คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Baby maybe 2
beyo ng
.ตอนที่๒
_____________________________________________________
"อย่าดื้อดิวะ"
“อ้าวเบค่อน”
เชี่ย
แบคฮยอนหันหลังกลับไปหาลู่หานแล้วกลอกตาอย่างเซ็งๆ ใครเข้าร้านไม่เข้าเสือกต้องเป็นไอ้หูกางที่เขาไม่อยากเห็นหน้ามากที่สุด
ชานยอลหุบยิ้มไปเมื่ออีกฝ่ายหันหลังให้อย่างเย็นชา แต่ไม่นานก็กระตุกยิ้มใหม่อีกครั้งพอได้เห็นท่าทางของรุ่นน้องเขากับคนหน้าหวานข้างหลังแคชเชียร์
เขายื่นหน้าไปกระซิบข้างหูชายหนุ่ม
“มึงจีบอยู่ใช่ป่ะ คนขายอ่ะ?”
“เออ จีบไม่ติดซักทีเนี่ย”
ชานยอลหัวเราะคิกคัก ไอ้หมอนี่ชื่อเซฮุน รุ่นน้องคณะเดียวกับเขาและเป็นเดือนคนใหม่ของปีนี้ สนิทกันมาตั้งนานก่อนจะเข้ามหาลัยฯแล้วล่ะที่จริง
แต่แปลก...ปกติแค่เซฮุนกระพริบตาสาวๆก็เดินตามกันเป็นพรวนแล้ว
ท่าทางคนนี้จะเล่นยาก
“เดี๋ยวกูช่วย” ชานยอลบอกกับเซฮุนก่อนจะตบไหล่รุ่นน้องไปสองสามทีแล้วเดินเข้าไปคว้าข้อมือบางของคนที่หลบหน้าเขาให้เดินออกมาจากร้านโดยที่ไม่ฟังเสียงโวยวายเลยแม้แต่น้อย
“!@#$เหี้ยปล่อยกูนะ! ไอ้หัวฝอยขัดหม้อ! ไอ้หูใหญ่ฟันเยอะ!”
ทนหน่อยปาร์คชานยอล
_____________________________________________________
แบคฮยอนพยายามสะบัดมือให้หลุดออกจากการกอบกุมของคนตัวสูงแต่ไม่สำเร็จเลยสักครั้ง ชานยอลพาเขาเดินออกมาจากร้านของลู่หานไปยังสวนน้ำพุที่ตอนนี้ไม่มีแม้แต่คนๆเดียวเดินผ่าน แถมยามโพล้เพล้แบบนี้สถานที่นี้ก็ยิ่งดูอันตราย
“พากูมาที่นี่ทำไมเนี่ย” แบคฮยอนตะโกนถามในขณะที่ชานยอลปล่อยข้อมือบางให้เป็นอิสระ
“ปล่อยให้คนเข้าจีบกัน ส่วนเกินอย่างกูกับมึงอยู่ไปก็เท่านั้นแหละ” ชานยอลทิ้งตัวลงนั่งที่ม้านั่งเหล็กตัวยาวอย่างเหนื่อยอ่อน เมื่อกี้ยุดยื้อกันอยู่ตั้งนาน
“....เออว่ะ” แบคฮยอนคิดสักพักก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งข้างๆร่างสูง
“ไม่รู้ว่ามึงก็เรียนที่นี่ด้วย” ชานยอลเริ่มต้นบทสนทนา
“นั่นควรจะเป็นคำพูดกูมากกว่า” แบคฮยอนบอกก่อนจะเอนหัวลงบนพนักพิงของม้านั่งตัวยาวช้าๆ
เอ๊ะ
ทำไมนิ่มๆวะ
“แอบชอบกูก็บอก”
“เหี้ย! ใครชอบมึง!” แบคฮยอนสะดุ้งสุดตัวทันทีที่เห็นว่าไอ้ที่เขาหนุนอยู่คือแขนของปาร์คชานยอล ยิ่งพอเห็นรอยยิ้มสะใจของอีกฝ่ายก็ยิ่งโมโห
เสียท่าอีกแล้วแม่งเอ้ย
“ทำงานอีกทีเมื่อไร” คนตัวสูงถาม
“ทำไมต้องบอกมึงด้วยอ่ะ”
