คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : เจ็บครั้งที่ 5 - ความสุข
.
เจ็บครั้งที่ 5 - ความสุข
+++++++++++++++++++++++++++
“ชั้นก็รักนาย ...อเลน”
“!!”
“...โกหก คุณไม่ได้รักผมหรอก คุณโกหก!!”
เนตรสีนิลมองร่างบางด้วยสายตาที่ยากจะคาดเดา
“ทำไมนายถึงคิดว่าชั้นหลอกนายล่ะ ทุกสิ่งที่ชั้นเคยทำมันไม่เคยมีความหมายกับนายเลยรึไง คำว่ารักจากชั้นมันเชื่อไม่ได้เลยรึไงกัน!!!”
“...ป่านนี้แล้ว นายยังจะคิดว่าชั้นสุมหัวกับราวี่มาหลอกนายอีกงั้นหรอ!” ร่างบางเบิกตากว้าง
“คุณ...รู้..?”
“ใช่! ชั้นรู้ แต่ไม่ใช่เพราะวางแผนมาหลอกนาย ชั้นก็แค่บังเอิญได้ยิน ได้ยิน ..ที่นายบอก ว่านายไม่เคยคิดอะไรกับชั้นเลย! นายรู้ไหมว่าตอนนั้นชั้นรู้สึกยังไง เคยสนใจบ้างไหม!” คำพูดนั่น สายตานั่น ร่างสูงแสดงมันออกมาอย่างไม่คิดจะปิดบัง ความอ่อนแอทั้งหมดของเขา.......
..... ที่ผ่านมาคันดะรู้สึกแบบนี้มาตลอดหรอกหรอ .....
.... แล้วนี่เขาเผลอทำร้ายคนตรงหน้ามานานเท่าไหร่กัน ! ....
“ผม... ผมขอโทษ ต..ตอนนั้นผมสับสน ผมกลัว กลัวทุกอย่าง ทั้งคนรอบข้างและความรู้สึกของผมเอง..”
ร่างบางลนลาน พูดตะกุกตะกัก มึนงงกับทุกสิ่งที่ได้รับรู้
“ ...มีผู้หญิงมากมายที่ดีกว่าผม ไม่มีเหตุผลอะไรที่คุณจะรักผม รักคนที่คุณเคยบอกว่าเกลียด ผมเลยกลัวว่าคุณจะไม่ได้รักผมจริงๆ กลัวว่ามันจะเป็นแค่เรื่องตลก”
“เหตุผลน่ะ มันไม่มีตั้งแต่แรกแล้วล่ะ ชั้นไม่ได้สร้างเหตุผลว่าทำไมต้องรักนาย ไม่ได้จำกัดเอาไว้ว่าต้องเป็นนายเท่านั้น แต่คนที่ชั้นรักเป็นนาย ....... เพราะฉะนั้น นายอย่าพยายามหาเหตุผลจากชั้นจะได้ไหม?”
ร่างสูงรวบตัวร่างบางเข้ามากอด น้ำเสียงนั้นอ่อนล้าสิ้นแรง
“ครับ จะไม่ถามถึงมันอีกแล้ว” อเลนจับใบหน้าคมให้เงยสบตาเขา
“ผมรักคุณ
.
.
.
.
.
.
.
“คันดะครับ ไปดูทางนู้นกันเถอะครับ” ร่างบางชี้ให้ร่างสูงดูซุ้มที่มีเค้กหน้าตาน่าทานจัดวางอยู่หน้าร้านด้วยดวงตาเป็นประกาย ก่อนจะดึงแบบที่แทบจะเป็นลากไปทางนั้นทันที
“เค้กนี่อร่อยจัง อ๊ะ! ร้านนั้นก็น่าอร่อยดีนะครับ”
“คันดะครับ ดอกไม้นั่น...”
“โว๊ยย !!! นี่แกลืมรึเปล่าเนี่ย ว่าเราต้องมาติดแหงกอยู่ที่นี่เพราะอะไรน่ะ ห๊ะ!?” ร่างสูงที่ชักทนไม่ไหวเพราะถูกลากไปลากมาตั้งแต่เช้าจนตอนนี้ตะวันแทบจะตกดินอยู่รอมร่อ ร่างบางก็ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดเดินซักที โวยขึ้นอย่างหัวเสีย
‘นั่นสินะเราลืมอะไรไปรึเปล่านะ?’ อเลนคิดในใจอย่างงงๆ รู้สึกตะขิดตะขวงใจแบบแปลกๆ
.
.
.
