ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Short Fiction [Super Junior]

    ลำดับตอนที่ #8 : Worried ห่วง [wonteuk] EP 03

    • อัปเดตล่าสุด 30 พ.ย. 54


     



    Worried  ห่วง  [wonteuk]  EP 03









                 RRRRR!! เสียงกริ่งประตูที่ดังขึ้น ทำให้เจ้าของห้องที่กำลังนั่งอยู่หันไปมองพร้อมกับเดินไปเปิดประตูหน้าห้อง

                    พี่!!”   เสียงทุ้มร้องเรียกด้วยความตกใจ  ความทรงจำของเมื่อสามวันก่อนย้อนกลับมา วันที่เขาเดินหันหลังให้คนๆ นี้   หลังจากที่เขาเดินห่างออกมาแล้วหันหลังมองกลับไปที่เดิม ร่างบอบบางของคนตรงหน้าทรุดลงกับพื้นเย็นน้ำใสดั่งอัญมณีไหลรินจากตาคู่สวยทั้งสองข้าง ใบหน้าหวานซีดเผือดร่างบางบอบบางคล้ายจะหายไปในอากาศหนาวจัด  ภาพที่เห็นมันทำให้เขาปวดแปลบไปทั้งใจ  แต่จะทำยังไงได้เขาไม่อยากแสดงความอ่อนแอให้คนตรงหน้าเห็น จะว่าอายก็ใช่  เพราะเขาเป็นคนบอกเลิกกับร่างบางเพื่อมาคบกับใครอีกคน  แต่สุดท้าย มันก็ลงเอยตรงที่เขาเป็นฝ่ายถูกทิ้ง  ภาพเมื่อวันก่อนจางหายไปเมื่อได้ยินเสียงใส ของคนที่ยืนอยู่หน้าประตู

     

                    ซีวอน.........พี่ซื้อของมาเยอะเลย เรามาทำอาหารกินกันนะ  ร่างบางยกยิ้มกว้างแล้วเดินเข้ามาในห้องซึ่งอีกฝ่าย เบี่ยงตัวออกให้ร่างบางเดินเข้ามาอย่างง่ายดาย   ร่างบางเดินเข้าไปในครัวอย่างเคยชินใช่สิเค้าเคยใช้ชีวิตอยู่นี่ตั้งหลายปี ทำไมเขาจะไม่รู้ล่ะว่าอะไรอยู่ที่ไหน  

                    พี่ครับ…”  ร่างสูงใหญ่เดินตามร่างบางเข้าไปในห้องครัว เพียงแค่เอ่ยสองคำแรกก็ถูกอีกฝ่ายพูดดักคอไว้ได้ก่อน 

                    ไม่ต้องพูดหรอก  พี่รู้ซีวอน.....ว่าเราสองคนไม่ได้เป็นอะไรกัน แต่พี่.....ก็.......อยากอยู่ใกล้ๆ นาย พี่ขอใช้เวลาที่มีอันน้อยนิดอยู่กับนายได้ไหม  แล้วพี่......จะไปตามทางของพี่  พี่สัญญา ขอเพียงแต่นายอย่าพึ่งไล่พี่ ไปเลยนะ  ร่างบางพูดพลางยกยิ้มเพื่อกลบเกลือนความเจ็บปวดไว้ได้เป็นอย่างดี   แต่กลับเป็นคำพูดที่ทำให้อีกฝ่ายหน้าชา ตอนนี้ในอกของชายหนุ่มเจ็บไปหมด ทำไมกันหัวใจของคนๆ นี้ถึงได้ชนะเขาทุกที  ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตาม  ปาร์ค จองซู เป็นคนที่มีหัวใจเข้มแข็งเหลือเกิน  

