วมาช่วยกูทีดิ” แบงค์ตะโกนเรียกเพื่อนอีกคน ที่ตอนนี้อ่านหนังสือแบบว่าไม่ลืมหูลืมตาเลยก็ว่าได้
“...” เรย์เงยหน้าขึ้นมามองเล็กน้อยตามเสียงเรียก เมื่อเห็นเพื่อนทั้งสองแล้ว ก็ส่ายหัวอย่างเอือมระอา ก่อนจะก้มลงไปพิศวาสหนังสือข้างหน้าต่อ
อยากรู้จริงๆ ว่าพวกนี้คบกันไปได้ไง แต่ละคนต่างกันสุดขั้วชีวิตเลยอ่ะ
“ไอ้บ้า...” แบงค์ด่าเพื่อนตัวเองเล็กน้อย แล้วหันมาแย่งกระดาษคืนจากบอลต่อ
“เนย...” เสียงเรียกหนึ่งดังมาจากข้างหน้า ทำให้ฉันละสายตาจากแบงค์กะบอล แล้วหันไปตามเสียงเรียก
“หืม...มีไรรึเปล่าเซน” ฉันเอียงคอเล็กน้อย แล้วถามเพื่อนข้างหน้าด้วยความสงสัย
“เธอ เธอ...”
“...” ฉันตั้งใจฟังคำที่เซนจะพูดอย่างใจจดใจจ่อ
“เธอชอบแบงค์เหรอ!?” คำถามนี้ของเซนทำให้ฉันตกใจเอามือไปปิดปากเซนทันทีทันใด จังหวะนั้น แบงค์ก็ได้กระดาษคืนมาจากบอลพอดี เขามองมาที่ฉันและเซนด้วยสายตาเจ็บปวด แล้วเอากระดาษใบนั้นขย้ำลงในถังขยะ บอลมองแบงค์อย่างงงงวย แต่ก็ไม่ได้ถามอะไรออกไป จึงหันไปป้อไอ้อิ๊ดต่อ
“อย่าพูดอีกน้า...” ฉันพูดพร้อมกับค่อยๆเอามือออกมาจากปากเซน เซนพยักหน้าเบาๆ แล้วหันกลับไปที่เดิม
“นี่นาย อย่ามาทุเรศนะ” เสียงไอ้อิ๊ดวี้ดว้ายออกมา พร้อมกับตบหน้าบอลไปหนึ่งที
จุ๊บ!
เพี๊ยะ!
จุ๊บ!
เพี๊ยะ!
จุ๊บ!
ยิ่งไอ้อิ๊ดตบ บอลก็จูบเข้าที่แก้มเนียนๆของไอ้อิ๊ด ไอ้อิ๊ดไม่รู้จะทำยังไง มันเลย...
จุ๊บ!
โครม!
คนทั้งห้องพากันส่งสายตามาที่บอล ก็ไอ้อิ๊ดน่ะสิ มันเล่นจุ๊บเข้าที่แก้มของบอล บอลเลยหงายหลังลงไปกองกับพื้น เดือดร้อนเพื่อนทั้งสองที่นั่งอยู่ข้างๆ ต้องคอยพยุงตัวขึ้นมาอีก
“เฮ้ย! ไอ้อิ๊ด แก...” ฉันยังพูดไม่ทันจบ ไอ้อิ๊ดเลยรีบเอามือมาปิดปาก แล้วส่ายหัวเป็นเชิงว่าไม่ต้องพูดเลย ไม่อยากฟังแล้ว
“....” ฉันดึงมือไอ้อิ๊ดออก แล้วถุยน้ำลาย เหวะ มือไอ้นี่เค็มเป็นบ้าเลย...
