ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Short Fiction [Super Junior]

    ลำดับตอนที่ #7 : Worried ห่วง [wonteuk] EP 02

    • อัปเดตล่าสุด 20 พ.ย. 54


     




    Worried  ห่วง    [Wonteuk]  EP 02








                     “ทำไมฉันต้องมาเป็นเพื่อนนายเลือกของขวัญให้แฟนด้วยเนี่ยคยู  เสียงทุ้มเอ่ยถามคนที่กำลังเลือกของขวัญให้สุดสวาทขาดใจ    

                    อ้าว ฉันเห็นว่าแกมีรสนิยมเรื่องนี้  เอาน่าช่วยหน่อย แกว่าวงนี้เป็นไงวะ  คยูฮยอนตอบพร้อมลากเขาไปยืนที่ตู้กระจกที่มีเครื่องเพชรชิ้นเล็กชิ้นน้อยส่องแสงระยิบระยับละลานตา   

                    จะเส้นไหนวงไหนชิ้นไหน  แฟนแกก็ชอบหมดแหละ ไม่เคยเห็นสักครั้งที่แฟนแกจะไม่พอใจ คำตอบที่ทำให้เพื่อนรักตีหน้ามุ่ย แล้วหันไปเลือกของขวัญให้แฟนต่อ   อีกฝ่ายได้แต่เดินไปเดินมาอยู่ในร้าน พลันสายตาคมไปสะดุดกับแหวนวงหนึ่ง เป็นแหวนทองคำขาวซึ่งมีเพชรเม็ดเล็กรูปหัวใจ ที่ฝังลงในเนื้อทองคำขาว  มันเป็นแหวนรายเรียบง่าย แต่สำหรับใครบางคนนั้นกลับชอบมากๆ ช่างแตกต่างจากอีกคนอย่างสิ้นเชิง 

                   

                    “ผมว่ามันใหญ่ไปนะ  ชายหนุ่มตัวโตที่พาหวานใจมาเดินช็อปปิ้งในห้างหรู เอ่ยบอกร่างบางที่กำลังเลือกแหวนวงสวยที่มีเพชรเม็ดโต ร่างบางลองสวมมันเข้าที่นิ้วเรียวยาวเป็นลำเทียน แล้วหันมองคนติ 

                    ฉันใส่แล้วไม่สวยเหรอ ร่างบางเอ่ยถามเสียงสูง พลางหันมองคนติด้วยสายตาค้อนๆ 

                    เปล่าครับ พี่ใส่อะไรก็สวยหมดแหละ ผมแค่แนะนำ ไหนพี่บอกไม่อยากเป็นคุณนายตู้เพชรเคลื่อนที่ไงล่ะครับ แต่ไม่ว่าพี่จะใส่อะไรก็ดูสวยที่สุดสำหรับผมอยู่แล้ว กลัวว่าคนรักสุดสวยจะงอนเลยต้องรีบส่งลูกอ้อนไปให้ มือใหญ่กุมมือเล็กขาวไว้พลางเกลี่ยหลังมือนุ่มนิ่มไปมา แล้วส่งยิ้มหล่อกระชากใจสาว ไปให้เสียหนึ่งที 

                    แต่ฉันชอบผมมันนี่ ถ้านายซื้อให้ไม่ได้พี่ซื้อเองก็ได้ คนสวยว่าแกล้งตีเสียงงอน 

                    ไม่ใช่แบบนั้นครับ ถ้าพี่ชอบสิ่งไหนผมยินดีจะให้พี่ทุกอย่างเว้นแต่ดาวกับเดือนเท่านั้นแหละครับ คำตอบที่ทำให้คนสวยยกยิ้มกว้าง ก่อนจะหันไปส่งแหวนคืนให้กับพนักงานแล้วพยักหน้าตกลงซื้อแหวนวงนี้  

                    ปากหวานไปเถอะ  ถึงปากจะพูดแบบนั้นแต่วงใบหน้าสวยกลบสุดสดใส กับคำหวานที่อีกฝ่ายเอื้อนเอ่ยออกมาอย่างมีความสุข    เขารู้ถ้าเขาต้องการจริงๆ แม้แต่ดาวกับเดือนยังไงแฟนหนุ่มก็หามาให้เขาได้อย่างแน่นอน  ขอบใจนะซีวอน  

