ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    {EXO} Crave for you -ปรารถนาเพียงคุณ-

    ลำดับตอนที่ #4 : Chapter4

    • อัปเดตล่าสุด 14 พ.ค. 57


    #  4

    -         ภายในห้องผู้จัดการคิมจงแด -

    คิมจงแด ผู้จัดการฝ่ายวัย28ปี ถึงแม้ว่าอายุงานจะยังน้อย แต่ก็ได้รับการฝึกฝนการทำงานจากตระกูลมาอย่างดี เพราะผู้จัดการคนเก่าอย่างคิมชางมินได้เลื่อนขั้นเป็นผู้จัดการฝ่ายบริหารซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทแล้ว อีกไม่นานจงแดก็จะได้เลื่อนขั้นเป็นว่าที่ผู้ช่วยผู้บริหารตามรอยพี่ชาย  ตระกูลของจงแดเป็นหนึ่งในตระกูลใหญ่ที่ร่วมกันสร้างบริษัทนี้ขึ้นมา ก่อนที่จะเจริญเติบโตและขยายสาขาไปทั่วอเชีย ถึงแม้ภาระงานจะถาโถมให้จงแดดูโตกว่าอายุจริงแต่เขาก็เป็นคนที่มีอารมณ์ขันและเป็นกันเองกับพนักงานในบริษัท จึงไม่มีใครที่ไม่ชอบจงแด ยกเว้นก็แต่จุนมยอน
     

    สวัสดีครับ ผู้จัดการ มีอะไรหรือเปล่าครับ
     

    อ่า มาพอดี พอดีมีพนักงานใหม่เข้ามา2คนหน่ะนะ  เอ่ออ ชื่อ อี้ชิงกับอี้ฝาน  จะให้นายสอนงานให้พวกเข้าก่อน พอดีว่า2คนนี้จะเข้าทำในแผนกของนายหน่ะ
     

     

    พอจงแกพูดจบ พนักงานใหม่ทั้งสองก็กล่าวสวัสดีเขาพร้อมก้มหัวให้เขาเล็กน้อย ลู่หานไม่ได้สังเกตชาย2คนที่นั่งภายในห้องก่อนหน้านี้  ชายหนุ่มสองคนที่ดูอายุรุ่นราวคราวเดียวกันกับเขา คนหนึ่งดูรูปร่างสูงใหญ่ ผมสีบอร์ดตัดกับใบหน้าคมดูหล่อเหลา ภายนอกดูน่าเกรงขาม แต่สังเกตได้ว่าเป็นคนที่น่าจะร่วมงานได้ไม่ยากนัก  ส่วนอีกคนร่างเล็กกว่า ดูเหมือนจะสูงพอๆกับเขา ผมสีดำกับใบหน้าที่เรียบเฉย ดวงตามีสีน้ำตาลหม่นไม่สามารถคาดเดาความรู้สึกของอีกฝ่ายได้เท่าไหร่นัก
     

                    คนตัวใหญ่นี่ชื่ออู๋อี้ฝานนะ มีชื่อเล่นว่าคริส ส่วนคนตัวเล็กกว่าผมดำคือจางอี้ชิง มีชื่อเล่นว่าเลย์ วันนี้เขามาเริ่มงานวันแรก ยังไงก็ฝากนายสอนงานให้ด้วยนะ

                    “ ได้ครับผู้จัดการ  เอ่อ ยินดีที่ได้รู้จักพวกคุณทั้งสองนะครับ ผมลู่หานเป็นรองผู้จัดการแผนก มีอะไรก็ปรึกษาผมได้นะ
     

    ลู่หานหันไปทักทายพนักงานมาใหม่ทั้งสอง พร้อมส่งยิ้มให้เล็กน้อย คนที่ชื่อคริสพยักหน้าพร้อมก้มศรีษะให้เล็กน้อยแก่ลู่หานเขาดูมีท่าทางกระตือรือล้นกว่าคนที่ชื่อเลย์ที่ยังคงมีใบหน้าเรียบเฉย เอาแต่จ้องมองลู่หานอย่างไม่ละสายตา
     

