ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [GOT7] Seven Royals

    ลำดับตอนที่ #6 : Into the new World

    • อัปเดตล่าสุด 12 ส.ค. 58


    SEVEN ROYALS

     










    แรงโอนเอียงไปมาของเรือทำให้ร่างเล็กที่นอนหลับสนิทอยู่กลิ้งไปติดมุมของห้อง เปลือกตาขาวกระพริบถี่พยายามลืมตาดูรอบห้องพักลูกเรือที่เขาอาศัยนอนบนท้องทะเลนี้มาร่วมเดือน มือขาวยันตัวให้ลุกขึ้นยืนอย่างยากลำบากพลางยกขึ้นมาขยี้เปลือกตาบาง แสงสีอ่อนส่องจากช่องวงกลมหน้าต่างเรือสว่างไสวจนเขาต้องเดินไปส่องดูวิวด้านนอก ผืนน้ำทะเลและคลื่นที่กระเพื่อมอย่างสม่ำเสมอ แสงแดดจ้ากระทบกับผิวน้ำสะท้อนเป็นประกายแวววับ ตาสวยสีอ่อนเมื่อต้องแสงจึงยิ่งอ่อนลงจนเกือบเหมือนสีทอง แต่แล้วตากลมก็ต้องเบิกกว้างอย่างตื่นเต้นเมื่อมองไกลออกไป






    ภาพที่ปรากฏตรงหน้าคือหน้าผาหินที่มีน้ำตกไหลลงสู่พื้นล่าง ป่าไม้สูงใหญ่ที่ขึ้นแออัดเลื่อนผ่านสายตาไปเรื่อยจนเริ่มกลับกลายเป็นภาพของบ้านเรือน แจ็คสันรีบวิ่งออกไปด้านนอก ไต่บันไดเรือขึ้นไปด้านบน สายลมพัดเส้นผมสีทองนุ่มคลอเคลียข้างแก้มขาวและพริ้วกระจายไปทางด้านหลัง ภาพตรงหน้าทำเอาปากอิ่มสวยอ้าค้าง ใจเต้นระรัวอย่างตื่นเต้น แผ่นดินใหญ่ด้านหน้าและกำแพงสูงที่ถูกสร้างอย่างยาวเหยียดสวยงามและน่าเกรงขาม แผ่นดินที่โค้งตัวลอยจากอีกฝากข้ามช่องทะเลแคบไปที่แผ่นดินอีกฝากนึงและมีบ้านเรือนผู้คนอยู่บนนั้นด้วย ตรงกลางกำแพงมีประตูเมืองขนาดยักษ์ที่เปิดค้างไว้รับการมาเยือนของเรือสินค้ามากมาย แจ็คสันมองภาพทุกอย่างค้างนิ่งด้วยความตื่นตะลึง

     







    " นี่นะหรอ แผ่นดินจากอีกฝั่งของทะเล"







    พึมพัมกับตัวเองเสียงเบา เสียงฝีเท้าจากด้านหลังทำให้ร่างขาวหันไปหาก่อนจะเห็นซายิดเดินถือขนมปังมาในมือ ซายิดโยนมันส่งให้พลางพยักเพยิดหน้าไปทางประตูเมืองบานใหญ่ที่เรือกำลังแล่นเข้าไปใกล้

     






    " สวัสดี เมืองท่าที่ใหญ่ที่สุด อาร์เจนโต้ " 

     

     




    ชายผิวแทนพูดอย่างอารมณ์ดี ก่อนจะเดินมาฉุดลากเขาลงไปที่ห้องด้านล่างของเรือ

     









    " อะไร ข้ายังเห็นไม่หมดเลยนะ " แจ็คสันบ่นพลางพยายามขืนตัวเองออกจากแรงยื้อของซายิด แต่ความที่เขาตัวเล็กกว่าอีกคนเยอะ เลยปลิวตามแรงดึงของอีกคนไปอย่างง่ายดาย เมื่อมาถึงห้อง ซายิดจับเขานั่งลงบนเสื่อ มือหนาหยิบถุงผ้ากระสอบเปิดออกก่อนจะเทข้าวของข้างในลงตรงหน้าเขา

     






    " อะไรของท่าน? "

     






    ร่างขาวเอ่ยถามอย่างสงสัย ตากลมมองไล่ไปตามของแปลกๆ มากมายตรงหน้า ที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน ซายิดหยิบก้อนอะไรซักอย่างขึ้นมา มันเหมือนหนังศีรษะของคนที่มีผมสีดำสั้นประบ่าติดอยู่ ซายิดเอามันมาแปะลงบนหัวเขาพลางพึมพัมในลำคอ

     










    " อันนี้น่าจะได้อยู่ แต่อันนี้คงไม่ไหว อันนี้........." มือหนาคุ้ยของตรงหน้ากระจัดกระจาย แจ็คสันหยิบก้อนเส้นผมบนหัวตัวเองออกมองไปที่ซายิดอย่างไม่พอใจ

     







    " นี่มันอะไรของท่านกัน?" ร่างกำยำยังคงเอาไอ้ก้อนผมนั้นมาแปะลงบนหัวของเขาดังเดิม

     







