ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    FIC ONE PIECE | ACE X OC | ครั้งหนึ่งเมื่อดอกไม้ผลิบาน [ปิดตอนรีไรท์]

    ลำดับตอนที่ #12 : Chapter 10 : เอเดนเชียร์ เลิฟ [II]

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.15K
      136
      23 ต.ค. 64

     

    ครั้งหนึ่งเมื่อดอกไม้ผลิบาน

    | 10 |

    เอเดนเชียร์ เลิฟ [II]


     

    บริเวณใจกลางตลาดของเกาะ มีแผงลอยสำหรับซื้อขายตั้งอยู่เรียงราย ผู้คนเดินขวักไขว่ไปมาทำให้บรรยากาศดูครึกครื้นซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ ทว่าในความปกตินั้น ณ มุมๆ หนึ่งของตลาดกำลังมีความวุ่นวายเกิดขึ้น

    ความวุ่นวายที่ยากจะยุติ

    “ได้โปรด...ปล่อยฉันเถอะค่ะ!!!” เสียงร้องขอของไดอาน่าดังแผดไปทั่วตรงนั้น สองมือพยายามดันหัวและใบหน้าของบุคคลแปลกหน้าที่กำลังคุกเข่าเกาะเอวเธอไม่ยอมปล่อย ทว่าต่อให้ร่างบางจะพยายามอย่างเอาเป็นเอาตายหรือต่อให้มีดิวซ์คอยช่วยดึงคอเสื้อของชายคนนี้จากด้านหลัง มือนั้นก็ไม่มีทีท่าว่าจะยอมปล่อยหรืออ่อนแรงลงเลย


     

    ‘เด็กพวกนั้นเอะอะอะไรกันน่ะ’

    ‘เห็นพ่อหนุ่มนั่นตะโกนขอแม่หนูคนนั้นแต่งงานน่ะสิ’

    ‘อุ๊ยตาย สมัยนี้เขาขอกันแบบนี้แล้วเหรอ’

    ‘แล้วทำไมต้องทำขนาดนั้นด้วยล่ะ ขอกันดีๆ ไม่ได้เรอะ’

    ‘ผู้หญิงไม่เอาด้วยน่ะสิ’

    ‘จะเรียกว่าน่าสมเพชหรือน่าสงสารดีล่ะ’

    ‘หือ เอ๋? ว่าแต่นั่น…ทหารเรือไม่ใช่เหรอ?’


     

    ชาวบ้านเริ่มสะดุดตาและเริ่มหันมาสนใจ เมื่อมองเห็นชายหนุ่มผู้ที่เป็นต้นเหตุของความวุ่นวายครั้งนี้ ชายหนุ่มเจ้าของผมสีน้ำตาลอ่อนผู้สวมแว่นกันแดดในเครื่องแบบของทหารเรือ ชื่อของเขาคือ ‘เอเดนเชียร์ เลิฟ’

    “คุณไดอาน่า~~~”

    ชายคลั่งรักทำหน้าเคลิบเคลิ้มราวกับกำลังหลงอยู่ในมนต์สะกด ริมฝีปากได้รูปของใบหน้าหล่อเหลาเอ่ยเรียกชื่อของไดอาน่าไม่ยอมหยุด พร้อมทั้งเอาแต่กล่าวประโยคที่ว่า…

    “มาแต่งงานกับผมนะครับ!!”

    “ไม่เอา!!!”

    ฝ่ายหญิงสาวปฏิเสธเสียงแข็งพร้อมทั้งพยายามออกแรงดันให้มากกว่าเดิม ในใจนึกกล่าวโทษตัวเองที่เกิดมาเป็นผู้หญิงพร้อมทั้งสัญญากับตัวเองเอาไว้ หากรอดไปจากสถานการณ์นี้ไปได้ ตัวเธอจะไปฝึกฝน!

    “อ๊ะ! คงเร็วไปสินะครับ งั้นไปเดทกันก่อนก็ได้” เขากล่าวพลางเงยหน้าขึ้นมาส่งสายตาวาววับ

    “นั่นก็ไม่เอา! เลิกตื๊อสักทีเถอะค่ะ ทหารเรือมาทำอะไรแบบนี้ได้ด้วยเหรอ!?”