                    เอ่อ จริงๆแล้ว2คนนี้ ชานมินส่งมาอีกทีอ่ะนะ  ไปดึงตัวมาจากสาขาที่ฮ่องกงหน่ะ เค้าเคยมาร่วมงานกับเราเมื่อปีที่แล้วแต่โดนส่งไปทำที่ฮ่องกงมาปีกว่า  ตอนนี้เรียกกลับมาทำที่เกาหลี บางทีระบบงานอาจไม่เหมือนกัน ยังไงนายก็ช่วยแนะนำช่วงแรกๆไปก่อนนะ
     

                    “ อ้อ ผมเข้าใจแล้วครับ
     

                    “ โต๊ะทำงานของ2คนนี่ก็อยู่ใกล้ๆห้องนายอ่ะนะ  เออ เดี๋ยวเย็นนี้ฉันกะว่าจะพาพนักงานใหม่ไปเลี้ยงต้อนรับซะหน่อย นายกับมินซอกก็ไปด้วยนะ ฉันจองโต๊ะไว้แล้ว
     

                    “ เออ แต่ว่า…”
     

                    “ มาต่ง มาแต่อะไร เมื่อวานวันเกิดนายด้วยนี่ เอาเป็นว่าวันนี้ฉันถือโอกาสเลี้ยงนายไปด้วยเลยก็แล้วกัน
     

                    “ เอ่อ แต่ผู้จัดการครับ ผมเกรงใจนะ ไม่ต้องถึงขนาดนั้นหรอก
     

                    “ เอาน่า แค่ไปดื่มนิดดื่มหน่อย ฉลองกันแป๊บเดียว ถือเป็นการต้อนรับเพื่อนร่วมงานด้วย  2คนนี้ทำงานที่ฮ่องกงดีมากเลยนะ ชางมินถึงดึงตัวกลับมาที่เกาหลีเนี่ย
     

                    “ เอ่อ…”
     

                    “ ไม่ต้องอ่ง ต้องเอ่อ นานๆทีฉันจะว่างไปดื่มกับพวกนาย  วันนี้เคลียร์งานให้เสร็จเร็วๆล่ะ อ่ะ แยกย้ายไปได้แล้ว 2คนก็ตามลู่หานไปนะ พี่เค้าใจดี
     

    คริสและเลย์พยักหน้ารับ ก่อนที่จะลุกขึ้นตามผมมาไปยังห้องทำงาน เอาไงดีล่ะเนี่ย นัดกับเซฮุนไว้ซะด้วยว่าจะไปล่องเรือตอนเย็นที่แม่น้ำฮัน  แต่บางทีช่วงเย็นๆหัวหน้าอาจจะเปลี่ยนใจไม่ไปแล้วก็ได้ เดี๋ยวรอให้เย็นๆสักหน่อยค่อยโทรหาเซฮุนก็แล้วกัน
     

                    เอ่อ พวกนาย2คนอายุเท่าไหร่แล้ว
     

                    “ 23เท่ากันครับ
     

    ร่างสูงที่เดินตามลู่หานเป็นฝ่ายตอบคำถาม  ภายนอกของคริสดูเหมือนจะน่ากลัวแต่จริงๆแล้วเขาเป็นคนที่มีมนุษยสัมพันธ์ดี รู้จักวางตัวอย่างเหมาะสม มันคงจะไม่ใช่เรื่องยากที่จะได้มาทำงานร่วมกัน ดีเสียอีกลู่หานจะได้มีเพื่อนร่วมงานใหม่ๆขึ้นมาบ้าง เพราะจุนมยอนและพรรคพวกต่างก็ชอบพูดจาว่าร้ายให้พนักงานคนอื่นฟังจนแทบไม่มีใครที่จะพูดจาหรือทักทายกับลู่หาน
     

                    บริษัทที่ฮ่องกงเป็นไงบ้าง?”
     

