คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : sweet love designer Hanteuk EP.01
sweet love designer หวานรักดีไซน์เนอร์หน้าหวาน EP.01
Story By : Wrieter ^NaNo^
Yaoi : Hanteuk Ft. Super Junior
Date : 21/01/55
“พี่ติดต่อทางนั้นไว้แล้ว เราจะไปหรือเปล่า ถ้าไม่ไปพี่จะได้ส่งคนอื่นไปแทน” คนเป็นพี่ยืนพิงหน้าต่าง หันมองคนเป็นน้องที่ยังคงนั่งนิ่งอยู่บนโซฟา ใบหน้าเรียวออกแววครุ่นคิดหนัก จนคนมองอดที่จะเป็นกังวลแทนไม่ได้
“ไปฮะ ต้องเดินทางเมื่อไหร่” สุดท้ายหลังจากที่นั่งเงียบมานานคนเป็นน้องค่อยๆ พยักหน้าตอบรับ แต่น้ำเสียงยังแฝงไปด้วยความกังวลและไม่แน่ใจอย่างเห็นได้ชัด
“อีกสองวัน แต่เราแน่ใจนะว่าจะไปแน่ๆ แล้วจะไม่มีปัญหาอะไรตามมา” คนเป็นพี่ถามย้ำถึงความแน่ใจของคนเป็นน้อง ถึงปากจะตอบรับแต่ท่าทางกังวลแบบนั้นมันทำให้เธออดที่จะกลัว
“แน่นอนครับ แต่ถ้าพี่ถามถึงปัญหาสำหรับผมไม่มี แต่คนอื่นผมไม่รู้” คนเป็นน้องหันมาบอกริมฝีปากเพียงคลี่ยิ้มบางๆ ให้คนถาม เพื่อคลายกังวล
“เอาล่ะ งั้นไปเตรียมตัวเถอะ พี่คงคิดถึงเราแย่เลย” พูดจบก็ดึงรุ่นน้องเข้าไปกอด แม้จะต่างเพศหากแต่น้องชายนั้นกลับมีใบหน้าค่อนไปทางผู้หญิง ไหนจะรูปร่างบอบบางไซส์มาตรฐานเดียวกับผู้หญิงทั่วไป จนเธอนึกว่ารุ่นน้องของเธอเป็นเด็กผู้หญิงในคราแรกที่พบเจอกัน
“ผมคงคิดถึงพี่เหมือนกัน” ริมฝีปากบางระบายยิ้มหวานจนคนได้รับอดไม่ได้ที่จะหอมนิ่ม เป็นการตอบแทน สักฟอดสองฟอด ผิวพรรณก็เนียนใสนิ่มลื่นมือไม่หยาบเหมือนผู้ชายทั่วไป เธอเองยังแอบอิจฉารุ่นน้องคนนี้ไม่ได้เลยจริงเชียว
“เอาเถอะไปทำธุระที่คั่งค้างให้เรียบร้อย ก่อนเดินทางแล้วกัน” หญิงสาวพูด พลางใช้มือดันแผ่นหลังของรุ่นน้องของเธอให้เดินออกไปจากห้อง
สายตาปราดเปรียวมองตามแผ่นหลังบางของรุ่นน้องคนสนิท พลางถอนหายใจไป เธอเองก็ไม่ได้บอกรายละเอียดเรื่องงานให้เจ้าตัวฟังเท่าไหร่คิดว่าไปถึงที่นั่นแล้วคงจะไม่มีทางปฏิเสธ แต่ถ้าหากรุ่นน้องของเขายังวนเวียนอยู่ในเกาหลีเรื่องมากมายที่เกิดขึ้น คงจะไม่จบง่ายๆ แน่
ล้อเครื่องบินแตะลงรันเวย์ ของประเทศแผ่นดินใหญ่ที่มีพื้นที่กว้างใหญ่ไพศาลเป็นอันดับต้น ของโลก และวัฒนธรรมอันเก่าแก่อันยาวนาน ที่ถูกจารึกลงในประวัติศาสตร์อย่างมากมาย
ใบหน้าที่ถูกปิดด้วยแว่นกันแดดสีดำอันใหญ่ทำให้บุคลิกภายนอกดูมั่นคง แต่ดวงตาภายใต้แว่นใหญ่กำลังมองหาป้าย ที่มีชื่อของตัวเองประดับอยู่ ทุกๆ ก้าวที่ก้าวไปข้างหน้า หัวสมองก็คิดถึงเรื่องการมาทำงานในครั้งนี้เขายังไม่รู้เลยว่าต้องมาทำงานกับใครแต่ก็คงจะดีกว่าที่เขายังอยู่ที่เกาหลีเป็น
คนมากมายที่ยืนรอรับญาติ เพื่อนหรือพี่น้อง ไกด์ทัวร์ที่มาลงทำให้คนมากมายต่างคนต่างชูป้ายชะเง้อมองคนที่ตัวเองนัดเวลาไว้ นี่เขาว่าเขาเลือกที่จะมาเที่ยวบินรอบดึกแล้วนะ แต่คนไม่ได้บางตาลงเลยสักนิด ริมฝีปากบางคลี่ยิ้มเมื่อเห็นป้ายชื่อของตัวเองอยู่ไม่ไกลๆ มือเรียวลากกระเป๋าสัมภาระไปหาอย่างรวดเร็ว
