ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เมื่อเพลงบรรเลงเสียง

    ลำดับตอนที่ #4 : ข่าวลือที่ไม่เป็นจริง

    • อัปเดตล่าสุด 7 พ.ย. 57


    ข่าวลือที่ไม่เป็นจริง

                    แสงเดดอ่อนๆในยามเช้าส่องสะท้อนม่านตาของเด็กหนุ่มบรรยากาศในเมืองกรุง เขตปริมณฑล ไม่ต่างจากเมืองหลวงในประเทศเท่าไหร่นัก เอกรินเดินข้างฟุตบาตรพร้อมกับทนเสียงรถประจำทางบีบแตรไล่รถต่างๆนาๆ  มันปรากฏเป็นภาพความวุ่ยวายในชีวิตประจำวันของเอกรินจนกลายเป็นปกติ เป็นเรื่องที่ชินตาสำหรับ เด็กในเมืองกรุงหรือเด็กหนุ่มเอกริน

                    เฮออออ เมื่อไหร่ รัฐบาลมันจะแก้ปัญหา หาวววว!!! รถติดได้นะ   เอกรินหาวออกมา และมองไปรอบๆถนน ก่อนจะทำหน้าเซงๆให้กับรถวิ่งผ่านไปมาอย่างเบื่อหน่าย

    นั้นไง  คนนั้นไง  ” เสียงกระซิบเบาๆบางอย่างซึมแทรกผ่านเข้าหูของเอกรินอย่างเบาบาง เมือเท้าของเขาแตะสัมผัสที่รั่วประตูโรงเรียน  ก่อนที่เขาจะหันซ้ายหันขวาหาต้นตอของเสียง

    “ ? ”   

    เอกรินตัดประเด็นเสียงปริศนาเหล่านั้น และค่อยๆเดินเอ้อระเหยลอยชายไปที่สิงห์สถิตใต้ต้นไม้ใหญ่เหมือนเคย ระหว่างทางที่เขาเดินทางไปเอกรินสังเกตเห็นสิ่งผิดปกติ สายตาผู้คนที่เดินผ่านมายังเอกริน มองเอกรินแปลกๆ ราวกับว่าสายตาที่มองมาเป็นสายตาที่มองดูหมิ่นและเหยียดหยาม ซึ้งเขาเองรู้ดีที่สุด และเสียงซุบซิบเป็นคำด่าทอเบาๆที่ดังขึ้นเมื่อเอกรินเดินผ่าน  ราวกับเอ่ยขึ้นมาเพื่อตั้งใจจะด่าทอเอกริน

    น่ารังเกียจชะมัด

                    “  รีบไปเถอะ  ฉันกลัว

                    คนนั้นใช่ไหม ที่เคยบอกเป็น อันธพาลมาก่อนน่ะ

                    “  พวกสวะสังคมเอ้ย !!!! ”

                    เอกรินกวาดสายตามองผู้คนข้างๆตัวเขา ที่กำลังซุบซิบนินทาเกี่ยวกับตัวเขา เอกรินยังคงไม่เข้าใจว่าทำไม แต่เสียงเหล่านั้นเอกรินเกียจมันที่สุด ข่าวลือที่ไม่ได้เป็นจริง เป็นแค่ความคิดมโนไปเอง และมันคือสิ่งที่พรากทุกอย่างไปจากเอกริน  มือกำหมัดแน่น สายตาลดระดับลงบ่งบอกถึงความไม่สบอารมณ์  ดุดันและเงียบขรึม บังเกิดขึ้นทันที ที่เขาหันหน้าไปจ้องหน้าผู้ชายคนที่สบ่ถด่าเอกรินเบาๆ

                    เหอะ ใครกันแน่วะ ที่สวะ ”  ตะตอกด่าเหล่าเด็กผู้ชายที่ซุบซิบนินทาเอกริน ด้วยน้ำเสียงที่แข้งและขรึม  สายตาที่ดุดันจับจ้องมองไม่ละสายตา ขู่ด้วยสีหน้าและรังสีอำมหิต การสะบัดหน้าหนีหรือหันไปทางอื่นเป็นทางออกทีดีสำหรับพวกเขา  เสียงนินทาเงียบไปครู่หนึ่งตามมาด้วยการหลบสายตาและเดินหนีของเหล่านักเรียนแถวๆนั้น

                    เชอะ !!!!  น่าลำคาญชะมัด ”   

                    มันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้นวะเนีย เอกรินสบ่ถบอย่างไม่สบอารมณ์ ก่อนจะเห็นใบปลิว ที่ล่องลอยผ่านมา เขาคว้ามือหยิบ แผ่นใบกระดาษนั้นเอามาอ่าน

                    หนุ่มหน้าม่อตามรังควาน ดาวโรงเรียน จนต้องหยุดเรียน  ภาพที่ปรากฏในภาพ เป็นภาพตอนที่เขากำลังจะส่งคืนจดหมายให้รินญดา  เอกรินขย้ำกระดาษใบปลิวและโยนมันทิ้ง