“กูอยากรู้”
“รู้ไปทำไม” แบคฮยอนตะแคงตัวหันมามองหน้าชานยอล พอดีกับร่างสูงที่ทำแบบเดียวกัน เขานิ่ง ชานยอลก็นิ่ง ดูเหมือนจะตกใจด้วยกันทั้งคู่
“...จะได้ไปด้วยกันไง”
ชานยอลคลี่ยิ้มกว้าง ดวงตาของร่างสูงสะท้อนแสงสีส้มอ่อนของพระอาทิตย์ที่กำลังลับขอบฟ้า แบคฮยอนปฏิเสธไม่ได้ว่ามันสวยมากจนเขาละสายตาออกไปแทบไม่ทัน
พอรู้สึกตัวเขาก็รีบเบือนหน้าหนีไปอีกทาง
“ใครอยากไปกับมึง”
“มึง”
“พ่องดิ” แบคฮยอนหันกลับมาทำท่าจะต่อยคนตัวสูง ชานยอลยกมือขึ้นเป็นเชิงบอกว่ากูกลัวแล้ว
“ตกลงทำงานเมื่อไร”
“พรุ่งนี้เที่ยง”
“โอเค พรุ่งนี้เลิกเรียนเจอกันตรงนี้”
“ใครบอกว่ากูจะไปกับมึง”
“กูเนี่ยแหล่ะ อย่าดื้อ”
ชานยอลกดเสียงต่ำ แบคฮยอนไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมเวลาชานยอลทำหน้าตาจริงจังบวกกับน้ำเสียงเข้มๆแล้วเขาถึงได้กลัวขึ้นมา
เหมือนมันมีอำนาจสะกดให้เขาขยับไปไหนไม่ได้
“....” แบคฮยอนเงียบ
“เป็นอะไรไอ้หมา” ชานยอลก้มหน้าลงมาให้อยู่ในระดับเดียวกับใบหน้าของคนตัวเล็กแล้วโบกมือไปมาเรียกสติอีกคน
“...” แต่ก็ไร้เสียงตอบรับ
“ไอ้หมา...” ชานยอลยื่นหน้าเข้าไปใกล้กว่าเดิม
“ใครใช้ให้มึงเรียกกูหมา” พอคนตัวเล็กตื่นจากภวังค์ก็ฟาดมือลงมาที่แขนของชานยอลเต็มแรง
“โอ๊ยเจ็บ”
“ห้ามเรียกหมา” ร่างบางชี้นิ้วสั่ง
“งั้นเรียกเบค่อน”
“ไม่ได้”
“งั้นอะไร” ชานยอลเขยิบตัวเข้ามาใกล้จนไม่เหลือช่องว่างระหว่างพวกเขา มองดีๆแล้วแบคฮยอนเป็นคนไหล่แคบมากๆ ไม่ได้ผอมแต่ก็ไม่ได้มีกล้ามเหมือนผู้ชาย มันดูบอบบาง...น่าถนอม
“กูก็มีชื่อนะครับ เรียกให้มันถูกๆหน่อย”
“ไม่เอากูอยากพิเศษ”
คำพูดของชานยอลทำให้แบคฮยอนไม่สามารถพูดอะไรต่อ เขาไม่รู้ว่าไอ้หมอนี่จะอยากพิเศษไปเพื่ออะไร เขาไม่รู้เลยว่าชานยอลต้องการอะไร แค่อยากเป็นเพื่อน...
หรืออาจจะมากกว่านั้น
เห้ยบ้า
บ้า...
บ้าน่า...
บ้า!
“แต่กูชอบเบค่อนนะ” ชานยอลแยกยิ้มแฉ่งก่อนจะเอื้อมมือไปลูบหัวแบคฮยอนเบาๆ รู้สึกตกใจนิดๆที่อีกฝ่ายไม่ได้ปัดมือเขาทิ้งหรือแสดงท่าทีขัดขืนเหมือนแมวเชื่องๆ
แบคฮยอนจงใจไม่หันไปมองรอยยิ้มของอีกคน เพราะกลัวว่าอะไรบางอย่างในตัวเขาอาจจะเปลี่ยนไปเมื่อเห็นมัน...
“อยากเรียกอะไรก็เชิญ มืดแล้วกลับได้ยัง?”
แบคฮยอนลุกขึ้นยืนเต็มความสูงแล้วบิดขี้เกียจไล่ความเมื่อย ว่าแต่ว่าไอ้ลู่หานกับเด็กนั่นจะเป็นยังไงบ้างวะ ชักจะเป็นห่วง...