“เซน...วันนี้ไม่ไปเที่ยวกับพวกเราเหรอ!” ฉันถามเซนเป็นครั้งที่ห้าร้อยห้าสิบห้าพอดี แต่เซนก็ยังยืนยันอยู่คำเดียว คือส่ายหัว แล้วพยายามแกะมือตุ๊กแกของฉันออก
“ทำไมวะเซน ไปเที่ยวกับเพื่อนหน่อยไม่ได้เหรอ” ไอ้จาตบไหล่เซน แล้วถาม
“อืม...นานทีปีหนที่ไอ้จามันจะเลี้ยงน้า... ไม่ไปหน่อยเหรอ” ไอ้อิ๊ดพูดบ้าง แต่เซนก็ยังยืนยันอยู่คำเดียว คือ ส่ายหัว แล้วพยายามสะบัดตัวออกจากพวกฉัน
“นะเซน ไปเหอะ ก่อนที่เราจะไม่ได้ไปไหนด้วยกันอีกนะ” ไอ้อิ๊ดพูด พวกเราหันไปมองไอ้อิ๊ดกันพรึ่บพรั่บ ราวกับว่านัดกันเอาไว้
“แกหมายความว่าไง!?” ฉันหันไปถาม
“เออ เรื่องมันเป็นยังไง” ไอ้จาถาม
“เล่าให้พวกเราฟังเดี๋ยวนี้!” เซนพูด
“คือว่า... ฉัน ฉัน ฉันจะพูดว่า ก่อนที่พวกเราจะไม่ได้คุยกัน เพราะมันจะปิดเทมอแล้ว” ไอ้อิ๊ดแก้ตัวพัลวัน พวกเรามองอย่างไม่เชื่อสายตา
“จริงเหรอ มันเพิ่งจะเปิดเทมอไม่กี่วันเองนี่” ฉันร้องอย่างจับผิด ไอ้อิ๊ดหน้าเสีย แต่ก็ยังไม่วายหาข้อแก้ตัวมาได้อีก
“ก็ พวกเราอาจจะไม่ได้ไปเที่ยวที่ไหนกันอีกก็ได้นี่” ไอ้อิ๊ดแก้ตัวเหงื่อแตกพลั่ก ฉันไม่อยากรู้อะไรมาก เลยพยักหน้าส่งๆไป แล้วหันไปหาเซนด้วยสายตาอ้อนวอน
“ไปเหอะนะ เซน...”
“ป่ะ ก็ได้” เซนพูด ฉันโผเข้ากอดเซนด้วยความดีใจ เซนออกอึ้งๆเหมือนกัน เขายืนทื่อเป็นไม้ยืนต้น ไอ้อิ๊ดสะกิดฉัน แล้วดึงฉันออกมา
“อะไรของกะ....” ฉันวีนใส่ไอ้อิ๊ด แต่เมื่อมันชี้ให้ฉันดู ฉันกลืนคำพูดทั้งหมดลงไปในลำคอ ก่อนที่จะมองคนที่ยืนอยู่ข้างหน้าอย่างตกใจ แบงค์ เขากำลังเดินมาพร้อมกับเพื่อนทั้งสอง หยุดมองฉันกับเซนกอดกันอย่างตกใจ แล้เขาก็รีบเดินหนีไป
“แบงค์!!” ฉันตะโกนเรียก แบงค์ชะงักเล็กน้อย แล้วเดินต่อไป เพื่อนสองคนที่ยืนอยู่ด้วยมองหน้ากันเล็กน้อย ก่อนจะวิ่งตามไป
“แบงค์รอก่อน เดี๋ยว!!!” ฉันตะโกนแล้ววิ่งตามไป ไอ้อิ๊ดกับไอ้จามองหน้ากันเล็กน้อย ส่วนเซน หยิบกระเป๋าแล้ววิ่งไปหาแบงค์อย่างรวดเร็ว ซ้ำยังเร็วกว่าฉันแล้วก็บอลกับเรย์อีกด้วย
“แกกับฉันมีเรื่องต้องคุยกัน!!!” เซนตะโกนเสียงดังใส่แบงค์ แล้วลากเขาไปที่อื่น ฉันจะตามไปแต่ถูกขวางทางไว้ด้วยเรย์ ส่วนบอล กำลังป้อไอ้อิ๊ดกับไอ้จาอยู่
“ถอย!” ฉันตะโกนใส่เรย์
“....” มีแต่ความเงียบจากตัวอีตานี่ อ๊าก! กวนฉันเหรอ ไอ้บ้า...
