คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ
บทนำ
ช่วงบ่ายอันแสนสุขของเด็กนักเรียนหลายๆคน ที่ตนนั้นจะได้เล่นสนุกสนานกับเพื่อนสนิทและพบปะพูดคุยกันตามสถานที่ต่างๆก่อนกลับบ้านของตนเอง แต่อีกมุมหนึ่งของโรงเรียนมีเด็กนักเรียน ที่ดูแล้วหน้าตาดีไปคนละแบบ แต่ที่สำคัญพวกเขาทั้งสี่เป็นพี่น้องกัน คนที่นั่งมองดอกกุหลาบในมือพลางยิ้มและร้องเพลงที่ทรมานคนฟังไปด้วย แต่เขามีชื่อเสียงเรื่องโปรยเสน่ห์ให้หญิงสาวในโรงเรียนเป็นประจำ เขาคนนี้มีชื่อว่า ‘โคลลอน’ ชายหนุ่มที่ในสมองมีแต่ความคิดเรื่องผู้หญิงสวยๆ และอีกด้านหนึ่งชายหนุ่มที่ร่างกายเต็มไปด้วยปาดแผลที่ดูแล้ว แผลยังไม่เยอะจนน่าเกลียดเอาง่ายๆคือยังไม่หมดหล่อ ยืนพิงต้นไม้ในมือถือผ้าพันแผลที่ถือกันกระสุนหรืออย่างไรไม่ทราบ เห็นตั้งแต่กิโลเมตรที่แปดว่าคนๆนี้นิสัยเข้าขั้นเสียระยะสุดท้าย แต่หน้าตาไม่ได้เข้าข่ายโหดเลยแม้แต่น้อย เขาคนนี้มีนามว่า ‘คาร์บอน’ เรื่องการทะเลาะวิวาทของเขาคนนี้ส่วนใหญ่เริ่มจากประโยคนี้ “คาร์บอนแกเป็นเกย์ใช่ไหม?” และถัดไปอีกไม่ไกลเด็กผู้หญิงและเด็กผู้ชายที่หน้าเหมือนกันอย่างกับแกะ นั่งแย่งอาหารในข้าวกล่องที่เตรียมมากินเป็นอาหารว่างแต่ดูท่าทั้งสองคนนี้ท้องคงว่างเกินไปถึงได้กินเยอะมากเหมือนกับอดข้าวมา 5 ปีรึไงไม่ทราบ เด็กผู้หญิงที่ดูจะชอบกินของหวานเป็นพิเศษ เธอมีชื่อว่า ’คลอรีน’ และเด็กชายที่นั่งกินทุกอย่างที่ขวางหน้า เขามีชื่อว่า ‘โคม่าร์’
“นี่!ลื้ออย่ามาแย่งของกินอั้วสิ!อ๊ะ!นั้นมันช็อกโกแลตของอั้วนิ!!!!” ว่าแล้วเด็กสาวก็จัดการดึงหัวแฝดผู้พี่อย่างไรความเมตตา แต่แฝดพี่ก็ไม่ได้พูดหรือด่าทอแต่อย่างใด มุ่งหน้ากินของในมืออย่างเอาจริงเอาจัง คนที่เดินผ่านไปผ่านมาก็ไม่ได้ช่วยห้าม ซ้ำยังหัวเราะอย่างสนุกสนานที่เห็นแฝดพี่น้องทะเลาะเรื่องอาหารว่างเพราะดูแล้วก็น่ารักดี เลยไม่คิดที่จะไปห้ามปราม เพราะภาพที่เห็นก็เกิดขึ้นเกือบแทบจะทุกวัน พี่คนโตที่แสนจะหล่อเหลาแต่เพี้ยนซะไม่มี พี่คนรองก็นักเลงหน้าหวาน และแฝดพี่น้องจอมตะกละ มักจะมานั่งเล่นที่สวนหลังโรงเรียนทุกวัน เป็นภาพที่เห็นจนชินตาเสียแล้ว เป็นครอบครัวที่แปลกกันทั้งบ้าน ช่วงเวลาที่ผ่านไปเพียงครึ่งชั่วโมงเด็กนักเรียนในโรงเรียนก็กลับบ้านกันเกือบหมดแล้ว พี่น้องทั้งสี่มองหน้ากันเป็นการบอกว่าควรกลับบ้านกันได้แล้ว
“กลับๆอยากไปกินข้าวที่บ้านจะแย่อยู่แล้ว” ชายหนุ่มว่าพลางดมดอกกุหลาบไปด้วย
“ชิ! แกน่ะหุบปากไปเลย วันนี้ฉันยังไม่ได้อัดใครเลยนะโว้ย!!!” ว่าแล้วก็เตะขาโคลลอลอย่างระบายอารมณ์ ทำคนที่เป็นพี่เข่าแทบหักกันเลยทีเดียว
“อาเฮียบอน นั้นแหละที่ต้องหุบปาก” คลอรีนทำหน้าล้อเลียนผู้เป็นพี่ชายคนรองอย่างสนุกสนาน ทำเอาคาร์บอนอยากจะฆ่ายัยเด็กแสบนี้ทิ้งซะ
“ยัยเด็กแสบ เธอนั้นแหละยุ่งอะไรด้วย ห๊ะ!!!”
