คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : [SF : Jiho x Jaehyun NCT] Remember me 6
Remember 6
Jiho x Jaehyun
Cr.Twitter
ผมจ้องมองโทรศัพท์มือถืออยู่พักใหญ่ๆ รอยยิ้มยกขึ้นเมื่อเห็นแคปชั่นมากมายบนทวิตเตอร์ปรากฏแก่สายตา ผมมักจะขำเสมอเมื่อเห็นประโยควี๊ดว้ายของเหล่าแฟนคลับ ใช่ครับ...วันนี้วงของผมปล่อยทีเซอร์ เมื่อทางบริษัทวางแผนจะคัมแบ็คภายในเดือนนี้ ต้องบอกเลยว่า...หนักหนาอยู่เหมือนกันกับการคัมแบ็คครั้งนี้
ผมต้องฟิตร่างกายให้พร้อม ไหนผู้กำกับจะรีเควสให้ผมใส่เสื้อผ่าอกสุดวาบหวิว ผมก็ไม่ได้เห็นด้วยเท่าไหร่ กลัวว่า...
คนในใจจะเคืองเอา
เอาเข้าจริงๆ ผมก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าจีโฮจะมีปฏิกิริยายังไง ถ้าเห็นผมในสภาพแบบนั้น เพราะก่อนหน้านี้ผมก็หวงเธอไปเพราะเรื่องชุดเหมือนกัน แค่คิดว่าเธอจะบ่นงุ้งงิ้ง เบะปากงอน ใจผมมันก็พองโตไปหมด
ต้องน่ารักมากแน่ๆ
นั่นไงครับ...โทรมาแล้ว
"ครับ" ผมตอบรับปลายสาย
[จองแจฮยอน] เรียกชื่อกันแบบนี้เลยนะ...ถ้าให้ผมเดาตอนนี้เธอคงกำลังขมวดคิ้ว กอดอก อยู่แน่ๆ
"ขา~" ผมลากเสียง ทำเอาเมมเบอร์ที่กำลังซ้อมเต้นอยู่ถึงกลับหันควับมองผมเป็นตาเดียว โดยเฉพาะพี่แทยง
[กลับหอยังคะ?] ผมยิ้มกว้าง เพราะตอนนี้นาฬิกาบางบอกเวลาห้าทุ่มครึ่งแล้ว จีโฮยังคงเป็นคนที่ใส่ใจผมเสมอ
"ยังครับ คุณล่ะกลับหรือยัง?" ผมนั่งชันเข่า พิงหลังกับผนังห้องซ้อม ยกมือข้างที่ไม่ได้ทำอะไรลูบหน้าตัวเองด้วยความเหน็ดเหนื่อย
[กลับแล้ว อย่าอยู่ดึกนะ]
"ครับ~ ทำไมยังไม่นอนเอ่ย?"
[ใครล่ะย้ำนักว่าให้รอดูทีเซอร์] น้ำเสียงเง้างอน ทำให้ใจผมเต้นแรงอีกแล้ว
"แล้วเป็นยังไงบ้างครับ?" ผมถาม ในขณะที่มาร์กค่อยๆ เนียนมานั่งข้างๆ ผม เอียงหูเข้าหาโทรศัพท์ด้วยความอยากรู้อยากเห็น ผมเลยเปลี่ยนโทรศัพท์แนบหูอีกข้าง
[ก็ดี]
"หืม?"
[ก็ดูดีเหมือนเดิม]
"ไม่หวงหน่อยหรอครับ?" ผมถาม มาร์กก็เอาแต่วอแวผมให้ผมเปิดสปีกโฟน "อย่า-กวน" บอกมาร์กเสียงเบาที่สุด
[มันเป็นงานของนายนี่ จะหวงไปทำไมล่ะ]
"ปากแข็ง" มาร์กกระซิบข้างหูที่ไม่ได้แนบโทรศัพท์ เด็กหนอเด็ก
"จริงหรอครับ?"
[...จริงสิ เราคุยเรื่องนี้กันไปแล้วนะ จำไม่ได้หรอ?]
"ก็ผมอยากให้คุณหวงนี่ครับ" มาร์กทำท่าจะอ้วก จนผมต้องลุกหนีเขา แต่แล้วสายตาก็ไปปะทะกับพี่จอห์นนี่ที่ยืนกอดอกมองผมยิ้มๆ อะไรกันอีก!