“คุณปาร์ค จองซู ใช่ไหมครับ ผมคิม ฮีชอล พอดีว่าพี่แดนนี่ไม่ว่างผมเลยต้องมารับคุณแทน” คนที่มารับเอ่ยทักทาย ทำให้คนมาใหม่ถึงกับเลิกคิ้วสูงด้วยความงง ผสมตกใจ
“คุณเป็นคนเกาหลี” ร่างบางเอ่ยถามคนตรงหน้า ก็เพราะเจ้าตัวพูดเกาหลีได้ชัดเป๊ะจนน่าแปลกใจ
“ครับ” คนถูกถามพยักหน้ารับ จองซูมองด้วยความทึ่งไม่นึกว่าจะมีผู้ชายสวยขนาดนี้ ใบหน้าสวยเหมือนผู้หญิง รูปร่างบอบบาง นัยน์ตากลมโต จมูกเรียวโด่ง ริมฝีปากอิ่มสีแดงสด ผิวขาวราวหิมะ “เราไปกันดีกว่านะครับ เรามีเวลา 4 ชั่วโมง ก่อนงานจะเริ่ม” และอีกครั้งที่ทำให้เจ้าตัวถึงกับตกใจอะไรกันเพิ่งมาถึงจะให้ทำงานกันเลยเหรอ แล้วเขายังไม่รู้เลยว่าต้องทำงานกับใคร ทำอะไรบ้าง “รายละเอียดอื่นๆ ผมจะอธิบายในรถ” จองซูพยักหน้าหงึกๆ แล้วเดินตามคนมารับไปด้วยอาการงงๆ เบลอๆ
“เอ่อ............ คนที่ชื่อแดนนี่เป็นใครเหรอครับ” คนเพิ่งมาถึงหมาดๆ เริ่มถามให้หายข้องใจหรือเป็นคนที่เขาจะต้องทำงานด้วย คนตอบเพิ่งหันมากยกยิ้ม
“พี่แดนนี่เป็นผู้จัดการส่วนตัว ของหานเกิง คนที่คุณจะต้องทำงานด้วย คุณรู้จักไหม” จองซูทำท่าครุ่นคิด ดารา ศิลปิน ไอดอลไม่ว่าหญิงหรือชายในประเทศเกาหลี เค้าเคยเจอมาเกือบหมดแล้ว ดาราฮอลลีวูดก็เคยเจอมาบ้างตอนไปช่วยงานกับพี่ลี่อิน แต่ดารานักแสดง ไอดอล ศิลปินของจีนยังไม่เคยเจอแล้วก็รู้จัก แต่รู้สึกชื่อคุ้นๆ นะ หานเกิง อืม..............นึกไม่ออก จองซูส่ายหน้าไปมาเค้านึกไม่ออกจริงๆ นะ
“งั้นไม่เป็นไร ผมจะบอกคุณคร่าวๆ ผมเป็นน้องชายของพี่แดนนี่ที่จริงพี่แดนนี่ต้องมารับคุณด้วยตัวเอง แต่ว่าเค้าไม่ว่างผมก็เลยมารับคุณแทน แล้วสำหรับคนที่คุณจะต้องทำงานด้วยคือหานเกิง เขาเป็นนักร้องและนักแสดงที่กำลังดังมากในประเทศจีน ใต้หวัง ฮ่องกง ไทย และอีกหลายๆ ประเทศแถบเอเชีย” คนสวยพยายามอธิบายให้จองซูฟังอย่างละเอียด ซึ่งเจ้าตัวเองก็พยักหน้าหงึกๆ รับฟัง
“เอ๋...........เดี๋ยวนะ ผมว่าผมนึกออกแล้ว หานเกิง ใช่นักร้องของจีนที่เคยไปเกาหลี แล้วมีคลิปหลุดกับนางเอกจอมปลอบอย่างยัยคิม โบรา ใช่ไหม” จองซูหันไปถามด้วยความแน่ใจ ซึ่งคนฟังก็พยักหน้าหงึกๆ พลางหัวเราะออกมาเต็มที่ เสียงดังลั่นรถ
“ถูกต้องแล้วครับ หานเกิงคนนั้นแหละที่คุณกับเค้าต้องทำงานร่วมกัน” คำบอกเล่าที่ทำให้จองซู หายใจไม่ทั่วท้อง โอ๊ยอะไรจะมาชนตอปานนี้เนี่ย ยิ่งได้ยินคำล่ำลือข้ามประเทศว่าเป็นพวกขาวีน เอาแต่ใจ ทำเป็นเก๊กหล่อ ไม่พอใจก็เดินออกกลางกองถ่ายทำเลยก็มี ฮู้ว.......ไม่น่ารับปากพี่ลี่อินมาเลยเรา จองซูคิดอยู่ในใจแต่สีหน้าที่ออกมานั้นทำให้คนข้างๆ ถึงกับหัวเราะ
