ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [GOT7] Seven Royals

    ลำดับตอนที่ #4 : Escape of the Dragon

    • อัปเดตล่าสุด 2 ส.ค. 58





    SEVEN ROYALS

     

     

     

    สายลมรุนแรงจนรู้สึกเหมือนจะถูกพัดขึ้นไปสู่ท้องฟ้าด้านบน กลิ่นคาวของความเค็มน้ำทะเลฉุนแตะจมูก ถ้าเป็นคนอื่นคงรู้สึกไม่ชอบใจนักแต่มันชินสำหรับเขาไปเสียแล้ว มือขาวพยายามเอื้อมไปจับแง่งหินที่อยู่เหนือขึ้นไปบนหัว ออกแรงตรงช่วงแขนพร้อมกับเท้าเปลือยเปล่าส่งตัวเองให้ขยับขึ้นไปตามชั้นหิน ทำแบบนี้จนถึงด้านบนสุดของผาหินสีเทาเข้ม แรงลมบนนี้แรงยิ่งกว่าข้างล่างเป็นไหนๆ ผมสีทองอ่อนสะบัดคลอเคลี่ยกับแก้มขาวที่เปรอะเปรื้อนรอยดำจากฝุ่นเล็กน้อย ตาคมกลมโตทอดมองสูงขึ้นไปบนฟ้าที่มีเมฆค่อนข้างหนาแน่น เพ่งสายตามมองหาบางสิ่งก่อนจะใช้ปากอิ่มผิวเบาๆ จนเกิดเสียงหวีดเล็กดังลิ่วขึ้นไปบนฟ้า






    เขาทำแบบนี้อยู่ซักพักจนเสียงร้องราวสัตว์ร้ายดังแหวกฝ่าสายลมและเหล่ามวลเมฆทั้งมวล ก้องกังวาลไปทั่วบริเวณ ก่อนจะปรากฏร่างขนาดใหญ่ของมังกรสีดำสนิทที่พุ่งลงมาผ่านกลุ่มเมฆด้วยความรวดเร็ว ปีกกว้างมหึมาโบกสะบัดแค่หนึ่งครั้งก็เกิดแรงลมจนคนที่อยู่ข้างล่างเซถอยหลังไปเล็กน้อย เท้าทั้งสี่ร่อนลงกับพื้นหินพร้อมกรงเล็บขนาดใหญ่จิกกับผิวหน้าของหินเกิดเสียงครูดดังจนรู้สึกขนลุกอย่างห้ามไม่ได้

     







    ตาคมโตสีน้ำตาลอ่อนสบตาเขม่งกับดวงตาสีเหลืองทองของสัตว์ร้ายที่ดูเกรี้ยวกราด เกล็ดของมันสีนิลสนิทตั้งแต่หัวไปจนจรดหางของมันยิ่งทำให้มันดูน่าเกรงขาม ชายหนุ่มระวังท่าที ค่อยๆ ยกมือขาวยื่นไปด้านหน้า โค้งตัวลงเล็กน้อยโดยที่ยังคงสบตากับสัตว์ร้ายตรงหน้าอยู่

     

     







    " เย็นไว้ เซอร์เทรียล เย็นไว้ " 

     

     








    พูดช้าๆ พร้อมทำมือกดกับพื้นให้มันใจเย็นลง มันดูครุ่นคิดมองคนตรงหน้าอย่างไม่ไว้ใจ แต่ก็ไม่ได้แสดงความเกรี้ยวกราดอย่างคราแรก เมื่อเจ้ามังกรตรงหน้าดูเหมือนจะอยู่ในความสงบมากขึ้น ร่างสมส่วนจึงย่างก้าวเข้าไปใกล้เจ้ามังกรดำอย่างช้าๆ มือขาวยกขึ้นระนาบเดียวกับสายตาตัวเอง ค่อยๆ ยื่นไปด้านหน้า

     

     





    " เอาล่ะ เด็กดีๆ..."