[อืม~ งั้นหวงก็ได้]
"หวงแบบไม่เต็มใจเล้ย เสียใจจัง แบบนี้ต้องง้อแล้วนะครับ" พี่โดยองแลบลิ้นล้อเลียนผมอีกคน
[ฉันแยกแยะออกน่า อันไหนเรื่องงาน อันไหนเรื่องส่วนตัว]
หวงกันสักนิด...
[อีกอย่างพวกเขาก็ได้แค่ดูเท่านั้นแหละ...]
ร้ายกาจ
ผมยกมือปิดปากซ่อนรอยยิ้ม พูดออกมาแบบนี้ ใครไม่เขินบ้างครับ ถ้าภาษาทวิตเตอร์พวกเขาคงพูดว่า ใจมันน้วยเป็นของเหลวไปแล้ว
ที่ใจมันอ่อนเนี่ยไม่ใช่อะไรนะครับ ย้อนกลับไปเมื่อสองวันที่แล้ว ผมกับจีโฮเราไปเที่ยวที่ปูซาน สัมผัสคลื่น ลม หาดทราย ทะเล พร้อมกับครอบครัวของจีโฮ แต่ที่พิเศษกว่านั้นคือ...บรรยากาศชายหาดยามค่ำคืนกับสาวสวยที่ใบหน้าทอกันแสงจันทร์
รอยยิ้มสดใสผุดขึ้นเมื่อเห็นพลุไฟกระจายหลากหลายสีสันบนท้องฟ้ายามค่ำคืน แต่แล้วบรรยากาศเป็นใจ ดึงดูดให้เราเข้าหากันอย่างห้ามไม่อยู่...เราดื่มด่ำกับรสชาติที่แสนพิเศษภายใต้เเสงจันทร์ ท่ามกลางหาดทรายไร้ผู้คน
จูบที่ไร้ที่ติของเรา
แน่นอนว่าเราไม่ได้จบที่เตียงเหมือนกับคู่รักคู่อื่นๆ ถึงแม้บรรยากาศจะเอื้ออำนวยก็ตามแต่ จากลากันด้วยอ้อมกอดอุ่น ก่อนจะแยกย้ายกันไปนอน...อันที่จริงผมก็เสียดายนิดหน่อย แต่ก็นะ การให้เกียรติเธอก็ยังคงเป็นเรื่องสำคัญอันดับหนึ่งของผม
และนั่นแหละที่ทำให้เมมเบอร์ไม่เชื่อในสิ่งที่ผมพูด จนกระทั่งตอนนี้ที่ยิ้มล้อผมใหญ่ ทุกคนคิดว่าผมกับจีโฮไปถึงขั้นนั้นแล้ว...แต่ก็ไม่มีใครเชื่ออย่างที่บอก
เห็นผมเป็นคนยังไง!!!!
"..."
[ดึกแล้ว ซ้อมเสร็จรีบกลับหอ อาบน้ำ นอนเลยนะ] จีโฮทิ้งท้าย เสียงหาวดังเข้ามาในสาย
"ครับ~ ฝันดีครับ"
[ฝันดีค่ะ...แจฮยอน]
สิ้นสุดบทสนทนา พี่โดยองและพี่จอห์นนี่รีบปรี่เข้ามาหาผมทันที จนผมต้องยกมือป้องกันตัวเอง
"อะไร?" ผมถามอย่างหวั่นใจ
"คืนนั้นไม่มีไรเกิดขึ้นจริงดิ?" พี่โดยองเปิดปากถามคนแรก ทำเอามาร์กแทรกตัวเข้ามาเกาะแขนผมเป็นปลิง ไหนจะแฮชานอีกคน
"ก็บอกว่าไม่มีไง" ผมบอก
"ใครเขาจะไปเชื่อ บรรยากาศดีขนาดนั้น" มาร์กเสริม
"มันเป็นทริปครอบครัว" ผมอธิบาย
"แล้วไง จะทริปไหนก็ทำได้หมดแหละ" พี่แทยงหรี่ตาจับผิดผมอีกคน โอ้ยยย~ ไปกันใหญ่แล้ว
"มันไม่มีอะไรจริงๆ"
"ผมว่ามี!" มาร์กยืนกรานคำตอบเดิม "หลังกลับจากเที่ยว พี่ก็ดูเปลี่ยนไป"
"??"
