ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [AOT / SNK] แด่เธอในอีก 2,000 ปีข้างหน้า...จากไททันเกราะ

    ลำดับตอนที่ #2 : ขออยู่เคียงข้างอีกสักครั้ง

    • อัปเดตล่าสุด 22 ก.พ. 65



    ? cactus

    ##################

    "ไปล่ะ ฝากด้วยนะ คู่หู"

    "ไว้ใจฉันได้เลย"

    นั่นคือคำพูดสุดท้ายที่ผมได้ยินจากสหายร่วมรบ

    แผ่นหลังของเขาที่มุ่งตรงไปข้างหน้าอย่างไม่ลังเล

    ไม่หันกลับมามองผมอย่างทุกครั้ง

    คือภาพติดตาตลอดชีวิตที่เหลืออยู่

    แม้กระทั่งกลับมาเกิดใหม่ก็ตาม

    ##################


    “ฮึก โอเค...ฉันพร้อมจะคุยแล้ว”

    หลังนั่งพิงผนังห้องน้ำแล้วปล่อยให้น้ำตาไหลไปเรื่อยๆ อยู่นานเกือบชั่วโมง ผมก็เริ่มตั้งสติได้ในที่สุด แทนที่จะฉวยจังหวะนี้หนีไป...เธอคนนั้นว่างก้นลงข้างๆ ผมจนพื้นที่คับแคบ เหมือนผู้ร้ายยอมมอบตัวแต่โดยดี 

    เธอคอยลูบหลังปลอบโยนจนน้ำตาผมแห้ง และรอรับฟังอย่างใจจดใจจ่อ ตอนนี้ความเงียบครอบงำบรรยากาศจนเสียงลมที่เล็ดลอดผ่านช่องแกลดังจนน่าอึดอัด ผมสูดหายใจ หันไปเผชิญหน้าแววตาสีเขียวหม่นเทาที่แสนคุ้นเคย เผยอปากเตรียมจะพูดอะไรสักอย่าง 


    “.....”

    เวร...จะเริ่มยังไงดีนะ?

    เบลทรูท ครั้งสุดท้ายที่เราเจอกันคือบนกำแพงนั่น...ฉันสาดเสียเทเสียนายเรื่องพึ่งพาไม่ได้ ชอบโยนงานให้คนอื่นแล้วยืนดูเฉยๆ จบท้ายด้วยบิ๊วให้นายทำภารกิจสุดท้ายให้ดีที่สุด

    แล้วก็เป็นฉันเองที่ถูกทีมสำรวจเล่นงานจนราบคาบ 

    ฉันส่งสัญญาณให้นายแปลงร่าง...แต่นายก็ไม่ทำ นายมานั่งลงข้างๆ ซากฉันที่โดนยำเละไม่มีชิ้นดี ถึงหน้าจะโดนระเบิดหายไปจนมองไม่เห็นอะไรเลย แต่ฉันยังรู้สึกได้ถึงสายตาของนายที่จ้องมา

    ใช่แล้ว เหมือนตอนนี้เลย

    ภาพความทรงจำ ณ เช้าวันสุดท้ายที่เขตชิกันชิน่าไหลบ่าเข้ามาในหัวผม ตัดภาพสลับไปมากับคเศษเสี้ยวความทรงจำอื่นๆ จนเริ่มปวดหัวหนึบ แต่ผมก็ยังพยายามทนฝืนอาการปวดประคองสติและสอดประสานตากับเธอค้างไว้อย่างนั้น กลัวว่าถ้าเผลอกะพริบตาแค่เพียงครั้งเดียว ผมจะสะดุ้งตื่น แล้วเบลทรูทจะหายวับไปตรงหน้าผม กลายเป็นแค่ภาพในความฝันเหมือนเคย

    กลัวซะจนต้องใช้แขนแกร่งคว้าไหล่เธอทั้งสองข้างเอาไว้จนสาวน้อยสะดุ้ง! เธอดูตื่นกลัว แต่ก็ไม่ยอมละสายตาจากผมเช่นกัน ผมต้องรีบพยายามจับต้นชนปลายแล้วกลั่นคำพูดออกมาให้ได้สักคำ


    “ขอโทษ”

    ขอโทษที่พูดจาไม่ดีใส่นาย ทั้งๆ ที่นายอยู่ข้างๆ ฉันเสมอตั้งแต่เจอกันครั้งแรกจนวันสุดท้าย ขอโทษที่ทำร้ายแอนนี่ต่อหน้านายจนนายร้องไห้ ขอโทษที่ลากไปเจอเรื่องบ้าๆ ตั้งหลายอย่าง ขอโทษที่เสียสติแล้วทิ้งนายไว้กลางดงศัตรู ขอโทษที่เป็นคู่หูที่ห่วยบรม ขอโทษที่ทิ้งนายไว้คนเดียวในวันสุดท้าย

    บ้าเอ๊ย! ทำไมมีแต่เรื่องให้ขอโทษ! ยิ่งความทรงจำไหลบ่า ผมยิ่งนึกออกแค่คำๆ นี้ 

    แต่ฉันก็ยังดีใจมาก...