    เมื่อมือขาวใกล้จะแตะกับปลายจมูกที่พ่นลมหายใจร้อนระอุของมัน เจ้ามังกรรีบสะบัดหัวหนีก่อนจะส่งเสียงร้องขู่ดังก้องไปทั่วบริเวณทันที เด็กหนุ่มตกใจจนเผลอรีบชักมือกลับมาแนบอก ถดตัวถอยหลังห่างจากเจ้าสัตว์ร้าย มันกลับตัวหันหลังให้ก่อนจะทะยานขึ้นไปบนฟ้าดังเดิม ทิ้งให้อีกคนได้แต่มองตามด้วยแววตากังวล ใบหน้าขาวก้มลงใช้มือปัดผมสีทองอ่อนออกจากใบหน้าของตนเอง

     

     






    " ฝึกไม่ง่ายเลยนะ ว่ามั้ยแจ็คสัน" เสียงของชายวัยกลางคนเรียกให้เจ้าของชื่อสะดุ้งเล็กน้อย ใบหน้าขาวหันไปมองชายผมสีเข้มที่กำลังเดินเข้ามาใกล้ตน แจ็คสันหันหน้าหนีก่อนจะเดินผ่านชายคนนั้นไปอย่างไม่ใส่ใจ มือหยาบหนาคว้าต้นแขนของเขาไว้ สัมผัสได้ถึงเล็บที่จิกเข้ามาที่ผิวกายสร้างความเจ็บจนต้องนิ่วหน้า แจ็คสันสะบัดแขนออกทันที ตาสีน้ำตาลอ่อนเรียบนิ่งต้องแสงแดดจนสะท้อนคล้ายสีทอง สีเดียวกันกับดวงตาของสัตว์ดุร้ายนั่น

     







    " ไม่ว่ายังไงเจ้าก็ต้องฝึกให้มันเชื่อฟังคำสั่งให้ได้ มันเป็นมังกรตัวเดียวที่เกิดขึ้นมาภายหลังสงครามใหญ่ เกิดขึ้นมาพร้อมกับเจ้า ถ้ามันยังคงเป็นสัตว์ร้ายที่ไม่สามารถควบคุมได้มันก็ไม่มีความหมาย " แจ็คสันแค่นยิ้มกับคำพูดของชายตรงหน้า

     









    " ท่านควรจะถามข้าบ้างนะ ว่าข้าต้องการแบบนี้รึเปล่า ท่านอาเซท " คำพูดตัดพ้อถูกส่งมาพร้อมแววตาที่ขุ่นมัว 

     











    " ข้าเลี้ยงดูเจ้ามาเพื่อสิ่งนี้ เมื่อเราสามารถควบคุมสัตว์เวทย์ที่แข็งแกร่งที่สุดได้ อลาเทอร์เรียลก็จะกลับมามีอำนาจอีกครั้ง " อาเซทเดินเข้าไปหาพลางยื่นใบหน้าหยาบกร้านไปใกล้ๆ 

     

     







    " ลองคิดภาพพวกเรานั่งอยู่บนบัลลังค์ที่ทุกดินแดนต้องยอมก้มหัวศิโรราบให้แก่เราซิ " อาเซทกระซิบเสียงแหบพร่าก่อนจะกดจมูกลงไปที่แก้มเนียนของอีกคน แจ็คสันที่ไม่ทันตั้งตัวบวกกับความตกใจ มือขาวรีบผลักอาเซทออก มืออีกข้างกำมัดหมายพุ่งเข้าไปที่หน้าแต่อีกคนกลับหลบได้ทัน มือหยาบกร้านคว้าข้อมือที่พุ่งกำปั้นเข้ามาของเขาได้ทันก่อนจะบิดออกด้านนอกส่งผลให้ร่างทั้งร่างของแจ็คสันพลิกหันหลังให้อาเซท แขนแข็งแกร่งโอบรัดรวบแขนทั้งสองข้างของแจ็คสันไว้แน่นจนไม่สามารถขยับได้

     









    " อย่าดื้อเหมือนมังกรของเจ้านักเลย " พูดจบมือหยาบกร้านก็ผลักร่างขาวกระเด็นล้มครูดลงกับพื้นหินไปด้านหน้า ปากอิ่มสวยเม้มแน่นด้วยความเจ็บบริเวญข้อศอกที่ไถครูดจนเกิดบาดแผล อาเซทถมน้ำลายไปด้านข้างคว้าเข้าที่กลุ่มผมสีทองสวยของคนที่ล้มลงกับพื้นกระชากมาใกล้กับหน้าตนบังคับใบหน้าขาวให้หันมาสบกับดวงตาสีดำเข้ม แจ็คสันส่งสายตาสีอ่อนประกายกร้าวอย่างไม่กลัวเกรง แววตาที่มีแต่ความแค้นจนอาเซทหัวเราะในลำคอ

