ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    • ฟอนต์ THSarabunNew
    • ฟอนต์ Sarabun
    • ฟอนต์ Mali
    • ฟอนต์ Trirong
    • ฟอนต์ Maitree
    • ฟอนต์ Taviraj
    • ฟอนต์ Kodchasan
    • ฟอนต์ ChakraPetch
Battle Royal!!! เลือดล้างมิตรภาพ

ลำดับตอนที่ #4 : ร่างที่ไร้วิญญาณของผองเพื่อน!!!

  • อัปเดตล่าสุด 6 พ.ค. 48


ห้อง 751 ชั้น 5 อาคาร 7

สองสาวโหดถูกใส่กุญแจมือติดกันโดยมีขาโต๊ะ 2 ตัวอยู่ตรงกลาง ถึงแม้พวกเธอจะลุกหนีได้ แต่พวกเธอก็คงวิ่งไปได้ไม่เร็วเพราะมือทั้งสองต้องยกเกาอี้ไปด้วย และอาจถูกใครบางคนฆ่าอยู่ดี



ไม่มีใครพูดอะไรกัน ทุกนั่งเงียบเศร้าเสียใจเป็นอย่างมากจากการจากไปของเพื่อน โดยไม่สนเสียงปืนที่ดังอยู่ข้างนอกคงเพราะมันเบามั้ง



\"ทำไม ทำไมไม่เป็นกู\" ขิมสาวมั่นตอนนี้นำตากำลังไหลรินไม่หยุด



ทันใดนั้นใครบางคนก็ยืนอยู่ที่หน้าห้อง 751 ที่พวกสาวๆอยู่ เพื่อนจิ๊บที่ตั้งใจว่าจะฆ่าทุกคนให้หมดนั้นเอง ในมือของเขาถือปืนยิงลูกระเบิดเอ็ม 203 แบบที่เรียน รด.  



ก่อนที่จิ๊บมันจะทันได้ทำอะไร จ๊อยซ์ก็โยนระเบิดแสงขึ้นเหนือหัวแต่ไม่ได้ดึงสะลัก แล้วตีด้วยไม้เบสบอลเหมือนว่านี้เป็นวันสอบตีลูกในวิชาซอฟท์บอล ปุ๊ก!! ลูกลอยอย่างรวดเร็วไปโดนหน้าเพื่อนจิ๊บที่ยืนเต๊ะท่าแบบอาร์โนใน ดิเทอมิเนเตอร์ 3 จนหงายเก๋ง ก่อนที่พวกสาวๆจะเริ่มสาดกระสุนใส่เจ้าจิ๊บ เพื่อนจิ๊บชะแวบหลบด้วยใบหน้าที่แตกเข้าหลังผนังได้ทัน



“หนีเร็ว” ขวัญสั่งเพื่อนก่อนที่พวกสาวๆ จะวิ่งแบบไม่ห่วงภาพลักษณ์ตัวเองออกจากห้องไป



จิ๊บที่ตามองไม่ค่อยจะรู้เรื่องแล้ว ยิงปืนไล่หลังพวกนั้นไป ลูกกระสุนแทบไม่ถูกใครเลย (ไอ้โง่) อ้าวถูกครับชมพู่ถูกยิงที่ต้นขาขวา จนทำให้เธอวิ่งตามเพื่อนๆที่วิ่งลงไปข้างล่างไม่ทัน จิ๊บไปรอช้าเดินมาจ่อยิงชมพู่ที่พยายามจะลากขาของตัวเองขึ้นข้างบน เพื่อตามพลอยกับขวัญที่แยกกันวิ่งไปคนละทางกับ ขิม จอยซ์ ปิและหนกที่วิ่งลงชั้นล่างไป แต่ไม่ทันแล้ว



ชมพู่พยายามเอือมมือไปหยิบปืนของพรานนกที่ตนหยิบมาแล้วตกอยู่ข้างหน้าขึ้นมาสู้ แต่สายเกินไป \"ขอกูพูดบ้างได้ไหมเอ\"ชมพู่พูดประโยคสุดท้าย ก่อนที่จิ๊บกระหน่ำยิงไม่ยั้ง จนร่างของเธอนั้นพรุนไปหมด ก่อนจะคว้าเอาไรเฟิลเก็บเสียงมาเป็นของตน



จิ๊บหันกลับ และเดินอย่างช้าๆด้วยใบหน้าที่แตกช้ำ เข้าไปในห้องที่พราวและดาวถูกขังกุญแจมือไว้



