คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : เจ็บครั้งที่ 4 - สารภาพ
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
'ขอโทษ ขอโทษค่ะ ขอโทษ...ชั้นช่วยได้เพียงแค่นี้ ชั้นขอโทษ.... เพราะฉะนั้นเธอต้องบอกเขาด้วยตัวเองนะ’
“ไม่ ...ม่ายยยยยยยยยยยยยยย!!!”
‘ต้องบอกนะ!!’
.
.
.
เฮือก!!!!
อเลนผวาจากที่นอน สองมือไขว่คว้าหาอากาศ น้ำตามากมายยังคงไหลอาบแก้ม
มะ...เมื่อกี้? เมื่อกี้เป็น...
.....เป็นความฝัน? อย่างนั้นหรอ!?
คำถามมากมายประดังประเดเข้ามา ทั้งว้าวุ่นและสับสนรู้สึกปวดหัวแทบระเบิด ความจริงความฝัน ตอนนี้คือสิ่งไหนกันแน่ !!!
พอผินมองไปรอบๆ พบว่าเป็นห้องพักของเขาเอง และมันเป็นเวลากลางคืน
‘ไม่อยากอยู่คนเดียวในห้องมืดๆแบบนี้ ไม่เอา กลัว เขากลัว!! ใครก็ได้!’ กายบางสั่นสะท้าน หวาดหวั่นกับความมืดรอบข้าง นึกอยากจะกรีดร้องหาใครซักคนแต่ลำคอกลับแห้งเป็นผง
สองมือโอบกอดตัวเองแน่นเข้า หวังว่าอย่างน้อย มันอาจจะทำให้รู้สึกดีขึ้นแม้สักนิดก็ยังดี
โครม~!!!!!!
อเลนผวาสุดตัวอีกครั้งกับเสียงประตูไม้ที่อัดเข้ากับผนังห้องดังสนั่น ร่างสูงปรากฏขึ้นในท่าผลัก(ถีบ)ประตู เป็นการเปิดที่รุนแรงจริงๆ =_=;
“...คันดะ?” ร่างบางครางแผ่ว รู้สึกเต็มตื้นขึ้นในอก ความหวาดกลัวเมื่อครู่สลายหายไปเกือบหมดสิ้น
“เกิดอะไรขึ้น!?” คันดะเดินเข้าประชิดเตียงของร่างบาง มองใบหน้าหวานที่สะอื้นไม่หยุด นึกอยากโอบกอดคนตรงหน้าไว้ อยากปลอบให้หยุดร้องไห้เสียที เพราะน้ำตานี่ไม่ดีต่อสุขภาพจิตใจเขาเอาเสียเลย ให้ตายสิ
ร่างสูงที่ตอนนี้มาดหลุดไปแล้ว ตรวจดูร่างบางอย่างเป็นห่วง ก้มๆเงยๆ วัดไข้ จับหมุนซ้ายหมุนขวา สารพัดจะทำ พอเห็นว่าไม่มีอะไรผิดปกติก็เตรียมจะโวยข้อหาร้องให้ตกใจเล่น แต่กลับต้องกลืนคำผรุสวาท ลงคอเพราะร่างบางที่โผมากอดคอเขาแน่น
“คันดะ คันดะ คันดะ” ร่างบางเรียกชื่อเขาไม่หยุด กายบางสั่นเทิ้มเป็นลูกนกปีกหัก สัมผัสเปียกชื้นที่หัวไหล่บอกให้รู้ว่าคนที่กำลังกอดเขายังคงร้องไห้ไม่หยุด
เขาไม่รู้ว่าควรทำอะไรให้ดีไปกว่าการกอดตอบคนตรงหน้า ไวเท่าความคิดนั้นอ้อมแขนก็กระชับเอวบางเข้าหาตน
ไม่รู้ว่าร่างบางหวาดกลัวเรื่องอะไร แต่ถ้าเห็นว่าเขาสามารถเป็นที่พึ่งให้ได้ เขาก็ยินดี......
