คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : โรงเรียน ...หรือ นรก!!!!!!!
สวัสดีค่ะ นักอ่านชาวเด็กดีทุกคน ก่อนเริ่มเรื่องนักเขียนมือใหม่อยาก “ orbit bear” อยากจะขอฝากตัวไว้ในอ้อมใจชาวเด็กดีด้วยนะ ถ้าเรื่องนี้ไม่สนุก หรือว่าสนุก หรือว่า บลาๆๆ ๆ ก็ขอความกรุณาเพื่อนๆที่รัก ช่วยคอมเม้นท์ด้านล่างกันนี๊ดดดด นึงนะคะ = = จะได้เป็นการปรับปรุงสำหรับเรื่องต่อๆไปค่ะ
“ เฮ้ยย ! จีมุน ทำไมพึ่งมาโรงเรียนตอนนี้เนี้ยะ นี่มันกี่โมงแล้ว หา ?” ยองซองเพื่อนของฉันพูด
“ แหะๆ -*- ขอโทษทีน้า ก็ ๆๆๆ แบบว่าเมื่อเช้าไง .... . อ้อ จีมุนตื่นสายไงน้า แต่ไม่ใช่ความผิดของฉันนะ ก็ไอ่นาฬิกาที่แกซื้อให้ฉันน่ะ มันหักหลังฉันไม่ยอมปลุกให้ตื่นตอนเช้าเหมือนทุกวัน นี่สงสัยต้องกลับไปทำโทษ แล้วพอถึงสี่แยกไฟแดงหน้าโรงเรียนก็ดันมาติดนานอีก IOI มันก็ไม่ใช่ความผิดของฉันจิงมั้ยลุงจราจร กับไอ่สัญญาณไฟต่างหากล่ะ ที่ไม่ยอมปล่อยรถทางฝั่งฉันน่ะ .. ....” ฉันนั่งสาธยายโยนความผิดไปให้สิ่งต่างๆรอบตัวโดยไม่ทันมองสีหน้าและท่าทางเพื่อนรักของฉันตรงหน้า ใครๆก็รู้ฉันน่ะไม่ยอมเป็นคนผิดอะไรง่ายๆ แน่ ถ้า
“แซยองซอง” เพื่อนรักฉันคนนี้ไม่โวยวายขึ้นมาซะก่อน = =’’
“พอเรย ยัยจีมุน แกมันก็งี้ทุกทีสิน่า -*- เคยมั้ยที่ความผิดจะติดอยู่บนหัวแกมั่งน่ะ !!” เอ๊ะ นังเพื่อนคนนี้มันกล้าขึ้นเสียงกับฉัยเว้ยเฮ้ย !!
“ เอ้า ~ งั้นทีหลังแกก็ไปว่ากับจราจรถนนเส้นนั้นแล้วกัน ฉันไม่ใช่คนกดสัญญาณไฟนี่นา” ฉันทำปากยื่นกวนบาทาใส่เพื่อนรัก แต่ถึงหยั่งงั้นก็ทำให้ยองซองอมยิ้มขึ้นมาได้เหมือนเคยทุกครั้งถึงฉันจะผิดเวลาการมาโรงเรียนที่เราตกลงกันไว้ว่าทุกเช้าจะมาพร้อมๆกัน เวลา 07.15 น.
“ พอเหอะแก ฉันเหนื่อยว่ะ” ฮ่าๆๆ ก็ดี ฉันก็เหนื่อยว่ะ ฮุ๊ววว ~
ฉัน “คิมจีมุน” เป็นเพื่อนรักกันม้ากกมากกับ “แซยองซอง” ตั้งแต่อยู่ ม.ต้น ใครๆก็เรียกฉันกับยองซองว่าคู่แฝดเพราะเราไม่เคยทิ้งกันไปไหนเลยจะไปไหนก็ต้องมีทั้งฉันทั้งยองซองเดินไปด้วยกัน บ้านของเราก็ทำธุรกิจร่วมกันจึงทำให้เราได้พบกันทั้งในโรงเรียนและที่ทำงาน อ้อ !! ฉันกับยองซองเรายังอยู่ ม. ปลายค่ะ แต่เรื่องทำงานน่ะ ของกล้วยๆ บริษัทของฉันเป็นบริษัทที่รวบรวมนักโปรแกรมเมอร์มือหนึ่งระดับประเทศไว้ในบริษัท ส่วนพ่อและแม่ของยองซองน่ะ ก็เป็นโรงงานผลิตชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์มันทำให้พวกเราต้องช่วยกิจการของครอบครัวเพราะ ปกติพ่อกับแม่เราจะบริหารงานอยู่เมืองนอก ส่วนเราสองคนก็คอยรับงานอยู่ที่เมืองไทยค่ะ
อ๊ะ ๆๆ อย่าเพิ่งหาว่าฉันเวอร์นะคะ ( ก็มันเป็นแค่นิยายนี่หน่า) -*-
“ ยองซองจ๋า” ฉันพูดด้วยน้ำเสียงหยาดเยิ้มมมจนเพื่อน ๆในห้องเหลียวหันมามองกันหมด อะไรย๊ะ เสียงชั้นแค่แพ้บียอนเซ่ แต่ชนะบริทนีย์เอ้ง = =
“ อารายยย” เสียงคนตอบดูเหมือนเหม่อลอยๆ ชอบกล จนเพื่อนคนข้างๆอดสงสัยไม่ได้ พอหันไปเพื่อนเจ้าของเสียงนั้นหันหน้าไปทางกระจกที่จะมองออกไปเห็นสนามบาสของโรงเรียน ฉันอดสงสัยไม่ได้จึงตั้งใจจะเดินไปดูซะหน่อยว่าเพื่อนของฉันกำลังมองอะไรอยู่ ทำไมดูเหม่อลอยแบบนั้นกันนะ ??
