***กดฟังขณะอ่าน เพื่อสุนทรียภาพที่มากขึ้น***
....บทนำ....
ช่วงเวลาที่ผ่านมา...มันโหดร้ายเหลือทน
แต่ในตอนนี้มันก็เป็นได้แค่อดีตอันล่วงเลย
ฉันได้ใช้ชีวิตในสถานที่อันสุขสงบ
ไร้กลิ้นคาวเลือด และการสูญเสียอีกต่อไป
จนกระทั่ง เธอมาปรากฏตัวตรงหน้าฉัน...อีกครั้ง
"ฮือ...ฮือ..."
ณ ทุ่งกว้างอันไกลโพ้นที่แสงแดดแผดเผา มีเด็กน้อยผมบรอนด์นั่งคุกเข่าอยู่บนพื้นหญ้า ส่งสียงสะอึกสะอื้นออกไม่หยุดอยู่เพียงลำพัง รอยช้ำแดงบนแก้มนั้นอาจมีส่วนเกี่ยวข้อง แต่เหตุผลที่แท้จริงคือความรู้สึกเจ็บปวดทางจิตใจ...
วันนั้นเป็นวันที่เขาเห็นความหวังที่ภาพครอบครัวอยู่พร้อมหน้าจะกลายเป็นจริงขึ้นมา แต่ก็เป็นวันที่เจ็บปวดเช่นกัน เขามีเรื่องชกต่อยกับคู่อริ และเพราะความอ่อนแอ เป็นเขาเสียเองที่ถูกชกกระเด็นลงมานั่งสะอึกสะอื้นอยู่เพียงลำพัง
"ถ้านายร้องเสร็จเมื่อไหร่...ก็ตามมาแล้วกัน" ผู้ใหญ่คนเดียว ณ ที่นั้นบอกเด็กชายผมทองที่กำลังกองอยู่กับพื้นด้วยสภาพมอมแมมเหมือนผ้าขี้ริ้วอย่างเย็นชาไร้สิ้นซึ่งความห่วงใย ก่อนจะพาเด็กคนอื่นๆ ในกลุ่ม รวมถึงผู้ชนะในการชกต่อยเมื่อครู่ที่กำลังส่งเสียงเยาะเย้ยเขาเดินออกไปจากตรงนั้น
...ทิ้งผู้แพ้ไว้เพียงลำพัง
ใช่...โลกนี้มันเป็นแบบนั้นนั่นแหละ
ใครล่ะจะมาสนใจคนอ่อนแออย่างเขา?
"ไรเนอร์...ลุกขึ้นเถอะนะ"
"...? "
เสียงร้องไห้หยุดชะงักลงเมื่อไรเนอร์เงยหน้าเปื้อนน้ำตาขึ้นช้าๆ ภาพที่ปรากฏคือเด็กในกลุ่มนักรบฝึกหัดที่เพิ่งเคยพูดคุยกันเป็นครั้งแรก ในขณะที่เพื่อนคนอื่นๆ หันหลังเดินจากเขาไปกับผู้ชนะจนหมด เหลือแค่เด็กชายตัวสูงที่สุดและขี้อายที่สุดแยกตัวออกมา เดินมายืนหยุดอยู่ตรงหน้า...และยื่นมือมาให้เขา
"....ฮึก" ไรเนอร์พยายามกลั้นน้ำตา และเอื้อมมือตอบ
มิตรภาพเริ่มก่อตัวขึ้นช้าๆ ความปรารถนาอันแรงกล้าพรั่งพรูขึ้นมาในใจ วินาทีเดียวกับที่ความอบอุ่นจากมือนักบุญน้อยซึมซับไปทั่วร่างกายจนมีแรงหยัดยืนลุกขึ้นอีกครั้ง เขาปรารถนาจากส่วนลึกของจิตวิญญาณจะเป็นคนที่แข็งแกร่งขึ้น เพื่อเป้าหมาย เพื่อความฝัน
เพื่อปกป้องคนตรงหน้านี้เอาไว้ให้ได้...
...เบลทรูท
#########################################################
"....."
