คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Baby Maybe 1
beyo ng
.ตอนที่๑
_____________________________________________________
;ไอ้หมา
_____________________________________________________
ตาเล็กจับจ้องไปที่ใบหน้าของร่างสูงไม่กระพริบ แบคฮยอนรู้สึกคุ้นหน้าคนๆนี้มาก มาก...จนหยุดคิดถึงมันไม่ได้
“นี่ตอบสิ” เสียงทุ้มปลุกแบคฮยอนให้ตื่นจากภวังค์อีกครั้ง
“พูดว่าอะไรนะ”
“รับฉันเข้าทำงานหน่อย”
“เอ่อ...ปะ ปล่อยมือก่อนได้ป่ะ” ก่อนจะหลุบตาลงมองมือทั้งสองข้างของตัวเองที่ถูกกุมไว้ด้วยมือใหญ่ของอีกคน
ชายหนุ่มปล่อยมือออกแล้วยิ้มแห้งๆ เกาท้ายทอยแก้เก้อ
ให้ตายสิทำยังไงก็นึกไม่ออกว่าเคยเจอไอ้นี่ที่ไหน...
แบคฮยอนขยี้หัวตัวเองอย่างหงุดหงิด ยิ่งพยายามคิดเท่าไรก็ยิ่งนึกไม่ออก เขาจึงล้มเลิกความตั้งใจ แต่ใบหน้าหล่อๆของไอ้หมอนั่นก็ยังตามมาวนเวียนภายในหัวไม่เลิก
ย๊ะ!! หงุดหงิด
“นี่”
“ห๊ะ?” แบคฮยอนหยุดเดินแล้วหันหลังกลับไปหาคนร่างสูงที่ดูเหมือนมีอะไรจะพูด
ชายหนุ่มก้าวมาหาเขา ทิ้งระยะห่างระหว่างพวกเขาทั้งคู่ไว้แค่สองคืบ
ใกล้ไปป่ะวะ!
“มีอะไร... หะ เห้ย!” แบคฮยอนร้องออกมาเสียงดังอย่างลืมตัวเมื่อใครอีกคนก้มหน้าลงมาจนอยู่ในระดับเดียวใบหน้าของเขา!@#$%
นี่มึงต้องการอะไรจากกู! TAT
“อยู่นิ่งๆ...มีอะไรติดผม” มือหนาเลื่อนมาปัดกลุ่มผมสีน้ำตาลแดงเบาๆโดยที่เจ้าของได้แต่ยืนนิ่งๆตามคำสั่ง บอกตามตรงเสียงทุ้มใหญ่ของร่างสูงทำเอาแบคฮยอนไม่กล้าปฏิเสธ
ร่างเล็กยืนนิ่งแต่ในขณะเดียวกันดวงตาเรียวก็เหลือบมองใบหน้าเกลี้ยงเกลาไปด้วย
โว้ย! ยิ่งมองยิ่งคิดไม่ออก
แบคฮยอนขมวดคิ้วยุ่งพลางถอนหายใจออกมาเบาๆ
“กล้ามากนะมองหน้าคนอื่นแล้วถอนหายใจเนี่ย”
“อ๋อเปล่า แค่คิดอะไรนิดหน่อย ขอโทษ”
“ชอบหรอ?”
“ชอบอะไร?” เขาเลิกคิ้วถาม
“ชอบกู...”
แบคฮยอนอ้าปากค้างเมื่อได้ยินสรรพนามที่เปลี่ยนไปของอีกคน แล้วอะไรนะ...ชอบ? ชอบ...? ชอบมัน?
ชอบพ่อมึงดิไอ้เปรต!
“บ้านมึงดิ!” แบคฮยอนตวาดกลับเสียงดังจนลืมไปเลยว่าผู้ชายคนนี้เป็นคนแปลกหน้าที่เขาเพิ่งรู้จักไปไม่ถึงสิบนาที
ชายหนุ่มยิ้มมุมปากก่อนจะชี้นิ้วไปข้างหน้าคล้ายจะบอกเขาว่าให้เดินต่อ แบคฮยอนกระแทกเท้าปึงปังแล้วเดินนำไปลิ่วๆ แต่ขาสั้นๆแบบนี้มีหรือจะเดินเร็วกว่าขายาวๆ คนตัวสูงที่เคยเดินไล่หลังตอนนี้กลับมาเดินข้างเขาแถมยังยิ้มหน้าบานเป็นกระด้ง
ไอ้ขายาว ไอ้ตีนใหญ่ ไอ้หูกาง ไอ้ฟันเยอะ!
