ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    คลังส่งใบสมัคร {{{{APPLICATION}}}}

    ลำดับตอนที่ #7 : หัวใจของนายให้พวกเราเถอะนะ

    • อัปเดตล่าสุด 16 ก.ย. 61




    ? cactus

    Application

    ...สิ่งที่เห็น...                                                                        ...สิ่งที่เป็น...
    ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ gilbert nightrayรูปภาพที่เกี่ยวข้อง
    ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ gilbert nightrayรูปภาพที่เกี่ยวข้อง
     


    "ได้โปรดตวาดผมอย่างทุกครั้ง...
    ...แล้วนานๆทีก็ยิ้มบ้างนะครับ"

    บทตัวละคร::.ฮาเร็มชายของเซฟ 

    ชื่อ-นามสกุล:: น็อคติส โครนอส คาสเทเนอร์ [Noctis Kronos Castener]
    (ชื่อแปลว่า "ท้องฟ้ายามค่ำคืนที่ส่องสว่าง" ชื่อกลางแปลว่า "อีกา" 
    นามสกุลแปลว่า "แสงส่องลอดผ่านที่แคบ")

    ชื่อเล่น:: น็อค 

    เผ่าพันธ์ุ:: โครนอส-เทพ (แต่ในใบสมัครเรียน เขาเขียนว่า โครนอส-ปีศาจ)
                  **ตัวโครนอส (อีกายักษ์กินไฟ) เป็นสัตว์เทพนิยายที่มีรูปลักษณ์เหมือนเผ่าปีศาจ

     PH 78: Raven by Dracilla112.deviantart.com on @deviantART

    สถานะ:: เจ้าชายไร้บัลลังค์แห่งอาณาจักรแซคเคอัส & บุตรชายของอัศวินแห่งเจอริโค

    ลักษณะ:: ผมหยักศกสีดำสนิทระต้นคอ ดวงตาเรียวสีทอง จมูกโด่ง ริมฝีปากบาง คางเป็นสัน หน้าตาจิ้มลิ้มรูปไข่ ดูรวมๆแล้ว แม้จะไม่โดดเด่นมาก แต่ก็ถือว่าเป็นเด็กหนุ่มที่หล่อเหลาพอสมควร ผิวขาวเนียนละเอียดออกโทนเหลืองลออราวกับอาบด้วยแสงจันทร์ สูง 178 หนัก 69 กก. ซิกแพ็กบางๆถูกซ่อนไว้อย่างดีใต้เครื่องแต่งกายสีขาว ดำ กรมท่า ที่มักใส่อยู่เป็นประจำถ้าไม่ใส่เครื่องแบบ ไม่ถึงกับมีกล้ามอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็ไม่ถึงกับมีแค่เนื้อหนัง อยู่ในเกณฑ์ได้รูปสมส่วนสำหรับคุณชายที่ไม่ค่อยใช้แรงงานมากนัก ชอบตั้งปกเสื้อขึ้นและปล่อยชายเสื้อนอกกางเกงเพื่อระบายอากาศ แต่ก็ใส่ไทผ้าสีขาว ถุงมือขาว และเสื้อนอกยาวเลยเอวลงมาปกปิดเพื่อให้ดูภูมิฐานตามวิถีสุภาพบุรุษอยู่เสมอ ถ้าออกไปข้างนอกจะใส่หมวกดำทรงสูงด้วย แต่บางครั้งมันก็ดูรุ่มร่ามเหมือนหนุ่มเซอร์ซะมากกว่า 