    " เมื่อคืนข้าคุยกับคนบนเรือหลายๆ เรื่อง รวมถึงเรื่องที่เดี๋ยวนี้อาร์เจนโต้คุมเข้มเรือสินค้าที่มาจากฝั่งตะวันออก พวกเขาพูดถึงดินแดนที่เจ้าอยู่ อลาเทอร์เรียลใช่มั้ย "

     









    ใจของแจ็คสันร่วงลงไปอยู่ตาตุ่ม พวกคนในดินแดนอีกฝากฝั่งตามสืบเรื่องของเขาไปทำไมกัน หรือเป็นเพราะเซอร์เทรียลอย่างนั้นรึเปล่า ซายิดมองร่างขาวที่นิ่งไป ใบหน้าซีดเผือดดูตื่นตระหนกและหวาดกลัว

     











    " พวกเราจะไม่บอกกับใครว่าเรือลำนี้เคยเทียบฝั่งที่นั้นและมีเจ้าซึ่งเป็นคนของที่นั้นติดเรือมาด้วย เพราะมันอาจนำความยุ่งยากมาสู่เรา และเจ้า ผิวขาว ตาสีอ่อน ผมสีทองสว่าง ดูยังไงก็ไม่ใช่คนจากมองโกลอยู่แล้ว เพราะฉะนั้น ใส่ผมปลอมนี่ซะ มันมาจากเมืองหลวงของดินแดนข้าเชียวนะ พวกผู้หญิงในวังนิยมใช้กันมากเชียวล่ะ "

     






    แจ็คสันพยักหน้าอย่างเข้าใจ หยิบผมปลอมที่ซายิดว่าขึ้นมาดูอย่างหวาดๆ ชายหนุ่มโยนตลับผงสีน้ำตาลเข้มมาให้เขาด้วย ตากลมโตมองมันอย่างสงสัยอีกครั้ง

     








    " อันนี้ แป้งฝุ่นสีเข้ม ทาให้ทั่วตัวของเจ้า ทำให้มันดูเลอะๆ มอมๆ หน่อยก็ดูแนบเนียนดีนะข้าว่า " ซายิดพูดอย่างกระตือรือล้น ไม่รู้เขาคิดไปเองรึเปล่าว่าคนตรงหน้าดูกำลังสนุกอยู่ยังไงไม่รู้ 

     








    " จัดการตัวเองให้เรียบร้อยแล้วเตรียมตัวช่วยกันขนสินค้าลงเรือด้วยล่ะ ข้าจะไปรอที่ด้านบน อย่าชักช้าล่ะ " ร่างกำยำพูดจบก็ทำท่าจะเดินออกไปจากห้อง 

     








    " เออ เดี๋ยว!" 

     







    แจ็คสันร้องขึ้นทำให้ซายิดหันกลับมามองพลางยกมือถามประมาณว่ามีอะไร มือขาวหยิบก้อนผมสีดำขึ้นอย่างระมัดระวังและหวาดระแวง

     













    " เออ..... คือ มันคงไม่ได้ทำมาจากหนังศีรษะกับผมของคนจริงๆ ใช่มั้ย........"

     









     

    SEVEN ROYALS

     

     






    " ท่านแบมแบม อย่าวิ่งไปตรงนั้น " เสียงเอ่ยห้ามถูกส่งไปหาเด็กชายร่างบางที่วิ่งไปมาอย่างตื่นเต้น มือเล็กเที่ยวจับสินค้าตามร้านค้าต่างๆ ที่ตั้งเป็นเพิงเต็มตลอดสองข้างทาง ผมสีน้ำตาลอ่อนกับชุดผ้าคลุมสีเขียวเข้มตัดกับผิวขาวพริ้วสวยยามเจ้าตัวกระโดดไปมาอย่างเริงร่า

     









    "ท่านแบมแบม อย่ากระโดดแบบนั้น!" เสียงผู้ติดตามสี่ห้าคนช่างกวนใจเขาเป็นอย่างยิ่ง พวกคณะเดินทางของเทรย์เวอร์ได้มาถึงที่กูเรี่ยนแล้วเพื่อการประชุมใหญ่ในวันพรุ่งนี้ เขาอุตส่าห์ขอท่านพ่อท่านแม่ว่าจะมาเที่ยว ....ไม่ซิ เปิดหูเปิดตาที่อาร์เจนโต้ซึ่งเป็นเมืองท่าติดกับกูเรี่ยนได้ทั้งที ท่านพ่อก็ดันบังคับให้มีผู้ติดตามมาด้วยเสียนี่ คนเดียวยังพอทนนี่มากันตั้งห้า กลัวเขาจะหลงหรือไง หรือกลัวใครจะมาทำร้าย ยิ่งมีคนติดตามเขามากๆแบบนี้ยิ่งไม่ดูสะดุดตากว่าหรอกหรือ น่าเบื่อชะมัด ไม่รู้ล่ะ ข้าจะเที่ยวให้หน่ำใจให้คุ้มกับช่วงเวลาทองคำที่ข้ารอคอยมาเนิ่นนาน 

     