                    ไม่เป็นไรครับ  ก็พี่ฮีชอลคือคนที่ผมรัก แฟนทั้งคนเชียวนะ  รอยยิ้มแห่งความสุขที่มีให้แก่กัน ในวันวานมันยังคงอยู่ในความทรงจำ แต่วันนี้มันไม่มีอีกแล้ว

     

                    หากคิดอะไรได้ไม่นาน ร่างคุ้นตาของใครคนหนึ่งปรากฏแก่สายตา  ร่างบอบบางที่เขากำลังคิดถึงนั้นกำลังเดินเคียงข้างใครอีกคน ใบหน้าสวยยกยิ้มกว้างสดใสและงดงาม นัยน์ตากลมโตเป็นประกายหวานจนคนมองอิจฉา   ขายาวก้าวพรวดออกมาจากร้านด้วยความรวดเร็วโดยที่ไม่สนใจเพื่อนรักที่กำลังเดินเลือกดูของ 

                    เฮ้ย!! ไอ้วอน!” คยูฮยอนเรียกหาเพื่อนรัก แต่ไม่ทันเสียแล้วเพราะอีกฝ่ายเดินออกไปจากร้านด้วยความรวดเร็ว  เจ้าตัวได้แต่ส่ายหน้าแล้วหันไปจ่ายตังค์ให้กับพนักงาน   จนเสร็จแล้วจึงก้าวตามออกไป  

     

                    เสียงหัวเราะคิกคักของคนสองคน ทำให้หัวใจบางคนแทบหยุดเต้น  ความคิดถึงกลับกลายเป็นความโกรธและความเจ็บปวด  มือใหญ่คว้าเข้าที่ข้อมือเล็กของอีกฝ่ายได้ทัน

                    ซีวอน!!”  เสียงหวานร้องด้วยความตกใจเมื่อเห็นว่าใครเป็นคนดึงข้อมือตัวเองไว้  เจ้าของมือรีบดึงมือตัวเองกลับทันที 

                    ใช่! ผมเอง  น้ำเสียงทุ้มสั่นเครืออย่างเห็นได้ชัด หากไม่รู้ว่าเป็นความโกรธหรือความเสียใจ 

                    เอ่อ......คือฉันกำลังจะกลับน่ะ ร่างบางบอกเสียงเบา  ริมฝีปากอิ่มคลี่ยิ้มน้อยๆ  แต่ในใจอดหวั่นไม่ได้ ก็เพราะรู้ว่าหนุ่มรุ่นน้อง อดีตคนรักเก่านั้นถึงแม้ภายนอกจะดูสุภาพบุรุษ สุขุมนุ่มลึก แต่นิสัยแท้จริงแล้วใจร้อนยิ่งกว่าใครเลยทีเดียว   

                    ผมก็แค่.....มาทักทาย  ซีวอนพยายามเปล่งเสียงพูดออกมา  เพราะตอนนี้กำลังรู้สึกตีบตันในลำคอยากจะเปล่งเสียงออกมา  

                    อะ....อื้อ เอ่อ...ฮันฉันขอเวลา 5 นาที ร่างบางหันไปบอกร่างสูงข้างตัว  ชายหนุ่มพยักหน้ารับแต่โดยดี นัยน์ตาคมหันไปมองใบหน้าหล่อของอีกฝ่าย อดีตคนรักเก่าของคนรักของเขา 

                    งั้นฮันไปรอที่ร้านหนังสือนะ ชายหนุ่มสัญชาติจีน เกาหลี เอ่ยบอกคนรัก ร่างบางพยักหน้ารับแล้วหันมามองอีกคน  คนที่เขาเคยรักและตอนนี้กลายเป็นอดีตคนรัก 

                    พี่ฮีชอล.........ผมคิดว่าพี่ไปจากที่นี่แล้ว   หลังจากที่ฮันคยองเดินไปแล้ว ซีวอนจึงเอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงตัดพ้อ  นัยน์ตาคมโตมองใบหน้าสวยอย่างอาลัยอาวรณ์  

