ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Writer

    ลำดับตอนที่ #1 : ตอนที่ 1 Welcome to Fantasy World [1]

    • อัปเดตล่าสุด 3 พ.ย. 57


    .

    ตอนที่ 01 Welcome to Fantasy World [1]

    กาแฟหอมกรุ่นถูกวางลงบนหนังสือเล่มหนาข้างโต๊ะคอมพิวเตอร์ รอยเปื้อนสีน้ำตาลเข้มเป็นวงซ้อนกันหลายวงเหลื่อมล้ำเลยก้นถ้วยกาแฟออกมาบอกให้ทราบว่าหนังสือเล่มหนาเล่มนี้ถูกใช้รองถ้วยกาแฟมาหลายครั้ง ถ้าผู้แต่งได้เห็นหนังสือของตนถูกใช้เป็นจานรองกาแฟเขาจะรู้สึกอย่างไร คงมีแต่ตัวเขาที่บอกได้

    คอมพิวเตอร์ยังโหลดโปรแกรมแรกเปิดเครื่องไม่เสร็จแต่ชายหนุ่มที่นั่งอยู่หน้าจอก็ไม่ใส่ใจ เขาหยิบกาแฟร้อนขึ้นมาสูดดมกลิ่นหอมแล้วจิบรับรสขมทีละน้อย นมถั่วเหลืองที่ใช้แทนครีมเทียมให้รสชาติอันแตกต่าง แรกชิมเขารู้สึกแปลกประหลาด แต่เมื่อผ่านจิบที่สามทุกอย่างก็ลงตัว

    ตัวเลขบนโปรแกรมวัดการทำงานของคอมพิวเตอร์เปลี่ยนจากสีแดงเป็นสีขาว โปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่จะรันตอนเปิดเครื่องเตรียมพร้อมเสร็จเรียบร้อย เจ้าของคอมพิวเตอร์ใช้นิ้วชี้รุนแว่นตัวเองให้แนบกับดั้งจมูก เรียกโปรแกรมพิมพ์งานขึ้นมาเตรียมพร้อม เขาเปิดดูแฟ้มเอกสารในคอมพิวเตอร์ตรวจสอบว่าเรื่องราวที่ตัวเองแต่งไปดำเนินไปถึงจุดไหนแล้ว

    ถ้วยกาแฟถูกวางลงบนหนังสือเล่มเดิม ตำแหน่งที่วางเคลื่อนย้ายจากเดิมไปเล็กน้อยเผยให้เห็นชื่อหนังสือที่เปื้อนคราบกาแฟแต่ยังพออ่านได้

    “แหกขนบการเขียนนิยายร่วมสมัย”

    เสียงคีย์บอร์ดดีดดังต่อเนื่อง เจ้าของหนังสือผู้มีอาชีพนักเขียนอิสระปลดปล่อยจินตนาการของตนออกจากกรงขังหลังกะโหลกศีรษะ ให้ความรู้ประสบการณ์ปัญญาควบคุมปลายนิ้วสลักเล่าเรื่องราวลงสู่ผืนความจริงแห่งจักรวาล

    มันช่างลักลั่นย้อนแย้ง หนังสือที่เขาซื้อมาเพื่อประดับอาวุธทางปัญญาไว้ต่อกรกับจอมยุทธ์เวทีอักษรในโลกกลับเป็นเพียงคำพร่ำเพ้อของผู้ประพันธ์ เขาพยายามอ่านจับใจความอย่างหนักแต่ไม่ได้รับประโยชน์ใด ๆ จากหนังสือราคา 250 บาทเล่มนี้ แม้แต่มือใหม่ก็คงไม่ได้อะไรจากกระดาษเปื้อนหมึกที่มีราคาแต่ไร้ค่า เป็นเพียงเครื่องมือทำมาหากินของคนที่สลักคำว่านักเขียนลงบนหน้าตะโกนบอกโลกว่าตัวเองเป็นนักเขียนทั้งที่ภายในโล่งกลวง

    เขาเสียดายเงินที่จ่ายไปกับหนังสือเล่มนี้จึงนำมันมาเป็นจานรองแก้ว มอบหน้าที่ภารกิจในการย้ำเตือนความจำให้ ทุกครั้งที่วางถ้วยกาแฟลงไปมันจะตะโกนใส่หน้าเขา ตะคอกบอกให้เขาจดจำว่าต้องเลือกและตัดสินใจให้รอบคอบมากกว่านี้

    นิ้วที่ร่ายรัวของนักประพันธ์หยุดลง เขาแต่งบทสนทนามาถึงเนื้อหาคำพูดที่อ้างอิงถึงเหตุการณ์เก่าก่อน เขาจำไม่ได้ว่าเหตุการณ์ดำเนินไปเช่นไร เวลาไหน เพราะอะไร

