ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    My Love รักสุดท้ายของยัยใจง่าย

    ลำดับตอนที่ #1 : My Love # 1

    • อัปเดตล่าสุด 16 มี.ค. 52


            

                  ความรักแรกของฉันเริ่มตอนที่ฉันอยู่อนุบาล 1 ^-^ ตอนนั้นฉันมีเพื่อนผู้ชายอยู่คนหนึ่ง เรา 2 คนอยู่ห้องเดียวกันมาตลอดจนถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 พอขึ้นชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เขาก็มีแฟน T-T นั่นจึงเป็นจุดเริ่มต้นของการอกหักของฉัน และเป็นจุดจบของความรักของฉันที่มีต่อเขาด้วย
              ความรักครั้งที่ 2 เริ่มต้นหลังจากที่ความรักครั้งแรกจบไป 3 วัน -*- ฉันได้ไปเจอกับผู้ชายคนหนึ่ง เขาน่ารักมากเหลือเกิน ^///^ ทำเอาฉันแอบปลื้มเขาถึง 2 ปี แต่แล้ววันหนึ่งฉันก็ได้รู้ความจริงว่าเขาเป็นเกย์ นั่นทำให้ฉันอกหักอีกครั้ง TToTT
              ความรักครั้งที่ 3 เริ่มขึ้นตอนฉันอยู่มัธยมศึกษาปีที่ 3 ฉันไปเจอกับรุ่นพี่คนหนึ่งโดยบังเอิญ และฉันก็รักเขาตั้งแต่แรกเห็น ฉันทำได้แค่แอบมองเขา ได้แค่แอบส่งดอกกุหลาบให้ในวันวาเลนไทน์ ได้แค่แกล้งโทรผิดไปเขา เพื่อที่จะได้ยินเสียงเขาก่อนนอนทุกคืน =o=  เพราะฉันเป็นได้แค่คนที่แอบรักเขาข้างเดียวเท่านั้น.....

    ( ถ้าเป็นไปได้ ฉันอยากให้เขาเป็นรักครั้งสุดท้ายของฉันจริงๆ (_/|\_) )

     

                สวัสดีค่ะ  ดิฉันชื่อนางสาวคัคนานต์    ตันติวรพงศ์ค่ะ  อายุ  18  ปี  กำลังศึกษาอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่  6  โรงเรียน.....ฮัดเช้ย~ -o- ”

                =o= อ่า~  ทำไมไอ้เชื้อหวัดบ้าต้องมาเล่นงานฉันตอนนี้ด้วยนะ  ฉันกำลังจะไปสอบสัมภาษณ์วันเสาร์หน้านี้แล้วเชียว ถ้าฉันแนะนำตัวไป จามไปอย่างนี้เขาจะให้ฉันสอบผ่านมั้ยเนี่ย ฮื่อๆๆ T-T  ไม่ได้หรอกยังไงฉันก็จะไม่ยอมแพ้แกหรอกไอ้เชื้อหวัด ฉันจะต้องสอบผ่านให้ได้ เพื่อมหาวิทยาลัยของฉัน ฉันทำเพื่อพวกแกด้วยนะ ฉันอยากไปอยู่กับพวกแกจริงๆ ยัยชีส ยัยโญ และที่สำคัญฉันทำเพื่อพี่นะ

    ฉันอยากไปอยู่ใกล้ๆ พี่ แค่ได้แอบมองพี่ทุกวันเหมือนเคย แค่นี้ฉันก็พอใจแล้วล่ะ   หนุ่มหมายเลข 3 ของฉัน

                ก๊าบ..ก๊าบ..ก๊าบ..เป็ดอาบน้ำในคลอง..  

                เสียงโทรศัพท์ฉันเองล่ะ เท่มั้ยล่ะ ^^;

                ว่าไงย่ะ ยัยชีส ^o^ ”

                ยัยบลู ตอนนี้แกอยู่ไหนเนี่ย

                ก็อยู่หน้าห้องสัมภาษณ์ซิ ถามได้ ว่าแต่แกเหอะมีอะไรรึป่าว

                ก็มีน่ะซิย่ะ แกอย่าลืมหิ้วแคปหมูมาฝากฉันนะ อิอิ  =^-^= ”