     









    " น่าตลกดีนะ เป็นราชวงศ์อลาเทอร์เรียลที่เหลืออยู่คนสุดท้ายแท้ๆ กลับต้องมาอยู่ภายใต้อำนาจของข้าผู้ซึ่งเป็นแค่ลูกหลานข้ารับใช้ตระกูลเจ้าเท่านั้น" น้ำเสียงเย้ยหยันถูกส่งมาให้ แจ็คสันยิ้มมุมปากจ้องมองใบหน้าร้ายกาจของอีกคนไม่วางตา

     










    "ใช่ แกไม่ใช่อลาเทอร์เรียล และแน่นอนว่าถึงข้าจะฝึกมันได้ แกก็ไม่มีทางจะควบคุมมันได้ แกไม่มีวันจะได้ในสิ่งที่แกต้องการหรอก "  อาเซทปล่อยมือออกจากผมของแจ็คสัน ก่อนจะเลื่อนมาที่ลำคอพร้อมกับออกแรงบีบ มือขาวพยายามจะแกะออกแต่ไม่สามารถสู้แรงของอีกคนได้เลย อาเซทยิ้มร้ายกาจ

     









    " ถ้าแกไม่สามารถจะฝึกมังกรบ้านั่นได้ แกมันก็เป็นแค่อลาเทอร์เรียลผู้โดดเดี่ยวที่ไร้ประโยชน์ " ออกแรงกดลงที่ลำคอมากขึ้นจนปากอิ่มต้องอ้าเผยอสูดรับอากาศเข้ามาให้มากที่สุด รู้สึกถึงน้ำอุ่นๆ ที่ไหลลงมาจากหางตา อาเซทมองภาพตรงหน้าอย่างเรียบเฉย ก้มหน้าลงมากระซิบข้างแก้มขาวด้วยเสียงที่แหบพร่า

     











    " และถ้าเป็นเช่นนั้นข้าสามารถจะฆ่าเจ้าได้เมื่อไรก็ได้ที่ข้าต้องการ จำให้ขึ้นใจนะเด็กดีของข้า " พูดจบก็สะบัดมือออกผลักร่างขาวล้มลงไปกับพื้นอีกครั้งก่อนจะเดินลงจากผาหินจากไป ทิ้งให้อีกคนนอนตัวงอไอสำลักอยู่กับพื้น 

     

     








    พระอาทิตย์ใกล้จะลับขอบฟ้าในไม่ช้า แจ็คสันยังคงพลิกตัวนอนหงายอยู่ที่เดิม ตาสีอ่อนทอดมองบนท้องฟ้าอย่างเหม่อลอย น้ำใสที่ข้างแก้มขาวแห้งเหือดไปหมดแล้ว คิดถึงครอบครัวที่ไม่เคยได้พบหน้า ราชวงศ์ของตนที่ล่มสลายกับสัตว์ร้ายที่เขาไม่สามารถควบคุมมันได้ พลิกร่างนอนตะแคงใช้สองแขนโอบกอดตัวเองที่หนาวสั่น เขาทำไม่ได้ ไม่สามารถจะทำให้เซอร์เทรียลเชื่อฟังเขาได้ และถ้าเป็นเช่นนั้นเขาจะไม่มีประโยชน์อะไรและจะต้องถูกฆ่าทิ้งอย่างแน่นอน ตาสีสวยเปรยมองไปที่ทะเลอันไกลโพ้นจินตนาการถึงอีกฝากฝั่งของมหาสมุทร ดินแดนอีกฝากที่เขาไม่เคยเห็น

     

     












    เขาจะต้องหนีไปจากที่นี่ให้ได้

     

     

     


     

     

    SEVEN ROYALS

     



     

    " ท่านแจ็คสัน " เสียงเล็กๆ ด้านหลังทำให้เขาที่นั่งทำแผลให้ตัวเองอยู่ในกระโจมขนาดเล็กต้องหันไปหาต้นเสียงด้วยความตกใจก่อนจะถอนหายใจเมื่อเห็นว่าเป็นหญิงชราหลังค่อม หล่อนใช้ไม้เท้าพยุงตัวให้เดินได้สะดวก เธอค่อยๆ เดินเข้ามานั่งบนหนังขนสัตว์ผืนใหญ่ที่ปูอยู่บนพื้นใกล้ๆ กับที่ร่างขาวนั่งอยู่ รอบตาที่เหี่ยวย่นกับดวงตาสีเทาฝ้าฟางมองมาด้วยความเป็นห่วง