“อย่าฆ่าเรานะจิ๊บ เรามีกัน 3 คนเรารอดกันไปได้หมดนะจิ๊บ” พราวเสนอความเป็นหุ้นส่วนชีวิตกับปีศาจ



“ใช่จิ๊บยังไงเราก็เป็นเพื่อนกันนะ”  “ไม่...กูจะรอดไปคนเดียว”



“จิ๊บเราไหว้นะ ให้เราทำอะไรก็ได้นะจิ๊บ” พราวยกมือที่ถูกมัดด้วยกุญแจมือไหว้เพื่อนจิ๊บ วิญญาณยมทูตได้เข้าสิงร่างเพื่อนผมคนนี้แล้ว มันไม่สนใจคำวิงวอนของ 2 สาว ก่อนจะปลิดชีพพวกเขาด้วยอาวุธปีศาจของมันอย่างไม่ยั้งมือ (แมร่งโคตรโหด)

เลขที่ 33 เพื่อนดาว

เลขที่ 39 เพื่อนพราว

เลขที่ 41 เพื่อนชมพู่

เหลือ 42 คน




ห้องเขียนแบบ

\"เห้ย...ไรวะเนี้ย\" เบิ้มโวยวายเมื่อเท้าของตนเต็มไปด้วยสมอบก



\"กูเอาไว้กันพวกผู้บุกรุก\"



\"กูละเชื่อพวกเลย\" \"ไอ้อ๋อยกับไอ้นูนละ\" สมถามขึ้นทันทีเมื่อไม่เห็นสองเพื่อน



\"ตายแล้ว...\" เพื่อนนพทำหน้าเศร้าๆ \"ฮะ...ไอ้นูน ไอ้อ๋อย\" แจ้เริ่มพล่ำไม่เป็นภาษาคน



แต่แล้วก็มีเสียงปืนดังขึ้นมาขัดจังหวะเสียก่อน \"เฮ้ยเสียงปืน ออกไปดูกัน\" นพตะโกนอย่างตกใจก่อนวิ่งนำเพื่อนๆออกไป



บริเวรหน้าตึก 7

ตรงบริเวรหน้าตึก 7 4 สาวผู้โชคร้ายวิ่งหนีซาตานจิ๊บลงมาข้างล่างแต่ก็ไม่วายหนีเสือปะจระเข้ เมื่อกลุ่มเพื่อนเบิ้ม 5 คนออกมาจากตึกอุตสาหกรรมพอดี “เฮ้ยนั้น” เพื่อนนพเห็นคน 4 คนวิ่งลงมาโดยไม่สนว่าเป็นใครก็สาดกระสุนใส่



\"สม ช่วยเราด้วย\" หนกตะโกนลั่น แต่นพกับเบิ้มยังคงสาดกระสุนมาทางพวกเธออยู่ กระสุนหลายนัดถูกเพื่อนขิมจนเธอล้มลง 3 สาวเห็นท่าไม่ดีก็วิ่งหนีไป แต่หนกดันวิ่งย้อนไปเข้าด้านหลังคนเดียว ทิ้งยัยขิมให้โดนสังหารโหด 555+



\"พวกมึงทำอะไรกัน หนก...\" สมรู้สึกแปลกใจมากที่สองคนนั้นเปลี่ยนไปเหมือนถูกปีศาจร้ายสิงร่าง เขาพยายามจะวิ่งตามหนกไปแต่ ถูกไอ้เบิ้มเอาเบเรสต้าจ่อหน้าไว้ \"อย่าเชียวนะมึง\"



\"ไอ้นพนั้นเพื่อนมึงนะเว้ย\" แจ้ตะโกนร้องพยายามจะวิ่งเข้าไปห้ามแต่ไอ้หวีรั้งตัวเอาไว้



ไอ้นพทำเหมือนไม่ได้ยินเดินเข้ามาจ่อปืนลงที่กลางหน้าผากขิม “ไอ้นพ อย่า!!!” แจ้ตะโกนร้องแต่ทำอะไรไม่ได้



ขิมคว้าปืนคาบศิลาแบบสุริโยทัยที่เหน็บอยู่ที่เอวขึ้นมา “ขอกูกิน เต้าหูฟรุ๊ตสลัดก่อนได้ไหม!!!” โอ้ ขิมแม้จะตายก็ขอให้ได้กิน“กินลูกปืนพรุ๊ตสลัดก่อนละกัน”เพื่อนนพจ่อยิงกลางกระบาล ปัง เพียงนัดเดียว เลือดและไขสมองก็สาดกระเดนเต็มพื้นและเต็มหน้าของเพื่อนพที่ยืนยิ้มแบบคนโรคจิต เพื่อนขิมนอนจมกองเลือดที่ไหลแผ่กระจายเป็นวงกว้าง