                    “ ก็ดีครับ พนักงานไม่เยอะมาก เพราะเป็นบริษัทเล็กๆ แต่ที่เกาหลีเป็นสำนักงานใหญ่ด้วย ถูกเรียกตัวกลับมาทำที่นี่ก็แอบประหม่าเหมือนกัน
     

    คริสยังคงเป็นฝ่ายตอบคำถามนั้นกับลู่หาน ตั้งแต่ที่เขาได้พบกับพนักงานใหม่ทั้งสอง ดูเหมือนว่าลู่หานจะยังไม่ได้ยินเสียงของจางอี้ชิงเลย คนๆนี้มีโลกส่วนตัวสูงหรือยังไงกันนะ เอาแต่ปิดปากเงียบ ดูจากภายนอกแล้วน่าจะเป็นคนที่ช่างพูดช่างคุยกว่าอู๋อี้ฝานไม่ใช่เหรอ แต่กลับกลายเป็นคนตัวสูงที่ดูน่าคบหามากกว่า
     

                    นี่อี้ฝาน จางอี้ชิงนี่เค้าพูดไม่ได้เหรอ
     

                    “ ฮ่าๆๆ หมอนี่อารมณ์ขึ้นๆลงๆน่ะครับ ถ้าจะพูดเดี๋ยวเค้าก็พูดเองแหล่ะ
     

    ลู่หานหันไปถามคริส ทำเอาผู้ที่ถูกถามถึงกลับปล่อยปล่อยอารมณ์ขันออกมา  เขาสนิทกับเลย์และคุ้นชินนิสัยนิ่งเงียบแปลกๆของหมอนี่ดี บางทีก็ชอบนิ่งเงียบไม่พูดไม่จา บางทีก็จ้อไม่หยุด มันขึ้นลงไปตามอารมณ์ของเขาที่ไม่มีใครคาดเดาได้ แต่ถึงแม้ ว่าคริสจะดูเหมือนรู้จักเลย์ดี แต่บางครั้งก็มีหลายๆสิ่งที่เขาไม่เข้าใจในตัวคนๆนี้ ทั้งความรู้สึกที่เขามีให้เลย์ หรือความรู้สึกที่เลย์มีให้เขาและคนอื่น  เพราะแววตาที่นิ่งสงบมันเป็นเหมือนสิ่งที่เป็นกำแพงหนาที่คอยปกปิดความรู้สึกที่แท้จริงของอีกฝ่ายไว้ไม่ให้มีใครได้ล่วงรู้
     

                    อ่ะ นี่โต๊ะทำงานของพวกนาย2คนนะ อยู่ข้างๆกัน อีกฝั่งเป็นมินซอก เค้าจะคอยตรวจสอบเอกสารก่อนส่งมาที่ฉันอีกที เห็นในประวัติการทำงานบอกว่าอยู่ฝ่ายควบคุมข้อมูลจัดซื้อระหว่างประเทศนี่นา หากข้อมูลที่ได้ไม่ตรงกับที่มีในส่วนกลางก็ส่งมาฉันก่อนนะ  เดี๋ยวฉันจะช่วยดูให้ ข้อมูลที่สำนักงานใหญ่อาจจะเยอะหน่อย ยังไงก็รอบคอบกันหน่อยละกัน
     

                    “ รับทราบครับ รองผู้จัดการ
     

                    “ เอ่อ เรียกชื่อฉันธรรมดาก็ได้นะ ฉันก็อายุรุ่นราวคราวเดียวกับพวกนาย  ฉันไม่ถือหรอก
     