     

     

    " เจ็บมากหรือไม่พระองค์ " เสียงของเธอช่างดูเศร้าหมองพอกับใบหน้า แจ็คสันยิ้มส่ายหน้าไปมาพลางชูแขนทั้งสองข้างที่มีรอยครูดแดงเป็นทางยาวถูกทาด้วยยาสีขาวขุ่นทั่วทั้งแขน กลิ่นขมเย็นของยาฟุ้งอบอวลไปรอบๆ กระโจมที่พัก

     

     








    " ไม่เจ็บแล้วล่ะท่านมาเซล ยาสมุนไพรพวกนี้ช่วยข้าได้เยอะเลยถึงกลิ่นของมันก็รุนแรงไปบ้างก็ตาม " เขาโกหก แผลครูดกับหินสากๆ เมื่อตอนบ่ายที่ผ่านมาค่อนข้างลึกพอสมควร และมันก็แสบเอามากๆ ตอนแตะโดนแต่ก็ต้องพยายามป้ายยาให้ทั่วแผลทั้งสองข้าง หญิงชราฝืนยิ้มตอบกลับไปให้ ทำไมเธอจะไม่รู้ว่าองค์ชายที่เธอเฝ้าดูแลมาตั้งแต่เกิดนิสัยเป็นอย่างไร เข้มแข็งอดทนและน่าสงสาร มือเหี่ยวย่นเอื้อมไปลูบผมสีทองสวยนุ่มเบาๆ อย่างปลอบโยน 

     

     








    " เป็นเพราะหม่อมฉัน ทั้งๆ ที่พระองค์ทั้งสองฝากฝั่งท่านไว้กับข้าก่อนจะจากไปแท้ๆ "




    หญิงชราพูดน้ำเสียงสั่นเครือคิดถึงเหนือหัวของเธอที่จากไป ตั้งแต่สงครามใหญ่จบลง ยายทวดของเธอได้นำเด็กทารกเชื้อสายของอลาเทอร์เรียลคนสุดท้ายลักลอบพาออกจากวังก่อนที่ทุกอย่างจะถูกทำลายจนมอดไหม้ หนีไปใช้ชีวิตอย่างสันโดษตัดขาดกับอำนาจและราชนิกูล ใช้ชีวิตอย่างปถุชนเรื่อยมาจนกระทั้งท่านพ่อท่านแม่ของท่านแจ็คสันที่ถูกพวกโจรทะเลทรายสังหารตอนกำลังเดินทางย้ายไปพำนักต่างเมือง เธอซึ่งเป็นผู้ติดตามและทารกน้อยของท่านทั้งสองถูกขายไปเป็นทาส ภายหลังอาเซทผู้ที่อยู่ในตระกูลรับใช้ของราชวงศ์อลาเทอร์เรียลมาตั้งแต่สมัยยังไม่ล่มสลายซื้อพวกเขาด้วยเงินจำนวนไม่มาก อาเซทพยายามรวบรวมกำลังพลอย่างลับๆ ได้จำนวนหนึ่ง พร้อมกับไข่มังกรที่เธอเองก็ไม่รู้ว่าอาเซทมีมันไว้ในครอบครองได้อย่างไร แต่มันก็เป็นเพียงฟอสซิลไข่มังกรที่โดนไฟเผาไหม้จนดำสนิทไม่สามารถจะฝักได้อีกแล้ว จนกระทั้งวันหนึ่ง ท่านแจ็คสันที่ยังเด็กไม่รู้เดียงสาแอบลอบเข้าไปในเล่นในกระโจมที่พักของอาเซทก่อนจะเดินเข้าไปแตะมันที่ตั้งไว้ในกล่องเหล็กใกล้ที่นั่งของอาเซท เธอจำมันได้ดี ตอนที่รีบวิ่งเข้าไปในกระโจมที่ไหม้ไฟ ภาพของท่านแจ็คสันที่นอนร้องไห้อยู่กับพื้นพร้อมแผลไฟลวกกลางหลังกับลูกมังกรสีดำสนิทที่พยายามคลานออกมาจากซากเปลือกไข่ มันยังบินไม่แข็งพยายามตะเกียกตะกายอยู่บนพื้นข้างๆ พระองค์