ภายในห้องมืดสลัว มีเพียงแสงจันทร์เท่านั้นที่สาดส่อง คนสองคนเหมือนจะกำลังสื่อสารกันทางการกระทำ แต่แน่นอนว่าแค่การกระทำมันคงยังไม่เพียงพอ เนิ่นนานที่ต่างคนต่างจมอยู่กับภวังค์ของตนเอง
ร่างบางพลันนึกถึงเสียงที่ได้ยินก่อนจะตื่นขึ้น
‘ต้องบอกนะ!!’
เขาก็ไม่รู้ว่าต้องบอกอะไรแต่สิ่งที่เขาอยากจะบอกตอนนี้คือ.....
“รักนะครับ ผมรักคันดะนะครับ!” อเลนที่ตัดสินใจได้เงยหน้าขึ้น เอ่ยบอกเสียงพร่า แต่สายตานั้นแน่วแน่ และมั่นคงในความรู้สึกของตน ที่มีให้กับคนตรงหน้า
เป็นครั้งแรกที่ร่างบางเห็นสายตาของร่างสูง ซึ่งแสดงความสับสนออกมาอย่างปิดไม่มิด เขายิ้มบางกับภาพที่เห็นภาพที่ต่างจากจินตนาการนิดหน่อย
“ขอโทษนะครับที่จู่ๆ ก็พูดอะไรแบบนี้ ...แต่ผมอยากจะให้คุณรู้ไว้ ถึงความรู้สึกของผม.... แม้จะไม่ตอบรับ แม้จะปฏิเสธก็ไม่เป็นไร ! ขอแค่ตอนนี้เท่านั้น ช่วยอยู่แบบนี้อีกซักพักได้ไหมครับ....” อเลนซบลงกับบ่าแกร่งอีกครั้ง
“....ผมสัญญา ว่าจะไม่ทำให้คุณลำบากใจอีก”
“ชั้น...”
ตูม ตูม ตูม~!! กรี๊ดดดดดดด!
เสียงระเบิดและแรงสั่นสะเทือนทำให้ทั้งสองคนผละออกจากกันทันที
“นี่มัน หรือว่าAkuma!!!” อเลนตื่นตระหนกกับเหตุการณ์ที่ดูคุ้นๆในความรู้สึก
คันดะรีบประมวลสถานการณ์โดยรอบ เขาเห็น Akuma ระดับ1 นับสิบตัวบนฟากฟ้า และอีกสามสี่ตัวที่กำลังไล่ฆ่ามนุษย์
ร่างสูงสำแดงฤทธิ์ก่อนกระโดดออกทางหน้าต่างฟาดฟันกับอาคุมะบนฟากฟ้า ตัวแล้วตัวเล่าไม่เคยได้สร้างแม้รอยขีดข่วน
อเลนมองร่างสูงที่ละเลงเลือดอย่างตื่นตะลึง ‘นี่มันบ้าชัดๆ ทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้!!’
ถึงแม้จะสับสนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เหมือนกับตนกำลังดูหนังม้วนเดิมที่ฉายซ้ำ แต่ร่างบางก็ฝืนสำแดงฤทธิ์ทั้งที่ร่างกายและความคิดไม่พร้อมเท่าไหร่
Akuma ที่เห็นในตอนแรกถูกกำจัดไปหมดแล้วแต่ก็ยังมีพวกใหม่บุกมาไม่ขาด ตอนนี้คันดะอยู่ในวงล้อมของระดับหนึ่งตรงถนนหน้าจตุรัส ส่วนเขาพึ่งกระโจนออกมาอยู่ที่ถนนไม่ไกลจากคันดะเท่าไหร่และตกอยู่ในวงล้อมเช่นกัน
ผ่านไปนานเท่าไหร่ไม่รู้ ทั้งเขาและคันดะเริ่มจะหอบเพราะAkuma ที่ดาหน้ากันเข้ามาไม่รู้จักจบจักสิ้น แต่มันก็เริ่มบางตาลงเรื่อยๆ จนตอนนี้อาคุมะตัวสุดท้ายถูกคันดะฟันก่อนจะระเบิดเป็นจุน.....