    “เอ๋? ไม่มีกฎข้อไหนบอกว่าห้ามทำตามเสียงของหัวใจนะครับ!”

    “นั่นน่ะเขาเรียกว่าแยกแยะความรู้สึกส่วนตัวกับหน้าที่ไม่ได้!”

    “ถึงยังไงก็มาแต่งงานกันครับ!!!” สีหน้าเคลิบเคลิ้มแปรเปลี่ยนเป็นสีหน้ามุ่งมั่นภายในเสี้ยววิซึ่งนั่นก็ทำให้ชายชื่อเลิฟดูจริงจังขึ้นมา ทว่ามันกลับไม่ได้ทำให้ไดอาน่ารู้สึกเปลี่ยนไป ซ้ำยังรู้สึกขนลุกและเหลืออดยิ่งกว่าเดิมซะอีก

    “แล้วมันเกี่ยวอะไรกันหาาา!!!”

    ---ผลัวะ!!!

    เพราะเสียงและแรงกระแทกเมื่อครู่ทำให้ไดอาน่าชะงักและหยุดมือที่ดันหน้าของเลิฟ ดวงตาสีชมพูอมแดงมองไปยังต้นเหตุของเสียงพร้อมกับสีหน้าซีดที่เริ่มฉายลงบนใบหน้างดงาม

    เอ๋?

    ราวกับความอดทนของเขาคนนี้ได้ขาดผึง เส้นเลือดข้างขมับปูดขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ และผู้ที่ทำให้เกิดเสียงดังเมื่อครู่ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน หากแต่เป็นดิวซ์รองกัปตันของกลุ่มโจรสลัดสเปดนั่นเอง

    “ดะ ดิวซ์?” ไดอาน่าเรียกชื่อเพื่อนเบาๆ

    ในเมื่อเอสที่เป็นกัปตันไม่อยู่ รองกัปตันอย่างเขาก็ต้องทุ่มทุกอย่างเพื่อปกป้องไดอาน่าที่เป็นลูกเรือ และเมื่อเห็นว่าการดึงคอเสื้อให้อีกฝ่ายออกห่างไม่ได้ผลดิวซ์จึงตัดสินใจเปลี่ยนวิธี

    ปั้ก!

    ด้วยการเริ่มทุบตีเลิฟแทน

    “หน็อยแก๊ ปล่อยไดอาน่านะโว้ยยย!!!!” ดิวซ์กล่าวด้วยอารมณ์โมโหร้าย มองดูสีหน้าตอนนี้ก็รู้ได้ทันทีว่าอดีตนักแพทย์อย่างเขาได้หมดความอดทนลงแล้ว!


     

    (น่าเอ็นดูเขานะคะ แหะ)


     

    “ดะ ดิวซ์ใจเย็นๆ นะ!” เธอพยายามห้ามปราม หากเป็นแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ เลิฟคงได้ตายไม่ก็พิการ—

    “…”


     

    ซะเมื่อไหร่


     

    “คุณไดอาน่ามาแต่งงานกันเถอะ!”

    “ก็บอกว่าไม่ ปล่อยนะ! เดี๋ยวก็ตายหรอก”

    ความวุ่นวายยังคงดำเนินต่อไป แม้ว่าหญิงสาวจะปฏิเสธเสียงแข็ง ชายหนุ่มก็ยังไม่ย่อท้อ แม้ว่าจะมีโจรสลัดโฉดชั่ว (?) ทุบตีเขาอยู่ หรือต่อให้คนรอบข้างพยายามเข้ามาปลอบและขอให้ล้มเลิกแต่ชายคลั่งรักนามว่า ‘เลิฟ’ ก็ไม่นึกสนใจ

    “มาแต่งงานกันครับ!”

    กระทั่งมีใครสักคนปรากฏตัวขึ้นท่ามกลางความวุ่นวาย…

    “เจอตัวจนได้นะ” ร่างยักษ์ของบุคคลปริศนาฉีกยิ้มพร้อมกับเดินฝ่าผู้คนโดยไม่สนว่าตนเองจะชนเข้ากับใคร

    ‘เดินชนก็ขอโทษด้วยสิ!’ ชายคนหนึ่งที่ถูกชนเอ่ยทัก

    พรืดดด!!!