ฮีชอลมองหน้าคนข้างๆ เขาเห็นจากรูปที่พี่แดนนี่เอามาให้ดูแล้ว ตอนแรกนึกว่าเป็นนางแบบซะอีก ผู้ชายอะไรหน้าว๊านหวาน ใบหน้าเรียวเล็ก นัยน์ตากลมสวย จมูกเล็กโด่งรั้นเหมือนเด็กเอาแต่ใจ ริมฝีปากเรียวบางสีชมพูอ่อน แล้วลักยิ้มที่มุมแก้มนั่นอีก น่าจะไปอยู่บนหน้าผู้หญิงมากกว่าผู้ชายแบบนี้ ตัวก็เล็กนิดเดียว เขาว่าเขาตัวเล็กแล้วนะ มาเจอคนๆนี้ตัวเล็กกว่าเขาเสียอีก
“เอ่อ.........แล้วผมต้องพักที่ไหน” จองซูหันไปถามถึงที่พักของตัวเอง
“พักที่บ้านครับ มีคนอยู่ไม่มากหรอกครับ มีผม พี่แดนนี่ คุณแล้วก็หานเกิง” โอ้ว!....พระเจ้าทำไมต้องอยู่บ้านเดียวกันด้วย จองซูถึงกับร้องค้านอยู่ในใจ แค่กิตติศักดิ์อันเลื่อนลือของพ่อเจ้าประคุณก็รับไม่ไหวอยู่แล้ว
“อ้าวแล้วทีมงานคนอื่นล่ะครับ” จองซูหันไปถาม อย่างน้อยมันต้องมีคนอื่นอีกไม่ใช่เหรอไง
“ไม่มีหรอกครับ อ้อลืมบอกไปผมไปช่างแต่งหน้าแล้วคุณก็เป็นสไตล์ลิส แค่นี้ก็พอแล้ว หานเกิงไม่ชอบความวุ่นวาย ส่วนทีมงานก็แยกไปอยู่ในส่วนที่บริษัทจัดให้” จองซูได้แต่พยักหน้ารับ อ้อบวกเรื่องมากเข้าไปอีกอย่างเขาจะรอดไหมเนี่ย ไม่ใช่พรุ่งนี้โดนไล่ให้กลับเกาหลีแต่หัววันเลยเร๊อะ!
“ผมว่าคุณฮีชอลน่าจะเป็นนายแบบหรือนางแบบมากกว่านะครับ” จองซูหันไปชมคนข้างตัวที่นั่งยกยิ้ม
“ถ้าอย่างนั้นคุณจองซู ก็คงต้องบอกตัวเองด้วย เอาล่ะถึงแล้วครับ” พูดจบคนสวยก็เดินนำลงจากรถ บ้านหลังใหญ่ที่ไม่ใหญ่มากจนเกินไป แต่มันก็ใหญ่กว่าคนอาศัยแค่สี่คน ตั้งตระหง่านอยู่ตรงหน้า รอบๆ บ้านเต็มไปด้วยต้นไม้และสวนหย่อม สระว่ายน้ำขนาดกว้าง การตกแต่งที่หรูและทันสมัย เฮ่อ ตกแต่งไปแล้วมีเวลามานั่งชื่นชมหรือเปล่าเนี่ย จองซูได้แต่คิดอยู่ในใจ “ผมจะพาคุณจองซู ไปที่ห้องนอนก่อนแล้วกัน” ร่างบางพยักหน้ารับ แล้วเดินตามไป คนสวยพาเดินนำไปที่ชั้นสองและพาไปที่ห้องๆ หนึ่งที่มีป้ายติดไว้ เป็นชื่อของเขา แสดงว่าห้องนี้ถูกต้อง “อยู่ได้ไหมครับ ผมเพิ่งมีเวลาจัดเมื่อเช้าเอง” คนสวยหันมาถาม
“ได้ครับ ผมว่ามันออกจะกว้างซะด้วย ขอบคุณมากนะครับ” ร่างบางหันไปบอกแล้วมองไปรอบๆ ห้องนอนของตัวเอง การตกแต่งเรียบร้อยแต่กลับดูดี ไม่รกตาจนเกินไป
“นี่ยังเหลือเวลาอยู่ ตามสบายนะครับ จะนอนพักก็ได้ ถ้าได้เวลาเมื่อไหร่ผมจะมาเรียกนะครับ” ร่างบางพยักหน้ารับ แล้วจัดการเก็บของเข้าที่ แต่แล้วร่างบางก็ต้องหยุดการกระทำของตัวเอง เมื่อมีความคิดหนึ่งผุดขึ้นมา แล้วถ้าเขาโดนไล่ให้กลับเกาหลีล่ะ ถ้าหากว่าทำให้เขาไม่พอใจ ว่าแล้วก็หยิบเสื้อออกมาเพียงแค่สองสามชุด ออกมาแขวนกันพลาดจะได้ไม่ต้องเสียเวลาพับลงกระเป๋าใหม่
เมื่อเก็บของเสร็จ จองซูก็ตัดสินใจเดินดูรอบๆ ห้องของตัวเองและนอนพักสักตื่น ร่างบางนอนลงบนเตียงนุ่มเมื่อสอดส่องไปทั่วห้องเรียบร้อยแล้ว เปลือกตาบางค่อยๆ ปิดลงช้าๆ เพราะความเหนื่อย
“ผมขอโทษ ผมไม่ได้ตั้งใจ”
“ฉันไม่ได้ว่าอะไร ไม่เป็นไร ลืมมันไปซะเถอะ”
“พี่มันก็แค่คนหลอกลวง ทำไมต้องมาแย่งเขาไปจากผม พี่ก็รู้ว่าผมรักเขา!”