“โอ๊ยยยยย !!!”
“ แกจะไปไหน ไม่มีอะไรทั้งนั้นแหล่ะแกกลับไปนั่งที่แกเหอะ ไป๊”
ฉันถูกผลักให้ล้มลงไปนอนกองกับพื้นห้อง ยัยนี่ !! เรื่องแค่นี้ต้องประทุษร้ายฉันขนาดนี้เลยเราะ !! ยัยบ้า ดีนะเนี้ยะที่ฉันไม่เอาหน้าทิ่มลงไปไม่งั้น หนุ่มๆ คงไม่มีโอกาสได้เห็น สโนไวท์ในคราบเจ้าหญิงอีกแน่ๆ หุหุ โอยยย..
หนูเจ็บค้า ~ T^T
“ยองซองงง แกผลักฉ๊านนนนน ไปตายซะ” ฉันเดินไปตบหัวมันอีกทีแล้วค่อยเดินกลับมานั่งที่ คงไม่มีอะไรหรอกมั้งก็ปกติมันมีอะไรก็ต้องบอกฉันก่อนนี่นา
คาบนี้เป็นคาบคณิตศาสตร์ว่าด้วยเรื่องสมการต่างๆที่ต้องหาคำตอบ = = เป็นวิชาที่ฉันเกลียดมากที่สุดแต่ยองซองน่ะท็อปวิชานี้เบอร์หนึ่งของห้องเลยทีเดียวเชียว เหอๆ
“ยองซองงง ไปเข้าห้องน้ำกันเหอะ ปวดท้องง่า” ฉันทำหน้าอ้อนอย่างที่เคยทำมาตลอดใส่เพื่อนรักแต่กลับไม่สนใจฉันสักนิด ไม่ย้อมมม!!!
“ยองซองงง จีมุนไม่ไหววแล้วโว้ยยยย ไปส่งหน่อยสิว้ะ” ฉันตะโกนขึ้นมาทำให้เพื่อนๆทั้งห้องพร้อมกับอาจารย์คณิตศาสตร์หน้าห้อง
“คิมจีมุน หัก 5 คะแนนสำหรับพฤติกรรมเธอในวันนี้ และนั่น นั่นชีทที่ครูพึ่งแจกไปเธอเอาไปพับเป็นจรวดเล่นแล้วเหรอไงห๊ะ!!!” “อีก10คะแนนสำหรับความไม่ใส่ใจในการเรียน” อาจารย์หน้าโหดเดินหน้ากลับไปสอนวิชาสุดน่าเบื่อต่อ แล้วฉัน.....ก็ต้องนั่งอดทนอีกหนึ่งชั่วโมง โอ่ยยย
ณ. โรงอาหารของโรงเรียนฉัน
“วันนี้แกกินอะไรล่ะ??” ยองซองถามฉัน ฉันน่ะเป็นคนที่กินอะไรก็ได้ขอแค่เป็นของกิน คิดแล้วมันก็หิวววว~
“แล้วแต่แกสิ วันนี้ตาแกเลี้ยงฉันแล้ว หุหุหุ เชิญไปซื้อได้ ส่วนฉันเดี๋ยวข้ามรั้วไปซื้อปีโป้นอกโรงเรียนเดี๋ยวฉันกลับมานะ” ว่าแล้วฉันก็วิ่งออกมาจากโรงอาหาร ถ้าข้ามรั้วโรงเรียนหลังโรงอหารไปได้จะมีเซเว่นอยู่ข้างหลังโรงเรียนของฉัน นักเรียนส่วนมากที่เบื่อกับขนมจำศีลเจของโรงเรียนก็จะข้ามรั้วไปซื้อกันข้างนอกนี่แหล่ะ อ๊ะ ถึงแล้ว แล้วฉันก็จัดการรวบรวมขนมเกือบสองตะกร้าไปจ่ายตังค์ซึ่งเกือบทั้งสองตระกร้านั้นเป็นอาหารแคลอรี่สูงทั้งสิ้น แต่คนมันกินแล้วไม่อ้วน จะให้ทำไงล่ะ ฮ่าๆๆๆ