"ดูแฮปปี้ มีความสุขเกินหน้าเกินตาคนไปเที่ยว"
"ไปเที่ยวก็ต้องมีความสุขสิ"
"ไม่มีไรเกิดขึ้นจริงดิ? ถามจริง?" พี่โดยองถามอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ
"จะมีก็แต่..." ผมเว้นวรรค หูเมมเบอร์ถึงกับผึ่งรอฟัง "บอกฝันดีพร้อมส่งเข้านอน"
"เฮ้อ~ ผิดหวังว่ะ ไปๆ เก็บของกลับบ้าน" พี่แทยงประกาศ เมมเบอร์ส่ายหัวเอือมระอา แยกย้ายกันไปเก็บของเพื่อกลับหอ ในระหว่างนั้นเมมเบอร์สัญชาติญี่ปุ่นที่เงียบอยู่นาน เดินมากระซิบที่ข้างหูของผม
"ท้องก่อนแต่ง ไม่ดีนะเว้ย"
จำไว้เลยนะพี่ยูตะ!!!!
ผมกละบมาถึงหอพักเวลาก็ล่วงเลยเกือบจะเที่ยงคืน ผมวิ่งเข้าห้องน้ำคนเเรกหลังจากประตูห้องเปิดออก จนรูมเมจของผมกรอกตามองบนด้วยความเอือมระอา เมื่อร่างกายได้ชำระก็กระโดดขึ้นเตียงอย่างรวดเร็ว โทรศัพท์ถูกควักออกมา กดวิดีโอคอลหาแฟนสาว
รอสายสักพัก ใบหน้าของแฟนสาวคนสวยก็ปรากฏแก่สายตา บอกตรงๆ ว่าหน้าสดจีโฮมันดีมากๆ เป็นคิมจีโฮตอนมอปลายใส่ชุดสีเหลืองชัดๆ รอยยิ้มหวานคลี่ออก เมื่อพบกับผมในสภาพหัวเปียกจากการสระ
[สระผมหรอ?] แน่ะ ใส่ใจเก่ง
"ครับ^^"
[หอมไหม?] ถามแบบนี้ เดี๋ยวก็ถ่อไปให้ดมซะเลย
"ดมดู" ผมเลื่อนโทรศัพท์แปะที่หัว ก่อนจะหัวเราะออกมาเสียงดัง
[นี่!] เสียงเอ็ดดังออกมาตามสาย ใบหน้าสวยคว่ำปาก
"คิดถึงจังเลยครับ" ผมพูดด้วยน้ำเสียงออดอ้อน ไม่เจอกันตั้งแต่กลับจากปูซาน ตั้งสองวันแหนะ จีโฮได้แต่หัวเราะออกมา
[ยังไม่ถึงอาทิตย์เลย]
"คิดถึงอยู่ดีครับ คุณคิดถึงผมไหมครับ?"
[ไม่~] จีโฮยิ้มล้อ
"เสียใจจัง" ผมตีหน้าเศร้า ก็รู้อยู่ว่าเราคิดแบบเดียวกัน จีโฮคิดถึลผมขนาดที่ว่าเคยนัดออกไปกินบิงซูที่เมียงดง สถานที่ที่คนชุกชุม จะบอกว่าเสี่ยงชีวิตออกไปเดทก็ว่าได้ กลับมาผมโดนพี่แทยงบ่นจนหูชา ไหนจะพี่เมเนเจอร์อีก แต่ผมว่ามันคุ้มที่ได้ออกไปเดทแบบคนทั่วๆ ไป
กินบิงซู ดูหนัง เล่นเกม ร้องคาราโอเกะ ถ่ายรูป บลาๆๆ
ถ้าไม่เป็นไอดอล ผมก็คงเป็นคนที่ติดแฟนมากๆ คนหนึ่ง
[อ้อ เกือบลืม]
"ครับ?"