    อายุ:: 20

    นิสัย::- พูดน้อย ถ้ามีคนไม่รู้จักเข้ามาทักทายครั้งแรก เขาก็จะเดินหนีเป็นส่วนใหญ่ ประกอบกับมาดเท่ๆเซอร์ๆ ถ้าเจอกันครั้งแรกจะเข้าใจว่าเป็นคนสุขุม หยิ่ง หรือเย็นชาเอามากๆ แต่ที่จริงมันตรงข้าม เขาเป็นคน ขี้กลัวเอามากๆ ต้องใช้ความกล้าอย่างมหาศาลจากทั่วร่างเพียงเพื่อจะกล่าวทักทายตอบเพื่อนๆ ส่วนเหตุผลที่เดินหนีก็เพราะแค่มีการคนแปลกหน้าเข้ามาคุยด้วยกระทันหันทำให้เขาหัวตื้อไปหมด ใจเต้นแรง หน้าแดง ตัวสั่นเบาๆด้วยความตื่นกลัว จึงรีบเดินหนีไปจากตรงนั้นเพราะไม่อยากให้ใครสังเกตุเห็นท่าทางไม่สง่าผ่าเผยสมเป็นสุภาพบุรุษ แต่หลังจากนั้น เมื่อเจอกันครั้งต่อไป ก็จะเดินมาถอดหมวกโค้งขอโทษอย่างสุภาพเพราะมีเวลาเตรียมใจมาก่อนแล้ว เลยพอจะพูดคำสั้นๆอย่าง "เมื่อสักครู่นี้ ต้องขอโทษด้วยนะ" ได้โดยไม่ตะกุกตะกักได้

                   ขี้อาย มักยืนพิงผนัง เอามือกอดอก ก้มหน้า เป็นท่าหลัก มันดูขี้แอ็ค แต่เขาทำเพื่อซ่อนใบหน้าแดงๆไว้ใต้ฐานหมวกทรงสูงสีดำ ถ้าไม่มีใครสนทนากับเขา เขาจะก็นิ่งเงียบเพราะไม่กล้าพุ่งเข้าไปในวงสนทนาของใคร ตื่นกลัวกับเผ่าอื่นที่ไม่ใช่สัตว์มาก ถ้ามีคนรู้จักทักทายหรือถามอะไร จะซ่อนมือที่สั่นเครือไว้ใต้แขนเสื้อ ยอมมือสั่นเพื่อไม่ให้เสียงสั่น เหงื่อตก และตอบด้วยเสียงนุ่มลึกอันเป็นเอกลักษณ์ ท่าทางกดดันทุกครั้งที่ถูกชวนคุย หน้าแดงฉ่ากับคนอื่นเป็นเรื่องปกติ แต่มักจะถอยไปยืนห่างๆอีกฝ่ายเพื่อซ่อนมัน พูดจาสุภาพกับทุกคน 

                  - ขี้แยผิดผู้ชายทั่วไป กลั้นร้องไห้ไม่เก่ง จิตใจอ่อนโยน รักสัตว์ (โดยเฉพาะสัตว์ปีก จะอ่อนโยนด้วยมาก) อ่อนไหวง่าย ถูกคนใกล้ตัวดุ พูดจาเสียดสี แกล้ง(แม้จะแค่เล็กน้อยก็ตาม) หรือตะคอกใส่ อาจไม่ถึงกับสะอื้น แต่จะทำหน้าเหมือนลูกหมาถูกทิ้ง (ซึ่งน่ารักมาก ถึงจะไม่เข้ากับลุคก็เถอะ) แล้วต่อมน้ำตาแตกออกมาดื้อๆ (แต่ถ้าแค่แซว จะยิ้มเจื่อนๆ แล้วแก้ตัว) เขาเป็นผู้ชายตัวสูงโปร่งที่อินกับเรื่องเศร้าได้ง่ายมาก เวลาดีใจบางครั้งก็จะร้องไห้ออกมาเหมือนกัน แต่ถ้าใครถามก็จะบอกว่า "เผ่าของผมตาแห้งง่าย เลยมีน้ำตาไหลออกมาบ่อยเป็นปกติ" ปากไม่ตรงกับใจเพื่อรักษาภาพลักษณ์อย่างถึงที่สุด แต่ไม่สำเร็จเท่าไหร่หรอก คุยบ่อยหน่อยเดี๋ยวก็จับไต๋ได้เอง 