“ลั่นล้า ลั่นลา ปลา ปลา ปู ปู หมู หมากา ไก่” ฉันร้องเพลง และแกะปีโป้ไปพลางขณะที่กำลังพยายามปีนรั้วกลับมานั่นเอง ถุงที่ฉันใส่โค้กโคลาโคล่า ลั่นล้า และถุงปีโป้ของฉันมาก็หลุดมือตกลงไปริวรั้วโรงเรียน
“โอ๊ยยยย” หยึ๋ยยย !!เสียงมันดังมาเหมือนมีคนเจ็บ ใครโดนหมากัดรึเปล่าน้า (แกนี่ไม่ได้รู้เรื่องเล้ยยัยเซ่อ)
“มาแล้ววว มีอะไรให้ช่วยรึเปล่าน่ะ” คนตรงหน้าฉันเป็นผู้ชายหัวสีเงิน สูงกว่าฉันเกือบ 20 เซ็นฯได้เลยมั้งเนี้ยะ
ผิวขาวว ยืนเอามือปิดหน้าปิดตาอยู่นั่นแหล่ะ ฉันเลยเดินเข้าไปสะกิดๆ เผื่อมีอะไรพอที่จะช่วยเขาได้
“นี่ # โอ๊ยย” ไอ่หัวเงินนั่นมันผลักฉันลงมากองกับพื้น อะไรย๊ะคนกะจะช่วยแท้ๆมาผลักเค้าล้มกองพื้นขนานี้นิ่
“เธอใช่มั้ย ยัยเตี้ย !!! ที่เอาถุงไอ้นี่ลงมาฟาดดั้งฉัน” เอ๋ ? ถุงที่อีตาบ้านั่นมันถือขึ้นมาโยกเยกตรงหน้าฉันนั่นมัน.... ถุงขนมที่มีกระป๋องโค้ก โอ้ลั่นล้าของฉันอยู่ในนั้นนี่นา เหยยย อย่าบอกนะว่ามันตกลงจากรั้วสูงๆนั่นลงมาใส่ดั้งเขาน่ะ ตายแล้วฉันนน Y=Y
“ไม่ .... ไม่ใช่นะ ของฉันถุงนี้ต่างหากล่ะนี่ไง ๆๆ อยู่นี่ นายอย่ามามั่วนะ” ฉันพยายามทำหน้าตาเอ๋อสุดๆ และยกถุงขนมที่เหลือให้เขาดู
“ยัยเตี้ย แล้วทำไมไนถุงที่อยู่ที่ฉันมันถึงมีปีโป้ที่เหมือนในมือเธอถืออยู่ด้วยล่ะ” เขาทำหน้าโกรธ ปนโมโหจนฉันเริ่มจะกลัว แถมสายตาอาฆาตแบบนั้น ตายแล้วฉ๊านนน
“หา.... ในมือฉันน่ะเหรอถือ” คิมจีมุนก้มลงมองชิ้นส่วนพลาสติกทรงกรวยน้อยๆ ในมือของตัวเองแล้วคิดหนัก
“ก็เออน่ะสิ” หนุ่มผมเงินตะโกนใส่หน้าเธอ
“ก็ฉันแค่เก็บขยะมาทิ้งแค่นั้นเองนะ แล้วไอ้งั่งอย่างนายน่ะมีสิทธิ์อะไรมาเรียกฉันว่ายัยเตี้ย ถึงนายจะสูงแต่ฉันก็ไม่ถือว่าเตี้ยนะยะ” จีมุนตอบโต้บ้าง ทำเอาเขาผงะเลยทีเดียว
“ไอ้งั่ง งั้นเหรอ ...... ยัยเตี้ย เธอถือดียังไงมาว่าฉันห๊ะ!!!!!!!!!”