[ยินดีด้วยนะคะ คัมแบ็ครอบนี้ขอให้เป็นไปด้วยดี] ใจผมนี่พองเป็นลูกโป่งแล้วครับ
"ขอบคุณครับ น่ารักจัง^^" ผมจิ้มหน้าจอ อยากจะจิ้มจมูกเธอที่สุด เวลาแบบนี้น่ะนะ "อ่า...คิดถึงคุณมากๆ เลยครับ"
[คิดถึงเหมือนกันค่ะ^^] จีโฮเอียงคอและยิ้มหวาน [พ่อซื้อโสมมาให้ เป็นไงบ้าง?]
"ก็ดีครับ กินแล้วโล่งไปทั้งตัว" หลังกลับจากปูซาน พ่อของจีโฮซื้อโสมห่อใหญ่ให้ผม เพราะผมพูดถึงเรื่องคัมแบ็ค คุณพ่อก็ลงทุนซื้อโสมบำรุงสุขภาพให้ผม ส่วนคุณแม่ก็ให้หมอนรองคอ ไว้นอนบนรถเวลาไปอีเว้นต์นอกสถานที่
ลูกสาวคนเล็กบ้านนี้น่ารักได้คุณพ่อคุณแม่นี่เอง
"ต้องขอบคุณมากๆ เลย ช่วยได้เยอะ"
[แบ่งคนอื่นกินด้วยล่ะ] ใจผมล่ะไม่อยากแบ่งให้ใครเลย โดยเฉพาะเมมเบอร์ พวกนี้ได้อะไรชอบกินให้หมดทีเดียว ไม่ชอบให้เหลือ แถมยังกินไม่ยั้งอีก แต่ผมก็แบ่งให้เมมเบอร์ที่จัดการกันแล้วล่ะ ตื่นมาตอนเช้าแฮชานมาสารภาพกับผมว่าต้มกินหมดตั้งแต่ตอนกลางคืน ผมล่ะอยากจะบ้าตาย
"แบ่งแล้วครับ หมดตั้งแต่วันนั้นเลย"
[ฮ่าๆๆๆ~]
"ผมน่ะได้กินแค่นิดเดียวเอง"
[ฮ่าๆๆๆ]
"ดึกแล้ว คุณนอนเถอะครับ พรุ่งนี้ตื่นแต่เช้า" ช่วงนี้จีโฮถูกพักงาน เพราะเรื่องสุขภาพของเธอ ทางบริษัทเลยให้กลับไปรักษาตัวที่บ้าน อย่างที่บอกเธอเพิ่งจะกลับเข้าบริษัทหลังจากจบทริปที่ปูซาน
พูดถึงอาการของเธอ ตอนนี้ดีขึ้นมากแล้ว ตอนที่ข่าวออกมาว่าจีโฮจะต้องพักงานเนื่องจากปัญหาสุขภาพ ผมกระวนกระวายใจมาก ผมพอจะรู้ว่าร่างกายจีโฮไม่เคยโอเคถ้าทำงานหนักๆ แต่ก็เป็นเรื่องที่ดีที่จะได้หยุดพักร่างกาย และพักจิตใจ แน่นอนว่าทางบ้านเป็นห่วงเธอมาก ทั้งบ้านจีโฮ และบ้านผม พ่อกับแม่ถึงกับบึ่งไปเยี่ยมจีโฮที่บ้าน
"ดูแลสุขภาพด้วยนะครับ ห่มผ้าหนาๆ ใส่ถุงเท้านอนด้วย"
[...]
"อย่าลืมเปิดแอร์ยี่สิบห้าองศานะครับ พรุ่งนี้ถ้าตื่นแล้วให้ยืดตัวก่อนอาบน้ำด้วยนะครับ"
[...] จีโฮพยักหน้า
"แล้วก็...อย่าลืมคิดถึงผมนะครับ^^"
[ค่ะ จะเชื่อฟังนะคะคุณแจฮยอน]
"เด็กดี^^"
[งั้น...แค่นี้นะ ฝันดีค่ะคุณแจฮยอน^^] จีโฮโบกมือหยอยๆ
"ฝันดีครับคนเก่งของผม^^"
หน้าจอตัดหลังจากวางสาย
ผมต้องชะงักเมื่อสายตาไปหยุดอยู่ที่มุมห้องแต่งตัวที่มีกล่องของขวัญสีชมพูวางไว้ ผมเลิกคิ้วก่อนจะหันซ้ายหันขวา หลังจากที่จบสเตจคัมแบ็ค ผมก็ตรงดิ่งมาที่ห้องแต่งตัวเลย เพราะต้องรีบกลับไปซ้อมต่อ แต่ทว่าเมมเบอร์กลับไม่ได้เร่งรีบ ตอนนี้ผมเลยอยู่ในห้องคนเดียว ผมขมวดคิ้วเป็นปมก่อนจะเดินเข้นไปหากล่องของขวัญสะดุดตา
'ถึง จองแจฮยอน'
ผมยิ่งงงเข้าไปใหญ่ ใครกันที่เอากล่องของขวัญมาไว้ในห้องแต่งตัว เพราะมีไม่กี่คนที่อนุญาตให้เข้ามาได้ หรือว่า...จะเป็นคุณคนสวยของผม♡ คิดได้ดังนั้นผมก็ไม่รอรี เปิดกล้องของขวัญนั้นทันที แต่สายตาก็ต้องชะงัก...