“เปล่าไม่ใช่นะ! ไม่ใช่ นายคิดผิดแล้วไม่ใช่แบบนั้น ฉันไม่ได้ทำ!”
เฮือก! ตาคู่สวยเปิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ใบหน้าขาวเต็มไปด้วยเหงื่อเม็ดใหญ่ ทั้งๆ ที่บรรยากาศในห้องกำลังดี ร่างบางลุกขึ้นนั่งพลางหลับตาลง นึกถึงความฝันเมื่อครู่ อันที่จริงมันไม่ใช่ความฝันหรอก เพราะครั้งหนึ่งมันเคยเป็นเรื่องจริง นัยน์ตาคู่สวยเอ่อไปด้วยน้ำใส ดวงหน้าร้อนผ่าว แล้วสะบัดหัวไปมาเพื่อไล่ความรู้สึกอ่อนแอออกไป
มือบางรองรับน้ำเย็นที่ไหลรินออกมาจากก๊อก แล้วสาดเข้าใบหน้าไปหลายครั้ง จนทั้งตัวเกือบจะเปียกโชกไปด้วยหยาดน้ำ ใบหน้าขาวที่เต็มไปด้วยหยดน้ำที่เกาะพราวไปทั่วใบหน้า มันแยกไม่ออกระหว่างน้ำใสที่มาจากท่อประปา กับน้ำใสที่ไหลรินออกมาจากตาคู่สวย
“คุณจองซู ใกล้ได้เวลาแล้วครับ ผมลงไปรอที่รถนะ” เสียงเรียกของฮีชอล ทำให้เจ้าตัวเดินออกจากห้องน้ำ แล้วเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ชุ่มไปด้วยน้ำ พยายามละทิ้งความรู้สึกทั้งหมด เขามาเพื่อเริ่มต้นใหม่ ไม่ใช่มาคิดถึงเรื่องในอดีตสักหน่อย
“หิวไหมครับ” คนสวยหันมาถาม พลางยื่นกล่องแซนวิชให้กับร่างบาง
“ขอบคุณครับ” ร่างบางพยักหน้ารับ แล้วหยิบชิ้นขนมปังขึ้นมากัดช้า ทั้งๆ ที่รู้สึกว่าหิวแต่ทำไมเขา ถึงไม่อยากกินมัน
“วันนี้มีถ่าย MV ที่จะโปรโมทในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ก็เลยต้องออกมากันแต่เช้า ส่วนหานเกิงเมื่อคืนนี้เขามีอัดเสียง ก็เลยไม่กลับเข้าไปที่บ้าน” ฮีชอลอธิบายเกี่ยวกับงานให้เพื่อนร่วมงานคนใหม่ฟัง
“อย่างนั้นก็มีคอนเซ็ปกับเสื้อผ้าแล้วใช่ไหมครับ” ร่างบางหันไปถามก็ถ่ายวันนี้ แต่ทำไมถึงเพิ่งรับสไตล์ลิสคนใหม่อย่างเขามาล่ะ
“เอาเป็นว่าเรามีปัญหานิดหน่อยกับสไตล์ลิสคนเก่า ทางบริษัทก็เลยให้สไตลิสคนนั้นไปทำงานกับนักร้องคนอื่นแทน ส่วนเรื่องคอนเซ็ปเสื้อผ้าเราจัดการกันเรียบร้อยแล้ว แต่ดูเหมือนจะไม่ค่อยถูกใจเจ้าตัวเขาเท่าไหร่ คุณจองซูลองดูเอาแล้วกันนะครับ เดี๋ยวผมจะอธิบายคอนเซ็ปอัลบั้มนี้ให้ฟังคร่าวๆ แล้วกัน” คนสวยหันมาบอก ร่างบางได้แต่พยักหน้ารับอีกตามเคย แต่ก็คิดในใจไปด้วยว่าคงจะต้องเป็นพวกเรื่องมากขั้นเทพแน่นอน
ทั้งสองคนมาถึงสถานที่ถ่ายทำ MV เป็นสตูดิโอขนาดใหญ่ที่ถูกตกแต่งออกมาเป็นอย่างดี เหล่าทีมงานกำลังทำงานกันอย่างวุ่นวาย
“ทางนี้ครับ” แล้วคนสวยก็เดินนำไปที่ห้องพักของนักร้องคนดัง
“มาแล้วเหรอฮีชอล คุณจองซูใช่ไหมครับ ผมแดนนี่ครับ” ชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ ใบหน้าหล่อตี๋ตามแบบฉบับคนจีนเด๊ะๆ ผู้จัดการส่วนตัวของนักร้องคนดังเดินเข้ามาทักทายด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
“สวัสดีครับ” ร่างบางทักทายกลับ แต่ตาคู่สวยกลับปลายตามองไปรอบๆ เขาไม่ยักเห็นพ่อนักร้องคนดังแฮะ
“หานเกิงล่ะพี่” ฮีชอลถามหานักร้องหนุ่ม ซึ่งถูกใจจองซูจริงๆ ให้ห้าคะแนน
