ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [EXO : KAI x You] SPY 🔫

    ลำดับตอนที่ #4 : SPY 2 : Drunk (1/2)

    • อัปเดตล่าสุด 2 พ.ค. 62


    9
    SPY 2





         "ไค"

         "ว่า?"

         "วันนี้ทีมฉันมีเลี้ยงที่ร้านเนื้อย่าง"   

         "แล้วยังไง?"   ผมถาม 

         "ไปเป็นเพื่อนหน่อยดิ ไม่อยากไปกับหัวหน้าสองคน"   คยองซูส่งสายตาอ้อนวอนให้ผม

         "คนที่ทิ้งเพื่อนให้เดินคนเดียวที่สนามบินไม่มีสิทธิ์พูดแบบนี้นะ"   ผมเชิดริมฝีปาก นี่ผมยังไม่หายนอยด์เลยนะ เป็นเพื่อนภาษาอะไร

         "น่านะ ไปเป็นเพื่อนหน่อย"   คยองเขย่าแขนผม

         "ไม่!"

         "เดี๋ยวเลี้ยง"   คยองซูยื่นข้อเสนอ

         "คิดว่าซื้อฉันด้วยเงินได้หรอ!?"   ผมกัดฟันพูด

         "แล้วได้ป้ะล่ะ?"   คยองเชิดหน้าถาม

         "ไอ้เพื่อนเวร! ไปกี่โมง!!"

         "หกโมงเย็น^^"  

         บอกไว้ก่อนว่าผมไม่ได้ขี้งก แต่ช่วงนี้ผมอยากเก็บเงินไว้ซื้อที่ดินในมัลดิฟ ตั้งแต่ที่ท้าทายชานยอลไป ในทีมผม หมอนี่รวยสุด พราะภารกิจหมอนี่ได้ทำมันงานราษฎร์ งานหลวงเลยทีเดียว ค่าตอบแทนครั้งเดียว ซื้อเกาะส่วนตัวได้สบายๆ เป้าหมายของผมคือ ต้องเหนือกว่ามัน หึๆ

         "แล้วนี่ทีมนายยังไม่กลับมาหรอ?"   คยองซูถาม ว่าพลางมองไปรอบๆ ห้องทำงานของผม

         "ไม่อ่ะ มินกยูกำลังจะไปอเมริกาเลยต้องช่วยกันเคลียร์คดี"   ใช่ครับ หลังเสร็จภารกิจของน้องมัน มินกยูก็ถูกเรียกตัวไปอเมริกาอย่างกะทันหัน คดีก็ยังไม่เสร็จ ทีมเลยเข้าไปช่วย ส่วนผมมีหน้าที่เฝ้าหน่วย...หน้าที่ใหญ่หลวงเลยทีเดียวล่ะ กินๆ นอนๆ เล่นๆ

         "อ่า...งั้นเจอกันตอนเย็นนะเว้ย"

         "เออๆ"   คยองซูว่าพลางเดินออกไปจากห้องทำงานของผม



         ติ้ดๆๆ~

         ผมหันควับมองต้นกำเนิดเสียง ที่ดังแต้งเตือนที่หน้าจอแลปท็อป เครื่องหมายสามเหลี่ยม สีแดง แสดงบนหน้าจอ...อีกแล้วสินะ

         ไหนมาดูกันว่ามันตะเจ้ามาแฮกอะไร

         ผมคีย์รหัสบนแป้น ก่อนที่หน้าจอจะปรากฏสิ่งที่แฮกเกอร์ปริศนากำลังค้นหาบางสิ่ง แฮกเกอร์ใส่นหัสบางอย่างก่อนที่หน้าจอจะเปลี่ยนเป็นอีกแบบ


    'ระเบียนสมาชิกหน่วยปฏิบัติการพิเศษเอมไพร์ ปี 2016-2018'


         ผมขมวดคิ้วกับสิ่งที่แฮกเกอร์พยายามที่จะดึงข้อมูล ทันท่วงที ผมรีบกดรหัสป้องกันข้อมูล ก่อนที่หน้าจอจะดับไปกลางคัน 

         "แกต้องการอะไร"   ผมเอ่ยเสียงเบา คิ้วขมวดเป็นปม ไม่ลืมที่จะกดโทรหาแจยองทันที


         รอสายอยู่สักพัก แจยองก็กดรับด้วยเสียงที่หอบหายใจแรงๆ

         [แฮ่กๆ ว่าไงเฮีย]

         "ทำไร?"   ผมถาม

         [ต้องให้บอกหรอ? ค่อยโทรมา ไม่ว่าง]   ผมพอจะเข้าใจแล้ว คงไม่เรื่องธรรมดาของหมอนั่น ไปอยู่ที่ไหนต้องไปปล่อยไข่ไว้ตลอด ไอ้น้องเวร!

