ตอนที่ 2 : 2.ความจริงที่หลีกหนีไม่ได้
"ปาร์ค จีมิน งานของเธอทำออกมาได้ยอดเยี่ยมมาก ฉันเชื่อว่าในอนาคตเธอจะเป็นนักโปรแกรมเมอร์ที่อนาคตไกลมากได้” อาจารย์หนุ่มเอ่ยชมจีมินหลังจากเลิกคลาส จีมินกล่าวขอบคุณและคำนับให้อาจารย์ไปทีนึงก่อนวีจะโผล่มาตบหัวเขาจากด้านหลังทีนึง
“ทำกูอิจฉาอีกแล้ว ไอ้หน้ากลม” จีมินถึงกับกรอกตามองบนกับสรรพนามที่อีกฝ่ายเรียกเขา เพื่อนเขากับจองกุกคงอยู่ด้วยกันมากล่ะสิ
“เออๆกูเก่งกูรู้ แล้วก็นะกูไม่ได้ชื่อหน้ากลม” ว่าพลางส่งสายตาไปหาเพื่อน ซึ่งฝ่ายนู้นก็ไม่ได้มีท่าทีเกรงกลัวอะไรทั้งยังยิ้มเป็นรูปสี่เหลี่ยมส่งกลับมาให้เขาอีกด้วย
“ถ่อมตัวสักนิดก็ได้เถอะปาร์ค จีมิน”
“ก็กูเก่งจะต้องถ่อมตัวให้มันน่ารำคาญทำไม ตอแหลไม่เป็น”
“กูล่ะเกลียดจริงๆมึงหนิ”
“แล้วจะไปไหนต่อล่ะมึงอ่ะ”
“เดี๋ยวพี่กุกจะมารับไปกินข้าว”
“แล้วมึงอ่ะหน้ากลมจะไปไหน”
“เดี๋ยวพี่ยุนกิจะมารับไปเดินเล่นมั้ง แล้วก็เลิกเรียกกูหน้ากล๊ม!”
“พี่ก็บอกแล้วว่ามันน่ารักไม่เชื่อพี่หรอ”บุคคลมาใหม่โพล่งขึ้นกลางวงสนทนาทำเอาทั้งสองคนสะดุ้งวงแตกไปคนลทิศละทางก่อนทั้งสองจะหันมาทำหน้าดุคนมาใหม่
“พี่กุกมาไม่ให้สุ้มให้เสียง"วีว่าพลางยกมือขึ้นฟาดลงกลางหลังคนรักแรงๆตามด้วยจีมินที่ยกหมัดน้อยๆขึ้นต่อยที่ต้นแขนของจองกุกเป็นการตำหนิกลายๆ
"มันไม่เคยน่ารักนะครับ หน้าผมมันออกจะได้รูป"ว่าพลางยกมือขึ้นลูบคาง
"555หลงตัวเองชะมัดเลยหน้ากลม"จองกุกว่า
"ป้ะพี่กุกไปกินข้าวกัน หิวแย้วๆ!”จีมินเบ้หน้าใส่ทั้งสองคน เหม็นความรักจริงๆ
“ไปก่อนนะ หน้ากลม” เขากรอกตาไปมา เบื่อที่จะต้องมาต่อล้อต่อเถียงกับสองคนนี้ถ้าขืนยังเถียงกันไม่เลิกเห็นทีวันนี้คงไม่ได้ไปไหนกันพอดี แต่จีมินหน้ากลมตรงไหนแก้มออกตรงไหน หน้าเขาออกจะวีเชฟ ถ้าหน้าจีมินไม่เรียวงั้นหน้าใครมันจะเรียวฟะ!