                    พรุ่งนี้นะ  ซีวอนฉันมีเรื่องจะบอกนาย  ร่างบางพูดพลางสูดลมหายใจปอดลึกๆ   อีกฝ่ายเพียงยืนนิ่งรับฟัง   นายคงอยากจะถามพี่ว่า พี่เคยรักนายบ้างไหม ตลอดสองปีที่ผ่านมาที่เราคบกันพี่รักนายนะซีวอน  พี่เคยคิดว่าพี่รักนายที่สุด จนวันหนึ่งพี่เพิ่งรู้ว่าฮันคยองรักพี่ รักมานาน  ถ้าหากไม่มีวันนั้นพี่คงไม่รู้ตัวว่าฮัน มีความหมายกับพี่ขนาดไหน  นายจะด่าว่าพี่มันเห็นแก่ตัวก็ได้นะ จะเกลียดพี่ก็ได้แต่ตอนนี้หัวใจของพี่เป็นของฮันไปแล้ว  พี่ขอโทษนายจริงๆ แต่ก็ขอบใจนายมาก ตลอดเวลาที่อยู่กับนายพี่มีความสุขมาก    พี่ต้องไปแล้วล่ะ ฮันรอนานแล้วโชคดีนะน้องชาย  ร่างบางยกยิ้มสดใส มือเล็กจับมือใหญ่และบีบเบาๆ  เพื่อให้กำลังใจ 

                    แต่....ผมรักพี่ ...........ความรักของผมคือพี่เท่านั้น  ชายหนุ่มพูดเสียงเครือ นัยน์ตาคมจับจ้องใบหน้าสวยของอีกฝ่ายไม่วางตา   หากแต่อีกฝ่ายก้มหน้านิ่ง  ก่อนจะเงยหน้าขึ้นแล้วส่งยิ้มเพียงบางเบา

                    แต่ฮันคยองคือ ปัจจุบันและอนาคตของพี่  ซีวอนพี่ขอโทษ  เสียงหวานแว่วแผ่วเบา หากเขารับรู้มันทุกประโยคย้ำเตือนหัวใจทุกถ้อยคำและทุกความรู้สึก ว่าเขากับคนๆ นี้จะไม่มีทางเดินมาบรรจบบนเส้นทางเดียวกันอีกแล้ว

                     ฮีชอลหันตัวกลับเดินไปอีกทาง  ซึ่งปลายทางมีใครอีกคนรอคอยเขาอยู่  คนที่ คิม ฮีชอล เลือกแล้วว่าจะใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันตลอดไป   ชายหนุ่มยืนมองคนทั้งคู่เดินเคียงข้างกันไปจนสุดปลายสายตาด้วยความเจ็บปวด    

     

                    ชายหนุ่มก้าวยาวๆ  แล้ววิ่งออกไปอย่างไม่มองหนทางข้างหน้าว่าจะเจอกับอะไรบ้าง เพราะตอนนี้หัวใจของเขากำลังเจ็บปวดจนแทบจะหายใจต่อไปไม่ไหว  อยากไปให้พ้นจากที่ตรงนี้  หลุดพ้นจากทุกอย่างเขาไม่อยากรับรู้ถึงมันอีกแล้ว นัยน์ตาคมกำลังมืดบอดเพราะหนทางข้างหน้าเขายังมองไม่เห็น และนั่นคงจะไม่เห็นใครอีกคนที่วิ่งตามออกไปเช่นกัน 

     

     

                    ซีวอนซีวอน!....เฮ้ย! อะไรวะ  เสียงของคยูฮยอนที่เดินบ่นตามหลังมา ส่งเสียงเรียกเพื่อนตัวโตที่วิ่งหลังไวๆ  ออกไปจากห้าง  เช่นเดียวกับใครอีกคน

                    พี่อีทึก  พี่อีทึก!!” เสียงหวานเรียกชื่อพี่ชายดังลั่น  ด้วยความตกใจ เขาแค่กำลังเลือกเสื้อผ้าเพลินเท่านั้น พอหันกลับมาก็ไม่เจอพี่ชายเสียแล้ว และพอเดินตามหาจนเจอก็เห็นพี่ชายวิ่งตามใครบางคนออกไป และเป็นใครก็ไม่รู้   ทั้งสองคนหันหน้ามองกันอยู่นาน  ด้วยความตกใจ  นาย!!...คยูฮยอน” 

                    “ฮยอกแจ!!! งั้น!!” 

