คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : ข่าวลือที่ไม่เป็นจริง
ข่าวลือที่ไม่เป็นจริง
แสงเดดอ่อนๆในยามเช้าส่องสะท้อนม่านตาของเด็กหนุ่มบรรยากาศในเมืองกรุง เขตปริมณฑล ไม่ต่างจากเมืองหลวงในประเทศเท่าไหร่นัก เอกรินเดินข้างฟุตบาตรพร้อมกับทนเสียงรถประจำทางบีบแตรไล่รถต่างๆนาๆ มันปรากฏเป็นภาพความวุ่ยวายในชีวิตประจำวันของเอกรินจนกลายเป็นปกติ เป็นเรื่องที่ชินตาสำหรับ เด็กในเมืองกรุงหรือเด็กหนุ่มเอกริน
“ เฮออออ เมื่อไหร่ รัฐบาลมันจะแก้ปัญหา หาวววว!!! รถติดได้นะ ” เอกรินหาวออกมา และมองไปรอบๆถนน ก่อนจะทำหน้าเซงๆให้กับรถวิ่งผ่านไปมาอย่างเบื่อหน่าย
“ นั้นไง คนนั้นไง ” เสียงกระซิบเบาๆบางอย่างซึมแทรกผ่านเข้าหูของเอกรินอย่างเบาบาง เมือเท้าของเขาแตะสัมผัสที่รั่วประตูโรงเรียน ก่อนที่เขาจะหันซ้ายหันขวาหาต้นตอของเสียง
“ ? ”
เอกรินตัดประเด็นเสียงปริศนาเหล่านั้น และค่อยๆเดินเอ้อระเหยลอยชายไปที่สิงห์สถิตใต้ต้นไม้ใหญ่เหมือนเคย ระหว่างทางที่เขาเดินทางไปเอกรินสังเกตเห็นสิ่งผิดปกติ สายตาผู้คนที่เดินผ่านมายังเอกริน มองเอกรินแปลกๆ ราวกับว่าสายตาที่มองมาเป็นสายตาที่มองดูหมิ่นและเหยียดหยาม ซึ้งเขาเองรู้ดีที่สุด และเสียงซุบซิบเป็นคำด่าทอเบาๆที่ดังขึ้นเมื่อเอกรินเดินผ่าน ราวกับเอ่ยขึ้นมาเพื่อตั้งใจจะด่าทอเอกริน
“ น่ารังเกียจชะมัด ”
“ รีบไปเถอะ ฉันกลัว ”
“ คนนั้นใช่ไหม ที่เคยบอกเป็น อันธพาลมาก่อนน่ะ ”
“ พวกสวะสังคมเอ้ย !!!! ”
เอกรินกวาดสายตามองผู้คนข้างๆตัวเขา ที่กำลังซุบซิบนินทาเกี่ยวกับตัวเขา เอกรินยังคงไม่เข้าใจว่าทำไม แต่เสียงเหล่านั้นเอกรินเกียจมันที่สุด ข่าวลือที่ไม่ได้เป็นจริง เป็นแค่ความคิดมโนไปเอง และมันคือสิ่งที่พรากทุกอย่างไปจากเอกริน มือกำหมัดแน่น สายตาลดระดับลงบ่งบอกถึงความไม่สบอารมณ์ ดุดันและเงียบขรึม บังเกิดขึ้นทันที ที่เขาหันหน้าไปจ้องหน้าผู้ชายคนที่สบ่ถด่าเอกรินเบาๆ
“ เหอะ ใครกันแน่วะ ที่สวะ ” ตะตอกด่าเหล่าเด็กผู้ชายที่ซุบซิบนินทาเอกริน ด้วยน้ำเสียงที่แข้งและขรึม สายตาที่ดุดันจับจ้องมองไม่ละสายตา ขู่ด้วยสีหน้าและรังสีอำมหิต การสะบัดหน้าหนีหรือหันไปทางอื่นเป็นทางออกทีดีสำหรับพวกเขา เสียงนินทาเงียบไปครู่หนึ่งตามมาด้วยการหลบสายตาและเดินหนีของเหล่านักเรียนแถวๆนั้น
“ เชอะ !!!! น่าลำคาญชะมัด ”
“ มันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้นวะเนีย ” เอกรินสบ่ถบอย่างไม่สบอารมณ์ ก่อนจะเห็นใบปลิว ที่ล่องลอยผ่านมา เขาคว้ามือหยิบ แผ่นใบกระดาษนั้นเอามาอ่าน
“ หนุ่มหน้าม่อตามรังควาน ดาวโรงเรียน จนต้องหยุดเรียน ” ภาพที่ปรากฏในภาพ เป็นภาพตอนที่เขากำลังจะส่งคืนจดหมายให้รินญดา เอกรินขย้ำกระดาษใบปลิวและโยนมันทิ้ง