"แจฮยอน พี่เมเนเจอร์เรียก" พี่แทยงเปิดประตูเข้ามาพอดี ผมจึงรีบปิดกล่องของขวัญ
"..."
"แจฮยอน?" พี่แทยงเห็นว่าผมไม่ตอบ เขาเลยเดินมาหาผม ก่อนจะขมวดคิ้วเป็นปมเพราะสีหน้าของผมไม่ค่อยดีนัก กล่องของขวัญในมือถูกแย่งไปโดยลีดเดอร์วง
"..."
"อีกแล้ว?" พี่แทยงถามเสียงเนือยๆ "ต้องบอกพี่เมเนเจอร์แล้วนะแจฮยอน"
"ผมไม่อยากให้เรื่องบานปลาย" ผมตอบ
"มันจะบานปลายเพราะนายไม่ยอมบอกนี่แหละ"
"ผมดูแลตัวเองได้ ไม่ต้องห่วง"
"ฉันไม่ได้ห่วงนาย ฉันห่วงจีโฮต่างหาก ถ้าเกิดว่ามันไม่ใช่แค่ขู่ล่ะ เธอจะเป็นอันตรายได้นะ" พี่แทยงร่ายยาว ก่อนจะวางกล่องลงที่เดิม "อีกอย่างนายควรบอกเธอด้วย เธอจะได้สบายใจแล้วก็ระวังตัวมากขึ้น"
บอกแค่นั้น พี่แทยงก็เดินออกไป
ทิ้งให้ผมจมอยู่กับความคิดของตนเอง
ผมได้รับกล่องของขวัญปริศนาแบบนี้ตั้งแต่ผมออกไปเดทกับจีโฮที่โซลทาวเวอร์ครั้งก่อน กล่องของขวัญที่มีกระดาษเขียนข้อความข่มขู่ข้างใน เนื้อหาเดิมๆ คือ ให้ผมเลิกกับจีโฮซะ
ซาแซงแฟน
ผมก็ไม่อะไรเพราะโดนคุกคามหลายต่อหลายครั้ง แต่คนพวกนั้นก็ไม่กล้าทำ แต่ครั้งนี้ผมว่ามันมากเกินไป ข้อความล่าสุดในกล่องสีชมพูเป็นข้อความข่มขู่ที่ผมสามารถเอาผิดทางกฎหมายได้ แต่ถ้าผมแจ้งตำรวจ ทุกคนก็จะรู้ว่าผมกับจีโฮเป็นแฟนกัน...ซึ่งเราสองคนยังไม่พร้อมที่จะเปิดเผยเรื่องราวของเรา ผมได้แต่ถอนหายใจ พยายามปล่อยผ่านเรื่องนี้ไป แต่พักหลังกล่องนั้นก็ถูกส่งมาถี่ขึ้นเรื่อยๆ เดือนนี้ผมได้รับมาสองกล่องแล้ว
ผมควรปรึกษาใคร...ที่จะเซฟที่สุด
"แจฮยอน พี่เมเนฯเรียก" เป็นพี่จอห์นนี่เปิดประตูแล้วโผล่หน้าเข้ามาเรียกผม
"โอเคๆ"
พี่เมเนเจอร์กำลังคุยธุระกับพีดีของรายการ ผมยืนอยู่ห่างๆ เพื่อรักษามารยาท ในใจกังวลและกระวนกระวายไปหมด ผมควรบอกเรื่องนี้กับพี่เมเนเจอร์ไหม? ไหนๆ พี่เขาก็รู้เรื่องระหว่างผมกับจีโฮแล้ว แต่อีกใจก็ต่อต้านไม่ให้ผมบอก เพราะเดี๋ยวทุกคนจะเป็นกังวลไปด้วย แล้วตัวผมเองก็จะเป็นปัญหาให้คนอื่น
"โทษที พอดีพีดีอยากคุยเรื่องมุมกล้อง" พี่เมเนเจอร์รีบปรี่เจ้ามาหาผมทันทีที่พูดธุระเสร็จ