    เอ๊ะ นั่น! เห็นท่าเรือแล้ว เยี่ยมไปเลย ตากลมมองไปที่ท่าเรือที่อยู่ไม่ไกล ผู้คนพลุกพล่านและจอแจมากมาย แบมแบมรีบวิ่งตรงไปที่แถบชายฝั่งท่าเรือทันที ทำให้ผู้ติดตามคนอื่นๆ รีบวิ่งตามไปลมแทบจับ

     









    " ท่านแบมแบม รอพวกข้าด้วย"

     











    ร่างเล็กหมุนตัวหลบแม่ค้าที่แบกตะกร้าสับปะรดบนหัวอย่างรวดเร็วก่อนจะใช้ขาเล็กถีบตัวกระโดดข้ามรถแร่หินที่เคลื่อนตัดหน้าไป ตวัดตัวหลบอยู่หลังกองฟางที่มีลูกแพะตัวน้อยยืนเคี้ยวหญ้าอยู่ ตากลมแอบมองเหล่าผู้ติดตามที่หน้าตาตื่นเมื่อรู้ตัวว่าองค์ชายของตนได้คลาดสายตาไปเสียแล้ว พวกนั้นวิ่งหน้าเหรอหราไปอีกทางสร้างรอยยิ้มจากปากบางสีสวยได้ไม่น้อย 

     

     








    " เสร็จชั้นล่ะ "

     







    พึมพัมกับตัวเองหัวเราะคิกคัก มือเล็กเอื้อมไปลูบหัวลูกแพะเบาๆ ก่อนจะกระโดดออกจากกองฟางไปอีกทางตรงไปที่ท่าเรือ 

     

     








    ขาเล็กวิ่งมาจนถึงท่าเรือ เจ้าตัวดูสนใจกับเรือสินค้าขนาดใหญ่มากมายที่ทยอยกันมาเทียบท่าอย่างคึกคัก 

     

     








    " โอ๊ะ !" 

     









    และคงเพราะมัวแต่เงยหน้ามองหัวเรือมากมายจนไม่ได้ดูทางด้านหน้าของตนทำให้ชนกับใครคนนึงเข้า ร่างเล็กเซล้มลงไปกับพื้น แบมแบมรีบลุกขึ้นอย่างตกใจ สำรวจดูตัวเองว่าไม่ได้มีแผลอะไรใช่มั้ย ไม่เช่นนั้นต้องโดนท่านพ่อเทศนายาวยืดเป็นแน่ 

     

     







    " นี่ ไอ้แห้ง แกเดินประสาไรวะ " เสียงผู้ชายแหบห้าวพูดตะคอกใส่เขาจนสะดุ้งเงยหน้ามองถึงพึ่งเห็นว่ามีกลุ่มชายฉกรรณ์สามสี่คนยืนจังก้ามองเขาอย่างโทสะ ตากลมโตของเด็กหนุ่มก็เปลี่ยนเป็นสายตาที่ไม่พอใจทันทีที่ได้ยินคำพูดหยาบคายของชายตรงหน้า 

     










    ' ว่าใครไอ้แห้งวะ ' 

     







    ในใจอยากจะร่ายมนต์เล็กๆน้อยๆสั่งสอนเสียหน่อย แต่ก็คิดได้ว่าเขาไม่ควรทำให้เรื่องบานปลาย ตอนนี้เขาก็มีคดีติดตัวอยู่แล้วที่แอบหนีพวกผู้ติดตามมา ร่างเล็กยิ้มให้แหยๆ ก่อนจะยกมือขึ้นพนมมือถูไปมา 

     









    " อ๋าาา ขอโทษจริงๆ พี่ชาย ข้าช่างตาเท่าเม็ดถั่วเขียวที่ดันเดินไปชนคนตัวเบ่อเร้ออย่างพี่ชายได้ อภัยให้ข้าก็แล้วกัน " เสียงเล็กพูดน้ำเสียงแสร้งรู้สึกผิดก่อนจะค่อยๆ หันหลังผละออกจากชายกลุ่มนั้น แต่ไม่วายมือหยาบกร้านดันเอื้อมมายึดบ่าของเขาไว้อีก

     








    " จะไปไหนไอ้แห้ง จ่ายเงินมาก่อนซิ "

     








    แบมแบมเอียงคอมองอย่างสงสัย

     





    " ค่าอะไร?"

     






    " ค่าชนไงไอ้แห้ง แต่งตัวก็ดูมีเงิน เพราะฉะนั้นจ่ายมา " ไม่พูดเปล่า ชายหน้าโฉดพวกนั้นยังแบมือมาตรงหน้าเขาซะด้วย แบมแบมรู้สึกถึงคิ้วข้างซ้ายที่กระตุกด้วยความโมโห

     






    ' คำก็ไอ้แห้ง สองคำก็ไอ้แห้ง '

     