                ย่ะๆๆ ไม่ลืมหรอก เดี๋ยวฉันต้องวางแล้วนะ ใกล้ถึงคิวฉันเข้าห้องแล้วอ่ะ

                จ้าๆ

    ยัยบลู อย่าลืมน้ำพริกหนุ่มของฉันนะ...   คลิก

                -*- เสียงของยัยโญลอดเข้ามาก่อนฉันจะกดตัดสาย  แทนที่จะโทรมาให้กำลังใจ กลับโทรมาทวงของฝาก ยัยพวกนี้นี่จริงๆเลย

                นางสาวคัคนานต์ครับ

                ค่ะ

                ห้องทางด้านซ้ายมือ โต๊ะหมายเลข 9 นะครับ

                อ่อค่ะ

                อ่า~ ฉันตื่นเต้นชะมัดเลย แต่ต้องพยายามเก็บความรู้สึกทั้งหมดเอาไว้ ทำให้กรรมการเขาเห็นว่าฉันมั่นใจแค่ไหน ฮึบ... ฉันสูดลมหายใจเข้าไปเต็มปอดแล้วก็ยกมือไหว้กรรมการผู้ชายที่อยู่ตรงหน้า

                สวัสดีค่ะ (_/|\_ )

                สวัสดีครับ (_/|\_ )

    กรรมการหนุ่มคนนั้นรับไหว้ฉัน และเชิญฉันนั่งลง ฉันค่อยๆยื่นแฟ้มประวัติไปให้เขาดู เขารับแฟ้มประวัติของฉันไป แล้วไล่เปิดทุกหน้าที่เปิดได้

                แนะนำตัวได้เลยครับ

    ค่ะ ^^ ดิฉันชื่อนางสาวคัคนานต์   ตันติวรพงศ์ค่ะ อายุ 18 ปี กำลังศึกษาอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียน...

    เดี๋ยวก่อนครับ  คุณเป็นอะไรกับคนชื่อ สมศักดิ์ ครับ

    เป็นหลานสาวค่ะ

    อ้าว  งั้นนี่ก็หนูบลูหรอเนี่ย ไม่เจอกันนานเลยนะ โตเป็นสาวแล้วนะเนี๊ยะ ^-^ ”

    อ่อค่ะ เหอๆ ^^; ”

                นี่ตกลงว่าฉันมาสอบสัมภาษณ์หรือว่ามานัดเจอญาติกันแน่เนี่ย -_-”

    10 นาทีที่ผ่านมา คุณญาติของฉันเล่าประวัติของตระกูลให้ฟัง ส่วนฉันมีหน้าที่แค่นั่งยิ้มและพูดคำว่า ค่ะ ใช่ค่ะ หรอค่ะ เฮ้อ~ -o- เหนื่อยชะมัดเลย แต่ก็ดีเหมือนกันนะ จะว่าไปแล้ว ฉันต้องสอบติดสัมภาษณ์แหงๆ เลย ฮ่าๆๆๆ ^0^

    สบายใจจริงๆ

                หลังจากการสอบสัมภาษณ์ที่แสนประหลาดจบลง ฉันก็เดินออกมาจากห้องอย่างสบายอารมณ์ ก็คนมันมีความสุขนี่ช่วยไม่ได้ อิอิ ฉันจะได้อยู่มหาวิทยาลัยนี้แล้วนะ ดีใจที่สุดเลยล่ะ โฮะๆๆๆ ^o^

     

                ยัยบลูๆ แกเพ้ออะไรอยู่ฮะ ตื่นได้แล้ว

                เสียงของยัยโญ ทำให้ฉันตื่นขึ้นจากภวังค์

                หา... ฉันเพ้ออะไรหรอ

                ฉันตอบยัยนั่นด้วยเสียงงัวเงียๆ

                ช่างเหอๆ แกรีบเช็ดน้ำลายออกจากแก้มแกเดี๋ยวนี้เลยนะ เห็นแล้วมันเคืองลูกกะตาว่ะ  

                งืมๆ  (_ _)(--)(_ _)(--)

                ยัยบลู ยัยโญ ไปกินฮะเก๋าหลังมอกันเถอะ ^0^ ”

                เสียงประหลาดๆ ของยัยชีสดังมาแต่ไกล ทำเอาฉันกับยัยโญสะดุ้งเล็กน้อย ฉันว่าที่จริงแล้วยัยนี่คงไม่ได้อยากกินฮะเก๋าหรอก แต่มันอยากไปเจอคนขายฮะเก๋ามากกว่า -*- เฮ้อ~ เพื่อนฉัน (-- )( --)(-- )( --)

