คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : เจ็บครั้งที่ 2 - สายเกิน
"ชอบสิครับ"
ผมตอบด้วยรอยยิ้ม..
“จริงอ่ะ !! งั้นต้องรีบไปบอกข่าวดีกับยูซะแล้ว ฮ่าๆๆ”
“ชอบแบบเพื่อนนะครับ” ราวี่หน้าม่อยลงทันที
แล้วเกรินนำด้วยท่าทางจริงจัง...
“ถามไรหน่อยได้ไหมอเลน”
“ครับ ?”
“ถามจริงๆตอบจริงๆเลยนะ”
“ครับผมจะตอบ”
“...นายรักยูบางรึเปล่า?”
“...........ไม่รู้สิครับ ผมไม่ได้คิดเรื่องนี้เลย ก็แค่คิดว่าเป็นเพื่อนที่ดี”
หลายครั้ง ที่ตอบออกไปแบบนั้น...
และหลายครั้งที่ราวี่ มักได้ความเงียบเป็นคำตอบ ...
เรื่องที่ว่าไม่เคยคิดน่ะโกหกทั้งเพ ผมรู้อยู่แก่ใจ ...
เพราะทุกครั้งที่มีใครถามผมก็มักจะถามตัวเองเสมอว่า รัก หรือเปล่า..
แต่ก็ตอบไม่ได้ ผมยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่ารักที่ว่าต้องรู้สึกแบบไหน...
คิดว่าคงต้องมากกว่าชอบ แต่ต้องมากขนาดไหนกัน ผมก็หาคำตอบไม่ได้...
และโกหกออกไป....
แต่ผมคงคิดง่ายเกินไป ที่คิดว่าเรา จะสามารถคงความสัมพันธ์แบบนี้อยู่ได้...
เพราะวันนึง ราวี่ก็บอกเรื่องนั้นกับผม... อย่างจริงจัง...
“อเลน ชั้นรู้นายอาจลำบากใจ แต่นายรู้ไหมว่ายูรักนาย”
“เอ๋~ ไม่จริงมั้งครับ พูดเป็นเล่นไปราวี่”
“ชั้นไม่ได้ล้อเล่นนะ ก็ยูบอกกับชั้นเอง ชั้นรู้ว่าไม่ควรพูดแต่ชั้นก็ทนดูแบบนี้..ไม่ได้จริงๆ”
“............................”
“....หลายครั้ง ที่ดูยูจะอ้ำๆอึ้งๆเหมือนมีเรื่องจะพูดแต่ก็ไม่ยอมพูดนายก็เห็น...”
“อาจจะพูดเรื่องอื่นก็ได้นี่ครับ”
“อเลนนายก็รู้” ราวี่คราง “ยูรักนายนะ แล้วนายล่ะรักยูรึเปล่าแค่นายตอบอเลน ตามเสียงหัวใจของนาย” เสียงหัวใจหรอผมจะตอบได้ยังไงในเมื่อผมก็ไม่รู้!
“ผมไม่รู้” ราวี่ถอนหายใจเบาๆเมื่อ ฟังคำตอบที่เบาหวิวจนแทบจะถูกเสียงลมกลบหายไปในอากาศ
“งั้น นายคิดจะเปิดรับยูรึเปล่า ถ้ายูมาสารภาพกับนาย”
“ผมกับคันดะน่ะเป็นผู้ชายนะครับ ผมไม่พร้อมจะรับใครทั้งนั้นล่ะครับ”
“อเลน นายจะปิดกั้นหัวใจนายเพราะเหตุผลว่าพวกนายเป็นผู้ชายไม่ได้หรอกนะ แค่ยูรักนายและนายก็รักย..”
“หยุด! พอเถอะครับราวี่ เรื่องนี้น่ะถ้าจะล้อเล่นก็น่าจะพอได้แล้วนะครับ ถ้าเขารักผมทำไมถึงให้ราวี่มาพูดล่ะ ถ้าแค่วางแผนมาปั่นหัวผมเล่นละก็พอเถอะครับ มันไม่สนุกเลย” ไม่เลยสักนิด...
“ยูไม่รู้เรื่องนี้นะ ชั้นมาพูดเองต่างหากนายก็รู้ว่าเขาไปทำภารกิจ”
“หึหึ ใครจะรู้เขาอาจกลับมาแล้ว อาจวางแผนกับคุณแล้วยืนหัวเราะอยู่ใกล้ๆนี้ก็ได้นี่”
“อเลน!!! ”
“ผมขอตัวครับ”
“อเลนอย่าพูดเรื่องนี้กับยูนะ เขาไม่รู้เรื่องที่ชั้นมาบอกนาย!!”
มันเป็นวูบนึงที่ผมรู้สึกโมโหจนอธิบายไม่ถูก...
