ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    My Love รักสุดท้ายของยัยใจง่าย

    ลำดับตอนที่ #2 : My Love # 2

    • อัปเดตล่าสุด 17 มี.ค. 52


    เฮ้ย  เดี๋ยวกูมานะโว้ย

    ฉันมองตามเจ้าของเสียงนั้นไป  จนเขาเกือบจะลับสายตา  แต่แล้วสายตาของฉันต้องสะดุดกับสิ่งที่เห็น  ยัยโญกำลังเดินมาอย่างไร้เรียวแรง มันเดินผ่านโต๊ะ ที่พวกเรานั่งไป เหมือนว่ามันจะไม่รับรู้อะไรอีกแล้ว ทันใดนั้นเองยัยชีสก็ลุกขึ้นยืนและวิ่งไปพยายามที่จะกระชากตัวยัยโญกลับมาที่โต๊ะ

    นี่แกจะไปไหนอ่ะ

    ......

    ตัวของยัยโญเซเล็กน้อย เหมือนยัยชีสทำให้สติของยัยโญกลับมาอีกครั้ง

    ยัยโญโผเข้ากอดยัยชีสและปล่อยโฮออกมาดังลั่น ทำเอาฉันที่นั่งอยู่ถึงกับนั่งไม่ติดเก้าอี้เลยทีเดียว ตอนนี้สมองของฉันว่างเปล่า พอมารู้ตัวอีกที ฉันก็ไปอยู่ข้างๆ ยัยโญได้ยังไงก็ไม่รู้  ไม่นานนักสติของฉันฟื้นคืนมาด้วยเสียงของยัยโญที่พร่ำ

    บอกว่า

                ฉันไม่ไหวแล้ว   ฮื่อๆๆ ฉันไม่ไหวแล้ว  พาฉันกลับที ฮื่อๆๆ

                ......

                ฉับกับยัยชีสมองหน้ากันเป็นเชิงเข้าใจกันว่า ต้องพายัยโญกลับไปที่ห้อง

    โดยลืมเรื่องฮะเก๋าไปซะสนิท

               

                เมื่อพวกเรามาถึงที่ห้อง  ยัยโญก็ยังคงร้องไห้ไม่หยุด ฉันเลยลากยัยชีสออกมาข้างนอก เพื่อให้ยัยโญได้อยู่คนเดียวซักพัก

               

    ยัยโญมันเป็นอะไรของมันว่ะ

                จะเป็นเรื่องไรได้อีกล่ะ ก็เรื่องเดิมๆแหละ   ฉันว่าตอนนี้เราเข้าไปอยู่เป็นเพื่อนมันเถอะ

                อืมๆ

     

                เมื่อเราเดินเข้ามาในห้อง ยัยโญก็เลิกร้องไห้แล้ว แต่ยังคงนั่งซึมๆ อยู่บนเตียง ยัยชีสมองหน้าฉันก่อนที่จะเดินเข้าไปหายัยโญและนั่งลงบนเตียงข้างๆ ยัยโญ ตอนนี้ดูเหมือนว่าความทรงจำบางส่วนของฉันเริ่มกลับมาแล้ว และมันก็สั่งให้ฉันรีบไปจ่ายตังค์ค่าฮะเก๋า ฉันเลยรีบวิ่งไปที่ร้านฮะเก๋า โดยที่ไม่ได้บอกกล่าวใครซักคน เมื่อมาถึงที่ร้านพี่คนขาก็บอกว่า ผู้ชายที่นั่งโต๊ะเดียวกับฉันจ่ายเงินแทนให้แล้ว

                พี่เบนซ์จ่ายให้แล้วหรอ

                ฉันอุทานเบาๆ  ก่อนที่จะเดินออกจากร้านฮะเก๋า และตรงไปที่ร้านสีแดงที่อยู่ใกล้ๆ เพื่อซื้อพิซซ่าไทยกลับไปเป็นอาหารเย็นแทนฮะเก๋า

               

                ร้านพิซซ่าไทย สวัสดีคะ จะรับพิซซ่าหน้าอะไรดีค่ะ

                พนักงานสาวสวยที่ร้านถามฉัน  

                เอาพิซซ่าหน้าซีฟู้ดที่นึงคะ

                สักครู่นะคะ

               

    หลังจากนั้นไม่เกิน 5 นาที ฉันก็ถือถุงพิซซ่าเดินออกมาจากร้าน และกลับไปที่ห้อง  พอฉันมาถึงที่ห้อง ฉันก็ต้องประหลาดใจ เมื่อเห็นยัยชีสกับยัยโญกำลังนั่งเล่นไผ่กันอย่างสบายอารมณ์ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น  นี่ฉันตาฝาดรึป่าวเนี๊ยะ