                    คือ.......ผมขอโทษ  ผมจะไม่ไล่พี่ ไม่ว่ายังไงผมก็ไม่ไล่พี่แน่ๆ  ร่างสูงพูดพลางเดินเข้ามาใกล้ มือใหญ่มือจับบางไว้ หากความเย็นเฉียบของมือเล็กของคนตรงหน้าเกือบจะดึงมือของตัวเองกลับ  ก่อนจะค่อยๆ รวบมือเย็นๆ ทั้งสองข้างไว้หลวมๆ  ผมขอโทษนะครับ  แล้วกระซิบที่ข้างหูร่างบางเบาๆ

                    ขอบใจนะ ร่างบางพูดเสียงเบา พลางวางหน้าผากมนไว้กับอกกว้าง  เพื่อซึมซับความอบอุ่นดังเช่นวันวาน 

                   

     

                    “พี่มาอยู่นี่เกือบสองอาทิตย์แล้วฮยอกแจไม่เป็นห่วงพี่แย่เหรอ รายนั้นหวงพี่อย่างกับอะไรดี  คำถามที่ทำให้ร่างบางกำลังสนใจกับรายการโทรทัศน์หันกลับมามอง

                    ไม่หรอก พี่บอกแล้ว ฮยอกแจเข้าใจแล้วก็อนุญาติแล้วด้วย  ร่างบางตอบพร้อมรอยยิ้มกว้างเพื่อให้อีกฝ่ายคลายความกังวล หากภายในใจนั้นอดเป็นห่วงน้องชายไม่ได้  ถึงแม้จะไม่ใช่พี่น้องคลานตามกันมา แต่อย่างน้อยฮยอกแจก็เป็นญาติที่เขารักมากที่สุด

                    ถ้าตอนนี้ผมไม่มีพี่ ผมคงจะเมาอยู่ที่ไหนสักแห่ง ขอบคุณนะครับที่อยู่ข้างๆ กัน  มือใหญ่เอื้อมไปจับมือเล็กแล้วดึงร่างบอบบางมากอดไว้  หากความรู้สึกบางอย่างที่เขาเคยทิ้งไปกลับค่อยๆ ตีตื้นขึ้นมาอ้อมกอดอบอุ่นครั้งที่เคยได้รับเมื่อวันวาน  กำลังทำให้ความรู้สึกบางอย่างที่เขาเคยหลงลืมมันไปค่อยๆ คืนกลับมา  

                    ไม่เป็นไร  แค่เห็นนายยิ้มพี่ก็ดีใจแล้ว 

                    ขอบคุณครับพี่วงแขนแกร่งโอบกอดร่างบางไว้หลวมๆ  พร้อมกับหัวใจที่เจ็บปวดค่อยๆ ดีขึ้นอย่างช้าๆ   เพราะความรักมากมายที่คนๆ นี้มีให้ ทำให้หัวใจที่บอบช้ำกำลังหายดีดังเดิม หรือเขาอาจไม่เคยเจ็บปวดเลยก็ได้ ก็ในเมื่อความรักของคนๆ นี้ มีให้กับเขามากมายเสียจนเขาไม่เคยรู้สึกถึงคำว่าเหงา  

     

     

     

                    RRRR…..RRRR    เสียงกริ่งที่กดรัวหน้าห้องทำให้คนที่กำลังนอนหลับสบายลืมตาขึ้นมา พร้อมกับมองร่างบางที่นอนซุกตัวอยู่ใต้ผ้าห่มผืนหนา  มือใหญ่ค่อยๆ ดึงผ้าห่มมาคลุมร่างบางให้อบอุ่นขึ้น แล้วเดินออกไปเปิดประตู

     

                    พี่ฮีชอล!”  เสียงทุ้มร้องคราง  เมื่อเห็นว่าใครมายืนอยู่หน้าห้อง ใบหน้าสวยฉ่ำไปด้วยน้ำใส  ริมฝีปากอิ่มสีกุหลาบซีดเซียวจนขาวซีด   ผมสีดำขลับสวยยุ่งเหยิงจนแทบดูไม่ได้ ดวงตาคู่กลมโตบวมแดงอย่างเห็นได้ชัด

