ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ..พรหมไม่ได้ลิขิต..

    ลำดับตอนที่ #1 : วัยเด็ก.... ตอนที่ 1... เตี่ย แม่ และพี่สาว

    • อัปเดตล่าสุด 4 ต.ค. 50


    ...ชีวิตของฉัน...

     

    หากจะให้เขียนเป็นนิยาย....ก็คงจะเป็นนิยายที่ ยาววว น่าดูเลยทีเดียว...

    มันไม่ได้สวยหรูแฟนตาซี ไม่มีเจ้าชาย เจ้าหญิง หรือแม้แต่ยากูซ่าบุกรังชิงความเป็นใหญ่...

     

    มันเป็นแค่... ชีวิตของ...เด็กหญิงคนหนึ่ง...ซึ่งเกิดในสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง

     

    ก่อนอื่น ฉันคงต้องแนะนำตัว ท้าวความไปถึงแม่...และเตี่ย...

    ในความทรงจำ ของฉัน แม่เป็นคนสวย แต่งตัวเก่ง และมีเตี่ย เป็นผู้ชายผมขาว ใจดี รักลูก ตามใจลูกเสมอ

    เตี่ยเป็นพ่อค้าจีนที่ทำการค้ากับชาวญี่ปุ่นในสมัยสงคราม ฐานะของเตี่ยอยู่ในระดับ มหาเศรษฐีทีเดียว

     

    แม่ของฉัน เป็นคนสวยระดับนางงามเชียวละ...ความสวยของแม่เป็นที่โจษจันกันไปทั่ว มีทั้งนายตำรวจหนุ่มมาจีบ ใครๆต่างก็หมายปอง...มาเทียวไล้เทียวขื่อเสมอ .... แต่เตี่ยของฉัน ฉลาดกว่านั้น..

    ในขณะที่แม่ของฉัน อายุได้เพียง 17 ปี...เตี่ยซึ่ง อายุ 50 แล้ว ก็ยังหลงไหลในความสวยของแม่..

    เตี่ยได้เข้ามาสานสัมพันธ์ ผ่านทาง ตา กับ ยาย... โดยนำเพชรทอง เท่าที่ ในชีวิตคนๆนึงจะหาได้ มาสู่ขอแม่

    จะบอกให้ว่า เตี่ยของฉันน่ะ...ในขณะนั้น อายุมากกว่าพ่อตาเสียอีก

     


    ความที่แม่ เป็นลูกที่กตัญญูต่อบิดามารดา จึงตกลงใจ แต่งงานกับผู้ชายที่แก่คราวพ่อ

    ด้วยสินสอดทองหมั้นของแม่นั้น สามารถพลิกฐานะทางบ้าน จากที่เคยมีหนี้สินล้นพ้น กลับกลายเป็น เศรษฐีเลยทีเดียว

     

    แม่...และเตี่ย...ได้มีพยานรักด้วยกันถึง 3 คน


    เจ๊พิม พัท(ชื่อของฉัน) และ แพร น้องสาวอีกคน

    ครอบครัวของเรา มีความสุขมาก มีบ้านหลังใหญ่ ลูกน้องหลายคน ฉันใช้ชีวิตอยู่แบบแทบจะเป็นเจ้าหญิงน้อยๆ เลยทีเดียว...

     

    ฉันเคยพยายามจะเอาใจเตี่ย โดยการช่วยคนงานซักผ้า..เตี่ยจะได้ใส่เสื้อที่ลูกสาวซักให้...

    ไม่เอานะคะน้องพัทเดี๋ยวพี่ซักเองนะคะคนงานพูดพร้อมกับยื้อเสื้อเตี่ยออกจากมือฉัน


    ให้หนูซักเถอะนะ หนูจะให้เตี่ยใส่เสื้อสวยๆ หนูจะเป็นเด็กดีให้เตี่ยดูฉันพูดพร้อมกับยื้อเสื้อกลับ


    ถ้าเตี่ยมาเห็นว่าพี่ให้น้องพัทซักผ้า พี่โดนแน่เลยไม่เอาๆ”... จากยื้อกันไป ยื้อกันมาก็เริ่มรุนแรงขึ้นเพราะความเอาแต่ใจของฉัน....


