ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    FICTION XIUHAN

    ลำดับตอนที่ #1 : Prologue : The very first time.

    • อัปเดตล่าสุด 27 ต.ค. 56


     





     ”第一次









    "ลูกอยากได้เพื่อนจีนบ้างไหม?"



     




    สนามบินอินชอน
    ฤดูหนาวปี 2009







    "คนไหนอ่ะแม่ ผมปวดขาแล้วนะ"




    ชายหนุ่มแก้มกลมกับหมวกบีนนี่สีส้มสด พยายามเขย่งปลายเท้าให้สายตาโผล่พ้นฝูงชนที่เบียดกันตรงหน้าเขา



    แม้มันจะไม่ค่อยช่วยเท่าไหร่ก็ตาม




    "ก็ให้หนูดูรูปมาหลายรอบแล้วนะ..หนูจะเอาไปถือไว้เลยดีไหม"


    "บางทีเขาอาจจะไปเข้าห้องน้ำอยู่.."




    "ตายละ! ถ้าถูกลักพาตัวล่ะ รอแม่อยู่นี่เลย เดี๋ยวแม่ไปติดต่อประชาสัมพันธ์ก่อน"



    คุณแม่ร่างท้วมยัดรูปผิวมันใส่มือเขาด้วยความรีบร้อน เดินหายตัวไปกับกลุ่มคนในพริบตา



    เขารับคำค้าบๆเบาๆกับตัวเอง มือขาวหยิบรูปนั้นขึ้นมาพิจารณาอีกครั้ง



    ภาพของชายหนุ่มรุ่นราวคราวเดียวกับเขากำลังโพสท่าเซล่าร์มูน  ยิ้มให้กล้องแบบไม่แคร์ริ้วรอยบนหน้าตัวเอง











    ------------------------------------------------------------------------------------------------------------







                                                         




    "เอ้า ใส่กระเป๋าเข้าไปเลยจ้ะ" ผมลอบมองคนแปลกหน้าจากกระจกด้านข้างของรถ




    ภาพที่แม่กำลังกุลีกุจอเปิดประตูหลังให้มันทำให้ผมรู้สึกเหมือนเป็นส่วนเกิน

     

    รับรู้ได้ทันทีว่าชีวิตหลังจากนี้ต้องเปลี่ยนไปแน่นอน ไม่ดีขึ้นก็แย่ลง




    กระทั่งได้ยินเสียงปิดประตูรถ  ตามมาด้วยเสียงสตาร์ทรถโฟล์คคันเดียวของบ้าน

     

    ผมสลัดความคิดนั้นทิ้ง หันมาคิดคำทักทายเพื่อนใหม่ดีกว่า






    "ลู่หานพอฟังเกาหลีง่ายๆออกใช่ไหม" แม่พูดขึ้นขณะหันมองกระจกหลังเพื่อถอยรถ


    "อ่า..ครับ" โอ้เสียงของเขา


     ผมเอื้อมมือไปหรี่วอลู่มคิสเดอะเรดิโอให้เบาลง เราสบตากันผ่านกระจก ก่อนที่เขาจะหลุบสายตาหันมองวิวหน้าต่าง




    "มินซอกพูดไรบ้างสิ เค้าเกิดปีเดียวกับหนูเลยนะ"




    "หวัดดี ฉันชื่อมินซอก นาย.."





    "เอ่อ..ช่วย.. พูดช้าๆ..ได้ไหมครับ"


    ผมเผลออ้าปากค้าง สกิลเกาหลีของเขาเหมือนจะแย่กว่าที่ผมคิดไว้เยอะ

    งั้นได้ จัดให้




    "ฉัน.." ผมเอี้ยวตัวไปเบาะหลัง ทำภาษามือประกอบ


    "ชื่อ มิน ซอก นะ ..."





    "พุ.." เขาหลุดขำ



    เสียงหัวเราะของแม่กับมือที่กำลังลูบหัวผมอยู่ตอนนี้ ไม่ได้ทำให้รูัสึกดีขึ้นซักนิด



    ผมเขม่นตามองลู่หาน  เก็บไว้เคลียร์ทีเดียวเลยละกัน












     ------------------------------------------------------------------------














    แรงสะกิดที่แขนขวาบีบให้ผมต้องฝืนหรี่ตาสู้แสง และจนได้

    มินิมาร์ทเล็กๆ และหน้าของเด็กแลกเปลี่ยนที่ห่างจากผมไม่ถึงคืบ

     

    ผมหยีตาคลำหาปุ่มเลื่อนกระจก มันเลื่อนขึ้นจนปิดสนิทเหมือนเดิม

     

    ผมหลับตาอีกลงอีกครั้ง หวังจะหลับให้ได้อีกซักงีบ






    แต่แล้วเสียงเคาะกระจกก็ดังขึ้น



    ลู่หานกำลังทำปากว่า ห้องน้ำ ห้องน้ำ


    ไอน้ำจากลมหายใจของเขาเกาะกระจกจนกลายเป็นกลุ่มหมอก






     





    ---------------------------------------------------------------------








                                                     









    เราเดินวนรอบปั้มมาเกือบสิบนาทีแล้ว สุดท้ายก็ต้องมาหยุดยืนอยู่หน้าร้านกาแฟที่เคยเดินผ่าน




    ผมตัดสินใจดึงมือลากลู่หานเข้าร้านทันที




    สายตาขี้เกรงใจของเขาน่ะ ปิดไม่มิดจริงๆ

     

     

     

     






     

     


    "หอมดีนะ" ผมว่าพลางกัดแฮมเบอร์เกอร์เข้าปาก



    เรากำลังนั่งอยู่ข้างในร้าน


    บรรกาศในนี้อบอวลไปด้วยกลิ่นพิเศษ กลิ่นที่มีเฉพาะแต่ในร้านกาแฟ  ..หอมละมุน




    "ลองมั้ย" ลู่หานพูดทั้งๆที่กำลังยกแก้วขึ้นกระดก   


    "ขอบใจ แต่ฉันไม่ชอบของขมๆ"                                                                                   



    "ทำไมล่ะ มีโกโก้ด้วยนะ"


    เขาดูตื่นเต้นที่ได้บอกความจริงข้อนี้


    อันที่จริง.. ผมเป็นคนสั่งแก้วนี้ให้เขาเองอ่ะ = = 

     

     

    "ฉัน..กินแค่โกโก้เพียว" ผมใช้มือข้างที่เหลือพิมพ์ข้อความตอบแม่ว่าอยู่ที่ไหน



    "ลองสิ มันไม่ได้กาแฟแบบที่นายคิด" ผมเลื่อนสายตาขึ้นมองลู่หาน มือข้างเดิมเก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋ากางเกง





    ลู่หานยื่นแก้วกระดาษไซส์Tallมาข้างหน้า ขอบแก้วแทบจะจ่อที่ปาก



    ผมมองของเหลวสีน้ำตาลเข้มในแก้ว ไอร้อนและกลิ่นหอมของมันทำให้ผมรู้สึกโอนเอียงนิดหน่อย




    ผมเงยหน้ามองเขาอีกครั้งด้วยความลังเล






    ".." ลู่หานยิ้มกว้างแบบในรูป พยักหน้าหงึกๆ



    "เป่าก่อนนะ" พูดขึ้นเมื่อเห็นว่าผมกำลังเลื่อนหน้าเข้าหาปากถ้วย แต่กลับดึงกลับแล้วเป่ามันด้วยตัวเองแทน



    ผมเห็นท่าทางของเขาแล้วอดลอบยิ้มไม่ได้ คนอะไร..


    เขายื่นแก้วกระดาษใบเดิมมาอีกครั้ง มันคงโหดร้ายเกินไปถ้าผมจะปฏิเสธ

     
     


    ลู่หานยักคิ้วทะเล้นเมื่อเห็นว่าผมไม่ได้อ้วกทิ้งแต่อย่างใด

     





    ----------------------------------------------------------------------------------------------------------





















    "นี่ห้องของนาย ของฉันด้วย" ลู่หานกระชับเป้ขณะก้าวเข้ามาในห้อง กลิ่นสเปรย์ปรับอากาศยังคละคลุ้งไปทั่ว




    "ฉันควรจะวางของนี่ที่ไหนดี" ผมชี้มุมห้องที่เก็บกวาดไว้เพื่อเขาโดยเฉพาะ ข้างตู้เสื้อผ้าผมเอง



    "สะอาดจัง" เขางึมงำเบาๆขณะมองไปรอบๆ ก็แน่ล่ะสิ พึ่งจะจัดเก็บครั้งใหญ่ก่อนที่นายจะก้าวเข้ามานี่เอง


     

    "เตียงเดียวเหรอ?" ลู่หานยืนมองเตียงคิงไซส์ที่ผ่านการใช้งานมาเกือบสิบปี ทั้งทำงานเล่นคอมเชียร์บอลนอน สารพัดกิจกรรม


    มันกินเวลาพอสมควรกว่าจะทำให้กลายเป็นคิงไซส์เหมือนเดิม





    "ฉันบอกให้แม่หาใหม่ได้นะ" ผมยืนเท้าสะเอว นิ้วโป้งชี้ไปข้างหลังฝั่งห้องนอนแม่


    ลู่หานหัวเราะ ส่ายหัวปฏิเสธ


    เขาเดินไปเก็บสัมภาระ สะดุดชะงักอะไรบางอย่างที่ตู้เสื้อผ้าของผม (ก่อนจะกลายเป็นของเขาด้วยในไม่ช้า)



    "ชอบเชลซีเหรอ"  เขาหันมาถาม พลางลูบโปสเตอร์สโมสรฟุตบอลขาดๆ ที่ผมเคยชอบมาก 



    "อืม ก็ตอนม.ต้นน่ะ"



    "จริงเหรอ ? ฉันก็ชอบเชลซีนะ แต่ลีกที่แล้วแมนยู.."






    สุดท้ายก็นั่งคุยเรื่องนี้กันบนเตียงจนลืมเรื่องที่ต้องทำ

     

    ผมพบว่าตัวเองนั่งพูดคนเดียวประมาณตอนเที่ยงคืนกว่าๆ


    ลู่หานหลับไปพร้อมกับใบหน้าอ่อนเพลีย หมดคราบของคนจอมกวน 


     

     






     

     

    -----------------------------------------------------------------












    "ลู่หาน..เอาแขนออก" เสียงแหบๆของผมไม่สามารถทำให้เขาตื่นได้เลย แขนขาที่เกาะหนึบอยู่นี่ก็เหมือนกัน หมดหนทาง


    ผมชันตัวขึ้นพร้อมกับความพยายามรอบใหม่ แต่ก็ต้องยอมแพ้ล้มตัวลงนอนเหมือนเดิม ลู่หานไม่ระแคะระคายเลย

     

    เขากลับขยับกระชับอ้อมแขนให้แน่นขึ้น


    แปลก อึดอัดแต่รู้สึกดี



    ผมมองหน้าเขาจนเผลอหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่มั่นใจ


     

     





    ------------------------------------------------------- 











     


    เสียงนาฬิกาปลุกทำให้ผมสะดุ้งตื่น ผมคว้าหมอนใบเล็กตบเข้าที่โต๊ะมุมเตียงด้วยความแค้น 

     
     

    นี่ก็แปดโมงแล้ว ลู่หานยังคงฟัดกับหมอนข้างลายกล้วยใบเน่าที่อีกฟากของเตียง

     
     

    เขาหลับสบายเหมือนเป็นบ้านของตัวเอง ปรับตัวเร็วจริงๆ แต่ก็ดีแล้วปัญหาเรื่องหาเตียงใหม่จะได้จบไป



    ผมทิ้งตัวลงหมอน มองเพดานขาวก่อนจะยกแขนก่ายหน้าผากอย่างเคยชิน


    ในหัวมีแต่เรื่องที่คุยกันเมื่อคืน

     
     

    ผมรู้มาอย่างหนึ่งว่าเขาชอบแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดมากๆ แล้วก็วงดนตรีอะไรซักอย่าง.. ดงบังชินกิ! ใช่



    ลู่หานบอกผมด้วยแววตาวิบวับว่านี่เป็นเหตุผลหลักเลยที่เขาตัดสินใจมาเรียนต่อที่นี่ (แม้จะรู้เกาหลีแบบงูๆปลาๆก็ตาม)
     


     เหอะ ผมล่ะนับถือเขาจริงๆ 





     "...อืม"





    "ลู่หาน"









    แต่เขาไม่ได้บอกผมว่าเขาขี้เซาขนาดไหน

     

     


    All I know is we said hello

    So dust off your highest hopes

    All I know is pouring rain

    And everything has changed

    All I know is a new found grace

    All my days, i'll know your face

    All I know since yesterday is everything has changed.



    -  
    Taylor Swift - Everything Has Changed ft. Ed Sheeran 

    >-----------------------------------------------------

    20/10/13

    พิมพ์ใหม่มาสามรอบ แม่งให้ล็อกอินอะไรนักหนาฟระ ต่อยกันป้ะ Q__Q

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×