                    ซีวอน! ฮึก!”  ร่างบางโผลเข้าหาร่างสูงใหญ่แล้วปล่อยสะอื้นไห้ออกมาเสียงดัง  

                    เกิดอะไรขึ้นฮะ  พี่ฮีชอล  ซีวอนถามฮีชอลด้วยความร้อนรน เมื่อเห็นร่างบางร้องไห้ฟูมฟาย ท่าทางที่เขาไม่เคยเห็นมันมาก่อน เพราะไม่ว่าเวลาใดคิม ฮีชอลจะต้องดูดีอยู่เสมอ         

                    พี่..ฮึก...ทะเลาะกับฮัน...ฮึก...เขาจะกลับไปอยู่ที่จีนถาวร...เขาอยากให้พี่ไปด้วยแต่พี่ไปไม่ได้!..ฮึก เราก็เลยทะเลาะกัน  

                    ใจเย็นๆ นะครับ ค่อยๆ คิด  ร่างสูงดึงร่างบางเข้ามากอดปลอบด้วยความเป็นห่วง  โดยที่ลืมไปว่าตอนนี้เขามีใครอยู่ร่วมห้องอีกคน  

     

     

                    เปลือกตาบางค่อยๆ เปิดออก แล้วหันมองรอบข้างเมื่อไม่เห็นร่างของใครอีกคนจึงเดินออกไปจากห้อง  ใบหน้าหวานร้อนผ่าวไม่รู้ตัว   หยาดน้ำใสค่อยๆ ไหลริน เมื่อเห็นภาพตรงหน้าภาพของคนสองคนกำลังตระคอง กอดกัน  ร่างบางค่อยๆ เดินออกมาจากห้องเงียบๆ  ไม่แม้จะหันมองกลับไปให้หัวใจต้องเจ็บปวดอีกครั้ง เพราะเพียงแค่นี้หัวใจเขาก็แทบจะแตกสลาย     เพราะยังไงวันนี้เขาก็ต้องไปอยู่แล้ว ไปตอนนี้เลยมันคงจะดีกว่า  

     

     

                   

                    พี่อีทึก!”  ร่างโปร่งรีบวิ่งเข้ามากอดพี่ชายที่เพิ่งลงจากแท็กซี่ด้วยความรวดเร็ว  มือเรียวจับร่างบอบบางพลิกไปมาเพื่อสำรวจร่างกาย  หากจะมีที่ผิดปกติก็คงเป็นที่ใบหน้าสวยหวานที่ขึ้นสีแดงก่ำ 

                    ได้เวลาแล้วสินะ  เสียงหวานแหบแห้งพูด ตาคู่สวยบวมแดงอย่างเห็นได้ชัด ร่างบางสูดลมหายใจเข้าปอดยาวๆ  แล้วเดินเคียงข้างน้องชายเข้าไปในตึกสีขาวขนาดใหญ่  

     

                    พร้อมนะครับ...ถ้ายังเราเลื่อนเป็นวันพรุ่งนี้ก็ได้ครับ  คุณหมอประจำตัวเอ่ยถามคนไข้ ที่เดินเข้ามาในห้องพลางมองใบหน้าหวานแค่เพียงมองไกลๆ ก็รู้ว่าเจ้าตัวเพิ่งผ่านการร้องไห้มา  

                    ไม่เป็นไรครับ ผมพร้อมทั้งกายและหัวใจ อีทึกตอบพร้อมมอบรอยยิ้มให้กับคุณหมอหนุ่ม  เขาพร้อมแล้วจริงๆ  เขาไม่มีอะไรให้ต้องเป็นห่วงอีกแล้ว  อีทึกพูดพลางเดินเข้าไปเปลี่ยนเป็นชุดคนไข้   แล้วขึ้นนอนบนเตียง  โดยมีน้องชายเดินตามไปข้างๆ  

