คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : Worried ห่วง [wonteuk] EP 03
Worried ห่วง [wonteuk] EP 03
RRRRR!! เสียงกริ่งประตูที่ดังขึ้น ทำให้เจ้าของห้องที่กำลังนั่งอยู่หันไปมองพร้อมกับเดินไปเปิดประตูหน้าห้อง
“พี่!!” เสียงทุ้มร้องเรียกด้วยความตกใจ ความทรงจำของเมื่อสามวันก่อนย้อนกลับมา วันที่เขาเดินหันหลังให้คนๆ นี้ หลังจากที่เขาเดินห่างออกมาแล้วหันหลังมองกลับไปที่เดิม ร่างบอบบางของคนตรงหน้าทรุดลงกับพื้นเย็นน้ำใสดั่งอัญมณีไหลรินจากตาคู่สวยทั้งสองข้าง ใบหน้าหวานซีดเผือดร่างบางบอบบางคล้ายจะหายไปในอากาศหนาวจัด ภาพที่เห็นมันทำให้เขาปวดแปลบไปทั้งใจ แต่จะทำยังไงได้เขาไม่อยากแสดงความอ่อนแอให้คนตรงหน้าเห็น จะว่าอายก็ใช่ เพราะเขาเป็นคนบอกเลิกกับร่างบางเพื่อมาคบกับใครอีกคน แต่สุดท้าย มันก็ลงเอยตรงที่เขาเป็นฝ่ายถูกทิ้ง ภาพเมื่อวันก่อนจางหายไปเมื่อได้ยินเสียงใส ของคนที่ยืนอยู่หน้าประตู
“ซีวอน.........พี่ซื้อของมาเยอะเลย เรามาทำอาหารกินกันนะ” ร่างบางยกยิ้มกว้างแล้วเดินเข้ามาในห้องซึ่งอีกฝ่าย เบี่ยงตัวออกให้ร่างบางเดินเข้ามาอย่างง่ายดาย ร่างบางเดินเข้าไปในครัวอย่างเคยชินใช่สิเค้าเคยใช้ชีวิตอยู่นี่ตั้งหลายปี ทำไมเขาจะไม่รู้ล่ะว่าอะไรอยู่ที่ไหน
“พี่ครับ
” ร่างสูงใหญ่เดินตามร่างบางเข้าไปในห้องครัว เพียงแค่เอ่ยสองคำแรกก็ถูกอีกฝ่ายพูดดักคอไว้ได้ก่อน
“ไม่ต้องพูดหรอก พี่รู้ซีวอน.....ว่าเราสองคนไม่ได้เป็นอะไรกัน แต่พี่.....ก็.......อยากอยู่ใกล้ๆ นาย พี่ขอใช้เวลาที่มีอันน้อยนิดอยู่กับนายได้ไหม แล้วพี่......จะไปตามทางของพี่ พี่สัญญา ขอเพียงแต่นายอย่าพึ่งไล่พี่ ไปเลยนะ” ร่างบางพูดพลางยกยิ้มเพื่อกลบเกลือนความเจ็บปวดไว้ได้เป็นอย่างดี แต่กลับเป็นคำพูดที่ทำให้อีกฝ่ายหน้าชา ตอนนี้ในอกของชายหนุ่มเจ็บไปหมด ทำไมกันหัวใจของคนๆ นี้ถึงได้ชนะเขาทุกที ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตาม ปาร์ค จองซู เป็นคนที่มีหัวใจเข้มแข็งเหลือเกิน
“คือ.......ผมขอโทษ ผมจะไม่ไล่พี่ ไม่ว่ายังไงผมก็ไม่ไล่พี่แน่ๆ” ร่างสูงพูดพลางเดินเข้ามาใกล้ มือใหญ่มือจับบางไว้ หากความเย็นเฉียบของมือเล็กของคนตรงหน้าเกือบจะดึงมือของตัวเองกลับ ก่อนจะค่อยๆ รวบมือเย็นๆ ทั้งสองข้างไว้หลวมๆ “ผมขอโทษนะครับ” แล้วกระซิบที่ข้างหูร่างบางเบาๆ
“ขอบใจนะ” ร่างบางพูดเสียงเบา พลางวางหน้าผากมนไว้กับอกกว้าง เพื่อซึมซับความอบอุ่นดังเช่นวันวาน
“พี่มาอยู่นี่เกือบสองอาทิตย์แล้วฮยอกแจไม่เป็นห่วงพี่แย่เหรอ รายนั้นหวงพี่อย่างกับอะไรดี” คำถามที่ทำให้ร่างบางกำลังสนใจกับรายการโทรทัศน์หันกลับมามอง