    -*-

     

    ยัยโญ แกได้กลิ่นพิซซ่าหน้าซีฟู้ดมั้ย

    ไม่อ่ะ

    แต่ฉันได้กลิ่นว่ะ ฟืดๆ -^- ”

     

    ตอนนี้ยัยชีสทำจมูกฟุตๆ ฟิตๆ  เหมือนสุนัขดมกลิ่น และในที่สุดมันก็ดมมาจนถึงถุงที่ฉันถืออยู่

    นี่ไง พิซซ่าหน้าซีฟู้ด

                ยัยชีสพูดพร้อมกับชูถุงใส่พิซซ่าขึ้น

                ไปไหนมาล่ะ

                ไ ปร้านฮะเก๋าหลังมอมา

                เออใช่ เราลืมจ่ายตังค์นี่หว่า

                ก็ใช่อ่ะดิ แต่พี่คนขายบอกว่ามีคนจ่ายให้แล้ว

                อ้าว ใครอ่ะ

                พี่เบนซ์มั้ง

                เอาง่ะ

               

                ยัยบลู หลับรึยัง

                ยัยชีสพูดเสียงกระซิบพร้อมกับสะกิดฉันเบาๆ 

                ยังอ่ะ มีไรหรอ

                แล้วยัยโญ หลับยังว่ะ

                ฉันแหงะหน้าไปดูยัยโญที่กำลังหลับได้ที่  ก่อนหันไปตอบยัยชีสว่า

                หลับไปแล้ว

                จากนั้นยัยชีสก็เล่าว่า ยัยโญเลิกกับแฟนแล้ว พอฉันฟังฉันกลับไม่รู้สึกอะไรเลย เพราะฉันได้ยินคำนี้มาเป็นครั้งที่ 59 แล้ว แต่ที่ฉันตกใจก็คือ ยัยชีสยืนยันหนักแน่นว่าคราวนี้เลิกกันชัวร์ คอนเฟิร์ม!!!

     

                เช้าวันรุ่ง ทุกอย่างยังคงดำเนินไปอย่างปกติ ยัยโญยังคงไล่ปลุกพวกฉันเหมือนเดิม แต่ที่ไม่ปกติคือ ยัยโญทำตัวเหมือนปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

    ทั้งๆ ที่เมื่อวานมันเพิ่งเลิกกับแฟน  ถ้าเป็นเมื่อก่อนนะ ยัยโญคงยังร้องไห้และนั่งมองแต่โทรศัพท์อยู่  แต่นี่ทำตัวปกติ  สงสัยว่าที่ยัยชีสพูดมันคงจะจริง

               

                ฉันไปก่อนนะ  วันนี้ฉันไม่กินข้าวเย็นกะพวกแกนะ ไม่ต้องรอ  บ๊ายบาย ^^ ”

                ยัยชีสลาพวกฉันแล้วก็รีบวิ่งลงไปจากรถ  จากนั้นยัยโญก็ขับรถมาจอดไว้ที่คณะของเรา ถึงนี่จะการเรียนวันที่ 2 แล้ว  แต่ฉันก็ยังคงตื่นเต้นเหมือนเดิม

                ฉันกับยัยโญเดินเข้ามาในห้องเรียน ก็เห็นพวกสาวๆ ในคณะ กำลังจับกลุ่มซุบซิบนินทาอะไรกันอยู่ ด้วยความอยากรู้ฉันจึงให้ยัยโญเข้าไปถาม และก็ได้คำตอบกลับมาว่า วันนี้ จะมีรุ่นพี่กลับมาเรียนปีหนึ่งห้องเดียวกับพวกเรา  จริงๆ แล้วมันก็ไม่ได้น่าตื่นเต้นอะไรนักหรอก  เพียงแต่ว่า  คนที่จะกลับมา  หล่อมากๆๆ

               

                วันนี้  มีรุ่นพี่ที่ได้ทุนไปเมืองนอกจะกลับมาเรียนกับเราอีกครั้ง ขอให้นักศึกษา ปรบมือต้อนรับด้วยคะ

                กรี๊ด......  