ตึก! ตึก! ตึก! เสียงเดินช้าๆอย่างใจเย็น ของเด็กหนุ่มเอกริน หูที่สวมหูฟัง มือลวงกระเป๋า และรอยสะแยะยิ้มที่มุมปาก ในหัวของเขาคิดอะไรบางอย่างมุ่งหน้า ไปยังห้องเรียน ห้องเดิมที่เขาเคยไปเยี่ยมเยี่ยนเมื่อ 1 สัปดาห์ก่อน
ครืดดดดดดดดด !!!!! เสียงเลื่อนประตูดังขึ้น
ท่ามกลางสายตานับ40คนจ้องมองอาคันตุกะที่หน้าประตู ก่อนที่อาคันตุกะผู้นั้นจะถอดหูฟังออก และยัดใส่มันลงในกระเปากางเกง เขากวาดสายตามองรอบๆ หัวเราะเยาะออกมาเบาๆในลำคอ
“ เฮ้ย ! พวกแกน่ะ รู้ไหมว่าพวกแกมันน่าลำคาญ จะทำอะไรหัดใช้สมองที่มีอยู่น้อยนิดของพวกแกคิดหน่อยนะ ” เอกรินตะคอกเสียงดังให้เหล่านักเรียนในห้องของรินญดาต้องเงียบฟังกันไปตามๆกัน ก่อนที่จะมีชายหนุ่มคนในห้องเดินเข้ามาหาตรงหน้าเอกริน
“ เฮ้ย แกบ่นบ้าอะไรวะ ไอ้สวะสังคม อยู่ๆก็มาด่า พวกกูไปทำอะไรให้แกวะ หรือคิดว่าตัวเองเก๋ารึไงวะ โธ่ ก็แค่พวกทำตัวกรานชาวบ้านไปทั่....... อุบ!!!!! ”
แค่เพียงแค่เสี้ยววินาทีที่เด็กหนุ่มมองตาเอกริน ก็รู้สึกที่ความน่าหวาดกลัวพุ่งเข้ามาในจิตใจ เด็กหนุ่มคนนั้นล้มลงไปกับพื้น และรีบคลานถอยหนีห่างออกมาอย่างรวดเร็วพร้อมกับใบหน้าที่ขาวซีด
“ จะบอกอะไรให้นะ ที่พวกแกเห็นน่ะ ผมไม่ได้มาสารภาพรัก ก็แค่เอาของที่ตกมาคืน ช่วยหยุดมโนสร้างข่าวลือโคมลอย ที่ไม่เป็นจริงสักที มันน่าลำคาญ และถ้าหากยังไม่หยุดอีกละก็ ข่าวลือ เมื่อ ปีที่แล้วมันคือเรื่องจริง ถ้าไม่อยากเป็นอย่างในข่าวโปรดทำตามที่บอกด้วย ” เสียงที่เรียบ ดุดัน และจริงจัง ทำให้คนในห้องนั้นต้องกลืนน้ำลายกันตามๆกัน ใบหน้าของแต่ละคนบ่งบอกถึงความเคร่งเคลียดและความเกรงกลัวในตัวเอกริน และไม่กล้าพูดอะไรต่อจากนี้
ครืดดดด!!!!
เอกรินเปิดประตูเดินออกจากห้องเขาก็พบกับเปรวที่ยืนอยู่ข้างประตูพร้อมกับสมุดเล่มโปรดของเขา
“ เฮออ ฉันว่าแล้วว่านายต้องใช้วิธีแก้ปัญหาได้ห่วยแตกเหมือนเดิม เล่นไปขู่แบบนั้น ” เปรวพูดกับเอกริน และปิดหนังลือ ก่อนจะถอดหายใจเหือกใหญ่ๆ
“ แบบนี้มันเร็วกว่า มันน่าเบื่อที่จะต้องมานั้งแก้ตัว ” เอกรินหันหน้าไปพูดกับเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของเขา ด้วยสายตาที่เบื่อหน่าย
“ เล่นไปขู่แบบนั้น คนจะเกียจนายมากขึ้นอีกนา ” เปรว
“ ชินละ ก็แค่ต้องการให้เสียงนินทามันหมดๆไปก็เท่านั้น ” เอกรินพูดพร้อมกับเดินออกจากบริเวณนั้น
“ เอาให้มันจริงเถอะ นายแค่ต้องการที่จะปกป้องชื่อเสียงของผู้หญิงคนสินะ ” เปรวบ่นให้กับเอกรินที่กำลังเดินผ่านหน้าเขาไป
“..............” ไม่มีเสียงตอบรับจากเอกรินที่กำลังเดินมุ่งหน้า เดินจากไป จากไปซื้อขนมที่โปรดปรานของเขาตามประจำดั่งเช่นทุกๆวัน
“ ไอ้บ้าเอ้ย โตขนาดนั้นแล้วยังจะกินสเน๊กแจ็ดอีก หึ เอาเถอะ ยอมแลกชื่อเสียงของตัวเองเพื่อปกป้องชื่อเสียงของคนอื่นเนียนะ มันแลดูไม่ฉลาดเอาซะเลย ” เปรวบ่นๆลอยๆคนเดียวกับการแก้ปัญหาโง่ๆของเอกรินอยู่หน้าประตูหลังพลางเกาหัวแก๊กๆและส่ายหัวไปมา
by Bekin Poring
ความคิดเห็น