เลขที่ 40 เพื่อนขิม

เหลือ  38 คน




“ไอ้นพ มึงยิงเพื่อนมึงได้ยังไง มึงทำได้ยัง ฮือ ฮือ” แจ้พูดทั้งน้ำตา “มึงจะร้องทำ...อะไร ไปอีสองคนนั้นหนีไปโน้นแล้ว” เพื่อนเบิ้มปลอมประโลมใจเพื่อนแจ้ “กูไม่ไป”  “กูก็ไม่ไป” สมและหวีประสานเสียงพูดพร้อมกัน “งั้นพวกมึงจะไปไหนก็ไปเลยไป” เพื่อนเบิ้มตะคอกเหมือนตอนที่มันร้องเพลงของวงอีโบล่าในวันที่โรงเรียนมีคอนเสิร์ตยังไงหยั่งงั้ย



“ไป...ไอ้นพ กูเกลียดพวกขี้ขลาด” สมที่ยืนอยู่ข้างหลังทนไม่ได้กระโดดรัดคอเพื่อนก่อนทั้งสองจะตะลุมบอลกัน



\"มึงยิงหนกทำ...อะไร\" แต่ไฉนเลยหมัดจะสู้อะไรกับอาวุธสงครามได้ เพื่อนเบิ้มผลักตัวเพื่อนสมที่นอนแน่นิ่งให้ออกไปให้พ้นตน



“ไอ้สม...ไอ้...เบิ้มมึงทำได้ไง” หวีวิ่งเข้าไปจะเอาเรื่องแต่ ปืนที่เพื่อนเบิ้มจ่อมาที่หน้าเพื่อนหวี ทำให้เขาต้องชะงักไป



“เอาอาวุธของพวกมึงออกมาให้กู” เบิ้มสั่งด้วยน้ำเสียงทุ้มๆและเย็นชาต่อเพื่อนทั้งสอง “มึงไม่ต้อง” เพื่อนแจ้ชะงัก เพราะอาวุธของมันคือพู่กันเบอร์ร้อยกับชุดสีน้ำอย่างดี “อย่าให้กูเจอพวกมึงอีกที...ไปไอ้นพ” นพดูไม่อยากจะไปตามองไปที่เพื่อนรักทั้งสองที่ยืนน้ำตาซึม “มาเร็วๆ” เบิ้มตะคอก ก่อนที่ทั้งสองจะวิ่งหายไปทางโรงอาหาร ตามจอยซ์กับปิไป



“เราแบกศพไอ้สมขึ้นไปไว้ข้างเหอะ ฮือๆ” ทั้งสองไม่คิดจะหนีหรือสู้หรือจะไปไหนทั้งนั้น ก็แบกร่างเพื่อนรักขึ้นไปนอนกอดบนห้องเขียนแบบ



เพื่อนเบิ้มและเพื่อนนพ วิ่งตามล่า 2 สาวไปทางห้องน้ำแต่ไม่พบ ทันใดนั้นทนายก็กระโดดลังกาหน้าจากบนหลังคาห้องน้ำลงมาอยู่ที่หน้าทั้งสอง



\"มึงคิดว่ามึงเป็นเจไดเหรอไอ้ทนาย\"



\"จะลองดูก็ได้\" ทนายทำหน้าเท่ๆแบบในรูปถ่ายตอนม .2



สองมือโหดไม่รอช้าระดมยิงไม่ยั้ง แต่เหมือนในสตาร์วอร์ทนายใช้ดาบปัดกระสุน ให้กระเดนออกไปไม่ให้ต้องตัวของตน และกระโดดไปมาเหมือนอาจรย์โยดา ก่อนจะฟัน ฉับ เข้าที่กลางลำตัวของเพื่อนนพ นพก้มมองร่างของตนที่ขาดเป็นสองท่อนก่อนที่ร่างจะหล่นลงไปกองกับพื้น เลือดกระเดนไปเต็มหน้าเต็มตัวเพื่อนเบิ้มที่ยืนตะลึงงันอยู่ด้านหลัง ก่อนที่มันจะสับสุดชีวิตหนีไป (ให้แมร่ง!!!รอดไปได้ไง ตายแน่กู)

