คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : Episode 4: Get near me
Episode 4
우릴 공부하는 기계로 만든 건 누구?
อุริล กงบูฮานึน กึกเยโร มันดึน กอน นูกู?
ใครกันที่ทำให้เราต้องมาเป็นนักเรียนแบบเครื่องจักร?
일등이 아니면 낙오로 구분
อิลดึงงี อานีมยอน นักโกโร กูบุน
พวกเขาแบ่งชั้นเราให้ออกมาจากพวกที่หนึ่งทั้งหลาย
<BTS (방탄소년단) - N.O (엔.오)>
“หึ รู้ไว้แค่ว่าตั้งแต่นี้ต่อไป เธอเป็นของฉันเท่านั้นพอ”
“นายจะบ้าหรอไง มันไม่เห็นจะเกี่ยวกับเหตุผลที่นายจะต้องไม่ชอบแอลเลยหนิ”
“เธอจะบอกว่าเธอไม่ได้คิดอะไรกับมันว่างั้น”
“ใช่”
“แต่มันคิด”
“คิด หมายความว่าไง”
“มันชอบเธอ วันแรกที่มันมาช่วยเธอ มันตั้งใจ”
“นี่นายพูดเรื่องอะไรของนายเนี่ย”
“นายโกรธอะไรกับ แอล ก็ไปลงที่หมอนั่นสิ มันเกี่ยวอะไรกับฉันด้วยละ”
“เพราะมันต้องไม่มีวันมีความสุข”
“โอ้ยยย ฉันว่านายเริ่มจะพูดไม่รู้เรื่องแล้วนะ”
“ตั้งแต่วันนี้ไป เธอเป็นผู้หญิงของฉัน อย่าสะเออะไปยุ่งกับผู้ชายหน้าไหน”
“นี่ นายพูดไม่รู้เรื่องหรอไงห๊ะ”
ตอนที่ฉันกำลังจะง้างมือเพื่อฟาดลงไปที่หลังของ เซฟเฟอร์ อยู่ดีๆเขาก็หันกลับมาพร้อมกับพูดว่า
“อย่าลองดีกับฉัน ฉันไม่ได้ใจดีอย่างที่เธอคิดหรอกนะ”
“ฉันก็ไม่ได้คิดว่านายใจดีมาตั้งนานแล้ว”
“เหรอ อย่างน้อยเธอก็เคยคิด”
“อย่ามาทำเป็นรู้ไปหน่อยเลย”
“เธอชอบฉัน เถียงไหมละ”
“หลงตัวเองชะมัด”
“ยัยโมโมเอะ”
“บางทีสิ่งที่นายเห็นมันอาจจะไม่อย่างที่นายคิดก็ได้”
“หึ อย่าแม้แต่จะเข้าใกล้ไอ้ แอล ไม่งั้นฉันเอาเธอเละแน่”
“แต่ฉันกับ แอล ต้องเป็นหัวหน้ากลุ่มคู่กัน นายก็น่าจะรู้หนิ”
“รู้ไง เดี่ยวฉันเคลีย์เอง”
“นายไม่คิดจะถามฉันบ้างหรอไงว่าฉันคิดยังไง”
“ทำไมต้องถาม ตอนนี้เธอเป็นของฉัน รู้ไว้แค่นั้นก็พอ”
ปัง
พูดจบก็เดินออกไปง่ายๆแบบนี้เลยเนี่ยนะ นี่เขาจะมาไม้ไหนกันแน่เนี่ย
เชื่อเถอะ ถ้าฉันต้องเจอ เซฟเฟอร์ ในมุมนี้ทุกวัน มันต้องมีสักวันที่ฉันต้องตั้นหน้าหมอนี่เข้าจริงๆแน่ ก็ไอนิสัยของเขาตอนนี้ มันเป็นนิสัยที่ฉันโคตรเกลียดเลยไง
ติ๊ด ติ๊ด
‘พรุ่งนี้จะมารับ ถ้าเธอชิ่ง เธอเละแน่’
ก็อยากจะแปลกใจอยู่หรอกว่าใครส่งอะไรแปลกๆมา เบอร์แปลกๆ
แต่พออ่านจากคำพูดแล้ว เซฟเฟอร์ ชัว แล้วฉันก็ไม่อยากจะรู้ด้วยว่าหมอนั่นเอาเบอร์ฉันมาจากที่ไหน เพราสำหรับเขาแล้วเรื่องแค่นี้มันดูเป็นแค่เรื่องง่ายๆ