ทั้งสองคนเดินมาถึงร้านพอดีกับชายหนุ่มผมทองที่ตอนนี้ไม่ได้สวมหมวกเชฟเปิดประตูออกมาพร้อมบุหรี่ในมือ
“พาคนมาสมัครงานแล้ว”
“อืม ไปรอข้างในก่อนเดี๋ยวตามไป” คริสโบกมือไล่ให้พวกเขาเข้าไปข้างในพลางอีกมือก็ยกไฟแช็กขึ้นจุดที่ปลายบุหรี่
แบคฮยอนไม่ตอบอะไรเพียงแต่พยักหน้ารับแล้วเดินเข้าไปในร้านโดยมีคนตัวสูงอีกคนเดินตามไปติดๆ นิ้วเรียวชี้ไปที่เก้าอี้ตรงหน้าเคาท์เตอร์ไม้ที่อยู่ใกล้กับแคชเชียร์
“ไปนั่งนู่น เดี๋ยวเอาน้ำมาให้”
“ไม่ต้อง”
“ก็ดีไม่เปลือง”
“กูพูดเล่น” แบคฮยอนแทบอยากจะต่อยปากคนกวนตีนให้ฟันสวยๆนั่นรวงลงไปกองกับพื้นให้หมด ชายหนุ่มยิ้มทะเล้นแต่แบคฮยอนยังคงทำหน้ายุ่งเหมือนหมาโดนเหยียบหาง
ไอ้เชี่ยเปรต
“นั่งนิ่งๆถ้ายังอยากแดกน้ำปกติ” เขาเอ่ยเสียงเย็น ในเมื่ออีกฝ่ายพูดกับเขาแบบนี้ก็ไม่มีเหตุผลที่จะต้องพูดสุภาพด้วย จะคนแปลกหน้าก็ช่างเขาไม่แคร์
!@#$wไอ้เอเลี่ยนตาโปนหูกางฟันล้นปาก! แง่ง!
“ทำไม? จะเอาน้ำอะไรมาให้กู”
“น้ำส้วม”
“กล้าหรอ?”
“เออ!” แบคฮยอนถลึงตาใส่ชายหนุ่มที่กำลังยกยิ้มกวนตีนแถมดูเหมือนกำลังกลั้นหัวเราะอยู่ และนั่นยิ่งกระตุกต่อมโมโหของแบคฮยอนเข้าไปอีก
“ขำเหี้ยอะไรห๊ะ!?”
“ขำมึงอ่ะ ตาตี่แล้วยังเสือกทำตาโตอีก”
“เงียบไปเลยไอ้หูกาง!”
เงียบ
ชายหนุ่มหยุดขำ มือหนายื่นไปดึงข้อมือคนตัวเล็กกว่าให้มานั่งลงตรงเก้าอี้ข้างๆเขาด้วยแรงที่ไม่มากนัก ตัวผอมบางอย่างกับผู้หญิงแบบนี้มีหรือจะสู้เขาได้
แต่เรื่องฝีปากนี่ใช่ย่อย
“นั่งคุยกันก่อน กูอยากรู้จักมึง”
“เหมือนกูอยาก เหอะ!” แบคฮยอนหันหน้าหนีไปทางอื่น แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเมื่อกี้เขารู้สึกอะไรบางอย่างตอนที่ได้ยินว่าไอ้หมอนี่ ‘อยาก’ รู้จักเขา...