                เสียงกรี๊ดของพวกสาวแท้ สาวเทียม ในห้องเริ่มดังขึ้นแทนเสียงปรบมือ ทันทีหลังจากที่อาจารย์พูดจบ ฉันอยากเห็นหน้านายรุ่นพี่นั่นนักเชียว  จะหล่อลากไส้ขนาดไหนกันฮะ  แต่ถึงยังไงก็คงหล่อสู้พี่กันของฉันไม่ได้หรอก โฮะๆๆ ^o^

                และไม่นานนักก็มีผู้ชายผมสีน้ำตาลเข้ม ที่ดูคุ้นๆตาเดินเข้ามาในห้อง  ทำให้เสียงกรี๊ดของสาวๆ ในห้องเริ่มดังขึ้นอีกครั้ง

     

                ยินดีต้อนรับ  นายชาตวิทย์   เดี๊ยนหวังว่าครั้งนี้ เธอจะตั้งใจเรียนขึ้นจากเดิมนะ

                ฮะ ^-^ ”

                กรี๊ด....  

                ฉันล่ะไม่เข้าใจจริงๆ  ว่าพวกสาวๆ นี่จะกรี๊ดอะไรกันนักกันหนา แค่คำๆเดียวอ่ะนะ ฮะ ชิ หล่อตายล่ะ แบร่~ +_+ 

     

                จะว่าไปแล้ว นายนี่ก็หน้าตาดีจริงๆนะ -*- หน้าขาวๆ แก้มอมชมปากสีส้ม ตาสีน้ำตาล คิ้วเข้มๆ สีดำเหมือนชินจัง จมูกโด่งเป็นสัน  ฉันว่าฉันต้องเคยเห็นหน้านายมาก่อนแหงๆ แต่นึกไม่ออกว่าเคยเห็นที่ไหน นายชาตวิทย์

               

                แกว่าหมอนี่หน้าคุ้นๆมั้ย

                “ …… ”

                ฉันหันหน้าไปถามยัยโญ  แต่ก็ต้องผิดหวัง เพราะยัยนั่นหลับคาโต๊ะไปแล้ว เฮ้อ~ ชีวิตฉัน -o-

     

                เอาไปซะ

                ขณะที่ฉันกำลังคิดว่าฉันเคยเห็นหน้านายนี่ที่ไหน ก็มีคนโยนกระเป๋ามาใส่หน้าฉัน ฉันเลยหันหน้าไปตามเสียงนั่นและก็พบว่าเป็นนายชาตวิทย์นั่นเอง 

                นี่นาย นายตาบอดรึไงฮะ ไม่ห็นรึไงว่าเก้าอี้ตัวนี้มันไม่ว่างอ่ะ

                ก็ใช่น่ะซิ ไม่ว่าง เพราะฉันนั่งยังไงล่ะ

                นายนี่...  

                “ ^o^ ”

                เอ๊ะ   เดี๋ยวนะ  เมื่อกี้นายบอกว่า  ก็ใช่น่ะซิ ไม่ว่าง เพราะฉันจะนั่งยังไงล่ะ ฉันเคยได้ยินประโยคนี้ที่ไหนนะ  เหมือนจะเป็นเมื่อวานนี้ที่ร้านฮะเก๋าหลังมอ

    ไอ้เถื่อนหัวฟูนั่น O_O

                ว่าไง พูดอะไรไม่ออกอีกแล้วหรอ หึ ^^ ”.

                พอพูดจบไอ้เถื่อนนั่น ( ฉันจะเรียกมันว่าไอ้เถื่อนล่ะกัน เพราะมันไม่หัวฟูแล้ว แต่มันยังเถื่อนอยู่ ) ก็ยักคิ้วเยาะเย้ยฉัน  เมื่อวานฉันยอมนาย เพราะเห็นแก่

    พี่เบนซ์หรอกนะ แต่วันนี้ ฉันไม่มีวันยอมนายหรอก ไม่มีวัน

                นี่ เมื่อไหร่นายจะเลิกตามมากวนประสาทฉันซักทีฮะ

                ถ้าเธออยากให้ฉันเลิกคอยตามกวนประสาทเธอละก็ ใช้หนี้ฉันมาให้หมดซิ  

                ฉันไปเป็นหนี้นายตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่ทราบย่ะ ชิ

                ไม่ต้องมาทำเป็นไม่รู้เรื่องหน่อยเลย เมื่อวานใครกันนะที่ชักดาบ ให้คนอื่นเขาต้องเดือดร้อนน่ะ

                อย่ามามั่วนะ คนอย่างฉันไม่เคยชักดาบ  

                หรอ แล้วใครกันนะ ที่รีบวิ่งออกจากร้านฮะเก๋าเมื่อวานนี้อ่ะ

                ก็....

