คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : Chapter1
Happy Birthday to you
เมื่อบทเพลงอวยพรวันเกิดจบลงลู่หานก็ประสานมือไว้ที่หน้าอกเพื่ออธิษฐานขอพรในวันเกิดก่อนที่จะก้มลงเป่าเทียนวันเกิดหมายเลข 24 ที่แสดงอายุของเขาในปีนี้ และครั้งนี้ก็เป็นครั้งที่2แล้วที่ลู่หานได้ฉลองวันเกิดร่วมกับเซฮุน ชายหนุ่มที่เป็นที่รักของเขา
“มีความสุขมากๆนะครับลู่หาน ผมรักพี่นะครับ”
เซฮุนเด็กหนุ่มรุ่นน้องยื่นกล่องของขวัญขนาดไม่ใหญ่นักที่ห่อด้วยกระดาษสีน้ำเงินเรียบๆให้กับเจ้าของวันเกิด ลู่หานรับของขวัญนั้นไว้ด้วยความยินดี ลู่หานมักจะบอกกับเซฮุนประจำว่าไม่ต้องซื้ออะไรให้เขาเพราะว่าเขาไม่อยากให้เซฮุนต้องเสียเงินมาซื้อของอะไรให้ตนเนื่อง จากเซฮุนยังเรียนอยู่ ไม่ใช่คนที่มีรายได้ที่มีงานทำประจำอย่างเขา
“ขอบใจนะเซฮุนสำหรับของขวัญ แต่คราวหลังไม่ต้องแล้วก็ได้ เพียงแค่นายอวยพรให้ฉัน ก็ถือว่าเป็นของขวัญชิ้นดีแล้วล่ะ”
“ไม่ได้หรอกครับ วันเกิดลู่หานทั้งที ผมอยากให้จริงๆนะ อีกอย่างมันก็ไม่ได้แพงอะไร ผมอยากซื้อให้ลู่หานนะ”
“งั้นไหนดูซิ ว่าซื้ออะไรมา”
ลู่หานแกะกล่องของขวัญใบขนาดพอดีมืออย่างละเมียดละไม ของทุกชิ้นที่ลู่หานได้รับจากเซฮุน เขาจะถนอมและเก็บรักษาไว้อย่างดีทุกชิ้น แม้แต่กระดาษหรือกล่องของขวัญลู่หานก็เก็บไว้อย่างดี เหมือนกับมันเป็นสิ่งล้ำค่าไม่แพ้กับสิ่งของที่บรรจุอยู่ภายใน
“ อ๊ะ เนคไทนี่! ฉันอยากได้อยู่พอดี”
ทันทีที่ลู่หานแกะของขวัญเสร็จ ก็พบว่าของในกล่องนั้นเป็นเนคไทสีเงินที่ดูหรูหรา ที่พิเศษอย่างนึงก็คือตรงปลายเนคไทมีตัวอักษรHที่ทำจากโลหะติดไว้ด้วย
“ ผมเห็นว่าพี่มีเนคไทน้อย ผมก็เลยซื้อให้ เอาไว้เวลาพี่ทำงาน จะได้นึกถึงผมไงครับ ตัวHนี่คือฮุนฮานนะ”
“ ไม่ว่าเวลาไหนฉันก็คิดถึงนายตลอดเวลานั่นแหล่ะ แต่ว่าแบรน์นี้มันแพงนะเซฮุน นายซื้อแบบธรรมดาให้ฉันก็ได้ มันเปลืองเงินเปล่าๆ”
“ ผมเต็มใจซื้อให้ลู่หานนะ ราคาแค่นี้มันยังเทียบเท่าความรักที่ผมมีให้ลู่หานไม่ได้หรอก”
“ เอาเป็นว่าฉันจะใช้มันตั้งแต่พรุ่งนี้เลยนะ”
“ เอ่อ ลู่หาน ผมมีอะไรให้ดูด้วย วันก่อนผมไปเป็นอาสาสมัครกับชมรมมา เด็กๆที่นู่นน่าสงสารมากเลยนะ”
เซฮุนหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาพร้อมกับกดเข้าไปในส่วนแกรลอรี่เพื่อให้ลู่หานดูภาพที่เขาได้ไปเป็นอาสาสมัครเยาวชน ที่ได้ไปทำความสะอาดอาคารสถานสงเคราะห์เด็กกำพร้าที่ต่างจังหวัดเมื่อหลายวันก่อน ใบหน้าเด็กๆที่ถ่ายรูปร่วมกับเซฮุนถึงแม้จะดูมีความสุขแต่นัยตาของเด็กๆเหล่านั้นต่างดูหม่นหมอง พวกเขาคงต้องการกำลังใจและไออุ่นจากพ่อแม่ของพวกเขา หากแต่ว่าผู้ที่ให้กำเนิดเด็กๆเหล่านี้ออกมา เขาจะรับรู้ไหมว่าได้มอบโลกที่มืดมนให้กับเด็กๆเหล่านั้น
“ ถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่มีพ่อแม่คอยสั่งสอน แต่พวกเขาก็มารยาทดีมากเลยนะฮะ”
“ อื้อ พี่เลี้ยงเค้าคงดูแลเป็นอย่างดี”
“ คงไม่เท่าไหร่หรอกฮะ เพราะพี่เลี้ยงก็มีน้อยมาก อาหารการกินบางทีก็อาจไม่ทั่วถึง เด็กบางคนผอมมากเลยนะฮะ บางคนก็ป่วยเป็นโรค ผมเห็นแล้วรู้สึกอดสงสารไม่ได้จริงๆ”
“ เอาเป็นว่า หากวันไหนว่างๆเราซื้อขนมไปให้เด็กๆพวกนั้นกันมั้ย”
“ ดีเลยฮะ พวกเขาคงต้องดีใจแน่ๆ”
“ เซฮุน ฉันถามอะไรหน่อยสิ ทำไมนายถึงชอบเป็นอาสาสมัคร ไปดูแลพวกเด็กกำพร้า เด็กพิการ”
“ ไม่มีอะไรหรอกฮะ ผมแค่คิดว่าเราเกิดมามีครอบครัวที่อบอุ่น มีพ่อแม่ที่คอยดูแลเรา หากเรามีความสุขแล้วได้แบ่งปันให้กับเพื่อนมนุษย์คนอื่นบ้าง มันก็คงจะดี ชีวิตคนเรามันไม่แน่นอนหากเราตายชีวิตเราก็จะได้ไม่เสียเปล่า เพราะยังไงเราก็เคยทำอะไรเพื่อสังคมและคนอื่นบ้างแล้ว”
“ ทำไมเซฮุนพูดแบบนั้น นายกำลังทำให้ฉันเศร้านะ รู้มั้ย”
ลู่หานไม่รู้ว่าสิ่งที่เซฮุนพูดออกมาคืออะไร เซฮุนเป็นเหมือนกับเด็กหนุ่มที่มีอุดมการณ์ชอบกระทำตนให้เป็นประโยชน์แก่ส่วนรวม เขาถูกปลูกฝังให้เป็นคนดีมีจิตเมตตา ครอบครัวของเซฮุนเป็นครอบครัวที่อบอุ่นมาก พ่อแม่ของเขาช่างโชคดีเสียเหลือเกินที่มีลูกชายที่ดีอย่างเขา พ่อแม่เขายอมรับได้แม้กระทั่งลูกชายสุดที่รักกำลังคบหาดูใจกับผู้ชายอย่างลู่หาน พวกเขาต่างฝากฝังให้ลู่หานดูแลเซฮุนเพราะยังไงเซฮุนก็ยังเด็กกว่า และเป็นคนหัวอ่อน ความใจดีและการมองโลกในแง่ดีของเซฮุนมันอาจจะไม่ได้ดีเสมอไปในสังคมที่มีแต่การแก่งแย่งและแข่งขันกันแบบนี้
ลู่หานไม่รู้ว่าความสัมพันธ์ในวันข้างหน้าระหว่างพวกเขาทั้งสองจะเป็นอย่างไร จะยังรักหรือลาจาก พวกเขาไม่สามารถที่จะแต่งงานและครองรักกันอย่างสุขสมหรือมีลูกน้อยอย่างที่ใจหวังได้
จุดเริ่มต้นของความรักของพวกเขามันมาจากความไร้เดียงสาของเซฮุน เด็กหนุ่มที่ชื่นชอบรุ่นพี่ลู่หานที่เป็นแบบอย่างที่ดีทั้งการเรียนและกิจกรรมรวมถึงเป็นนักศึกษาที่มหาวิทยาลัยยกย่องให้เป็นแบบอย่าง การที่ได้รู้จัก ได้ทำงานร่วมกัน ความใกล้ชิดและสนิทชิดเชื้อประสาผู้ชายแต่กลับแปรเปลี่ยนเป็นความรู้สึกดีๆระหว่างกันที่เรียกว่าความรัก