    ร่างเล็กถอยหลังเล็กน้อยก่อนจะพึมพัมภาษาเวทย์ออกมา ไฟลุกพรึ่บตรงรองเท้าหนังของชายร่างใหญ่ที่เขาเดินชน เจ้านั้นดูตกใจรีบถอดรองเท้าออกทันที ปากเล็กยังคงพึมพัมภาษาเวทย์ไปเรื่อยๆ ไม่หยุด ไฟก็ไปติดที่จุกผมเปียของชายอีกคนในกลุ่ม ตรงเสื้อคลุมบ้าง กระเป๋าหนังบ้างและอื่นๆ จนคนพวกนั้นกระโดดโลดเต้นอย่างตกใจ ผู้คนบริเวณนั้นเริ่มเห็นถึงความผิดปกติ และเริ่มจะตีวงออกห่างเป็นวงกว้าง  แบมแบมรีบเอามือมาปิดปากกลั้นขำ เมื่อเห็นชายกลุ่มนั้นร้องโหวกเหวกโวยวายลั่นท่าเรือพร้อมกับวิ่งชนข้าวของจนกระจัดกระจายก่อนจะกระโจนลงน้ำไป

     

     

     







    "ฮ่าๆๆๆ สมน้ำหน้าไอ้ยักษ์สมองสาหร่ายเอ้ย " แบมแบมตะโกนใส่ก่อนจะหันหลังเดินจากไปอย่างสนุกสนาน

     

     

     







    " เดี๋ยวก่อนท่าน มาจากเทรย์เวอร์ใช่มั้ย "

     






    เสียงนุ่มราบเรียบจากทางด้านหลังทำให้เขารับหันไปมองอย่างเบื่อหน่ายอีกครั้งก่อนจะพบกับเด็กชายผมสีอ่อนร่างสูงโปร่ง ใบหน้ายิ้มแย้มดูอารมณ์ดียืนกอดอกมองมาที่เขา ด้านหลังเป็นข้ารับใช้ติดตามมากมาย แบมแบมช้อนตามองอย่างสงสัยว่าคนตรงหน้าเป็นใคร เด็กชายคนนั้นยิ้มยิงฟันก่อนจะแนะนำตัวเอง

     

     






    " ข้ายูคยอม เป็นเจ้าเมืองที่นี่ "

     










    ร่างเล็กมองคนตรงหน้าตั้งแต่หัวจรดเท้า ถึงจะตัวสูงกว่าเขาแต่ก็ดูอายุน่าจะรุ่นราวคราวเดียวกันแท้ๆ ตากลมมองคนตรงหน้าอย่างไม่เข้าใจ

     

     






    " แล้วยังไง "

     









    ยูคยอมยิ้มก่อนจะชี้นิ้วเรียวยาวไปที่กลุ่มชายที่เขาพึ่งใช้เวทย์ไฟกำหราบไปเมื่อซักครู่นี้ที่กำลังตะเกียกตะกายขึ้นจากฝั่ง

     








    " ท่านก่อความวุ่นวายที่ท่าเรือ ตามกฏหมายของเราข้อที่สี่สิบสอง ท่านต้องถูกปรับเป็นเงิน ยี่สิบเหรียญ จ่ายมาซะดีๆ "

     

     

    ร่างเล็กอ้าปากค้างอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง มือขาวชี้ไปที่ชายกลุ่มนั้นพลางส่งสายตาไม่พอใจมาทางยูคยอม

     









     " คนพวกนั้นหาเรื่องข้าก่อน "

     








    " แต่ท่านพึ่งจุดไฟใส่พวกเขา และไฟนั่นก็กำลังไหม้กองข้าวสาลีที่วางอยู่ตรงนั้น " ยูคยอมชี้ไปที่กองไฟที่ปะทุขึ้นบนกองกระสอบข้าวอยู่ข้างๆ คนพวกนั้น ร่างเล็กได้แต่อ้าปากค้างก่อนจะได้ยินเสียงตะโกนจากด้านหลังอีกครั้ง

     

     







    " ท่านแบมแบม อยู่นี่เอง ท่านแบมแบม " ยูคยอมผิวปากขึ้นเสียงสูง ยิ้มอย่างร่าเริง มองร่างเล็กตรงหน้าเขาหัวจรดเท้าบ้าง ดวงตากรุ่มกริ่มมองอีกคนที่ตอนนี้ทำหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกอยู่ ดูตลกชะมัด

     

     







    " ว้าว นึกว่าใคร องค์ชายแห่งเมืองเวทย์มนต์และการแพทย์เทรย์เวอร์ ท่านแบมแบมนี่เอง พึ่งเจอเป็นครั้งแรกเลยนะเนี่ย "

     








    ร่างเล็กฟังเสียงที่ดูสดใสร่าเริงเกินเหตุของอีกคนอย่างหมั่นไส้ แน่ซิ ก็เขาพึ่งจะออกจากบ้านเป็นครั้งแรกนี่นา 

     

     









    "รู้เช่นนั้นก็หลีกทางได้แล้ว ข้าจะกลับล่ะ " 

     

     








    "ประเดี๋ยวก่อนท่านแบมแบม ท่านก่อความวุ่นวายที่ท่าเรือ ตามกฏหมายของเราข้อที่สี่สิบสอง ท่านต้องถูกปรับเป็นเงิน ยี่สิบเหรียญ ถึงท่านจะเป็นองค์ชายแห่งเทรย์เวอร์ แต่ข้าก็จะขอพูดอีกครั้งว่า จ่ายมาซะดีๆ " ไม่พูดเปล่า เด็กหนุ่มร่างสูงยังยื่นมือแบมาตรงหน้าเขาอีกด้วย เหมือนพวกนักเลงที่เขาพึ่งจะจัดการไปไม่มีผิด แบมแบมจิ๊ปากอย่างหัวเสียสุดๆ  เป็นแบบในตำราที่ร่ำเรียนมาเป๊ะๆ 