“บ้านมึงอยู่ไหน” ร่างสูงถามพร้อมกับลุกขึ้นยืน
“จะรู้ไปทำไมอีกวะ” แบคฮยอนหันมาตวัดตามองคนตัวสูงอย่างหงุดหงิด เป็นห่าอะไรอยากรู้ไปซะทุกเรื่องเลยให้ตายสิ
“กูบอกแล้วกูอยากรู้จักมึง”
เอาอีกแล้ว...
สายตาจริงจังแบบนั้นอีกแล้ว...
“อยู่...โน่น” แบคฮยอนชะงัก เสียงสูงติดขัดก่อนจะหลับหูหลับตาชี้ไปมั่วๆ เขาไม่ชอบให้ชานยอลมองด้วยสายตาแบบนี้...
ไม่ชอบ...
มากๆ...
“โน่นไหนของมึง” ชายหนุ่มมองตามนิ้วเรียว
“อพาร์ทเม้นสีฟ้าตรงข้ามร้านหมูกระทะนั่งรถเมล์หน้ามอไปสามป้าย”
“เห้ยถามจริง”
“ก็เออดิ โกหกทำไมวะ”
“กูพักอยู่ตึกข้างๆมึง” คำตอบของชานยอลทำเอาแบคฮยอนลืมตาโพล่ง และตาเขาโตกว่าเดิมเมื่อชานยอลเดินเข้ามากุมมือบางก่อนจะบอกว่า “กูไปส่ง”
“ไม่ต้อง กูกลับเองเป็น”
แบคฮยอนขืนตัวออกมาจากคนตัวสูง แต่ข้อมือของเขาก็ยังไม่เป็นอิสระ ตาสวยจึงค้อนมองชานยอลที่จงใจกำข้อมือเขาแน่น
“ปล่อยดิกูไม่ใช่ผู้หญิงนะไม่ต้องไปส่งกู”
“ยังไงก็กลับทางเดียวกันอยู่ดี อย่าดื้อดิวะ” ชานยอลขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจพลันกระชับข้อมือบางให้แน่นขึ้นกันอีกคนหนี แล้วรุดหน้าเดินไม่รอให้แบคฮยอนได้ทันโวยวายใส่เขา
แบคฮยอนขมวดคิ้วหากันจนยุ่ง เขาไม่เข้าใจว่าทำไมชานยอลต้องมาจับมือเข้าแล้วทำตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของแบบนี้ด้วย ทั้งๆที่แค่บอกดีๆเขาก็ตกลงยอมกลับบ้านด้วยกันตั้งแต่แรกแล้ว...
ตกลงคิดอะไรกับกูป่ะวะ?
_____________________________________________________
คนตัวเล็กปล่อยให้อดีตเดือนคณะจากสาขาโมชั่นกราฟฟิคกุมมือมาจนพ้นเขตมหาลัย บอกตามตรงแบคฮยอนเหนื่อยจนไม่มีแรงขัดขืน
พระอาทิตย์ดวงใหญ่ตกดินไปได้สักพักแล้ว ท้องฟ้าที่เคยแต่งแต้มด้วยสีส้มกลับถูกระบายทับด้วยสีน้ำเงินเข้มแล้วประดับด้วยกากเพชรที่เป็นดาวระยิบระยับไปทั่วแผ่นฟ้า เส้นทางที่เคยใช้เดินคนเดียวตอนนี้กลับมีเพื่อนร่วมทางเพิ่มมาอีกหนึ่งคน
คือปาร์คชานยอล...
“หิวป่ะ” เสียงทุ้มเอ่ยถามเขาซึ่งอยู่ด้านหลัง
“นิดหน่อย”
“ไปหาอะไรกินที่ห้องกูมั้ยเดี๋ยวทำให้”
แบคฮยอนเลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่งเหมือนเขาจะฟังอะไรบางอย่างผิดไป...หน้าอย่างไอ้เอเลี่ยนเนี่ยนะทำอาหารเป็น? หมาแดกรึเปล่าเถอะ
“กูทำเป็นครับ ไม่ตายก็แค่เข้าโรงบาล”
“แล้วยังจะทำให้กูแดกอีกนะ...เลว” ชานยอลหัวเราะร่าก่อนจะตบไหล่บางปุๆ
“กูล้อเล่น ไปเหอะไปนั่งเล่นที่ห้องกู กูเหงา”
เขาสังเกตได้ถึงเสียงชองชานยอลที่อ่อนลงตรงประโยคสุดท้าย ไอ้หมอนี่คงจะไม่ได้โกหกจริงๆ...