    ดีใจมากจริงๆ ที่ได้เจอนายอีกครั้ง ความรู้สึกมันท่วมท้นผสมปนเปไปหมดจนถึงจะร้องไห้ไปรอบหนึ่งแล้ว ถึงจะพยายามตั้งสติ สุดท้ายพอมองเข้าไปในแววตาคู่นั้นก็จุกอกจนแทบพูดอย่างอื่นไม่ออก

    “ไม่เป็นไร...ถึงจะถูกลากเข้ามาในห้องอาบน้ำ แต่ไรอันเป็นคนทำ ฉันโอเค”


    “.....”

    น้ำตาผมแห้งไปในชั่วอึดใจ เหมือนถูกกระชากจากเขตชิกันชิน่ากลับมายังห้องอาบน้ำชายในหอพักนักศึกษาของมหาวิทยาลัยกระทันหัน 

    จริงสิ...ตอนนี้นายกลายเป็นสตอล์กเกอร์ฉันไปแล้วนี่นะ?

    .........

    …..

    ….

    ..

    .

    บลทรูท นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันเนี่ย? 

           เจ้าบ้าเอ๊ย นายทำอะไรของนาย? แต่ที่บ้ากว่านั้นก็คือผมลืมเรื่องนี้ไปซะสนิท แล้วเพิ่งจะมารู้ตัวนี่แหละ ผมจ้องเธอเขม็งเหมือนอยากฝากความคิดไปทางกระแสจิต เผื่อดวงวิญญาณของอดีตคู่หูจะรับรู้ความรู้สึกผมขึ้นมาบ้าง

    “ไรอัน ฉัน ก็..ขอโทษ”

    ร่างสูงระหงเอ่ยเสียงอ่อยขณะนั่งกอดเข่าก้มหน้างุดๆ เหมือนลูกหมาคอตก หลังถูกชายที่ตามสตอล์กเกอร์กอดขาร้องห่มร้องไห้ ต่อด้วยหน้าซีดเผือดเหมือนเป็นลมคาที่เพราะติดลูปย้อนอดีตในโลกส่วนตัว ตบท้ายด้วยมานั่งจ้องหน้าเธอด้วยความคับข้องใจเต็มที่ ผมอาจไม่ใช่คนเดียวที่อารมณ์อ่อนไหวกับสถานการณ์ตอนนี้

    ผมพยายามถามเรื่องเธอ จนได้คำตอบทุกอย่าง เธอชื่อ ‘เบธานี่ ฮาวเวิร์ด’ เป็นเฟรชชี่เหมือนกัน แต่เราอยู่คนละคณะ เบธสังเกตเห็นผมครั้งแรกในวันปฐมนิเทศ แค่พริบตาเดียวที่ได้เจอ ก็รู้สึกแปลกไป...คิดว่าตัวเองคงรักผมเข้าแล้ว ตั้งแต่แรกเห็น (ห้ะ?) รู้ตัวอีกทีก็คอยแอบตามผมทุกครั้งที่มีโอกาสมาตลอดสัปดาห์ ทั้งสายตา กระดาษสี และอะไรต่อมิอะไรที่เกิดขึ้นกับผมเป็นฝีมือเธอจริงๆ

         จากที่ผมซักไซ้...ดูเหมือนจะไม่มีปฏิกิริยาอะไรที่บ่งบอกได้ว่าเบธมีความทรงจำเมื่อ 2000 ปีก่อนหลงเหลืออยู่เลย  
          “ฉันไม่ได้อยากทำให้ไรอันรู้สึกแย่ จ..จริงๆนะ”

    “....”