“ชานยอล”
“.....” เขาเลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่งเมื่อได้ยินชื่อที่ไม่คุ้นหู
“นั่นชื่อกู มึงอ่ะชื่ออะไร”
“...ไม่บอก” แบคฮยอนแลบลิ้นใส่ร่างสูง ก่อนจะยักไหล่ทำเป็นไม่สนใจคู่สนทนา
“กูถามดีๆนะครับ” ชานยอลย่นคิ้ว
“บอกแล้วกูได้อะไร” ร่างบางหันกลับมามองชานยอลอีกครั้ง
“ได้เป็นเมียกูมั้งครับ”
“เชี่ย!” ว่าแล้วก็ฟาดลงไปที่ท่อนแขนแกร่งของชานยอลเต็มแรง แบคฮยอนหน้าแดงน้อยๆเพราะคำพูดของคนกวนตีนที่ออกมาจากปากหน้าตาเฉยเหมือนพูดเรื่องดินฟ้าอากาศ
“โหแรงคนหรือควายเนี่ย” ชานยอลลูบแขนตัวเองป้อยๆ เห็นตัวเล็กๆนี่แรงเยอะว่ะ
“สมน้ำหนา”
“ตกลงชื่ออะไร” ชานยอลตัดสินใจหันหลับมานั่งคุยกับอีกคนดีๆ บางทีการใช้น้ำเย็นเข้าลูบอาจจะดีขึ้นมาหน่อย
“แบคฮยอน”
“เบค่อน?” ชายหนุ่มเลิกคิ้วกวนประสาท ที่จริงเขาได้ยินแล้วว่าคนตัวเล็กชื่ออะไรแต่ก็ยังอยากแกล้ง
“แบคฮยอนเว้ยไอ้หูกาง!”
ชานยอลยิ้มน้อยๆเมื่อเห็นแบคฮยอนทำหน้าหงุดหงิดอีกครั้งและอีกครั้ง อาจจะฟังดูเหมือนโรคจิตแต่เขาว่ามันเหมาะกับแบคฮยอนดี...
ว่าไหม?
เสียงเปิดประตูร้านดังขึ้นตามมาด้วยร่างของชายตัวสูงหน้าตาดีและกลิ่นบุหรี่อ่อนๆที่ปลิวมากับสายลม ทั้งคู่หันมามองคริสเช่นเดียวกับคริสที่เท้าสะเอวมองมาที่พวกเขา
“ไอ้หมาออกไปดิ๊ จะคุยกับไอ้หยอย”
“ฮะๆๆ ไอ้หมา” แบคฮยอนหันไปถลึงตาใส่ชานยอลที่หัวเราะฉายาที่เฮียคริสตั้งให้เขาจนตัวสั่น
กล้ามากไอ้เปรต!
“ไอ้หยอย! ไอ้หูกาง! หุบปากไปเลยนะมึง” เขาชี้หน้าคาดโทษชานยอลก่อนจะหยิกต้นแขนใหญ่ไปแรงๆหนึ่งทีทิ้งท้ายแล้วเดินไปหลังร้านก่อนชานยอลจะทำเขาคืน
ไม่ได้กลัวนะ!
คริสมองคนสองคนพลางยกมือขึ้นเกาหัวอย่างงงๆ หมอนี่เพื่อนแบคฮยอนงั้นเหรอ?
“รู้จักกัน?”