เลขที่ 13 เพื่อนนพ

เลขที่ 19 เพื่อนสม

เหลือ 36 คน




ห้องพยาบาล

ย้อนกับมาที่ผม (คงอยากจะให้ผมตายแล้วละสิ) ผมพาเพื่อนษาที่ถูกดาบเลเซอร์ฟันที่แขนซ้ายต่ำกว่าหัวไหลนิดหน่อย แผลไม่ลึกแต่กว้างยาวลงมาประมาณ 1 คืบมาแอบอยู่ในห้องพยาบาล (สาบานได้ถ้าอ.ห้องพยาบาลยังอยู่ในนี้ ณ.เวลานี้ละก็ ผมยอมให้ใครก็ได้ฆ่าเลย) ผมพันแผลให้มันและเราก็นอนหลับกันแต่ไม่ได้หลับสนิท หูผมยังคงฟังเสียงฝีเท้าคนอยู่ตลอด



จนกระทั่งผมได้ยินเสียง ตูม ดังขึ้น มันดังมาจากในห้องสมุด แก๊งณัฐินีฆ่ากันเอง แต่ผมไม่รู้ว่าด้วยเรื่องอะไร อาจเป็นเพราะพวกเขาระแวงกันเองก็ได้  ไอ้ษายังคงหลับอยู่มันคงเพลียเพราะพิษบาดแผล  



อ้าวมี 3 คนวิ่งออกมาผมไม่รู้ว่าใคร ผมมองไม่เห็นคนที่อยู่ในห้องว่าตายหรือเปล่าเพราะมันมืดมาก “ไอ้ษาเดี๋ยวกูมา” ผมกระซิบที่ข้างหูมัน ก่อนจะแอบย่องเข้าไปในห้องสมุดเบาๆ เบาสุดที่จะเบาได้



ห้องสมุดเละไปหมดเหมือนถูกระเบิดลงไม่ปราณ ผมสะดุ้งเฮือก สาธิดานอนตายเลือดกองเต็มตัวแต่ตายังคงเบิกกว้างด้วยความกลัวสุดขีด ปากอ้ากว้างมีสบู่ที่ยังไม่ได้ใช้อยู่ข้างใน(เขียนทุ-เรศชิบเลยกู) ผมเอามือลูบตาเธอให้หลับลง(เอาสบู่ออกจากปากด้วย) ก่อนจะมองผ่านหลังเธอไปพบวชิ กับประวีนานอนตายทับกันอยู่ ผมไม่เจออาวุธอะไรเลย สงสัยพวกนั้นคงเอาไปหมด แต่โชคยังดีที่ผมหันไปเห็นเครื่องช็อตไฟฟ้าคาอยู่ที่มือวชิราพร ผมไม่รู้ว่าคนพวกนี้ได้อาวุธอะไรกันแน่แต่มันต้องดีกว่าของผมแน่ ผมฉวยเครื่องช็อตไฟฟ้าก่อนจะรีบใส่เกียร์หมาวิ่งออกมา



แต่ดันออกมาชนเข้ากับเพื่อนหนกที่เลือดเต็มตัวอย่างจัง ผมเอามืออุดปากเธอไว้เพื่อไม่ให้เธอกริ๊ด แล้วทำปากจุ๊ๆ แต่เธอดันกัดมือผมซะได้ ผมกั้นใจไม่ร้อง แต่พยายามดึงมือออกจากปากเธอ “จะกัดทำหอกอะไรวะ” “แล้วมึงเอามือปิดปากกูทำไมละ” เธอตอบมาหยั่งงั้น มันก็สรุปได้ว่าผมผิดเอง เวรไหมละ



“คนอื่นอะ” ผมทำเสียงกระซิบแบบเบาที่สุดแล้ว เธอส่ายหน้า ผมไม่กล้าถามต่อ เพราะสีหน้าเธอบ่งบอกว่าเธอได้เสียเพื่อนไป ก่อนผมจะลากตัวเธอเข้าไปในห้องพยาบาล เพื่อนษาเห็นคนมาก็ขยับตัวทันที



“กูเอง…กูมีอาวุธเจ๋งที่สุดเลยมาฝาก” “ทะลึ่งและมึง” หนกส่งเสียงอันแสบแก้วหูออกมา



“เอกูหิวน้ำวะ...” เพื่อนษาไม่ได้ฟังที่ผมพูดแถมยังบอกความต้องการของตัวเองอีก “มึงไม่ลุกขึ้นไปเปิดกินเองวะ”