                    ไปช็อปปิ้งให้สบายใจ เราช็อปปิ้งเสร็จพี่ก็ออกมาแล้ว มือเรียวเอื้อมหยิบบัตรเครดิตการ์ดไม่จำกัดวงเงินออกมาจากใต้หมอนส่งให้น้องชาย พร้อมกับยกยิ้มหวาน

                    ครับ รีบออกมาเร็วๆ นะครับ เราจะไปเที่ยวเชจูกัน  ฮยอกแจโน้มตัวลงมากอดพี่ชายไว้แน่นพูดเสียงสั่น ถึงแม้จะพยายามทำเสียงให้เป็นปกติแค่ไหนก็ตาม  “สัญญานะครับ 

                    จ้า พี่สัญญา  ร่างบางรับปากน้องชายมือเรียวที่ค่อนข้างจะเย็นและสั่นน้อยๆ นั้นทำให้น้องชายรู้ว่าพี่ชายกลัวการผ่าตัดครั้งนี้ขนาดไหน   ไม่ต้องกลัวนะเดี๋ยวพี่ก็ออกมาแล้ว  ทั้งๆ ที่เขาควรจะเป็นคนปลอบพี่ชาย แต่กลับเป็นคนที่กำลังจะเข้ารับการผ่าตัดเป็นฝ่ายปลอบเขาแทน

                   

                    ฝากพี่ชายผมด้วยนะครับ คุณหมอ  ฮยอกแจหันไปพูดกับแพทย์ประจำตัวของพี่ชายและแพทย์หนุ่มเจ้าของไข้คนใหม่ที่เข้ามาทำการดูแลโดยตรง กับคนไข้เคสพิเศษรายนี้ 

                    ครับผมจะทำให้เต็มที่ ผมจะพาพี่ชายคุณออกมาหาคุณ คุณหมอหนุ่มพลางยกยิ้มอ่อนโยน แล้วเดินตามนายแพทย์ใหญ่เข้าไปในห้องผ่าตัด 

     

                    ฮยอก!! พี่อีทึกล่ะ  เสียงของซองมินที่วิ่งเข้ามาหาด้วยความรวดเร็วพร้อมกับคยูฮยอนเอ่ยถามถึงคนป่วยที่วันนี้ได้กำหนดผ่าตัด

                    เข้าไปเมื่อกี้ นี้เอง ร่างโปร่งตอบพลางเช็ดน้ำตาออกจากแก้มขาวของตน  พลางคลี่ยิ้มทั้งน้ำตาร่างอวบตอนดึงเพื่อนรักมากอดแน่น

                    เดี๋ยวพี่อีทึกก็ออกมา พวกเราไปนั่งรอกันเถอะนะ  ฮยอกแจพยักหน้ารับแล้วเดินไปนั่งกับซองมินและคยูฮยอน    มือเรียวยกบัตรเครดิตที่เขาเคยอยากได้ขึ้นมามองอีกครั้งใครจะมีกระจิตกระใจไปช็อปปิ้งอยู่ล่ะ  พลางปาดน้ำใสออกจากตาของตัวเองอีกครั้ง ...........อย่าทำเหมือนพี่จะจากผมไปแบบนี้สิครับ...... 

     

     

                    RRRRR…..RRRRR   “ซีวอนโทรมา  คยูฮยอนหันมาพูดกับซองมินเสียงเบาเพื่อไม่ให้ฮยอกแจได้ยิน เพราะกลัวเพื่อนตัวขาวจะวีนแตก   ซองมินพยักหน้ารับด้วยความลำบากใจฝ่ายหนึ่งก็พี่ชายเพื่อนรักที่รู้จักกันมานับสิบปี อีกฝ่ายหนึ่งก็เพื่อนรักของแฟน เขาจึงพยายามทำตัวเป็นกลางให้มากที่สุด

     

