ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [SF STORE] ALL ABOUT XIUHAN

    ลำดับตอนที่ #7 : [SF] The setting sun (PART V)

    • อัปเดตล่าสุด 8 มี.ค. 57



    The setting sun (PART V)
     



    ไม่มีใครรู้ว่าเมื่อไหร่  ความสนิทกันแบบฉันเพื่อนได้เปลี่ยนกลายเป็น “รัก”

     
     

    เป็นเรื่องที่ใครก็อธิบายไม่ถูก


    เหมือนกับพวกเราต่างยืนอยู่ในวงกลมสองวงที่เชื่อมติดกัน แต่ละวันผ่านการเล่นสนุกไปมา


    จนวงกลมสองวงนั้นถูกหลอมรวมกันเป็นหนึ่ง

     




     

    พวกเรา...รักกัน

     


     

    คิมมินซอก กับ ลู่หาน


    หากไม่สนใจเรื่องเพศแล้ว 


    รัก คำนี้มันเกิดขึ้นโดยธรรมชาติ

     




     

    ในโลกการแสดง หากมีใครคนหนึ่งเป็นผู้หญิง นั่นคงเป็นมหากาพย์ที่ทำให้ใครขนลุกด้วยความชื่นชมได้ไม่ยาก


    แต่น่าเสียดายที่โลกใบนี้คือโลกแห่งความจริง เรื่องราวราวกับเกิดจากการตวัดปลายเข็มปากกาของนักประพันธ์ที่แสนโหดเหี้ยม



    ที่ท้ายที่สุดแล้วเราก็ไม่สามารถบ่ายเบี่ยงจากการจากลาและสิ่งที่ธรรมชาติสรรสร้างขึ้นได้










    ในความเป็นจริง ต้นเหตุอาจจะเกิดจากนิสัยใจร้อน เป็นไงเป็นกันของผู้ชายสองคน  






    ตอนที่แม่ของลู่หานตะโกนเสียงร้องสูง



    ลู่หานกับมินซอกยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าความสัมพันธ์ของพวกเขาได้ทะยานไปถึงจุดที่ใครก็ยากที่จะรับได้

     







     

    นั่นเป็นวันหนึ่งในฤดูใบไม้ผลิ

     



     

    เพราะบรรยากาศที่สุดแสนโรแมนติก มินซอกถูกอารมณ์ศิลปินของลู่หานฉุดลากขึ้นมาบนดาดฟ้าของตึกแถว


    ภายใต้แสงอร่ามทองจากดวงอาทิตย์  เค้าหน้าบางส่วนของลู่หานถูกหุ้มด้วยชั้นของรังแสง มึนมัว


    ทั้งคู่นั่งอิงไหล่กันที่หน้าบันได  มินซอกซบบนไหล่ของลู่หาน   ไม่มีคำพูดใดๆ

     



     

    “นี่.. มินซอก  จบแล้วนายอยากจะทำอะไร”



    “ฉัน?..” ตากลมโตหยีลงทันทีจากการใช้สมาธิตรึกตรองคำตอบ  

    “ก็คง..เป็นพนักงานบัญชีในบริษัทมั้ง เริ่มงานเก้าโมงเลิกงานห้าโมง จิบกาแฟ ใช้ชีวิตง่ายๆสบายๆ”





    “โอเค งั้นฉันจะเปิดร้านกาแฟใต้บริษัทของนายดีมั้ย?  จ้างเชฟที่ทำขนมหวานแล้วก็เค้กได้มาคนนึง

    ฉันจะรอนายมาอาบแดดดื่มกาแฟด้วยกันตอนบ่ายสาม"





    “ลู่หานนายยังไม่พออีกเหรอ ถูกฉันรังแกมากี่สิบปีแล้วนะ ยังจะมาตามติดฉันอีก” มินซอกยิ้ม  ทุบเบาๆที่ไหล่ลู่หาน





    “อืมฮึ ไม่เคยพอ” ลู่หานยกยิ้มบาง  สีหน้าขี้เล่นหดหายไปจนไม่เหมือนลู่หานคนเดิม


    เขานิ่งไปพักนึงก่อนจะปริปาก “ชีวิตนี้นายก็สะบัดฉันไม่หลุดหรอก”







    “ชิ..” มินซอกหลับตาพริ้มบนไหล่กว้าง ปากอมยิ้มอย่างห้ามไม่ได้ “ขี้โกง”




    “อือ ขี้โกง”




    “แต่ที่เราเป็นแบบนี้มันได้อะไรขึ้นมา”  มินซอกหันหน้ามาประสานสายตาอีกคนตรงๆ ถามด้วยน้ำเสียงแหบกร้านในลำคอ




    “อะไรก็ช่าง”  ลู่หานดึงใบหน้าของมินซอกเข้ามาใกล้ “แค่อยู่ด้วยกันก็พอ”

     

     ------------------------------------------------------







    จูบแรกอุบัติขึ้น  ดูแล้วเหมือนสมเหตุสมผล


    สถานที่ที่ใช่ กับคนที่ใช่


    บรรยากาศอบอุ่นของฤดูใบไม้ผลิ แผ่คลุมไปด้วยแสงขมุกขมัวจากดวงตะวัน


    ตอบรับและส่งมอบจูบอันแสนหวาน


    มันไม่มีอะไรที่น่าอิจฉามากไปกว่านี้อีกแล้ว

     





     

    หากไม่มีเสียงของแม่ลู่หาน-เสียงกรีดร้องราวกับได้เห็นโลกพังทลายลงตรงหน้า


    ..สภาพกาลที่เกือบจะเป็นความทรงจำที่ดีที่สุดของทั้งสองคน







     