“ไม่มีน้ำ และน้ำก็ไม่ไหลด้วย” “มึงจะให้กูออกไปหาน้ำให้มึงอะนะ” ผมชี้มาที่ตัวเอง



“เราก็หิวเอ” เสริมกันดีเป็นปี่เป็นขลุ่ย “ก็ได้ ที่หน้าอาคาร 3 มีแท้งน้ำเดี๋ยวกูไปเอาให้” ผมพูดก่อนยื่น ที่ช็อตไฟฟ้าให้เธอ “เอาไว้ป้องกันตัว ตอนไอ้ษาเกิดมีอารมณ์ขึ้นมา” ผมพูดตลกให้เธอคลายหน้าเครียดของเธอลง



“กูมีอารมณ์แน่ ถ้ามึงยังไม่ไป” ผมกลัวว่าเธอจะมีอารมณ์โหดขึ้นมา ก็เลยคว้ากระบอกน้ำจากในตู้เย็นแล้ววิ่งออกมา พลางหมอบ พลางลุกเหมือนกำลังเรียนรักษาดินแดนอยู่

เลขที่ 36 เพื่อนประวีนา

เลขที่ 44 เพื่อนวชิราพร

เลขที่ 46 เพื่อนสาธิดา

เหลือ 39 คน




หน้าอาคาร 3 บริเวณแท้งน้ำ

ผมกำลังกรอกน้ำใส่กระบอกอยู่ ก็มีเงาตะคุ่มๆวิ่งออกมาจากโรงอาหารทางประตูร้านขายน้ำ “อะไรวะกู” ผมรีบขยับเข้าไปแอบด้านหลังของแท้งน้ำซึ่งเป็นมุมอับ ผมเห็นเพื่อนเบิ้มวิ่งถือปืนของหน่อยสวาทและสะพายเป้ที่ข้างในคงจะมีอาวุธอยู่เต็มผ่านไป “ค่อยยังชั่ว” ผมหายใจโล่งอกเมื่อเห็นมันวิ่งผ่านไป แล้วผมรู้สึกว่าใครบางคนอยู่ด้านหลังผม บนระเบียงชั้น 1 ของอาคาร 3 ซึ่งเป็นที่เดียวที่จะเห็นผมจากข้างหลังแท้งน้ำได้



“ไอ้เอ!!!กูนึกว่ามึงตายไปแล้วซะอีก” เพื่อนท็อปอีกแล้ว ก่อนที่เพื่อนโต้จะโผล่หัวขึ้นมา “ฮาฮาฮา” เราหัวเราะเบาๆใส่กัน ก่อนที่ผมจะกระโดดขึ้นไปกอดพวกมัน



“กูหนีพวกมันแทบตาย ยังไม่พอไปเจอแก็งนัทนีอีก เกือบไม่รอด” (กูจะให้พวกมึงตายวันอื่น เดี๋ยวไม่มีคนตาย) “ไอ้...ษาละ อย่าบอกนะว่ามันตายไปแล้ว กูจะดีใจมากเลย”



“ยัง มันโดนทนายฟัน มึงเชื่อไหมแมร่งได้ดาบเจได” ผมพูดสิ่งที่ไม่น่าเชื่อว่าจะมีมาก่อนกับพวกมันอย่างตื่นเต้น “ตอนนี้อยู่ห้องพยาบาลกับกนก...กูว่ารีบไปเหอะเดี๋ยวเช้าแล้วจะยุ่ง” ก่อนที่เราจะแอบวิ่งผ่านไปทางด้านหน้าอาคาร 1 ไปยังห้องพยาบาล



แต่เราก็ต้องชะงักเมื่อเจอแก็งปืนซิ่งอาวุธเต็มมือ “วิ่งๆๆๆ”เราสับไฟแลบกลับไปยังทางเดิมที่มา โดยมีลูกกระสุนไล่หลังมา แต่พวกนั้นก็ไล่ตามมา แน่นอนผู้ชายย่อมเร็วกว่าเป็นธรรมดา เพื่อนโต้ที่ตัวหนักกว่าผม 2 เท่ากลับวิ่งนำหน้าผมซะอย่างงั้น เราวิ่งอ้อมตึก 3 ไปทางด้านหลังที่เป็นตึก 6



“ขึ้นไปข้างบน!!!”  เพื่อนโต้สั่งผมกับท็อปด้วยสีหน้าเหมือนเรากำลังวิ่งหนีความตายอยู่ เราไม่รู้ว่าพวกนั้นวิ่งตามเรามาทันหรือเปล่า เราวิ่งขึ้นไป วิ่งขึ้นไปจนถึงชั้น 4 ก่อนจะหยุดที่หน้าห้องน้ำชายเพราะความเหนื่อย