“ไม่หรอก พี่บอกแล้ว ฮยอกแจเข้าใจแล้วก็อนุญาติแล้วด้วย” ร่างบางตอบพร้อมรอยยิ้มกว้างเพื่อให้อีกฝ่ายคลายความกังวล หากภายในใจนั้นอดเป็นห่วงน้องชายไม่ได้ ถึงแม้จะไม่ใช่พี่น้องคลานตามกันมา แต่อย่างน้อยฮยอกแจก็เป็นญาติที่เขารักมากที่สุด
“ถ้าตอนนี้ผมไม่มีพี่ ผมคงจะเมาอยู่ที่ไหนสักแห่ง ขอบคุณนะครับที่อยู่ข้างๆ กัน” มือใหญ่เอื้อมไปจับมือเล็กแล้วดึงร่างบอบบางมากอดไว้ หากความรู้สึกบางอย่างที่เขาเคยทิ้งไปกลับค่อยๆ ตีตื้นขึ้นมาอ้อมกอดอบอุ่นครั้งที่เคยได้รับเมื่อวันวาน กำลังทำให้ความรู้สึกบางอย่างที่เขาเคยหลงลืมมันไปค่อยๆ คืนกลับมา
“ไม่เป็นไร แค่เห็นนายยิ้มพี่ก็ดีใจแล้ว”
“ขอบคุณครับพี่” วงแขนแกร่งโอบกอดร่างบางไว้หลวมๆ พร้อมกับหัวใจที่เจ็บปวดค่อยๆ ดีขึ้นอย่างช้าๆ เพราะความรักมากมายที่คนๆ นี้มีให้ ทำให้หัวใจที่บอบช้ำกำลังหายดีดังเดิม หรือเขาอาจไม่เคยเจ็บปวดเลยก็ได้ ก็ในเมื่อความรักของคนๆ นี้ มีให้กับเขามากมายเสียจนเขาไม่เคยรู้สึกถึงคำว่าเหงา
RRRR
..RRRR เสียงกริ่งที่กดรัวหน้าห้องทำให้คนที่กำลังนอนหลับสบายลืมตาขึ้นมา พร้อมกับมองร่างบางที่นอนซุกตัวอยู่ใต้ผ้าห่มผืนหนา มือใหญ่ค่อยๆ ดึงผ้าห่มมาคลุมร่างบางให้อบอุ่นขึ้น แล้วเดินออกไปเปิดประตู
“พี่ฮีชอล!” เสียงทุ้มร้องคราง เมื่อเห็นว่าใครมายืนอยู่หน้าห้อง ใบหน้าสวยฉ่ำไปด้วยน้ำใส ริมฝีปากอิ่มสีกุหลาบซีดเซียวจนขาวซีด ผมสีดำขลับสวยยุ่งเหยิงจนแทบดูไม่ได้ ดวงตาคู่กลมโตบวมแดงอย่างเห็นได้ชัด
“ซีวอน! ฮึก!” ร่างบางโผลเข้าหาร่างสูงใหญ่แล้วปล่อยสะอื้นไห้ออกมาเสียงดัง
“เกิดอะไรขึ้นฮะ พี่ฮีชอล” ซีวอนถามฮีชอลด้วยความร้อนรน เมื่อเห็นร่างบางร้องไห้ฟูมฟาย ท่าทางที่เขาไม่เคยเห็นมันมาก่อน เพราะไม่ว่าเวลาใดคิม ฮีชอลจะต้องดูดีอยู่เสมอ
“พี่..ฮึก...ทะเลาะกับฮัน...ฮึก...เขาจะกลับไปอยู่ที่จีนถาวร...เขาอยากให้พี่ไปด้วยแต่พี่ไปไม่ได้!..ฮึก เราก็เลยทะเลาะกัน”
“ใจเย็นๆ นะครับ ค่อยๆ คิด” ร่างสูงดึงร่างบางเข้ามากอดปลอบด้วยความเป็นห่วง โดยที่ลืมไปว่าตอนนี้เขามีใครอยู่ร่วมห้องอีกคน
เปลือกตาบางค่อยๆ เปิดออก แล้วหันมองรอบข้างเมื่อไม่เห็นร่างของใครอีกคนจึงเดินออกไปจากห้อง ใบหน้าหวานร้อนผ่าวไม่รู้ตัว หยาดน้ำใสค่อยๆ ไหลริน เมื่อเห็นภาพตรงหน้าภาพของคนสองคนกำลังตระคอง กอดกัน ร่างบางค่อยๆ เดินออกมาจากห้องเงียบๆ ไม่แม้จะหันมองกลับไปให้หัวใจต้องเจ็บปวดอีกครั้ง เพราะเพียงแค่นี้หัวใจเขาก็แทบจะแตกสลาย เพราะยังไงวันนี้เขาก็ต้องไปอยู่แล้ว ไปตอนนี้เลยมันคงจะดีกว่า