"เรียกผมมามีอะไรหรือเปล่าครับ?" ผมถาม
"ไปคุยบนรถ" พี่เขาเดินนำผมไป
บรรยากาศภายในรถเงียบสงัดราวกับไม่มีสิ่งมีชีวิตบนรถคันนี้ ทั้งๆ ที่มีทั้งเมมเบอร์และพี่เมเนเจอร์ ผมกระแอมเบาๆ ก่อนจะปริปากพูดเพื่อทำลายบรรยากาศอันน่าอึดอัด
"มีอะไรหรือเปล่าครับ?" ผมถาม
"แจฮยอน" พี่เมเนเจอร์เรียกเสียงเครียด ทำเอาผมขนลุกซู่ ดูเหมือนว่าจะเป็นข่าวไม่ดีนัก
"ครับ?"
"ท่านประธานรู้แล้วว่านายมีแฟน" เหมือนไม้หน้าสามฟาดหน้าของผมอย่างแรง เพราะนี่เป็นเรื่องร้ายแรงสำหรับผมที่สัญญาห้ามมีแฟนยังไม่หมด ฝ่าฝืนกฎเหล็กของค่าย
"..."
"แล้วก็รู้ด้วยว่านายโดยระรานจากพวกซาแซง" ให้ตายเถอะ!!! รู้หมดทุกอย่างสินะ
"..."
"เรื่องที่ท่านประธานรู้ ฉันจะไม่บอกนะว่ารู้ได้ยังไง" พี่เมเนเจอร์กอดอกมองผม "มีอะไรจะพูดไหม?"
ผมชั่งใจอยู่ชั่วครู่ ก่อนจะตัดสินใจพูดออกไปเกี่ยวกับแผนการในอนาคตที่ได้ตกลงกันไว้กับแฟนสาวและครอบครัว เราปรึกษาเรื่องนี้กันเป็นเดือนๆ ทั้งครอบครัวของจีโฮและครอบครัวของผม ผมกะว่าให้ทุกอย่างค่อยเป็นค่อยไป แต่ดูเหมือนว่าผมกำลังก้าวข้ามจุดนั้นไป
"พี่ก็รู้ว่าผมกับจีโฮเราเป็นแฟนกัน..." ผมค่อยๆ พูดทีละประเด็น
เมมเบอร์ทุกคนเงียบฟังอย่างตั้งใจ แอร์ในรถดูเหมือนจะร้อนขึ้นมาทันที
"เราคบกันมาได้ปีกว่าๆ ในระหว่างนี้เราโอเคมากกับความสัมพันธ์แบบนี้..."
"..."
"ผมกับจีโฮเราหันหน้าเข้าหากันพูดคุยเรื่องปัญหามากมาย รวมถึงอนาคตของเราด้วย ผมพร้อมที่จะจับมือเธอ แล้วเธอก็ยินดีที่จะจับมือผมแล้วเดินไปด้วยกัน"
"..."
"ครอบครัวของเราได้ปรึกษาและยอมรับความสัมพันธ์ของเรา และพวกท่านก็ยินดีที่จะสนับสนุนเรา และผมก็หวังว่าเมมเบอร์แล้วก็พี่จะสนับสนุนเราด้วย..."
ผมกลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก ประโยคที่ผมกำลังจะเอ่ย มันจะเปลี่ยนชีวิตของผมไปตลอดกาล
"เราตกลงกันว่า เราจะแต่งงานกันครับ"
..................................
TBC
กรี๊สสดสดดดดดดดดดดด
แต่งค่ะ!!!!!!!
ความคิดเห็น