ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fic One Piece [You are... at my side]

    ลำดับตอนที่ #6 : The wrong.

    • อัปเดตล่าสุด 23 ก.ย. 57


           หลังจากที่มัลโกพาลูฟี่มาอยู่ในบ้านของเขาก็เกือบอาทิตย์เข้าไปแล้ว นานแล้วที่มัลโกไม่ได้หลับอย่างเต็มตาเต็มตื่นอย่างนี้  เพราะต้องเตรียมตัวให้พร้อมตลอดเวลาเมื่อครั้งยังอยู่บนเรือในทะเลก็ตาม หรือ เพราะซัจที่ต้องกาจะกวนประสาทเขาด้วยการขัดขวางเวลานอนกลางวันขอเขาก็ตาม

    ...แต่ตอนนี้เขารู้สึกหนักอีกครั้ง...

           ไม่ใช่หนักผ้าห่มที่อยู่บนตัว ไม่ใช่หนักหนังตาเพราะนอนไม่พอจนอยากจะนอนเพิ่มสักไม่เกิน10นาที แต่ก็ไม่ปฏิเสธที่จะยอมรับว่าที่เขาหนักน่ะ มันคือบนร่างกายของเขาเองจริงๆตะหากล่ะ

           มัลโกปรือตาสู้แสงอาทิตย์ขึ้นมามอง นัยน์ตาสีฟ้าฉายแววตกใจทั้งสีหน้าสงบนิ่งและมันก็ทำให้เขาตื่นเต็มตาอีกทั้งยังรู้สาเหตุที่เขารู้สึกหนักๆบนลำตัว เมื่อตัวต้นเหตุขยับเล็กน้อยแล้วส่งเสียงละเมอออกมาเบาๆ อา.. วันนี้เขาก็ลืมอีกแล้วว่าในบ้านของเขายังมีหมวกฟาง ลูฟี่อาศัยอยู่อีกคน มันทำให้เขาคิดว่า ถ้าไม่หาโซฟาไว้สักตัวสำหรับนอนก็น่าจะมีเตียงไม่ก็เปลไว้เพื่อที่จะได้ให้เขาไม่ต้องหารที่นอนกับคนเจ็บ

           “หมวกฟาง...”

           “ฟรี้....”

           “เจ้าเปี๊ยก...”

           “....” ไม่มีสัญญาณตอบรับใดๆจากการปลุกของมัลโก คงเพราะก่อนหน้านี้ลูฟี่ต้องเผชิญกับการปลุกสุดหฤโหดแปลกและแหวกแนวชนิดที่มัลโกคาดไม่ถึงไม่ซ้ำวันเป็นเหตุผลให้บางครั้งร่างกายมีการตอบสนองโดยทันทีเหมือนกันกรณีในครั้งที่พวกลูฟี่อยู่ที่วอลเตอร์ เซเว่น ที่สำเร็จวิชากินทั้งนังหลับอยู่

    ...ลองเรียกชื่อจะตื่นมั๊ยนะ...

           “ลูฟี่”

           “งึมมม... ขออีก5นาทีนะโซโล...” มัลโกนิ่งไปเล็กน้อย คำพูดนี้มันค่อนข้างคุ้นถึงจะไม่ค่อยอยากตามใจแต่เมื่อเจ้าตัวบอกว่า “5นาที” ก็ให้ๆไปเถอะ ค่อยดัดหลังวันหลัง เขาก็ไม่เคร่งเรื่องเวลามากอยู่แล้ว แถมตอนนี้ก็เป็นเวลาที่ถือว่าเช้ามากอยู่ดี

    5นาทีผ่านไป...

           นัยน์ตาสีฟ้าจ้องหน้าลูฟี่มาตลอด5นาทีตามที่ลูฟี่ขอเวลา และมันก็ถึงเวลาแล้วที่เขาต้องปลุกลูฟี่(อีกครั้ง) แล้ว!

    ร่างสูงค่อยๆขยับกายคล้ายจะลุกนั่งแต่ใช่ศอกค้ำเอาไว้แล้วคิดว่า มันคงจะง่ายกว่านี้ถ้าเขาเอาลูฟี่ที่นอนอยู่ลงจากตัวเขาแล้วปล่อยให้นอนที่เตียง... แต่เขาจะมาคิดออกอะไรตอนนี้ล่ะเนี่ย!