     

     

     










    มันคือจุดเริ่มต้นของฝันร้าย

     

     











    พออาเซทรู้ว่าท่านแจ็คสันคือเชื้อสายอลาเทอร์เรียลที่เหลือรอดและได้ปลุกมังกรตัวใหม่หนึ่งเดียวหลังจากการสูญพันธ์ของมันขึ้นมาได้ แผนชั่วในการหวังจะใช้อำนาจจากมังกรจึงทำให้องค์ชายของเธอต้องพบการทรมานแสนสาหัสจากคนชั่วช้านั่น เธอจะไม่ยอมให้เป็นเช่นนั้นเด็ดขาด เธอจะปกป้ององค์ชายของเธอออกจากพวกละโมภอำนาจ จากสัตว์ร้ายที่ไม่ควรจะตื่นขึ้นมา จากทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำให้องค์ชายของเธอต้องทุกข์ทรมาน

     

     






    " ท่านแจ็คสัน ท่านจำพวกชาวมองโกลที่เคยนำเรือสินค้ามาขึ้นฝั่งที่ดินแดนเราได้หรือไม่ เมื่อเช้าเรือของพวกนั้นพึ่งมาเทียบท่าที่นี่" ร่างขาวพยักหน้านึกถึงกลุ่มชายผิวเหลืองที่นำเรือสินค้ามาขึ้นฝั่งที่ดินแดนนี้เป็นครั้งแรกเมื่อปีที่แล้ว อาเซททำการค้าขายกับพวกนั้นพร้อมพยายามหาข่าวสารจากดินแดนอื่นๆ และเรือของพวกมองโกลจะมาที่นี่แค่ปีละสามครั้งเท่านั้น ตาสีอ่อนมองหญิงชราอย่างสงสัย

     

     

    " ข้าจำได้ท่านมาเซล ทำไมหรือ " หญิงชรายิ้มให้อย่างอ่อนโยน มือเหี่ยวย่นของเธอล้วงหยิบบางสิ่งจากด้านในเสื้อแขนยาวก่อนจะส่งให้มือขาวรับไว้ ตาคมสวยยิ่งสงสัยมากขึ้นเมื่อเห็นว่ามันคือถุงใส่เงิน

     








    " ท่านมาเซล ทำไม…….. " หญิงแก่ยกนิ้วขึ้นมาที่ปากของเธอขัดคำถามของแจ็คสัน เธอขยับเข้ามาใกล้กอบกุมมือขาวที่ประคองถุงเงินไว้แน่น

     








    " นี่เป็นเงินที่ข้าได้จากการแอบลอบเข้าไปขโมยมาจากคลังของอาเซท มันมีไม่มากนักแต่ก็พอที่จะให้ท่านขึ้นเรือของพวกมองโกลหนีไปจากที่นี่ ข้าได้แอบไปเจรจากับชายคนนึงในนั้นมาแล้ว " คำพูดของมาเซลทำให้แจ็คสันตาเบิกกว้าง อกด้านซ้ายเต้นแรงหัวใจรู้สึกพองโตอย่างมีความหวัง

     

     







    " จริงหรือท่านมาเซล! " 

     

     










    " ใช่แล้ว เรือของพวกนั้นจะออกเดินทางไปดินแดนอีกฝากของทะเลตอนเช้าตรู่ของพรุ่งนี้ ถ้าจะหนี นี่ก็เป็นโอกาสที่หาไม่ได้แล้ว " แจ็คสันมือสั่นกำถุงเงินแน่น ใจคิดไปถึงดินแดนอีกฝากของมหาสมุทร หลบหนีจากความโหดร้ายของที่นี่ไปแล้วไม่กลับมาอีก 

     

     










    " ข้าต้องทำอย่างไรบ้าง " 

     

     







    " ก่อนรุ่งสาง ท่านต้องลอบออกมาที่ท่าเรือทางตะวันตก พยายามกะเวลาดีๆ อย่าให้อาเซทจับได้ เมื่อถึงท่าเรือ พยายามหาชายมองโกลสูงใหญ่ผิวน้ำตาลที่มีรอยสักรูปดาบที่ต้นแขนซ้าย เอาถุงเงินนี่ให้เขาแล้วเขาจะพาท่านขึ้นเรือ " 