    เสี้ยววินาทีที่ไม่ใครสนใจ ร่างร่างหนึ่งถูกขว้างสไลด์ไปตามพื้นจนมาหยุดอยู่ตรงหน้าของพวกไดอาน่าที่กำลังวุ่นวาย

    “แค่กๆๆ” ชายชาวบ้านไอเป็นเลือดออกมาด้วยท่าทีลำบากสร้างความตกใจให้ทุกคนโดยรอบ

    “ปะ เป็นอะไรหรือเปล่าคะ!?” เสียงหวานของไดอาน่าเอ่ยทัก ทว่าไม่ทันที่จะได้กล่าวหรือให้ความช่วยเหลือ ร่างนั้นก็ถูกใครอีกคนเตะให้ปลิวไปชนเข้ากับแผงลอยซะก่อน

    ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วจนหลายคนไม่สามารถวิเคราะห์ได้ทัน กระทั่งไดอาน่ากับดิวซ์เองก็ด้วย

    “ตะ ตายแล้ว!” หนึ่งในคนที่วิ่งเข้าไปสำรวจชายผู้โชคร้ายกล่าวขึ้น “เขาตายแล้ว!!”

    ผู้คนเริ่มแตกตื่น ไม่มีใครรู้ว่าทำไมถึงเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น เมื่อไม่กี่นาทีก่อนทุกคนยังคิดว่าชายคนนั้นเพียงแค่หกล้มเท่านั้นเอง

    แต่อยู่ๆ ก็มีใครบางคนฆ่าเขา

    “นี่มันเกิดอะไรขึ้น”

    ตึก!

    เงาดำของชายร่างโตตกทอดปกคลุมพวกไดอาน่า หนุ่มสาวโจรสลัดสะดุ้งก่อนจะเบนความสนใจจากศพของชายเมื่อครู่มายังบุคคลมาใหม่

    ชายวัยกลางคนที่ดิวซ์และไดอาน่าไม่เคยพบแต่กลับคุ้นหน้ายืนอยู่ตรงนั้น ร่างสูงราวสามร้อยเมตรเต็มไปด้วยกล้ามมัด ผมถูกโกนจนเห็นรอยสักรูปกระทิงที่ข้างหัวด้านซ้าย ใบหน้าเกรงขามฉีกยิ้มกว้างชวนขนลุก

    “เจอตัวสักที”

    หวืดดด

    ไม่ทันที่จะให้สัญญาณอะไร หมัดหนักๆ ก็พุ่งเข้าหาพวกไดอาน่าทันที

    ตู้ม!

    พื้นดินแหลกละเอียด ฝุ่นควันของเศษซากที่ถูกทำลายลอยฟุ้งขึ้นมา ชายปริศนาฉีกยิ้มพร้อมหัวเราะ

    ร่างที่ยืนประจันหน้าของเขาอยู่คือคนที่ตัวเล็กกว่าซึ่งสวมเครื่องแบบของทหารเรือ

    “น่ารำคาญ” ทหารเรือหนุ่มยกมือจุดบุหรี่ก่อนจะดันแว่นกันแดดเบาๆ “อย่ามาขัดขวางเวลาคนอื่นจีบผู้หญิงได้ไหม”

    “กะ เกิดอะไรขึ้นเนี่ย!” ดิวซ์งุนงงกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่แม้จะเป็นเช่นนั้นก็ยังเอาตัวมาขวางไดอาน่าได้ทันการณ์

    (เมื่อกี้นี้เขาใช้มือเบี่ยงเบนทิศทางหมัดของคนคนนั้น) 

    ไดอาน่าคิดในใจ ในตอนที่หมัดพุ่งเข้าหาถึงแม้จะรวดเร็วแต่เธอก็มองเห็น เลิฟปล่อยตัวเธอแล้วเข้าไปรับหมัดนั้นแทน แต่ที่เธอสนใจไม่ใช่การเคลื่อนไหวที่รวดเร็วของเลิฟ หากแต่เป็นเรื่องของชายที่เข้ามาหาเรื่องพวกเขาต่างหาก