“หน้าแดงเชียวเป็นอะไรไม่สบายหรอ หืม?”จู่ๆมือขาวของใครบางคนก็ทาบลงบนหน้าผากของจีมินจนเจ้าตัวสะดุ้งโหยง เขายิ้มให้ยุนกิก่อนปากน้อยๆจะเอ่ยถามคนตัวขาวอย่างสงสัย
“พี่มาตอนไหนครับผมตกใจหมดเลย”
"พี่ก็มาตอนเราอยากให้มาไงครับ"ยุนกิก่อนจะยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆกับจีมินและยิ้มออกมาเพราะเอ็นดูในความน่ารักของอีกฝ่าย
"แล้วพี่จะพาผมไปไหนหรอครับ"จีมินทำหน้าอยากรู้อยากเห็นจนยุนกิอดหมั่นไส้ไม่ได้เขาดีดปั้กเข้าที่หน้าผากจีมินจนเขาอดยกมือขึ้นลูบหน้าผากไม่ได้
“ไปก่อนเดี๋ยวรู้เอง"พูดจบก็เลื่อนมือลงมาจับมือป้อมๆของจีมินเดินฝ่าสายตานักศึกษาไปอย่างไม่แคร์สายตาของใคร มันทำให้จีมินรู้สึกดีแปลกๆเวลาที่คนตัวขาวทำแบบนี้ให้เขา มันทำให้เขารู้สึกปลอดภัย มั่นคง และมีคนอยู่ข้างเขา ทั้งที่ตลอดมาในชีวิตของเขาไม่เคยมีใครอยู่ข้างเขาเลย
ห้างสรรพสินค้า
"เอาเส้นนี้ครับ"มือเรียวยาวของคนตัวขาวชี้ลงไปบนหน้ากระจกใส ภายในร้านเครื่องประดับ พนักงานพยักหน้ารับก่อนจะจัดส่งเพชรเข้ากล่องให้เรียบร้อย
"พี่กิครับ ผมว่ามันมากเกินไปนะ ผมไม่อยากได้นะครับ แล้วก็ไม่ได้ขอด้วย" จีมินบอกยุนกิไปหลายรอบแล้วแต่เจ้าตัวก็ยืนกรานจะซื้อให้ ตัวจีมินก็ไม่ได้ขัดสนอะไรเงินที่ยุนกิให้เขามาในบัญชีนั้นก็ขึ้นเจ็ดหลักจนเกือบจะแปดหลัก จีมินรู้สึกว่าเขาไม่ได้ต้องการอะไรแล้วนอกจากการมีคนตัวขาวอยู่ข้างๆในชีวิตก็พอแล้ว
"ไม่ได้ขอก็จะซื้อให้ไง หนูเป็นเด็กพี่นะครับจีมิน"ว่าไปก็เอื้อมมือจับบีบจมูกน้อยๆของจีมินอย่างเอ็นดู พนักงานแอบหัวเราะเบาๆก่อนจะกระแอมเรียกคนตัวขาว เขายื่นบัตรเครดิตให้อีกฝ่ายก่อนจะยัดกล่องจี้เพชรใส่มือจีมิน
"พี่กิ--"
"ยุนกิอ่าาาา"จีมินชะงักทันทีเขายังพูดไม่จบก็ถูกแทรกโดยบุคคลมาใหม่ จีมินมองชายที่ตัวเล็กกว่าเกือบจะสิบเซน สายตาของเขามันทำให้ใจของจีมินมันกระตุก ความรู้สึกคุ้นเคยตีขึ้นมา พอรู้สึกตัวอีกทีคนตัวเล็กก็เข้ามาประชิดคนข้างกายจีมินสะแล้ว
"ซองอุน.." จีมินดึงสติก่อนจะทำหน้างงๆ เหมือนว่าทั้งยุนกิและชายคนนี้จะรู้จักกัน แล้วเขายังจะต้องอยู่ตรงนี้มั้ยนะหรือต้องออกไปดี
"นี่ใครอ่ะ รุ่นน้องหรอ"คนตัวเล็กเหยียดสายตามาทางนี้นิดหน่อยจีบปากจีบคอถามยุนกิจบก็สะบัดหน้าหนี จีมินได้แต่คิดว่าคนคนนี้เป็นองค์ชายมาจากประเทศไหนกันวางตัวอย่างกะนกยูง รู้รึเปล่าว่ามันเป็นพฤติกรรมที่ดูNegativeมาก
"ครับ" จีมินตอบรับเสียงเรียบซองอุนหันกลับมาพิจารณาอีกทีสายตาวูบไหวแวบนึงก่อนจะกลับมาเป็นสายตาเหยียดหยันตามเดิม ปากอวบอิ่มขยับเล็กน้อยพอให้เสียงเล็ดลอดออกลำคอพอให้ฟังรู้เรื่อง
"งั้นหรอฉันฮา ซองอุน ฉันเป็นคู่หมั้นยุนกิน่ะ"
"..."
"..."
"..."
