ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ❤การินxลัล♡ จากวันนั้นถึงวันนี้...

    ลำดับตอนที่ #3 : เพื่อนคู่บ่าวสาว

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 776
      22
      27 เม.ย. 65



    { Winter Dark Theme }

               
                 "ยัยลัลนี่นานจริง เขียนบล็อกท่องเที่ยวได้ตั้งหลายที่แล้วยังไม่มาอีก" ไกด์สาวผมแดงสั้นประบ่าในชุดราตรีผู้หญิงแบบกางเกงดูสวยสง่าทะมัดทะแมนบ่นขณะนั่งทำงานไปละเลียดน้ำช็อกโกแลตเย็นที่อุตส่าห์ออกมานั่งดื่มที่คอฟฟี่ช็อปชั้นล่างของโรงแรมที่จัดงานของเพื่อนสนิทจนถูกเพื่อนสาวอีกคนที่ทนออกมานั่งเป็นเพื่อนเอ็ดเบาๆ
                 "ฉันว่ามาแล้วแต่แกมัวแต่มานั่งกินช็อกโกแลตข้างนอกนี่แหละยัยเอม...ถึงได้ยังไม่เจอ" หญิงสาวผมดำมัดเปียตะขาบประดับดอกไม้ดูกลายเป็นสาวสวยดูไม่ออกเลยว่าเป็นผู้จัดการฝ่ายขายของบริษัทชั้นนำ จากลูกสาวร้านค้าปลีกก็กลายเป็นสาวออฟฟิศมือดีคนหนึ่งเลยทีเดียว ถึงกระนั้นเธอก็เพียงแต่จะทำอาชีพนี้เพื่อหาเงินทุนสำหรับทำธุรกิจเครื่องสำอางค์หรือเสื้อผ้าสวยๆงามๆตามความฝันก็เท่านั้น 

                 'ปื๊ด ปื๊ด ปื๊ด '  
                 "....
    ถึงจะเอ็ดไปแบบนั้นแต่เอมมิกาก็ยังทำหูทวนลมนั่งดูดน้ำช็อกโกแลตแถมกัดหลอดเล่นเป็นเสียงดังตอบกลับมาเหมือนจงใจกวนประสาททำเอามัณฑิณีเริ่มจะมีน้ำโหจนวีนแตกเป็นไฟเผารากที่งอกออกมาจากก้นเพื่อนยึดติดเก้าอี้คอฟฟี่ช็อปจนไม่ลุกไปไหนให้เขยื้อนได้สักที "โอ้ย! รีบๆดูดให้มันหมดๆแล้วเข้าไปกันสักทีสิยะ!! เพื่อนเจ้าสาวไปสายอายเขาตายเลยเนี่ย!!"







                      ท่ามกลางดวงดาวเต็มท้องฟ้ายามค่ำคืนเป็นฤกดีกับคืนฉลองงานแต่งงานบนโรมแรมริมแม่น้ำเจ้าพระยาสุดหรูสมถานะของฝ่ายเจ้าบ่าว แม้จะมีญาติๆมาค่อนข้างน้อยโดยแขกส่วนใหญ่เป็นลูกศิษย์ เพื่อนร่วมงาน เพื่อนสมัยเรียนของครอบครัว ยิ่งเป็นการทานอาหารแบบบุพเฟ่โดยให้ออกไปเดินตักที่หน้าห้องจัดเลี้ยงก็ยิ่งทำให้บรรยากาศในงานดูครึกครื้น 
                    เนื่องจากมีแขกที่เป็นผู้สูงอายุค่อนข้างน้อยทำให้โทนสีขาวดำไม่เป็นที่ตำหนินัก กลับกันทำให้เทียนบนโต๊ะทานอาหารของแขกให้ความรู้สึกโมเดิร์นแต่แฝงไว้ด้วยความโรแมนติก โดยเฉพาะเวทีที่ราวยกเอาท้องฟ้ายามค่ำดาวพร่างรายข้างนอกมาเป็นฉากหลัง


                   'เพื่อนเจ้าบ่าวให้นั่งอยู่ตรงโต๊ะนี้ที่ใกล้เวทีด้านขวานะคะ พอพิธีกรเชิญจะได้ลุกขึ้นไปได้สะดวก'

                          ตรูเป็นเพื่อนมันเรอะ?