    “ดิวซ์ คนคนนั้น…”

    “อ่า โจรสลัดที่กำลังดังในช่วงนี้ไงล่ะ ไอ้บ้าดีเดือด โอเรโด

    “ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ได้กันนะ”

    ใช่ว่าจะไม่เคยได้ยิน นั่นเป็นชื่อของโจรสลัดที่ตอนนี้ดังพอๆ กับเอส ว่ากันว่าเขาโหดร้อยและมักอาละวาดไม่เลือกสถานที่กระทั่งลูกเรือของตัวเองก็ยังโดนลูกหลง แต่ทว่าเมื่อหนึ่งเดือนก่อนได้มีข่าวลงหนังสือพิมพ์ เขียนเอาไว้ว่า ‘โอเรโด’ ได้ถูกกองทัพเรือจับกุมไปแล้ว

    จึงทำให้ทั้งดิวซ์และไดอาน่าแปลกใจที่เขามาปรากฏตัวที่นี่

    “ก็หนีออกมาน่ะสิ เพราะทหารเรือไม่เอาไหนก็เลยกลายเป็นอย่างนี้ไง!” โอเรโดหัวเราะ “ฉันมาที่นี่เพื่อที่จะล้างแค้น!”

    “ล้างแค้น? อย่าบอกนะว่า…” ดิวซ์เหล่มองคนที่ยืนอยู่ด้านหน้าพลางพึมพำว่า ให้ตายสิ


     

    (เจ้าบ้านี่เป็นคนจับโอเรโดงั้นเหรอ? ถึงจะไม่อยากรับแต่ก็สุดยอดล่ะนะ)


     

    “คุณไดอาน่า” เลิฟเรียกชื่อของหญิงสาวขึ้นเบาๆ แต่เขากลับไม่ได้หันมามอง “ขอโทษที่ทำให้มาเจอเรื่องวุ่นวายนะครับ ผมจะจัดการที่นี่ต่อเอง พวกคุณรีบขึ้นเรือแล้วออกจากเกาะเถอะครับ”

    “…” ไดอาน่าไม่ได้ตอบกลับ ทำเพียงแค่มองแผ่นหลังของเขาเงียบๆ

    “ฮ่าๆๆๆ แกคิดว่าฉันจะให้เพื่อนแกหนีเหรอ!?”

    “ไม่ใช่!” ดิวซ์ปฏิเสธทันที “พวกฉันเป็นโจรสลัดต่างหาก”

    “หา? อะไรเนี่ย งั้นแปลว่าแกจีบสาวโจรสลัดงั้นเหรอ ไม่อยากจะเชื่อ น่าตลกเป็นบ้า” โอเรโดระเบิดเสียงหัวเราะอีกครั้ง ก่อนจะหยุดแล้วใช้สายตาเหล่มองมาทางไดอาน่าและดิวซ์

    “หืมมม นึกออกแล้ว ยัยคนนั้นเป็นลูกเรือที่กำลังเป็นข่าวช่วงนี้นี่” ชายร่างหมีฉีกยิ้มกว้างกว่าเดิม ราวกับสัตว์ร้ายที่มองเห็นเหยื่อตัวใหม่ “ดีล่ะ งั้นฉันจะฆ่าพวกแกที่กำลังดัง แล้วเอาชื่อเสียงของฉันกลับมา!”

    “เริ่มจากแกเลยเลิฟ! ฉันจะล้างแค้นแกให้ได้”

    คำพูดนั้นทำให้บรรยากาศรอบตัวเลิฟเปลี่ยนไป เหมือนว่าเจ้าตัวกำลังจะโกรธเพราะทุกอย่างมันไม่เป็นไปดั่งใจนึก

    “ฆ่าพวกฉันไปแล้วชื่อเสียงจะเพิ่มงั้นเรอะ ตลกเป็นบ้า” ดิวซ์หัวเราะเพราะนึกสมเพช

    “ดูเหมือนว่าเขาไม่ยอมให้เราไปนะ” ไดอาน่าพึมพำพลางถอนหายใจ หลังเห็นว่าตอนนี้ตัวเองได้ถูกล้อมไปด้วยโจรสลัดแปลกหน้าแล้ว