“ฉันบอกไห้ถอยไปนะ!!!!” ฉันขึ้นเสียง ก่อนจะออกแรงผลักอีตานั่นไป แต่เขาก็ยืนเฉยๆ เหมือนไม่มีชีวิตอยู่
อีตาบ้านี่ นายตายไปแล้วเหรอฮะ!
“....” เขายังคงเงียบอยู่
“นี่นาย นายจะถอยดีดี หรือให้ฉันลงมือ!!” ฉันตวาด แต่เขายังคงเฉย และไม่พูดอะไรกับฉัน เอาวะ ไม้แข็งใช้ไม่ได้ ต้องเล่นไม้อ่อนแล้ว
“เรย์ ถอยหน่อยนะ....”
“...”
“นะนะ ให้เราผ่านไปหน่อย
”
“....”
“นี่นาย ความอดทนฉันมันมีจำกันนะ!!!!”
“...”
“นายเป็นใบ้เหรอ!!!”
“....”
“น้ำลายนายบูดหมดแล้ว!!!”
“....”
“นายพูดหน่อยสิ...”
“...”
“นี่นาย อย่ามากวนโมโหฉันนะ!!!”
“...”
“ปากไม่มีเรอะ!!!”
“...”
“ไอ้บ้า!!! @#+^=” ฉันสบถ แล้วด่าเขาไปหลายๆอย่าง แต่เขาก็ยังนิ่ง แถมยังตั้งใจฟังที่ฉันด่าอีกแน่ะ
“เนย! ไปเที่ยวกันเหอะ” เซนร้องเรียกฉัน ฉันจึงหันไปตามเสียเรียก ยิ้มแล้วเดินไปหาเซน
“ไปไหนกันเหรอ! ไปด้วยได้ไหม” แบงค์ถาม หันมายิ้มหวานให้กับฉัน อ๊ะ ฉันสังเกตเห็นด้วย ว่าที่แก้มของเซน มีรอยช้ำอยู่ แล้วที่ริมฝีปากของแบงค์ ก็มีรอยเลือดซึมอยู่ด้วย
“เซนไปโดนอะไรมาน่ะ! แบงค์ด้วย” ฉันถาม แบงค์กับเซนหน้าซีด มันทำให้ฉันรู้ว่า แบงค์กับเซนต่อยกันด้วยเหตุผลอะไรบางอย่างแน่
“ไม่มีอะไรหรอก ฉันกับแบงค์ต่อยกันเรื่องไม่เป็นเรื่องน่ะ” เซนพูด แล้วดันตัวฉันให้เดินไป แต่แล้วก็ทำท่าเหมือนนึกอะไรออก จึงหันกลับไป “เออ แบงค์ นายจะไปด้วยก็ได้นะ แล้วก็ ไอ้อิ๊ด ไอ้จา ไปได้แล้ว!!”
“ถอยไปเลยนะ อีตาบ้า!!!” ไอ้อิ๊ดผลักบอลออกจากตัว แล้วฉุดไอ้จาวิ่งมาหาฉันกับเซน แต่ว่าบอลวิ่งตามมา ไอ้อิ๊ดจึงทำท่าค้นอะไรบางอย่างในกระเป๋า แล้วหยิบออกมา
“อย่าเข้ามานะ ไม่งั้นฉันแทงใส้ไหลแน่!” ไอ้อิ๊ดพูดแล้วหยิบอะไรบางอย่างออกมาจากกระเป๋า มันคือมีดคัตเตอร์ ไอ้มันพบคัดเตอร์ไว้ตั้งแต่เรียนม.1แล้ว มันกลัวว่าจะมีคนเข้ามาหามัน มันเลยพกคัดเตอร์ไว้ เผ่อใครล่วงเกินมัน มันจะได้แทงให้ใส้ไหลขี้หดไปเลย (มันบอกมานะ...)