“พี่อีทึก!” ร่างโปร่งรีบวิ่งเข้ามากอดพี่ชายที่เพิ่งลงจากแท็กซี่ด้วยความรวดเร็ว มือเรียวจับร่างบอบบางพลิกไปมาเพื่อสำรวจร่างกาย หากจะมีที่ผิดปกติก็คงเป็นที่ใบหน้าสวยหวานที่ขึ้นสีแดงก่ำ
“ได้เวลาแล้วสินะ” เสียงหวานแหบแห้งพูด ตาคู่สวยบวมแดงอย่างเห็นได้ชัด ร่างบางสูดลมหายใจเข้าปอดยาวๆ แล้วเดินเคียงข้างน้องชายเข้าไปในตึกสีขาวขนาดใหญ่
“พร้อมนะครับ...ถ้ายังเราเลื่อนเป็นวันพรุ่งนี้ก็ได้ครับ” คุณหมอประจำตัวเอ่ยถามคนไข้ ที่เดินเข้ามาในห้องพลางมองใบหน้าหวานแค่เพียงมองไกลๆ ก็รู้ว่าเจ้าตัวเพิ่งผ่านการร้องไห้มา
“ไม่เป็นไรครับ ผมพร้อมทั้งกายและหัวใจ” อีทึกตอบพร้อมมอบรอยยิ้มให้กับคุณหมอหนุ่ม เขาพร้อมแล้วจริงๆ เขาไม่มีอะไรให้ต้องเป็นห่วงอีกแล้ว อีทึกพูดพลางเดินเข้าไปเปลี่ยนเป็นชุดคนไข้ แล้วขึ้นนอนบนเตียง โดยมีน้องชายเดินตามไปข้างๆ
“ไปช็อปปิ้งให้สบายใจ เราช็อปปิ้งเสร็จพี่ก็ออกมาแล้ว” มือเรียวเอื้อมหยิบบัตรเครดิตการ์ดไม่จำกัดวงเงินออกมาจากใต้หมอนส่งให้น้องชาย พร้อมกับยกยิ้มหวาน
“ครับ รีบออกมาเร็วๆ นะครับ เราจะไปเที่ยวเชจูกัน” ฮยอกแจโน้มตัวลงมากอดพี่ชายไว้แน่นพูดเสียงสั่น ถึงแม้จะพยายามทำเสียงให้เป็นปกติแค่ไหนก็ตาม “สัญญานะครับ”
“จ้า พี่สัญญา” ร่างบางรับปากน้องชายมือเรียวที่ค่อนข้างจะเย็นและสั่นน้อยๆ นั้นทำให้น้องชายรู้ว่าพี่ชายกลัวการผ่าตัดครั้งนี้ขนาดไหน “ไม่ต้องกลัวนะเดี๋ยวพี่ก็ออกมาแล้ว” ทั้งๆ ที่เขาควรจะเป็นคนปลอบพี่ชาย แต่กลับเป็นคนที่กำลังจะเข้ารับการผ่าตัดเป็นฝ่ายปลอบเขาแทน
“ฝากพี่ชายผมด้วยนะครับ คุณหมอ” ฮยอกแจหันไปพูดกับแพทย์ประจำตัวของพี่ชายและแพทย์หนุ่มเจ้าของไข้คนใหม่ที่เข้ามาทำการดูแลโดยตรง กับคนไข้เคสพิเศษรายนี้
“ครับผมจะทำให้เต็มที่ ผมจะพาพี่ชายคุณออกมาหาคุณ” คุณหมอหนุ่มพลางยกยิ้มอ่อนโยน แล้วเดินตามนายแพทย์ใหญ่เข้าไปในห้องผ่าตัด
“ฮยอก!! พี่อีทึกล่ะ” เสียงของซองมินที่วิ่งเข้ามาหาด้วยความรวดเร็วพร้อมกับคยูฮยอนเอ่ยถามถึงคนป่วยที่วันนี้ได้กำหนดผ่าตัด
“เข้าไปเมื่อกี้ นี้เอง” ร่างโปร่งตอบพลางเช็ดน้ำตาออกจากแก้มขาวของตน พลางคลี่ยิ้มทั้งน้ำตาร่างอวบตอนดึงเพื่อนรักมากอดแน่น
“เดี๋ยวพี่อีทึกก็ออกมา พวกเราไปนั่งรอกันเถอะนะ” ฮยอกแจพยักหน้ารับแล้วเดินไปนั่งกับซองมินและคยูฮยอน มือเรียวยกบัตรเครดิตที่เขาเคยอยากได้ขึ้นมามองอีกครั้งใครจะมีกระจิตกระใจไปช็อปปิ้งอยู่ล่ะ พลางปาดน้ำใสออกจากตาของตัวเองอีกครั้ง ...........อย่าทำเหมือนพี่จะจากผมไปแบบนี้สิครับ......