     

     








    พวกอาร์เจนโต้ขี้งกสุดๆ ไปเลย

     





     

     

     

    SEVEN ROYALS

     

     






    ตาคมสีอ่อนก้มมองจากบนเรือไปยังทางซ้ายของท่าเรือที่เหมือนจะมีเรื่องวุ่นวายเกิดขึ้น เขาพึ่งเห็นคนที่มีไฟลุกไหม้ที่ก้นกระโจนลงทะเลไปเมื่อซักครู่ แถมคนก็เริ่มมุงดูเยอะขึ้นด้วย สัมผัสสะกิดตรงหัวไหล่ทำให้ใบหน้าขาวหันกลับมามอง ผมของร่างขาวตอนนี้แปรเปลี่ยนเป็นสีดำสั้นประบ่าพัดคลอเคลี่ยที่แก้มนิ่มเบาๆ

     








    " เหมือนจะมีคนตีกันนิดหน่อย อย่าไปสนใจเลย " ซายิดพูดอย่างไม่ใส่ใจ มือหนายกกระสอบข้าวโยนลงไปด้านล่างที่มีลูกเรือคนอื่นคอยรับอยู่ แจ็คสันลากถุงข้าวมาไว้ข้างๆ ซายิดก่อนที่ชายหนุ่มผิวเข้มจะแบกมันขึ้นแล้วโยนไปด้านล่างอีกครั้ง

     

     

    " เจ้าตัดสินใจแน่แล้วนะว่าจะไม่กลับไปมองโกลกับพวกเรานะ " ร่างขาวส่ายหน้าเป็นคำตอบ

     




    " ข้าตัดสินใจแล้ว ข้าอยากท่องไปให้ทั่วดินแดนนี้มากกว่าจะกลับไปทางฝั่งตะวันออกอีก แล้วอีกอย่าง...... ข้าขอลาทีกับการต้องใช้ชีวิตบนเรือเป็นเดือนๆ ทรมานสุดๆ ไม่เอาอีกแล้ว " เขาพูดติดตลกแต่ก็หมายความตามนั้นจริงๆ ซายิดดูผิดหวังแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ มือหนาส่งของบางอย่างให้ มันคือมีดสั้นทรงสวย ปลายโค้งนิดๆ และมีลวดลายตรงด้ามจับเป็นรูปมังกรดูสง่างาม ตากลมมองของในมือสลับกับคนตรงหน้าอย่างไม่เข้าใจ

     





    " ข้าซื้อเจ้านี่มาจากพวกทหารบนดินแดนของเจ้า ดูก็รู้ว่านี่เป็นของดีเกินกว่าคนพวกนั้นจะมีไว้ครอบครอง และข้าก็คิดว่ามันควรอยู่กับเจ้า อย่างน้อยก็เก็บไว้ยามจวนตัว "

     

     




    " ท่านใจดีกับข้ามาก ขอบคุณจริงๆ " แจ็คสันกล่าวขอบคุณอย่างใจจริงก่อนจะพลิกลงไต่บันไดลิงลงไปที่สะพานเรือ ร่างเล็กสมส่วนเงยหน้าขึ้นมาก่อนจะโบกมือลาเขาพร้อมตะโกนขึ้นมาบนเรือ

     





    " ลาก่อน เราต้องได้พบกันอีกแน่ ขอบคุณนะซายิด "

     







    ซายิดมองร่างขาวมอมแมมที่วิ่งห่างออกไปจากเรือ โบกมือลาพลางยิ้มมุมปากกับตัวเองก่อนที่สัมผัสแรงที่ตบลงตรงบ่าทำให้เจ้าตัวต้องหันไปมอง

     





    " ใครเอ่ยอกหักลั่นเรือ " 

     





    คำพูดกวนประสาทของเพื่อนลูกเรือทำให้คนอื่นๆ หัวเราะชอบใจ ซายิดหัวเราะตอบก่อนจะยกเท้าขึ้นมายันบันท้ายของเพื่อนตัวดีแรงๆ จนตกเรือไปในที่สุด 

     

     

     






    ร่างขาวเดินเข้ามาถึงในส่วนของตลาดใหญ่แห่งอาร์เจนโต้ ตากลมโตมองผู้คนและร้านค้ามากมายอย่างตื่นเต้น ทุกคนที่นี่ดูคึกคัก มีข้าวของสินค้าหน้าตาแปลกๆ มากมายวางเรียงรายขายกันเต็มสองข้างทางที่เขาเดินเข้ามา มือขาวจับผมปลอมสีดำของตนดึงลงให้แน่นขึ้นเพื่อความมั่นใจ 

     