“ แล้วนายมันถือดีอะไรมาว่าฉันว่าเตี้ยยะ!!!!!!!!!!” ว่าแต่เขาก็น่าสงสารเหมือนกันแฮะ หน้าขาวๆ คิวเข้ม ปากอมชมพูได้รูปสวยเสียยิ่งกว่าฉันซะอีก แถวตายังเป็นสีน้ำตาลอีกต่างหาก ถ้าไม่มีรอยแดงตรงจมูกของเขาคงหน้าตาดีกว่านี้อีกมากเลยนะเนี้ยะ
“ก็เธอมันเตี้ย แล้วไอ้น้ำสีเขียวๆที่ติดริมฝีปากเธอว่ายังไง ไม่ใช่ไอ้นี่หรอกเหรอไงห้ะ” ชายหนุ่มผมเงินเดินมาเช็ดริมฝีปากของจีมุนเบาๆ ทำเอาจีมุนน้อยหน้าแดงกันทีเดียว อีตานี่มันอะไรของเขานะ จีมุนคิด -*-
“เอามือออกไปห่างๆเหอะน่ะ เออ !! ของฉันเองแล้วจาทำไมไม่ทราบบบบ” เธอลากเสียงยาวววยาวววเพื่อกวนประสาทเขาเล่นๆ แต่ชายหนุ่มกลับยิ้มมมน้อยๆ เผยให้เห็นลักยิ้มสองข้างของเขา
“งั้นก็ดีสิน่า ขนมถุงนี้ฉันถือว่าเป็นการทำโทษที่ทำให้หน้าหล่อๆของฉันเป็นรอย แต่ถ้ามีครั้งหน้าคงต้องเปี่ยนการทำโทษซะใหม่ นะ !! ยัยเตี้ยน้อย” สั่งเสียเสร็จชายหนุ่มก็เหวี่ยงถุงขนมแล้วเดินร้องเพลงคลอนำหน้าไป
“เฮ้ย ได้ไงนั่นขนมของฉันสำหรับคืนนี้เลยนะ เอาคืนมาก่อนเส่ ไอ้งั่งงงงง” จะเอาอะไรของฉันไปก็ได้ แต่ขนมคือดวงใจของฉันเลยนะ รักซะยิ่งกว่า น้องปีโป้หมาโกลเด้นที่บ้านซะอีก ฮือออ แล้วจีมุนก็วิ่งกระโปรงปลิวตามนายผมเงินไป เมื่อวิ่งตามทันเธอก็ฉวยข้อมือของเขาหวังที่จะเอาถุงขนมคือ พอดีกับที่มาถึงบริเวณประตูโรงอาหารที่ตอนนี้นักเรียนทุกคนเริ่มทะยอยกันออกมาจากโรงอาหารทำให้มีคนเดินแถวนี้เยอะมากกค่ะ
“กรี๊ดดด รุ่นพี่แซฮยอง รุ่นพี่แซฮยองมาพวกเรา”
“อ๊ายยยย รุ่นพี่ขามานั่งโต๊ะนี้มั้ยคะ”
“แซฮยองมากินข้าวกับเราทางนี้มั้ย” ทันทีที่หมอนี่เดินมาถึงประตูเสียงผู้หญิงทั้งแท้และเทียมก็ส่งเสียงครวญครางเหมือนลีจุนกิมาโปรดอย่างงั้นแหล่ะ อะไรกันเนี้ยะเกิดอะไรขึ้นนะ
“รุ่นพี่คะ ขอถ่ายรูปหน่อยค่ะ เอ๊ะ พวกเราหน้ารุ่นพี่ไปโดนอะไรมาน่ะ” เอ๋ หมอนี่น่ะเหรอ รุ่นพี่ฮยอนแซฮยอง รุ่นพี่ที่ว่าหล่อนักหล่อหนาของโรงเรียนน่ะ หมอนี่น่ะเหรออ ไอ้งั่งที่ฉันด่าเขาตะกี้น่ะเหรอ ตายยยย!!!
“แล้วยัยนี่เป็นใครกันยะ กล้ามาจับมือถือแขนเจ้าชายของเราน่ะ” พวกนักเรียนมุงเริ่มเบนหน้าหันมาทางฉัน แต่ทำไมสายตาที่มองฉันถึงไม่เหมือนกับตอนที่มองไอ้งั่งนี่กันหล่ะ เหมือนสายตาของคนพวกนี้มันจะแปลงร่างจากชุ่มชื่นกลายมาเป็นแข็งกร้าวได้ อะไรกัน!!! ถ้าไอ้งั่งนี่เป็นเจ้าชายของพวกเธอฉันก็เหมือนเจ้าหญิงเหมือนกันนั่นแหล่ะย่ะจะบอกไห่ ^^
“เอ่อ ๆ ฉัน ๆ ฉันแค่มาเอาขนมถุงนี้น่ะ” แล้วฉันก็ดึงถุงขนมที่เหมือนจะมีตีนตุ๊กแกติดเกาะทนทานดีกันนิ้วมือทั้งห้าของเขาเสียเหลือเกิน ชายหนุ่มเพียงแต่ก้มลงมายิ้มให้แล้วจับมือเธอไว้