RRRRR
..RRRRR “ซีวอนโทรมา” คยูฮยอนหันมาพูดกับซองมินเสียงเบาเพื่อไม่ให้ฮยอกแจได้ยิน เพราะกลัวเพื่อนตัวขาวจะวีนแตก ซองมินพยักหน้ารับด้วยความลำบากใจฝ่ายหนึ่งก็พี่ชายเพื่อนรักที่รู้จักกันมานับสิบปี อีกฝ่ายหนึ่งก็เพื่อนรักของแฟน เขาจึงพยายามทำตัวเป็นกลางให้มากที่สุด
“ว่าไง” คยูฮยอนกดรับสายทันทีที่เดินพ้นจากซองมินและฮยอกแจ
“นายอยู่ไหน!!” เสียงปลายสายเอ่ยถามด้วยความร้อนรน
“โรงพยาบาล มีอะไร.......” ไม่ทันที่จะพูดจบด้วยซ้ำ อีกฝ่ายกลับแทรกขึ้นมาก่อน และไม่คิดจะฟังที่เขาพูดเสียด้วยซ้ำ
“พี่อีทึก หายตัวไป!! นายให้ซองมินโทรถามฮยอกแจให้หน่อยว่าพี่เขากลับบ้านหรือเปล่า” น้ำเสียงร้อนรนที่ดังมาจากปลายสายทำให้คยูฮยอนเริ่มคิดหนักเขาควรจะบอกดีไหม แต่ก็ยังอยากยั่วอารมณ์เพื่อนเล็กๆ ให้รู้สึกซะบ้าง
“นายจะไปหาพี่เขาทำไมล่ะ” คยูฮยอนไม่ตอบแต่กลับตั้งคำถามกลับ รอฟังคำตอบที่มันอาจทำให้เขากับซองมินช่วยไกล่เกลี่ยฮยอกแจได้เวลาที่เจอเพื่อนหน้าหล่อ
“ก็.......คือ.......เมื่อสองอาทิตย์ก่อน.............” ซีวอนตัดใจเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้กับเพื่อนรักฟัง โดยที่ไม่รู้เลยว่าคยูฮยอนรู้เรื่องหมดทุกอย่างแล้ว
“แต่มันก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่แกจะไปหาพี่อีทึกไม่ใช่เหรอ ก็พี่เขาบอกแล้วไงว่าเขาจะไปเอง” คำพูดของคยูฮยอน ทำให้ซีวอนนิ่งเงียบหากแต่ในใจกลับร้อนรนกว่าที่เคย
“ก็......โธ่เว๊ย!!!......นี่แกรู้ใช่ไหมคยูฮยอน ว่าพี่อีทึกอยู่ไหน!!” ซีวอนถามเพื่อนรักเสียงเข้ม หากแต่สะดุดใจกับการทำเป็นทองไม่รู้ร้อนของเพื่อนรัก เพราะปกติเรื่องนี้พวกเขาไม่อยากจะพูดให้เสียน้ำใจกันเอง
“เอ่อ.....เออ.....ฉันมีเรื่องจะบอกแก.......”