    “ช่วยไม่ได้นะ สมองเจ้านั่นแยกแยะอะไรไม่ออกแล้ว เป็นแบบนี้ต่อให้เป็นทหารเรือหรือโจรสลัดก็ลำบากไม่ต่างกันเลย ให้ตายเถอะ” ชายสวมหน้ากากบ่นก่อนจะหันหลังชนกับไดอาน่า

    “พวกนายทำอะไรน่ะ นี่มันเป็นเรื่องที่ฉันต้องสะสางนะ!” เลิฟหันกลับมามองทั้งคู่ด้วยสายตาและสีหน้าจริงจัง

    “อย่าเข้าใจผิดสิ ยังไงพวกฉันก็ต้องเปิดทางหนีอยู่แล้วถ้าหากมีโอกาสล่ะก็พวกเราทิ้งแกแน่” ดิวซ์กล่าวด้วยสีหน้าเย็นชากระนั้นก็ไม่อาจปกปิดจุดประสงค์ลึกๆ ในใจได้

    “คิดจะตอบแทนที่ช่วยปล่อยไปวันนั้นหรือไง”

    “ก็บอกว่าอย่าเข้าใจผิดไงเล่า!”

    “น่าๆ อย่าเพิ่งทะเลาะกันสิ” หญิงสาวเอ่ยห้ามปราม ดูเหมือนว่ารองกัปตันของเธอจะเกลียดขี้หน้าเลิฟเข้าจังๆ ซะแล้ว แต่ว่านั่นไม่ใช่เรื่องที่ต้องใส่ใจในตอนนี้

    “จำนวนคนไม่น้อยเลยนะ?” เธอเอ่ยขึ้นหลังใช้สายตากวาดมองรอบๆ

    ห้าสิบ?

    หกสิบ?

    “พอเจ้าเอสไม่อยู่ด้วยชักกังวลแล้วสิ” ดิวซ์ฉีกยิ้มอย่างลำบาก ที่ผ่านมาพวกเขามักตัวติดกันเสมอ และไม่เคยนึกกลัวอะไรเพราะมีสัตว์ประหลาดอย่่างเอสอยู่ด้วย

    “ไม่เป็นไร”

    “…?”

    “เหตุการณ์เมื่อกี้ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ พวกเอสจะต้องรู้ตัวแน่” ไดอาน่ายกยิ้มอย่างเชื่อมั่น ก่อนจะหันไปหาดิวซ์ “จนกว่าจะเอสจะมา เรามาลองดูเถอะ!"

     

     

    ‘เจ้านายเอส!! ได้ยินจากคนในตลาดบอกว่าโอเรโดมาที่นี่ครับ เมื่อกี้นี้เห็นคนในเมืองบอกว่ามีคนสู้กันในตลาด มีผู้หญิงอยู่ด้วยคนนึง พวกเจ้านายดิวซ์กับไดอาน่าจังก็ยังไม่กลับมา ผมกลัวว่าทั้งสองคนนั้นจะ…’


     

    เสียงรองเท้าบูทกระทบพื้นดังประสานกับเสียงหอบหายใจ เอสมุ่งหน้าไปยังตลาดใจกลางของเกาะด้วยความร้อนรน ตอนนี้พรรคพวกของเขากำลังตกอยู่ในอันตรายไม่ผิดแน่ ยิ่งพอได้รู้ความเก่งกาจจากปากของสคัลก่อนออกมาก็ยิ่งร้อนรน

    ในใจนึกโทษตัวเองที่ไม่ไปด้วย ถ้าเขาไม่มัวคิดเรื่องไร้สาระ ทั้งสองคนก็คงไม่ต้องเผชิญหน้ากับศัตรูเพียงลำพัง

    กรอดดด

    เอสกัดฟันแน่น

    หากพรรคพวกของเขาเป็นอะไรไป เด็กหนุ่มหมัดอัคคีไม่มีทางยกโทษให้คนที่ลงมือแน่!