“โห ที่รัก อย่าทำอย่างนี้เลยน้า จุ๊บๆ” บอลพูด พร้อมกับส่งจูบให้ไอ้อิ๊ด ไอ้อิ๊ดรับรอยจูบนั้นมา บอลทำท่าดีใจ แต่ว่าพอเห็นไอ้อิ๊ดโยนลงพื้น แล้วบิดขยี้อย่างไม่ปรานีเท่านั้นเหละ บอลก็ทำหน้าเสียทันที
“โห ใจร้ายจัง
”
“ไม่ต้องมาพูด!!!”
“ทำไมล่ะที่รัก”
“ยังจะมาพูดอีก!!!”
“โอ๋ๆๆอย่างอนนะที่รัก”
“นี่นาย!!!!”
“เรียกชื่อกันดีดีหน่อยสิ แหม เรียกซะ”
“กรี๊ด!!!!!”
เอ่อ...นังคนเขียนคะ สรุปว่า เรื่องนี้ฉันหรือไอ้อิ๊ดที่เป็นนางเอกคะ เห็นเขียนแต่บทมัน ไม่มีบทฉันซักพยางค์เลยนะคะ (เออน่า พูดมากเดี๋ยวเขียนให้ตายซะหรอก : ผู้แต่ง)
“หยุดซักทีเหอะ ทั้งสองคนเลย!!!!” ฉันออกเสียงเด็ดขาด ทำให้บอลแล้วก็ไอ้อิ๊ดหันมามองฉัน พร้อมกับเชิดหน้าใส่กัน
“วันนี้ไม่ต้องไปมันแล้ว...” ฉันโพล่ง แล้วหยิบกระเป๋านักเรียนเดินออกไปจากตรงนั้น ไอ้อิ๊ดร้องเรียกฉันพร้อมกับไอ้จา เซนวิ่งตามมาพร้อมกับแบงค์ แต่ฉันเมื่อออกมาหน้าโรงเรียนแล้วก็รีบเรียกแท็กซี่แล้วนั่งออกไปอย่างรวดเร็วเพียงเสี้ยววินาทีที่เซนกับแบงค์เดินออกมา
ฉันหันไปมองข้างหลัง แบงค์กำลังวิ่งตามรถมา พร้อมกับเรียกรถแท็กซี่อีกคันให้ขับตามรถของฉันมาด้วย ฉันได้แต่ถอนหายใจอย่างหมดแรง
ฉันเป็นอะไรนะ ทำไมมันหงุดหงิดจัง...
ฉันสะบัดความคิดทั้งหมดที่อยู่ในหัวออกไป แล้วมองไปข้างหลัง รถแท็กซี่ของแบงค์กำลังตามมาติดๆ ทำไมฉันหงุดหงิดอย่างนี้เนี่ย
เฮ้อ...พี่เนเคยบอกเอาไว้ว่า ช่วงนี้ฉันจะหงุดหงิดง่าย พี่เนอ่ะ เป็นคนชอบดูดวง หนังสือเล่มไหนมีดวงให้ดูนะ ไม่เคยพลาด
~ทำตามคนโน้น ตามใจคนนี้...เรื่อยมา ใจไปทางโน้น ใจไปทางนี้...ทุกเวลา
เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ เหมือนฤดูกาล ไม่เคยแน่นอนซักครั้ง หลอกตัวเองไปอย่างนั้น มองเลยความฝัน...ในใจ
เพลงนี้เป็นเพลงที่ฉันรู้จักดี และเพลงนี้ ฉันก็ชอบมาก ซึ่งช่วงเวลานี้ มันไม่เหมาะกับเพลงนี้ซักนิด
ชอบอะไรก็ไม่รู้ ไม่รู้ใจตัวเอง เลือกอะไรก็ไม่รู้ หลงทางไปจนไกล เพิ่งเข้าใจเพิ่งจะรู้ ว่ามีเธออยู่ข้างกาย ขอเดินไปสู่จุดหมาย กับเธอ