                     ชายหนุ่มวัยไล่เลี่ยกันกับเจ้าบ่าวในชุดสูทสีเทานั่งซดเส้นสปาเก็ตตี้ที่ลุกไปตักมาจากด้านนอกแบบพูนจานโดยไม่แคร์สายตาใคร คิดในใจ แค่ตัวเองต้องถูกเจ้าบ่าวใช้อิทธิพลลากมาเป็นครูที่นิศาพานิชน์ตั้งแต่วันรับปริญญาโดยไม่บอกไม่กล่าว แถมยังใช้งานเยี่ยงทาสอย่างสนุกสนานก็แอบแค้นเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ยิ่งนึกถึงตอนที่ถูกเจ้าหน้าที่โรงแรมลากมานั่งโต๊ะนี้ด้วยข้ออ้างพรรนี้ที่ยังบินวนไปวนมาอยู่ในหัวเหมือนแมลงวันน่าสะอิดสะเอียน ก็ยิ่งพาให้หน้าบอกบุญไม่รับจนคนที่นั่งอยู่ข้างๆเริ่มพูดอะไรให้บรรยากาศหายมาคุขึ้นบ้าง


                     "ไม่เอาน่าครับคุณรุทร! งานแต่งพี่การินกับพี่ลัลทั้งทีมาสนุกกันดีกว่า>< " นักข่าวหนุ่มที่นั่งอยู่ข้างๆตบไหล่รุทรเป็นเชิงปลอบใจจนเส้นสปาเก็ตตี้ที่กินเข้าไปแทบจะออกมาทางจมูก "เอาเวลามาสนใจเพื่อนร่วมโต๊ะของพวกเรากันเถอะ ...มีแต่แปลกๆทั้งนั้นเลย"

                     คำพูดของเมธาธรลากสายตาของอาจารย์นิศาพานิชย์ให้เงยหน้าขึ้นมองสมาชิกบนโต๊ะเพื่อนเจ้าบ่าวที่นั่งกันครบจำนวนจนไม่มีเก้าอี้ว่างผิดคาดจนเริ่มคิดว่าผ.อ.นรินทร์ไปเชิญคนที่รู้จักกับการินแค่แบบไม่สนิทชิดเชื้อมานั่งให้โต๊ะที่ไม่น่ามีคนมานั่งมากนักดูเต็มก็เท่านั้น แต่ไม่นานสายตาของเขาก็ไปปะทะกันกับชายหนุ่มอีกคนที่ปากยังไม่หยุดขยับและจานเปล่าที่เรียงสูงพอกันทั้งคู่

                        "อคิน...นายกินมากขนาดนั้นเสียมารยาทนะ"                                    
               เจ้าของแววตาสีออดอายเมินเสียงเอ็ดของแคปเปอร์ที่ดังมาจากข้างๆก่อนจะแยกเขี้ยวแสยะยิ้มประกาศตนเป็นคู่แข่งกินจุกับรุทร(ทั้งที่ไม่รู้จัก)ผ่านประกายจากจานเปล่าทันทีจนอีกฝ่ายที่แม้จะมองเป็นเรื่องไร้สาระแต่ก็ว่างอยู่จึงคิดจะรับคำท้าคู่กรณีที่นั่งอยู่ตรงกันข้ามแบบผ่านๆทันที แต่ก็ถูกคนที่นั่งข้างๆเมธาธรพูดขัดจังหวะขึ้นมาก่อน