ถึงแม้ตอนนี้ลู่หานจะทำงานแล้วแต่ทั้งคู่ก็ยังคงติดต่อและไปมาหากันอยู่เสมอ อีกแค่ปีเดียวเซฮุนก็จะเรียนจบ เขาจะต้องพบกับสังคมวัยทำงานที่มีแต่การแข่งขัน เอาความดีเข้าตนแล้วโยนความผิดให้คนอื่นแต่สำหรับลู่หานมันไม่ใช่อย่างนั้น ถึงเขาจะไม่ทำแต่คนอื่นก็ทำซึ่งมันเหมือนเป็นการยัดเยียดให้อยู่ให้ได้ในสังคมที่หละหลวมด้วยจริยธรรมแบบนี้ เขาเป็นห่วงเซฮุนเหลือเกินว่าเด็กหนุ่มที่จิตใจบริสุทธิ์เช่นนี้จะอยู่ในสังคมใบนี้ได้อย่างไร เพราะอนาคตชีวิตของเขาจะไม่ได้มีเพียงการเรียน กิจกรรมชมรม หรือคนรักอย่างลู่หาน แต่บางทีก้าวผ่านช่วงวัยแห่งการเรียนรู้แล้วเข้าสู่โลกแห่งความเป็นจริง คนที่ชื่อว่าลู่หานอาจจะไม่มีความสำคัญต่อเซฮุนอีกก็เป็นได้
ลู่หานกลัวเหลือเกินว่าสักวันพวกเขาต้องจากลา เพราะไม่มีสิ่งใดแน่นอนเท่ากับความไม่แน่นอนของจิตใจมนุษย์ หากวันที่มีการเปลี่ยนแปลงมาถึงพวกเขาจะต้องเดินไปทางใด จะมีใครต้องเสียน้ำตาให้กันหรือไม่ แต่ถ้ามันเป็นสิ่งที่ถูกต้องและเป็นที่ยอมรับของสังคม มันก็ควรจะเป็นเช่นนั้นไม่ใช่หรือ
ลู่หานยิ้มให้เซฮุนอย่างอ่อนโยน พร้อมกับใช้นิ้วมือสัมผัสไปที่เส้นผมของเซฮุนอย่างแผ่วเบา ทำไมเขาถึงรู้สึกเศร้าขึ้นมาได้ วันนี้เป็นวันเกิดของเขาแท้ๆ เซฮุนก็อยู่ร่วมฉลองวันเกิดด้วยแต่ทำไมลู่หานรู้สึกหน่วงๆที่ดวงตา ความสุขปนความสับสนและหวาดกลัวกับอนาคตที่มันยังไม่มาถึง ทำไมเขาต้องคิดถึงมันให้เป็นทุกข์ก็ในเมื่อตอนนี้พวกเขาอยู่ด้วยกัน และรักกัน
“ ลู่หานเป็นอะไร ผมทำอะไรให้ลู่หานเสียใจหรือเปล่า”
เซฮุนสังเกตเห็นแววตาของลู่หานเอ่อล้นไปด้วยน้ำตา ที่อีกฝ่ายพยายามกลั้นไว้ เซฮุนแปลกใจกับท่าทีของลู่หานที่มันไม่เหมือนเคย เราไม่ได้พูดคุยเรื่องเศร้าๆแต่ทำไมสีหน้าของลู่หานมันดูเหมือนกับว่าจะร้องไห้ เขาทำอะไรให้คนที่เขารักต้องเศร้าอย่างงั้นหรือ อย่ามีความรู้สึกอย่างนั้นเลย ยิ่งเห็นใบหน้าหวานๆของลู่หานดูเศร้าโศกเพียงใด จิตใจของเซฮุนเหมือนจะถูกทำลายให้แตกสลายออกมาเป็นชิ้นๆ
“ เปล่าหรอก ฉันแค่คิดอะไรเรื่อยเปื่อย “
“ บอกผมได้ไหม ว่าลู่หานคิดอะไร”
“ อย่าเลย มันไม่สำคัญหรอก”
“ ลู่หานผิดสัญญา ไหนบอกว่าเราจะไม่มีความลับต่อกัน”
“ เอ่อ มันไม่ใช่อย่างนั้นนะเซฮุน”
“ ถ้างั้น ทำไมลู่หานถึงทำหน้าอย่างงั้น ถ้ามันไม่สำคัญก็ควรพูดมาสิ”
“ ฉันก็แค่คิดว่า สักวันนึงเราอาจจะไม่ได้อยู่ด้วยกัน…”
“ ทำไมลู่หานคิดอย่างนั้น ผมไม่มีวันปล่อยมือลู่หานนอกเสียว่า ลู่หานจะเป็นคนสะบัดมือผมทิ้งเสียเอง “
“ ฉันไม่มีวันสะบัดมือทิ้งนายหรอกน่า”