“อย่ามานอกเรื่องไอ้คยู...” ซีวอนสบถลั่นเมื่ออีกฝ่ายเริ่มตั้งแง่
“จะฟังไม่ฟัง ถ้าไม่ฉันก็ไม่มีอะไรพูดกับแกแล้ว” ฝ่ายได้เปรียบกว่าเพียงยกยิ้มร้ายแล้วกรอกเสียงไปตามสาย ซีวอนนิ่งเงียบรอฟังสิ่งที่เพื่อนรักจะพูด "ถ้าแกเป็นห่วงพี่เขาจริงๆ ฉันจะบอกให้ก็ได้ เพราะมันอาจจะเป็นครั้งสุดท้ายที่แกจะทำอะไรเพื่อพี่อีทึกได้........เรื่องพี่อีทึกน่ะ.........ตอนนี้พี่เขากำลังอยู่...........ในห้องผ่าตัด” เสียงทางปลายสายเงียบไปนาน..... เสียจนต้องเอ่ยปากเรียกอีกฝ่าย “ซีวอน.....เฮ้....ไอ้วอน!!!”
“มะ....ไม่จริง ก็พี่เขาเมื่อคืน......อย่ามาตลกนะไอ้คยู!!” ร่างสูงพูดพลางคิดถึงเหตุการณ์เมื่อคืน ก็เมื่อคืนพี่อีทึกยังดีอยู่เลย แล้วทำไม
“ไม่ได้ตลก พูดเรื่องจริงเว้ย!!! แล้วฉันจะบอกอะไรให้นะ ผ่าตัดคราวนี้ 50 : 50 ถ้าแกไม่อยากเสียใจไปจนตาย รีบมาที่รพ. คังนัม เดี๋ยวนี้เลย!” ซีวอนตัดสายไปแล้ว เขาไม่รู้ว่ามันจะได้ยินจนจบหรือไม่ แต่เค้าหวังว่า เพื่อนของเขาจะคิดได้สักทีว่าควรจะรักใคร
เสียงฝีเท้าที่ใกล้เข้ามา ทำให้คยูฮยอนหันไปมองพลางคลี่ยิ้ม เมื่อเห็นร่างสูงใหญ่ของเพื่อนรักวิ่งหน้าตาตื่นเข้ามา
“พี่อีทึกล่ะ! ฮยอกแจ! พี่อีทึกอยู่ไหน” ซีวอนเดินเข้าไปหาร่างโปร่ง ที่นั่งเงียบไม่พูดอะไร มีเพียงสายตาโกรธเคืองที่ส่งมาให้ ใบหน้าเรียวหันหนีไปทางอื่นอย่างไม่ใส่ใจที่จะตอบ
“พี่อีทึกยังอยู่ในห้อง.......เฮ้ย!...ใจเย็นก่อน” คยูฮยอนเดินไปดึงเพื่อนรักให้สงบสติอารมณ์
“ไม่!! ทำไมต้องผ่าตัดด้วย ทำไมพี่อีทึกต้องผ่าตัด!” ซีวอนหันถามทั้งสามคนด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด ทำไมเขาไม่รู้อะไรเลย ทำไมกัน!!
“พี่อีทึกเป็นโรคหัวใจ ได้ยินไหม! นายคงไม่เคยรู้เลยสินะ..........ว่าพี่อีทึกเป็นโรคหัวใจมาตั้งแต่เรียนไฮสคูล พี่อีทึกน่ะชอบเก็บความเจ็บปวดเอาไว้เพียงคนเดียวเสมอไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตาม ฉันเคยคิดนะว่าตั้งแต่พี่ อีทึกคบกับนาย ร่างกายและหัวใจของพี่อีทึกแข็งแรงขึ้น เพราะมีนายช่วยดูแลเยียวยาหัวใจอ่อนแอดวงนั้น แต่สุดท้ายนายก็ทิ้งพี่อีทึกไป นายทิ้งเขาไป!!!” อึนฮยอกตวาดลั่นด้วยความโกรธ ใบหน้าเรียวเชิดเมินมองไปอีกทาง น้ำใสไหลรินออกจากตาเรียวอย่างหยุดไม่อยู่ ตาเรียวซึ้งเต็มไปน้ำใสที่เอ่อล้นจนพร่าเลือน ส่วนคนที่เพิ่งได้รับรู้ข้อมูลถึงกับยืนนิ่ง