     

     









    " แล้วท่านล่ะ ท่านไม่ไปกับข้าหรือ " เสียงแหบกระซิบถามเบาๆ สายตาคมเศร้ามองมาที่หญิงชราอย่างมีความหวัง หญิงชราส่ายหน้า เธอเอื้อมมืออีกข้างลูบผมสีทองนุ่มของคนตรงหน้าอีกครั้ง 

     











    " เงินที่มีพอแค่สำหรับท่านเท่านั้น อย่าห่วงหญิงแก่วัยใกล้สิ้นอย่างข้านักเลย " แจ็คสันก้มหน้าลง กำมือของเธอแน่นอย่างเจ็บปวด

     













    " ท่านจะให้ข้าทิ้งท่านไป.........."

     

     






    มาเซลยิ้มให้ แววตาอ่อนโยนทอดมองผู้เป็นดั่งลูกในไส้ด้วยความรัก

     







    " ใช่แล้วองค์ชายของข้า "

     

     

     

     

     

     

     

     

    SEVEN ROYALS




     

     

    คืนนี้เขาไม่เข้านอน ร่างสมส่วนนั่งชันเข่ากับพื้นตาทอดมองออกไปนอกกระโจมอยู่ตลอดเวลา ใกล้จะได้เวลาที่ต้องหนี มือขาวกำถุงเงินที่แอบซ่อนไว้ตรงอกใต้เสื้อสีมอ แต่แล้วใจก็ต้องร่วงไปอยู่ที่ตาตุ่มเพราะร่างสูงของใครอีกคนที่แหวกผ้ากระโจมเข้ามา

     

     

     

     





    " นอนไม่หลับหรือไงเด็กดี "

     

     

     

     






    " แก! เข้ามาทำไม "

     

     

     

     







    "ข้าแค่เป็นห่วง ข้ารู้สึกจะทำเจ้าหนักมือไปหน่อยเลยจะมาดูซะหน่อยว่าไม่ได้สึกหรออะไรไปใช่มั้ย " อาเซทย่างสามขุมเข้ามาใกล้ร่างขาวที่ถดตัวหนีไปอยู่มุมกระโจม ตาคมสวยจ้องเขม่งอย่างหวาดระแวง มือหยาบเอื้อมมาแนบที่แก้มขาวอย่างไม่ทันตั้งตัว แจ็คสันรีบปัดออกอย่างตกใจ แต่อาเซทไม่สนใจกลับกระชายเสื้อเนื้อบางของอีกคนออก ถุงเงินกระเด็นตกลงกับพื้น ตาดุร้ายหยุดการกระทำจับจ้องไปยังของที่พื้น เอื้อมมือคว้าเอาถุงผ้าขึ้นมาดู แจ็คสันแทบจะหยุดหายใจ

     

     







    " เจ้าเอามาจากไหน " แจ็คสันไม่ตอบ

     

     








    " ขโมยมาจากคลังใช่มั้ย! " เสียงตวาดดังลั่นพลางย่างสามขุมเข้ามาประชิดตัวเขา

     

     

     

    " ถ้าแกเข้ามาใกล้กว่านี้ละก็ ข้าฆ่าแกแน่ " เสียงแหบเครือพูดขู่ทั้งที่ยังสั่นไปด้วย อาเซทมองอย่างเกรี้ยวกราด มือหยาบกร้านคว้าจิกเข้าที่กลุ่มผมทองกระชากให้ล้มลงไปนอนคว่ำกับพื้น มือขาวพยายามปัดป้องอย่างสุดกำลังแต่ก็สู้แรงของคนที่ขึ้นมาคร่อมบนตัวของเขาไม่ได้เลย ข้อมือทั้งสองข้างโดนรวบกดไว้กับพื้นเหนือหัว รอยยิ้มแสยะร้ายถูกส่งออกมาจากใบหน้าคนที่เขาอยากจะฆ่าให้ตายมากที่สุดในโลก

     

     

     