สงสัยล่ะสิ งั้นย้อนกลับไปในตอนเช้ากันดีกว่า
หลังจากเหตุการณ์อาคุมะบุกก็ผ่านมาหลายวันแล้ว และวันนี้เป็นวันพิเศษของเมืองนี้ ที่จะมีการจัดแสดงร้านค้าและโชว์ต่างๆ ก่อนปิดท้ายด้วยการเต้นรำที่จัตุรัสกลางเมืองเขตเมืองใหม่ในตอนกลางคืน แต่ที่สำคัญที่สุดคือ!! ฟรีตลอดงาน~!!! ซึ่งมีข้อบังคับอยู่เพียงหนึ่งข้อ คือทุกคนที่มาร่วมงานต้องใส่ชุดประจำเมืองเท่านั้น
ด้วยเหตุนี้ร่างบางและร่างสูงจึงอยู่ในชุดประจำเมืองของเมืองนี้เรียบร้อย [แบบว่าจิ้นเอาล่ะกันค่ะ เพราะคาลก็ไม่รู้จะจิ้นยังไงดี ]
ร่างบางที่ดูจะอารมณ์ดีเป็นพิเศษ เพราะอยู่ในช่วง ปั๊บปี้เลิฟ เลิฟลี่ๆ แฮปปี้สุดๆ ก็อารมณ์ดียิ่งขึ้นไปอีกเมื่อได้กินฟรีดื่มฟรีแบบไม่อั้น แถมมีโชว์สวยๆ มาให้ดูอยู่ไม่ขาด
จึงลากคันดะไปทางนู้นทีทางนี้ทีไม่ได้หยุด เรียกว่ามีกี่ซุ้มแม่เข้ามันซะหมด จนเกิดเป็นเหตุการณ์แบบที่เกิดขึ้นทางด้านบนนั่นแล
.
.
.
นู๋งอกน้อยที่โดนว่า เริ่มน้ำตาหลอหูลู่หางตก ดูน่าสงสานยิ่งนัก
เจอมุขนี้เข้าไปก็แน่นอนว่าพี่ดะของเรานั้นถึงกับผงะน้ำเสียงอ่อนลงหยังกะขี้ผึ้งลนไฟ
“ เออๆ ตามใจแกแล้วกัน..” พูดเสร็จก็สะบัดหน้าหนีซะ
“จริงนะครับ!!” นู๋งอกกลับมาสดใสอีกครั้ง ถึงแม้จะแปลกใจกับคำอนุญาตของร่างสูงอยู่ไม่น้อยก็ตาม (ซื่อจริงหนอ//คาล)
“เออ!” เมื่อได้รับคำอนุญาตเป็นครั้งที่สอง ร่างบางก็จัดการเปิดมหกรรมการลากถูลู่ถูกังอีกครั้ง
คันดะถอนหายใจเดินตามอย่างว่าง่าย ‘โทษใครได้เขาใจอ่อนเองแท้ๆ ...แต่ได้เห็นเจ้านั่นยิ้มสดใสแบบนี้อีกครั้งก็ไม่เลวนักหรอก’ รอยยิ้มที่ยากจะหาได้พาดผ่านเรียวปาก ร่างสูงหยักยิ้มบางมองการกระทำของคนตรงหน้าด้วยสายตาอ่อนโยน
.
.
.
.
.
.
.
“เฮ่.. เจ้าถั่วงอกกลับกันได้รึยัง นี่แกเดินจนมันทะลุหมดแล้วนะ”
“เห? เดี๋ยวสิครับ อีกแปบงานกลางคืนก็จะเริ่มแล้วนะครับ จะไม่อยู่ดู ......” แต่พูดไม่ทันจบเสียงพลุมากมายก็ดังขึ้น
ปุ! ปัง ปัง ปัง ฟิ้ววว~! ปัง ปัง !!!
“เอาล่ะค่ะ ในที่สุดก็ถึงช่วงเวลาที่ทุกคนรอคอย!! ตอนนี้เป็นเวลาทุ่มตรงแล้ว ...ขอเปิดงานประจำปีช่วงกลางคืน ณ บัดนี้ค่าาา อ๊ะๆ ...หนุ่มสาวคู่ไหนอย่ามัวเอียงอาย มาเต้นรำขอพรกับดวงดาวกันหน่อยสิคะ เปิดคู่แรกเขาว่าความรักจะรุ่งพุ่งแรงจนฉุดไม่อยู่เลยทีเดียว แบบนี้รอช้าไม่ได้แล้วน๊า รักใครชอบใครดึงออกมาเลย~” หญิงสาวในชุดประจำเมืองสีอ่อน เอ่ยเปิดพิธีแข่งกับเสียงพลุอย่างร่าเริง ที่ฟังแล้วเหมือนจะเสนอขายอะไรสักอย่าง
อเลนมองพลุลูกแล้วลูกเล่าที่ถูกจุดขึ้นฟ้าอย่างตื่นตา หัวเราะคิกกับคำพูดของผู้หญิงที่ยืนประกาศอยู่บนเวที ก่อนจะเหลือบมองคนข้างๆที่เงยหน้ามองพลุอยู่
‘รักใครชอบใครก็ดึงออกไปเลยงั้นหรอ แต่เขาจะยอมไหมนะ?’