ร่างทั้งร่างหนักอึ้งจนไม่สามารถขยับเขยื้อนร่างกายได้ ใบหน้าหล่อก้มลงมองพื้นอย่างหาที่สิ้นสุดไม่เจอ มือใหญ่ทั้งสองข้างกำเข้าหากันแน่ ตลอดระยะเวลาที่เขาคบกับพี่อีทึกมาเขาไม่เคยรู้เลย ไม่แม้จะเคยมีอาการให้เห็น ไม่แม้จะเคยแสดงความเจ็บป่วยให้เขาต้องเป็นกังวล เขาไม่เคยคิดถึงมันสักนิดว่าร่างบอบบางนั้นต้องอดทนกับความเจ็บปวดมากเพียงใด
“ตั้งแต่พี่อีทึกเลิกกับนาย พี่อีทึกเจ็บออดๆ แอดๆ มาตลอด จนวันหนึ่งฉันพาพี่อีทึกไปตรวจร่างกาย คุณหมอบอกว่าพี่อีทึกมีอาการแย่ลง ฉันจึงตัดสินใจพาพี่อีทึกไปรักษาตัวที่อเมริกา แม้พี่อีทึกจะเจ็บปวดหรือทรมานแค่ไหน พี่เขาก็อยากมีชีวิตอยู่เพื่อนาย! เวลาสองปีที่พี่อีทึกรักษาตัว พี่เขาเฝ้าคิดถึงนายทุกวันแม้นายจะทิ้งเขาไป พี่อีทึกยิ้มเสมอเวลาที่พูดถึงนาย แต่เวลาสองปีของนายกลับมีให้กับคนอื่น จนถึงวันนี้แม้จะมีเวลาน้อยนิด เขาก็เอาเวลาไปให้นาย! เวลาทั้งชีวิตของพี่อีทึกคือนาย แล้วนายล่ะเวลาของนายมีให้ใคร! ชเว ซีวอน” ฮยอกแจตวาดลั่นด้วยความโกรธ นัยน์ตาเรียวซึ้งรื้นไปด้วยหยาดน้ำใส ซองมินเข้าไปโอบกอดเพื่อนรักเอาไว้แน่น เขาเฝ้าดูแลพี่อีทึกมาตลอดเวลา เขารู้ว่าพี่อีทึกรักซีวอนมากเพียงใด เขาถึงไม่เคยห้ามสักครั้งถ้าพี่อีทึกจะได้ทำเพื่อนคนที่รัก
ชายหนุ่มทรุดตัวลงกับพื้นเย็นเฉียบอย่างอ่อนแรง น้ำใสค่อยๆ ไหลรินออกจากสายตาคม กระทบกับกระพื้นกระเบื้องหยดแล้วหยดเล่า แต่ความเจ็บปวดของเขาเทียบไม่ได้กับความเจ็บปวดของร่างบางที่กำลังอยู่ในห้องผ่าตัด ความรักของเขาที่เคยคิดว่ามันยิ่งใหญ่ แต่กลับเทียบไม่ได้กับความรักของใครอีกคน แม้แต่ลมหายใจสุดท้ายของชีวิตอีทึกก็ยังมอบให้เขา แต่เขากลับทำร้ายคนที่รักเขายิ่งกว่าตัวเองได้ลงคอ
เวลาผ่านไปเกือบ 6 ชั่วโมง หัวใจของคนที่รอร้อนรนกันไปตามๆ กัน ต่างคนต่างเงียบอยู่ในความคิดของตัวเอง เว้นแต่คยูฮยอนกับซองมินที่คุยกันเงียบๆ และไปเตรียมเสบียงให้กับเพื่อนทั้งสองคน
“ฮยอกแจ กินอะไรหน่อยนะ” ซองมินพูดพลางยื่นแก้วนมอุ่นๆ ให้เพื่อนรัก ฮยอกแจเพียงยิ้มรับแผ่วเบาแล้วรับแก้วนมไปถือ แค่ถือไว้เท่านั้นเอง ซองมินถอนหายใจยาวพลางหันไปมองคนรัก ที่กำลังยัดเยียดแก้วกาแฟให้อีกฝ่ายซึ่งปฏิกิริยาของซีวอนไม่ต่างกับฮยอกแจเลยสักนิด เขาทั้งสองคนเพียงภาวนาให้การผ่าตัดจบลงด้วยดี และแล้วเวลารอคอยสิ้นสุดลง เมื่อไฟหน้าห้องดับลง ตามด้วยเสียงเปิดประตูและแพทย์ผู้ทำการผ่าตัด
ความคิดเห็น