“หลับอยู่ข้างใน เพิ่งอัดเสียงเสร็จเมื่อตอนตีสองเอง” ชายหนุ่มอธิบายให้กับสองร่างบางฟัง คนตาสวยพยักหน้ารับหงึกๆ อันนี้พอเข้าใจ ช่วงใกล้ออกอัลบั้มก็ทำงานเยอะกันทั้งนั้น “อีกครึ่งชั่วโมงค่อยปลุกแล้วกัน” คนสวยพยักหน้ารับ แล้วดึงเพื่อนใหม่ไปนั่งที่มุมห้องด้านหนึ่ง
“อยากได้อะไรก็บอกนะ คุณจองซู”
“ไม่เป็นไรครับ แล้วก็ไม่ต้องเรียกคุณก็ได้” คนตาสวยพูดเสียงเบา เพราะไม่อยากรบกวนคนนอนหลับ อยู่ข้างในเพราะที่แยกเป็นห้องก็เป็นแค่ฉากกั้นธรรมดาแค่นั้นเอง
“อ้อ งั้นคุณ...เอ้ย จองซู ลองดูคอนเซ็ปชุดก่อนแล้วกัน” ว่าแล้วคนสวยก็ยื่นงานส่งมาให้ทันที จองซูรับมาแล้วนั่งอ่านรายละเอียดต่างๆ และหันไปดูเสื้อผ้าที่อยู่อีกมุมหนึ่งของห้อง เพื่อทำความเข้าใจคร่าวๆ
“คุณจองซู ไปเดินดูรอบๆ กันไหม” แดนนี่เดินเข้ามาถามร่างบาง ที่นั่งทำหน้าเซงเพราะต้องนั่งรอเวลา อีกอย่างตอนนี้ฮีชอลก็กำลังเตรียมงานของตัวเอง
“ก็ได้ครับ” ร่างบางพยักหน้ารับ แล้วเดินตามออกไปเมื่อฮีชอลหันมามองแล้วพยักหน้าให้
“ฮีชอลคงอธิบายรายละเอียดต่างๆ ให้เราฟังคร่าวๆ แล้วใช่ไหม ทำงานกับพี่ไม่ต้องเกรงใจมีอะไรก็บอก เราอยู่กันเหมือนพี่น้อง” ชายหนุ่มพูดไปเรื่อยๆ เหมือนเล่าเรื่องซะมากกว่าให้กับจองซูฟัง “แล้วเวลามีปัญหาอะไรก็บอกอย่างเก็บไว้ จะได้ช่วยกันแก้ปัญหา” คนฟังถึงกับสะอึก ช่วยแก้เหรอโฮ่ๆ ได้ยินมานักต่อนักแล้ว แต่เวลาพอมีปัญหาเข้าจริงๆ ไม่เห็นจะมีใครโหม่หัวออกมาช่วยสักคน “พี่ไม่รู้หรอกนะว่าที่เกาหลี มันมีปัญหาอะไรบ้าง แต่พี่บอกได้อยู่อย่างเดียว คนอื่นอาจจะเป็นเหมือนกับคนที่เราเคยรู้จัก แต่กับพี่หรือฮีชอล รวมทั้งหานเกิงเอง ไม่ใช่แบบนั้น” ร่างบางหันไปมองคนตรงหน้าด้วยความสงสัย คนๆ นี้ต้องรู้อะไรมาแน่ๆ เลยต้องพูดแบบนี้ หรือว่าพี่ลี่อินจะเล่าให้ฟัง “ไม่ต้องสงสัย แค่ตั้งใจทำงานก็พอ” แหนะมีอ่านความคิดเขาออกด้วย เก่งจริงๆ สมแล้วที่เป็นผู้จัดการของศิลปินเรื่องมาก อย่างหานเกิง แล้วทั้งสองคนก็พากันไปดูรอบๆ โดยมีแดนนี่ช่วยอธิบายรายละเอียดของงานคราวนี้ให้ฟังอีกที
“อะไรกัน! จะให้ฉันไปเล่นงิ้วที่ไหน ถึงให้แต่งตัวแบบนี้!” เสียงดังโวยวายมาจากในห้องแต่งตัว ทำให้คนที่เพิ่งเดินมาถึง หันไปมองอีกคนด้วยความตกใจ เว้นแต่อีกคนที่ยังคงส่งยิ้มพิมพ์ใจมาให้
“ใจเย็นๆ น่านี่ตามคอนเส็ป ที่ตกลงกันไว้นะฮัน” เสียงหวานสูงของช่างแต่งงานคนเก่ง กำลังอธิบายให้กับศิลปินฟัง ส่วนคนอื่นนั่งหน้าซีดกันเป็นแถบๆ จนคนสวยต้องไล่ให้ทีมงานคนอื่นออกไปจากห้อง
“เออฉันรู้ว่าตามคอนเซ็ป! แล้วทำไมมันออกมาในรูปแบบนี้เนี่ย เสื้อปักลายเนี่ยเหรอ!” ศิลปินคนดังหันไปตอบด้วยเสียงดังอันไม่แพ้ชื่อเสียง จนคนสวยได้แต่ยู่หน้าใส่ เขาใช่คนออกแบบที่ไหนกันเล่า อยากจะด่ากลับซะจริงๆ ถ้าไม่ติดว่าอยู่ที่ทำงานนะ จะทึ้งหัวมันให้ดู
“เอาล่ะๆ พอๆ มันมีปัญหาตรงไหนล่ะฮัน” เสียงทุ้มใหญ่ของผู้จัดการหนุ่ม ที่เดินเข้ามาด้วยสีหน้าแต่งแต้มด้วยรอยยิ้ม โดยมีลูกแมวหน้าใหม่อีกตัวห้อยท้ายมาด้วย