“เอ่ออ ถ้าทุกคนไม่มีอะไร ฉันขอทำธุระกับเธอคนนี้ก่อนนะครับ” ไอ้งั่งพูดอย่างสุภาพ ทีกับฉันล่ะอย่างนู่นเตี้ย สามคำก็เตี้ย ร้อยคำก็เตี้ย หว่านสเน่ห์ไปทั่ว แหวะ TOTแล้วเขาก็ดึงมือฉันเบียดเสียดกลุ่มคนที่ส่อสายตาอาฆาตมาให้ฉัน แล้วไอ้งั่งนั่นก็เลือกโต๊ะที่ตรงกับพัดลมที่ใหญ่ที่สุดของโรงอาหารแล้วเอาขนมวางไว้บนโต๊ะ
“ปล่อยมือได้แล้วโว้ยยย” ฉันตะโกนขึ้นหลังจากที่เขาดึงฉันมานั่งอยู่ข้างๆบนเก้าอี้ตัวเดียวกันโดยที่กลุ่มคนที่อาฆาตพยายมฉันยังจับจ้องเราสองคนอยู่ เขามองหน้าฉันแล้วยิ้มอย่างกวนๆ แล้วค่อยๆปล่อยมือออก
“รออยู่นี่แหล่ะ ฉันจะไปซื้อข้าว” แล้วเขาก็เดินออกไป ว้าววว ..... ทิ้งถุงไว้งี้ก็เสร็จโจ๋เรนเจอร์ซี๊ หุหุ
“ อ๊อออ ขอโทษที ฉันลืมของน่ะ เดี๋ยวมานะครับ” เขายังยักคิ้วข้างขวาให้ฉันครั้งนึงก่อนเดินไป พร้อมกันเหวี่ยงถุงขนมฉันเล่นอย่างสนุกสนาน ธ่อโว้ยยย ไอ้งั่ง ทั้งงั่งทั้งบ้า ทั้งกวนประสาทที่สุดเลย โฮฮ T^T
เอ๋ ? นั่นมันรุ่นพี่คนนั้นนี่นา ......พี่คนนั้น เขารู้จักกันด้วยเหรอ รู้จักกับไอ้งั่งนั่นด้วยเหรอ ไม่จิงงนะ
ชายสูงโปร่ง ผมดำฟูชี้โด่เด่คนนั้น เขาเป็นผู้ชายที่ผิวขาว ตาตี่ และที่สำคัญสิ่งที่ทำให้เขาดูดีที่สุดคือรอยยิ้มที่เวลาเขาเผยยิ้มออกมาให้ใคร คนนั้นย่อมมีความสุขเมื่อได้เห็น ฉันรู้จักคนๆนี้ตั้งแต่เมื่อสามปีก่อน แต่เขาไม่รู้จักฉันหรอกเราเพียงแต่ chat ด้วยกัน เขาเป็นคนอารมณ์ดีพอตัวเลยหล่ะ ที่ฉันปลื้มเขาก็เพราะอย่างนี้ เขาเป็นคนเดียวที่เวลาฉันอารมณ์ไม่ดี แค่เขาคุยฉันก็อารมณ์ดีแล้ว เขาชื่อ “ยองแทอึน” จัดได้ว่าเป็นหนุ่มฮอตของ รร.เลยก็ว่าได้
เฮ้ !! เขาเอาจานข้าวมาวางที่โต๊ะฉันแล้วส่งยิ้มให้ ตาฝาดหรือเปล่าเนี้ยะ !!!!!!!!!!
“แซฮยองบอกว่าเขานั่งโต๊ะนี้ หรือว่าเธอนั่งอยู่ก่อนแล้วกันน่ะ”เขาพูดกับฉันเหรอ ? จิงๆน่ะเหรอ ?
“อ๋ออ ฉันเหรอคะ ??? = =” ตอนนี้หน้าตาฉันคงดูพิลึกกึ่กกือชอบกล สินะเขาถึงได้หัวเราะออกมาอย่างนั้น เขาผลักจานข้าวเข้ามานั่งข้างๆฉัน แล้วก็หันมายิ้มให้
“อื้มม เธอแหล่ะ กินข้าวด้วยกันมั้ย?” เขายิ้มจนตาหยี ฉันไม่เคยคิดเลยว่าคนที่ฉันแอบปลื้มมานานจะมานั่งข้างๆฉันอย่างนี้ และตอนนี้สายตาอาฆาตยิ่งส่องกระแสมาทางฉันเพิ่มเป็นสิบเท่า แต่ช่างเถอะฉันไม่สนใจอะไรแล้วล่ะตอนนี้
“อ๋ออออ ไม่ต้องหรอกยัยเตี้ยนั่น ขนซื้อเสบียงมาซะเยอะขนาดนี้แล้วนิ่” แซฮยองเดินกลับมาวางจานข้าวที่โต๊ะ แล้วก้มหน้าก้มตากินข้าวของเขาต่อไป ไอ้งั่งขี้เก๊กเอ๊ย
“ชื่ออะไรเหรอ เธอน่ะ” แทอึนถามฉัน ^O^
“เอ่อ คิ ม .. . ม”