“ขึ้นไปแอบดาดฟ้ากัน เฮ้อ เฮ้อ” เพื่อนท็อปเสนอความคิดในขณะที่หอบไปด้วย “เออดี จะได้ไม่มีใครหาเจอ” โต้เห็นชอบ แต่ผมค้าน “มันมีทางขึ้นทางเดียวถ้าพวกนั้นขึ้นไป มีทางเดียวที่เราจะหนีรอดคือ กระโดดลงมา” “แล้วมึงจะเอายังไง...เรื่องมากวะ” เพื่อนท็อปเริ่มไม่พอใจ “แอบแมร่งชั้นนี้แหละ...ห้องไหนซักห้องรอเช้าค่อยไป” เราเดินไปตามระเบียงที่มืดจนมองอะไรเลย



“ไอ้สาดโต้เหยียบตีนกู” ท็อปโวยก่อนที่โต้จะเอามือแตะไปที่หลังเพื่อนท็อปเบาๆ ท็อปสะดุ้งโหย่ง “ไอ้...เอย เดี๋ยวกูก็ถีบให้”  “กูกลัวผีมึงเดินรอกูหน่อย”



“กูว่าเข้าไปนอนห้องนั้นดีกว่า” ผมพูดพรางชี้นิ้วไปที่ห้อง 645 “ระวังผีนะมึง” ผมไม่ยักรู้ว่าโลกนี้ยังมีอะไรน่ากลัวกว่าตัวมันอีก แล้วเราก็หลับไปเพราะเหนื่อยล้าการการวิ่งโอลิมปิกมาทั้งคืน



6.00 น. ทั่วโรงเรียน

“ประกาศๆจากผู้ดูแลเกมส์B.R. เราจะขอประกาศรายชื่อผู้เสียชีวิตเรียงตามลำดับเวลาการเสียชีวิต



เลขที่ 35 เพื่อนโม เลขที่ 48 เพื่อนเสา เลขที่ 43 เพื่อนแป้ง เลขที่ 17 เพื่อนอ๋อย เลขที่ 9 เพื่อนต่อ เลขที่ 15 เพื่อนนูน เลขที่ 33 เพื่อนดาว เลขที่ 39 เพื่อนพราว เลขที่ 41 เพื่อนชมพู่ เลขที่ 36 เพื่อนประวีนา เลขที่ 44 เพื่อนวชิราพร เลขที่ 46 เพื่อนสาธิดา เลขที่ 40 เพื่อนขิม

เลขที่ 19 เพื่อนสม เลขที่ 13 เพื่อนนพ

เหลือผู้รอดชีวิตจาก 6ชั่วโมงแรก 36 คน




ฆ่ากันต่อไปอย่าหยุด... ต่อไปเป็นการประกาศพื่นที่อันตรายทุกคนมีเวลา 5 นาทีให้ออกจากพื่นที่นั้นก่อนที่ปลอกคอของท่านจะเริ่มทำงาน เขตแรก อาคาร 3 ใครที่อยู่บนตึกจงรีบหนีโดยเร็ว จบการประกาศ เลือดยังไม่พบนักเรียน ฆ่าให้มากกว่านี้ ฆ่าๆๆ”



อาคาร 2 ชั้น 2 ห้องหมวดสังคม

“ตื่นๆๆ” เสียงเพื่อนฉัตรกำลังปลุกเพื่อนๆที่นอนไม่รู้เรื่อง “อะไรวะ” เดชงัวเงียตื่นขึ้นมา



“ตึกนี้เป็นพื้นที่อันตรายแล้ว” “ฮะ” ทุกคนพูดเหมือนกันอย่างพร้อมเพรียง



“เวงเอ้ย เก็บของเร็ว”  ไชยาสบถ แล้วเสียงปอกคอก็เริ่มดัง “ไป...เร็วๆ”  ทั้ง 4 วิ่งไปที่ทางเชื่อมโทลเวย์



“ไอ้เดชหายไปไหน” ฉัตรหันซ้ายหันขวา ก็เห็นเพื่อนเดชกำลังวิ่งสู้ฟัดออกมาจากห้องเพราะมัวเก็บของอยู่



“เร็วสิโว้ย กระโดดมา”  เดชโยนกระเป๋าทิ้ง แล้วก็วิ่งๆๆๆก่อนจะกระโดดในจังหวะสุดท้าย  ตูม ปลอกคอของเขาระเบิดซะก่อน ฉัตรที่ยืนยื่นมือรอรับอยู่ ตอนนี้เนื้อตัวเต็มไปด้วยน้ำสีแดงเข้มเต็มตัว หัวของเพื่อนเดชตกอยู่ที่ขาของเขา ในขณะที่ตัวอยู่ห่างออกไป 2 เมตร ทุกคนยืนตะลึง ความตายกำลังทำให้หดหู่ใจกัดกินพวกเขาแล้ว



“ไอ้เดชชชช” เพื่อนฉัตรจอมวางมาดหล่อ ตอนนี้กลับน้ำตาไหลออกมาเหมือนดังห่าฝน ก่อนที่เพื่อนกอบจะฉุดตัวเพื่อนรักให้วิ่งต่อไป...