เขาทรุดลงเพราะหมดแรงตอนนี้รู้สึกเวียนหัวจนแทบอ้วก ....แต่ใจเขากลับร้อนรุ่มดั่งไฟเผา
ตั้งแต่เริ่มการต่อสู้เขาก็ภาวนามาตลอด ว่าขออย่าให้เป็นแบบนั้นเลย ความฝันนั้น ตลกร้ายในความฝันนั่น!!!
“ระวัง!!!” ร่างสูงตะโกนก้องมองเขาด้วยความตื่นตระหนกถึงขีดสุด
“!!” เขาเบิกตากว้างมองภาพที่ซ้อนทับในความทรงจำ ภาพของAkuma ที่เลงปืนมาทางเขา
แล้วคันดะก็จะ ...
พลัก!? ตูม! ฉวะ! บรึมมม~!!
เหตุการณ์เกิดขึ้นเป็นฉากๆ ชั่วพริบตาที่คันดะบังเขาไว้ เขาก็กระโจนใส่ร่างสูงจนล้มกลิ้งไปทั้งคู่
ลูกกระสุนพลาดเป้าพุ่งลงเจาะทะลุพื้นอิฐเป็นรูโหว่
คันดะที่ตั้งสติได้ก่อนทั้งที่ยังมึนๆกับแรงกระแทก ไม่รอช้าสำแดงฤทธิ์อาณาหนอนแมลง กำจัดAkumaตัวสุดท้ายระเบิดไม่เหลือซาก เกิดควันโขมงบดบังทัศนียภาพไปสิ้น
เพียะ !!!!!!
เสียงดังขนาดที่ไม่ต้องบรรยายเลยว่าคนโดนจะมีสภาพเช่นไรดังขึ้น
คันดะหันมองหน้าคนประทุษร้ายเขาด้วยดวงตาวาวโรจ หากแต่หมอกควันที่ยังไม่จางไปทำให้ทั้งคู่ไม่อาจรู้ว่าต่างคน ต่างมีสีหน้าเช่นไร ...
หมับ !
ร่างสูงไม่เสียท่ากับมุขเดิมเป็นครั้งที่สอง เขาจับข้อมืออเลนไว้ก่อนที่ร่างบางจะประทับฝ่ามือบนหน้าเขาอีกครั้ง
“แก ..ทำอะไรห่ะไอ้ถั่วงอก!!!” คันดะตะคอกอเลนในระยะประชิด สายลมที่พัดมาพาหมอกควันให้จางหายไป คืนการมองเห็นที่แจ่มชัดสู่คนทั้งคู่อีกครั้ง
ใบหน้าอาบน้ำตาของคนที่คร่อมเขาไว้ทำให้หัวใจไหววูบ
“.... ทำไม..”
“!?”
“ทำไมกัน ..คุณน่ะ คุณทำอะไร ....”
“คุณทำอะไรของคุณกัน !!!”ร่างบางตะโกนก้องทั้งน้ำตา เอ่ยถามด้วยคำถามที่ฟังแล้วงงงวยเป็นอย่างยิ่ง แถมกระชากคอเสื้อเขามาเขย่าอย่างไม่ปรานีปราสัย
“ทำอะไร? ชั้นต่างหากที่ต้องถามว่าแกทำอะไร !!” เขาเริ่มจะฉุนขาดกับการกระทำไร้เหตุผลของร่างบาง จึงกระชากข้อมือออกจากเสื้อเขาแล้วเป็นฝ่ายคร่อมร่างบางแทน
อเลนยังคงพูดไม่เป็นภาษาสติสตางค์กระจัดกระจายหายไปทางไหนหมดไม่รู้ ได้แต่ดิ้นรนปัดป้องให้พ้นจากการถูกตรึงไว้กับพื้น ปลุกปล้ำกัน[ยังๆ อย่างคิดไกล]จนได้แผลฟกช้ำดำเขียว อเลนที่เริ่มจะรวบรวมสติที่บินหายไปกลับมาได้ก็เริ่มจะพูดรู้เรื่องขึ้นบ้าง แต่ยังไม่มีใครยอมใครเลยตะลุมบอนกันจนหอบแฮ่ก