ไม่อยากจะเชื่อเลยว่า เขาสามารถตีสองหน้าแบบนี้ได้ยังไง อยู่มหาลัยก็ทำตัวสะเป็นผู้ชายแสนดี แต่พอลับหลังกลับกลายเป็นปีศาจ
เช้าวันต่อมา
สุดท้ายฉันก็หาวิธีที่จะหนีจากเซฟเฟอร์ไม่ได้ มันก็คงจะมีแค่วิธีเดียวนั้นแหละ คือ เผชิญหน้า หนีไปก็เท่านั้น ฉันก็อยากรู้เหมือนกันว่าผู้ชายคนนี้มีแผนอะไรกันแน่
ก๊อก ก๊อก
ลองมาทายกันดูไหมว่าคนที่กำลังเคาะประตูอยู่คือใคร
แอด
“ไง”
รู้แล้ว ใช่ไหมว่าใคร คำทักทายสั้นๆแบบนี้ มีอยู่คนเดียวนั่นแหละ
“ฉันมีข่าวดีให้เธอวะ”
“คนอย่างนายเคยมีข่าวดีสำหรับฉันด้วยงั้นหรอ”
“ฉันเปลี่ยนคู่ให้เธอแล้ว”
“ห๊ะ เปลี่ยนแล้ว ใครเปลี่ยน”
“ฉัน”
“ห๊ะ นี่นาย ถามความสมัครใจของฉันบ้างไหม”
“ช่วยไม่ได้ ฉันบอกเธอแล้วว่าอย่ายุ่งกับไอ แอล”
“แล้วฉันไปยุ่งกับเขาตอนไหน”
“หึ ยังมีหน้ามาถามอีก เมื่อวานไม่ใช่เธอหรอไงที่ลากไอ้แอลเข้าห้อง”
“นี่ ไอ้ปีศาจ”
“เมื่อกี้เธอเรียกฉันว่าอะไรนะ”
เซฟเฟอร์ หันหลังกลับมาทันทีตอนที่ฉันเรียกเขาแบบนั้น แล้วดูสายตาที่ส่งมาสิ คิดว่ากลัวหรอไง
ใช่ ก่อนหน้านี้ฉันอาจจะกลัว แต่ตอนนี้ไม่แล้ว ฉันรู้สึกได้ว่าไอ้ผู้ชายตรงหน้ามันก็แค่เด็กที่ไม่รู้จักโตคนหนึ่งเท่านั้น
“ไอ้ปีศาจ”
“หึ เดี่ยวรู้กัน”
“รู้อะไรของนาย เลิกพูดจาไม่รู้เรื่องสักทีได้ไหม”
“ขยับมาใกล้ๆสิ เดี่ยวรู้เลย”
แล้วคงเพราะความอยากรู้ หรือไม่ก็เพราะความโง่ของฉันเอง ฉันขยับเข้าไปหา เซฟเฟอร์จริงๆ
“อื้อ!” ฉันเบิกตาโพลงพร้อมทั้งพยายามดิ้นเพื่อให้หลุดออกจากการเกาะกุมครั้งนี้ แต่เหมือนยิ่งดิ้นก็ยิ่งจะเข้าข้างผู้ชายตรงหน้าเข้าไปอีก เพราะพอจะร้องประท้วงก็เหมือนเป็นการเปิดทางให้ เซฟเฟอร์ มากยิ่งขึ้น
ไม่รู้ว่ามันผ่านไปกี่นาทีแล้ว รู้แต่ว่าตอนนี้ ฉันหายใจไม่ออก
“หึ อ่อนชะมัด”
เซฟเฟอร์ พูดทิ้งไว้แค่นั้น ก่อนจะพละออกไปจากฉัน ซึ่งมันก็ส่งผลให้ร่างกายของฉันทรุดลงไปกองที่พื้นทันที
“ไอ้สารเลว”
“เปลี่ยนชื่อให้ฉันบ่อยจริงนะ...อีกอย่างฉันว่าฉันยังเลวได้มากกว่านี้อีกนะ”
“นายมันไม่ใช่คน ฉันเกลียดนาย”
“ฉันไม่เคยขอให้เธอชอบอยู่แล้ว”
“ไอ้ปีศาจ”
“ขึ้นรถ ถ้าไม่อยากอายไปมากกว่านี้”
เซฟเฟอร์ ฉุดกระชากลากถูฉันมายังรถของเขาที่จอดอยู่หน้าคอนโด พร้อมกับยัดฉันเข้าไปข้างใน ขอย้ำว่า ยัด นี่ถ้าเขาไม่เกรงใจ เขาคงถีบฉันเข้ามาแล้วละ
“บอกฉันหน่อยได้ไหม แอล ไปทำอะไรให้นาย”
“เธอไม่จำเป็นต้องรู้”