                   -ชอบสังเกตุการณ์ แอบมองทุกคนอยู่ห่างๆเพราะขี้เหงา (แต่กับคนที่แอบชอบจะสโต๊กเกอร์หนักเป็นพิเศษ) แต่ไม่กล้าเข้าไปคุยกับใครก่อน  เวลามีคนมาปรึกษาเรื่องของที่อยากได้ นิสัยคนอื่น ของที่คนอื่นชอบ รสนิยมของคนอื่น เขามักจะตอบได้ถูกต้องแม้จะไม่เคยคุยกับคนๆนั้นจริงๆก็ตาม จึงดูรอบรู้ เขามองคนรอบข้างเฉพาะส่วนดีเป็นหลัก ต่อให้คุณมีข้อเสียเป็นร้อย เขาก็ยังหาข้อดีของคุณมาชมคุณได้ เขาจะชื่นชมคนแข็งแกร่ง และมั่นในใจตัวเองเป็นพิเศษ เพราะเป็นตัวตนที่เขา "พยายาม" จะเป็น สิ่งมีชีวิตมักหลงใหลสิ่งที่ตนไม่มี

                   -มีความพยายามที่จะพัฒนาตัวเอง เขารักการอ่านและการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ เป็นหนุ่มคงแก่เรียนมากคนหนึ่งราวกับห้องสมุดเดินได้ เวลาว่างก็จะฝึกฝนอยู่เสมอ เพื่อจะเป็นชายที่เยือกเย็น สง่างาม และแข็งแกร่งขึ้นสักนิดก็ยังดี แม้จะขี้แย ขี้อาย หรือหวาดกลัวในเวลาปกติ แต่ในนาทีขับขันหรือเวลาอีกฝ่ายไม่สบายใจ เขาจะแสดงความเป็นแมนให้เห็น ใจเย็น พึ่งพาได้ขึ้นมาอย่างกับเป็นคนละคน และตัดสินใจเลือกทางที่ดีที่สุดได้อย่างเหลือเชื่อด้วยสัญชาติญาณ เหมือนสายเลือดสัตว์เทพอารักษ์จะตื่นขึ้นเฉพาะเวลาต่อสู้ เขามักจะยืนหยัดอยู่แนวหน้า และ ลอบโจมตีอีกฝ่ายเพื่อสนับสนุนพวกพ้องอย่างไร้ที่ติ 

                        -เป็นมาโซคิสกับคนที่ชอบ มักจะเป็นให้คนที่รักได้ทุกอย่างตั้งแต่ทาสรับใช้  สัตว์เลี้ยง ไปจนถึงกระสอบทราย สั่งให้ทำอะไรก็ทำโดยไร้ข้อกังขา ถึงจะถูกบังคับขู่เข็ญดุด่าว่ากล่าว ถ้ามันมาจากคนที่รักก็จะรู้สึกดีว่า "เขายอมพูดกับคนอย่างเราด้วย..." ปรารถนาดีกับคนที่แอบรักจากก้นบึ้งของหัวใจ รู้สึกเวลาที่ถูกกระทำรุนแรงด้วย ถ้ามันมาจากคนที่รัก...ให้เขาเป็นอะไรก็ได้ ด้วยความซื่อสัตย์ภักดีทั้งหมดที่ไหลเวียนในสายเลือดสัตว์ประจำกาย

    ประวัติ:: เดิมทีตระกูลของเขาเป็นสัตว์ประจำกายสมาชิกราชวงศ์แซคเคนัสแมาหลายชั่วอายุคน ทว่ากาลครั้งหนึ่งเมื่อไม่ช้าไม่นานมานี้ "เวสพีเรีย" โครนอสเพศเมียประจำกายของเจ้าชายที่ 1 แห่งแซคเคนัสนั้นได้รับพรจากเจ้านายให้สามารถแปลงร่างเป็นกึ่งมนุษย์ได้ เพื่อมาเป็นเพื่อนคู่คิดคลายเหงาข้างกายาพระองค์ 