                    โทรตามเพื่อนนายเดี๋ยวนี้เลยนะ!!”    เสียงหวานตวาดแหว๋  เมื่อความตกตะลึงหายไป   เสียงอันดังของร่างโปร่งทำให้คนรอบข้างหันมองทั้งคนเป็นตาเดียว

                    เบาๆ ได้ไหมฉันอายเขา  คยูฮยอน ดึงร่างโปร่งของฮยอกแจให้เดินตามออกจากห้าง  ด้วยความอายก็แม่คุณเขาเล่นเรียกซะดังลั่นห้าง  

                    อายก็รีบโทรตามเส่ะ  ไม่งั้นฉันจะฟ้องซองมิน ว่านายละเลยหน้าที่!!”  คำขู่ที่ทำให้คยูฮยอนเบ้หน้า เมื่อฮยอกแจเอาคนรักของตัวเองมาข่มขู่

                    รู้แล้วน่า!!  รับสายสิโว้ย!!!!”     ชายหนุ่มสบถ เมื่อปลายสายไม่คิดแม้จะรับสายแต่อย่างใด 

     

     

                    แฮ่กๆ  ซะ....ซีวอน...แฮ่ก  เสียงหวานเอ่ยเรียกเสียงแหบแห้ง  เหงื่อเม็ดใสชื้นไปทั่วใบหน้าหวานแม้อากาศจะหนาวเย็น ละอองไอลมหายใจลอยคว้างอยู่ในอากาศเมื่อร่างบางของคนวิ่งมาตามมานั้นหอบหนัก   ชายหนุ่มชะงักเท้าหันกลับมามองคนที่วิ่งตามตัวเอง  นัยน์ตาคมเบิกกว้างเพราะไม่คิดว่าคนๆ นี้จะอยู่ที่นี่    

                    พะ....พี่อีทึก!”  

                    ใช่ พี่เอง  ร่างบางตอบพลางโกยอากาศเข้าปอด  เมื่อลมหายใจเริ่มขาดห้วงเสียดื้อๆ  เหงื่อเม็ดใสเคลือบใบหน้าหวาน เสียจนคิดว่าเป็นหน้าร้อนทั้งๆ ที่อากาศหนาวเหน็บ

                    พี่เป็นอะไรหรือเปล่า ไม่สบาย?” ชายหนุ่มเอ่ยถาม พลางสาวเท้ากลับมายืนตรงหน้าร่างบางที่กำลังหายใจยาวเพื่อเก็บอากาศเข้าปอด  ใบหน้าหวานดูซีดเซียว ผิวขาวราวหิมะที่กลืนไปกลับเสื้อโค้ทสีขาวตัวยาว  แลดูบอบบางเสียจนเปราะบาง ว่าร่างตรงหน้าจะเลือนหายไปในอากาศ 

                    เปล่า.......แค่เหนื่อย  ร่างบางตอบพลางปาดเหงื่อออกจากใบหน้าหวานของตน 

                    แล้วพี่วิ่งตามผมมาทำไม  คำถามที่ทำให้ร่างทั้งร่างจุกจนพูดไม่ออก ใช่เขาวิ่งตามอีกฝ่ายมาทำไม 

                    เอ่อ........คือ......เอ่อ........  เมื่อหาคำตอบให้กับตัวเองไม่ได้  จึงได้แต่ก้มหน้าลงต่ำลงพื้นถนนอย่างไร้หนทาง  มือบางสองข้างกำเข้าหากันแน่น  ริมฝีปากเม้มเข้าหากันจนเป็นเส้นตรง  ความเงียบเข้าปกคลุมทั้งสองคน

                    วันนั้นเป็นพี่ใช่ไหม ที่พาผมกลับจากผับ  คำถามทำให้ร่างบางสะดุ้งเฮือก  ใบหน้าหวานเบือนมองไปทางอื่นเพราะไม่กล้าสบตาอีกฝ่าย  พี่อีทึก......ผมขอบคุณแต่พี่ไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้  ตอนนี้ผมอยากอยู่คนเดียว  ถ้อยคำปฏิเสธที่อ่อนโยนนั้นกลับกรีดหัวใจคนฟังให้แหลกสลายไม่เหลือชิ้นดี   ใบหน้าหวานร้อนผ่าว  น้ำใสไหลเอ่อเต็มนัยน์ตาคู่สวย   มือบางสองข้างกุมจับกันแน่นจนขึ้นสีซีด   

     