                    ว่าไง  คยูฮยอนกดรับสายทันทีที่เดินพ้นจากซองมินและฮยอกแจ     

                    นายอยู่ไหน!!”  เสียงปลายสายเอ่ยถามด้วยความร้อนรน   

                    โรงพยาบาล มีอะไร....... ไม่ทันที่จะพูดจบด้วยซ้ำ อีกฝ่ายกลับแทรกขึ้นมาก่อน และไม่คิดจะฟังที่เขาพูดเสียด้วยซ้ำ 

                    พี่อีทึก  หายตัวไป!! นายให้ซองมินโทรถามฮยอกแจให้หน่อยว่าพี่เขากลับบ้านหรือเปล่า  น้ำเสียงร้อนรนที่ดังมาจากปลายสายทำให้คยูฮยอนเริ่มคิดหนักเขาควรจะบอกดีไหม แต่ก็ยังอยากยั่วอารมณ์เพื่อนเล็กๆ ให้รู้สึกซะบ้าง 

                    “นายจะไปหาพี่เขาทำไมล่ะ  คยูฮยอนไม่ตอบแต่กลับตั้งคำถามกลับ รอฟังคำตอบที่มันอาจทำให้เขากับซองมินช่วยไกล่เกลี่ยฮยอกแจได้เวลาที่เจอเพื่อนหน้าหล่อ      

                    ก็.......คือ.......เมื่อสองอาทิตย์ก่อน............. ซีวอนตัดใจเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้กับเพื่อนรักฟัง  โดยที่ไม่รู้เลยว่าคยูฮยอนรู้เรื่องหมดทุกอย่างแล้ว  

                    แต่มันก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่แกจะไปหาพี่อีทึกไม่ใช่เหรอ ก็พี่เขาบอกแล้วไงว่าเขาจะไปเอง  คำพูดของคยูฮยอน ทำให้ซีวอนนิ่งเงียบหากแต่ในใจกลับร้อนรนกว่าที่เคย

                    ก็......โธ่เว๊ย!!!......นี่แกรู้ใช่ไหมคยูฮยอน  ว่าพี่อีทึกอยู่ไหน!!”  ซีวอนถามเพื่อนรักเสียงเข้ม  หากแต่สะดุดใจกับการทำเป็นทองไม่รู้ร้อนของเพื่อนรัก เพราะปกติเรื่องนี้พวกเขาไม่อยากจะพูดให้เสียน้ำใจกันเอง 

                    เอ่อ.....เออ.....ฉันมีเรื่องจะบอกแก.......

                    อย่ามานอกเรื่องไอ้คยู...  ซีวอนสบถลั่นเมื่ออีกฝ่ายเริ่มตั้งแง่ 

                    จะฟังไม่ฟัง ถ้าไม่ฉันก็ไม่มีอะไรพูดกับแกแล้ว  ฝ่ายได้เปรียบกว่าเพียงยกยิ้มร้ายแล้วกรอกเสียงไปตามสาย  ซีวอนนิ่งเงียบรอฟังสิ่งที่เพื่อนรักจะพูด  "ถ้าแกเป็นห่วงพี่เขาจริงๆ ฉันจะบอกให้ก็ได้ เพราะมันอาจจะเป็นครั้งสุดท้ายที่แกจะทำอะไรเพื่อพี่อีทึกได้........เรื่องพี่อีทึกน่ะ.........ตอนนี้พี่เขากำลังอยู่...........ในห้องผ่าตัด  เสียงทางปลายสายเงียบไปนาน..... เสียจนต้องเอ่ยปากเรียกอีกฝ่าย    ซีวอน.....เฮ้....ไอ้วอน!!!”   