    โป๊ก!!!” ฉันสะดุดล้ม หน้าผากกระแทกขอบอ่างซักผ้าเข้าอย่างจัง...

    แงๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ!!!!!!!”


    ประจวบเหมาะอะไรอย่างนี้ ที่เตี่ยเดินมาเห็นพอดี ... แล้วเสียงเอะอะโวยวายของเตี่ย ก็ดังขึ้น.. 

    ทุกคนก็คงพอจะนึกภาพตามได้นะว่าหลังจากนั้นจะเป็นยังไง...


    ฉันจำได้ว่าฉันเห็นพี่คนงานคนนั้น ร้องไห้ออกจากบ้านไป และฉันก็ไม่ได้เห็นเขาอีกเลย

     

     

     ……………………………………….

     

     

    เจ๊พิม พี่สาวคนโต เป็นลูกคนจีนซะเปล่า แต่เกิดมาตัวด๊ำดำ...ส่วนฉัน ขอโทษ..ขาวจั๊วะ


    เจ๊ชอบพูดว่าแม่อะ ไม่รักกูหรอก ชอบตีกู เค้ารักแต่มึงนั่นแหละมึงมันขาวนี่ อ้าว แล้วมันเกี่ยวอะไรกับหนูล่ะ

    ฉันว่า ที่แม่มักจะตีเจ๊ ก็เพราะนิสัยเจ๊มากกว่าละมั้ง.. วันดีคืนดีก็ไปขโมยกินมะม่วงในสวนของคนแถวบ้าน พอเค้ามาฟ้อง แม่ก็ต้องลงโทษสิ...


    เจ๊เป็นคนที่ ขอโทษนะ ภาษาชาวบ้านเค้าเรียกว่ากวนตีน”... เวลาจะโดนแม่ตี เจ๊จะ วิ่งๆๆๆ ไปไกลๆ แล้วตะโกนว่า เอาเด้!! แน่จริงก็มาตีเด้!! จับได้ก็มาเลย แบร่ๆๆๆพร้อมแลบลิ้นปลิ้นตาใส่ เผลอๆมีถลกกางเกงโชว์ ตบตูดท้าด้วย.... อืมนะ...แม่ก็วิ่งไล่กันจากหัวซอยไปท้ายซอยกันเลยล่ะงานนี้

     



    พี่สาวซึ่งแก่นแก้วโดยกำเนิด ต่างจากฉันที่เวลาทำผิด รู้ตัวว่าจะโดนตี ก็ยกมือไหว้แม่จ๋า แม่อย่าตีหนูเลยนะ หนูกลัวแล้วจ้ะแม่จ๋าก็ได้เว้นโทษอยู่ร่ำไป

     



    ขนาดตอนนี้ ฉันในปัจจุบัน นั่งคุยกับเจ๊ ถึงอดีตที่ผ่านมา..เจ๊ยังอดแขวะไม่ได้

     

    เออ ใช่สิ ทุกคนรักมึงนี่ ซื้อสร้อยก็ซื้อให้แต่มึง ไม่ซื้อให้กูเจ๊พูดเหมือนจะน้อยอกน้อยใจ... 
    แถมตอนมึงทำสร้อยหาย แทนที่จะตีมึง แม่ก็มาตีกูอีก หาว่ากูไม่ดูแลน้องเจ๊ขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน… 
    ก็หนูจะไปรู้อะไรล่ะหนูแค่ 3-4 ขวบ...อืม แม่ตีแล้วเจ๊ทำยังไงล่ะฉันถามด้วยความสงสัย
    จะทำยังไง กูก็หยิกมึงแก้แค้นนะสิ ...อยากทำให้กูโดนตีนี่....ฮ่าๆๆๆ

     

    ....เออ นะ... กรรมของเวร...ฉันคิดในใจ....

     

     

     

    **********************

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×