“ไม่มีเพื่อนคบดิมึงอ่ะปากอย่างกะโถขี้” แม้จะแอบสงสารแต่ก็ยังไม่วายแอบกัด
“เพื่อนกูมีเยอะแล้ว” ร่างสูงเอ่ยก่อนจะเงยหน้าขึ้นแหงนมองท้องฟ้ามืด
“แล้วเหงาเหี้ยอะไร”
“...อยากมีแฟน”
พูดแบบนั้นแล้วมองหน้ากูมันหมายความว่าเหี้ยอะไรครับ!?
_____________________________________________________
“กลับเถอะเซฮุนพี่จะปิดร้านแล้ว”
“ผมจะไปส่งเสี่ยวลู่ที่บ้าน”
ลู่หานถอนหายใจแล้วส่ายหัวอย่างเหนื่อยหน่ายให้กับความดื้อของไอ้เด็กหัวรั้นที่นั่งดูดชานมไข่มุกรสช็อคโกแลตอยู่บนโต๊ะเคาท์เตอร์ใกล้แคชเชียร์
เป็นเวลาสามนาทีมาแล้วที่เขาเถียงกับเซฮุน เขาไล่ให้เซฮุนกลับบ้านเพราะนี่มันก็ปาเข้าไปสามทุ่มแล้ว พระอาทิตย์ลับขอบฟ้าไปนานพอสมควร
แต่ไม่มีท่าทีว่าไอ้เด็กโข่งนี่จะขยับตูดไปไหน แถมยังสั่งชานมไข่มุกแก้วใหญ่ไปดูดตั้งสองแก้วเพื่อฆ่าเวลารอเขาทั้งๆที่ไล่ให้กลับบ้านเท่าไรก็ไม่ยอม เอาแต่จะไปส่งเขาลูกเดียว...
“พี่กลับเองได้นะ เซฮุนกลับบ้านเถอะดึกแล้ว” ลู่หานลองพยายามไกล่เกลี่ยเซฮุนอีกครั้ง
“อย่าปฏิเสธความหวังดีของผมได้มั้ยครับ พี่ก็รู้ว่าผมทำไปเพราะอะไร”
“...”
คราวนี้เป็นลู่หานที่เงียบ เงียบกริบแบบที่ว่าไม่มีแม้แต่เสียงลมพัดผ่าน เป็นความเงียบที่น่าอึดอัดที่สุดเท่าที่เคยพบเจอ
เขารู้ดีว่าเซฮุนทำไปเพราะอะไร
แต่เขารับความหวังดีนั้นเอาไว้ไม่ได้จริงๆ
“ถ้าลำบากใจมากนักวิ่งหนีผมสิ” เซฮุนเหยียดตัวลุกขึ้นแล้วเดินอ้อมไปหลังแคชเชียร์ ขายาวก้าวประชิดลู่หานที่ขยับถอยหลังไปจนสุด ไร้ทางหนี เหมือนกวางที่กำลังจะโดนจับ
เซฮุนไม่ลดความเร็ว เขารุดหน้าเดินจนระยะห่างของเขาและลู่หานเหลือเพียงแค่คืบ ร่างบางที่สูงเพียงแค่ไหล่ไม่กล้าเงยหน้ามองเซฮุนเพราะไม่อยากให้อีกคนเห็นว่าตอนนี้เขากำลังมีสีหน้าแบบไหน
อย่าหวั่นไหวเด็ดขาด
“ผมตามจีบพี่มาตั้งสามเดือนแล้ว ผมเฝ้าถามตัวเองทุกวันว่าทำไมผมถึงไม่ยอมแพ้สักที...” เซฮุนก้มหน้าลงพูดกับคนในอ้อมแขน
ลู่หานใจเต้นระส่ำ รอฟังว่าเซฮุนจะพูดอะไรต่อ
“ผมไม่ได้ล้อเล่นกับพี่นะ ผมชอบพี่จริงๆ ชอบมาก...” พลันใช้นิ้วช้อนคางมนให้เงยหน้าขึ้นสบตาเขา แต่ลู่หานกัดริมฝีปากแน่น หลับตาสนิท เว้นแต่พวงแก้มใสที่เปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อปิดไม่มิด
เซฮุนทำให้เขาใจเต้นไม่รู้กี่รอบ
เซฮุนคอยเป็นห่วงดูแลเขาแทบทุกอย่าง