                เฮ้ย  จริงด้วยแหะ เมื่อวานนี้เราไม่ได้จ่ายตังค์ค่าฮะเก๋าจริงๆ อย่าบอกนะว่าไอ้เถื่อนเป็นคนจ่ายตังค์ให้เราน่ะ

                ก็ อะไร พูดเรื่องจริงแค่นี้ถึงกับเงียบ ยัยงั่งเอ้ย

                นายว่าใครงั่งย่ะ

                ก็เธอไง ยัยงั่ง

                แล้วนายล่ะ ดีตายล่ะ ไอ้เถื่อน

                ธะ..เธอ  ได้ว่าฉันเถื่อนใช่มั้ย  เดี๋ยวเธอก็รู้  ว่าถ้าฉันเถื่อนขึ้นมาจริงๆ จะยังไง

                ชิ แล้วไงล่ะ  ฉันจะคอยดูนะ

                “ ^-^ หึหึ

                หลังจากการปะทะคารมของเราสิ้นสุดลง  ไอ้เถื่อนนั่นก็ทำเสียงประหลาดๆ และก็เขียนอะไรงึกๆ ในกระดาษตลอดทั้งคาบเรียน 

     

                นักศึกษา  อาทิตย์หน้าสอบ!!! อย่าลืมซะล่ะ

                ค่ะ/ครับ

                เสียงคนในห้องเริ่มแผ่วเบา  เพราะไม่มีใครอยากสอบ  เป็นที่รู้กันว่าอาจารย์เดอะเดี๊ยน  ออกข้อสอบโหดสุดๆ

     

                นี่ยัยโญ  ตื่นได้แล้ว  หมดคาบแล้ว

                ฉันหันไปปลุกยัยโญที่ยังคงหลับสนิทอยู่บนโต๊ะ  ก่อนหันมาเก็บของ

    ของฉัน  เพื่อที่จะได้ไปพักซักที 

    วันนี้ฉันหมดพลังงานไปกับการเถียงไอ้เถื่อนนั่นเป็นชั่วโมงๆ เห้อ~ -o-

    เหนื่อยจริงๆ

                หึ

                ยัยโญทำเสียงงัวเงีย แล้วมองไปรอบๆห้อง ก่อนที่จะลุกขึ้นเก็บข้าวของ

    บนโต๊ะ 

               

                อย่าเพิ่งไป

                เสียงเรียบเฉยของไอ้เถื่อนนั่น รั้งขาฉันเอาไว้ก่อนที่ฉันจะเดินออกจากโต๊ะ

                นี่  เอาไปดูซะ

                พอพูดเสร็จ นายนั่นก็เอากระดาษที่เขียนงึกๆ เมื่อกี้ มาให้ฉันดู มันเป็นหนังสือสัญญาเงินกู้ที่นายนั่นทำ ลายมือน่ารักดีแฮะ เหมือนเด็ก ป.4 เขียนเลย ฮ่าๆ

    แต่เดี๋ยวก่อน  นายนั้นเขียนไว้ว่า นางสาวคัคนาต์ ได้ทำการกู้เงิน ของนายชาตวิทย์ เมื่อวานนี้ เป็นจำนวนเงิน  120 บาท เพื่อจ่ายค่าฮะเก๋า     และยังไม่ได้ชำระคืน ดังนั้น นายชาตวิทย์ จึงคิดดอกเบี้ยร้อยละ 10 ต่อนาที สัญญานี้เริ่มบังคับใช้ตั้งแต่ชั่วโมงนี้เป็นต้นไป  ลงชื่อ นายชาตวิทย์

                “ ^^ ”

                พอฉันหันไปมองนายนั่น นายนั่นก็ทำหน้าดีใจเหมือนเด็กประถมที่ได้แกล้งฉันสำเร็จ  ฉันอยากรู้จริงๆ นายอายุกี่ขวบแล้วฮะ ถึงได้เขียนหนังสือสัญญาปัญญาอ่อนนี่มาแกล้งฉันอ่ะ -*-

                ฉันไม่ได้ขอร้องให้นายจ่ายให้ซักหน่อย ชิ อ่ะ เอาไป 120 ขี้งกชะมัด

                ฮ่าๆๆ ^0^ ”

                   เสียงหัวเราะสะใจของนายนั่นยังไล่หลังฉันมาอย่างไม่ลดละ  แม้ตอนนี้ฉันจะอยู่นอกห้องแล้วก็ตาม  แต่เสียงหัวเราะของนายนั่นก็ยังคงดังก้องอยู่ในหัวของฉัน หวังว่าฉันจะไม่ต้องเจอนายอีกนะ ไอ้เถื่อน ไม่ซิ ฉันจะไม่เรียกนายว่าเถื่อนแล้ว  แต่ฉันจะเรียกนายว่า ชัคกี้ แทน ( ชัคกี้ เหมือนในเรื่อง แค้นฝังหุ่น ไง นายน่ะ มันโรคจิต เหมือนไอ้ชัคกี้เลยจริงๆ นายชาร์ค )

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×