                    พี่.....แค่.....แค่.....เป็นห่วงนาย  เสียงหวานสั่นเครือแม้พยายามจะพูดให้เป็นปกติ แต่มันกลับปกปิดไม่มิด   สุดท้ายหยดน้ำใสค่อยๆ ไหลรินออกมาจากดวงตาฉ่ำน้ำ

                    ผมไม่ได้เป็นอะไร.....พี่ไม่ต้องเป็นห่วงผมหรอก  ตอนนี้ผมอยากอยู่คนเดียว ถ้อยคำปฏิเสธนุ่มนวล กลับไม่ได้ทำให้หัวใจที่กำลังโดนกรีดอีกครั้งช้าๆ รู้สึกดีขึ้นแต่อย่างใด กลับเริ่มเป็นแผลเหวอะหวะอีกครั้ง    มือเรียวสองข้างกุมเข้าหากันแน่นจนขึ้นข้อขาว  ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันจนเป็นเส้นตรง ใบหน้าหวานเบือนออกทางอื่นเพราะไม่กล้าสบสายตาของอีกฝ่าย  

                    พี่เข้าใจ....พี่แค่...เป็นห่วงนาย คำตอบที่ทำให้อีกฝ่ายถอนหายใจยาว  ไม่ใช่เขารังเกียจร่างบาง  เพียงแค่ตอนนี้เขาอยากอยู่คนเดียว  และเป็นเพราะคนๆ นี้แพ้อากาศหนาวเย็นแบบนี้  มือใหญ่ประครองใบหน้าหวานให้หันกลับมามองตนพร้อมกับคำพูดที่เขาคิดว่าอ่อนโยนมากแล้ว  หากเพียงเห็นนัยน์ตาคู่สวยที่ฉ่ำน้ำเสียจนพร่าเลือน กลับทำให้หัวใจของชายหนุ่มเจ็บปวดพอกัน  ถึงแม้เขาจะรักฮีชอล แต่เขาก็ไม่เคยลืมคนรักเก่า คนดีของเขาที่ครั้งหนึ่งเขาเคยรัก  และเขาจะไม่กลับไปทำร้ายคนๆ นี้อีกแล้ว  แม้เขาจะต้องทำร้ายหัวใจร่างบอบบางตรงหน้าอย่างร้ายกาจ 

                    พี่กลับบ้านเถอะครับอากาศตอนนี้มันหนาวมาก  พี่ครับ.......พี่ไม่ต้องทำอะไรเพื่อผมอีก  เพราะมันจะทำให้รู้สึกผิดกับพี่  อย่าให้ผมต้องรู้สึกผิดเพราะต้องทำร้ายพี่อีกเลยนะครับ ผมขอโทษ   ริมฝีปากหยักค่อยๆ ประทับหน้าผากนมของร่างบาง แล้วค่อยๆ ผละออกมา  ก่อนจะเดินจากไปโดยไม่หันกลับมามองอีกเลย

     

     

                    สัมผัสอบอุ่นเพียงเลือนรางที่ได้รับไม่ได้ทำให้หัวใจอันหนาวเหน็บอบอุ่นแต่อย่างใด ร่างบอบบางค่อยๆ ทรุดนั่งกับพื้นถนนเย็นเฉียบ ร่างบอบบางสั่นสะท้านแขนเรียวสองข้างโอบกอดร่างของตัวเองไว้แน่น   หยดน้ำใสหยดลงผ้าเนื้อดีสีขาวเป็นวงกว้าง  ริมฝีปากบางทั้งสองข้างเม้มเข้าหากัน เพียงกลั้นเสียงสะอื้น  ตอนนี้เขาเจ็บปวดเสียจนไม่อยากหายใจ

     

                    พี่อีทึก!!!”  เสียงหวานดังร้องเรียกร่างบางที่กำลังนั่งตัวสั่นสะท้านท่ามกลางอากาศเย็นติดลบ  ร่างโปร่งวิ่งเข้าไปประครองร่างบางไว้แน่น   เสียงหายใจหอบถี่ขึ้นเรื่อยๆ  จนฮยอกแจใจไม่ดี หันซ้ายขวาละล่ำละลัก   คยูฮยอน เรียกรถพยาบาล เร็วๆ เส่!”  สุดท้ายเลยหันไปตวาดใครอีกคนที่วิ่งตามมาติดๆ  ชายหนุ่มรีบทำตามทันที เมื่อเห็นว่าอีทึกกำลังหายใจหอบหนักเหมือนคนจะขาดอากาศหายใจ 