ทั้งสามคนเงียบอยู่นานจนจีมินรู้สึกตะลึง อึ้ง และจุกมากกับเซอไพรส์วันนี้เขากำกล่องสร้อยเพชรในมือแน่น เขาทั้งนึกขำและเสียใจที่เมื่อครู่เขายังมีความสุขอยู่และจู่ๆก็มีคนโผล่มาและบอกว่าเป็นคู่หมั้นคนตัวขาวตรงหน้า มันพรากความสุขอันแสนสั้นของเขาให้มันสั้นลงไปอีก เมื่อเขารู้สึกตัวว่าเขาไม่ควรที่จะอยู่ตรงนี้ต่อไปเขาจึงบอกลาทั้งคู่และโบกแท็กซี่กลับคอนโดทันที
"ซองอุน นายมาหาแป๊ะนายรึไงเนี่ย โฮ้ยยย" ยุนกิถอนหายใจอย่างเบื่อหน่ายคนตรงหน้านี้ก่อนจะคิดว่าจะเอาไงต่อไปดีกับคู่หมั้นคนนี้
"เอาไปโยนทิ้งขยะหน้าห้างดีมั้ยนะ"
"ยุนกิ!"ซองอุนตีแขนยุนกิอย่างแรงพลางโวยวาย
.
.
.
"สมน้ำหน้ามั้ยล่ะปาร์คจีมิน เฮอะ!" เขานั่งกอดเข่าสาวผมตัวเองอยู่หน้าโซฟาอย่างหมดอาลัยตายอยาก นี่หรือเปล่านะที่เขาเรียกว่าอาการอกหัก เขาเองก็ไม่เคยอกหักมาก่อนสะด้วยสิ
"บันเทิงดีจริงๆ สุดท้ายก็ต้องน้ำตาตกเพราะผู้ชายที่ตัวเองคิด ฮึก จะเกาะเขากินเนี่ยนะ บ้าที่สุด รู้งี้ไปทำงานหามรุ่งหามค่ำไม่ต้องมาเป็นเด็กเสี่ยให้เขานินทาแถมยังต้องมาเจ็บหัวใจดีกว่าอีก ฮึก" ปากก็พร่ำบ่นไปต่างๆนาๆ จีมินทอดกายลงบนพื้นก่อนจะกลิ้งไปทั่วและมาหยุดนอนที่หน้าประตู ปล่อยน้ำตาให้ไหลอย่างอิสระ เขานอนมองเพดานเล่นอย่างปลงตกเขาคิดอะไรมากมายไปต่างๆนานา เขาจะเลิกเป็นเด็กเสี่ยขายคอนโดทิ้งและเอาเงินทั้งหมดไปคืนยุนกิดีหรือเปล่านะ หรือจะยังอยู่ตรงนี้ต่อไปดี คิดไปคิดมาก็นึกขึ้นได้ว่าต่อให้เขาหนีไปแต่ไม่มีความสุขเหมือนกับมีพี่ยุนกิอยู่ใกล้ๆแบบนั้นสักสามวันคงตรอมใจตายได้ ไม่เอาดีกว่า
ติ้ด ติ้ด
เสียงแสกนคีย์การ์ดประตูดังขึ้นจีมินไม่แม้แต่จะสนใจว่าใครมาจะเป็นวีหรือยุนกิก็แล้วแต่ถ้าถามว่ามาทำอะไรตรงนี้ก็คงตอบไปหน้ามึนๆว่า เขาแค่ง่วง
เมื่อประตูเปิดออกเท้าใหญ่ๆคู่นึงก็เตะเข้าที่หัวเขาอย่างแรง จีมินหันหน้าหนีอย่างอัตโนมัติ
"เห้ย! จีมิน มานอนทำอะไรตรงนี้เนี่ย เจ็บมั้ยล่ะทีนี้ โอ้ยๆ"จีมินนอนมองคนมาใหม่ที่นั่งยองๆตรงหน้า ผิดคาดแฮะ คนที่เขาคิดว่าจะมาทั้งวีและยุนกิกลับไม่มา พอได้ฟังคำถามแล้วใจมันก็พลันน้อยใจขึ้นมาอีก
"เจ็บสิครับพี่กุก มันเจ็บมากๆเลย ฮึก ฮือออ พี่ครับ ทำไมผมต้อง ฮึก ผมต้องรักเขาด้วย ทำไมผมไม่สนใจแค่เงิน ฮึก ที่เขาให้ ทำไมผมต้องรู้สึก จริงๆผมไม่มีสิทนั้นด้วยซ้ำ ผมไม่ อึก ไม่มีสิทรักเขา ฮืออ" จีมินพล่ามออกมาทำเอาจองกุกเหวอไปชั่วขณะ ไม่รอช้าจองกุกปิดประตูและเดินไปเปิดสวิซไฟที่เพราะตั้งแต่จีมินเข้ามาก็ไม่ทันได้แตะมันสักนิด