                    มะ....ไม่จริง ก็พี่เขาเมื่อคืน......อย่ามาตลกนะไอ้คยู!!”  ร่างสูงพูดพลางคิดถึงเหตุการณ์เมื่อคืน  ก็เมื่อคืนพี่อีทึกยังดีอยู่เลย แล้วทำไม 

                    ไม่ได้ตลก พูดเรื่องจริงเว้ย!!! แล้วฉันจะบอกอะไรให้นะ ผ่าตัดคราวนี้ 50 : 50   ถ้าแกไม่อยากเสียใจไปจนตาย รีบมาที่รพ. คังนัม เดี๋ยวนี้เลย!”   ซีวอนตัดสายไปแล้ว  เขาไม่รู้ว่ามันจะได้ยินจนจบหรือไม่ แต่เค้าหวังว่า เพื่อนของเขาจะคิดได้สักทีว่าควรจะรักใคร 

     

     

     

                    เสียงฝีเท้าที่ใกล้เข้ามา ทำให้คยูฮยอนหันไปมองพลางคลี่ยิ้ม  เมื่อเห็นร่างสูงใหญ่ของเพื่อนรักวิ่งหน้าตาตื่นเข้ามา

                    พี่อีทึกล่ะฮยอกแจ! พี่อีทึกอยู่ไหน  ซีวอนเดินเข้าไปหาร่างโปร่ง ที่นั่งเงียบไม่พูดอะไร มีเพียงสายตาโกรธเคืองที่ส่งมาให้  ใบหน้าเรียวหันหนีไปทางอื่นอย่างไม่ใส่ใจที่จะตอบ

                    พี่อีทึกยังอยู่ในห้อง.......เฮ้ย!...ใจเย็นก่อน  คยูฮยอนเดินไปดึงเพื่อนรักให้สงบสติอารมณ์  

                    ไม่!!  ทำไมต้องผ่าตัดด้วย ทำไมพี่อีทึกต้องผ่าตัด!”  ซีวอนหันถามทั้งสามคนด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด ทำไมเขาไม่รู้อะไรเลย   ทำไมกัน!!   

                    พี่อีทึกเป็นโรคหัวใจ  ได้ยินไหม!  นายคงไม่เคยรู้เลยสินะ..........ว่าพี่อีทึกเป็นโรคหัวใจมาตั้งแต่เรียนไฮสคูล  พี่อีทึกน่ะชอบเก็บความเจ็บปวดเอาไว้เพียงคนเดียวเสมอไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตาม   ฉันเคยคิดนะว่าตั้งแต่พี่  อีทึกคบกับนาย ร่างกายและหัวใจของพี่อีทึกแข็งแรงขึ้น เพราะมีนายช่วยดูแลเยียวยาหัวใจอ่อนแอดวงนั้น   แต่สุดท้ายนายก็ทิ้งพี่อีทึกไป  นายทิ้งเขาไป!!!”  อึนฮยอกตวาดลั่นด้วยความโกรธ  ใบหน้าเรียวเชิดเมินมองไปอีกทาง น้ำใสไหลรินออกจากตาเรียวอย่างหยุดไม่อยู่ ตาเรียวซึ้งเต็มไปน้ำใสที่เอ่อล้นจนพร่าเลือน    ส่วนคนที่เพิ่งได้รับรู้ข้อมูลถึงกับยืนนิ่ง ร่างทั้งร่างหนักอึ้งจนไม่สามารถขยับเขยื้อนร่างกายได้       ใบหน้าหล่อก้มลงมองพื้นอย่างหาที่สิ้นสุดไม่เจอ มือใหญ่ทั้งสองข้างกำเข้าหากันแน่  ตลอดระยะเวลาที่เขาคบกับพี่อีทึกมาเขาไม่เคยรู้เลย ไม่แม้จะเคยมีอาการให้เห็น ไม่แม้จะเคยแสดงความเจ็บป่วยให้เขาต้องเป็นกังวล   เขาไม่เคยคิดถึงมันสักนิดว่าร่างบอบบางนั้นต้องอดทนกับความเจ็บปวดมากเพียงใด  

