ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    'Knight Defenders' อัศวินแห่งการปกป้อง ปรับปรุง

    ลำดับตอนที่ #1 : คำนำ

    • อัปเดตล่าสุด 4 เม.ย. 55


                                    

                                            
    คำนำก่อนเริ่มเรื่อง

     

                    ตูม!!!!!!!! เสียงขวดยาระเบิดในสนามรบของเหล่าอัศวิน และพ่อมด

              “ แย่แล้ว ศัตรูบุกมาแล้วววว!!! ” เสียงตะโกนจากพลทหารที่วิ่งหน้าตื่นเข้ามา แจ้งบอกกับหัวหน้าทัพ ท่ามกลางที่ลูกธนูสายฟ้ากับขวดยาระเบิดและลูกพลังเวทย์มนต์นับร้อยที่ลอยตกลงสู่พื้นสนามรบ

             “ท่าน กองทหารทัพของเราเสียไปมากกว่าครึ้งแล้ว เกรงว่าการรบครั้งนี้เราจะพ่ายผู้เป็นทหารตะโกนเอ่ยถามหัวหน้ากองทัพ ที่ใช้โล่เหล็กพิเศษปัดหอก เวทย์มนต์ที่ลอยเข้ามา

                  เพล๋ง!!!!!

            “ว่าไงนะ!!!! ”ชายผู้ถูกเรียกว่าหัวหน้า หัวหน้าตรึงหน้าเครียดเมื่อได้ยินคำพูดจากปากทหาร

            “เอาไงดีครับท่านพลทหารพูดด้วยท่าทางอาการเหนื่อยล้า

            ชายผู้ถูกเรียกมาหัวหน้าทำหน้าจริงจัง

                 เจ้าจงไปบอกเรื่องสงครามครั้งนี้กับพระราชาเขาเอ่ยและจับไปที่ไหล่ผลทหารผู้นั้น

            “แต่ท่าน!!! จะให้ข้าละทิ้งสงครามงั้นรึ …….”

            “ไม่มีข้อแม้อะไรทั้งสิ้น นี่คือคำสั่ง รีบไปซะชายผู้ถูกเรียกว่าหัวหน้าออกคำสั่งเด็ดขาด ก่อนที่จะหันหลังให้กับทหารผู้นั้นหึ ข้าอยากจะไปกับเจ้านะ แต่มีทหารตายที่เพราะคำสั่งของข้า แล้วข้าจะละทิ้งทหารพวกนั้นได้อย่างไรกัน

     

                   ทหารผู้นั้นฟังแม่ทัพพูดประโยคสุดท้าย ทหารผู้นั้นจะรีบวิ่งขึ้นควบม้าทั้งน้ำตาและเดินทางไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว

                     วาระสุดท้ายของข้าแล้วสินะ แม่ทัพผู้นั้นพูดในลำคอพร้อมสวมหมวกเหล็กลงและแสยะยิ้มมั่นใจที่มุมปากก่อนจะพุ่งเข้าหาศัตรูนับ10ตนอย่างไม่เกรงกลัวสิ่งใด

              “ ย้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!!!!!! ”

     

                  ณ ปราสาทอารันเทียร์

             “ อะไรนะ กองกำลังพลทหารนักรบปราชณ์พ่ายงั้นหรอ!!!! ”  ชายผู้สวมชุดเกราะสีเงินผ้าคลุมสีน้ำเงินแถบขาวประปนไปด้วยขนหมี สวมมงกุฏสีทอง ตรงกลางมงกุฏอัญมณีสีมรกตมีตัวอักษรสลักข้างใน  ขมวดคิ้วทำหน้าตรึงหน้าเคลียด ทำท่าจริงจังเมื่อได้ยินคำกล่าวของพลทหาร ก่อนจะถอดหายใจเฮือกและค่อยๆเดินไปบนเก้าอี้บัลลังก์ของตน

             “ใช่ครับท่านและตอนนี้พวกมันกำลังบุกมาที่ปราสาทเราแล้วครับท่าน   

              “ชิ   องค์กษัตริย์บ่นกับตัวเองเบาๆก่อนจะก้มหน้าลง และชี้นิ้วสั่งพลทหารผู้นั้น

                    เจ้าจงไปบอก แม่ทัพใหญ่ดีเรวเฟอร์ว่า เริ่มปฎิบัติการแผนถล่มอานาจักร ได้……คงถึงเวลาแล้วสินะ

     

    .............................................................................................................

     

                     ลงลึกเข้าไปใต้ดินของเมือง มีห้องโถงขนาดใหญ่และกว้างปรากฏอยู่ บริเวณโดยรอบสลักไปด้วยตราวงแหวนเวทย์ และภาษาเวทย์มนต์ ไว้เต็มห้องไม่ปรากฏบันได สุดปลายห้องมีรูเหลี่ยมๆไว้ใส่อะไรบางอย่าง  ตรงกลางห้องมีพื้นวงกลมนูนออกมาปรากฏเด็กหญิงตัวน้อยๆนอนอมนิ้วมืออย่างมีความสุข