“พี่ก็ดูชุดที่ผมจะต้องใส่สิ!” พูดจบก็โยนเสื้อเจ้าปัญหาให้ผู้จัดการของตนดู ด้วยอารมณ์เบื่อหน่ายเป็นที่สุด หากสายตาคมหันไปเจอลูกแมวที่เดินตัวลีบอยู่ข้างหลังผู้จัดการคนเก่ง ท่าทางจะเป็นสไตล์ลิสคนใหม่ ถ้าไม่รู้ก่อนหน้านี้ว่าเป็นผู้ชายเขาคงต้องคิดว่าเป็นผู้หญิงแน่ๆ ก็ไอ้หน้าตากับรูปร่างผอมบางแบบนั้น ไม่น่าจะเกิดมาเป็นผู้ชายสักนิด ริมฝีปากยกยิ้มเจ้าเล่ห์ แล้วกลับมาใส่อารมณ์กับชุดของตนอีกครั้ง
“ผมไม่ใส่หรอกนะ ยังไงก็ไม่ใส่แน่ๆ ล้มกองไปเลยก็ได้!” ศิลปินหนุ่มหันมาบอกเสียงแข็ง ทำเอาคนฟังได้แต่ฮึดฮัดอยู่ในใจ คนอื่นเค้าเตรียมงานมาค่อนคืน ตัวเองจะมายกเลิกกันง่ายๆ ขนาดนี้เลยเหรอ คิดว่าตัวเองเหนื่อยคนเดียวหรือไงกันฟะ
“จองซูช่วยพี่ได้ไหม ในราวนั้นเราอยากได้แบบไหนยำเอาเลย” ว่าแล้วผู้จัดการหนุ่มที่ดูท่าจะไม่ยอมให้ล้มกองแน่ๆ หันมาบอกลูกแมวตัวน้อยที่ยืนทำตาแป๋วๆ มองเหตุการณ์อยู่ข้างๆ
“ก็ได้ครับ ขอเวลาแป๊บนึงนะครับ” ร่างบางพยักหน้ารับหงึกๆ ไหนก็ต้องทำงานด้วยแล้ว เลือกๆ ไปไม่พอใจก็กลับเกาหลีแค่นั้น เฮ่อ!!! แล้วร่างบางก็เดินตัวลีบไปที่ราวเสื้อผ้าที่อยู่ตรงหน้า
“ทำไมนานจัง!” นั่นไง ไอ้ศิลปินขี้โมโห เลือกยังไม่ถึงสิบนาทีเลยนะ มันหาว่านาน จองซูได้แต่คิดในใจอย่างเข่นเขี้ยวเน้นฟัน
“ใจเย็นๆ สิ จองซูเขาเพิ่งมาทำงานนะ แล้วก็ไม่ได้เป็นคนจัดเสื้อผ้าให้นายด้วย” ฮีชอลหันไปเถียงแทนเพื่อนร่วมงานคนใหม่ อดสงสารไม่ได้ ไม่ได้ทำอะไรผิดด้วยเลยมาโดนหางเล่ ไปอีกคน
“มืออาชีพ เขาไม่มีอ้อยอิ่งกันหรอกน่า นายน่าจะรู้ดี” คนได้ยินยืนนับหนึ่งถึงล้านอยู่ในใจ พยายามสงบสติอารมณ์ไม่ต่อล้อต่อเถียงกับคนพาล
“หรือนายจะใส่ชุดนั้น” น้ำเสียงเรียบนิ่ง พอๆ กับใบหน้าของผู้จัดการคนเก่ง ทำให้ศิลปินคนดัง เงียบไปทันที ที่ได้ยิน สร้างรอยยิ้มน้อยๆ ให้กับคนถูกกดดันได้ไม่ยาก
“ได้แล้วครับ” แล้วร่างบางก็หันกลับมาพร้อมด้วยชุดใหม่ในมือ ที่ทำให้คนในห้องหันมามอง
“มันเรียบเกินไปหรือเปล่า” คนสวยเดินเข้ามาถาม เพราะมันเป็นแค่เสื้อยืดสีขาวที่มีลูกเล่นน้อยๆ ตรงแขนเสื้อกับเสื้อตัวนอกแขนกุกสีดำ ที่มีลูกเล่นเป็นพวกเครื่องเงินกับกางเกงผ้าสีดำพอดีตัว
“ไม่หรอก ถ้าเสื้อผ้ารกมากมันจะดูวุ่นวาย ทรงผมกับหน้าที่นายแต่งก็ดีอยู่แล้ว ถ้าทั้งเสื้อผ้าและใบหน้ามันเยอะเกินไปมันจะดูรก เน้นความมีเสน่ห์ไม่ใช่เหรอ เพิ่มเครื่องประดับอีกนิดหน่อยก็โอเคแล้ว คนใส่หน้าตาดีไม่มีปัญหาหรอก” จองซูตอบพลางยกยิ้ม ไม่วายแอบจิกกัดในท้ายประโยค ซึ่งคนที่ฟังนั้น ยกยิ้มขำๆ กับการค่อนคอดของคนตัวบาง แต่ในใจก็ภาวนาว่าพ่อนักร้องคนดังจะฟังภาษาเกาหลีไม่ออกแล้วกัน แล้วทุกคนก็หันไปมองศิลปินหนุ่มหล่อที่นั่งมองมาที่เสื้อผ้าชุดใหม่ด้วยสีหน้าเรียบๆ ไม่มีปฏิกิริยาอะไร นั่นทำให้จองซูถอนหายใจออกมาเบาๆ
“นายแต่งให้ฉันสิ” ภาษาเกาหลีที่เอ่ยออกมา ถึงจะไม่ชัดนักแต่ก็ฟังรู้เรื่อง คนตาสวยเบิกตากว้าง คิดร้องค้านอยู่ในใจ “แต่งเอาเองเส่!” เออมันฟังเกาหลีออกก็ดีแถมพูดก็ได้ด้วยแฮะเก่งเว้ย....แล้วเมื่อกี้ที่พูดไป เจ้าตัวคงได้ยินเต็มสองรูหู อ่า.....ซวยแล้วจองซู!!