           “หม... ลูฟี่ ลูฟี่ นี่!ลูฟี่!!

           “อือ.... อารายยยยยอ้า.. .” เสียงงัวเงียบ่งบอกว่าไม่พอใจอย่างชัดเจน  แล้วยังขยับตัวเข้าซุกเพื่อหาไออุ่นอีกตะหาก

           “เฮ้ ลูฟี่!! ตื่นได้แล้ว!!!

           “อือๆๆๆ... รู้แล้วๆ...” ลูฟี่ยอมขยับตัวลุกจากตัวของมัลโกแล้วเดินไปที่ห้องน้ำ มัลโกมองตามอย่างเอือมๆเล็กน้อยก่อนจะเดินออกไปจากห้องอย่างเงียบๆ

     

     

     

           หลังจากที่มัลโกทำความสะอาดและเปลี่ยนผ้าพันแผลให้ลูฟี่เรียบร้อยก็เริ่มทำอาหารเช้า แต่โชคดีหน่อยที่เจ้าบองร้านอาหารพอรู้ว่ามัลโกทำอาหารไม่คล่องจึงทำอาหารใส่ตะกร้ามาวางไว้หน้าบ้านแทบจะทุกเช้าจึงไม่ควรเรียกว่า “ทำอาหาร” เสียเท่าไหร่ ทั้งๆที่ปฏิเสธไปแล้ว ลูฟี่เองก็บ่นอยากลองทำอาหารง่ายๆบ้างเล็กน้อย ถึงจะไม่ค่อยมั่นใจในฝีมือ แต่อย่างน้อยก็พอจะมีเหตุผลที่ทำให้เจ้าของร้านอาหารได้เพิ่มเวลานอนสักหน่อย(ทำงานเสร็จโต้รุ่งทุกวัน)

           “น่าเบื่ออออ” ลูฟี่บ่นออกมาเปรยๆหลังจากที่กินข้าวเช้าเสร็จ

           “...”

           “มัลโก...” เรียกชื่ออีกคนที่นั่งอ่านหนังสือพิมพ์เงียบๆอยู่ตรงข้าม

           “หืม?”

           “ฉันเบื่ออะ”

           “อา... ฉันไม่รู้วิธีเล่นกับเด็กหรอกนะ”

           “ฉันไม่ใช่เด็กนะ!

           ถ้าปกติเวลานี้อยู่บนเรือ ลูฟี่คงจะนั่งตกปลากับอุซปหรือนั่งเล่นกับช็อปเปอร์ หาเรื่องแกล้งโซโลที่กำลังหลับ แฟรงกี้จะดัดแปลง(ซ่อมแซม)ซันนี่ที่ใต้ท้องเรือ  โรบินจะนั่งอ่านหนังสือ นามิจะนอนอาบแดดโดยมีบรู๊คเล่นไวโอลินคลอเบาๆ ส่วนซันจิจะคอยเสริมชาและของว่างให้กับสองสาว

           “ถ้านายเบื่อนายก็เข้าไปเดินเล่นในป่าสิ” มัลโกพูดแนะ ทำให้ลูฟี่ตาประกายวาวคล้ายจะให้ความสนใจอย่างเต็มที่

           “ได้เหรอ!!?”

           “ได้สิ... แต่มันก็ไม่ค่อยมีอะไรน่าสนใจมากหรอกนะ” พูดทั้งไม่ยอมละสายตาจากหนังสือพิมพ์ เพราะในป่านั้นไม่จำเป็นอะไรที่ต้องเป็นห่วง สภาพป่าก็อุดมสมบูรณ์พรั่งพร้อมไปด้วยพืชพรรณและสัตว์ประหลาด

           “ระวังตัวแล้วก็กลับมาให้ทันมื้อเย็.... อาว... ไปซะละ...” นัยน์ตาสีฟ้ากวาดมองไปรอบๆเพื่อมองหาร่างคู่สนทนาที่เคยยืนคุยกันเมื่อครู่