     

     

    โอเรโด

    เขาเกิดมาพร้อมกับร่างกายที่ใหญ่โตและแข็งแรง เคยได้รับฉายาว่าเป็นนักสู้ที่เก่งที่สุดของเกาะบ้านเกิดทว่าเพียงแค่ฉายานั้นไม่ได้ทำให้เขารู้สึกพอใจ ยิ่งพอมีอายุมากเข้าเจ้าตัวก็ยิ่งรู้สึกว่าหมัดของตัวเองมีพละกำลังที่ใครต่อใครยากจะเทียบเคียง พอคิดเช่นนั้น โอเรโดจึงออกทะเลด้วยความมั่นใจ เพื่อแสวงหาการต่อสู้ที่ทำให้ตัวเขาแข็งแกร่งมากขึ้น

    ยิ่งชนะก็ยิ่งแกร่ง

    ชายผู้ทะเยอทะยานคิดแบบนั้น

    และนับเป็นโชคร้ายที่ตั้งแต่ออกเรือตัวเขาไม่เคยพ่ายแพ้ให้ใคร ดังนั้นตอนที่ได้เผชิญหน้ากับเลิฟจึงทำให้เขาประมาท หลงคิดเอาเองว่าตนจะต้องชนะอย่างไม่มีข้อกังขา เพราะร่างกายที่ใหญ่โตเปี่ยมไปด้วยพละกำลังอย่างเขาไม่มีทางแพ้ให้กับคนตัวเล็กเช่นเลิฟ

    กระทั่งเมื่อการต่อสู้จบลง โอเรโดก็ได้รู้ ความฮึกเฮิมและความมั่นใจของเขาใช้ไม่ได้เมื่อออกทะเล แม้คนที่เขาสู้ด้วยจะตัวเล็กกว่าแต่ก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคในการต่อสู้และการรับชัยชนะในครั้งนั้น

    การพ่ายแพ้ครั้งแรกมักเป็นที่จดจำ ความเคียดแค้นก่อกำเนิด ทันทีที่หาช่องว่างในการหลบหนีสำเร็จ โอเรโดก็ยกลูกเรือมาล้างแค้น

    หากล้มเลิฟได้เขาก็จะกลับมามีความมั่นใจอีกครั้ง หากล้มเลิฟได้เขาก็จะสามารถลบประวัติการแพ้ของตัวเองได้

    ชายที่ในหัวมีแต่ชัยชนะคิดได้แค่นั้น

    คิดได้แค่นั้นจริงๆ


     


     

    ตู้ม!!!

    ควันของเศษดินค่อยๆ ลอยจางหายไปในอากาศ มองเห็นร่างใหญ่โตยังคงยืนอยู่แม้จะโซเซอยู่เล็กน้อย

    “ไม่จบสักที” เลิฟเดาะลิ้นเพราะนึกรำคาญ

    “เจ้าหมอนั่นอึดเป็นบ้าเลย!” ดิวซ์กล่่าวออกมาด้วยความตะลึง แม้ว่าการต่อสู้จะยังไม่จบแต่เมื่อมองจากสายตาคนนอกหรือให้ลองเดาดู ผลสุดท้ายแล้วเลิฟที่ไม่ได้รับบาดเจ็บแม้แต่น้อยก็คงชนะ

    ถึงแม้ว่าเขาจะหอบอยู่หน่อยๆ ก็เถอะ

    “บนโลกนี้มีคนที่เป็นสัตว์ประหลาดอยู่เยอะเลยเนอะ---ฮึบ!” ไดอาน่ากระโดดหลบการโจมตีอย่างคล่องแคล่ว มือบางฟาดลงที่สันคอของอีกฝ่ายส่งผลทำให้หนึ่งในลูกเรือโจรสลัดของโอเรโดหมดสติแล้วล้มลงไป

    ปัง! ปัง!