    หลังจากนั้นประมาณ 5 นาที พวกเรา 3 สาวก็เดินมาถึงร้านฮะเก๋าหลังมอที่ยัยชีสพูดถึง ร้านนี้อัดแน่นไปด้วยผู้คน ไม่ใช่ว่าฮะเก๋าอร่อยขั้นเทพหรอกนะ แต่เพราะพี่คนขายของยัยชีสน่ะ หล่อขั้นเทพต่างหากล่ะ

    พี่คะ ขอฮะเก๋าชุดใหญ่ 1 ชุดค่ะ ^///^ ”

    ยัยชีสพูดพร้อมกับส่งสายตาวิ้งๆ ไปที่คนขายฮะเก๋านั่น ฉันว่าถ้าฉันปล่อย

    ยัยนี่ไว้กับคนขายอีกไม่เกิน 3 วินาที มันต้องเปลี่ยนจากกินฮะเก๋าไปกินพี่คนขายแทนแหงๆ ฉันกับยัยโญเลยรีบลากยัยชีสมานั่งที่โต๊ะตัวใหญ่ตรงกลางร้าน  มันมีที่นั่งไว้สำหรับคน 10 คน แต่ฉันก็ไม่สนหรอก 3 คน ฉันก็จะนั่ง หุหุ ก็โต๊ะตัวอื่นมันเต็มหมดแล้วนี่ จะให้ทำยังไง -_-^

     

    ฮะเก๋าที่สั่งได้แล้วครับ จะรับอะไรเพิ่มอีกมั้ยครับ

    พี่คนขายเอาฮะเก๋ามาเสิร์ฟให้เราด้วยตัวเอง จะว่าไปพี่เขาก็หล่อขั้นเทพจริงๆ อ่ะแหละ แต่ฉันไม่อาจนอกใจหนุ่มหมายเลข 3 ของฉันได้หรอกนะ เสียใจด้วยนะคะ คุณพี่ฮะเก๋า T-T

    ไม่แล้วค่ะ ขอบคุณค่ะ

    ยัยโญตอบด้วยใบหน้าเรียบเฉย ในขณะที่ยัยชีสยังคงส่งสายตาวิ้งๆ ให้พี่แกอย่างไม่ลดละ -*-

    ครับ ^^ ”

    พอยัยโญพูดจบ พี่คนขายก็ส่งสายตาแปลกๆ มาให้  ทำเอายัยชีสเคืองไปเล็กน้อย แต่ก็ยังคิดเข้าข้างตัวเองว่า พี่แกส่งสายตามาให้ตัวเอง แล้วก็เคลิ้มไปกับสายตาคู่นั้นอยู่นานสองนาน

    หลังจากฉันนั่งกินฮะเก๋าอย่างสบายอารมณ์ได้ไม่นาน ก็มีเสียงบางอย่างมารบกวนโสตประสาทของฉัน มันคือเสียงผู้ชายเถื่อนๆ หัวฟูๆ คนหนึ่งที่กำลังจะเดินเข้ามาในร้าน นายนี่เป็นผู้ชายในแบบที่ฉันเกลียดซะจริงๆ ทั้งเถื่อน ทั้งสถุน

    ทั้งหยาบคาย ช่างต่างกับหนุ่มหมายเลข 3 ของฉันโดยสิ้นเชิง -*-

     

    แมร่งคนรึหนอนว่ะ ร้านนี้ทำไมคนเยอะอย่างนี้เนี่ย?

    อย่าบ่นนักเลยน่ะ ไอ้ชาร์ค เข้าไปก่อนเหอะ เดี๋ยวฉันสั่งฮะเก๋าก่อนแล้วจะตามไปเข้าไป

    เออๆ

     

    แล้วไอ้เถื่อนนั่นก็เดินตรงมาที่โต๊ะของฉัน พร้อมกับจับเก้าอี้ที่ถัดจากฉันไป 1 ตัว ฉันล่ะขยะแขยงนายจริงๆ ไอ้เถื่อนหัวฟู อย่าเข้ามาใกล้ฉันนะ....