“เอ่อ... คันดะครับ” ร่างบางเอ่ยเสียงแผ่ว ด้วยเกรงว่าคนข้างๆจะไม่ชอบใจกับคำขอของเขา ยังไงซะคันดะก็ยอมเขามาทั้งวันจะเอาแต่ใจอีกก็กระไรอยู่
“หืมม?”
“ค..คือว่า..ผมอยากเต้นรำน่ะครับ ปะ..ไปเต้นรำกันไหมครับ?” ร่างบางเอ่ยอย่างกล้าๆกลัวๆ ใบหน้าหวานนั้นแดงซ่านอย่างน่ารัก มือไม้ปัดป่ายจนต้องเอาไปไขว้ไว้ด้านหลัง
ร่างสูงเพียงเลิกคิ้ว ก่อนจะจูงมือร่างบางออกไปทามกลางคู่เต้นมากมาย ที่ออกมากันตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้
ดนตรีเริ่มบรรเลงทวงทำนองที่แสนอ่อนหวานไพเราะ เสียงเจื้อยแจ้วที่เอื้อนเอ่ยกันนั้น ฟังดูมีความสุขเปี่ยมล้น และร่างบางก็เช่นกัน วันนี้ทั้งวันเขามีความสุขมากที่คันดะยอมตามใจเขากระทั่งยอมออกมาเต้นรำด้วยกันแบบนี้ ตอนแรกเขานึกว่าจะโดนโวยซะอีก
“นี่ๆ ดูคู่นั้นสิ น่ารักดีนะเธอว่าไหม?”
“ไหนๆ ...อ้อ! คู่นั้นเอง ชั้นมองอยู่ตั้งแต่ทีแรกแล้วล่ะ แต่คนเยอะก็เลยคลาดสายตาไป นี่ๆแล้วเธอว่าคนไหนเป็นผู้ชายน่ะ น่ารักทั้งคู่เลยนะเธอ >o<”
“ฮะๆ” ถึงจะอายก็เถอะ แต่เขาก็อดหัวเราะไม่ได้ กับสองสาวที่เม้ากันไม่เบาเท่าไหร่แล้วพยักพะเยิดมาทางพวกเขา พอหันมองคันดะก็พบว่าร่างสูงกำลังหน้าแดงไม่รู้ว่าโกรธหรือเขินกันแน่ กัดฟันกรอดๆ แผ่รังสีแปลกๆออกมาจนคู่ที่เต้นใกล้ๆ ต่างจรลีหนีหายเปิดทางเป็นวงกว้าง ....เด่นกว่าเดิมซะอีกแน่ะ
“หัวเราะอะไร เจ้าถั่วงอก” คันดะถลึงตามองเขา ถามเสียงต่ำในลำคอ
“..จะให้เขาไม่เข้าใจผิดได้ยังไงกัน ก็คันดะน่ะหน้าสวยใช่ย่อยนะครับ แถมวันนี้ยังรวบผมต่ำระต้นคอแบบนี้อีก มัน...คิก คิก” ร่างบางพูดอย่างไม่กลัวตาย แถมพูดไม่จบดันหัวเราะซะอย่างนั้น
“มันอะไร?” คันดะกัดฟันอย่างฉุนๆ
“มัน...มันน่ารักครับ ฮะฮะ”
"........"
“กล้ามากนะที่ใช้คำว่าน่ารักกับชั้นน่ะ หึหึ!” ร่างสูงกระตุกยิ้มเย็น จนร่างบางเสียวสันหลังวาบเหงือแตกซิก
“ง่า อาคือ...คือว่า...”