“เมื่อกี้” ชานยอลตอบสั้นๆพร้อมรอยยิ้มไมตรี
“อ้อ...สนิทกันเร็วดีนะพวกเอ็ง”
ชานยอลไม่ตอบเพียงแต่ยิ้ม คนๆนี้ดูเหมือนจะเป็นเจ้านายของแบคฮยอนและเจ้าของร้าน ตากลมโตกวาดมองคนตัวสูงพอๆกันตั้งแต่หัวจรดเท้า
หล่อตั้งแต่ปลายผมหงอกยันขี้เล็บตีนจริงๆ
;ไอ้หยอย
_____________________________________________________
“อ้าวทำไมวันนี้มาคนเดี๋ยววะหมาแบค”
เสียงหวานดังขึ้นมาจากตรงเคาท์เตอร์แคชเชียร์ของร้านขายชานมไข่มุกใต้ตึกเรียนที่แบคฮยอนเรียนอยู่ วันนี้มาคนเดียว แต่ปกติจะต้องหนีบเอาคนตาปูดมาด้วย
“ไอ้โด้ไปหาจารย์” แบคฮยอนตอบคนหน้าหวานอย่างไม่สบอารมณ์ ร่างเล็กทิ้งตัวลงตรงเก้าอี้กลมไร้พนักพิงหน้าแคชเชียร์แล้วฟุบหน้าลงทับแขนทั้งสองข้าง
“เป็นเหี้ยอะไร” อีกฝ่ายถามพร้อมใช้มือดันหน้าผากเขาให้เงยขึ้น
“กูเซ็ง”
“เซ็งเหี้ยอะไรกูจะรู้ไหมล่ะ”
“ไม่ต้องรู้สักเรื่องก็ได้มั้งลู่หาน”
แบคฮยอนตอบเนือยๆก่อนจะฟุบหน้าลงอีกครั้งไม่สนใจลูกพี่ลูกน้องครึ่งจีนที่มีศักดิ์เป็นพี่ชายอายุมากกว่าถึงสองปี
ลู่หานเม้มปากอย่างงอนๆก่อนจะดีดหน้าผากคนหน้าหมาดังเป๊าะ
“ไอ้เหี้ยเจ็บนะเว่ย!” แบคฮยอนสะดุ้งตัวโยนยกมือขึ้นลูบหน้าผากที่เริ่มแดงจนเห็นเป็นรอยชัดขึ้น เจ็บ! เจ็บ! เจ็บ! เจ็บ! เจ็บ! เจ็บ!
“กูถามเพราะกูเป็นห่วงมึงนะไอ้สัสหมา!” ลู่หานตะโกนเสียงดังเพราะไม่มีลูกค้ามาตั้งแต่ชั่วโมงก่อน ตอนนี้ก็ยังเหมือนเดิม
“งื่อ...กู...กูคุ้นหน้าใครคนนึง” แบคฮยอนตอบเสียงอ่อน
“แล้วไง?” ลู่หานเริ่มขมวดคิ้ว
“กู...กูนึกไม่ออก สลัดเขาออกจากหัวไม่ได้” คำพูดกลายๆคนตกหลุมรักของแบคฮยอนทำให้ลู่หานแอบอมยิ้ม
ชอบเค้าไม่รู้ตัวรึเปล่าวะหมาแบค
“ยิ้มเหี้ยไรกูซีเรียส”
“มึงเคยคุยกับเค้าป่ะ”
“เคยดิ มันจะมาทำงานพิเศษที่เดียวกับกู กูไม่ชอบมันอ่ะแม่งกวนประสาท” พอนึกถึงหน้าหล่อๆของใครอีกคนก็พลันโมโหขึ้นมาอย่างไร้สาเหตุ
แต่ทำไมต้องแอบอมยิ้ม.............................ด้วยวะ!?
“แต่กูคุ้นหน้ามันมากๆเลยว่ะแต่นึกยังไงก็นึกไม่ออก”
“ชื่ออะไร”
“ชานยอล”
“เหี้ย! นี่มึงโง่หรือโง่วะ!?” อยู่ๆลู่หานก็มีท่าทีเปลี่ยนไปทันทีเมื่อได้ยินชื่อของชานยอล ร่างบางลุกยืนขึ้นพรวดพราดแล้วชี้หน้าด่าเขาเหมือนเขาโง่เสียเต็มประดา
“เป็นอะไรของมึงวะ ด่ากูทำไมเนี่ย!”
“ชานยอลไงที่เป็นเดือนคณะโมชั่นกราฟฟิคปีที่แล้วอ่ะไอ้ควาย”
“......”
แบคฮยอนนั่งนิ่ง คำพูดของลู่หานกำลังถูกประมวลอยู่ในหัว
เดือนคณะโมชั่นกราฟฟิค...
ไม่รู้...
ไม่คุ้น...
ว่ะ...
“กูไม่รู้จั...”
ป๊าบ!
“ไอ้สัสตบหัวกูทำไมวะ”
“หันไปมองข้างหลัง!” ลู่หานชี้นิ้วไปตรงประตูทางเข้าร้านข้างหลังเขา แบคฮยอนหันไปมองตามแล้วก็
บ๊ะ!