“ยัยนี่ชื่อยัย เตี้ย” แล้วเขาก็เน้นคำว่าเตี้ยใส่หน้าฉัน ไอ้งั่งเอ๊ย นี่ถ้าไม่ถือว่านั่งอยู่กับแทอึนฉันซัดนายตอบแน่ -*-
“ฮ่ะ ๆๆ ๆ แซฮยองนายทำไมเสียมารยาทอย่างนี้หล่ะ ตกลงชื่ออะไรเหรอ??” แทอึนมองหน้าฉันไม่วางตาเพื่อรอฟังคำตอบ ตาหยีนั่นน่ารักจิงๆ อ๊ายยยย ~ จะละลายแล้ว ฉันจึงรีบก้มหน้าก้มตาเล่นกระโปรงนักเรียนของตัวเอง -*- ( ไม่มีอะไรเล่นแล้วเหรอย๊ะ )
“คิมจีมิน หรือเรียกว่าจีมินก็ได้”
“อ๋า ~ ฉันว่าชื่อเธอมันคุ้นๆเหมือนเคยรู้จักนะ” แทอึนทำหน้าตาครุ่นคิด น่ารักอีกแล้ววว ^////^
“ชื่อเหมือนหมาบ้านฉันไงหล่ะ เลิกคุยกับยัยนี่แล้วมาสนไจฉันมั่งเส่ วันนี้นายจะไปเที่ยวกับสาวพร้อมฉันมั้ยหล่ะ” แซฮยองขีดจังหวะขึ้นมา
“ไม่อ่ะ ช่วงนี้ติดเกมว่ะ อยากกลับหอไปเล่นเกมมากกว่า” นี่สิคนน่ารักของฉัน เขาต้องไม่ใช่เพล์บอยอย่างไอ้งั่งบ้านั่น
“อ้อ เหรองั้นวันนี้ฉันควงคนเดียวเลยนะ ฮ่าๆ” แซฮยองพูดขึ้นก่อนจะดื่มน้ำทั้งแก้วหมดรวดเดียว แล้วฉันมานั่งทำอะไรอยู่ตรงนี้เนี้ยะ
“นี่” เขาสองคนก็ยังคุยกันถึงเรื่องเกม เรื่องสาว เรื่องการ์ตูน เรื่องบลาๆๆ ~ กันต่อไป
“นี่” ก็ยังไม่มีใครสนใจฉัน = =^
“ นี่ไอ้งั้งโว๊ย” ฉันตะโกนขึ้นมา ทั้งแทอึนและแซฮยองต่างตกใจรีบหันมามองทางฉัน ตายแล้วหลุดคราบตัวจริงออกมาต่อหน้าแทอึนแล้ว
“ ฮ่ะๆๆๆ แทอึนยัยนี่ว่า นายงั่งว่ะ ฮ่ะๆๆๆ”เฮ้ยย ไอ้งั่งฉันว่าแกเว้ยยย
“ หา ~ เธอว่าฉันเหรอยัยน่ารัก” หา นายเรียกฉันว่าอะไรนะแทอึน คนน่ารักงั้นเหรอ ทำไมนายทำหัวใจฉันละลายอย่างงั้นละ ฉันจะไม่ไหวละนะยะ
“ ฉันเปล่านะ นายงั่ง นายว่าแทอึนได้ไง นายก็รู้ว่าฉันเรียกนายต่างหากล่ะ” ฉันพยายามดัดจริตทำเสียงเรียบๆ ไม่แสดงความโกรธที่มีออกมา นายงั่งแซฮยองหุบยิ้มทันที
“ยัยเตี้ย ขนมนี่เธออย่าหวังเลยว่าจะได้คืน” ว่าแล้วเขาก็เหวี่ยงถุงขนมของฉัน ลงถังขยะข้างๆโต๊ะทันทีพร้อมกับเอาเศษอาหารที่เหลือของเขาเทลงไปในถุงขนมด้วยเพื่อที่จะไม่ให้ฉันหยิบขนมขึ้นมาได้อีก
“นายงั่ง !!! นายทำอะไรน่ะ นั่นอาหารเย็นสุดท้ายของฉันนะ ทำไมนายใจร้ายอย่างนี้หล่ะ” ฉันพูดไปน้ำตาจะไหลไป ก็ฉันบอกแล้วว่ารักขนมมากกว่าหมาที่บ้านซะอีก ขนมฉ๊านนน ปีโป้ของฉ๊านนน ฮืออ T^T
“ยัยเตี้ย หุบปากแล้วนั่งเฉยๆซะ” เขาก้มหน้าก้มตากินข้าวต่อไปมองฉันสักนิดด้วยซ้ำ สักพักก็มีคนยื่นผ้าเช็ดหน้ามาให้ฉัน จะใครหล่ะก็ต้องเป็นสุภาพบุรุษคนเดิมน่ะสิ แทอึนนนน ^^
“ยัยน่ารัก เช็ดตาเร็วเข้าเดี๋ยวไม่น่ารักนะ” ฉันมัวแต่อึ้งๆ จึงไม่ได้รับผ้าเช็ดหน้ามาแล้วเขาก็ดึงมือฉันลุกขึ้นทันที