    ผมเชื่อ น้ำเสียงเธอสั่นเครืออย่างคนหัวใจสลาย เห็นผมอาการหนักขนาดนั้นคงมีผลไม่น้อย ถึงผมจะไม่ได้ร้องไห้เพราะเรื่องสตลอล์กเกอร์ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ซะทีเดียวว่าเธอไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง จนถึงตอนนี้ผมก็ยังเห็นภาพเด็กหนุ่มร่างสูงที่ชอบนั่งกอดเข่าอยู่เสมอ ซ้อนทับบนตัวเธอ

    “ฉันแค่...อยากดูแลไรอัน เท่านั้นเอง"



    ผมอยากหัวเราะและร้องไห้ออกมาพร้อมๆกัน จนถึงตอนนี้อารมณ์ผมเหวี่ยงไปมายิ่งกว่ารถไฟเหาะ ทั้งประสาทจะกินที่รู้ว่าคนที่ทำให้ผมปวดหัวมาทั้งสัปดาห์คือคนเคยใกล้ตัว ทั้งดีใจที่ได้เจอ...ปลาบปลื้มเลยล่ะ ทั้งเศร้าที่เธอเองก็ยังมีร่องรอยความรู้สึกในอดีตตกค้างอยู่เหมือนกันแม้จะไม่มีความทรงจำก็ตาม

    เธอไม่ได้มี 'รักแรกพบ' กับผม หรืออะไรทำนองนั้นจริงๆ หรอก อย่างน้อยผมก็ไม่คิดแบบนั้น

    ส่วนลึกในจิตวิญญาณของเบลทรูทอาจยังผูกพันกับผมอยู่...ก็เลยแค่อยากดูแลผมจริงตามที่พูดนั่นแหละ

    หมอนั่นคอยดูแลผมเสมอ...

    “เบธ...ขอบใจนะ แต่ไม่ต้องหรอก” ผมมองสาวสวยตรงหน้าที่ยังคงมองมาที่ผมด้วยสายตาเป็นห่วงเป็นใยอย่างเคย และฝืนยิ้มอย่างสดใสที่สุดเท่าที่คนมีความทรงจำในชาติก่อนจะยิ้มได้ เบ่งกล้ามพูดโอ้อวด “ฉันหมายถึง ดูฉันสิ! ฉันไรอัน เบรนเนอร์นะ ฉันแข็งแรง มีเพื่อนร่าเริงดี เรียนมหาลัยอันดับต้นๆของรัฐ เป็นแถมนักฟุตบอลขวัญใจสาวๆ อีก ฉันดูแลตัวเองได้น่า!”

    “....” 

    “เธอเองก็เอาเวลาไปใช้ชีวิตของตัวเองเถอะ ไม่ต้องคอยดูแลฉันแล้วล่ะ”

    นายได้มาเกิดใหม่อีกครั้งแล้ว ชีวิตวัยรุ่นดีๆ รอนายอยู่นะ เราทุกคนควรมี ‘อิสระ’ ที่จะได้ใช้ชีวิตของตัวเอง

    ใครคนหนึ่งที่น่ากลัวจนลืมไม่ลงสอนผมไว้

    ต่อให้คิดถึงเบลทรูทแค่ไหน ก็ไม่อยากให้หมอนั่นตายจากการเป็นนักรบแล้วมามีชีวิตเป็นสตอล์กเกอร์แบบนี้ ถึงจะใส่ฮูดสีเข้ม แต่ก็ดูออกไม่ยาก นายกลายเป็นสาวละตินสุดสวยหุ่นดีตามพิมพ์นิยมเลยเชียวล่ะ น่าจะไปมีความรักดีๆ มีชีวิตวัยรุ่นดีๆ เหมือนคนปกติซะไป ฉันอยู่ได้น่า

    “แต่ว่า” แววตาสีเขียวหม่นช้อนตามองผมอย่างอ้อนวอน แก้มแดงระเรื่อ พยายามอย่างเต็มที่ที่เรียงร้อยถ้อยคำในหัวจนเสียงตะกุกตะกัก “ฉัน..ก็ยัง อยากดูแลอยู่ข้างๆ ไรอันอยู่ดี...”


    ผมเอือมระอากับหมอนี่จริงๆ แต่ลึกๆ ก็ตื้นตันเต็มอกจนอดยิ้มไม่ได้ ขนาดนายที่ไม่มีความทรงจำยังอาลัยอาวรณ์ขนาดนี้ คิดบ้างไหมว่าฉันที่มีความทรงจำแถมเป็นฝ่ายเสียนายไปจะขนาดไหน แล้วฉันฝืนพูดไปด้วยความรู้สึกยังไง