ท้ายที่สุดก็พบกันครึ่งทาง อยู่ในท่านั่งคุกเข่าประจันหน้ากันโดยที่คันดะยังคงจับข้อมือบางทั้งสองข้างไว้เหนือหัวแน่น
“ชั้นทำอะไร! แล้วแกตบชั้นทำไมห๊ะ!” เปิดบทสนทนาอีกครั้ง ด้วยน้ำเสียงฉุนขาด ถ้าคนตรงหน้าไม่ใช่อเลนล่ะก็ คาดว่าคงไม่มีโอกาสได้หายใจอีกต่อไปเป็นแน่
“..... คุณคิดจะทำอะไร ทำไมถึงเข้ามาบังผมไว้แบบนั้น ! คุณเกลียดผมไม่ใช่รึไง ! แล้วทำไมถึงปกป้องผม ทำไม!!” น้ำตาที่หยุดไปแล้วเริ่มรินไหลอาบแก้มนวลอีกครั้ง อเลนมองหน้าร่างสูงด้วยความสับสน
“............” คันดะก็ได้แต่มองร่างบางด้วยสายตาที่สับสนไม่แพ้กัน
“ คุณก็รู้ว่ากระสุนนั่นฆ่าผมไม่ได้ ถึงถูกยิงผมก็ขจัดพิษได้! แต่คุณน่ะ... ถ้าเป็นคันดะ..”
อเลนรู้สึกเย็นวูบมาตามแนวสันหลัง ร่างกายสั่นเทาอย่างไม่อาจห้ามได้ เมื่อนึกถึงภาพที่ซ้อนทับกันกับความฝันและคำเพียงคำเดียว ที่นึกได้ถ้าร่างตรงหน้าถูกยิง
“คุณจะ.... ตายนะ” น้ำเสียงนั้นเบายิ่งกว่ากระซิบ แต่กลับดังก้องในจิตใจ เสียงที่ราวกลับจะเป็นเสียงกรีดร้องจากร่างบาง คันดะเริ่มทำอะไรไม่ถูกเพราะอเลนที่ร้องให้หนักขึ้นทุกที เผลอปล่อยข้อมือบางที่เกาะกุมออก
ร่างบางทิ้งตัวลงซบอกกว้างอย่างหมดแรง สะอื้นฮักแทบขาดใจ
ไม่มีใครรู้หรอกว่าเขากลัวแค่ไหนที่เห็นร่างของคันดะมาบังอยู่ตรงหน้า ภาพที่หวาดกลัวว่าจะต้องสูญเสียคนตรงหน้าไปจริงๆ เสี้ยววินาทีนั้นเหมือนหัวใจที่มีอยู่มันหายไป .......
ข้อมือเป็นอิสระอีกครั้งโอบกอดรอบคอ ร่างบางกอดร่างสูงแน่น หวาดกลัวว่าถ้าคลายอ้อมกอดนี้ออกละก็ ร่างสูงจะมลายหายไป จะไม่มีวันได้พบกันอีก
คันดะถอนหายใจหนักหน่วง โอบกอดตอบรับร่างในอ้อมแขน ซุกหน้าลงกับไหลบางช้าๆรู้สึกหมดเรียวแรงตามไปด้วยซะอย่างนั้น
“ชั้นก็ไม่รู้ ..ว่าชั้นจะทำอะไร รู้แค่ว่า ต้องปกป้อง”
“คันดะ....”
“ชั้นอยากจะปกป้องคนที่ชั้นรัก ต่อให้ต้องเลือกอีกซักกี่ครั้งชั้นก็เลือก ..ที่จะทำแบบนี้!!”
“ชั้นก็รักนาย ...อเลน”
“!!”
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
TBC
+++++++++++++++++++++++++++++
ฮิ้ววว~ บอกรักกลางสนามรบที่เลือดนอง แหมโรแมนติกอะไรอย่างนี้ *-*
แบบว่าคนที่อ่านตอนที่แล้วไปได้โปรด .....อย่าพึ่งรุมตื้บคาลน๊า
ขอเวลาหนีสามวิ >o< [หนีทำไมสามวิ =_=]
ความคิดเห็น