ผมกระพริบตาถี่ๆ บนเตียงนุ่ม ภาพเด็กน้อยผิวแทนในความทรงจำถูกแทนที่ด้วยแสงแดดอ่อนๆ ส่องลอดผ่านบานพับหน้าต่างสีขาว ข้างๆ กันคือเสื้อกีฬาอเมริกันฟุตบอลบนตะขอแขวนที่ต้องพกกลับมาอย่างช่วยไม่ได้เพราะล็อกเกอร์ชมรมดันเต็มซะก่อน พร้อม เป้ กับผ้าเช็ดตัว
ส่วนตรงข้ามกันคือโต๊ะลิ้นชักขนาดยาว เพื่อให้มีที่นั่งอ่านหนังสือหรือทานข้าวแม้จะวางคอมพิวเตอร์ไปตัวหนึ่งแล้วก็ตาม กับเก้าอี้เข้าชุดกัน ถัดจากนั้นไปอีกครึ่งห้องคือฟอนิเจอร์ที่เหมือนกันทุกอย่าง ต่างกันเพียงถูกวางสลับข้างและว่างเปล่า บ่งบอกว่าผมอาศัยอยู่ลำพังในห้องสำหรับ 2 คน ดินแซมหญ้าอันแข็งกระด้างที่เพิ่งโดนชกร่วงลงไปนอนในฝันกลับกลายเป็นเตียงเดี่ยวบนพื้นกระเบื้องลายไม้สีน้ำตาลเข้มในห้องพักนักศึกษาของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในรัฐอิลินอยส์ สหรัฐอเมริกา
ไม่มีอีกแล้ว...ห้องใหญ่ที่ไม่มีอะไรเลย นอกจากเตียงสองชั้นหลายสิบเตียงวางติดกันยาวเป็นพรืดของหน่วยทหารฝึกหัด ห้องเดี่ยวกับเตียง 2 ชั้นของหน่วยสำรวจ หรือกระทั่งห้อง 2 เตียงกับลิ้นชัก โต๊ะ เก้าอี้ ตู้เสื้อผ้าที่ทำจากไม้สไตล์วิกตอเรียของเหล่านักรบ
ไม่มีกระทั่งท่านอนประหลาดของคนคนหนึ่ง ซึ่งเป็นเจ้าของเตียงข้างๆ ผมเสมอ...
และมักจะเป็นสิ่งแรกที่ผมได้เห็นหลังจากตื่นนอนด้วย...
คิดๆ ดู...ที่จริงมันก็เป็นเรื่องน่าดีใจไม่ใช่หรอ?
ห้องนี้คือห้องที่ดีที่สุดเท่าที่ผมเคยนอนมาเลยล่ะ ทั้งอบอุ่น ทั้งสะดวกสบาย ทั้งเป็นส่วนตัว แถมยังไม่มีใครบางคนนอนกินที่เข้ามาในเตียงผมเพราะเตียงตัวเองมีพื้นที่ไม่พอให้นอนท่าอินดี้อีกต่างหาก!
"......."
ใช่...
ต้องดีใจเข้าไว้สิ...
ผมโอเค...โอเคจริงๆ
ไม่สิ...ผมจำเป็นต้องโอเค
เพราะไม่ว่าจะพยายามมองไปรอบๆ อีกสักกี่หมื่นกี่พันครั้งจนผนังทะลุ...
ผมก็ได้รับอนุญาตให้เจอร่างเจ้าของไททันมหึมาได้แค่ในความฝัน...
ทันทีที่ลืมตาตื่นขึ้นมา
...ผมก็ไม่มีโอกาสเห็นเจ้านั่นอีกต่อไป
ถึงจะเป็นอย่างนั้น ก็ต้องตื่นอยู่ดี...เพราะอุตส่าห์ได้เกิดมา 'อีกครั้ง' บนโลกใบนี้แล้ว
ผมดันร่างที่อุดมไปด้วยกล้ามเนื้อในเสื้อกล้ามกับบ็อกเซอร์ขึ้นมาบิดขี้เกียจก่อนหาวหวอดใหญ่ เพื่อบังคับไม่ให้ความฝันอันแสนดี และอากาศเย็นๆ ข้างนอกลากหัวผมกลับลงไปบนหมอนอีกรอบ ถ้าโชคดันเข้าข้างอย่างไม่รู้เวล่ำเวลา ผมอาจต้องกลับไปฝันเนื้อหาไม่ต่างจากเดิมเท่าไหร่ แล้วความพยายามที่จะ 'โอเค' ของผมก็จะกลายเป็นอากาศธาตุ
"ฉันไม่ต้องการนายหรอก ไม่มีนาย ฉันก็อยู่ได้ เห็นไหม...