“ไอ้เอเลี่ยนหูกาง”
ไม่ผิดแน่ คนตาโตๆ คอยาวๆ หัวสีส้มหยิกๆหยอยๆ และหูกางๆแบบนั้นมีแค่คนเดียวเท่านั้นแหล่ะ แบคฮยอนเบิกตาค้างไม่คิดว่าคนที่ไม่ชอบขี้หน้าจะอยู่ใกล้ตัวขนาดนี้
แบคฮยอนอยู่คณะเกมดีไซน์ ถึงเขาจะโง่แต่ก็ไม่ได้ไม่รู้ว่าคณะของเขากับของชานยอลนั้นเรียนตึกเดียวกัน
มิน่าล่ะหน้าคุ้นๆ
“เรียกป่ะเดี๋ยวกูเรียกให้” ลู่หานยื่นหน้าเข้ามากระซิบที่ข้างหูเขาจากทางด้านหลัง
“เหี้ยไม่ต้องเลยมึง กูจะทำเหมือนว่ากูไม่เห็นมัน”
“เห้ย!” คนหน้าหวานร้องออกมาเสียงดังจนแบคฮยอนสะดุ้งเกือบตกเก้าอี้
“เป็นเหี้ยอะไรของมึง!?”
“เซฮุน...”
แบคฮยอนมองออกไปข้างนอกร้านที่มีชานยอลยืนอยู่ ร่างสูงใส่ชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวแขนยาวและกางเกงแสลคสีดำธรรมดาแต่ดูมีออร่าดึงดูดผู้คนมากมาย
เหอะ แต่ไม่ใช่กูนะ
ไม่นานก็มีร่างสูงโปร่งของผู้ชายอีกคนเดินตามมา เขาสวมเสื้อแบบเดียวกันกับชานยอลต่างกันแค่อีกคนใส่หมวกแก๊ปสีดำ หน้าตาดีเอาเรื่องเลยล่ะ...
“มึงรู้จักหรอ?” แบคฮยอนหันไปถามลู่หานที่ตอนนี้เหมือนสติจะหลุดไปแล้ว
“เออ ลูกค้าประจำ”
“แล้วทำไมตอนเห็นต้องตกใจขนาดนั้นด้วยวะ กูนึกว่ามึงเห็นผี”
“มันตามจีบกูอยู่”
“ห๊ะ!? เหี้ยอย่าล้อกูเล่น” แบคฮยอนตาโตกว่าเดิมเมื่อรู้ว่าลูกพี่ลูกน้องตัวเองกำลังโดนตามจีบ แถมคนจีบหน้าตาดีเหี้ยๆอีกด้วย
โอ้ม่ายก้าดด
“แล้วทำไมมึงไม่ตกลงคบวะ? หล่อทะลวงไส้แบบนั้นหาที่ไหนไม่ได้อีกแล้วนะมึง”
“กูไม่ได้ชอบมันนี่หว่า”
“ทำไมวะดูเพอร์เฟ็คจะตาย”
“เพราะเพอร์เฟ็คเนี่ยแหล่ะกูถึงไม่ชอบ” ลู่หานบอกก่อนจะถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ร่างเล็กย่อตัวกลับลงไปนั่งเหมือนเดิมแล้วทำหน้ากลุ้ม
“คิดมากน่าไอ้สัส เรื่องแบบนี้ฟังหัวใจมึงเหอะ” แบคฮยอนยื่นมือไปตบไหล่ลูกพี่ลูกน้องหน้าหวานเบาๆให้กำลังใจ บอกตรงๆเขาไม่เคยเห็นลู่หานเป็นแบบนี้มาก่อน
พูดไม่ทันขาดคำเสียงกระดิ่งที่ห้อยติดกับประตูร้านก็ดังขึ้น แบคฮยอนหันไปมองคนมาใหม่ก่อนจะอ้าปากค้าง
ชิบหาย
“เสี่ยวลู่”
เสียงทุ้มของไอ้เด็กหน้าหล่อที่ตามจีบลู่หานเอ่ยเรียกเจ้าของร้านที่เอาแต่ฟุบหน้าลงบนเคาท์เตอร์ ร่างสูงเดินเข้ามาในร้านตามด้วย...ใครอีกคน
“อ้าวเบค่อน”
เชี่ย
TBC.
;เม้นนะเม้น
2013/01/09
ความคิดเห็น