ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [D.Gray-man] My Doll

    ลำดับตอนที่ #3 : Stabile 3 - Rest Time

    • อัปเดตล่าสุด 3 ม.ค. 52



    - 3 -

    Rest Time

    [ช่วงเวลาแห่งการผักผ่อน]

     

     

     

    ความรักมันน่าพิศวงนะ

    เพราะเป็นสิ่งที่แม้ไม่ได้รับการตอบแทน

    เราก็ไม่เสียใจที่คิดจะรักใครสักคนหนึ่ง….

    .....แต่นั่นมันเพราะเลือกไม่ได้ต่างหากล่ะ

    บางครั้งเราก็เลือกที่จะรักไม่ได้นี่นา

     

     

     

     

     

     

    อ้าวยูทำไมถึงลงมาเร็วจังล่ะ ...แล้วนั่นจะไปไหนจ๊ะ?

     

    หญิงสาวเอ่ยทักเด็กหนุ่มร่างสูงเจ้าของเรือนผมสีดำขลับที่กำลังเดินลงบันใดเอื่อยๆพร้อมติดกระดุมเสื้อโค้ดไปด้วยอย่างฉงน

     

     ผมมีธุระคงจะกลับเย็นหน่อยนะครับเด็กหนุ่มตอบพร้อมฉวยผ้าพันคอสีน้ำเงินเข้มขึ้นพันลวกๆ ก่อนหันกลับไปหามารดาที่มองส่งเพื่อบอกลาอีกครั้ง

     

    ไปก่อนนะครับ

     

    จ้า ไปดีมาดีนะ

     

     

     

    วันนี้ก็หนาวจัดอีกแล้ว อีกสักพักหิมะคงจะตกสินะ...

     

    .......เขาถอนหายใจจนเกิดเป็นควันสีขาวขุ่นที่ค่อยๆเลือนหายไปกับอากาศ ท้องฟ้าสีหม่นลงทุกทีจนเขานึกตำหนิตนเองอยู่ในใจ ด้วยเลินเล่อขนาดแค่ร่มหรือหมวกสักใบก็ไม่หยิบติดมา แต่มาบ่นเอาตอนนี้ก็ช่วยไม่ได้อยู่ดี

     

    ขาเรียวก้าวเดินเชื่องช้าแม้จะรู้ว่าอีกเดี๋ยวหิมะจะตก แต่เขาก็อยากจะเดินต่อไปเรื่อยๆเป็นการทอดอารมณ์ในแบบฉบับของเขา แต่เวลานั้นก็หมดลงเมื่อเขาเริ่มได้ยินเสียงเจื้อยแจ้วของเหล่าบุคคลที่นัดกันไว้

     

    เบื้องหน้าคือสวนที่กว้างสุดลูกหูลูกตา ดอกไม้มากมายเบ่งบานอวดสีสัน และบ้านขนาดกลางสีอิฐ สถานที่ของพวกเขาบ้านพักนอกชานเมือง บ้านที่มีชื่อซึ่งหมายถึงการพักผ่อนว่า ‘Respite’

     

    แกร๊ก!

    เขาปิดประตูเบาๆและเตรียมรองเท้าแตะสำหรับเดินในบ้านซึ่งเป็นคู่ที่เขารู้สึกเกลียดมันทุกครั้งที่เห็นแต่ก็ต้องยอมใส่อย่างเสียมิได้ทุกทีเช่นกัน

     

    อะไรเขาถามเซ็งๆเมื่อรู้สึกถึงบรรยากาศที่เงียบผิดปกติหลังจากเขาก้าวเข้ามา ความไม่มั่นใจเกิดขึ้นชั่วขณะว่าเขามีอะไรแปลกไปหรือไม่ อย่างมีอะไรติดหน้า ติดกระดุมผิดเม็ดหรือว่าจะไม่ได้รูดซิบ ???

     

    แต่ก็เปล่า...อันที่จริงเขาเนียบทุกเวลาอยู่แล้ว

     

    เปล๊า แค่คิดว่านายก็สายเป็นเด็กหนุ่มผมสีแปลกตาสีมรกตเป็นคนตอบคำถามของเขาด้วยท่าทีที่... น่าหมันไส้เป็นที่สุด หมอนี่ชื่อราวี่และถึงไม่อยากจะยอมรับเท่าไหร่แต่ความจริงคือเจ้านี่เป็นเพื่อนสนิทของเขา

     

    พูดอะไรน่ะราวี่เสียมารยาทนะหญิงสาวตากลมโตสีอเมทิสและผมยาวสีเดียวกับเขาพูดเสียงแผ่วพร้อมตีแขนราวี่เบาๆแบบไม่จริงจังแต่ก็ไม่พ้นหูและตาของเขาอยู่ดี

     