“พี่แต่งให้ก็ได้” ว่าแล้วฮีโร่ในดวงใจของคนตาสวยก็พูดขึ้น ทำเอาศิลปินคนดังหันไปทำหน้าขมึงทึงแล้วเดินมาหยิบเสื้อผ้าของสไตล์ลิสคนใหม่ไปแต่งตัว
“ฮ๊า........หล่อเหมือนกันนะเนี่ย” เสียงแซวของคนสวยเมื่อเห็นชายหนุ่มเดินออกมาจากห้องแต่งตัว
“แน่นอนอยู่แล้ว” อารมณ์ที่เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ ทำให้คนตาสวยที่นั่งสนใจกับเครื่องประดับในกล่องได้แต่แอบเบ้หน้า อะไรจะหลงตัวเองปานนั้นวะ ว่าแล้วก็หยิบเครื่องประดับสองสามอย่างติดมือไป กำไลข้อมือหนังสีขาวประดับด้วยหนามสีเงินรอบ สร้อยคอต่างระดับอีกสองเส้น แหวนเงินวงใหญ่ กับผ้าตาข่ายสีดำที่เจ้าตัวหยิบติดมือมา
“ขอมือหน่อยครับ” ร่างบางพูดเสียงเรียบ และดูเหมือนศิลปินจะรู้ตัวจึงยื่นมือส่งให้ร่างบางแต่โดยดี เครื่องประดับทุกชิ้นถูกนำเข้าที่ในแต่ละส่วนตามที่นึกได้ ร่างบางยังคงก้มหน้าก้มตาตรวจความเรียบร้อย แล้วพลางนึกควรจะเพิ่มหรือเอาตรงไหนออกบ้าง โดยไม่ได้เงยหน้าขึ้นมองอีกคน ที่กำลังจับจ้องใบหน้าของตัวเอง
“อืม ดูดีกว่าไอ้ชุดนั้นเยอะเลย” คนสวยพูดพลางเดินเข้ามาตรวจความเรียบร้อยของศิลปินของตน
“ไปได้แล้วไป ผู้กำกับรอนานแล้ว” ผู้จัดการหนุ่มพูดขึ้นแล้วเดินนำออกไปจากห้องแต่งตัว
“จองซู ออกไปดูด้วยกันสิ” พูดจบก็คว้ามือคนตาสวยที่ยังยืนเก้ๆ กังๆ ให้เดินตามออกไปดูด้วยกัน
ตาคู่สวยมองไปยังคนที่ยืนอยู่ท่ามกลางแสงไฟ ดวงหน้าหล่อคมคาย จมูกโด่งเป็นสัน นัยน์ตาคมที่ดึงดูดทุกสายตาให้จ้องมองเหมือนถูกสะกด รูปร่างสมส่วนเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อสมชาย ริมฝีปากหยักได้รูป มองๆ ไปก็หล่อดีเหมือนกันแหะ แต่...ติดเรื่องมากไปหน่อย คิดไม่ออกจริงๆ ถ้าตานั่นใส่ชุดนั้นจะเป็นยังไงนะ ถึงแม้ในการพบหน้ากันครั้งแรกจะไม่ค่อยราบลื่นอย่างที่มันจะเป็น แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ไม่เลวร้ายเท่ากับที่คิดไว้ เพราะตอนนี้เขาก็มั่นใจได้ว่า จะไม่ถูกส่งกลับเกาหลีในช่วงเวลาไม่ข้ามวัน....