“ชั้นจะทำให้นายคิดใหม่เองเจ้าถั่วงอก!!” ว่าจบ ริมฝีปากเรียวก็ประกบกับปากบางสีกุหลาบนั่นทันที สองแขนโอบรอบเอวร่างบางเข้าแนบชิดตนเองยิ่งขึ้น ลิ้นนุ่มสอดแทรกหาความหวานจากร่างบาง
“กรี๊ดดดดดดดดดด~!!! จูบ! จูบกันแล้วเธอดูสิ โอยชั้นจะละลาย >///<”
“ฮื่อ! เห็นแล้วๆ อ๊ายยยยย~!! แมนมากเลย คนนั้นต้องเป็นผู้ชายแน่ๆ กรี๊ดดด น่าอิจฉาที่สุด~!! >///<” สองสาวยังคงเม้าแตกมองคู่รักสุดสวีทด้วยใบหน้าแดงก่ำ
อเลนที่ตกใจเบิกตาโพลงทั้งผลักทั้งดัน แต่วงแขนที่โอบเขาไว้รัดแน่นยิ่งกว่าคีมเหล็ก สุดท้ายก็ค่อยๆหลับตาลงรับสัมผัสจากร่างสูงแต่โดยดี ลิ้นเล็กเริ่มตอบสนองอย่างเก้ๆกังๆ
จูบเนิ่นนานทำให้ร่างบางเริ่มขาดอากาศหาย ร่างสูงจึงยอมถอนริมฝีปากออก แล้วไล้ริมฝีปากเล็กด้วยลิ้นช้าๆ เอ่ยถามน้ำเสียงยียวน
“ไง... ชั้นน่ารักรึเปล่าเจ้าถั่วงอก?” อเลนหอบหายใจ ใบหน้าแดงซ่านสะบัดหนีร่างสูงด้วยทั้งเขินทั้งงอน
“มะ ไม่เห็นน่ารักเลย คนเอาเปรียบ”
“หืมม? ชั้นหรอเอาเปรียบ นี่เป็นค่าตอบแทนต่างหากล่ะ”
“ค่าตอบแทน?” คิ้วเรียวขมวดเข้าหากัน ทวนคำอย่างงงๆ
“นายคิดว่า... ชั้นจะยอมตามใจนายโดยที่ชั้นไม่ได้ประโยชน์อะไรเลยรึไง?”
“นี่คุณ! วางแผนไว้??” อเลนเบิกตากว้างมองคนเจ้าเล่ห์ที่เริ่มเผยยิ้มกริ่ม
“หึ ก็ไม่เชิง” ร่างสูงไหวไหล่ ส่วนร่างบางนั้นแทบคลั่งเพราะตกหลุมพรางเข้าเต็มๆ โธ่~ หลงนึกว่าใจดีที่แท้ก็มีแผน แล้วนี่เขากังวลไปทำไมกันเนี่ยยยยย~!!!
“คุณมัน หมาป่าชัดๆ” อเลนพองแก้มบ่นงึมงำ
“จะถือว่าเป็นคำชมละกัน” ร่างสูงคุกเข่าลงตรงหน้าร่างบาง ริมฝีปากประทับบนหลังมือบางเบาๆ ในจังหวะที่บทเพลงกำลังจะจบลง
“เอ๋ ไม่เต้นแล้วหรอครับ?” ร่างบางท้วงอย่างเสียดาย ไหนๆคันดะก็ไม่ได้ตามใจเขาฟรีๆอยู่แล้วนิ งั้นขอเอาแต่ให้ถึงที่สุดเลยแล้วกัน !!! [การจูบที่หลังมือคือท่าจบของเมืองนี้ค่ะ ดังนั้นเมื่อไม่อยากเต้นแล้วฝ่ายชายจะจูบหลังมือฝ่ายหญิงแต่ แต่กรณีของฝ่ายหญิงจะต้องย่อกายลงในท่าถอนสายบัวแล้วยื่นมือขวาให้ฝ่ายชายจ้ะ]
“เต้นกันต่อเถอะครับ นะ?” อเลนพยายามรั้งร่างสูงไว้ .....แต่ผิดคาดเพราะเขากลับถูกเหวี่ยงขึ้นบ่าซะงั้น
“ชั้นเบื่อแล้ว” ร่างสูงเอ่ยหลังจากจับร่างบางให้นั่งลงบนม้านั่งสีอ่อน
“แต่ผมอยากเต้นนี่ เราไม่ได้มีเวลาว่างแบบนี้บ่อยๆนะครับ ไหนๆก็ไหนๆแล้วน่าจ...”
“เจ้ยยยย~!!!/เฮ้ยยยย~!!!” อเลนและคันดะร้องลั่นผงะหงายหลังไปคนละทาง
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
To Be Con
++++++++++++++++++++++++++++++++
หายไปนานกับเรื่องนี้ และถ้าใครเคยอ่านแล้วจะรู้ว่ามันเปลี่ยนไป 555+
ความคิดเห็น