“แซฮยองนายกินไปก่อนนะ ฉันจะพายัยน่ารักไปซื้อขนมคืนก่อน” แซฮยองแค่หันหน้าขึ้นมามองแล้วก้มลงไปกินต่อ ชิส์ ไอ้งั่งฉันจะเกลียดแกตลอดไปเลย ไอ้เพล์บอยเอ๊ย ~
“ชิส์ แค่ขนมแค่นี้ทำมาเป็นร้องไห้ ... .. .. ” เขาพูดเบาๆหลังจากที่แทอึนเดินนำหน้าหญิงสาวออกไป เห็นเพียงหลังของเขาและหญิงสาวผมยาวคนนั้น
แทอึนเดินนำหน้าฉัน ซึ่งยังไม่หยุดร้องไห้ซะที ก็คนมันเสียดายอ๊ะ ปีโป้ที่รักของฉัน ฮืออ T^T เขาเดินลงมาจูงมือจีมุนให้เดินเร็วขึ้น
เฮ้ ~ เวลานี้ฉันมีความสุขที่สุดเลย แทอึนนนน ฉันเดินกับนาย เขาให้ฉันนั่งรออยู่ริมรั้วด้านในโรงเรียนก่อนที่จะยืนเช็ดน้ำตาให้ฉัน สาวๆที่ยืนแอบดูแทอึนคงอิจฉาฉันกันมากทีเดียวเพราะคนอย่างเขาไม่เคยมีข่าวกับผู้หญิงคนไหนแต่วันนี้เขามาเดินอยู่ข้างๆฉัน เฮ้ออ คิดแล้วก็กลุ้ม คนสวยก็เงี้ยะ -*- แล้วเขาก็กระโดดออกจากรั้วโรงเรียนไป พอตั้งหลักกับพื้นได้ก็หันมาขยิบตาให้ฉันทีนึงก่อนวิ่งเข้าเซเว่นไป ผ่านไปซัก 20 นาทีเขาก็วิ่งกลับมาพร้อมกับขนมอีก 3-4 ถุงแล้วส่งขนมข้ามรั้วมาก่อนที่ตัวจะตามมาทีหลัง เขาหอบน้อยๆ เพราะเหนื่อย
นี่เขาซื้อของให้ฉันเหรอ หนุ่มฮอตของโรงเรียนเนี้ยะนะ
“ได้ขนมแล้ว ยัยน่ารักเธอหยุดร้องไห้นะ ฉันไม่ชอบน้ำตาผู้หญิง” เขาพูดพร้อมกับชูถุงขนมส่ายไปมาให้ฉันดู
ฉันพยักหน้าตอบรับก่อนจะส่งยิ้มหวานไปให้ ที่เขาทำดีกับฉันคงเพราะอยากจะขอโทษแทนเพื่อนที่ทำขนมฉันต้องลงไปนอนแอ้งแม๊งอยู่ในถังขยะนั่นหล่ะมั้ง = =^
“นี่ถ้าเราเข้าไปเรียนตอนนี้คงโดนอาจารย์ว่าแน่ๆ เธอจะว่าไงยัยน่ารัก” เขาหันมาถามฉัน
“ก็ไม่รู้สิ ฉันก็โดนว่าอยู่ทุกคาบหล่ะน่า ฮ่าๆๆ” ฉันนึกถึงตัวเองแล้วก็อดหัวเราะออกมาไม่ได้ ทำเอาเขายิ้มไปด้วย อ๊ากก >< ฉันชอบจังเลยย ยิ้มอย่างนี้น่ะ
“เธอนี่ตลกดีนะยัยน่ารัก ฉันถูกชะตากับเธอแล้วหล่ะ ฮ่าๆๆ” เขาหัวเราะ แล้วเดินนำไป ตอนนี้ฉันเห็นแต่แผ่นหลังของเขา เหมือนเมื่อก่อนเลย เมื่อก่อนที่ฉันเดินตามเขาอย่างนี้ตลอดแต่เขาก็ไม่รู้จักฉัน I_I
“ขอบคุณพระเจ้า ที่ทำให้มีวันนี้ แทอึนอยู่ข้างๆหนูแล้วค่ะพระเจ้าขอบคุณจริงๆ” ฉันพูดเบาๆ เห็นคนข้างหน้ากวักมือเรียกฉัน ฉันจึงวิ่งไปเดินข้างๆเขา แล้วก็ขึ้นตึกเรียนแล้วแยกกันตรงบรรไดชั้นหก แต่เขาต้องเดินขึ้นชั้นเจ็ด เขาหันมาบ้ายบายก่อนขึ้นไป ฉันแทบละลายอยู่แล้ว นี่มันเรื่องจริงใช่มั้ยเนี้ยะ ?? = =
ฉันเดินเหม่อลอยขึ้นไปบนดาดฟ้าชั้นแปดของอาคารเรียนที่ฉันเรียนอยู่ นั่งเหม่อลอยคิดถึงเรื่องเก่าๆ รุ่นพี่คนที่เดินตามมาตั้งนาน คนที่ทำให้ฉันชอบใครไม่ได้มาตลอดสามปี แต่ตอนนี้ฉันรู้จักเขาแล้ว ฉันควรจะทำยังไงต่อดีนะ ควรจะสารภาพดีมั้ย หรือว่าต้องทำยังไงกัน ??