                   องค์กษัตริย์จะหยิบมงกุฏของตนมาถือไว้ที่มือพร้อมกับเอ่ยคำร่ายอะไรบางอย่างก่อนที่จะดึงผลึกสีเขียวมรกตออกมาจากมงกุฏ และเขาก็เดินไปสุดปลายห้องพร้อมกับถือผลึกมรกตนั้น เสียมมันตรงช่องวางที่เป็นรูว่างๆ  

                    ทันทีที่เสียมผนึกแก้วก็เริ่มเปล่งแสง ทำให้ตัวอักษรในผนังห้องเปล่งแสงตามกันและเคลื่อนที่ไปเรื่อยๆ เมื่อผนังห้องเคลื่อนที่เร็วขึ้น ทำให้เกิดลมหมุนไปทั่วห้องและเริ่มดูดพลังบางอย่างจากตัวเด็กน้อยเข้าผนังไป ตามความเร็วที่หมุน

                    ไม่ถึง5นาทีผนังห้องก็เริ่มหยุดหมุน แต่ยังไม่ทันที่จะหยุดหมุนสนิทผนังห้องก็เริ่มหมุนอีกครั้งแต่ครั้งนี้หมุนทวนไปทิศตรงข้าม จนบรรดาตัวอักษรที่อยู่ในผนังเริ่มล่องลอยออกมาจากผนัง และพุ่งเข้าสู่ผลึกแก้ว

                      องค์กษัตริย์พร่ำบ่นกับตัวเองและดึงหยิบผลึกแก้วนั้นออกจากช่อง เขาเดินไปหาเด็กหญิงคนนั้นพร้อมกับส่งยิ้มให้และลูบหัวเด็กหญิงคนนั้นด้วยความเอ็นดู

                      เขากำผลึกแก้วแน่น พร้อมกับบ่นพึมพำแบบไม่ออกเสียง ทันทีที่ที่เขาหยุดพึมพำ ปรากฏเชือกคล้องผลึกแก้วนั้น และคล้องมันให้เด็กน้อย

                   “ลูกต้องมีชีวิตรอดนะ เจ้าหญิงเลเฟอน่าของพ่อเขายิ้มใหกับเด็กหญิงตัวน้อยคนนั้นอีกที

                    ‘ วูบ!!!! ’

      เสียงวาปปรากฏกายของชายวัยกลางคนสวมชุดเกราะครบครัน

                    “ ท่านครับ….”

                 “อืม ข้ารู้แล้ว ข้าจะรีบไปเดี๋ยวนี้แหละองค์กษัตรีย์พูดตัด ก่อนที่ปุโรหิตจะรายงาน  

                    “ครับท่าน

                       สิ้นเสียงตอบรับ ร่างเขาหายไปอย่างไร้ล่องลอย

     

     

                        ซีสสสสสสสสสสสส!!!!!!!!

                 “ตาแก่งี่เงา เข้ามาในประตูเร็ว จะปิดแล้วเสียงชายหนุ่มอายุราวๆประมาณ18กว่าๆสวมเกราะสีขาวเทาพร้อมกับผ้าคลุมสีแดง ตะโกนเรียก องค์กษัตริย์ที่ยื่นคู่กับทหารนับสิบคนล้อมประตูแสง

                    “ใครกันแน่ที่แก่? ข้ายังหนุ่มอยู่เฟ้ย!!!” องค์กษัตริย์พูดถากถ้างอย่างสนิทสนมกับชายหนุ่มผู้นั้น

                    “เลิกพูดเล่นได้แล้วรีบเข้ามาซะ ตาแก่ ถ้าแกไม่มาแล้วใครจะเป็นคนปลดผนึกฉัน หา!!!”

                  “ ไปก่อนเลย เดี๋ยวตามไปองค์กษัตริย์พูดพร้อมกลับหลบ เคียวสีดำทมิฬจากละอองปีศาลและใช้ดาบเสียมเข้าที่ท้องเงาปีศาล

                         ชายหนุ่มผู้นั้นยางก้าวเข้าประตูแลหันมามองกษัตริย์และทันใดนั้นประตูก็เริ่มปิดลง ชายหนุ่มเบิกตากว้างเมื่อเห็นเช่นนั้น

                          รูประตูแสงเริ่มเล็กลงเรื่อยๆ ชายหนุ่มตะโกนเรียกตาแก่ที่หันแผ่นหลังให้กับเขา และเมื่อประตูเริ่มเล็กลงจนไม่สามารถผ่านได้ ชายหนุ่มได้ยินเสียงจากกษัตริย์ที่เขาเรียกว่าตาแก่ ว่า ฝากลูกสาวข้าด้วยนะ

                  “ตาแก่….!!!!!”

     ...............................................................................................................................

         

               เด็กหญิงตัวน้อยอายุประมาณ8ขวบกว่าๆ ผมสีม่วงตาสีเขียวเปล่งประกาย ตื่นขึ้นมาจากเตียงไม้สลัก แสงอาทิตย์อัศดงลอดผ่านหน้าต่าง พลางเอามือยี้ตาและมองไปรอบๆห้อง ด้วยความประหลาดใจ

                     อ้าว! ตื่นแล้วหรอจ้ะเสียงจากหญิงวัยกลางคน เดินเข้ามาพร้อมกับข้าวต้มร้อนๆที่อยู่ในถากกับข้าว

                    ที่นี่ที่ไหน ?”

     

             By ขบวนการปัญญาอ่อนแมน

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×