    ช่างเถอะรินารี่ เจ้านี่มันเกินเยียวยาแล้วล่ะเขายักไหล่พรางแก้ผ้าพันคอและโค้ดยาวพาดไว้ที่โซฟา หันมองเด็กหนุ่มผมสีอ่อนที่ส่งเสียงทักเขาแล้วผงกหัวนิดๆเป็นเชิงว่ารับรู้ แต่พอจะนั่งลงก็ถูกเจ้ากระต่ายสีส้มชนแรงๆจนเซไปนั่งที่โซฟาอีกตัวใกล้ๆกันแทน เกิดบ้าอะไรขึ้นมาอีกล่ะเขาถาม

     

    นายดิบ้าทำหน้าเซ็งโลกอีกแล้วนะ ใครกันแน่ที่เกินเยียวยาน้ำเสียงงอนๆกับการทำปากยื่นนิดๆทำให้เขาเกือบหลุดหัวเราะ แต่ก็ยังปั้นหน้านิ่งเอาไว้ได้ทันท่วงที

     

    คิดว่าทำแบบนั้นมันจะน่ารักรึไง ...แต่ขอบอกไว้เลยละกันว่าคิดผิด!”

     

    โหย~ยู~ พูดงี้มาตีกันเลยดีกว่ามา!”ราวี่ยกมือขึ้นทำท่าท้าตีท้าต่อยตามประสาคนบ้าจนเขาต้องตัดบทด้วยการหันไปคุยกับไคน์แทน

     

    ...ถึงไหนแล้วล่ะงานน่ะเขาพลิกหน้าหนังสือประวัติศาสตร์แบบลวกๆก่อนหยิบเล่มใหม่ที่มีเนื้อหาใกล้เคียงกันอีกเล่มมาดู

     

    ที่เน้นไว้ก็คืบหน้าไปมากเหมือนกันแหละแต่เหลืออีกนิดหน่อย พอดียังหาส่วนของหัวข้อนั้นไม่ได้อ่ะเด็กหนุ่มผมผมสีอ่อนส่งรายงานที่เรียงไว้ให้เขาดู

     

    ด้านรินารี่ก็หันไปวุ่นวายกับการเตรียมน้ำชาและขนม เกิดเสียงก๊อกแกร๊กนิดหน่อยก่อนที่เธอจะยื่นชาร้อนหอมกรุ่นให้เขา  นี่จ้ะ วันนี้สูตรใหม่ด้วยนะน่าจะถูกปาก เธอยิ้มให้เขาที่รับมันมาแล้วกล่าวขอบคุณเบาๆ

     

    แน่ล่ะจืดสนิทเลยนี่นา รินารี่เอาใจยูเกินไปแล้วไคน์วิจารณ์พร้อมพาดพิงถึงเขาเสร็จสรรพ ก่อนที่ราวี่จะผสมโรงด้วยอีกคนทั้งๆที่คุกกี้เต็มปาก ร้อนถึงเขากับไคน์ต้องรีบดึงขนมกับหนังสือหลบ ช่าย~ ๆ ชั้นน่ะชอบแบบหวานๆมากกว่า ง่ำ! หวานนิดๆแบบคาวก่อนอ่ะดีแย้ว เศษขนมที่กระเดนกระดอนออกมาจากปากทำให้เขาอยากจะกดหัวฟูๆนั่นลงกับโต๊ะซักทีอย่างห้ามไม่ได้ ...ให้ตายโตแต่ตัวจริงๆหมอนี่

     

    หยุดพูดสักทีเถอะราวี่ เฮ้ย! นายทำบ้าอะไรเนี่ย!”ไคน์ที่ดูจะทนไม่ไหวลุกขึ้นเต็มความสูงเมื่อราวี่ยังคงจ้อไม่หยุดแถมด้วยการหันมาตามเสียงดุของเด็กหนุ่ม แต่ดันเกิดอาการติดคอและทำเหมือนจะคายของเก่าใส่ซะได้ สาบานเถอะว่าหมอนี่เพื่อนเขา น่าสมเพชจริงๆ

     

    พวกนายเลิกเล่นซะที ถ้าไม่คิดจะช่วยก็นั่งเงียบๆกันไปซะ!”เขาสั่งเสียงเข้ม.... และมันก็ได้ผลเสมอ....

     

    .

     

    .

     

    .