“ลื้อว่าใครเด็กแสบอะไรกัน ลื้อพูดอะไรของลื้อน่ะห๊ะ!”
“ยัยเด็กประหลาด!!! แม่ไม่น่าจ้างคนที่ดูแลแกเป็นคนจีนเลย! ทำให้แกกลายเป็นลูกครึ่งฝรั่งพูดจีนแบบเธอ!” คำพูดที่จี๊ดไปถึงขั้วสมอง ทำเอาคลอรีนเลือดขึ้นหน้าขึ้นมาทันที
“ลื้อนั้นแหละ ลื้อเป็นผู้ชายจริงๆหรือเปล่าเนี่ย หน้าตาของลื้อนี่ไม่เข้าข่ายผู้ชายเลยนะ!!!”
“ยัย!!!!!!”
การสนทนาที่แสนดุเดือดจบลงเมื่อทั้งคู่ได้กระโดดเตะอีกฝ่ายอย่างเมามันอย่างไม่มีใครยอมใครจนสองคนที่เหลือต้องเข้ามาช่วยห้ามปรามอย่างทุลักทุเล และเมื่อทั้งคู่ปรับอารมณ์ให้เย็นลงก็ดันหยอกล้อกันโดยไม่ดูว่ามีคนกำลังเดินสวนทางมาอยู่ ทำให้พวกเขาเดินชนกับคนแปลกหน้าเข้าอย่างจัง
“โอ๊ย!!!”คลอรีนร้องด้วยความเจ็บ แต่คนที่ควรเจ็บคงเป็นชายแปลกหน้ามากกว่า เล่นชนซะหน้าทิ่มพื้น
“เป็นอะไรหรือเปล่าครับ” โคม่าร์ที่เดินเงียบมานาน เข้าไปช่วยพยุงร่างของชายแปลกหน้าตามมารยาทที่ควรจะเป็น
“ไม่ครับๆผมไม่เป็นอะไร”ชายแปลกหน้าส่ายหัวแก้อาการมึน และมองสำรวจร่างกายของตัวเองก่อนจะพูดต่อ
“ เด็กๆอย่างพวกเธอมาเดินเล่นอะไรในเวลาแบบนี้ นี่มันมืดค่ำมากแล้วนะ โดยเฉพาะน้องสาวของพวกเธอที่น่ารักๆแบบนี้ เดียวเจออะไรเข้าจะเป็นอันตรายได้นะ” ชายแปลกหน้าพูดพลางยิ้มหวาน ดูท่าทางทะเล้น ทำเอาคลอรีนขนลุกพรึ่บด้วยความสยอง
“พวกผมกำลังจะกลับบ้านกันน่ะครับ และต้องขอโทษด้วยที่เดินไม่ดูตาม้าตาเรือเลยเดินไปชนคุณเข้า”
“อะไรนะ! ใครกันแน่ที่เดินไม่ดูตาม้าตาเรือ!!!” ด้วยนิสัยที่เกลียดคำว่าก้มหัวให้คนอื่นเลยทำให้คาร์บอนตั้งท่าเอาเรื่องจนโคลลอนยกมือห้ามไว้ก่อน
“อยู่บ้านน่าเบื่อจะตายไปใช่ไหมครับ อยากไปเที่ยวไหมล่ะ เด็กๆวัยรุ่นอย่างพวกเธอ…อืม…ฉันมีที่ๆหนึ่ง สนใจไปทัวร์สักหน่อยไหม?”
“สนใจสิ!!!” พี่น้องทั้งสี่พูดพร้อมกันอย่างมิได้นัดหมายหรือพูดแบบไม่คิดกันแน่นะ
“ฮ่าๆ งั้นฉันขอแนะนำตัวเลยแล้วกัน ฉันชื่อฟาโร แต่การทัวร์ครั้งนี้อันตรายมากพวกเธอควรจะพกอาวุธสักหนึ่งถึงสองชิ้นและค่าเดินทางก็สูงใช่เล่นเลยนะ พวกเธอยังสนใจที่จะไปกันอยู่ไหมล่ะ?”