                "มีความเป็นไปได้ 62% ที่คุณการินคิดจะให้คุณรับตำแหน่งรองผ.อ.เมื่อเขาขึ้นเป็นผ.อ.ครับ จึงให้คุณที่แต่เดิมทีก็เป็นคนคุ้นเคยมาทำงานของอาจารย์คณะกรรมการบริหารของนิศาพานิชย์ มีความเป็นไปได้87%ที่คนทั่วไปจะดีใจมากกว่ากระมังครับ?" ชายหนุ่มย่างวัยกลางคนในสูทขาวแบบเดิมๆที่หลายคนเห็นเขาใส่จนคุ้นตาพูดขึ้นมาจนถูกคนที่นั่งข้างๆเขาเอ่ยปากแซว  


                "แหม~ คุณชายชินยังเหมือนเดิมเลยนะเนี่ย" เสตจเมจิกเชี่ยนระดับโลกมองคนสนิทในชุดขาวที่เริ่มมีริ้วรอยตามวัยพลางหัวเราะอย่างสนุกสนานในขณะที่รุทรเริ่มทำหน้าบอกบุญไม่รับหนักกว่าเดิมเมื่อได้ยินคำพูดของชินะเมื่อสักครู่จนขมวดคิ้ว

                            ขี้เกียจเฟ้ย...ถ้ามันทำจริง ฉันจะลากลูกชายมันมาเป็นแทนให้ดู!

                            ...ถ้ามันมีนะ


                       
                   ดวงตาสีดำขลับคู่หนึ่งจับจ้องเข้าไปในงานผ่านประตูกระจกของระเบียงห้องจัดงาน ภาพงานแต่งที่มีคนลุพล่านน่ารำคาญทำให้เขาพอใจจะอยู่ที่ระเบียงด้านนอกอีกสักพัก แต่เพื่อไม่ให้คลาดสายตาจากคนที่กำลังอยากพบจึงต้องหันหน้าเข้าหาประตูระเบียงและใช้มันเป็นวิวทิวทัศน์แทนท้องฟ้ายามค่ำคืนอย่างช่วยไม่ได้

                         ยัยนั่นจะมาจริงไหมนะ?

                "มองหาใครอยู่หรอพ่อพระเอก?" เสียงก้องที่ดังสะท้อนอยู่ในแก้วหูแต่ไม่รู้ว่าตัวอยู่ไหนอันเป็นการมาที่คุ้นเคยของใครบางคนที่รู้จักดีจนการินไม่คิดจะมองหาร่างปริศนาที่น่าจะอยู่ที่ไหนสักแห่งของระเบียง โดยเฉพาะเวลานี้ที่ไม่คิดอยากจะละสายตาออกจากงาน แต่ก็ไม่ได้ทำให้ต้นเสียงรู้สึกเคืองใจใดๆแม้แต่น้อย
               เจ้าของเสียงมองเจ้าภาพของงานเลี้ยงในชุดทักสิโด้หรูดูหล่อเหลาในสายตาคนทั่วไป แต่กับคนสนิทที่เห็นเพื่อนแต่งตัวเนี้ยบบบบบบบบบชนิดที่ตั้งแต่รู้จักกันมาก็เพิ่งเคยเห็นรวมกับทรงผม
    ที่ถูกเจลรวบไว้เรียบร้อยไม่เข้าอุปนิสัยดิบเถื่อนของเจ้าตัวก็ทำเอาน่าขำมากกว่าจะน่าภูมิใจในสภาพเพื่อนที่ผิดแปลกจากทุกวันจนอดหัวเราะคิกคักให้การินรำคาญหูเล่นไม่ได้
              แม้จะเห็นเป็นภาพกลับหัวเพราะกำลังห้อยหัวลงมามองเขาจากระเบียงชั้นบนก็ตาม...สักพักก็ลงมานั่งที่ระเบียงให้ถูกกิจจลักษณะไม่ให้สูทในผ้าคลุมดำขาดปลายคล้ายปีกค้างคาวเย็บติดกันยับเสียหมด 