เลขที่ 11 เพื่อนเดช

เหลือ 35 คน




ห้อง 645 อาคาร 6

ผมตื่นขึ้นจากความฝันเพราะเสียงระเบิดที่เกิดขึ้นนั้นเอง ทุกคนยังคงนอนหลับอยู่ ไม่มีใครได้ยินเสียง ผมเดินไปเข้าห้องน้ำ ซักพักก็ได้ยินเสียงโวยวายมาระเบียง ผมรีบออกไปดูก็เห็นแก็งนัทนีกำลังเดินมาทางผม(แมร่งโครตมานะเลย)



พวกนั้นที่นอนอยู่ต้องถูกมันเห็นแน่ ผมไม่รอช้า คว้าที่ตักขยะแบบในปกอัลบั้มเลื่อมทองของพี่ป้าง ขว้างไปแค่กะให้เสียงดังเท่านั้น แต่มันดันลอยไปโดนหัวยัยนัทนี ที่เดินนำหน้าเพื่อนดัง โปก!! (อะไรวะเนี้ยกู)



“ฆ่าไอ้นั้น” ยัยพวกนั้นคงมองไม่เห็นผม อีกแล้วครับ ผมบัดนี้ได้กลายมาเป็นเฉินหลงเมืองไทย วิ่งสู้ฟัดลงไปชั้น 2 อย่างด่วน (น่าจะเปลี่ยนเรื่องนี้เป็นฆ่าแหลก วิ่งมหาประลัยจะดีกว่ามั้ย) พวกนั้นวิ่งตามผมมาโดยไม่ได้สังเกตเพื่อนผมที่นอนอยู่ในห้องเลย อาจจะคิดว่าผมขี้ขลาด ผมมือเปล่าไปสู้กับอาวุธสงคราม 3 กระบอก ไม่ตายก็เทวดาแล้ว แล้วชายสองคนก็โผ่ออกมาจากห้องหมวดฝรั่งเศส ตูม ผมวิ่งชน ตูม!!! แบบในกีฬาอเมริกันฟุตบอล



“โชคดีนะเว้ย” ผมหันไปยิ้มให้เพื่อนหนอนกับชาตริต แย้มรูตูด ที่ลงไปนอนเอ๋ออยู่กับพื้น



แล้วแก็งสตรีโหด 2 ก็วิ่งมาเจอสองสหายที่กำลังลุกขึ้น (ตามแนวเทคนิคแล้วต้องวิ่งทับพวกนั้นแบบในการ์ตูน) ไม่ใช่ครับทั้งสามระดมยิงไม่ยั้ง โชคยังดีของพวกนั้นที่นรกยังไม่อยากได้มันไปทะลวงรูตูด มันหลบเข้าไปในห้องหมวดได้ทัน



แล้วยิงต่อสู้กับกองทัพฝ่ายข้าศึกที่รุกล้ำเข้ามาในเขตที่ฉี่ไว้ อย่างไม่ลดละ ลูกดอกอาบยาพิษลูกหนึ่งโดนเข้าที่ขาของเชิญขวัญและที่กลางกระบาลอีกดอก อีกดอกโดนแขนซ้ายของนัทนี สองสาวเห็นท่าจะไม่สามารถยึดที่มั่นแห่งนี้ได้ก็ล่าถอยไปทิ้งเพื่อนรักให้นอนตายอยู่ตรงนั้น



2 เกย์ยังโหดไม่หยุด ชาคริตใช้เครื่องฉีดไฟเผาร่างเชิญขวัญจนดำเป็นตอตะโก (โหดชิบเป้ง) แล้วมองหาผม แต่ผมวิ่งกลับขึ้นชั้น 4 ไปแล้ว