    กลับกลายเป็นว่าเขาพูดคนเดียวมาเกือบๆนาที ถ้าให้เดาว่าลูฟี่หายไปตอนไหนก็คงเดาได้ไม่ยากนัก

           “เดี๋ยวคงรู้เวลากลับมั๊ง” พูดตัดบทแล้วพลิกหนังสือพิมพ์หน้าต่อไป

    หลังจากนั้นมัลโกก็ต้องจำไว้เสมอว่า อย่าพูดเล่นๆกับลูฟี่โดยที่ไม่มองหน้าอีก

     

     

     

           ทันทีที่มัลโกตอบว่า “ได้สิ” ลูฟี่ก็รีบออกมาจากบ้านด้วยความเร็วแสง เพียงไม่กี่นาทีเขาก็มาถึงป่าที่ว่า มันเป็นเหมือนป่าที่เขาเคยไปเดินเล่นเมื่อครั้งขึ้นไปหาขุมทองบนเกาะลอยฟ้าที่เรียกว่า จายา มันแตกต่างจากอัปเปอร์ยาร์ดตรงที่ต้นไม้ใหญ่ที่มีผลไม้เป็นจำนวนมากตามรายทาง บรรยากาศป่าที่เงียบงันชวนขนหัวลุกเล็กน้อยแบบนี้ มันทำให้ลูฟี่รู้สึกตื่นตาตื่นใจเป็นพิเศษ

    มันทำให้ลูฟี่รู้สึกสนุก!

     

           “สุดยอด....” เหมือนว่าได้ย้อนกลับไปสมัยที่ยังอยู่ในภูเขาคอลโบเพียงลำพัง ใช้ชีวิตหมดไปวันๆด้วยการฝึกด้านกำลังกายและเอาชีวิตรอดกับภูมิประเทศใหม่ๆอย่างสดใสและร่าเริงจนเหนื่อยอ่อนและหัวตามธรรมเนียม

           “หิวข้าวแฮะ... จะมีอะไรกินมั๊ยน้า...อ้ะ!” สายตาเหลือบมองขึ้นไปบนท้องฟ้าเป็นแนวตรงประจวบเหมาะกับฝูงนก (ที่คาดว่าน่าจะเป็นนกป่าธรรมดา) บินผ่านพอดิบพอดี

           “ดีล่ะ!! หมัดปืนกลยางยืดด!!” แขนทั้งสองข้างยืดขึ้นไปบนฟ้าแล้วคว้าจับนกลงมาจำนวนหลาสยตัวจากฝูงเดิมที่รอดชีวิตก็รีบบินหนีอย่างเอาเป็นเอาตาย

           “หวาว....ได้มาเยอะเลย” พูดกับตัวเองโดยที่ไม่ได้สังเกตแผลที่หน้าท้องว่ามันเปิดออกและเลือดก็เริ่มไหลซึมออกมา

     

           เวลาผ่านไปราวๆครึ่งชั่วโมง นกที่จับมาได้ถูกจัดการย่อยเสร็จเรียบร้อย ลูฟี่จัดการขุดหลุมและฝังซากกระดูกนกจำนวนมากไว้เพื่อกันสัตว์ร้ายที่จะตามกลิ่นซากด้วยเพราะติดเป็นนิสัย ท้องฟ้าเริ่มมืดตามระยะเวลาบวกกับบริเวณป่าเป็นเขตที่มีความชื้น ต้นไม้หนาทึบทำให้ดูเหมือนจะมืดเร็ว กองไฟกองเก่าที่ก่อขึ้นเพื่อหาอะไรประทังเมื่อเที่ยงยังคงอยู่ อาการเหนื่อยและเลือดจำนวนไม่น้อยที่เสียไปทำให้มีอาการเพลียจนแทบยืนไม่ขึ้น

           “ฮ้าว..” ปิดปากหาวพร้อมกับมองซ้ายมองขวาหาที่ๆพอจะซุกตัวนอนได้ มือทั้งสองข้างกอดและลูบแขนที่เต็มไปด้วยผ้าพันแผลเพื่อให้คลายความหนาวลงบ้างและก็หันไปเห็นรากต้นไม้ใหญ่ที่เป็นโพรงขนาดกลางๆไม่ห่างจากกองไฟ จึงไม่รอช้ารีบมุดเข้าไป เพียงไม่นานก็หลับไปด้วยความเหนื่อยล้าและเสียเลือดไปไม่น้อย