    การลิ้มรสชาติรักครั้งแรกของวัยหนุ่มสาว  


    ในช่วงที่อะไรๆก็เกินความคาดหมาย-ได้ต้อนรับมรสุมลูกใหญ่ที่หมุนปั่นทั้งชีวิตของพวกเขาให้เลวร้ายลงอย่างสาหัส









     

    มินซอกไม่รู้เลยซักนิดว่าที่บ้านของลู่หานเกิดอะไรขึ้นบ้าง


    เขารู้แค่สีหน้าคับแค้นใจจนเลือดแทบขึ้นตาของพ่อแม่ตัวเอง


    ไม่มีทางลืมลง



     


     

    เขาขังตัวเองในห้องมาสามวันเต็มแล้ว


    พ่อแม่ที่ปกติไม่เคยยอมให้เขาอดอาหารแม้แต่มื้อเดียว


    ฉับพลันกลายเป็นคนตระหนี่ที่ไม่ให้เขาแตะแม้กระทั่งน้ำดื่ม






     

    แต่มินซอกรู้นิสัยของพวกท่านดี-โผงผางตรงไปตรงมา


    แต่ข้างในกลับเหมือนกำแพงน้ำแข็งที่ละลายความหนาลงช้าๆ

     

     




     

    “ลุกขึ้นมาได้แล้ว” มินซอกรู้สึกได้ว่าประตูถูกเปิด


    ในที่สุดแม่เขาก็ทนไม่ไหว ยืนอยู่หน้าประตูพร้อมกับถ้วยโจ๊กร้อนในมือ “กินข้าว แล้วแม่จะพาไปหาหมอ”



    “หาหมอ?” เขาสะบัดผ้าห่มออกด้วยท่าทีไม่เข้าใจ


    คงเพราะหุนหันเกินไป ร่างกายที่ขาดอาหารมานานจึงสำแดงฤทธิ์ออกมาด้วยการแล่นริ้วความเจ็บปวดขึ้นที่ขมับ 

    มือเล็กกุมหัวพักใหญ่ถึงพูดต่อได้ “ผมไม่ได้ป่วย
    !




    “ไม่ได้ป่วยแล้วเป็นอะไร?” พ่อของมินซอกย่างเท้าเข้ามาจากด้านหลังด้วยสีหน้ามืดครึ้ม  

    “เพราะแกไปทำเรื่องบ้าๆกับไอ้เด็กที่ชื่อลู่หาน ทำให้ฉันอายจนไม่รู้จะสู้หน้าใครได้แล้ว! รีบกินข้าวให้หมดซะ แล้วไปโรงพยาบาลกับฉัน”


    “ทำไม” มินซอกยิ้มหยัน “รังเกียจผมมาก?”


    “แล้วแกคิดว่ามันน่าภูมิใจงั้นเรอะ?!” ผู้เป็นพ่อสีหน้าเริ่มเปลี่ยนเป็นเขียวปนแดง “สิ่งที่พวกแกทำน่ะ มีแต่จะทำร้ายตัวแกเอง!” 

    มืออันสั่นเทาชี้ที่หน้าเขา พูดด้วยความโกรธแค้นใจ “มันทำลายทั้งตัวเค้า และตัวนาย!



    “แต่..” เสียงของมินซอกฉับพลันอ่อนแรงลง หัวค่อยๆลดระดับลง

    “ผมแค่อยากอยู่กับเค้า... ผมแค่อยากอยู่กับคนที่ผมรัก ถ้าผมเลือกได้ผมก็ไม่อยากให้เป็นแบบนี้”





    “แต่.. เพราะเป็นเค้า” มินซอกหลับตา กลืนความเจ็บปวด “แค่เค้าเท่านั้น”

     









     

    แผ่นความมืดค่อยๆย่างกรายกลืนกินแสงสว่าง

     

    บางทีเขาก็อยากจมดิ่งลงสู่ก้นเหวอันมืดมิดนี้และไม่ออกไปไหนอีก


    ความจริงที่ปรากฏมันเกินกว่าที่จะรับได้ 


    เพราะอย่างนั้น  

    ให้เขาอยู่บนถนนสายตันเส้นนี้คนเดียวยังจะดีกว่า

     












    ลุ้นอ่ะสิคึ
    ก๊ากกกกกกกกกกกกกกกก //รีดเดอร์ตรบ


    นี่แค่50 %  (มั้ง)




    ชอบตอนนี้มากกกกกกกกกกกก พี่ลู่ในมโนหล่อมากกกกกกกกกกกก (-.. - )  
    เลยแต่งนานมากกกก
    เป็นเดือนเลย 555555 55 ..  5... .___.

    ปิดเทอมแล้ว เวลาเยอะขึ้น จะแต่งให้จบนะงับ
    ความจริงแล้วอยากแก้ภาษาแย่ๆอันเก่าด้วย  
    แต่ความขี้เกียจมันเยอะกว่าความอยากอ่ะ เราเสียใจยยยย  ;__; ฮรึก

    เอนจอยนะคะนักอ่านทุกคน  เราจะกลับมาอย่างเร็วไวค่ะ //ยิ้มยะเยือก



    แงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง
    ตอนนี้ค่อดเศร้า
    ความจริงตอนที่อ่านเค้าก็บอกก่อนแล้วว่ามันคือแนว __ ซึ่งเป็นคำที่เราไม่รู้จัก
    ตอนแรกก็ขำอ่ะน่ารักดี หลังๆน้ำตาทะลัก (ฮา)

    แต่ชอบง่ะ! #จิต










    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×