    รูปภาพที่เกี่ยวข้อง

                        แม้เวสพีเรียจะจงรักภักดียิ่งชีพและถวายเจ้านายได้ทุกสิ่งไม่เปลี่ยนไป แต่ความงามที่ผิดแผกไปจากเทพธิดาชั้นสูงก็ทำเอาว่าที่กษัตริย์แห่งอาณาจักรท้องฟ้าตกหลุมรักสัตว์ประจำกายของตนตั้งแต่แรกเห็น 
                        ยิ่งทั้งคู่ได้ใกล้ชิด ยิ่งสนิทสนมในร่างนั้น ไม่นาน...เรื่องที่ว่า "สตรีชาติเดรัจฉานใกล้ชิดองค์รัชทายาทถึงขั้นได้ขึ้นไปรับใช้บนแท่นบรรทม" ก็แพร่กระจายไปทั่วปราสาท จนเหล่าขุนนางหวาดระแวงบัลลังค์ราชินีในอนาคต และกลัวว่าสายโลหิตเทพจะมีเลือดสัตว์ปะปน ภายในวังตอนนั้นเต็มไปด้วยความกดดัน สายตาที่เคียดแค้น และเสียงซุบซิบถึงเธอ แต่สิ่งที่เลวร้ายที่สุด...คือการคงอยู่ของเธอทำให้เจ้านายเสื่อมเสียเกียรติยศความน่าเชื่อถือ และอาจถึงขั้นเสียบังลังค์ไป
                        เวสพีเรียรักและภักดีเกินกว่าจะยอมให้เป็นไปเช่นนั้น...กลางดึกสงัดคืนหนึ่ง องค์ชายได้ตื่นมาพบว่าสัตว์ประจำกายได้โบยบินหนีไปจากอ้อมกอดใต้ปีกสีขาวของเขาอย่างไร้ร่องรอย 
                             ...ไร้วี่แววหวนคืน

                            หลายปีต่อมา...ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็เป็นได้เพียงความรักในวัยเยาว์ราวกับภาพฝันที่หายไปกับรุ่งสาง ความจริงไม่ต่างจากเทพนิยาย เมื่อเจ้าชายอภิเษกกับเจ้าหญิงที่คู่ควรและขึ้นเป็นราชาองค์ปัจจุบันของแซคคาอัส ในขณะที่ตัวโครนอสสาวเนรเทศตัวเองไปยังเจอร์ริโค ใช้รูปลักษณ์นั้นเข้าไปปะปนกับสตรีเผ่าปีศาจราวกับพยายามลบล้างอดีตของจนเองไปพร้อมๆกับเจ้านายที่รัก

    รูปภาพที่เกี่ยวข้อง


                             เวสพีเรียทำงานเป็นนางระบำในร้านเหล้าชั้นสูงอยู่พักใหญ่ๆ ก่อนลูกค้าประจำอย่างท่านลอร์ดเซดริก คาสเทเนอร์ หัวหน้าราชองครักษ์เผ่าปีศาจจะเข้ามาในชีวิตเธอ ทั้งคู่แต่งงานเป็นสามีภรรยากันอย่างถูกต้องและให้กำเนิดบุตรชายคนหนึ่งในอีก 9 เดือนต่อมา

                             ทุกอย่างดูราบรื่นเป็นปกติดี...แต่เวสพีเรียก็รู้ดีแก่ใจ
                             ตัวโครนอสนั้นเป็นสัตว์เทพนิยายที่ใช้เวลาตั้งครรภ์นาน 5 - 7ปี

                             น็อคติส ลูกของเธอ...คือบุตรคนแรกของราชาแห่งแซคคาอัส

    รูปภาพที่เกี่ยวข้อง


                             ท่านลอร์ดที่ระแคะระคายเรื่องคนรักเก่าและชาติกำเนิดของภรรยาอยู่บ้างก็เลี้ยงลูกชายด้วยความหวาดระแวง  เข้มงวดในทุกเรื่องทั้งการเรียน การแต่งกาย ความประพฤติ มารยาท ฝีมือในการต่อสู้ ศิลปศาสตร์ เมื่อผิดพลาดก็จะลงโทษด้วยการล่ามมือล่ามเท้า เฆี่ยนตี หรืออดอาหารเหมือนพวกทาส คาดหวังให้น็อคติสเป็นชายที่สมบูรณ์แบบที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ อย่างไรเสียก็ได้ใช้นามสกุลของหัวหน้าราชองครักษ์ที่ภาคภูมิแล้ว 
                                  แม้ท่านแม่ที่เป็นสัตว์ประจำกายรองมือรองเท้าผู้อื่นมาก่อนจะสอนหนูน้อยไร้เดียงสาว่า "คุณพ่อทำเพราะอยากให้หนูได้ดีนะ" แต่ความเข้มงวดกวดขันอันปราศจากความห่วงใยก็ทำให้เด็กน้อยรู้สึกต่ำต้อยด้อยค่าในตัวเอง กลายเป็นคนมองโลกในแง่ร้าย จิตใจอ่อนแอหากเทียบกับเด็กวัยเดียวกัน และ เริ่มหวาดกลัวที่จะเข้าใกล้ท่านลอร์ดปีศาจจอมเอาแต่ใจ