         "ตอนนี้แกต้องว่าง เรื่องสำคัญ"   ผมพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง แจยองก็คงจับน้ำเสียงของผมได้

          [Wait a minute babe / No~ please]   สำเนียงอเมริกันเอ่ยออกมา ตามมาด้วยเสียงเล็กๆ ที่บ่งบอกได้ว่าเป็นเสียง ผู้หญิง ผมถึงกับกุมขมับ   [Don't worry. Just three minutes]   ตามมาด้วยเสียงทุ้มๆ ของแจยอง

         "..."   ไม่มีอะไรจะพูดเลย 

         [ว่าไงเฮีย?]

         "เลิกได้ไหมนิสัยแบบนี้"   ผมบ่น

         [แหม~ อย่างกับเฮียเลิกได้]  ยอกย้อนเก่ง  [เข้าเรื่องเลยเฮีย ผมมีภารกิจต้องไปทำต่อ]

         "เมื่อกี้มีคนแฮกเข้าระบบอีกแล้ว"   

         [...]   แจยองเงียบ

         "นายรู้ไหมว่ามันแฮกอะไร"

         [พอจะรู้อยู่บ้าง...ถ้าให้ผมเดา..ข้อมูลทีมเรา]

         "ข้อมูลทีมเรา"   เราประสานเป็นเสียงเดียวกัน ผมยกริมฝีปาก ก่อนจะประมวลความคิด   "นายคิดว่าไง?"

         [ก็ไม่แปลกหนิ ทีมเราก็เป็นที่หมายหัวของพวกอาชญากรอยู่แล้ว]   แจยองเอ่ย

         "แต่สิ่งที่แปลกคือมันเจาะระบบเข้ามาได้ยังไง นี่แหละประเด็น ความปลอดภัยของระบบมันแน่นหนา เกินกว่าจะแฮกเข้ามาได้ แถมหน่วยความปลอดภัยทางไซเบอร์ก็ดูเหมือนจะไม่รู้อีกต่างหาก"   ผมร่ายยาว

         [ก็คงมีทางเดียว]

         "ไม่มีทาง นายกำลังจะบอกว่า..."

         [อืม...คนร้ายเป็นคนใน]   สิ้นประโยค ผมก็ยกมือกุมขมับทันที คนในหน่วยมีเป็นร้อยๆ คน ไหนจะพวกที่ไปปฏิบัติภารกิจที่ต่างประเทศอีก   [งานหินกว่าแฮกเกอร์เป็นคนนอกอีก]

         "นายเก็บเรื่องนี้ไว้ก่อนนะ อย่าเพิ่งบอกใคร"   ผมบอก

         [ถ้าเฮียหมายถึงหัวหน้าหน่วย สบายใจได้]

         "อืม ฉันจะบอกเฮียหยางหยางก่อน"

         [ฝากด้วยนะเฮีย ผมขอตัวละ]

         "นี่ยังมีอารมณ์จะ..."

         [ไม่มีอารมณ์แล้วโว้ย!]   ว่าจบ มันก็ตัดสายใส่ผมทันที เหอะๆ



         16.23

         ผมกำลังนั่งนิ่งเป็นหินท่ามกลางทีมวูล์ฟ ที่ไม่ได้มีแค่เพื่อนตัวดีกับหัวหน้าสุดสวย แต่มีใครบางคนที่ผมค่อนข้างไม่ชอบขี้หน้า...


         "ไม่คิดเลยว่าจะเจอนายที่นี่ จอนวอนอู"

         "ผมก็ไม่คิดเหมือนกันครับคุณคิมจงอิน"   ผมกับหมอนี่มีความหลังกันนิดหน่อย ไม่ใช่ว่าเกลียด แค่ไม่ชอบขี้หน้าเฉยๆ เพราะหมอนี่เข้ามาแทรกแซงงานของทีมผม ถ้าหมอนี่เจอกับมินกยูนะ ได้ตีกันตายด้วยสงครามประสาทแน่นอน

         บรรยากาศเสียไปเลย พูดก็พูดเถอะ

         "อ่ะๆ กินๆ ไป"   คยองซูคีบชิ้นเนื้อให้ผม ก่อนจะกระซิบเสียงเบา   "อย่าเพิ่งหัวร้อน"

         "คุณวอนอูเข้าทีมนานหรือยังคะ?"   หัวหน้าทีมคนสวยเท้าคางถามสมาชิก ด้วยสายตาหวานหยด ผมก็ได้แต่กรอกตามองบน


         โคตรขี้อ่อยเลยว่ะ


         "ก็ได้สักพักแล้วครับ"   วอนอูปรายตามองผม เมื่อเห็นสีหน้าไม่พอใจของผม หมอนั่นก็รีบชิงถามต่อ   "คุณรยูฮันไม่ชอบทานผักหรอครับ เห็นเขี่ยออก"   