    " ไงพ่อหนู หอยนางรมสดๆ จากทะเลหน่อยมั้ย " คุณยายคนนึงยืนตะกร้าที่มีหอยอยู่เต็มตะกร้ามาตรงหน้าเขา แจ็คสันยิ้มให้ก่อนจะส่ายหน้าปฏิเสธช้าๆ เขามีเงินที่ซายิดแบ่งมาให้แค่นิดเดียวเท่านั้น และจะต้องใช้อย่างประหยัดที่สุด ระหว่างที่ร่างขาวกำลังคิดอยู่ว่าจะเริ่มต้นชีวิตของตนเองยังไงดี ตากลมก็เหลือบไปเห็นกลุ่มคนที่ใส่ชุดคลุมสีเขียว ตรงกลางเป็นเด็กหนุ่มที่เขาจำได้ว่าไปมีเรื่องต่อยตีแถวๆท่าเรือเมื่อกี้

     








    " ให้ตายเถอะ ไอ้เจ้ายูคยอมนั่น ข้าน่าจะเสกไฟเผาผมทรงผ้าม่านของเจ้านั่นให้รู้แล้วรู้รอด "

     





    " ชู่ว ท่านแบมแบม พูดแบบนั้นไม่ได้นะขอรับ " 

     







    แจ็คสันมองปฏิกิริยาของเด็กคนนี้ตั้งแต่บนเรือแล้ว เขาดูเหมือนจะมาจากดินแดนอื่น ตากลมลอบมองอย่างสนอกสนใจ

     

    " กลับกูเรี่ยนเมื่อไหร่ ข้าจะฟ้องท่านพ่อแน่ "

     








    กูเรี่ยนอย่างนั้นหรอ แจ็คสันพยายามจะเขยิบเข้าไปใกล้ให้ได้ยินที่พวกนั้นพูดคุยกัน แต่กลับชนกับใครอีกคนที่เดินผ่านหน้าเขาเสียก่อน แจ็คสันเซจะล้มลงไปกับพื้นแต่ถูกมือหนาของอีกคนคว้าต้นแขนไว้ได้เสียก่อน ชั่วขณะนึงเท่านั้นที่ดวงตากลมสีอ่อนของเขาสบกับตาคมสีดำสนิท มันดูลึกลับและน่ากลัวแปลกๆ แจ็คสันรีบยันตัวให้ตรง ก้มหัวขอโทษขอโพยยกใหญ่ก่อนจะช้อนตามองคนตรงหน้าที่พึ่งช่วยเขาไว้ ตาเรียวยาวมองมาที่เขานิ่งๆ ใฝตรงใต้หางคิ้วทำให้เขารู้สึกสะดุดตา

     

     






    " ไม่เป็นไร ข้าเดินไม่ระวังเองแหละ เจ้าไม่เป็นไรนะ" ชายคนนั้นกล่าวอย่างสุภาพ แจ็คสันแอบสังเกตคนตรงหน้า ใบหน้าหล่อเหลาสูงโปร่ง แต่งกายทะมัดทะแมงแต่ดูมีชาติตระกูล สายตาเลื่อนไปสะดุดกับหมาป่าสีเทาตัวใหญ่ที่ยืนอยู่ข้างๆ ชายผู้นี้อย่างสนใจ เขาไม่เคยเห็นสัตว์แบบนี้มาก่อนเลย สุนัขตัวใหญ่ ขนสีเทาฟูสวยและตาสีเหลืองประกายกร้าวดูน่าเกรงขาม ชายหนุ่มเมื่อสังเกตเห็นว่าคนตรงหน้าดูสนอกสนใจสหายของเขาเป็นพิเศษจึงลูบหัวมันเบาๆ ก่อนจะส่งยิ้มไปให้

     

     





    " มันคือหมาป่าชื่อจีเซล เป็นสหายข้าเอง " แจ็คสันพยักหน้าพลางมองเจ้าจีเซลอย่างสนใจ 

     

     




    " ข้าขอลองจับมันได้มั้ย " ชายหนุ่มพยักหน้า เขาจึงเอื้มมือขาวหวังจะลูบเบาๆที่หัวของมัน แต่มันดูท่าทางจะไม่ค่อยชอบเขาเท่าไรนัก เพราะมันถอยหลังไปหลบอยู่ด้านหลังนายของมันเหมือนกับระแวงเขาอยู่ แจ็คสันเห็นท่าไม่ดีจึงถอยหลังออกมาเล็กน้อย ตาสีเหลืองของมันดูดุร้ายและหวาดกลัว ร่างเล็กมองมันด้วยความแปลกใจพอๆ กับชายอีกคนที่มองมาที่เขาอย่างสงสัย แจ็คสันที่พึ่งนึกได้จึงหันกลับไปมองกลุ่มชายชุดคลุมสีเขียวที่เริ่มเดินห่างออกไปทำให้เจ้าตัวต้องรีบตามไป แต่ไม่ลืมที่จะหันมาขอโทษคนตรงหน้าเขาอีกครั้ง

     

     





    "  เออ ข้าขอตัวก่อนนะ พอดีข้ารีบนะ และต้องขอโทษท่านจริงๆ ไปก่อนนะจีเซล "  โบกมือลาชายหนุ่มและเจ้าหมาที่ยืนอยู่หลังนายของมันอย่างเร่งรีบ ขาเล็กวิ่งจากไปอย่างรวดเร็ว ตาคมได้แต่มองตามเด็กคนนั้นจนลับสายตาด้วยแววตาที่ไม่สามารถอธิบายได้ ทหารที่ติดตามด้านหลังจึงเอ่ยถามอย่างกล้าๆ กลัวๆ