    ในช่วงแรกของการแต่งนิยายเรื่องยาวเขายังจำทุกอย่างไว้ในสมองได้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับใคร แต่เมื่อเวลาผ่านไปเพียงแค่เดินสะดุดก้อนหินเขาก็ลืมเนื้อคำบอกรักของพระเอกผู้อาภัพต่อนางเอกผู้ถือดี

    หน้าต่างโปรแกรมพิมพ์เอกสารถูกพับย่อลง เขาค้นหาแฟ้มข้อมูลเนื้อหานิยายตอนแรก ๆ มาเปิดหลายครั้งแต่ไม่พบเนื้อหาส่วนที่ต้องการ ยังดีที่เขาจำลำดับเหตุการณ์ในนิยายของตัวเองได้ ไล่เปิดแฟ้มเอกสารอีกสี่แฟ้มเขาก็พบข้อมูลที่ต้องการ

    หน้าต่างงานล่าสุดถูกเรียกขึ้นมาอีกครั้งเพื่อทำงานต่อ แต่ข้อความบนจอทำให้เขาขมวดคิ้วด้วยความฉงน

    เมื่อเชื้อไวรัสเปลี่ยนมนุษย์ให้กลายเป็นสัตว์กระหายเลือดไร้ซึ่งศีลธรรมจรรยา ชายหนุ่มผู้โดดเดี่ยวจะเอาตัวรอดด้วยตัวคนเดียวได้หรือไม่ ติดตามเรื่องราวของกรีธาคนธรรมดาในโลกแห่งซอมบี้อาโพคาลิพส์ได้ในเล่ม คุณจะระทึกไปกับทุกบรรทัดของตัวหนังสือ

    ช่างกล้าใช้คำโอ้อวดถึงเพียงนั้น ชายหนุ่มหัวเราะหึในลำคอ เขาเองเป็นนักเขียนที่มีคนติดตามผลงานอยู่ในระดับหนึ่งยังต้องถ่อมตัวแล้วถ่อมตัวอีก แต่คนที่กล้าอวดว่าระทึกกับทุกบรรทัดของตัวหนังสือนี่ช่างมีความมั่นใจเหลือล้น บางทีมันอาจจะเป็นเพียงแค่คำกระตุ้นเชิญชวนผู้อ่านธรรมดาที่ใช้กันทั่วไป เพียงแต่เขายังไม่มีความกล้ามากพอที่จะใช้ถ้อยคำลักษณะนี้กับหนังสือของตนเอง

    คงเป็นข้อผิดพลาดของโปรแกรม เขาเปิดแฟ้มข้อมูลขึ้นหลายแฟ้มมากเกินไปจนคอมพิวเตอร์ทำงานผิดพลาด นั่นเป็นความคิดหนึ่งเดียวโดยไม่มีการคาดถึงความเป็นไปได้อื่น บางทีอาจจะเป็นโครงเรื่องที่เขาคิดขึ้นมาแล้วพิมพ์ไว้ในแฟ้มข้อมูลเก่า ๆ และลืมไปแล้ว

    เขาปิดหน้าต่างโปรแกรมและเปิดขึ้นใหม่ นั่นไง ข้อความนั้นหายไปแล้ว เนื้อเรื่องที่เขาพิมพ์ค้างไว้กลับมารอให้เขาสานต่อ เขายื่นมือไปจับหูถ้วยกาแฟแต่ด้วยความที่ไม่ได้มองมือของเขาจึงผลักถ้วยกาแฟล้มลงระบายสีน้ำตาลนองพื้นโต๊ะ

    ผ้าขี้ริ้วจากเสื้อตัวเก่าถูกนำมาเช็ดน้ำกาแฟออกจนสะอาดแต่คนเช็ดไม่อยากกินกาแฟอีกแล้ว เขาหยิบกระเป๋าสะพายคาดบนไหล่แล้วออกจากห้องพักหวังจะไปซื้ออะไรในร้านสะดวกซื้อกิน

    ทุกสิ่งดูปกติดีจนกระทั่งเขาเปิดประตูหน้าของหอพักออกมา แสงสีแดงของพระอาทิตย์ที่สาดฉายในเวลาย่ำค่ำทำให้เขาต้องยกโทรศัพท์ขึ้นมาตรวจสอบดูเวลา

    9:45

    ใช่แล้ว เวลาปกติที่เข้าเริ่มงานเขียนเหมือนอย่างทุกวัน เขามองดูท้องฟ้าสีแดงด้วยความสับสนมึนงงอึดใจหนึ่งจึงเห็นความผิดปกติอย่างอื่น

    เดี๋ยวก่อน หน้าหอพักของเขาต้องเป็นกำแพงคอนกรีตสูงสองเมตรสิ แล้วถนนตรงหน้านี่มันอะไรกัน ไม่สิ ที่นี่มันที่ไหน