หลังจากนั้น เราทั้งสองคนก็เงียบมาตลอดทาง ไม่ใช่เพราะฉันไม่มีอะไรจะพูดหรอกนะ แต่เป็นเพราะพูดไปก็เท่านั้น สุดท้ายฉันก็ไม่ได้คำตอบอะไรกลับมาอยู่ดี
“นี่ ให้ฉันลงแถวหน้ามหาลัยก็พอ”
“ทำไมฉันต้องทำอย่างนั้น”
“แล้วนายจะให้ฉันลงรถไปพร้อมกับนายหรอไง”
“มันก็ต้องเป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว”
“นายจะบ้าหรอไง เดี่ยวพวกแฟนคลับนายก็มาทึ้งหัวฉันพอดี”
“นั่นแหละที่ฉันต้องการ”
“ไอ้ปีศาจ จอดรถเดี่ยวนี้นะ” ก็รู้ว่าพูดไปก็เท่านั้น เขาไม่สนใจในสิ่งที่ฉันพูดหรอก
เอี๊ยดดดด
“ฉันเกลียดนาย”
“หึ ใครสนละ”
ปัง
เขาเปิดประตูรถลงไปแล้ว แต่ฉันยัง
ฉันรู้ว่าพวกแฟนคลับคลั่งกลุ่ม BestDream ขนาดไหน เพราะฉันก็เคยเป็นแฟนคลับของพวกนี้เหมือนกันไง
ตอนที่ขับรถมา เขายังทำหน้าบึ้งเหมือนไปโกรธใครมาสักร้อยปีอยู่เลย แต่พอลงจากรถไปปับ เขาก็ยิ้มเบิกบานเหมือนถูกรางวัลร้อยล้านอย่างงั้นแหละ
ไอ้ผู้ชายสร้างภาพเอ้ย
ผ่านไปเกือบ 10 นาที
ฉันก็ยังคงไม่ขยับตัวไปไหน จนกระทั่งรู้สึกว่าตัวเองเหมือนจะหายใจไม่ออกนั่นแหละ
เพราะรถของ เซฟเฟอร์ ติดฟิลม์สีดำทั้งคัน ทำให้คนด้านนอกไม่ทันสังเกตว่ามีคนอยู่ภายในรถ บวกกับที่ทุกคนมัวแต่สนใจเดินตามแต่กลุ่มของ BestDream ฉันจึงถือจังหวะนั้นค่อยๆก้าวออกมาจากรถ
“ไง”
เฮือก
ทำไม เซฟเฟอร์ ถึงมาอยู่ตรงนี้ได้ละ ถ้าเขามาอยู่ตรงนี้ ก็หมายความว่า
“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดด นี่มันหมายความว่าไงเนี่ย”
“เกิดอะไรขึ้นทำไมยัยนี่ถึงไปอยู่ในรถของ เซฟเฟอร์ละ”
หมอนี่จะหาเรื่องฉันให้ได้เลยสินะ
“นายต้องการอะไรกันแน่ เซฟเฟอร์” ฉันกัดฟันพูดลอดผ่านไรฟัน
ตอนนี้ฉันเริ่มโกรธมากแล้วจริงๆนะ ไม่ทราบว่าฉันไปทำอะไรให้เขาข้องใจตรงไหนกันแน่ ทำไมต้องแกล้งกันแบบนี้ด้วย
“ฉันต้องการเธอ แค่เธอรับปากว่าจะอยู่กับฉันไม่หนีไปไหน ฉันก็จะไม่ทำให้มันวุ่นวาย”
เรื่องนี้อาจจะ งง ซับซ้อน ไปหน่อย ก็อย่าเพิ่งเบื่อกันนะค่ะ
writer พยายามอยากจะเปลี่ยนแนวของตัวเองนิดนุง แต่ตอนท้ายๆเหมือนจะกลับเข้าแบบเดิม
ไม่ชอบหรืออยากให้เปลี่ยน ปรับตรงไหน แนะนำได้เลยนะค่ะ
สำหรับคนที่รอการอัพนิยายนะค่ะ จะมาอัพให้ทุกวัน อาทิตย์ นะค่ะ
อาจจะมีช้านิดหน่อยในบางครั้ง
อยากจะแนะนำติชมกัน จะได้เอาไปปรับปรุงน่ะค่ะ
มือใหม่หัดเขียนก็เงี้ยยย ^^
ความคิดเห็น