     

                    นัยน์ตาคู่สวยปรือขึ้น  ภาพที่เห็นคือฝ้าเพดานสีขาวทำไมเขาหายใจสะดวกจัง ส่วนมือข้างหนึ่งที่เขารู้สึกว่าร้อนระอุจนต้องหันไปมองคือภาพของน้องชายที่กำลังร้องไห้กุมมือเขาไว้แน่น  และใครอีกคนคุ้นตาที่นั่งอยู่ข้างๆ กัน  ตอนนี้เขาอยู่ที่ไหนกันแล้วทำไมเขาต้องใส่หน้ากากออกซิเจนด้วย

                    พี่อีทึก อย่าเป็นอะไรนะ พี่ครับ!”  เสียงร้องเรียกดังขึ้นเมื่อเห็นว่าพี่ชายตัวเองลืมตาขึ้น  หากแต่ไร้การตอบรับจากอีกฝ่าย   ก่อนตาคู่สวย ค่อยๆ ปรือหลับไปอีกครั้ง พร้อมกับเสียงร้องเรียกที่ดังแว่วมากจากสถานที่ห่างไกล  พี่ฮะ  พี่อีทึก!!”   

                    ร่างของอีทึกถูกพาเข้าห้องฉุกเฉินทันที   ฮยอกแจถูกพยาบาลกันไว้นอกห้อง ร่างโปร่งเดินกระวนกระวายวนเวียนไปมาด้วยความวิตก  คยูฮยอนมองภาพตรงหน้าแล้วถอนหายใจ แล้วกดหาคนรักที่คาดว่าจะช่วยดูแลคนที่กำลังกระวนกระวายได้

     

                    ฮยอกแจ  คยู เสียงหวานเรียกดัง ทำให้ร่างโปร่งหันมามองพร้อมกับคยูฮยอนที่นั่งรออย่างร้อนใจเช่นกัน

                    ซองมิน!”  ฮยอกแจร้องเรียกเพื่อนรักพลางโถมเข้าใส่ ร่างอวบอย่างหากำลังใจและที่พึ่ง  

                    พี่อีทึกล่ะ เป็นไงมั่ง 

                    ยังไม่ออกมาเลย  ฮยอกแจตอบด้วยความกังวล  มือเรียวเย็นเฉียบจนอีกฝ่ายต้องกุมมือนั้นไว้ 

                    แล้วมันเกิดอะไรขึ้นทำไมพี่อีทึกทรุดลงล่ะ  ซองมินถามด้วยความเป็นห่วง ก็ไหนว่าพี่อีทึกอาการดีขึ้นแล้วไง พอหันไปมองหน้าคนรักเพื่อหาคำตอบซึ่งอีกฝ่ายเพียงขยับปากเป็นชื่อใครบางคน เพียงแค่นั้นอี ซองมินก็ไม่เอ่ยถามอะไรอีก  ฉันพอจะเข้าใจแล้ว พี่อีทึกไม่เป็นไรหรอกนะ 

     

                    เวลาล่วงเลยไปเกือบสองชั่วโมง ประตูห้องฉุกเฉินถูกเปิดออก พร้อมกับแพทย์ประจำตัวของอีทึก  และเตียงที่มีร่างบอบบางนอนนิ่ง

                    ตอนนี้คุณปาร์ค ปลอดภัยแล้วครับ แต่คงต้องรอดูอาการไปก่อน คุณหมอพูดพลางหันไปมองใบหน้าหวานของคนที่นอนอยู่บนเตียง  ด้วยสีหน้าหนักใจ 

                    หมายความว่ายังไงครับคุณหมอ 

                    คนไข้ร่างกายอ่อนแอมาก  คงต้องดูแลกันอย่างใกล้ชิด แต่ไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ ผมขอคุยกับคุณ     ฮยอกแจเป็นการส่วนตัวสักครู่ ซองมินพยักหน้ารับแล้วเดินตามรถเข็นไปพร้อมกับคยูฮยอนเพื่อไปห้องพักพิเศษ   ส่วนฮยอกแจเดินตามคุณหมอไปที่ห้องทำงาน

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×