พูดจบลู่หานก็เอื้อมมือของเขาไปจับมือของเซฮุนไว้เหมือนกับว่าสิ่งนี้คือคำสัญญา ความรักที่ทำให้พวกเขาสามารถเดินไปได้พร้อมๆกัน ความสัมพันธ์ที่ไม่จำเป็นต้องหลบซ่อน ความรู้สึกที่มีต่อกันมันมีค่าจนแทบเอ่อล้น ความเชื่อใจที่ไม่ว่าอย่างไรมันก็จะไม่มีทางแปรเปลี่ยน สิ่งเหล่านี้เป็นเหมือนองค์ประกอบที่จะทำให้คนรักกันได้อย่างยืดยาว แต่ถ้าหากความคิดของใครสักคนเปลี่ยนสิ่งดังกล่าวมันก็คงไม่จีรังยั่งยืนเสมอไป
เซฮุนไม่สามารถละดวงตาของเขาไปจากใบหน้าที่สวยงามของลู่หานได้ ใบหน้าและดวงตาที่แสนหวานของอีกฝ่ายมันช่างสร้างความรู้สึกที่อยากจะครอบครองให้เป็นของตนแต่เพียงผู้เดียว เด็กหนุ่มขี้อายไม่เคยสัมผัสกับความรักมาก่อนจนกระทั่งได้มาพบพี่ชายที่แสนดีคนนี้
ลู่หานเปรียบเสมือนหัวใจดวงที่สองของเขา รักมากจนไม่สามารถหาสิ่งใดมาเปรียบเสมือนหรือเทียบเท่าได้ แต่ถึงอย่างไรเด็กหนุ่มก็ไม่เคยแสดงความรักที่จาบจ้วงกับคนรักแม้สักครั้งเดียว เพราะการให้เกียรติซึ่งกันและกันมันเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้ความรักนั้นยืดยาว
แต่เวลานี้หัวใจของเขามันกำลังเรียกร้อง หากลู่หานได้ใจของเขาไปแล้วก็โปรดจงเอากายของเขาไปด้วยเถิด
ใบหน้าคมค่อยๆเลื่อนเข้าไปใกล้ใบหน้าหวานของผู้พี่ ก่อนที่จะประทับริมฝีปากบางเข้าหาริมฝีปากสีสดอย่างนุ่มนวล สองมือที่จับกันไว้เริ่มประสานกันแน่นขึ้นราวกับว่าจะไม่มีสิ่งใดมาแยกคนทั้งคู่ออกจากกัน ลิ้นบางของผู้น้องสอดเข้าไปที่โพรงปากผู้พี่อย่างขัดเขิน
แต่กระนั้นลู่หานก็พยายามช่วยให้ลิ้นบางๆของผู้น้องที่พยายามลุกล้ำเข้ามาง่ายขึ้นโดยการเอียงคอเพื่อรับการกระทำที่ไม่ชำนาญจากอีกฝ่าย สองมือที่เคยเกาะกุมคลายออกจากกันเพื่อมาปลดเปลื้องอาภรณ์บนร่างกายให้เป็นอิสระ
คนเป็นพี่เร่งจังหวะรักให้เร็วขึ้นโดยการปลดกระดุมเสื้อและเข็มขัดของผู้น้องออก เผยให้เห็นผิวขาวเนียนของคนน้องที่แสนขี้อาย ก่อนที่เปลื้องอาภรณ์ที่แสนเกะกะของตนเองออกเช่นกัน ภาพเปลือยเปล่าของทั้งคู่ช่างสร้างความประทับใจให้แก่กันและกัน เซฮุนบดจูบลงไปที่ซอกคอของลู่หาน ความหอมหวานจากกลิ่นกายเปรียบเสมือนตัวเร่งอารมณ์ชั้นดี หากจะให้ถอนตัวออกจากกายลู่หานตอนนี้ มันคงไม่มีทางเสียแล้ว
............................................................................................................................
มีNCเป็นฉากเปิดเรื่องน้าาาา แต่ไม่ได้วาบหวามอะไรมาก เพราะจะเป็นการบรรยายความรู้สึกของตัวละครเป็นหลัก
ติดต่อที่@Ontida2นะเคอะะ
ความคิดเห็น