    เขาหันขวับกลับไปยังโถงทางเดินที่ตัวเองเพิ่งเดินผ่านมา แสงสว่างจากไฟเพดานหายไป หลอดไฟที่เขาบ่นกับเจ้าของหออยู่บ่อย ๆ ว่ามันสว่างไม่พอตอนนี้ไม่มีให้เห็น ต้องบอกว่าโถงทางเดินในหอพักที่คุ้นเคยไม่เหลือให้เห็น กลายเป็นทางเดินปูกระเบื้องขนาบด้วยประตูห้องซ้ายขวา หอพักของเขามีทางเดินแนบผนังตึกด้านเดียวไม่ใช่ทางเดินตัดแบ่งกลาง

    เสียงกรีดร้องจากสุดก้นกระบังลมดังขึ้นทางด้านซ้ายมือ เขาหันกลับหลังชะโงกหน้ายื่นให้เลยพ้นผ่านเสาโครงสร้างอาคารมองดูที่มีของเสียง ที่ข้างรถยนต์พลิกคว่ำคันนั้น เขาเห็นกลุ่มคนกำลังนั่งคุกเข่าล้อมอะไรบางอย่างบนพื้น ศีรษะและหัวไหล่ของคนห้าหกคนขยับขึ้นลงเหมือนกำลังทำกิจกรรมอะไรกันอยู่ ร่างของพวกเขาบดบังเอาไว้จึงมองไม่เห็นจากจุดนี้

    เลยพ้นผ่านรถยนต์คันนั้นไปมีรถจำนวนมากที่จอดนิ่งในสภาพเบียดแทรกเหมือนจะพยายามแย่งพื้นคอนกรีตเป็นที่เหยียบกลิ้งล้อ หลายคันพุ่งขึ้นไปถึงบนฟุตบาท เป็นภาพที่บอกเล่าเรื่องราวของผู้คนที่ตั้งใจไปยังจุดหมายอย่างแน่วแน่ หรือไม่ก็เป็นหลักฐานของคนที่พยายามหลบหนีอะไรบางอย่างด้านหลังจนสุดชีวิต

    ด้านหลัง ด้านที่เขากำลังยืนอยู่

    นักเขียนหนุ่มหรี่ตาลง อาศัยขนตาสร้างเลนส์หักเหแสงจ้องมองดูคนกลุ่มนั้นให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น รอยเลือดสีแดงที่เปื้อนบนเสื้อผ้าของพวกเขาทำให้นักเขียนหนุ่มต้องก้าวถอยหลังหนึ่งก้าว

    ดังยิ่งกว่าฟ้าผ่ายามเงียบสงัด ถังขยะแสตนเลสโดนส้นเท้าเขากระแทกล้มลงใส่พื้นกระเบื้องสาดคลื่นเสียงสะเทือนมวลอากาศ ไม่ต้องบอกก็ทราบว่าเสียงจากโลหะกลวงบางปะทะของแข็งสามารถถ่ายทอดไปได้ไกลเพียงไร

    นักเขียนหนุ่มรับรู้ได้ทันทีว่าหัวใจของเขาหยุดเต้นไปหนึ่งจังหวะ อาการโหวงวูบเหมือนคนที่รู้ตัวว่าความผิดของตนกำลังโดนเปิดเผยบังเกิดขึ้นในร่างกาย ประตูห้องขนาบโถงทางเดินสามบานถูกกระแทกออกพร้อมกัน เสียงเตือนข้อความเข้าในโทรศัพท์ของเขาดังตามมาติด ๆ

    ด้วยความสับสนกับความจริงที่ถูกบิดผัน นักเขียนหนุ่มปลดล็อคโทรศัพท์อ่านข้อความที่ส่งมาหาด้วยความเคยชินแทนที่จะหลบหนีไปให้ไกลสุดโลก

    เสียงถังขยะลมทำให้กรีธาตกตะลึง เขามองดูรถมอเตอร์ไซค์คันเล็กที่จอดอยู่ริมถนนตรงหน้า หันกลับไปดูประตูห้องที่ตัวเองเพิ่งจะปิดล็อคไป เขาจะทำอย่างไรเมื่อต้องเลือกในโลกแห่งซอมบี้ หนีไปด้วยรถมอเตอร์ไซค์หรือย้อนกลับไปซ่อนในห้องของตัวเอง

    อ่านข้อความในโทรศัพท์จบแล้วนักเขียนหนุ่มก็หันขวับ ริมถนนมีมอเตอร์ไซค์คันเล็กสีดำจอดอยู่จริง ๆ

    เขาจะทำอย่างไร

    .

    โพล154965

    .

    ขอให้ท่านผู้อ่านพิจารณาให้รอบคอบก่อนจะเลือกคำตอบของตัวเอง เนื้อเรื่องหลังจากนี้จะดำเนินไปตามตัวเลือกข้างมากที่ท่านผู้อ่านเป็นคนเลือก กรุณาอย่าใช้หลาย ID เพื่อปั่นคำตอบ

    ชาลี

    ๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๗


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×