    “เอาล่ะ เข้าใจแล้ว” เอาไงเอากัน ผมลูบหัวเธอปลกๆ “อยากดูแลเท่าไหร่ก็ตามใจเลย แต่ทำอยู่ในสายตาฉันที เที่ยงพรุ่งนี้มานั่งโต๊ะกินข้าวด้วยกันซะ เลิกสะกดรอยตาม เลิกโทรมาแล้วไม่พูดอะไร แล้วก็เลิกใช้โพสอิซแปะตามข้าวของ มันเหมือนพวกเด็กประถมแกล้งกัน ถ้ามีอะไรก็ส่ง snapchat หรือ massenger มาซะ”

    เธอมีเบอร์ผมแล้ว ผมเลยสรุปเองว่าเธอคงมีช่องทางสื่อสารกับผมทางอื่นด้วยเหมือนกัน ถึงจะแค่ส่องเฉยๆก็ตาม

    “ได้หรอ?” 

    “อืม...ถ้ามีอะไรไม่ชอบใจ ฉันจะบอกเธอเอง กลับมาอยู่ข้างๆ ฉันเถอะ” แสงพระอาทิตย์ยามเช้าสาดทอเข้ามาผ่านหน้าต่างห้องอาบน้ำ สะท้อนกับแววตาสีเขียวหม่นเป็นประกาย ป้าแม่บ้านที่เดินผ่านด้านนอกบ่นงึมงำก่อนปิดไฟที่พวกเราผลาญพลังงานไปทั้งคืน ครั้งนี้ผมเป็นฝ่ายยื่นมือออกไปให้เธอบ้าง “งั้นก็ฝากตัวด้วยนะ ‘คู่หู’ ”

    “ไรอัน!”

    “หวา”

    เบธยิ้มหวานกระโจนใส่ผมทั้งตาแดงเรื่อจนเราร่วงลงไปกองกับพื้น ทับผมเกือบแบนเหมือนที่วอลมาเรีย เพราะเห็นภาพอดีตสหายร่วมรบซ้อนทับกับเธออยู่แท้ๆ ผมเลยพูดแบบนั้นกับสตอล์กเกอร์ตัวเองไปซะแล้ว

    ‘ฉันต้องเสียใจทีหลังแน่’

    ถึงจะสังหรณ์ใจแบบนั้น แต่ตอนที่เดินจูงมือเบธานี่เดินอาบแสงยามเช้าไปตามริมระเบียงทางเดินที่มีสายลมพัดผ่าน ผมรู้สึกราวกับเวลาของเราที่เคยหยุดลง ณ เขตชิกันชิน่าในวันที่เบลทรูทจากผมไป กำลังกลับมาเดินอีกครั้ง


    #######################


    ‘!?!’

    อีกด้านหนึ่ง ชายหนุ่มวัยกลางคนผู้โชคร้ายเพิ่งลงลิฟต์จากชั้นของตนเองมายังโซนของนักศึกษาชายปี 1 เพราะห้องอาบน้ำประจำชั้นอาจารย์กำลังอยู่ระหว่างซ่อมบำรุง เขาจึงต้องมาใช้ร่วมกับพวกเด็กๆ วัยรุ่น อย่างช่วยไม่ได้

    แต่ทันที่ประตูลิฟต์เปิด...อาจารย์หนุ่มก็ต้องกดปุ่มปิดประตูทันควัน! เมื่อเห็นเฟรชชี่ทั้งสองเดินออกมาจากห้องอาบน้ำ ผ่านหน้าตนเองไป


    ม..เมื่อกี้นี้ ไม่ผิดแน่ เบลทรูทกับไรเนอร์

    2 คนนั้นอยู่ด้วยกันอีกแล้วงั้นหรอ!? แถมยังมาเกิดในยุคเดียวกับเราอีก อะไรกัน!


    ชายหนุ่มกอดไหล่ตัวเองสั่นสะท้าน ความหวาดกลัวเสียดแทงไปทั่วร่างในชั่วพริบตาจนต้องลูบขนแขนลุกชันให้สงบลง เขาค่อยๆสูดหายใจเพื่อเอาชนะความหวาดกลัว เลื่อนนิ้วสั่นเทาไปกดเปิดประตูลิฟต์ 

    แม้ว่าจะพยายามมากแค่ไหน ก็ไม่สามารถละสายตาจากแผ่นหลังของอดีตฆาตรได้เลย

    เขาคือชายที่หวาดกลัวทั้งสองมากกว่าใครทั้งหมด...ความทรงจำยังคงฝังลึกในทุกรายละเอียด

    #####################


    ขอบคุณสำหรับคอมเม้นท์และหัวใจนะคะ TwT ปลื้มมากค่าที่ยังมีคนอ่านอยู่




    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×