เลขที่ 29 เพื่อนเชิญขวัญ

เหลือ 34 คน






บนชั้น 2 ของอาคาร 1

3 สหายฉัตร กอบ เดช วิ่งมาเจอทนายที่เดินลากดาบมาอย่างช้าๆ “ยิงมันๆๆ” 3 เกลอไม่รอช้าระดมยิงทั้งปืนทั้งธนู แน่ละทนายใช้ดาบปัดได้ทุกลูก ทนายเดินเข้ามาใกล้เรื่อยๆ  “หนีเร็วไอ้ฉัตร” กอบไม่รอคำตอบ วิ่งตามไชยาที่วิ่งนำไปติดๆ เพื่อนฉัตรยังคงยิงต่อไป  แล้วอยู่ๆฉัตรก็ลงไปนั่งคุกเข่ารอความตาย ในขณะที่ทนายง้างดาบจะฟัน



“เราขอโทษทนาย ขอโทษในทุกๆเรื่อง” เมื่อได้ยินเช่นนั้นทนายค่อยๆลดดาบลงก่อนจะลงไปนั่งคุกเข่าข้างหน้าฉัตร “เราต่างหากที่ต้องขอโทษ ลุกขึ้นเถอะ” บัดนี้ทิฐิของทั้งสองที่มีให้แก่กันได้หายไปหมดแล้ว เมื่อทั้งสองกำลังจะลุกขึ้น ปัง!!!



“มึงไอ้ทนาย มึงฆ่าเพื่อนกูอย่าอยู่เลยมึง” เบิ้มที่แค้นฝังหุ่นวิ่งขึ้นมาเจอพอดี “หนีไปฉัตร” ทนายพูดอย่างตะกุกตะกัก “ไม่เราจะช่วยกัน” “หนีไป” ทนายตะคอก ฉัตรผะตัวถอยออกมาก่อนคว้าปืนคาวบอยของตนแล้ววิ่งหนีเข้าผ่านห้องวัดผลไป



ทนายคว้าดาบแล้วพยุงตัวเองขึ้น ก่อนจะหันหน้าหันไปหาเพื่อนเบิ้มด้วยแววตาปีศาจสงคราม เบิ้มยิงไม่ยั้งจนกระสุนนัดสุดท้ายหมดลง ทนายวิ่งเข้าชาร์ตก่อนเสียบดาบเข้าไปที่อกจนทะลุไปด้านหลัง เพื่อนเบิ้มล้มตัวลงนอนเป็นครั้งสุดท้าย



แล้วทนายก็หันหลังพยุงร่างที่ถูกยิงเดินจากไป เบิ้มใช้พลังความแค้นเฮือกสุดท้ายหยิบเบเรทต้าที่แนบอยู่ที่เอวออกมา ปัง!!! ปัง!!! แก๊กๆๆ กระสุนลูกแรกเจาะเข้าไปที่ชายโครง อีกลูกเจาะเข้าที่หัว ส่งให้ทนายไปปรโลก ก่อนที่มือที่ถือปืนอยู่ของมันจะตกลง ร่างเล็กๆค่อยร่วงหล่นลงเหมือนใบไม้ที่แห้งกรอบ สายลมยามเช้าม้วนเป็นเกียว พัดผ่านร่างของทั้งสองที่ไม่เคยรู้ว่านี้คือความสงบที่แท้จริง...



เลขที่ 8 เพื่อนทนาย

เลขที่ 12 เพื่อนเบิ้ม

เหลือ 32 คน








ติดตามเรื่องนี้
เก็บเข้าคอลเล็กชัน

ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

loading
กำลังโหลด...

อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

loading
กำลังโหลด...

ความคิดเห็น

กำลังโหลด...

ความคิดเห็น

กำลังโหลด...
×
แทรกรูปจากแกลเลอรี่ - Dek-D.com
L o a d i n g . . .
x
เรียงตาม:
ใหม่ล่าสุด
ใหม่ล่าสุด
เก่าที่สุด
ที่กำหนดไว้
*การลบรูปจาก Gallery จะส่งผลให้ภาพที่เคยถูกนำไปใช้ถูกลบไปด้วย

< Back
แทรกรูปโดย URL
กรุณาใส่ URL ที่ขึ้นต้นด้วย
http:// หรือ https://
กำลังโหลด...
ไม่สามารถโหลดรูปภาพนี้ได้
*เมื่อแทรกรูปเป็นการยืนยันว่ารูปที่ใช้เป็นของตัวเอง หรือได้รับอนุญาตจากเจ้าของ และลงเครดิตเจ้าของรูปแล้วเท่านั้น
< Back
สร้างโฟลเดอร์ใหม่
< Back
ครอปรูปภาพ
Picture
px
px
ครอปรูปภาพ
Picture