                "แล้วเรื่องที่ฉันเคยถามหละ?" 
              พอเห็นอีกฝ่ายพร้อมจะสนทนา การินก็เริ่มจะเอ่ยปากเรื่องธุระปะปังที่ไหว้วานคนใกล้เคียงกับคำว่า 'เพื่อน' มากที่สุดรองจากนัยน์เนตร ด้วยเหตุที่ว่าในช่วงมหาลัยที่การินต้องมีงานมากขึ้นเพื่อเร่งเรียนจบให้พร้อมยัยแม่มดต่างคณะ ทำให้ไม่ค่อยมีเวลาทำของประกอบงานอดิเรกสุดหฤหรรษ์ของตนจนต้องซื้อสลักดักอาถรรพ์และเครื่องมือเครื่องใช้อื่นๆผ่านทางหมอผีหนุ่มอัจฉริยะผู้โด่งดังจากตระกูลหมอผียักษ์ใหญ่ที่เคยเป็นคู่แข่งตระกูล 'วรรณาเวทย์' มาก่อน ซึ่งบังเอิญรู้จักตอนงานศพตาแก่ไกรสร

                  "รอบนี้มาแปลก...ฉันยังไม่เคยเห็นนายสนใจของเก่าเก็บขนาดนี้เลยนะเนี่ย ใกล้วันแต่งงานเลยเอาเมียไปฝันเองรึเปล่าสหาย? ฮิฮิฮิฮิ" การินเหล่ตาไปมองใบหน้ายิ้มแป้นจอมกวนประสาทอย่างไม่สบอารมณ์แม้จะเป็นไม่กี่คนที่ตนยอมรับในความสามารถก็ตามที

                    ...ธราธร วรรณศิริ

                 บังเอิญเหลือเกินที่อัจฉริยะคนนี้อายุไล่เลี่ยกับการินพอดี เรียกได้ว่าเป็นคู่หูผู้เชี่ยวชาญด้านไสยศาสตร์ก็ว่าได้ ต่างกันเพียงอีกฝ่ายเกิดในตระกูลที่มีอาชีพหลักด้านนี้ ได้ร่ำเรียนและทำงานสายนี้โดยตรงจนมีชื่อเสียงก้องวงการเท่านั้นเอง
               
            "แปรนิมิตรนิทรา...พิธีกรรมล่วงล้ำจิตใจรูปแบบหนึ่งที่ทำให้เหยื่อฝันเห็นตัวเราหรือสิ่งที่เราต้องการ ต้องอาศัยทั้งเวลา กิจวัตรและตำแหน่งเหยื่อที่แน่นอน เป็นพิธีที่ยากและประณีตแต่ไม่ค่อยมีประโยชน์คุ่มค่าเลยไม่มีให้เห็นแล้ว
                   ดวงตาสีส้มแดงเหมือนแสงสนธยาวาวโรจน์ขณะอธิบายข้อมูลพิธีกรรมที่ลูกค้าเจ้าประจำไปสั่งให้หามาให้พลางเปิดเช็กข้อมูลในหนังสือด้วยรอยยิ้มแสยะอย่างสนใจพิธีคลาสสิค พอรู้ตัวว่าการินหันมามองหนังสือปกหนาในมือตาไม่กระพริบพร้อมรอยยิ้มฉีกกว้าง จึงปิดมันเพื่อเบนความสนใจก่อนจะพูดต่อ "หนังสือที่มีเขียนเกี่ยวกับพิธีนี้ก็หายาก คนรู้จักก็น้อย แต่คนใช้น้อยยิ่งกว่า เป็นแค่ของดาษๆ....นายจะอยากรู้ไปทำไมหรอการิน?"

              เมื่อไม่ได้ยินเสียงตอบรับ ชายหนุ่มในฮูดดำก็ละสายตาจากหนังสือหันกลับไปมองลูกค้าขาประจำที่ยืนอยู่ข้างๆเขาจนถึงเมื่อครู่ ก่อนจะพบกับความว่างเปล่า

                 "การิน?" ธราธรร้องเรียกเจ้าบ่าวของงานผู้เมินเขาแล้วเดินหายไปทางระเบียงอีกฟาก...
    น่าแปลกใจที่เมื่อหมอผีหนุ่มมองตามก็ต้องพบกับควันจากกำยานอาถรรพ์สะกดมากมายละม้ายม่านหมอกที่กลืนกินเพื่อนนอกวงการคนหนึ่งของเขาให้หายลับไปในบรรยากาศขมุกขมัวจนไม่เห็นสุดทาง