ที่เขาบอกว่าชอบผมให้คนอื่นฟัง แต่ไม่บอกผม ...ให้คนอื่นมาบอกเรื่องนั้นกับผม..
โดยที่เขาไม่ยอมออกมาพูดเอง ขอบตามันร้อนผ่าว...
ทั้งโกรธ ทั้งโมโห และน้อยใจ...
ตอนนั้นมันอาจแค่ชั่ววูบที่ผมรู้สึกขึ้นมา จนพาลไปโทษว่าราวี่กับคันดะแค่อยากลองใจแค่อยากแกล้งผม โดยเอาเรื่องที่ผมขบคิดมันจนหัวแทบแตกขึ้นมาเป็นประเดน เพราะผมอาจทำอะไรที่มีพิรุจเกี่ยวกับเรื่องนี้ออกไป...
และนั่นทำให้ผมปฏิเสธเรื่องนั้นไม่ได้อีกต่อไป ว่าผมไม่รู้ เรื่องที่คันดะ รักผม ...
ทำไมนะ ทั้งๆที่ผมยังไม่พร้อมที่จะรับรู้ ไม่สิไม่พร้อมที่จะบอกว่าผมรู้ต่างหาก...
แต่ราวี่บอกว่าคันดะไม่รู้ เพราะงั้นผมคงไม่ต้องบอกก็ได้ใช่ไหม ว่าผมรู้เรื่องนั้นแล้ว...
อเลนไม่ได้รู้เลยว่าวันนั้น สิ่งที่พูดออกไป มันจะถูกครึ่งนึง..
เรื่องที่คันดะหลบอยู่ใกล้ๆนั้น และได้ยิน...บทสนทนาเกือบทั้งหมด...
.
.
.
.
.
.
ปึก!
“อ๊ะ ขอโทษครับ” ผมพูดขอโทษออกไปทันทีหลังจากที่ชนกับใครบางคนจนเกือบคะมำ เมื่อเงยหน้ามองชัดๆก็พบว่าเป็นเจ้าของเรือนผมสีรัตติกาลประกายน้ำเงิน เจ้าของเรือนผมที่ผมคิดว่ามันช่างดูนุ่มสลวยและดึงดูดให้จับจ้อง มันทำให้รู้สึกตกใจไม่น้อย แน่ล่ะ! คิดถึงอยู่ตัวจริงก็มา..ผมปรับสีหน้าให้เป็นปกติอย่างรวดเร็วแล้วเอ่ยทัก
“อ้าว คันดะ ยินดีต้อนรับกลับบ้านครับ แล้ว.. กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่ครับเนี่ย??” คันดะขมวดคิ้วจนมันแทบจะพันกันยุ่ง แล้วเอ่ยเสียงกระชาก
"สองวันก่อน ถ้าไม่มีอะไรแล้วก็อย่ามาขวางทางชั้น”
“อ่าครับ ขอโทษครับ” ผมได้แต่ยิ้มแหย ดูเหมือนเขาจะอารมณ์ไม่ดี ?
.................................................
....................................
.......................
..........
หลายวันมานี้ผมพบเขา พูดคุยเหมือนปกติ ใช่มันดูเหมือนจะปกติ......
แต่กลับรู้สึกต่างออกไป ทั้งๆที่ก็คุยกันนับคำได้แบบนี้อยู่แล้วแท้ๆ...
ทว่า ผมก็เลือกที่จะปัดความรู้สึกนั้นทิ้งไป อาจเพราะช่วงนี้ดูจะว้าวุ่นเรื่องของเขาบ่อยๆ เลยคิดแค่ว่าคงแค่คิดมากไปเอง..
แต่หลายวันที่ผ่านพ้นไปอีกนั้น ทำให้ผมรู้สึกขึ้นมาจริงๆว่ามันแปลก...
ถึงจะคล้ายแต่ก็ไม่ใช่....
เขาพยายามหลบหน้าผม....
“คุณ...หลบหน้าผม?” ผมเอ่ยขึ้นหลังจากที่วิ่งตามเขาจนทัน
“ทำไมชั้นต้องหลบหน้านาย สำคัญตัวผิดไปรึเปล่าเจ้าถั่วงอก” คันดะสวนกลับอย่างเย็นชา คำพูดของเขาทำให้ผมสะอึกและได้แต่อ้ำอึ้ง
“ว่าไงล่ะ? มีเหตุผลอะไรที่คิดว่าชั้นต้องหลบหน้านาย”
“เปล่านี่ครับ ผมแค่...”
“..............”
“ผมคงคิดไปเองจริงๆ” ผมเลือกที่จะเลี่ยงและยิ้มเจื่อนๆ ผมคง..สำคัญตัวผิดไปเองจริงๆ..
ไม่พูด ไม่มอง ไม่ทะเลาะ ...
มันทำให้ผมรู้สึกเจ็บ ..ที่ใจ....