                             ...ราวกับ "ความรักของพ่อ...คือสิ่งที่ต้อง [พยายาม] เพื่อให้ได้มา"

                             ตัวน็อคติสไม่เข้าใจว่าแท้จริงแล้ว...มันเป็นเรื่องผิดปกติ 
                                  แม้จะเจ็บปวดแค่ไหน แต่ก็ทำตามคำสั่งอย่างเคร่งครัดไม่ต่อต้าน เพราะโลกทั้งใบของเขามันแคบแค่คฤหาสถ์คาสเทเนอร์เท่านั้น ท่านพ่อจ้างครูหลากแขนงมาสอนเขาในห้องเล็กๆ ไม่ไปโรงเรียน ไม่มีเพื่อนรุ่นเดียวกัน จึงไม่มีใครให้เปรียบเทียบ 

                                  จนกระทั่ง...เมื่อน้องสาวของเขาถือกำเนิดขึ้นมา...
                                  ความอ่อนโยนในแววตาคู่นั้น อ้อมกอดที่ทะนุถนอม เสียงหัวเราะแห่งความปลื้มปิติที่เธอเกิดมาบนโลกนี้ของท่านพ่อผู้เย็นชาและโหดร้ายน่ากลัวคือสิ่งที่เขาไม่เคยได้รับมาทั้งชีวิตแม้จะพยายามมากแค่ไหน หรือโดนเซี่ยนตีบ่อยเพียงใดก็ตาม รอยยิ้มของท่านแม่ก็ยังสวยที่สุดเท่าที่เคยเห็นเมื่ออุ้มเด็กคนนั้นไว้ในอ้อมแขนเช่นกัน ทารกน้อยหลับตาพริ้ม กล้ามเนื้อใบหน้าที่ยังไม่ได้รูปดีนักปรากฏรอยนิดๆที่มุมปาก ดูราวกับรอยยิ้มนางฟ้าตัวเล็กๆที่แสนบริสุทธิ์ 

                                  แต่สำหรับพี่ชายต่างพ่อ...มันดูราวกับรอยยิ้มเย้ยหยัน...
     
                                  น็อคติสยืนนิ่งอึ้งอยู่หน้าประตูห้อง...ไม่ไกลจากภาพครอบครัวในอุดมคติในห้องนั้นนัก... 
                                  ถ้าเป็นพี่ชายทั่วไป คงจะวิ่งเข้าไปหา พ่อ แม่ และสมาชิกใหม่ในครอบครัวด้วยท่าทางตื่นเต้นดีใจ แต่ขาอันสั่นเครือของเด็กน้อยวัย 12 กลับไม่ยอมให้ทำ ใบหน้าเล็กๆนั้นซีดเผือด ดวงตาของเขาร้อนผ่าวจนมีน้ำใสๆไหลอาบแก้มโดยไม่รู้ตัว ที่ผ่านมาความเย็นชาของผู้เป็นพ่อก็ค่อยๆกัดกร่อนจิตใจเหมือนคลื่นค่อยๆซัดเอาหาดทรายออกไปอย่างแผ่วเบาทีละนิดๆทุกวันอยู่แล้ว แต่วันนี้...เขาถูกคลื่นซึนามิแห่งความจริงถาโถมเข้าใส่อย่างฉับพลัน 