ต่อให้นายจะมาโผล่ในฝันฉันได้ทุกวี่ทุกวันมาเป็นสัปดาห์แล้วก็ตาม
ถึงฉันจะมีความทรงจำเมื่อ 2,000 ปีก่อนก็ตาม
แล้วไงล่ะ? ฉันไม่ใช่นักรบ ทหาร หรือไททันเกราะ 'ไรเนอร์ บราวน์' อีกต่อไปแล้ว!"
ผมพร่ำบอกตัวเองแบบนั้นเพื่อสลัดความฝันที่มีแต่เรื่องในอดีตออกไปจากหัวสมอง เตรียมพร้อมรับวันใหม่ ก้าวไปสู่อนาคต ด้วยชีวิตอันแสนสงบสุขไร้สิ้นซึ่งกลิ่นคาวเลือด แต่ไม่รู้ทำไม...ความรู้สึกว่างเปล่าในใจที่พยายามลบล้างมาตลอดหลายสิบนาทีที่ผ่านมา รวมถึงทุกๆ เช้าที่ตื่นจากความฝันถึงคนสำคัญที่ไม่มีวันหวนคืน กลับยิ่งทวีคูณขึ้นจนตาผมเริ่มรื้นออกมาซะงั้น? แต่ผมก็ต้องพยายามกล่อมตัวเองต่อไป
เพราะตอนนี้ฉันคือ
'ไรอัน เบรนเนอร์'
นักศึกษามหาวิทยาลัย ในปี ค.ศ. 2018 ไงล่ะ
[Introduce Character No.1]
...แตกต่างเหมือนกัน...
[ไรเนอร์ บราวน์] [ไรอัน เบรนเนอร์]
เด็กหนุ่มผู้พยายามมีชีวิตอยู่อย่างเต็มที่ในสงคราม นักฟุตบอลหนุ่มตัวท็อปของทีมมหาวิทยาลัย
เขาสมัครเป็นนักรบตั้งแต่เด็กเพื่อให้พ่อยอมรับในตัวเขา มีความเป็นผู้ใหญ่ พึ่งพาได้ เป็นที่รักของเพื่อนๆ
ฝันจะเป็นฮีโร่และลูกชายที่น่าภูมิใจที่สุด เป็นเด็กวัยรุ่นธรรมดาในสภาวะสงบสุข
เขาใช้ชีวิตบนกองซากศพ ความสูญเสีย ดูเป็นตัวตนที่ห่างไกลกับไรเนอร์ราวฟ้าเหว
และเถ้าความลวงแห่งสงครามนานหลายปี แต่ดันเกิดมามีรูปลักษณ์และความทรงจำ
ก่อนเข้าร่วมกับกองกำลังกอบกู้โลก ของเจ้าคนที่ชีวิตมีแต่ความทุกข์นั่นซะนี่
และทำให้ความฝันเป็นจริงได้สำเร็จ
คุยกับคนเขียน
สวัสดีค่ะ!! เราสามเหลี่ยมฤดูหนาว
ถ้าท่านอ่านมาได้จนถึงตรงนี้ คงจะรับการบรรยายของเราได้ในระดับหนึ่ง และรู้เรื่องคร่าวๆแล้วรึเปล่านะ?
นี่คือแฟนฟิค Attack on titan แนวรักวัยรุ่น ห่างไกลจากเนื้อเรื่องหลังราวฟ้าเหว ที่ท่านไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน
เวอร์ชั่นนี้พระเอกคือไรเนอร์...ที่ไม่ใช่ไรเนอร์ซะทีเดียว
และใครจะกลายเป็นใคร มีความสัมพันธ์ยังไงกันไรเนอร์ในชาตินี้ คิดซะว่าเขาคือคนเดิมในอีกเวอร์ชั่นนึงละกัน (งงไหม? เราก็งง) สุดท้ายนี้...ขอฝากเนื้อฝากตัวฝากหัวฝากเท้าด้วยนะคะ รักทุกคนนะ จุ๊บๆ
ความคิดเห็น