การถ่ายทำยังคงดำเนินต่อไปโดยมีจองซู ที่คอยแก้เปลี่ยนชุดที่เหลือที่จะต้องใช้ถ่ายทำ ตั้งแต่เช้ายันห้าโมงเย็นถึงได้เสร็จจากการถ่ายทำ สำหรับคนที่นั่งเครื่องมาแล้วนอนได้ไม่ถึงสองชั่วโมงดี พอขึ้นรถกลับบ้านก็หลับแข่งกับศิลปินหนุ่มที่เข้าชาญไปตั้งแต่ขึ้นรถแล้วเช่นกัน เว้นแต่ผู้จัดการหนุ่มกับคนสวยที่นั่งคุยกันอยู่เงียบๆ เพื่อไม่ให้กวนทั้งสองคน
“จองซู เก่งเหมือนกันนะครับ” คนสวยเอ่ยขึ้นพลางมองใบหน้าหวานของเพื่อนใหม่ ที่นอนหลับลึกอยู่ข้างๆ ตัว
“อืม........ขออย่างเดียวอย่ามีปัญหาอะไรเกิดขึ้นก็แล้วกัน” คำพูดที่ส่อเป็นนัยๆ ทำให้คนฟังหันไปมอง
“พี่รู้อะไรมา” คนสวยหันไปถาม ด้วยความงง
“ไม่มีอะไรหรอก ไม่ง่วงเหรอไง” คนสวยส่ายหน้าไปมา เมื่อวานหานเกิงไปอัดเสียงเขาก็เลยมีเวลาว่างนอนได้เต็มอิ่ม
“แล้วพี่ล่ะไม่ง่วงเหรอไง” คนสวยถามกลับบ้าง
“ไม่ล่ะ ตอนรอฮันมันอัดเสียงก็หลับไปหลายตื่น” คนสวยได้แต่ยู่หน้า เขาไม่น่าถามเลยจริงๆ
“แล้ววันนี้มีงานที่ไหนอีกไหมฮะ”
“มีตอนสองทุ่ม ถ่ายรายการ” คนสวยพยักหน้ารับหงึกๆ อดสงสารเพื่อนใหม่ไม่ได้ แต่ที่น่าเป็นห่วงก็หานเกิงมากกว่า รายนี้เวลาว่างแทบจะไม่มี อย่างพวกเขายังแอบงีบในช่วงรายการหรือตอนถ่ายทำได้บ้าง
“จองซูไม่กินข้าวเหรอ” เสียงของคนสวยเอ่ยถาม เพราะไม่อีกกี่นาทีอาหารเย็นจะมาส่งอยู่แล้ว
“ไม่ล่ะ อยากนอนมากกว่า” พูดจบก็เดินลิ่วๆ ไปที่ห้องนอน เรียกเสียงหัวเราะ จากแดนนี่ได้ไม่ยากเว้นหานเกิงที่มองตามแผ่นหลังบางไปด้วยความรู้สึกแปลกประหลาด
“เอาน่า เพิ่งจะบินมาถึงก็ไม่ได้นอนต้องออกไปทำงาน ให้เวลาปรับตัวหน่อยแล้วกัน” ผู้จัดการหนุ่มพูดพลางหันไปมองฮันเกิง
“ต่อไปถ้าออกอัลบั้มแล้วจะไหวเหรอฮะ” ชายหนุ่มพูดเสียงเรียบ แล้วทิ้งตัวนั่งโซฟานุ่มด้วยความเหนื่อยล้าเช่นกัน แต่หน้าที่ย่อมสำคัญกว่า
“ข้าวมาแล้ว กินๆ จะได้ไปพักผ่อน” ผู้จัดการหนุ่มไม่พูดอะไรมาก เพียงแค่นำอาหารเย็นขึ้นโต๊ะ
“ไหวไหมจองซู” คนสวยหันไปถามเพื่อนใหม่ที่ทำท่าจะหลับเหล่มิหลับเหล่
“หืม.....ถึงแล้วปลุกด้วยนะ” พูดจบก็หลับปุ๊บ เรียกรอยยิ้มเอ็นดูจากคนบนรถคงจะเหนื่อยมากจริงๆ เมื่อถึงสถานีสไตล์ลิสคนใหม่ก็เดินตามคนอื่นๆ ไปเรื่อยๆ จนถึงห้องแต่งตัว ตาคู่สวยจึงกลับมาสว่างเหมือนเดิม เมื่อถึงหน้าที่ที่ตัวเองต้องทำไม่มีความเหนื่อยล้าหรือง่วงนอนเหมือนตอนอยู่บนรถเลยสักนิด
การทำงานตั้งแต่เช้าเลยไปถึงอีกวันหนึ่ง เรียกพลังงานจากร่างกายไปเยอะเช่นกัน หลังโปรแกรมงานสุดท้ายทุกคนบนรถที่ล่วงลงเป็นไม้ใบ ไม่เว้นกระทั่งฮีชอลและแดนนี่ที่หลับตามจองซูกับหานเกิงไปตั้งแต่ขึ้นรถ
******************************
ตอนแรก ออกมาแบบงงๆ เจนก็งง
เรื่องนี้ สนอง Need ของตัวเองล้วนๆ คิดถึงเกิง อ่า แง่งๆ
สมาคิม ฮันทึก คงจะคิดว่า เรื่องนี้ต้องกุ๊กกิ๊ก กระดี๋ กระด๊า แต่ขอบอกไว้ล่วงหน้า
เกิง มานหื่นได้อีกนะ
อีกอย่างที่อยากจะบอกคือ ขอโทษที่ลงช้า!! เมื่อวันก่อนเค้าลืมจริงๆ คราวสัญญา แล้ว
ลงแล้ว อย่างอนเค้าน๊าาา!!!
อ่านให้สนุกนะคะ (รับรองไม่ดองงง...)
ความคิดเห็น