     

     

           ตอนนี้เป็นเวลาเกือบจะเที่ยงคืนแล้ว มัลโกเงยหน้าจากหนังสือที่กำลังอ่านสลับกับป่าที่อยู่ไม่ไกลจากหลังบ้านเขามากเท่าไร  อีกไม่นานก็จะวันใหม่แล้ว ทำไมหมวกฟางถึงยังไม่กลับ ถึงจะรู้อยู่แก่ใจถึงความสามารถและพลังก้นบึ้งสุดจะหยั่งถึงของลูฟี่ก็เถอะ แต่ก็อดเป็นห่วงไม่ได้อยู่ดี ในป่านั่นก็อุดมสมบูรณ์เกินไปจนน่าเป็นห่วงเพราะของที่กินได้นอกจากในบึงน้ำหรือท้องฟ้าก็ต้องเข้าไปหาลึกๆเท่านั้น  มัลโกถอนหายใจเบาๆก่อนตัดสินใจเข้าไปตามหาเจ้าน้องชายที่เชื้อไม่ทิ้งแถวจากพี่มันที่เข้าไปในป่าทั้งๆที่เวลาเริ่มวนเข้าวันใหม่แล้ว

           ร่างฟินิกซ์ทะยานขึ้นเหนือผืนป่าที่แทบจะมองไม่เห็นพื้นดิน ต้นไม้ใหญ่ขึ้นรกชัฏจนเหมือนว่าอุดมสมบูรณ์อย่างมาก ปีกสีฟ้าขยับวนอยู่รอบๆป่าพลางใช้ฮาคิสังเกตมองไปตามกิ่งก้านต้นไม้และโคนต้นไม้อย่างละเอียด กลิ่นบางอย่างลอยจางๆขัดกับกลิ่นของป่าไม้และลมทะเลที่ยังคงพัดอยู่ กลิ่นใบไม้ที่ถูกเผา มัลโกจึงตามกลิ่นนั้นไป ในใจหวังเพียงว่า “ขอให้ใช่ที่เถอะ”

     

           เป็นไปตามคาด สัญชาตญาณของเขาถูกเผงอย่างแม่นยำอีกครั้ง ฮาคิสังเกตที่ใช้บ่อยจนเกิดเป็นความชำนาญ มัลโกมาหยุดอยู่ตรงหน้ากองไฟที่ค่อยๆมอดลงอย่างช้าๆ ทุกสิ่งทุกอย่างมืดสนิท เงียบงันราวกับไม่มีใครอยู่ที่นี่.. แต่สัญชาตญาณของเขาไม่เคยผิดพลาด นัยน์ตาสีฟ้าน้ำทะเลเหลือบมองไปยังโพรงต้นไม้ที่ทางเข้ามีใบไม้ปกคลุมน้อยกว่าที่ควรจะเป็น แต่กลับแหวกเป็นทางอย่างมักง่าย ฝีเท้าค่อยๆสืบเข้าใกล้แล้วย่อตัวลง... เจ้าตัวดีหลับอยู่ในนี้

           มือใหญ่ค่อยๆพาร่างของลูฟี่ที่นอนขดเป็นแมวออกมาจากโพรงต้นไม้อย่างเบามือ ลูฟี่ยังคงหลับไม่รู้เรื่องอยู่ดี อาจเพราะความเหนื่อยสั่งสม ในขณะที่มัลโกกำลังจะอุ้มร่างบางนั้นเพื่อจะกลับไปที่บ้าน

           !?

    ฝ่ามือของเขาเต็มไปด้วยเลือดจำนวนมากจากปากแผลของคนที่กำลังหลับอยู่

    ________________________________________________________

    เย้~~~~~~~~~~~~ มีเวลามาลงแล้ววว

    ปิดเทอมน่าจะได้มาลงถี่กว่าเดิม(มั๊ง)ครับผมมม
    ขอบคุณที่รออ่านนะครับรักคนอ่านทุกคนเลยยยยย

    แล้วจะมาลงตอนต่อไปโดยเร็วครับผมมม

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×