                  ถึงกระนั้นก็ไม่มีทางที่หมอผีมือฉมังจะเสียท่าให้วิชาอาถรรพ์พื้นฐาน...
                  สามารถมองเห็นอีกฟากที่ปราศจากทัศนียภาพที่ถูกบิดเบือนจากอาถรรพ์กำยานสะกดได้อย่างง่ายดาย ภาพที่เห็นในม่านควันทำให้ธราธรรู้สึกขุ่นเคืองใจในตัวลูกค้าขาประจำคนนี้ไม่ใช่น้อยเมื่ออีกฟากฝั่งของระเบียงที่การินกำลังเดินมุ่งหน้าไปหาคือหญิงสาวผมสีดำมัดรวบหางม้าในชุดราตรีสีดำประดับกากเพชรทอประกายแวววับจับตาไม่แพ้ดวงตาสีแดงเข้มดุจเลือดของเธอบนระเบียงโรงแรมริมทะเล ท่ามกลางแสงไฟสลัวกลืนไปกับท้องฟ้ายามค่ำคืนราวกับดวงดาวริมน้ำ



    ฮึ..ฮึ อย่าบอกเจ้าสาวเชียวหละ 

                        หญิงสาวที่รู้ตัวว่ากำยานอาถรรพ์สะกดใช้ไม่ได้ผลกับหมอผีหนุ่มจึงเอานิ้วชี้สัมผัสริมฝีปากเรียวสวยขณะมองมาที่เขาด้วยรอยยิ้มแสยะกว้างพร้อมกับเสียงหวานเล็กแหลมของเธอคนนั้นที่ดังขึ้นในสมองของหมอผีหนุ่มบอกเจตนา...
                       ในตอนแรกที่คิดว่าจะไม่ยุ่งด้วย...แต่ด้วยแววตาเป็นประกายสีแดงฉานฉายวงเวทย์อยู่ด้านในของหญิงสาวทำให้หมอผีธราธรที่รู้จักดวงตาเช่นนั้นดีจนเริ่มเป็นห่วงระคนความอยากรู้เรื่องของเพื่อนนอกวงการที่กำลังเดินไปหาเธอด้วยสีหน้าบอกอารมณ์ไม่ได้จนต้องตามเข้าไป...

                          'วูบ' 
                      แต่ทันทีที่มือของหมอผีหนุ่มพ้นรัศมีม่านควันกำยานนั้น...ก็รู้สึกราวกับมีบรรยากาศไอดำบางอย่างพุ่งเข้ามาหาจากด้านในจนชายหนุ่มเบิกตาโพล่งก่อนจะรีบผละออกมาให้ห่างอย่างฉับพลันเพื่อไม่ให้เป็นอันตรายและระบายความตกใจกับไอดำเมื่อครู่ที่เป็นของที่ไม่ควรจะมีผู้ใดอื่นในโลกนอกจากเจ้าสาวของงานถือครองมันเอาไว้อีก


                        ญาณอาถรรพ์!!??....ไม่จริงน่า!?...

                        ชายหนุ่มเริ่มได้กลิ่นความน่าสงสัยเกี่ยวกับตัวหญิงสาวคนนั้นที่ดูท่าจะต้องการตัวการินด้วยเหตุผลอะไรบางอย่าง และคงไม่แคล้วเป็นต้นเหตุทำให้การินสั่งให้เขาหาพิธีกรรมที่ทำให้ฝันเห็นใครสักคนซ้ำๆกันอย่างแน่นอน...เธอคนนั้นคือคนใช้พิธีแปรนิมิตรนิทรากับการินงั้นหรอ? ...แต่ที่สำคัญกว่าเรื่องนั้นก็คือ...

                         การิน...นายนอกใจเมียวันแต่งงานอยู่นะ???



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×