    " จะฆ่าข้าแบบไหนหรือ สั่งมังกรมากินหรือเผาข้าดีล่ะ  อ้อ! ลืมไป.... มังกรนั่นมันไม่ฟังคำสั่งเจ้าเสียหน่อย " แจ็คสันดิ้นสุดกำลัง พยายามยกเข่าขึ้นมากระแทกที่ลำตัวของอาเซทแต่ไม่เป็นผล ใบหน้าหยาบช้ากดลงตรงซอกคอขาว ร่างข้างใต้ดิ้นพล่านอย่างหวาดกลัว ทันใดนั้นเสียงเหมือนของแข็งกระแทกกับอะไรซักอย่างดังขึ้น อาเซทร้องด้วยความเจ็บปวด ผละมือที่จับเขาไว้ไปกุมที่ท้ายทอย 

     

     








    " หนีไปเร็ว ท่านแจ็คสัน! " ร่างขาวมองมาเซลที่ถือท่อนไม้เปรอะเลือดด้านหลังอาเซท เขารู้สึกสับสนและหวาดกลัว มาเซลเมื่อเห็นว่าอีกคนยังนั่งนิ่งทำอะไรไม่ถูกหญิงชราก็รีบดึงแขนของเขาขึ้นมา คว้าถุงเงินที่ตกอยู่ข้างอาเซทมายัดใส่มือแจ็คสันอย่างร้อนรน ร่างขาวตั้งสติได้รีบวิ่งไปที่ม่านตรงทางออกกระโจม เสียงร้องของหญิงชราดังขึ้นทำให้ขาทั้งสองข้างชะงักหันมามองภาพด้านหลัง อาเซทที่ลุกขึ้นมาได้กระชากผมสีเทาของมาเซลขึ้น ในมืออีกข้างถือมีดสั้นจ่อตรงบริเวณลำคอของหญิงชรา แจ็คสันรับรู้ถึงหัวใจที่กำลังจะแตกสลาย หญิงชราทอดมองมาที่เขาพลางส่งยิ้มให้อ่อนโยน

     

     








    " ไปซะ อย่าได้หันหลังกลับมาเป็นอันขาด "

     

     









    พูดจบใบมีดคมถูกกดลงบนผิวหนังปาดกระชากเป็นทางยาวจนเลือดสาดกระเซ็นไปทั่วกระโจม แจ็คสันรับรู้ได้ถึงความรู้สึกของเลือดอุ่นๆ ที่กระเด็นมาโดนใบหน้า น้ำตาไหลอาบแก้มทั้งสองข้างก่อนจะรีบวิ่งหนีออกจากกระโจมพักอย่างสุดชีวิต




    ขาทั้งสองขาวิ่งอย่างรวดเร็วไปที่คอกม้าหลังค่ายพัก รีบปลดเชือกม้าสีน้ำตาลเข้มตัวแรกที่อยู่ในคอก ตวัดตัวขึ้นก่อนจะควบมันออกไปด้วยความรวดเร็ว ในใจสับสนตีกันปนเป มาเซลตายแล้ว หญิงคนเดียวที่รักและดูแลเขา อีกใจก็ท่องแต่ท่าเรือฝั่งตะวักตก เรือของมองโกลที่จะพาเขาออกไปจากที่นี่ เสียงควบม้ามากมายจากด้านหลังทำให้เขาต้องรีบเร่งม้าให้วิ่งเร็วยิ่งขึ้น แจ็คสันขึ้นชื่อว่าขี่ม้าได้เก่งและรวดเร็วมากจึงสามารถทิ้งระยะห่างจากพลเถื่อนของอาเซทได้ประมาณนึง เมื่อมาถึงทางติดทะเล ตาสีอ่อนมองพระอาทิตย์ที่กำลังจะโผล่พ้นขอบมหาสมุทร หัวใจเริ่มชื้นเมื่อเห็นเรือสินค้าลำใหญ่ที่ยังจอดเทียบท่าอยู่ แต่ไม่นานใจก็ร่วงดิ่งอีกครั้งเมื่อเห็นว่าลูกเรือกำลังทอดสมอขึ้น

     

     

     