                    ตั้งแต่พี่อีทึกเลิกกับนาย พี่อีทึกเจ็บออดๆ แอดๆ มาตลอด จนวันหนึ่งฉันพาพี่อีทึกไปตรวจร่างกาย คุณหมอบอกว่าพี่อีทึกมีอาการแย่ลง  ฉันจึงตัดสินใจพาพี่อีทึกไปรักษาตัวที่อเมริกา  แม้พี่อีทึกจะเจ็บปวดหรือทรมานแค่ไหน พี่เขาก็อยากมีชีวิตอยู่เพื่อนาย เวลาสองปีที่พี่อีทึกรักษาตัว  พี่เขาเฝ้าคิดถึงนายทุกวันแม้นายจะทิ้งเขาไป    พี่อีทึกยิ้มเสมอเวลาที่พูดถึงนาย     แต่เวลาสองปีของนายกลับมีให้กับคนอื่น  จนถึงวันนี้แม้จะมีเวลาน้อยนิด เขาก็เอาเวลาไปให้นายเวลาทั้งชีวิตของพี่อีทึกคือนาย แล้วนายล่ะเวลาของนายมีให้ใคร! ชเว ซีวอน  ฮยอกแจตวาดลั่นด้วยความโกรธ  นัยน์ตาเรียวซึ้งรื้นไปด้วยหยาดน้ำใส ซองมินเข้าไปโอบกอดเพื่อนรักเอาไว้แน่น   เขาเฝ้าดูแลพี่อีทึกมาตลอดเวลา  เขารู้ว่าพี่อีทึกรักซีวอนมากเพียงใด เขาถึงไม่เคยห้ามสักครั้งถ้าพี่อีทึกจะได้ทำเพื่อนคนที่รัก          

     

                    ชายหนุ่มทรุดตัวลงกับพื้นเย็นเฉียบอย่างอ่อนแรง  น้ำใสค่อยๆ ไหลรินออกจากสายตาคม  กระทบกับกระพื้นกระเบื้องหยดแล้วหยดเล่า  แต่ความเจ็บปวดของเขาเทียบไม่ได้กับความเจ็บปวดของร่างบางที่กำลังอยู่ในห้องผ่าตัด  ความรักของเขาที่เคยคิดว่ามันยิ่งใหญ่ แต่กลับเทียบไม่ได้กับความรักของใครอีกคน   แม้แต่ลมหายใจสุดท้ายของชีวิตอีทึกก็ยังมอบให้เขา แต่เขากลับทำร้ายคนที่รักเขายิ่งกว่าตัวเองได้ลงคอ   

     

     

                    เวลาผ่านไปเกือบ 6 ชั่วโมง หัวใจของคนที่รอร้อนรนกันไปตามๆ กัน   ต่างคนต่างเงียบอยู่ในความคิดของตัวเอง เว้นแต่คยูฮยอนกับซองมินที่คุยกันเงียบๆ และไปเตรียมเสบียงให้กับเพื่อนทั้งสองคน

                    ฮยอกแจ กินอะไรหน่อยนะ ซองมินพูดพลางยื่นแก้วนมอุ่นๆ ให้เพื่อนรัก ฮยอกแจเพียงยิ้มรับแผ่วเบาแล้วรับแก้วนมไปถือ แค่ถือไว้เท่านั้นเอง ซองมินถอนหายใจยาวพลางหันไปมองคนรัก ที่กำลังยัดเยียดแก้วกาแฟให้อีกฝ่ายซึ่งปฏิกิริยาของซีวอนไม่ต่างกับฮยอกแจเลยสักนิด เขาทั้งสองคนเพียงภาวนาให้การผ่าตัดจบลงด้วยดี   และแล้วเวลารอคอยสิ้นสุดลง เมื่อไฟหน้าห้องดับลง ตามด้วยเสียงเปิดประตูและแพทย์ผู้ทำการผ่าตัด






    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×