    เฮ้ยๆๆ ไอ้เบนซ์ โต๊ะตรงนี้ว่างว่ะ

    หลังจากที่หมอนั่นพูดจบ ฉันก็มองหน้ายัยโญเพื่อที่จะได้ถามว่า จะเอาไงดี แต่ดูเหมือนว่ายัยโญจะมัวแต่ขยะแขยงไอ้เถื่อนหัวฟูนั่นจนคิดอะไรไม่ออกแล้ว พอฉันมองไปที่ยัยชีส  ฉันก็ต้องผิดหวังอีกครั้ง เพราะมันยังคงไม่รับรู้สิ่งอื่นใด นอกจากพี่คนขายฮะเก๋า โอ้ยยยย~ เพื่อนฉันแต่ละคนนี่พึ่งไม่ได้เลยแหะ ฮื่อๆ

    งั้นฉันคงต้องออกโรงเองแล้วล่ะ

    ขอโทษนะคะ ที่ตรงนี้ไม่ว่างค่ะ

    หึหึ ไม่รู้จักยัยบลูซะแล้ว ฉันไม่มีวันให้แกได้ครอบครองเก้าอี้ตัวนี้หรอก

    ไอ้เถื่อนหัวฟู

    ก็ใช่น่ะซิ ไม่ว่าง เพราะฉันนั่งยังไงล่ะ

    พอพูดจบนายนั่นก็นั่งลงบนเก้าอี้ตัวนั้นทันที ทำเอาฉันพูดอะไรไม่ออกเลย

    เฮ้ย ไอ้เบนซ์ทางนี้โว้ย

    แหมๆ ไอ้เถื่อนหัวฟู มันจะมากไปแล้วนะ นายนั่งคนเดียวไม่พอยังจะเรียกพรรคพวกมาอีกแน่ะ คอยดูนะฉันจะ.... O_o เฮ้ย!!!....นั่นมันพี่เบนซ์นี่เบนซ์นี่หนา

     

    อ้าว! หนูบลู  

    “ ^^; แหะๆ

    พี่นั่งด้วยคนนะครับ .

    ค่ะๆ -*-

     

    ฉันได้แต่พยักหน้าหงึกๆ ให้พี่เบนซ์นั่งด้วยอย่างปฏิเสธไม่ได้ ก็พี่เบนซ์เป็นลูกชายของเพื่อนแม่ฉัน แถมยังเป็นเพื่อนสนิทซี้ปึกของหนุ่มหมายเลข 3 ฉันอีก แล้วฉันจะปฏิเสธเขาได้ยังไงล่ะ ฮื่อๆ แย่ชะมัดเลยอ่ะ ฮื่อๆๆ

    เดี๋ยวฉันมานะ ยัยบลู ยัยชีส

    ยัยโญพูดเสร็จก็รีบวิ่งไปหลังร้าน สงสัยจะรีบไปปลดทุกข์หนักมั้ง?? -*-

      

     เฮ้ย   ไอ้เบนซ์นัดกูมามีไรว่ะเนี่ย

    ฉันหันไปหาเจ้าของเสียงอันคุ้นหู    และก็ต้องตกใจอย่างสุดขีด   เมื่อรู้ว่าเจ้าของเสียงนั่นก็คือ  พี่กัน หนุ่มหมายเลข 3 ของฉัน คนที่ฉันดั้นด้นตามเขามาถึงที่นี่ =^o^=

     

    “ ^^ ”

    พี่เบนซ์ไม่ได้ตอบอะไร  ได้แต่ยักคิ้วไปทางไอ้เถื่อนหัวฟูนั่น และท่าทางของพี่กันดูตกใจมากทันทีที่เห็นไอ้เถื่อนหัวฟู

    เฮ้ยยยย  ไอ้ชาร์ค  มึงมาได้ไงว่ะเนี๊ยะ

    ไอ้หมอนั่นชื่อ ชาร์ค หรอ ฉันว่ามันต้องย่อมาจาก ชัคกี้ แหงๆ  ฮ่าๆๆ

    ฮ่าๆๆๆๆ ตามเคยแหละ กูเคยอยู่ที่ไหนได้นานมั่งล่ะ

    พอพูดจบไอ้เถื่อนหัวฟูก็กระโดดกอดกับพี่กัน  ด้วยความดีใจและคิดถึงที่ได้เจอหน้ากันอีกครั้ง ( -*- แล้วฉันไปรู้ได้ยังไงฮะ ว่าเขาคิดถึงกันมากเนี่ย )

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×