พอจองกุกเปิดไฟเสร็จเขาก็เดินกลับมานั่งขัดสมาธิตรงหน้าจีมิน เขานั่งฟังคนน้องพล่ามอีกนิดหน่อยก่อนจะเอามือช้อนหัวน้อยๆขึ้นมาวางบนตักและก้มลงไปกอดเจ้าตัวน้อยเอาไฟ มันทำให้จีมินร้องไห้หนักกว่าเดิม
"ทุกคนมีความรู้สึกนะจีมิน เรามีสิทรักมัน เรามีหัวใจ และคนทุกคนมีสิทที่จะมีความรัก ที่ถามว่าทำไมเราไม่สนใจแค่เงินของมันเพราะเราโชคดีนะ ที่พระเจ้าให้ความรู้สึกเรามาและหัวใจมาด้วยเราเก่งนะ น้อยคนที่จะรักมัน คนที่ไร้ความรักไร้ความอบอุ่นแบบมันน่ะ เราต้องเข้าถึงมันมากเลยนะ"
"มันไม่จริงหรอกครับ ฮึก พระเจ้าไม่ได้ให้ผมโชคดี ฮึก ฮืออ ผมถูกทอดทิ้งตั้งแต่เด็ก พอโตขึ้น เขาให้ผมยึดติดกับตนคนนึงแล้วก็ อึก ไม่ให้ผมได้สมหวัง พระเจ้าไม่มีจริงหรอกครับ"จีมินกอดจองกุกแน่นขึ้น จองกุกก็รู้แล้วว่าพูดอะไรไปตอนนี้จีมินก็แอนตี้มันออกไปหมดเลยได้แค่กอดปลอบและลูบหัวให้เจ้าตัวเล็กสงบลง ห้องขนาดใหญ่ตอนนี้มีแค่เสียงร้องไห้ฟูมฟายของแมวน้อยที่จองกุกเชื่อว่าไม่ว่าใครได้ยินก็คงอดสงสารไม่ได้
"อย่าร้องอย่างงั้นสิ พี่จะขาดใจแล้วนะจีมิน พี่อยากเห็นเรายิ้มในทุกๆวันนะจีมิน"
"ฮืออ"
"เสียใจมากก็เลิกซะสิ ตัดใจซะสิ รักมันมากหรอ ยุนกิมันไม่ได้ดีมีค่าพอให้คนแบบเราต้องเจ็บขนาดนี้หรอกหน้ากลม"
ไม่นานทุกอย่างก็สงบลงเจ้าตัวเล็กที่ร้องไห้จนเหนื่อยก็หลับไปในอ้อมแขนจองกุก เมื่อจองกุกรู้ว่าจีมินหลับแล้วก็โทรหาคนรักทันที
"ค้าบ ที่รัก"
[เป็นไงบ้างพี่กุก]
"ร้องไห้ใหญ่เลยพี่ได้กล่อมจนหลับ"
[ดีแล้วๆ]
"เนี่ยร้องจนจมูกแดงตาบวมหมดเลยเนี่ย"
[พี่เช็ดหน้าเช็ดตัวให้มันด้วยน้า แล้วก็พามันเข้านอนด้วย]
"ครับ"
[ขอโทษนะที่ต้องรบกวนพี่กุกอ่ะครับ ถ้าผมไม่ติดงานผมคงไปดูมันเอง]
"ไม่เป็นไรครับ พี่เป็นธุระได้ตลอดแหละ แล้วหน้ากลมพี่ก็รักมันเหมือนน้องแท้ๆพี่ พี่ยินดีครับ"
[ขอบคุณนะครับ]
"ครับ งั้นแค่นี้ก่อนนะ"
เมื่อวางสายจองกุกก็หาผ้ากะละมังมาเช็ดตัวเช็ดหน้าให้จีมินก่อนจะอุ้มจีมินเข้าไปในห้องนอน
"ฝันดีนะหน้ากลม พี่เชื่อว่าถ้าเรารักยุนกิจริงๆสักวันเราจะทำให้มันรักสุดหัวใจได้ เพราะคนแบบเราน่ะ เก่งที่สุด"
โถ รักหนอรัก..
มีพิษร้ายทำฉันร้าวรอน..
ถ้ารู้มาก่อนมิริรักเลย..
#meanperson
twitter: should_alone
@_@
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ
