I am you, You are me.
18:42
Pacharadanai : ตัวมึงครับเลิกเรียนยัง
TOFU : เลิกแล้วจ่ะๆ พระรองจะมารับเต้าหู้เลยไหมๆ
Pacharadanai : เพิ่งออกจากห้องเชียร์ รถน่าจะติดด้วย รอไหวไหมอาจจะช้ากว่าทุกวัน
TOFU : เต้าหู้รอได้จ่ะๆ ไม่ต้องรีบนะ ขับรถดีๆ
Pacharadanai : โอเค รอนะครับ
TOFU : คั๊บ!><
"มึงๆ พี่รหัสเรียกหาอ่ะ"
"เรียกทำเหี้ยไรกูจะไปหาแฟน" น้ำเสียงติดหงุดหงิดของพระรองเอ่ยตอบเพื่อนร่วมคณะของตัวเอง จะไม่ให้หงุดหงิดได้ยังไงนี่มันจะทุ่มนึงแล้วเขายังไม่ได้ออกจากมหาลัยเลยด้วยซ้ำ ไม่รู้ประชุมเชียร์ห่าเหวอะไรนักหนา
น่ารำคาญชิบหาย
"เออๆงั้นมึงไปหาแฟนเดี๋ยวกูบอกพี่มึงเอง"
"เออ ใจมาก" คนตัวสูงว่าพลางพยักหน้าตอบรับ "ไปละ" ว่าจบก็วาดขาขึ้นคร่อมรถมอไซต์คันโตของตัวเอง พระรองไม่ยอมให้ตัวเองเสียเวลาไปมากกว่านี้เขาบิดรถคันโตและมุ่งหน้าออกจากมหาลัยทันที
เวลานี้พระอาทิตย์กำลังจะตกดินและคงไม่ดีถ้าปล่อยให้เต้าหู้รอนาน
พระรองและเต้าหู้ไม่ได้เรียนมหาลัยเดียวกันเหมือนที่ตั้งใจไว้ตอนแรก น่าเสียดายที่ความพยายามของพระรองล้มเหลวแต่ถึงแบบนั้นก็โทษอะไรไม่ได้นอกจากโทษตัวเองที่มาขยันช้าไป ในขณะที่เต้าหู้สอบติดแพทย์คณะที่ฝันส่วนเขาก็ต้องสมัครเข้าเรียนที่มหาลัยเอกชนพร้อมกับเพื่อนหน่อเดิมอย่างผักโขมและไนน์
ผ่านมาปีกว่าได้แล้วกับความสัมพันธ์ของพวกเขา พระรองและเต้าหู้ยังคบกันเป็นแฟนเหมือนเดิม และผักโขมก็ได้คบหากับป๊อปอายที่เรียนที่เดียวกับเต้าหู้แต่คนละคณะส่วนกลุ่มพุดดิ้งอย่างหมูหวานและไอติมก็แยกย้ายไปตามมหาลัยที่ฝัน ส่วนไอ้ไนน์ก็เรียนที่เดียวกับพวกเขาแต่ยังโสดตัวเท่าควาย มันบอกก็ดีจะได้หว่านเสน่ห์ไปเรื่อยๆ ถึงแม้ว่าพวกเขาจะเรียนที่เดียวกันแต่ก็คนละคณะ จะมาเจอกันบ้างแต่ก็น้อยลงกว่าช่วงมัธยมเพราะเวลาที่ไม่ค่อยตรงกัน แต่ถึงอย่างนั้นเราสามคนก็เป็นเพื่อนรักกันเหมือนอย่างเคย
ถนนช่วงเย็นคราคร่ำไปด้วยรถมากมายเหมือนอย่างที่คิดไว้และนั่นทำเอาคนขี้ใจร้อนเริ่มหงุดหงิด ใจก็เป็นห่วงแฟนตัวเล็กที่รออยู่อีกฟากของเส้นทาง พระรองไม่ชอบใจเท่าไรนักที่ปล่อยให้แฟนตัวเองรอนานแบบนั้นทั้งที่เต้าหู้ก็ไม่เคยต่อว่าหรือโกรธเคืองเลยสักครั้งเวลาที่ไปหาช้า
พอได้เข้ามหาลัยเขาทั้งคู่ก็ได้เจอกันน้อยลง จันทร์ถึงศุกร์เต้าหู้ต้องอยู่หอของคณะแพทย์ที่มหาลัยบังคับว่าต้องอยู่ จะกลับบ้านได้ก็วันเสาร์ถึงอาทิตย์ แต่ถึงแบบนั้นพระรองก็ไม่ปล่อยให้มันเป็นอุปสรรค เวลาที่เขาเลิกเรียนก็จะรีบไปหาอีกคนทันที แม้จะเหนื่อยกับการเดินทางไกลแต่เพื่อไปเจอคนรัก ใช้เวลาด้วยกันอีกสักนิดมันก็น่าชื่นใจมากกว่าไปรอเจอกันเสาร์อาทิตย์ทีเดียว
เวลาไปเจอกันก็ไม่ได้ทำอะไรมากนอกจากไปกินข้าวเย็นด้วยกันและพาเต้าหู้กลับเข้าหออย่างปลอดภัยแม้จะไม่ต้องทำอย่างนั้นก็ได้เพราะเต้าหู้เดินกลับหอแค่ห้านาทีก็ถึง แต่ความคิดถึงมักทำอะไรให้ยากขึ้นเสมอ
แต่เป็นความยากที่เต็มใจจะทำ
ใช้เวลาอยู่กับความหงุดหงิดร่วมชั่วโมงในที่สุดรถก็ได้เลี้ยวเข้ารั้วมหาลัยอับดับต้นของประเทศไทย พระรองเร่งตัวเครื่องไปยังคณะแพทย์ที่อยู่ไกลกว่าคณะอื่น มหาลัยเริ่มเงียบเพราะคนอื่นทยอยกลับบ้านนั่นยิ่งทำให้พระรองเร่งความเร็วรถเพิ่มขึ้นแม้จะอยู่ในรั้วเขตสถานศึกษา
เมื่อมาถึงหน้าคณะแพทย์คนตัวสูงรีบจอดรถและถอดหมวกออกทันที เขาเดินตรงเข้าไปยังคณะและมุ่งหน้าไปยังร้านกาแฟเล็กๆที่อยู่ใต้คณะ เต้าหู้จะรอเขาที่นั่นเสมอต่อให้เขามาช้ามากแค่ไหนแต่คนตัวเล็กก็จะไม่ย้ายตัวเองไปไหนเพราะกลัวเราจะคลาดกัน
มือหนาผลักประตูใสเข้าไปไม่ต้องมองหานานเพราะแฟนตัวเล็กนั่งอยู่คนเดียวในร้าน แน่ล่ะ ร้านกาแฟกำลังจะปิดเพราะพนักงานเริ่มยกเก้าอี้เก็บกันแล้ว
"พระรองงง" น้ำเสียงสดใสดังขึ้นเหมือนกับทุกวัน คนตัวเล็กในชุดนักศึกษาพอดีกับตัว เนคไทที่ถูกผูกไว้อย่างดีไม่มีเลื่อนหลุดเหมือนเขาเลยสักนิด คนตัวสูงอ้าแขนกว้างปล่อยให้คนตัวเล็กกว่าเดินมากอดกัน
ก็เป็นแบบนี้เจอหน้ากันก็กอดกันทุกที
ชื่นใจ
"ขอโทษที่ช้า" เขาว่าพลางลูบผมนิ่มที่หอมกลิ่นแชมพูแอปเปิ้ลไปด้วย
"ไม่เป็นไรเลยจ่ะ เต้าหู้มีพี่พนักงานชวนคุย" เสียงเจื้อยแจ้วเอ่ยตอบก่อนจะค่อยๆละกอดออก นิ้วเล็กๆชี้ไปยังพนักงานผู้หญิงที่มองมาที่พวกเขาด้วยสายตายิ้มๆ
พระรองจำไม่ได้หรอกว่าชื่ออะไรเพราะไม่เคยคิดจะสนใจ รู้แค่ว่าเธอใจดีให้เต้าหู้นั่งรอที่ร้านได้จนกว่าร้านจะปิดโดยไม่ต้องสั่งเครื่องดื่มก็ได้ ไม่รู้ว่าไปผูกมิตรสนิทสนมกันยังไงแต่โชคดีที่เป็นผู้หญิงไม่งั้นเขาคงจะหึงจนหูไหม้
เต้าหู้น่ารักขึ้นมากตั้งแต่เข้ามหาลัย ไม่รู้ว่าไปทำอะไรมาทั้งที่ก็เจอกันทุกวี่ทุกวัน รู้แค่ว่าเต้าหู้น่ารักขึ้นทุกวันจนอดไม่ได้ที่จะนึกหวงข้ามมหาลัยแทบทุกวินาที
"แล้วหิวไหม"
"หิวววว อยากกินก๋วยเตี๋ยวจ่ะ"
"โอเค รีบไปเถอะเดี๋ยวหอปิดก่อน" พวกเขาต้องทำเวลาเพราะเต้าหู้เข้าหอได้ไม่เกินสี่ทุ่มตามกฏแสนเข้มงวดนั่น
พระรองกุมมือเล็กก่อนจะพาเดินออกมาจากร้านกาแฟและตรงไปยังรถมอไซต์ของตัวเองที่จอดไว้ มือหนาคว้าหมวกกันน็อคขนาดเล็กกว่าของตัวเองมาสวมให้กับอีกฝ่ายที่มองตาแป๋วแว๋ว แม้ร้านที่ไปกินจะไม่ไกลมากแต่พระรองก็มักจะเป็นห่วงและดูแลเต้าหู้อย่างดีเสมอตามที่ได้รับปากกับต้นอ่อนเอาไว้
อ้อ.. ฑิชากรณ์ก็เรียนที่เดียวกับน้องชายตัวเองนั่นล่ะ คุณหมอฟันที่พอขึ้นปีสองก็หายหน้าหายตาไม่รู้โดนกองหนังสือทับตายไปแล้วหรือยัง ตอนปีหนึ่งต้นอ่อนก็อยู่หอในเหมือนเต้าหู้ แต่พอขึ้นปีสองก็ขอย้ายไปอยู่ข้างนอกเพราะมันมีอิสระมากกว่า แต่ถึงแบบนั้นพวกเขาก็เจอกันเรื่อยๆเพราะพระรองไม่ได้ไปอยู่ที่หอหรือคอนโดที่ไหน เขาอยู่บ้านทุกวัน เหนื่อยขับรถหน่อยแต่ไม่อยากปล่อยให้แม่เหงาๆอยู่บ้านคนเดียวเพราะพ่อก็มักงานยุ่งเสมอๆ
"ใส่เสื้อหน่อยอากาศเย็น" เสื้อแจ็กเก็ตสีดำถูกสวมให้กับคนตัวเล็กกว่า พระรองเสียสละเสื้อของตัวเองเพื่อเพิ่มความอบอุ่นให้กับเต้าหู้ก้อนน้อยๆ เต้าหู้บอบบางขับรถโต้ลมแบบนี้จะป่วยเอาได้ ยิ่งอีกคนเรียนหนักไม่มีเวลาดูแลตัวเองแบบเมื่อก่อนยิ่งทำให้ความเป็นห่วงของพระรองมากขึ้นไปด้วย
"พระรองจะหนาวไหมจ๊ะ" เต้าหู้ยืนนิ่งเป็นตุ๊กตาให้แฟนหนุ่มแต่งตัวให้ ดวงตากลมกวาดมองเครื่องหน้าของแฟนตัวเองที่หล่อเหลาขึ้นเป็นกองพอโตขึ้นเป็นหนุ่มบริหารปีหนึ่ง ผมอันเดอร์คัดของพระรองนั้นยิ่งทำให้คนตัวสูงดูหล่อเหลาแสนน่าค้นหาน่าเข้าใกล้มากขึ้นไปอีก ไม่รู้ว่าเรียนที่มหาลัยนั้นพระรองมีคนเข้าหามากแค่ไหน แต่เต้าหู้ไม่ไหวหวั่นใจหรอกนะเพราะเต้าหู้เชื่อใจพระรองเสมอ
คนอื่นก็คงทำได้แค่มอง ไม่เหมือนเต้าหู้หรอกที่ได้เป็นเจ้าของพระรองในทุกๆอย่าง
เนี่ยคิดแล้วก็เขินจ้ะ!
"ไม่หนาว" คนตัวสูงยิ้มอ่อนโยนก่อนจะสวมหมวกกันน็อคของตัวเองบ้าง พระรองวาดขาขึ้นคร่อมรถของตัวเองก่อนจะประคองรถให้มั่นขึ้นเพื่อรอแฟนตัวน้อยมาซ้อนท้ายเหมือนกับทุกๆวัน
"ฮึ้บ!!" เสียงฮึ้บๆนั่นทำเอาพชรดนัยหลุดยิ้มออกมา มือน้อยจับที่ไหล่ซ้ายของเขาก่อนที่คนตัวเล็กจะออกแรงพาตัวเองมานั่งเบาะหลังได้สำเร็จ แขนน้อยๆนั้นก็โอบรอบเอวหนาทันทีพร้อมกับดวงหน้าหวานภายใต้หมวกกันน็อคที่วางบนลาดไหล่กว้างอันแสนคุ้นชิน
เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยรถคันโตก็ได้มุ่งหน้าอีกครั้งด้วยความเร็วที่ผ่อนลงกว่าตอนขับมา ความปลอดภัยของเต้าหู้เป็นสิ่งสำคัญอันดับหนึ่งของพระรองเสมอ ไม่ว่าเขาจะใจร้อนแค่ไหนเวลาอยู่กับตัวเองหรือใครๆแต่กับเต้าหู้พระรองจะเปลี่ยนเป็นอีกคน คนที่จะไม่ทำให้คนรักหวาดกลัวหรือรู้สึกไม่ปลอดภัยเวลาอยู่ด้วยกัน
สิบห้านาทีไม่ขาดไม่เกินกับร้านก๋วยเตี๋ยวที่แฟนตัวน้อยอยากกิน พระรองจอดรถและรอให้คนด้านหลังลงรถอย่างปลอดภัยเขาถึงจะลงจากรถบ้าง มือหนารับหมวกกันน็อคจากคนตัวเล็กมาเก็บไว้ที่พร้อมกับของตัวเองและจับมือกันเดินเข้าร้านประจำ ในย่านนี้ร้านนี้เป็นร้านก๋วยเตี๋ยวที่ถูกใจเต้าหู้มากที่สุดแล้วล่ะ
"สองคนเนอะ นั่งเลยๆ" เฮียเจ้าของร้านฉีกยิ้มต้อนรับก่อนจะชี้ไปยังโต๊ะที่ว่างให้ เขาทั้งสองนั่งตรงข้ามกันก่อนพระรองจะเอ่ยบอกเมนูให้กับพนักงานที่รอจดออเดอร์
"เส้นใหญ่ไม่ผักไม่กระเทียมพิเศษลูกชิ้นหนึ่งแล้วก็เส้นเล็กต้มยำ น้ำเก๊กฮวยสอง"
"เคพี่ เอาไรเพิ่มเปล่า" พนักงานเอ่ยถาม
"เต้าหู้เอาไรเพิ่มไหม" พระรองหันไปถามก้อนน้อยๆที่นั่งแกะแคปหมูในถุงกินเล่นไปแล้ว
"ไม่จ้าๆ"
"แค่นี้แหละ'
"ครับพี่ รอแปปเน่อ"
"ครับ" พระรองอยากจะบอกเหลือเกินว่ากูเพิ่งสิบเก้ามึงจะมาเรียกกูว่าพี่ไม่ได้ทั้งที่ผมขาวของมึงกำลังแทรกแซงผมดำแบบนั้น..
คนตัวสูงนั่งเท้าคางมองแฟนตัวน้อยที่ริมฝีปากมันแผลบเพราะแคปหมูในมือ ไม่ว่าจะยังไงเต้าหู้ของเขาก็กินเก่งเสมอ แต่แปลกดีที่กินแล้วไม่อ้วนเป็นโอ่งมีเพียงก้อนแก้มกลมๆที่เด้งดึ๋งทุกครั้งเวลาที่เขากดจมูกลงไป
"กินไหมมม" มือน้อยๆยื่นถุงแคปหมูมาให้ พระรองไม่ได้พูดอะไรเขาทำเพียงอ้าปากกว้างก่อนที่คนตัวเล็กตรงหน้าจะหัวเราะคิกคักเหมือนชอบใจและหยิบแคปหมูชิ้นโตป้อนให้กัน
"แคปหมูร้านนี้หวานดี"
"หือ? ไม่หวานนะจ๊ะ เค็มหน่อยๆด้วยซ้ำ" ก้อนน้อยว่าตาใส ไม่รู้อะไรเลยว่าคำพูดของแฟนตัวเองน่ะมีความหมายแฝง
"สงสัยเป็นเพราะคนป้อน"
"หงึ ไม่เขินหรอกนะจ๊ะ" คนที่บอกไม่เขินแต่แก้มกำลังแดงแจ๋นี่ช่างน่าเอ็นดูจริงๆ
พระรองเอื้อมมือไปยีกลุ่มผมนุ่มเบาๆด้วยความมันเขี้ยว ผ่านไปนานแค่ไหนเต้าหู้ก็ดูเหมือนจะไม่โตขึ้นเลยสำหรับเขา
ยังคงเป็นคนที่น่ารักเสมอไม่เปลี่ยนแปลง
ยังคงทำให้หลงรักได้อย่างเสมอต้นเสมอปลาย
"ถอดไทท์ออกได้แล้ว มันร้อน" ไม่ว่าเปล่าคนตัวสูงลุกขึ้นจากเก้าอี้ตัวเองและนั่งลงที่เก้าอี้ว่างข้างคนตัวเล็ก นิ้วเรียวจัดการคลายปมเน็คไทเส้นยาวนั้นออกพร้อมกับปลดกระดุมเสื้อนักศึกษาลงให้หนึ่งเม็ด
"ขอบคุณนะจ๊ะพระรอง" เต้าหู้ยิ้มหวาน แม้จะร้อนมาสักพัก แม้จะรู้ว่าไม่ต้องทำตามกฏระเบียบของมหาลัยหากก้าวพ้นเขตสถานศึกษา แต่ที่เต้าหู้ไม่ยอมถอดไทท์ออกก็เพราะอยากให้พระรองเป็นคนทำให้
เต้าหู้ชอบเวลาที่พระรองอ่อนโยนและดูแลเต้าหู้เสมอ
แฟนของเต้าหู้กลายเป็นคนอ่อนโยนได้อย่างน่ารักที่สุดในโลกเลยล่ะ
"ได้ละพี่ๆ" เสียงของคนเสริฟคนเดิมที่มาพร้อมกับก๋วยเตี๋ยวสองชามและน้ำเก๊กฮวยสองแก้ว พระรองขมวดคิ้วเมื่อสิ่งที่เขาสั่งไปเหมือนไม่ได้รับตามคำที่สั่ง
"เดี๋ยว บอกว่าไม่ผักไม่เทียมไงครับ" ชามของเต้าหู้เต็มไปด้วยผักสีเขียวและกระเทียมอีกพูนใหญ่ แฟนของเขาเกลียดสองสิ่งนี้ยิ่งกว่าอะไร แล้วนี่อะไรสั่งไม่ได้ตามที่สั่ง?
"เอ้า เอ้อพี่ขอโทษที คนมันเยอะเฮียแกเลยลืมมั้ง โทษจริงๆว่ะพี่ เขี่ยออกได้ไหมหรือจะเอาใหม่"
"ไม่เป็นไรจ่ะพระรอง เดี๋ยวเต้าหู้เขี่ยออกเนอะ" คนตัวน้อยเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นว่าแฟนตัวเองเริ่มหงุดหงิด เต้าหู้ก้อนน้อยเงยหน้าก่อนจะยิ้มให้กับพนักงาน "ขอบคุณมากนะจ๊ะ พี่ไปเสริฟต่อเถอะ" พนักงานรับคำอย่างว่าง่ายก่อนจะเดินละออกไป ดูท่าคงไม่อยากอยู่หรอกลูกค้าเล่นตีหน้ายักษ์ใส่ขนาดนั้น
"เดี๋ยวเอาออกให้" พระรองเลื่อนชามก๋วยเตี๋ยวของแฟนตัวน้อยมาไว้ตรงหน้าของตัวอง เขาเลือกจะนั่งข้างเต้าหู้แทนที่จะกลับไปนั่งฝั่งตรงข้ามเหมือนเดิม มือหนาหยิบตะเกียบมาคีบผักทั้งหลายใส่ชามของตัวเองก่อนจะใช้ช้อนตักกระเทียมออกให้ พระรองรู้ว่าเต้าหู้ไม่ชอบแม้แต่กลิ่นของมันจึงพยายามเอาออกให้หมดเท่าที่ตาเห็นก่อนจะส่งชามที่ไร้ผักไร้กระเทียมให้กับคนข้างกายพร้อมกับช้อนสั้นและส้อม เต้าหู้ใช้ตะเกียบไม่ถนัดและเต้าหู้ไม่ปรุงเวลากินก๋วยเตี๋ยวพระรองจำได้ขึ้นใจ
"เต้าหู้ปรุงก๋วยเตี๋ยวให้พระรองบ้างนะจ๊ะ" และพระรองที่ชอบกินก๋วยเตี๋ยวที่เต้าหู้ปรุงให้ที่สุดแม้ว่ามันจะถูกปรุงมาแล้วก็ตาม
พวกเขานั่งกินก๋วยเตี๋ยวด้วยกันเงียบๆเพราะความหิวจึงไม่ได้มีบทสนทนาขัดระหว่างกิน ใช้เวลาไม่นานก๋วยเตี๋ยวก็หมดพร้อมกับน้ำเก๊กฮวยที่เหลือแต่น้ำแข็ง
มือน้อยๆหยิบทิชชู่ออกมาสองแผ่นซับปากของตัวเองก่อนหันไปเช็ดให้กับคนตัวสูงข้างกายที่กำลังหยิบเงินออกมาจากกระเป๋าตังค์
เต้าหู้ไม่เคยต้องจ่ายอะไรเลยแม้แต่บาทเดียวถ้าอยู่กับพระรอง ไม่เคยเลยจริงๆเพราะเป็นความต้องการของพระรองที่จะดูแลเต้าหู้ให้ดีที่สุดเสมอ
"พระรองอิ่มไหมจ๊ะ" ปากก็เอ่ยถามมือก็หยิบทิชชู่แผ่นใหม่ซับเหงื่อตามกรอบใบหน้าให้ พระรองน่ะขี้ร้อนจะตาย
"อิ่มแล้ว อยากกินอะไรเพิ่มไหม"
"ไม่จ่ะ ที่หอมีขนม"
"งั้นกลับเลยไหม"
"จ่ะ เต้าหู้ไม่อยากให้พระรองขับรถมืดค่ำเท่าไร"
พระรองพยักหน้ารับก่อนจะจับมือแฟนตัวเล็กให้ลุกขึ้นและเดินไปจ่ายเงินหน้าร้าน ไม่วายส่งสายตาขุ่นเคืองให้เฮียเจ้าของร้านที่บังอาจใส่ผักและกระเทียมมาในชามก๋วยเตี๋ยวของแฟนตัวน้อยด้วย
21:34
รถคันโตจอดข้างหน้าหอคณะแพทย์ที่เงียบสงัด ไม่รู้ว่าคนเรียนหมอเขาอนามัยจัดกันหรือยังไง แต่พระรองเห็นว่าหอในของคณะนี้เงียบสงบที่สุดแล้ว
เต้าหู้ก้อนน้อยจับลาดไหล่ของแฟนตัวโตก่อนจะหยัดกายลงจากรถคันโตและส่งหมวกกันน็อคให้สารถีสุดหล่อเหมือนอย่างเคย มือน้อยๆสางผมของตัวเองให้เข้าทรงพร้อมกับส่งยิ้มหวานให้กับคนที่กำลังจะงอแงในอีกหนึ่งวินาทีข้างหน้า
"ยังไม่อยากให้ไปเลย" นี่ไง พระรองงอแงแล้วล่ะ
"พรุ่งนี้เต้าหู้ก็กลับบ้านแล้วไงจ๊ะ" พรุ่งนี้เป็นวันเสาร์เต้าหู้จะได้กลับไปนอนบ้านและมีเวลาอยู่กับพระรองทั้งวันเลยล่ะ
"พรุ่งนี้ยังไม่มาถึง แต่ตอนนี้คือคิดถึงและมันยังไม่หายทั้งที่อยู่ด้วยกัน" น้ำเสียงทุ้มต่ำนั้นอ่อนลงจนเต้าหู้ต้องยิ้มแก้มฉีก เต้าหู้ชอบเวลาพระรองงอแงเพราะมีเพียงเต้าหู้คนเดียวที่ได้เห็นมุมนี้ของนายพชรดนัย
"ทำยังไงตอนนี้จะหายคิดถึงน้าา" คนตัวเล็กลากเสียงยาน ดวงตากลมซุกซนไปหมด
"ไม่รู้" พระรองลอบยิ้มเมื่อรู้ว่าเวลาเต้าหู้ถามแบบนี้เขามักจะได้อะไรตอบแทนความคิดถึงเสมอ
"กอดหายไหมๆ"
"ไม่พอ"
"หอมแก้มฟอดใหญ่ๆ"
"อาจจะพอช่วย"
"งั้นจูบคำโตล่ะจ๊ะ"
ไม่รอให้คนที่นั่งคร่อมมอไซต์ตอบอะไรเพราะเต้าหู้กำลังทำทุกอย่างที่ได้เอ่ยพูดไป ตั้งแต่เดินเข้าไปสวมกอดแน่น ละใบหน้าจากอกแกร่งมาหอมแก้มกร้านทั้งสองข้างดังฟอดและจับใบหน้าคมให้อยู่นิ่งๆก่อนจะประทับจูบรสหวานของตัวเองลงไป ไม่ได้สนว่าตอนนี้เขาทั้งสองอยู่ที่ไหน ไม่ได้สนสิ่งรอบข้างเพราะทุกอย่างถูกความคิดถึงโอบล้อมไว้หมด เขาสองคนจูบกันทุกวันเมื่อต้องแยกย้ายกันเมื่อสิ้นสุดวัน แต่ถึงแบบนั้นจูบของพวกเขาก็ไม่เคยจืดจางทางความรู้สึก
มันยิ่งตอกย้ำว่าในทุกๆวันเขาทั้งคู่ยังคงต้องการกันและกันเสมอ
ไม่เสื่อมคลาย ไม่แผ่วปลาย ไม่เคยจางหาย
เต้าหู้ค่อยๆละจูบออกมา ปลายนิ้วเล็กลูบลงที่ริมฝีปากนิ่มของคนรักพร้อมรอยยิ้มน่ารักที่ประดับบนใบหน้า ดวงตากลมสบกับแววตาคมที่มองมาอย่างไม่ละสายตา แววตาของพระรองบอกเต้าหู้หมดทุกอย่างโดยที่ไม่ต้องพูดอะไร
เต้าหู้รู้ว่าตอนนี้พระรองต้องการให้เราอยู่ด้วยกันมากแค่ไหน เต้าหู้รู้ว่าพระรองใช้ความอดทนมากแค่ไหนเวลาที่เราต้องแยกกัน
"ความคิดถึงลดลงบ้างไหมจ๊ะ"
"คิดว่าไม่"
"เต้าหู้ก็ไม่" เต้าหู้ยิ้มหวานมองพระรองที่จับมือเต้าหู้ขึ้นและประทับจูบแสนนุ่มนวลที่หลังมือ
"แล้วทำอะไรได้มากกว่านี้ไหม" คนตัวสูงถาม
"ถ้ามันไม่หายก็แค่ปล่อยให้ความคิดถึงเล่นงาน"
"..."
"แล้วพรุ่งนี้เรามาจ่ายค่าความคิดถึงให้กันดีไหมจ๊ะพระรอง"
คนตัวสูงระบายรอยยิ้ม พระรองรู้ว่าพรุ่งนี้เราทั้งคู่จะจ่ายความคิดถึงให้กันได้มากกว่านี้ มากกว่าที่เป็น เพื่อทดแทนเวลาน้อยนิดในระยะห้าวันที่ผ่านมา
"พรุ่งนี้เจอกันนะจ๊ะ"
"ครับ พรุ่งนี้เจอกันนะ"
♡
07:43
รถมอไซต์คันเดินจอดเทียบหน้าบ้านสองชั้นที่คุ้นเคยมาตั้งแต่เด็ก วันนี้พระรองเป็นคนไปรับเต้าหู้ที่หอมายังบ้านของเจ้าตัว เรียกง่ายๆว่าป๊าม๊าและพี่ชายของณิชารนันท์ไม่ต้องทำอะไรเลย ปล่อยให้ลูกเขยข้างบ้านทำแทน
"ป๊าาา ม๊าาา พี่ต้นอ่อนนน" เสียงใสดังขึ้นทั้งที่ยังไม่เข้าบ้านดีด้วยซ้ำ พระรองมองแฟนตัวน้อยวิ่งดุ๊กดิ๊กแบบที่แทบลืมแฟนตัวเองไปแล้วพอถึงบ้าน แต่พระรองก็ไม่ได้น้อยใจอะไรหรอกเดี๋ยวเต้าหู้กอดหอมครอบครัวตัวเองเสร็จก็เดินไปหาเขาที่บ้านเหมือนทุกอาทิตย์ที่ผ่านมา
พระรองเข็นรถตัวเองไปจอดไว้ที่บ้าน วันนี้พ่อแม่ไม่อยู่ พ่อไม่สัมมนาที่ต่างจังหวัดแม่ก็เลยต้องตามไปดูแล จะกลับอีกทีก็คงวันอังคารเขาจึงเป็นเจ้าของบ้านแต่เพียงผู้เดียวในเวลานี้
พระรองเดินขึ้นบนชั้นสองก่อนจะเปิดตู้เสื้อผ้าออกและหยิบชุดมาเพื่อจะอาบน้ำอีกรอบ อากาศเมืองไทยร้อนแค่ขับรถออกไปข้างนอกไม่ถึงสองชั่วโมงกลับบ้านมาก็เหงื่อออกจนแทบชุ่มเสื้อผ้า
เขาใช้เวลาอาบน้ำไม่นานและเมื่อเปิดประตูออกมาก็เจอกับก้อนเต้าหู้ก้อนนุ่มที่นั่งยิ้มหวานอยู่ที่ปลายเตียงของเขา
บอกแล้วว่าเดี่ยวเต้าหู้ก็มาหา
"หายคิดถึงป๊าม๊าแล้วหรอ"
"ยังจ่ะ เดี๋ยวค่อยคิดถึงต่อก็ได้ ตอนนี้อยากคิดถึงพระรองก่อน" คำพูดคำจาน่ารักๆนั่นอดไม่ได้ที่จะจับแก้มอีกคนยืดเล่นคลายความมันเขี้ยวในใจ
"พระรองจ๋า เต้าหู้อยากดูการ์ตูนเรื่อง Your name จ่ะ" ก้อนน้อยว่าพร้อมกับชี้ไปยังเครื่องโปรเจคเตอร์สีขาวของคนตัวสูง พระรองซื้อมันมาสักพักเพื่อใช้ในการดูหนัง และเต้าหู้ก็ชอบมันมากๆเพราะมันฉายเข้ากับพนังเหมือนได้ดูหนังในโรงเลยล่ะ
"ได้สิ" พระรองไม่ขัดใจแฟนตัวเองหรอก เขาขยับตัวไปจัดการเปิดการ์ตูนที่ว่าให้แฟนตัวน้อยทั้งที่เขาเองก็ไม่ได้ถูกใจอนิเมะอะไรเสียเท่าไร
"มานอนเร๊วว" เต้าหู้ตบพื้นที่ข้างเตียงแปะๆเมื่อแฟนหนุ่มจัดการฉายหนังที่พนังห้องเรียบร้อย
พระรองเดินขึ้นบนเตียงนั่งพิงหัวเตียงข้างกับคนตัวเล็ก ส่วนเต้าหู้ก็พิงหัวกลมๆของตัวเองไว้ที่ลาดไหล่กว้าง
พวกเขาใช้เวลากับการดูหนังด้วยกัน มีเพียงเสียงของตัวการ์ตูนที่พูดคุยกันอยู่แบบนั้นร่วมชั่วโมงก่อนที่มันจะจบลง พระรองเอี้ยวหน้ามองคนข้างกายที่เงียบไป ก่อนที่จับคางเรียวนั้นให้หันมาสบตากัน
"เป็นอะไร" เขาถาม
"ถ้าพระรองลืมชื่อเต้าหู้ไป เต้าหู้จะทำยังไงนะ"
"ไม่ลืมหรอก" พระรองตอบคำถามนั้น เต้าหู้ก็เป็นแบบนี้ชอบอินกับหนังที่ดูแล้วก็เก็บมาคิดมากเสมอ
"เพราะเต้าหู้สำคัญมากๆใช่ไหม"
"เพราะกูใช้ชื่อมึงช่วยตัวเองทุกวัน"
"คนบ้า!"
ป้าป!
"โอ๊ย! อะไรวะพูดความจริงอ่ะ" พระรองลูบแขนตัวเองป้อยๆเมื่อโดนฝ่ามือเล็กตีมาเต็มแรง ทำไมต้องเกรี้ยวกราดรุนแรงวะก็แค่เรื่องแค่นี้เองป่ะ
เรื่องจริงด้วยไงประเด็น
"เป็นคนแบบนี้หรอจ๊ะเนี่ย"
"เออ คนแบบนี้แหละที่เป็นแฟนมึง" พระรองขำเมื่อก้อนน้อยข้างๆทำปากยื่นปากยาวเหมือนไม่ถูกใจกับคำตอบของเขา แต่แล้วไงวะก็คนหื่นๆแบบนี้แหละแฟนไอ้ก้อนนุ่มเนี่ย
"อ่ะ ตอบใหม่ก็ได้"
"เอาให้เหมือนผู้เหมือนคนนะจ๊ะ"
ดูมันพูด
"กูไม่ลืมหรอกชื่อมึงน่ะ เพราะกูไม่ได้ใช้สมองจดจำ"
"เพราะพระรองไม่มีสมองไง"
"เต้าหู้"
เดี๋ยวๆ เดี๋ยวมึงโดน
"น้องล้อเล่นนน" ก้อนน้อยยิ้มแฉ่ง บีบนวดไหล่คนตัวสูงให้เลิกทำหน้ายักษ์ใส่กัน
"จะฟังไหมเนี่ย"
"ฟังจ้าๆ"
"มึงพูดก็ถูก แต่ต่อให้กูไม่มีสมองกูก็ไม่ลืม ไม่มีทางลืม"
"..."
"เพราะกูใช้หัวใจในการจดจำมึงไงเต้าหู้"
"..."
"จำมึงได้เสมอ เด็กผู้ชายตัวกลมกับกระโปรงสีแดง"
เต้าหู้ยิ้ม เต้าหู้จำได้ว่าม๊าเคยจับเต้าหู้แต่งเป็นเด็กผู้หญิงตอนเจ็บขวบ จำได้ดีพระรองหัวเราะเต้าหู้หนักมากขนาดไหน หัวเราะจนเต้าหู้ร้องไห้และก็เป็นพระรองนั่นแหละที่กอดโอ๋เต้าหู้
"มึงอยู่ในหัวใจของกูมาตลอด กูไม่มีทางลืมมึงไม่ว่าจะเป็นชื่อหรือสิ่งไหน"
"..."
"ไม่เคยลืม ไม่มีวันนั้นกูให้สัญญา"
เขาทั้งสองยิ้มให้กัน เต้าหู้ใจเต้นแรงกับคำพูดนั้นของคนตัวโตกว่า พระรองเป็นคนจริงจังและจริงใจ เต้าหู้รู้ดี รู้ว่าที่พระรองพูดมาไม่ใช่เพื่อเอาใจ ไม่ใช่คำหวานที่ผ่านมาและจะผ่านไป เต้าหู้รู้ว่าพระรองหมายความตามที่พูดจริงๆ
เต้าหู้เชื่อทุกคำพูด ทุกคำสัญญาของพระรองเสมอ เพราะตั้งแต่เป็นคนรักกันไม่มีวันไหนที่พระรองจะผิดคำพูดกับเต้าหู้เลยสักข้อ เฝ้าดูแล เฝ้าทะนุถนอม คอยหวงแหนและมอบความรักให้แก่กันเสมอ
สายตาของเต้าหู้ไม่เคยมองคนอื่นใดเหมือนที่ใจของเต้าหู้ถูกจับจองโดยพระรองแต่เพียงผู้เดียว
ฝ่ามือบางของเต้าหู้ทาบทับลงที่แก้มพระรองอย่างแผ่วเบาคนตัวเล็กหลับตาลงและพระรองรู้ดีว่าเต้าหู้ต้องการอะไร
คนตัวสูงโน้มใบหน้ามอบจูบแสนอ่อนโยนให้กับคนตัวนุ่ม เก็บเกี่ยวความหวานทุกอยาดหยดจากริมฝีปากสีสวย
พระรองหยัดกายคร่อมอีกฝ่าย ฝ่ามือข้างนึงยันไว้กับผืนเตียง ส่วนอีกข้างประคองท้ายทอยคนตัวเล็กกว่า จูบแสนอ่อนโยนกลายเป็นจูบหนักหน่วงจนริมฝีปากแทบชา เต้าหู้วาดมือลูบแผ่นหลังกว้างของคนบนร่าง ศีรษะเอียงไปข้างเมื่อพระรองกำลังเปลี่ยนตำแหน่งมาฝังจมูกที่ซอกคอของกัน เสียงลมหายใจหนักๆดังขึ้นอยู่ข้างหูจนเต้าหู้ขนลุก มือของพระรองลูบข้างเอวของเต้าหู้ผ่านเสื้อตัวบาง ไม่ได้สอดเข้ามาเพื่อสัมผัสผิวหนังแต่แค่นี้ก็ทำให้เต้าหู้รู้สึกเหมือนตัวเองเปลือยเปล่าอยู่ใต้ร่างของพระรอง
"พระรอง.." เต้าหู้เอ่ยเสียงแผ่วเมื่ออีกคนจูบปลายคางของเขา ลากลงมาตามที่ลำคอ แผ่นอกและหน้าท้อง ทุกสัมผัสพวกนั้นอยู่ที่เสื้อผ้าผืนบางของเขา แต่เต้าหู้กลับรู้สึกว่าความอุ่นจากริมฝีปากของพระรองมันแทรกซึมทะลุเสื้อผ้าของเต้าหู้ได้ยังไงก็ไม่รู้
"เต้าหู้ครับ" พระรองเงยหน้าเพื่อสบตากัน คนตัวสูงหลับตาเพียงวิก่อนที่ใบหน้าหล่อเหลานั้นจะฝังไว้ที่ซอกคอด้านซ้ายของเต้าหู้อีกครั้งและนิ่งไป
มันจะเป็นแบบนี้เสมอ ความอดทนของพระรองที่เต้าหู้รับรู้ได้ เขาทั้งสองไม่เคยลึกซึ้งมากกว่าสิ่งที่เพิ่งทำไป พระรองรู้ดีว่าเต้าหู้ไม่พร้อมและเต้าหู้ให้ได้เพียงเท่านี้
"อดทนไหวไหมจ๊ะ" เต้าหู้รับรู้ถึงบางอย่างที่ดุนดันอยู่ที่หน้าขาของตัวเอง เต้าหู้รู้ว่าพระรองทรมานแต่คนตัวสูงไม่เคยเอ่ยขอให้เขาช่วยมัน ไม่เคยทำให้เต้าหู้ลำบากใจ พระรองไม่เคยทำแบบนั้น
"ไหวครับ"
"..."
"แค่อยู่แบบนี้ก็พอ"
พระรองกอดเอวเต้าหู้แน่นขึ้น แม้พระรองจะอยู่บนตัวเต้าหู้ แม้จะหนักแต่เต้าหู้ไม่คิดห้าม เขาปล่อยให้คนรักนอนกอดอยู่แบบนั้น ปล่อยให้ลมหายใจอุ่นๆกระทบที่ต้นคอ
ฝ่ามือเล็กลูบเรือนผมสีเข้มของคนบนร่าง เต้าหู้ผ่อนลมหายใจเข้าออกช้าๆ เขายิ้มออกมาแม้อีกคนจะไม่เห็น เต้าหู้รู้แค่ว่าเต้าหู้รักพระรอง รักที่ยอมอดทนและให้เกียรติตนเสมอ รู้ทั้งรู้ว่าก่อนที่จะคบกันพระรองเป็นคนแบบไหน แต่พระรองก็ยอมให้เต้าหู้เสมอเมื่อเราเป็นคนรักกัน
อะไรที่เต้าหู้ไม่ชอบ ไม่พร้อม มันจะไม่มีการบังคับจากผู้ชายคนนี้ ต่อให้เต้าหู้ก็เป็นผู้ชายเหมือนกัน แต่พชรดนัยที่เต้าหู้แสนรักกลับทะนุถนอม หวงแหนและให้เกียรติณิชารนันท์ไม่ต่างจากหญิงสาวสักนิด
"เต้าหู้รักพระรอง" คำว่ารักถูกเอ่ยออกมาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย
พระรองยกใบหน้าออกจากลำคอหอมของอีกคน เขามองแววตาหวานที่ตกหลุมรักทุกวินาทีที่ได้สบตา พระรองยิ้มรับคำว่ารักก่อนจะกดจูบมุมปากของอีกฝ่ายอย่างแผ่วเบา
"รักมากไหม"
ถามทั้งที่รู้คำตอบ แต่เพราะพระรองเป็นคนรักที่แสนโลภเขาถึงมักอยากจะฟังมันจากปากเต้าหู้เสมอ
อยากฟังซ้ำแล้วซ้ำเล่าเหมือนคนไม่รู้จักพอ
"รัก..เต้าหู้รักพระรองเท่าฟ้า"
ท้องฟ้าของคนอื่นจะกว้างใหญ่มากแค่ไหนไม่รู้แต่สำหรับเต้าหู้มันยิ่งใหญ่ยิ่งกว่าจักวาล ยิ่งกว่าปลาวาฬชุปแป้งทอด ยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด
เพราะแบบนั้นเต้าหู้ถึงได้รักพระรองเท่าฟ้า เหมือนที่เต้าหู้มักบอกป๊าม๊าและพี่ต้นอ่อนเสมอ
รักพระรองเท่าฟ้าเหมือนรักคนในครอบครัวแซ่หลิน เพราะพระรองก็เป็นหนึ่งในครอบครัวของเต้าหู้
ท้องฟ้าของคนอื่นอาจจะโอบกอดไม่ได้แต่ท้องฟ้าของเต้าหู้โอบกอดได้ และเต้าหู้รักท้องฟ้านี้มากๆ
มากจนสุดขอบฟ้า
"ครับ" พระรองยิ้ม เขาเคลื่อนใบหน้าและกระซิบข้างใบหูของคนรัก
"..."
"พระรองก็รักเต้าหู้เท่าฟ้าเหมือนกัน"
ใช่ นั่นแหละ..ผมรักคุณเท่าฟ้า
#เขตปลอดเต้าหู้ฮบ
SeMisoo : คิดถึงจังเลยนะจ๊ะ เต้าหู้โตขึ้นบ้างไหมน้าา แต่เขาสองคนรักกันเท่าฟ้าเลยอ่ะ อิจสาาาาาา
มาเพิ่มตอนพิเศษให้แล้ว หวังว่าจะช่วยบรรเทาความคิดถึงก้อนนิ่มได้บ้างโน๊ะๆ
ไหนๆก็ไหนๆแล้วจ่ะ ขอฝากจอยเรื่องใหม่หน่อยนะจ๊ะ เรื่อง ผัดเภาหมูหมี่ #HunBaek อย่าลืมไปจอยแล้วเติมกำลังใจให้เราด้วยน้าาา
ฮาททึๆนะจ๊ะๆ ฮึ้บ!♡
งืออออทำไมมันดีละมุนแบบนี้น่ารักๆๆๆๆๆๆๆๆเขินไปหมดแงงงงงชอบมากๆเลยยยยย
ไรท์แต่งเรื่องดีๆสนุกมาให้อ่านเสมอ แต่งอีกเยอะๆเลยน้าาาา