         "ไม่เชิงหรอกค่ะ แค่รสชาติมันไม่ค่อยถูกใจเท่าไหร่ แต่อันนี้ฉันกินได้นะคะ ชอบด้วย"   เธอชูผักใบเขียว ลักษณะกลมๆ ขึ้น

         "ถ้าไม่กินเอามาให้ผมได้นะครับ"   วอนอูบอก และเสมองผมแวบเดียว 

         "อ่า...ค่ะ"   อ่ะ ตักให้กันต่อหน้าต่อตา

         "เหอะ"   ผมสบถในลำคอ วอนอูมองผมออกหมดเลย ก็ยอมรับในส่วนนี้ แต่ผมก็บอกมันออกเหมือนกัน จะเล่นแบบนี้ใช่ไหมไอ้หน้านิ่ง

         "คุณจงอินเอาผักสักหน่อยไหมครับ?"   วอนอูถามหยั่งเชิง

         "ตามสบายครับ ผมตักเองได้"

         "คุณสองคนนี่สนิทกันจังเลยนะคะ"   รยูฮันเอ่ยท่ามกลางบรรยากาศอันแสนอึดอัด เสียงย่างเนื้อไม่ได้ทำให้ผมกับวอนอูเลิกเขม่นกันได้เลย ส่วนคยองซูก็ได้แต่ถอนหายใจอย่างปลงๆ หมอนั่นคงคิดว่า ไม่น่าชวนผมมาเลย

         "เห็นว่างั้นหรอครับ?"   ผมถาม

         "อ่า...เราสนิทกันจริงๆ นะครับ"   วอนอูว่าพลางยกยิ้ม

         "ลุงครับ ขอโซจูสามขวดครับ"   คยองซูเรียกคุณลุงเจ้าของร้าน เพื่อทำลายบรรยากาศมาคุ

         "รอสักครู่นะ"   คุณลุงตอบกลับด้วยเสียงดัง เพราะลูกค้าในร้านค่อนข้างอัดแน่น 

         ผมคีบเนื้อเข้าปาก พลางคีบเนื้อดิบลงเตาย่าง...ผมหยิบผักในชาม ทว่านิ้วกลับสัมผัสสิ่งเดียวกันบนชามผัก ผมสบตากับเจ้าของนิ้วเรียวสวย  

         รยูฮันบอกผมด้วยแววตาใสซื่อ ที่ผมไม่เคยเห็นเป็นครั้งแรก เป็นแววตาที่...น่าเอ็นดู เหมือนผมกำลังแย่งของเล่นสุดหวงของเธอ


         น่ารัก...


         "น่ารัก"   ผมปล่อยคำพูดออกไปตามความคิด เพราะผมไม่แคร์อยู่แล้ว 

         "..."   เธอเสมองไปทางอื่น และชักมันกลับทันที


         เห็นขี้อ่อยแบบนี้ ที่จริงเป็นคนขี้อายนี่เอง

         "อะแฮ่มๆ"   คยองซูกระแอม ก่อนจะวางขวดโซจูบนโต๊ะเสียงดัง เรียกความสนใจจากผม   

         "เปิดเลยครับคุณคยองซู"   วอนอูบอก 

         "ผมไม่ดื่มนะครับ"   ผมบอกชัดเจน เพราะไม่นานมานี้ ผมน็อคเพราะเหล้า แล้วขี้เกียจไปหาหมอ จองกุกเลยสั่งให้ผมงดแอลกอฮอล์ (หมอนั่นทำงานร่วมกับพวกนิติเวช เลยรู้ไปซะทุกเรื่อง)

         "ไม่ใช่ว่าคออ่อนหรอครับ?"   วอนอูโคตรหยามเลย แต่ปมจะไม่หวั่นไหว

         "ผมต้องรักษาสุขภาพครับ พอดีเป็นคนรักสุขภาพ"   ผมบอก   "อยากดื่มก็เชิญเลยครับ แต่ผมไม่แบกกลับแน่นอน"

         "แหม~ ถ้าคุณรยูฮันเมานี่คุณจะแบกกลับไหมครับ?"   วอนอูเอ่ยถาม

         ผมยกยิ้มมุมปาก ก่อนจะหันไปสบตากับหัวหน้าคนสวยที่กำลังจิบโซจู   "ไม่หรอกครับ"

         รยูฮันยกยิ้มน้อย แต่ก็ต้องหุบยิ้มเมื่อผมพูดประโยคถัดมา


         "ไม่แบกอย่างเดียว จะทำอย่างอื่นด้วย"








    TALK

    อิพี่ว้อยยยยยย เจตนารมณ์ชัดเจนไปไหนนนนนนนนน

    CR.SQW
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×