“สนใจสิ!ว่าแต่สถานที่ที่คุณพูดถึงนี่คือที่ไหนล่ะนั่น” โคลลอนพูดด้วยความสงสัย เห็นพูดมาตั้งนานตกลงมันที่ไหนล่ะเนี่ย
“วาคาเลียร์ ครับ มันคือโลกที่คุณคาดไม่ถึงล่ะ”
“แล้วไอ้สิ่งที่เรียก ว่าคาดไม่ถึงของลื้อเนี่ย มันเป็นแบบไหนล่ะ”
“ถ้าอยากรู้เที่ยงคืนนี้เจอกันในบ้านของพวกเธอนั้นแหละ เดี๋ยวฉันจะตามพวกเธอไปเอง อ๋อ! อย่างที่บอกค่าผ่านมันเยอะนะ แล้วก็เตรียมของป้องกันตัวให้พร้อมล่ะ”
“เฮ้! เดี๋ยวก่อนสิฟะ!ฉันยังไม่ถามเลยนะเฟ้ย!!!” คาร์บอนดึงชายแปลกหน้าเอาไว้ก่อนที่เจ้าตัวจะเดินหนีไป
“โอ๊ย! เรียกดีๆก็ได้นี่ ไม่เห็นต้องดึงแรงขนาดนี้เลย มีอะไรก็ว่ามา…”ฟาโรทำหน้าหงุดหงิดนิดๆ
“ฉันจะเชื่อแกได้ยังไง!แกเป็นใครมาจากไหนพวกฉันยังไม่รู้เลย!!!”
“จะให้ผมแนะนำตัวอย่างละเอียดเลยเหรอ?”
“ก็เออดิวะ!!!ถามโง่ๆ”
“’งั้นผมขอแนะนำตัวอย่างเป็นทางการ ผมชื่อ’ฟาโร โจฮันเนส’มีอาชีพคือพ่อค้าเร่ร่อน ชอบสีดำแต่กางเกงในสีแดง แค่นี้พอใจไหมครับ”
“อั้วว่าไอ้กางเกงในสีแดงของลื้อเนี่ย มันไม่น่าจะเอามาพูดให้พวกอั้วฟังน้อ”คลอรีนพูดแซวอย่างสนุกปาก
“แบบระเอียดไง”ฟาโรก็ตอบด้วยหน้าตาใสซื่อแบบชนิดว่าไม่ได้สะท้านแต่อย่างใดซ้ำยังทำหน้ากวนอวัยวะเบื้องล่างใส่คาร์บอนเสียอีก
“เอาล่ะๆเด็กอย่างพวกเธอรีบกลับบ้านไปพักผ่อนซะ เที่ยงคืนนี้เจอกันตรงสวนสาธารณะแถวๆน้ำพุนะถ้าพวกเธออยากไปกันน่ะ อ๋อ! แล้วอย่าลืมที่ฉันบอกล่ะ พกอาวุธไปซักสองสามชิ้นเพื่อความปลอดภัยของพวกเธอเองนะ ฉันไปล่ะ”ว่าแล้วก็วิ่งหายไปในถนนที่ตอนนี้หมอกลงค้อนข้างจะหนาเพราะช่วงนี้เป็นฤดูหนาว แต่จะว่าไปทำไหมตอนกลางวันเล่นซะเหงื่อตกเลยล่ะเนี่ย
“อาเฮียโคมาร์ลื้อว่าอั้วควรเชื่อไอ้ผู้ชายหน้าภาชนะหุ้งต้มเมื่อกี้ดีรึป่าวอ่า”
“ไม่รู้สิ…”โคมาร์ตอบด้วยสีหน้าเรียบเฉย(คนหน้านิ่งทำอะไรก็นิ่งไปหมด)
“’งั้นไม่ต้องไปตามที่มันบอกเหอะ ดีสุด”โคลลอนบอกพลางไขกุญแจบ้านไปด้วย และพวกเขาทั้งสี่ก็เดินเข้าไปในบ้านพร้อมความเหนื่อยล้าจากการเรียน และบอกกับตนเองว่าจะไม่ไปตามที่ชายแปลกหน้าได้นัดไว้ พอพวกเขาทานข้าวกันเสร็จสับก็เข้าห้องนอนของตนเองและเข้าสู่ห่วงนิทรา…………………….
ความคิดเห็น