     

     



    " เออ ท่านแจบอมมีอะไรรึเปล่าขอรับ " 

     

     





    ชายหนุ่มขมวดคิ้วเล็กน้อยเปรยมองหมาป่าสหายของตน มันมีท่าทางแปลกๆ ไปตอนที่คนๆ นั้นกำลังจะยื่นมือเข้ามาใกล้มัน และไหนจะดวงตาสีอ่อนขัดกับผมดำสนิทนั่นยิ่งทำให้เขารู้สึกสนใจและสงสัย

     

     

     

     






    " ช่างเถอะ ถ้ามันเป็นโชคชะตา เราคงจะได้พบกันอีก ไม่ช้าก็เร็ว "

     

     

     

     


    แจ็คสันค่อยๆ ย่องตามกลุ่มคนผ้าคลุมสีเขียวตรงหน้า ตากลมพึ่งสังเกตเห็นว่าที่หน้าอกของทุกคนมีตราอะไรซักอย่างที่มีรูปงูกำลังเลื้อยพันไม้เท้าอยู่ แต่แล้วก็เหลือบไปเห็นเด็กผู้ชายตัวเล็กๆ แต่งตัวซอมซ่อคนนึงที่เดินเนียนเข้าไปใกล้เด็กผมสีน้ำตาลอ่อนตรงกลาง มือเล็กนั่นแอบลอดเข้าไปให้ผ้าคลุมก่อนจะหยิบไม้อะไรซักอย่างออกมาจากเอวของเด็กหนุ่มคนนั้น พลางวิ่งหนีไปอย่างไม่มีอะไรเกิดขึ้น แจ็คสันตาเบิกโพล่งด้วยความตกใจ

     







    ขโมยนี่นา !

     

     







    เมื่อเห็นดังนั้นแจ็คสันก็ไม่รอช้า ขาเล็กวิ่งตามเข้าไปจับเด็กคนนั้นได้ทัน เด็กชายตกใจรีบสะบัดตัวออกจากการเกาะกุม ร่างเล็กหมุนตัวตวัดเท้าไปที่ขาซ้ายของแจ็คสันอย่างรวดเร็วจนเจ้าตัวเซล้มไปด้านข้างแต่มือขาวของงเขาก็ยังคงยึดกับต้นแขนเล็กนั้นไว้แน่นไม่ยอมปล่อย ระหว่างนั้นพวกแบมแบมที่รู้ตัวก็รีบวิ่งเข้ามาทางพวกเขา เด็กน้อยเห้นท่าไม่ดีจึงปาไม้เจ้าปัญหานั่นใส่หน้าแจ็คสันจนเขาต้องผละมือออกจากแขนเล็กมาป้องใบหน้าของตนอย่างตกใจ เลยเปิดช่องโหว่ให้เด็กคนนั้นสะบัดตัวออกจากแจ็คสันก่อนจะวิ่งหนีหายไปในตลาด แบมแบมวิ่งเข้ามาพอดี ตกใจกับร่างขาวที่ล้มลงกับพื้นพร้อมไม่คทาข้างกาย มือเล็กรีบหยิบมันขึ้นมาก่อนจะสอดเก็บมันไว้ใต้เสื้อคลุมทันที รีบเดินเข้าไปหาคนที่นั่งจับกบอยู่กับพื้น

     

     





    " ข้าขอบใจเจ้ามากจริงๆ ถ้าไม่ได้เจ้า ไม้กายสิทธิ์ของข้าต้องถูกขโมยไปแหงๆ และถ้าเป็นเช่นนั้นท่านพ่อกับท่านราชครูฆ่าข้าตายแน่ " แบมแบมพูดรัวเร็วจนเขาแทบจะฟังไม่ทัน มือเล็กถูกส่งมาให้แจ็คสันจับก่อนจะออกแรงฉุดอีกคนให้ลุกขึ้นมาได้ แจ็คสันใช้มือปัดเศษฝุ่นที่ติดตามตัวออก

     





    " ไม่เป็นไรหรอก ข้าเห็นพอดีว่าเด็กคนนั้นกำลังขโมยของของท่าน แล้วมันก็ดูเป็นของสำคัญ " 

     






    เด็กหนุ่มร่างเล็กพยักหน้ารับทันที เพราะมันเป็นของที่สำคัญสำหรับเขาจริงๆ อย่างที่ว่า ชาวเวทย์สามารถท่องมนต์ด้วยปากเปล่าได้ก็จริง แต่มันสำหรับเวทย์มนต์ง่ายๆ ขั้นพื้นฐาน ถ้าเป็นเวทย์ขั้นสูงจำเป็นต้องใช่ไม้กายสิทธิ์ของแต่ละคนเท่านั้น ถ้าโดนขโมยไปละก็ยุ่งแน่ๆ เจ้าตัวสะบัดผ้าคลุมสีเขียวของตนไปด้านหลังมองคนตรงหน้าของขอบคุณ