     

    ท่อนไม้ในเตาผิงส่งเสียงเปรี๊ยะ ๆ ท่ามกลางเสียงหวีดหวิวของลมหิมะด้านนอกที่แทบจะเรียกได้ว่าพายุ เขาเงยหน้าขึ้นมองมันเป็นบางครั้งบางคราว

     

    มองพวกตัวจุ้นที่หลับสบายบนโซฟาพร้อมผ้านวมสีสวยที่เด็กสาวคนเดียวในกลุ่มนำมาห่มให้แล้วหมันไส้นิดๆ แต่ก็ยังดีที่พวกมันเลือกจะนอนหลับที่สร้างความรำคาญให้เขาน้อยนิดจากเสียงกรน มากกว่าจะนั่งคุยเล่นจนเขาหมดสมาธิที่จะทำงาน

     

    เวลาไหลผ่านไปอย่างเงียบงันและในที่สุดงานของเขาก็เสร็จ

     

    เฮ้อ…”เขาถอนหายใจอย่างเหนื่อยอ่อนหลังจากทิ้งตัวลงกับโซฟาแบบเต็มที่แล้วแหงนมองออกไปนอกหน้าต่าง... หิมะยังคงตกหนักทำให้เขาเลิกคิดที่จะกลับบ้านทันที ประจวบกับพอยกข้อมือขึ้นดูนาฬิกาก็ปรากฏว่าเวลาได้ผ่านไปเกือบสามชั่วโมง ....งานเสร็จไวกว่าที่คิดไว้เยอะ

     

    งืมๆ กินไม่ไหวแล้ว…”ราวี่ละเมอออกมาพลางผลิกตัวไปทับไคน์ที่กลิ้งอยู่ข้างๆ ก่อนกระชากผ้านวมจากอีกฝ่ายไปห่มแทนผ้านวมของตนที่กระจุยกระจายไปคนละทาง ทำให้เด็กหนุ่มอีกคนเริ่มขดตัวเป็นกุ้ง ...ถ้าจำไม่ผิดเมื่อสองชั่วโมงก่อนพวกนั้นยังนอนกลิ้งบนโซฟาแท้ๆแล้วดูตอนนี้... ลงพื้นเรียบร้อย

     

    เจ้าพวกบ้าเขาพึมพำหน้าเมื่อย

     

    ฮะๆ...ก็ปกตินี่นารินารี่ที่อ่านหนังสืออยู่ข้างๆเขาหันไปมองแล้วลุกขึ้นหยิบผ้านวมขึ้น พอดีกับที่ไคน์คงทนความหนาวไม่ได้พุดลุกนั่งด้วยสภาพตาปรือหัวฟู

     

    ถึงว่าตื่นเดี๋ยวนี้เลยไอ้บ้าราวี่~!!”ไคน์กระชากผ้าห่มคืน มืออีกข้างก็เบิร์ดกะโหลกคนที่ยังไม่ยอมตื่นจังๆไปหนึ่งที

     

    หือ...?ราวี่งึมงำ ...ดูมันเถอะขนาดนี้ยังไม่รู้สึกตัว - -*

     

    ป๊ะ! ไอ้บ้านี่นอนดีนักขอให้ไหลตายไปเลย!!”เด็กหนุ่มลุกขึ้นยีหัวตัวเองอย่างไม่สบอารมณ์มือก็ลากผ้าห่มติดมาด้วยแล้วนั่งลงบนโซฟาตัวโปรด

     

    งานเสร็จแล้วหรอยู...ห้าว~”มันนั่งขยี่ตาพลางถามเขาแถมด้วยหาวปิดท้ายอีกที ...ชั้นว่าแกไปนอนต่อจะดีกว่านะ = =;;

     

    อืม

     

    แล้วไม่กลับบ้านหรอ อเลนรอนายอยู่หนิ?เรื่องของอเลนเจ้าพวกนี้ก็รู้ดีเพราะสนิทกันตั้งแต่เด็กก็เป็นธรรมดาที่จะรู้เรื่องของอีกฝ่ายมากเหมือนเป็นเรื่องของตัวเอง

     

    เขาไม่ได้ตอบเพราะไม่รู้จะตอบว่าอะไรดี

     

    เขาอยากจะกลับแต่กลับไม่ได้...

     

    เขาไม่อยากจะกลับเพราะกลับไปก็ได้แต่เฝ้าดูร่างนั้นนอนนิ่งไม่ไหวติง....

     

    นายคิดว่าลมหายใจคืออะไร?เขาหันไปมองหน้าเด็กหนุ่มเต็มๆพร้อมตั้งคำถาม

     

    ...ไม่รู้ดิไคน์ตอบทันทีแบบแทบไม่คิด ลมหายใจก็คือลมหายใจ มันจะเป็นอย่างอื่นไปได้ยังไง?แถมส่งคำถามกลับหาเขาอีกที ....ตกลงเขาต้องเป็นคนตอบรึไง - -*

     

    ช่างเหอะ!”เขาถอนหายใจ แล้วหลับตาลงด้วยความรู้สึกง่วงเพราะบรรยากาศ เสียงสุดท้ายที่แว่วเข้ามาคือเสียงของผู้หญิงคนนั้น

     

    ...ต้องให้ลมหายใจ!”

     

     

      ------- To Be Continued…-------

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×