เซฮุนเป็นคนดี...ดีมาก
แต่เขาไม่คู่ควรกับคนแบบนี้
“ผมขอโทษถ้ามันทำให้พี่ลำบากใจ แต่ผมอยากเจอหน้าพี่ทุกวัน”
“กะ...ก็มาหาดิ ไม่ได้ว่า...อะไร” ลู่หานขยับปากพูดพร้อมกับดวงตากลมโตที่ค่อยๆเปิดขึ้น แต่มันเป็นการตัดสินใจที่ผิดมหันต์เมื่อตรงหน้าของเขาคือใบหน้าเกลี้ยงเกลาของโอเซฮุนที่กำลังมองมาที่เขาด้วยสายตาที่ราวกับเห็นทุกอย่างทะลุปรุโปร่ง
เหมือนโลกทั้งใบหยุดหมุน ไร้เสียง เมื่อใบหน้าของเซฮุนโน้มลงมาใกล้จนจมูกของพวกเขาสัมผัสกัน สายตาของเซฮุนยังไม่ละออกไปจากดวงตาของลู่หาน ร่างเล็กสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อรู้สึกถึงสัมผัสมือสากที่ท้ายทอย เซฮุนออกแรงดันที่มือเพื่อให้ใบหน้าหวานเข้ามาใกล้ ริมฝีปากสีชมพูสดลอยเด่นอยู่ตรงหน้ากำลังจะทำให้เขาคลั่งตาย
RRRRrrrrRRRrrrrrr
เสียงเรียกเข้าของมือถือในกระเป๋ากางเกงเซฮุนเรียกสติของทั้งคู่ให้กลับมา ลู่หานเบือนหน้าหนีไปอีกทาง ยกมือขึ้นขยุ้มเสื้อบริเวณหน้าอกข้างซ้ายขึ้นอย่างทรมาน
เกือบไปแล้ว...
ส่วนเซฮุนก็เดินออกไปรับโทรศัพท์ข้างนอกร้านอย่างหงุดหงิด แต่จะไม่รับก็ไม่ได้เพราะเบอร์ที่โทรเข้ามาเป็นของผู้จัดการส่วนตัวของเขา
“มีอะไรครับ”
//วันนี้มีงานเดินแบบที่ห้างดูต้า สี่ทุ่มตรงอย่ามาสาย// เสียงดุของอีกคนลอดมาตามสายทำให้เซฮุนกุมขมับ
บอกตามตรงเขาไม่อยากไปทำงานตอนนี้ เขายังอยากใช้เวลาอยู่กับลู่หาน
“ครับเข้าใจแล้ว”
เซฮุนวางสายแล้วเก็บไอโฟนเข้ากระเป๋ากางเกงเหมือนเดิม ขายาวก้าวกลับเข้าไปในร้านอีกครั้งเพื่อจะไปหาคนหน้าหวานที่ยังยืนนิ่งอยู่ที่เดิม
“เดี๋ยวผมมีงานตอนสี่ทุ่ม แต่ผมจะไปส่งเสี่ยวลู่ก่อน ไปกันเถอะครับ” เซฮุนกล่าวกับอีกคนยิ้มๆพลางเอื้อมมือไปหวังจะช่วยลู่หานถือกระเป๋า
แต่คนตัวเล็กกลับส่ายหน้าปฏิเสธลูกเดียว
“เดี๋ยวพี่กลับเอง นายไปทำงานเถอะ”
“อีกแล้วนะครับ” เซฮุนเอ่ยเสียงเศร้า ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนวูบไหวเล็กน้อย
“อ่ะ...เอ่อ...คือพี่กลัวนายไปทำงานไม่ทัน”
“ผมจะบอกอะไรให้นะ...” เซฮุนโน้มใบหน้าลงมาใกล้ใบหูเรียวก่อนจะเอ่ยประโยคถัดมา ประโยคที่ทำให้ลู่หานหัวใจเต้นแรงจนแน่นหน้าอก
“ถ้าให้เลือกระหว่างพี่กับงาน ผมเลือกพี่”
TBC.
_____________________________________________________
ตอนที่สองแล้วนะ
ฮุนฮานออกมาแล้วนะ
:)
ความคิดเห็น