“ จีมุน เป็นไงอารมณ์ดีหล่ะสิ” เอ๋ ? เสียงยองซองนี่นา ใช่จริงๆด้วยยองซองเดินขึ้นมาหาฉันแล้วนั่งลงข้างๆ
“ ฉันเห็นแกทำความรู้จักกับรุ่นพี่แทอึนแล้วนี่นา แกไม่ดีใจเหรอ” ยองซองตื่นเต้นถามฉันอย่างรวดเร็ว
“ เฮ้ออ มันก็แค่บังเอิญน่ะ ต่อไปจะเป็นยังไงฉันก็ไม่รู้” แล้วฉันก็เดินลงบรรไดดาดฟ้ามา
“...... .. .. ฉันขอให้แกได้คุยกับเค้า สมหวังกับเค้า .... . .. อย่าได้คุยกับเพื่อนของเค้าอีกเป็นครั้งที่สองเลย”
ยองซองพูดกับตัวเองหลังจากที่คิมจีมุนลงไปแล้ว แล้วเดินตามลงไป
“นี่ แซฮยองฉันไปส่งยัยน่ารักมาแล้วว่ะ ความจิงแกไม่เห็นต้องรุนแรงกับน้องเค้าขนาดนั้น” ยองแทอึนพูดหลังจากเดินเข้ามาในห้องเรียน เขากับแซฮยองเป็นเพื่อนสนิทกันมาตั้งแต่มอต้นจนตอนนี้อยู่มอปลายแล้ว ในกลุ่มของเขามีเพื่อนอยู่ด้วยกัน 4 คน คือเขา ยองแทอึน หนุ่มฮอตของโรงเรียนอันดับที่หนึ่ง ควอนแซฮยอง หนุ่มหล่อที่ได้รับฉายาเพล์บอยประจำแก๊ง สาวๆต่างพากันยอมถวายตัวเพื่อได้ควงคู่กับเขาแม้จะเป็นเวลาแค่วันเดียวก็ตาม คนที่สามคือ ควอนแซมยอน ญาติผู้น้องของแซฮยอง เขาได้รับฉายาเจ้าชายมาดนิ่ง เนื่องจากเขาไม่เคยยิ้ม หรือแสดงอาการท่าทางบนใบหน้าใดๆเลย และไม่เคยหลงรักผู้หญิงคนไหนเลยอีกด้วยคนที่สี่ก็คือ ดงแชชิน หนุ่มหน้าหวานขี้หงุดหงิดประจำกลุ่มที่ได้รับฉายาขี้เก๊กจากสาวๆ แต่ก็มีสาวๆมากมายพากันหลงรักเพราะหน้าหวานๆของเขา
“แล้วไง? ยัยนั่นเรียกร้องความสนใจอะไรมากมายเหรอ” แซฮยองหันหน้าขึ้นมาจากการเล่นเกมกด
“ก็ไม่แล้วไง เฮ้ย แชชินวันนี้เล่นเกมกันนะเว้ย ห้ามไปหลีสาวที่ไหน” แทอึนหันหน้าไปหาเพื่อนอีกคน แล้วหยิบหนังสือเรียนขึ้นมาฟังอาจารย์ที่ยืนหัวโด่รอสอนอยู่หน้าห้อง
“แทอึนเมื่อกี้ฉันเห็นนายเดินจูงมือกับสาวที่ไหนวะ ? หน้าตาจิ้มลิ้มดีนิ่” แทอึนยิ้มขึ้นมาทันที แล้วหันไปหาเจ้าของเสียง แซมยอน
“ยัยน่ารักน่ะ ฉันได้เจอเพราะไอ้หมอนี่แหล่ะ เห็นแล้วมันน่าเอ็นดู ปี 3ห้องa ว่ะ” แซมยอนยิ้มหลังจากแทอึนตอบมา
หึหึหึ เพื่อนฉัน นึกว่าจะหลงรักแต่เกม ใครกันนะที่ทำให้เพื่อนเขาสนใจได้ ภายในเวลาแค่นิดเดียว
ความคิดเห็น