    " ไม่นะ รอข้าก่อน ได้โปรด " มือรีบสะบัดบังเหียนเร่งม้าสุดแรง กระตุกให้หยุดเมื่อถึงทางไม้สำหรับเชื่อมเรือ รีบกระโดดลงจากหลังม้าก่อนจะวิ่งเท้าเปล่าสุดฝีเท้าไปตามสะพานไม้ เสี้ยนไม้ตำเท้าจนรู้สึกเจ็บแสบไปหมดก็ไม่ทำให้ร่างขาวชะลอความเร็วลง ตาคมโตมองเรือลำใหญ่ที่ค่อยๆแล่นออกจากท่าเรือ ปากเปล่งเสียงตะโกนลั่นหวังให้คนบนเรือได้ยินแล้วกลับมารับเขา แจ็คสันหยุดวิ่งเมื่อสุดปลายสะพานทอดมองเรือที่ค่อยๆ ลอยห่างออกไป เสียงฝีเท้าม้ามากมายดังมาจากด้านหลังก่อนจะหยุดลง ตาสีอ่อนเหลือบไปมองด้วยใจที่เต้นรัว อาเซทอยู่บนหลังม้า กำลังมองมาที่เขาด้วยแววตาชัยชนะ

     

     




    " ข้าบอกแล้ว ว่าเจ้าไม่มีทางไปจากที่นี่ได้ " เสียงแหบต่ำพูดเรียบนิ่งแต่แฝงไปด้วยความเย้ยหยัน 

     

     









    แจ็คสันกำถุงเงินในมือแน่น คำสุดท้ายของมาเซลยังคงดังก้องอยู่ในหัว ตาสีน้ำตาลอ่อนสะท้อนกับแสงแดดยามเช้าเป็นประกายทองเจิดจ้าและแน่วแน่ ปากอิ่มยกยิ้ม 

     

     













    " ข้าจะไม่หันหลังกลับอีกเป็นอันขาด "

     

     









    สิ้นเสียงร่างทั้งร่างก็ทิ้งตัวลงไปในน้ำทันที อาเซทตกใจรีบสั่งนายทหารพุ่งหอกลงไปใต้น้ำ ร่างสมส่วนว่ายหลีกหนีคมอาวุธมากมายที่พุ่งลงมา พยายามดำตัวเองให้ว่ายห่างจากฝั่งออกไปซักระยะก่อนจะโผล่ขึ้นมาหายใจเฮือกใหญ่ พยายามว่ายสุดกำลังตามเรือสินค้าลำใหญ่ไป ปากก็ตะโกนขอให้ช่วยพร้อมกับพยายามชูถุงเงินขึ้นเหนือหัว รู้สึกเจ็บที่ข้อเท้าขวาที่น่าจะโดนคมหอกบาดตอนอยู่ใต้น้ำ เขากำลังจะหมดแรง ไม่มีทางที่จะว่ายตามทันแน่นอน พยายามลอยตัวเหนือน้ำก่อนจะเปล่งเสียงตะโกนเป็นครั้งสุดท้าย

     










    " กลับมา!!! พาข้าไปด้วย " 

     

     







    ตาคมสวยมองเรือที่แล่นห่างไปอย่างหมดหวังและใบหน้าที่เจ็บปวด แต่แล้วเหมือนสวรรค์จะเมตตาเขาอีกครั้ง เมื่อเห็นว่าเรือเล็กลำหนึ่งถูกหย่อนลงมาบนผิวน้ำพร้อมกับลูกเรือจำนวนสามถึงสี่คนบนเรือที่กำลังใช้พายไม้บังคับเรือมาทางเขา แจ็คสันหลับตาลงปล่อยน้ำใสอุ่นๆ ไหลลงอาบแก้มทั้งสองข้างผสมกับน้ำทะเลรอบตัว 

     

     

     














    สำเร็จแล้ว………. ได้ออกไปจากที่แห่งนี้เสียที

     

     

     

     

     






    SEVEN ROYALS
    _______________________________________________________
    แถ่นแถ้นนนนน เปิดตัวน้องนางมาก็สู้ชีวิตกันไป ชีวิตแค่โดนทำร้ายยย
    (ร้องเพลงทำไม?) 55555 เรื่องนี้นายเอกเราอึดค่ะไม่ต้องห่วง ต้องโดน
    อีกเย้อออ มังกรก็ไม่รัก ชีวิตต้องสู้ เฮ้อ เป็นกำลังใจให้แจ็คสันและไรท์(?)
    ให้มีแรงฮึดแต่งต่อไปเรื่อยๆนะคะ (อ้าวอินี่) ขอบคุณที่ติดตามค่า เจอกันตอนหน้า

    ทวง เม้น ด่าทอคนแต่งได้ในทวิตค่ะ #ฟิค7ตระกูล

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×