ทรมานแบบที่ไม่เคยคิดว่าจะรู้สึกได้....
จนในที่สุดผมก็รู้ตัว ว่าความรวดร้าวราวกับบางสิ่งมันพังทลายหายไปคืออะไร "ผมรักเขา"
ผมเจ็บเพราะเขาไม่พูดกับผม...
ไม่ชวนทะเลาะเหมือนทุกที...
เพราะเขา ไม่มีท่าทีห่วงใยเหมือนเคย...
ไม่แม้แต่จะมองมา...
เพราะเขาเมินผม...
ที่ผ่านมาผมแค่ ไม่อยากยอมรับว่าตัวเองเปลี่ยนไป ไม่อยากจะยอมรับความเปลี่ยนแปลงนี้ และปฏิเสธกับตัวเองเสมอ
...ว่ารู้สึกดีแค่ไหนที่เขาพูดคุย โดยที่มันอาจจะเริ่มจากการทะเลาะกัน แต่ทว่าผมก็สามารถรู้สึกได้ถึงความห่วงใยบางๆที่ส่งผ่านมากับถอยคำถากถางพวกนั้น และสายตาที่ถึงไม่หันไปก็รู้ว่าเขามองการกระทำของผมอยู่ ...
แต่มันจะมีประโยชน์อะไรในเมื่อ.....
“ไงยู แอบกิ๊กกับรินารี่ก็ไม่บอก" ราวี่กอดคอคันดะอย่างสนิทสนม
"อยากตายรึไงไอ้กระต่ายติงต๊อง แส่เรื่องคนอื่นอยู่ได้" คันดะพลักออกอย่างรำคาญ (จะว่าไปคันดะน่ะไม่ได้ชักมุเก็นไล่ฟันราวี่แล้วล่ะครับ ไม่รู้เหมือนกันว่าเพราะอะไร??)
"อะไรแค่นี้ก็ไม่ได้ ทุกทีก็มาปรึกษานี่นา หรือยูหมดรักกันแล้ว เพราะรินารี่ใช่ไหม T^T" ราวี่แกล้งทำท่าเหมือนคนจะขาดใจแทบจะลงไปนั่งพับเพียบเป็นนางเอกหลังข่าว แต่พอเห็นคันดะที่ยกเท้าทำท่าจะยันโครมให้ติดผนังเพราะจริตสุดโอเว่อร์ ก็เด้งผึงถอยหนีจนพ้นระยะ ก่อนที่พระบาทงามๆกระประทับลงมาได้หวุดหวิด
"โหดร้าย~ คิดจะประทุษร้ายกันหรอยู งอนแล้ว ชิๆ -3- ”
"ช่างแก"
"=[]=!"
"ง่ายูอ่ะ ดีกันเหอะนะ นะ ไม่งั้นชั้นไปบอกโคมูอินะเอ้า" ราวี่เป็นฝ่ายขอคืนดีเฉย ทั้งๆที่ตัวเองเป็นฝ่ายประกาศว่างอนแล้วแท้ๆ แถมขู่ทิ้งท้ายอีก เอาไงกันแน่ไม่เข้าใจเลยจริงๆ - -*
"= =; " คันดะทำหน้าเอื้อมสุดๆ แล้วพละจากไปโดยไม่พูดอะไร ปล่อยให้ราวี่ที่ยื่นนิ้วก้อยขอคืนดียืนเก้อ ก่อนจะค่อยๆวิ่งตามไปพร้อมเสียงโวยวายอย่างงอนๆ
ภาพที่คนทั้งคู่แสดงวิธีสนทนาแบบใหม่(?) มันดูน่าขันอย่างประหลาด แต่ผมกลับหัวเราะไม่ออก...
ก็เขาไม่ปฏิเสธ...
มันก็แน่ล่ะรินารี่น่ะ ใจดีและน่ารัก อย่างผมจะไปสู้เธอได้ยังไงกัน!!?
ฮะฮะ..
ในที่สุดผมก็หัวเราะ หัวเราะแบบขืนๆ เสียงหัวเราะที่มาพร้อมหยาดน้ำตา...
มันพรั่งพรูออกมาไม่หยุด ..
จะร้องไห้ทำไมนะก็ผมทำตัวเองนี่นา ผมเลือกแบบนี้เอง แล้วตอนนี้ที่เขากำลังจะมีความสุข กับคนที่เขารักผมจะมีสิทธิ์อะไรไปห้ามเขาล่ะ จะมีสิทธิ์อะไรที่จะฉุดรั้ง รั้งความสุขของเขา...
จะมีสิทธิ์พูดว่า “รัก” ได้ยังไง ...
ทุกอย่างมันสายไปแล้ว....
+++++++++++++++++++++++++++++
To Be Con Ti New
++++++++++++++++++++++++++
ความคิดเห็น