แปรปวนตามฝน รวนเรตามฟ้า...เรื่อยมา มีดีทางนี้ ยังมองตรงโน้น...เสียเวลา
น้ำตาฉันเริ่มซึมข้างๆขอบตา ฉันเช็ดมันออกลวกๆ พร้อมกับดูนาฬิกาข้อมือ บอกเวลาว่าสามโมงกว่าๆ ฉันจึงตัดสินใจว่าจะไปเดินเที่ยวซะหน่อย ฉันจึงให้เลี้ยวรถกลับเพื่อไปเดินเที่ยวที่สยาม เพราะช่วงเวลานี้ เป็นเวลาที่พี่เนไปจัดรายการ ส่วนพี่นาย คงไปเที่ยวครื้นเครงกับเพื่อนๆ ตามประสาคนเจ้าชู้อ่ะเหละ ส่วนพ่อกะแม่ รายนั้นไม่ต้องพูดถึง ไปทำงานที่โน่น เขาใหญ่ ไปสัปดาห์นึงคงกลับเหละ
นี่ฉันคงพลาดบอกอะไรไปใช่ไหมคะ พี่เนเป็นดีเจค่ะ อยู่ค่าย 97.55 FM อ่ะค่ะ เขาจะจัดช่วงสามโมงถึงหกโมงเย็นอ่ะค่ะ พี่เนเป็นคนพูดเก่ง พูดตลก พูดแบบน้ำไหลไฟดับ พูดได้ไม่หยุดปาก พูดแบบไม่รู้จะอธิบายยังไงไหว แต่ว่าบางที พี่เนก็จะมีเหตุผลเกี่ยวกับเรื่องนั้นอยู่เหมือนกัน
~เข้าใจบ้างไหม ว่าคนกำลังน้อยใจ ไม่มีคำอธิบาย...~
“หืม...ว่าไงคะพี่เน”
“เนย วันนี้พี่อาจจะกลับดึกหน่อยนะ”
“ทำไมอ่ะคะ”
“มีเรื่องนิดหน่อย”
“เรื่องอะไรอ่ะ”
“ไม่มีอะไรมากหรอกน่า!”
“ทำไมพี่ต้องขึ้นเสียงอ่ะ”
“เอาน่า พี่ขอโทษ”
“แล้วพี่เป็นไรรึเปล่า”
“ไม่เป็นไร...อืม ป่านนี้ไอ้นายมันคงกลับไปแล้ว เพราะเมื่อกี้พี่โทรไปบอกให้มันกลับบ้านเร็วๆ เนยกลับบ้านดีดีนะ” พี่เนพูดจบก็วางสายไปอย่างรวดเร็ว อ้าว ไหงวันนี้ที่ฉันจะไปเที่ยว มันต้องมีเรื่องด้วยวะ
“เอ่อ น้าคะ ช่วยไปทางเก่าได้ไหมคะ” ฉันหันหน้าไปบอกคุณน้าเค้า เค้ามองอย่างเซ็งๆ หมายถึงว่า ‘จะไปไหนกันแน่วะ’ แล้วก็เลี้ยวกลับอย่างรวดเร็ว
เออ ลืมไป ป่านนี้ แบงค์คงหัวหมุนไปแล้วแน่ๆเลย ก๊าก! ก็ฉันเล่นขับรถวนซะขนาดนี้ ฮิฮิ
ฉันหันไปมองทางด้านหลัง รถแท็กซี่ของแบงค์ไม่ตามมาแล้ว ความน้อยเนื้อใจต่ำของฉันก็เริ่มมากมี ฉันสะบัดความคิดนั้นออก หากแต่ว่า ความคิดนั้นยังวนเวียนอยู่ในหัวของฉัน ราวกับว่าเป็นสิ่งหนึ่งที่ตัดออกไปไม่ได้เลยทีเดียว
ฉันถอนหายใจออกมาอย่างอ่อนล้า
เฮ้อ!... กลับไปบ้านจะมีเรื่องร้ายๆเกิดอีกไหมนะ
ความคิดเห็น