                    ตึก! ตึก! ตึก! เสียงเดินช้าๆอย่างใจเย็น ของเด็กหนุ่มเอกริน หูที่สวมหูฟัง มือลวงกระเป๋า และรอยสะแยะยิ้มที่มุมปาก ในหัวของเขาคิดอะไรบางอย่างมุ่งหน้า ไปยังห้องเรียน ห้องเดิมที่เขาเคยไปเยี่ยมเยี่ยนเมื่อ 1 สัปดาห์ก่อน

                    ครืดดดดดดดดด !!!!! เสียงเลื่อนประตูดังขึ้น

                    ท่ามกลางสายตานับ40คนจ้องมองอาคันตุกะที่หน้าประตู ก่อนที่อาคันตุกะผู้นั้นจะถอดหูฟังออก และยัดใส่มันลงในกระเปากางเกง เขากวาดสายตามองรอบๆ หัวเราะเยาะออกมาเบาๆในลำคอ

                    เฮ้ย ! พวกแกน่ะ รู้ไหมว่าพวกแกมันน่าลำคาญ จะทำอะไรหัดใช้สมองที่มีอยู่น้อยนิดของพวกแกคิดหน่อยนะ  เอกรินตะคอกเสียงดังให้เหล่านักเรียนในห้องของรินญดาต้องเงียบฟังกันไปตามๆกัน ก่อนที่จะมีชายหนุ่มคนในห้องเดินเข้ามาหาตรงหน้าเอกริน

                    เฮ้ย แกบ่นบ้าอะไรวะ ไอ้สวะสังคม อยู่ๆก็มาด่า พวกกูไปทำอะไรให้แกวะ  หรือคิดว่าตัวเองเก๋ารึไงวะ โธ่ ก็แค่พวกทำตัวกรานชาวบ้านไปทั่....... อุบ!!!!!  ”

                     แค่เพียงแค่เสี้ยววินาทีที่เด็กหนุ่มมองตาเอกริน ก็รู้สึกที่ความน่าหวาดกลัวพุ่งเข้ามาในจิตใจ เด็กหนุ่มคนนั้นล้มลงไปกับพื้น และรีบคลานถอยหนีห่างออกมาอย่างรวดเร็วพร้อมกับใบหน้าที่ขาวซีด

                     จะบอกอะไรให้นะ ที่พวกแกเห็นน่ะ ผมไม่ได้มาสารภาพรัก  ก็แค่เอาของที่ตกมาคืน ช่วยหยุดมโนสร้างข่าวลือโคมลอย ที่ไม่เป็นจริงสักที  มันน่าลำคาญ และถ้าหากยังไม่หยุดอีกละก็ ข่าวลือ เมื่อ ปีที่แล้วมันคือเรื่องจริง ถ้าไม่อยากเป็นอย่างในข่าวโปรดทำตามที่บอกด้วย   ” เสียงที่เรียบ ดุดัน และจริงจัง ทำให้คนในห้องนั้นต้องกลืนน้ำลายกันตามๆกัน ใบหน้าของแต่ละคนบ่งบอกถึงความเคร่งเคลียดและความเกรงกลัวในตัวเอกริน และไม่กล้าพูดอะไรต่อจากนี้

                    ครืดดดด!!!!

                    เอกรินเปิดประตูเดินออกจากห้องเขาก็พบกับเปรวที่ยืนอยู่ข้างประตูพร้อมกับสมุดเล่มโปรดของเขา

                    เฮออ ฉันว่าแล้วว่านายต้องใช้วิธีแก้ปัญหาได้ห่วยแตกเหมือนเดิม เล่นไปขู่แบบนั้น เปรวพูดกับเอกริน และปิดหนังลือ ก่อนจะถอดหายใจเหือกใหญ่ๆ

                    “ แบบนี้มันเร็วกว่า  มันน่าเบื่อที่จะต้องมานั้งแก้ตัว เอกรินหันหน้าไปพูดกับเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของเขา  ด้วยสายตาที่เบื่อหน่าย

                    เล่นไปขู่แบบนั้น คนจะเกียจนายมากขึ้นอีกนา เปรว

                    “ ชินละ ก็แค่ต้องการให้เสียงนินทามันหมดๆไปก็เท่านั้น เอกรินพูดพร้อมกับเดินออกจากบริเวณนั้น

                    เอาให้มันจริงเถอะ นายแค่ต้องการที่จะปกป้องชื่อเสียงของผู้หญิงคนสินะ เปรวบ่นให้กับเอกรินที่กำลังเดินผ่านหน้าเขาไป

                     .............. ไม่มีเสียงตอบรับจากเอกรินที่กำลังเดินมุ่งหน้า เดินจากไป จากไปซื้อขนมที่โปรดปรานของเขาตามประจำดั่งเช่นทุกๆวัน

                     ไอ้บ้าเอ้ย โตขนาดนั้นแล้วยังจะกินสเน๊กแจ็ดอีก  หึ เอาเถอะ  ยอมแลกชื่อเสียงของตัวเองเพื่อปกป้องชื่อเสียงของคนอื่นเนียนะ มันแลดูไม่ฉลาดเอาซะเลย   เปรวบ่นๆลอยๆคนเดียวกับการแก้ปัญหาโง่ๆของเอกรินอยู่หน้าประตูหลังพลางเกาหัวแก๊กๆและส่ายหัวไปมา
     

    by Bekin Poring

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×