                    “ จะดีเหรอครับ ที่จะให้พวกผมเรียกแค่ลู่หาน
     

                    “ พนักงานที่นี่ไม่มีใครเรียกฉันว่ารองผู้จัดการหรอก ฮ่าๆๆๆ
     

                    “ อะไรกันลู่หาน นายหมายถึงฉันหรือเปล่า
     

    มินซอกที่นั่งทำงานเงียบๆอีกด้านเมื่อได้ยินเสียงหัวเราะของลู่หานก็อดที่จะเข้ามาร่วมวงสนทนาด้วยไม่ได้  มันก็จริงอย่างที่ลู่หานว่าไม่มีใครในที่ทำงานเรียกลู่หานว่ารองผู้จัดการสักคน  
     

                    นี่มินซอกนะ เพื่อนร่วมงานของฉัน มีอะไรก็ปรึกษาเค้าได้เลย
     

    ลู่หานแนะนำมินซอกให้คริสและเลย์รู้จัก พวกเขาทั้งสองก้มหัวให้มินซอกเพื่อนร่วมงานรุ่นพี่เล็กน้อย
     

                    พนักงานใหม่ใช่มั้ย เมื่อเช้าเห็นเดินเข้ามาอยู่ ชื่ออะไรกันบ้างล่ะเนี่ย
     

                    “ ผมชื่ออู๋อี้ฝาน มีชื่อเล่นว่าคริส เรียกชื่อเล่นผมก็ได้ครับ ส่วนนี่ก็เลย์ หรือจางอี้ชิงครับ ย้ายมาจากสาขาที่ฮ่องกงด้วยกัน
     

                    “ นี่มินซอก ตั้งแต่มานี่ฉันได้ยินแต่คริสพูดอยู่ฝ่ายเดียวนะเนี่ย เลย์นี่ไม่รู้เค้าไปโกรธอะไรมา ไม่พูดไม่จาเลย
     

                    “ นายทำให้เค้าประหม่ารึเปล่าลู่

     

                    “ เอ่อ  ผมไม่ได้เป็นอะไรครับ

    นี่คือประโยคแรกที่เลย์หรือจางอี้ชิงพูดออกมา  น้ำเสียงที่นิ่งเรียบปราศจากโทนเสียงใดๆ เขาดูเงียบและสุขุมเกินไป จนบางทีมันทำให้ลู่หานรู้สึกอึดอัด รวมถึงแววตาที่นิ่งเฉยที่มองมาที่เขา ลู่หานไม่รู้เลยว่าเลย์เป็นคนอย่างไร  เขาไม่ได้มาร้ายแต่ก็ไม่เชิงเป็นคนดี ดูไม่ออก สีหน้าและแววตาแบบนี้ เขาไม่รู้ว่ามันสื่อความหมายว่าอย่างไร
     

                    “ อ่า พูดออกมาแล้ว อยู่ที่นี่นายต้องพูดบ่อยๆนะ  เพราะจะมีแต่คนแข่งกันพูด
     

    มินซอกเผยรอยยิ้มให้กับเพื่อนร่วมงานใหม่ทั้งสองคน  ถึงแม้ลู่หานจะมีมนุษยสัมพันธ์ดีขนาดไหนแต่ก็คงจะยังสู้เพื่อนรักอย่างมินซอกไม่ได้ ใบหน้ากลมที่ดูเป็นมิตรและอ่อนโยนของมินซอกมันคงทำให้เลย์ผ่อนคลายได้บ้างถึงยอมเอ่ยปากพูดออกมา
     

                    เดี๋ยวฉันขอตัวไปทำงานก่อนนะ คริสกับเลย์ถ้ามีอะไรไม่เข้าใจก็ถามมิกซอกได้ หรือเข้ามาคุยกับฉันเลยก็ได้
     

    ทั้งสองพยักหน้าให้ลู่หานเล็กน้อยก่อนที่รองผู้จัดการหน้าหวานจะเข้าไปทำงานที่ห้องประจำตำแหน่ง  ถึงแม้จะหันหลังเดินจากมาแต่ลู่หานก็รับรู้ได้ว่าดวงตาคู่นั้นกำลังจับจ้องมาที่เขา ดวงตาของเลย์ที่เขาไม่เข้าใจว่ามันคืออะไร

    ................................................................................................................................................

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×