                                  ความจริงที่ว่า...พยายามไปก็ไร้ความหมาย
                                  ความจริงที่ว่าท่านพ่อไม่เคยรัก ไม่เคยเห็นเขาเป็นลูกชายแลยแม้แต่น้อย พาขาเล็กๆค่อยๆถอยหลังอย่างช้าๆ ก่อนน็อคติสจะปิดประตูห้องและวิ่งออกไปจากตรงนั้น   
      
                                  "ฮือ...ฮึก ฮือ...ฮึก " 
                                  น็อคติสนั่งชันเข่าอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ที่ไกลจากคฤหาสถ์ หลังวิ่งลัดเลาะผ่านป่าเล็กๆ คลานลอดผ่านรูกำแพง และพุ่มไม้จนมั่นใจว่าไม่มีใครจะมาพบเห็น มือเล็กๆอันสั่นครือ และผมยาวหยักศกปรกใบหน้าสะอื้นที่กำลังไห้ไม่น่ามอง แต่มันก็ซ่อนเสียงคร่ำครวญจากส่วนลึกของวิญญาณนั้นไม่ได้ จนสัตว์หลากชนิดในสวนนั้นเริ่มสนใจและเดินเข้าไปหา ไม่ต่างจากเจ้าของของพวกมัน...

                              "นายน่ะ...เป็นตัวอะไรงั้นหรอ?"
     
                              "....!?" เจ้าของใบหน้าเปื้อนน้ำตาเงยหน้าขึ้นมามองต้นเสียงไร้เดียงสาตรงหน้า แต่กลับพบว่าต้นเสียงคือคนที่เขามีโอกาสเห็นเพียงในรูปเท่านั้น ทำให้น็อคติสต้องรีบเปลี่ยนท่านั่งให้กลายเป็นท่าคุกเข่าลงอย่างฉับพลัน กลั้นใจให้สะอื้นเบาลง และตอบด้วยความพยายามจากทั่วร่าง "ผ..ผม ขอ..ขออภัยอย่างสูงที่บุกรุกเข้ามา ในเขตสวนพระราชฐาน..ครับ ผมอาศัยอยู่ข้างๆนี่ ผมขอโทษครับ ขอโทษครับ ฮึก...ฮือ ฮือ" 

                                  "งั้นหรอ...แปลว่าหลงเข้ามาสินะ?" 
                                  เจ้าชายออฟิอัสตรัสด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนเหลือเกิน ไม่ต่างจากมือที่เอื้อมมาลูบหัวอีกฝ่ายอย่างเอ็นดู สัมผัสนั้นมันช่างอบอุ่น...จนน็อคติสกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ นี่อาจเป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่เขาได้รับความอบอุ่นจากใครสักคนโดยไม่ต้องพยายามก็เป็นได้ จนเผลอลืมไปแล้วว่ามันรู้สึกดีแบบนี้นี่เอง 

                                  ก่อนมือเล็กๆขององค์รัชทายาทจะเริ่มเคลื่อนไปเกาแก้ม เกาคางเบาๆ จนความอบอุ่นเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นจั๊กจี๊ พอเอามารวมกับคำถามเมื่อครู่ หนูน้อยก็เพิ่งมาเข้าใจบางอย่าง

                                  "เอ่อ...ผมไม่ใช่สัตว์นะครับ..." น็อคติสหน้าแดงฉ่า ไม่ใช่เพราะโกรธ แต่อายที่ถูกเข้าใจผิด เพราะตอนนั้นเองเขาก็ยังไม่ทราบชาติกำเนิดของท่านแม่ดีนัก ได้แต่คิดว่าตัวเองเป็นเผ่าพันธุ์ที่ไม่ต่างไปจากเด็กชายธรรมดาๆที่หาได้ทั่วไปตามท้องถนนในอาณาจักรแห่งแสงจันทร์ "ผม...เป็นปีศาจครับ"

                            "งั้นหรอๆ พูดได้ด้วย เก่งจังเลยๆ เป็นสัตว์เทพสินะ?" ปีศาจชั้นสูงตัวน้อยที่สามารถแยกความแตกต่างออกได้ด้วยสัญชาติญาณก็ดันเอาแต่สนใจรูปลักษณ์ของลูกครึ่งสัตว์หายากตรงหน้า จนเมินคำพูดของมันไปซะเฉยๆ "ขนสีดำนี่สวยจังเลยนะ...แถมนุ่มด้วย!"