     

     

    " จะให้ข้าตอบแทนสิ่งใดให้กับเจ้าได้บ้าง อะ… จริงซิ ข้าลืมแนะนำตัว ข้าชื่อแบมแบมนะ " แบมแบมเอ่ยแนะนำตัวก่อนจะถามคนตรงหน้าอย่างสุภาพ ร่างขาวพยักหน้ารับก่อนจะเอ่ยแนะนำตัวเองบ้าง

     

     





    " ข้าชื่อแจ็คสัน ยินดีที่ได้รู้จักท่านเช่นกัน " 

     

     




    " เจ้ามาจากที่ไหนล่ะ หรือเป็นคนของที่นี่ " คำถามจากร่างเล็กตรงหน้าทำให้แจ็คสันชะงักไปเล็กน้อย จากที่ซายิดพูดก่อนที่เขาจะลงเรือมาทำให้แจ็คสันลังเลว่าจะตอบคำถามนี้อย่างไรดี 

     

     

    " เออ…..ข้า……..ข้ามาจากมองโกลนะ พึ่งจะมาที่ดินแดนฝั่งนี้เป็นครั้งแรกเลย " 

     

     

    " เอ่…… มองโกลหรือ เจ้าดูไม่เหมือนพวกที่มาจากมองโกลเลยนะ แต่ช่างเถอะ เจ้ามีจุดหมายรึยังว่าจะเอายังไงต่อ จะอยู่ที่อาร์เจนโต้ต่อมั้ย แต่ถ้าให้ข้าแนะนำนะ อย่าดีกว่า เมืองที่มีผู้ปกครองขี้งกหน้าเลือดหายใจเข้าออกเป็นเงินแบบนั้น" แบมแบมพูดอย่างหงุดหงิด แค่คิดถึงหน้าเจ้าเมืองนั่นขึ้นมาก็โมโหแล้ว 

     

     





    " ชู่วววว ท่านแบมแบมกล่าวแบบนั้นไม่ได้นะขอรับ " พวกข้ารับใช้ที่ห้ามปรามเขายิ่งสร้างความหงุดหงิดขึ้นเป็นทวีคูณ แจ็คสันมองกลุ่มคนตรงหน้า ตราสัญลักษณ์รูปงูพันไม้เท้าที่กลัดอยู่บนอกของทุกคนทำให้เขาสงสัย

     

     





    " พวกท่านมาจากที่ไหนกันหรือ " 

     

     





     " ข้ามาจากเทรย์เวอร์ เดินทางมาทำธุระที่กูเรี่ยน เมืองทางทิศใต้ข้างๆ ที่นี่แหละ พอดีข้าแวะมาเยี่ยมเยียนเมืองนี้ซะหน่อยเดี๋ยวก็กำลังจะกลับแล้วล่ะ " 

     

     




    "กูเรี่ยน?" แจ็คสันทวนชื่อเมืองอย่างสงสัย แบมแบมที่เห็นสีหน้าเขาจึงเริ่มอธิบาย

     







    " กูเรี่ยน เมืองที่ใหญ่และศิวิไลมากๆ เลยนะ มากที่สุดในเซเว่นรอแยลแล้วล่ะ ถ้าเจ้าได้ไปเห็นบ้านเมืองที่นั้นเจ้าจะต้องร้องว้าว อย่างตกใจแน่นอน " แจ็คสันเมื่อได้ยินเช่นนั้นก็นิ่งไปซักพัก กูเรี่ยนอย่างนั้นหรือ เหมือนเคยได้ยินชื่อนี้จากปากของอาเซทเมื่อนานมาแล้ว เมืองที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในดินแดนฝั่งนี้อย่างนั้นหรอ แบมแบมที่เฝ้าสังเกตอยู่ข้างๆ ยิ้มนิดๆ มือเล็กเอื้อมมาสะกิดเข้าที่หัวไหล่

     

     







    " เจ้าอยากจะไปกับข้ามั้ยล่ะ ถือว่าเป็นการตอบแทนที่เจ้าช่วยข้าไว้ " แบมแบมเอ่ยชวน ตากลมโตนั่นดูสนกสนานและตื่นเต้นเหมือนกับเด็กที่พึ่งหนีออกจากบ้านครั้งแรก แจ็คสันช่างใจมองคนตรงหน้าที่ดูไม่น่ามีอันตรายอะไร และเขาก็ไม่มีเงินพอที่จะใช้สำหรับเดินทางไปเมืองที่ว่าด้วย นี่จึงอาจจะเป็นโอกาสที่ดี ใบหน้าขาวพยักหน้ารับ

     

     

     










    " งั้นข้าต้องรบกวนท่านแล้วล่ะ "







    SEVEN ROYALS


    __________________________________________________

    น้องถึงฝั่งละค่ะ แต่มันพึ่งจะเริ่มต้น ฮุๆๆๆๆๆ โชคดีเจอแบมแบมพาไป
    เมืองใหญ่ด้วย หลังจากนี้จะเป็นยังไงนะ ..............ขอบคุณที่ติดตามนะคะ
    ทวง คอมเม้น ติติงได้ในทวิตนะคะ #ฟิค7ตระกูล

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×