                                                           โถ่...นั่นมันเส้นผมต่างหากนะครับ 

                               "...คิก" ถึงน็อคติสจะอ่อนใจ แต่พอเห็นริมฝีปากบางที่ฉีกกว้างจนตาหยี และเสียงหัวเราะคิกคักเหมือนระฆังแก้วนั่น น้ำตาของหนูน้อยพลันหยุดไหลไปอย่างน่าประหลาด ไม่นานก็เผลอยิ้มและหัวเราะตามออกมา สุดท้ายก็ทำได้แค่ถอนหายใจ แล้วยอมให้ลูบหัวลูบหางเล่นตามใจชอบ ทั้งที่ปกติเป็นคนกลัวการสกินชิพแท้ๆ แต่พอเป็นเขากลับไม่รู้สึกรังเกียจหรือตื่นกลัวเลยแม้แต่น้อย 

                               รอยยิ้มที่แสนเจิดจ้านั้น...ได้มอบความเข้มแข็งให้กับเขา...


    ธาตุ:: ความมืด มายา ลม

    พลังเวทมนต์:: 1. มนตร์ปลดผนึกโครนอสในร่างกายของเขาเอง (ดูเผินๆเหมือนเวทย์แปลงร่างเป็นครึ่งสัตว์) ดวงตาลึกกลวงโบ๋มีไฟสีน้ำเงินแผ่ออกมาจากปากกับตาเหมือนในรูป(แต่เป็นร่างคน) จะมีปีกสีดำขนาดยักษ์งอกออกมาจากกลางหลัง บินได้ สลัดขนกลางอากาศจำนวนมหาศาล ผู้ที่เผลอแตะต้องโดนขนสีดำนั้นแม้น้อยนิดจะตาบอด จนกว่าจะได้รับการรักษาเหมือนโดนพิษ ทนทานต่อไฟ และนำไฟมาเพิ่มพละกำลังให้ตนได้ เพราะเป็นนกกินไฟ
                             2. เวทย์สายลมใบมีด สร้างลมหมุนที่พัดรุนแรงปะทะกับอากาศทุกทิศทางจนคมกริบ ร่ายใส่ของจะขาดเป็นหลายท่อน ร่ายใส่คน จะรู้สึกเหมือนโดนมีดบาดทั่วร่าง

    ระดับ:: 3 ดาวทอง

    ความสามารถพิเศษ:: คุยกับนกรู้เรื่อง, นอนได้นานกว่า 31 ชั่วโมง (ต้องให้สัตว์ประจำกายปลุกไปเรียนเป็นประจำ), เต้นรำเก่ง, ร้องเพลงเพราะ, ความอดทนสูง นั่ง หรือยืนนิ่งๆได้นาน...นานจนมีสัตว์มานอนด้วย มีนกมาเกาะเพราะคิดว่าเป็นต้นไม้, สัตว์ส่วนใหญ่จะเชื่องกับเขา, ตีนเบาและแว็บเก่ง เดินๆอยู่ด้วยกัน หันมาอีกทีก็หายไปแล้ว ซ่อนตัวเก่ง มักแอบสะกดรอยคนอื่นได้แนบเนียน, มือเบามาก ถนัดงานประณีตที่ต้องใช้เวลาทำนานๆเช่นเย็บปักถักร้อย หรือ งานเกะสลัก

    อาวุธ:: ปลอกสวมนิ้วโป้งที่ตกทอดกันมาในตระกูล ใช้เป็นสื่อกลางในการร่ายเวทย์เหมือนคฑาวิเศษ ทำให้เวลาใช้เวทย์จะดูเหมือนยิงออกมามือเปล่า

    查看圖片

    สัตว์ประจำกาย:: "ซากาซาเว" นกเรเวนสีขาวดำที่ปรึกษาคนสนิท ตามองได้ไกล ฉลาด และภักดี เห็นน็อคติสเป็นเจ้านายที่เคารพ แต่ด้วยความที่น็อคติสเป็นครึ่งสัตว์ ทำให้ซากาซาเวให้ความรู้สึกเหมือนเป็นเพื่อนสนิทมากกว่าเป็นสัตว์ประจำกาย บริวาร หรือสัตว์เลี้ยง

    ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ fantasy bird

    ภูติ:: "ลูลู่" ภูตรแห่งการสื่อสารและการลักขโมย หน้าตาย เยือกเย็น เป็นคนคอยปลอบให้เจ้านายใจเย็น และเป็นคนคอยเทรนเจ้านายเรื่องการสะกดรอย การซ่อนตัว และการไปไหนมาไหนไม่ให้ใครรู้ตัว 

     à¸£à¸¹à¸›à¸ à¸²à¸žà¸—ี่เกี่ยวข้อง

    ชอบ:: สัตว์ปีก , เปลวไฟสีเหลืองนวล-ส้มเพราะอร่อย (???) , ของขบเคี้ยวจำพวกถั่วหรือเมล็ดพืชเช่น ถั่วลิสง ถั่วเหลืองคั่วเกลือ เมล็ดทานตะวัน เมล็ดฟักทอง ฯลฯ , อาหารร้อนๆ 

    ไม่ชอบ:: ท่านพ่อ(แต่ก็ยอมจำนนโดยดี ถึงจะไม่ชอบนิสัย แต่ลึกๆก็รักมาก) , อากาศหนาวเพราะเขาป่วยง่าย,โซ่แซ่กุญแจมือ(เพราะตอนเด็กๆโดนพ่อฟาดบ่อยจนจำฝังใจ แต่ถ้าเซฟเป็นคนทำก็อาจจะชอบขึ้นมาก็ได้) , ที่แคบ , การถูกล่าม

    เพิ่มเติม:: -ทั้งลู่ลู่ทั้งซากาซาเวจะเกาะ(นั่ง)อยู่บนไหล  ข้างๆของน็อคติสเป็นปกติ ดูเผินๆเหมือนสัตว์เลี้ยง
                     -น็อคติสยอมเซฟได้ทุกอย่าง เพราะคาดหวังว่าสักวันจะได้เห็นรอยยิ้มเหมือนสมัยเขายังเด็กที่ทำให้ตกหลุมรักอีกสักครั้ง และในวันที่เลวร้ายของน็อคติส เซฟได้ทำให้เขากลับมายืนได้ ในวันนี้...ถ้าได้มีโอกาสเป็นฝ่ายเยียวยาแผลใจให้เขาได้บ้างสักนิด...แค่นั้นน็อคติสก็มีความสุขอย่างที่สุดแล้ว 

    คุยกับตัวละคร

    สวัสดีครับ ผมออร์ฟิอัส เจอร์ริโค แล้วคุณชื่ออะไร
    :: ผมไม่ใช่คนสำคัญขนาดที่ท่านต้องจำชื่อหรอกครับ (ยิ้มเศร้าๆ)
       (ท่าน...จำผมไม่ได้สินะ?)
    เป็นชื่อที่เพราะมากเลย แล้วทำไมถึงมาสมัครครับ
    :: เป็นเหตุผลส่วนตัวน่ะครับ
    (จะไปพูดได้ยังไงว่าตามท่านมา มันฟังเหมือนพวกโรคจิตเลยแฮะ...)

    งั้นหรอ แล้วเจอกันในเรื่องนะครับ {สำหรับบทอื่น}
    :: -

    แล้วคุณชอบอะไรในตัวผมงั้นหรอ {สำหรับฮาเร็ม}
    :: (นิ่งเงียบไปพักหนึ่ง ก่อนจะตอบพลางหน้าแดง ยิ้มบางๆ) ทุกอย่างครับ

    งั้นหรอ ผมเริ่มชอบคุณแล้วสิ แล้วเจอกันในเรื่องนะครับ ที่รัก//จุ๊บที่มุมปากเบาๆ {สำหรับฮาเร็ม}
    :: ... (เข่าอ่อนร่วงลงไปกองกับพื้น ดึงหมวกลงมาบังหน้า เพราะหน้าแดง+ซาบซึ้งจนน้ำตาเล็ด)

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×