     

    (ไม่ว่าจะทหารเรือหรือโจรสลัด ปืนนี่ก็เป็นอาวุธที่นิยมจริงๆ)


     

    “กำแพงบุปผา” โล่กลีบดอกไม้ตั้งตัวสูงกันกระสุนปืนได้ทันท่วงที ไดอาน่านึกอยากจะถอนหายใจแต่กลับชะงักไปสักพัก

    “จะทำอะไรน่ะ” ดิวซ์ถาม เมื่อเห็นว่าอยู่ๆ หญิงสาวก็ปั้นหน้าจริงจังพร้อมทั้งหันหน้าเข้าหาศัตรู

    “ก่อนหน้านี้ฉันคิดมาได้สักพักแล้ว ว่าอยากจะลองตั้งใจสู้ดู”

    “อย่าฝืนเลยน่า”

    “ยังไงเราก็จะไปนิวเวิลด์อยู่แล้ว ถ้าเกิดว่าจัดการเรื่องแค่นี้ไม่ได้ เอสก็คงต้องลำบากปกป้องพวกเราน่าดู”


     

    (ก็พวกเรามันคนธรรมดานี่นา ส่วนจ้าบ้านั่นเป็นสัตว์ประหลาด)


     

    ดิวซ์แอบนินทาเพื่อนในใจ นึกถึงอดีตก่อนจะมาเป็นโจรสลัด

    ตัวเขาก็แค่อดีตนักเรียนแพทย์ที่อยากผจญภัย ไดอาน่าก็เป็นนางระบำที่งดงามที่สุดที่อยากออกจากเกาะ แรกเริ่มเดิมทีพวกเขาก็ไม่ได้เข้าข่ายนักสู้เลยสักนิด


     

    จะจัดการยังไงดีนะ ปกติแล้วท่าโจมตีของเอสแบบไหนถึงจะรุนแรงพอที่จะจัดการคนจำนวนมากได้?

    ไม่สิ ต้องไม่คิดแบบนั้น แค่ทำแบบที่ตัวเองทำได้ก็พอแล้ว


     

    พอคิดได้แบบนั้น เจ้าของฉายา บุปผาร่ายรำ จึงหลับตาลง ในหัวจินตนาการถึงภาพในอนาคตต่อจากนี้

    “เอาแบบที่นุ่มนวลที่สุดแล้วกัน” ริมฝีปากบางพึมพำ คิ้วขมวดเข้าหากันแน่น ใบหน้าจริงจังแม้จะหลับตาอยู่ทำให้ดิวซ์นึกเป็นห่วง


     

    (จะไหวไหมนะ)


     

    กำแพงกลีบดอกไม้ที่เคยก่อตัวสลายพร้อมถาโถมเข้าหาศัตรูอย่างรวดเร็ว ฉับพลันก่อนที่จะถึงตัวของโจรสลัดนับสามสิบคนที่เหลือ กลีบดอกไม้ก็หยุดกะทันหันสร้างความงุนงงให้ฝ่ายตรงข้ามไม่น้อย

    จังหวะนั้นเองที่แขนขวาของนางระบำสาวได้ยื่นเหยียดตรงไปด้านหน้าพร้อมกับดวงตาสีชมพูอมแดงที่เผยขึ้นอีกครั้ง “ระเบิดบุปผา!” ริมฝีปากบางขยับ

    ดิวซ์ตาโต


     

    (เมื่อกี้นี้เธอพูดว่าระเบิด?)


     

    วินาทีต่อมาทุกสิ่งทุกอย่างก็ได้ให้คำตอบแก่ดิวซ์ กลีบดอกไม้นับพันกลีบขยายตัวอย่างรวดเร็วฉับพลันก็กลายเป็นระเบิดเปลวเพลิงสีแดงขนาดหย่อม ซึ่งกระจายสร้างความเสียหายไปทั่วทุกอาณาเขตที่กลีบดอกไม้สีชมพูนั้นไปถึง

    ตามมาด้วยเสียงกรีดร้องของศัตรูที่ดังขึ้น

    “…”

    เฮ้ย!?

    ใช้เวลาสักพัก ผลกระทบจากระเบิดจึงค่อยๆ สงบลง ไม่มีเสียงใดๆ เล็ดลอดออกมาทั้งจากดิวซ์ เลิฟ และโอเรโด

    “สำเร็จมันระเบิดด้วยล่ะ!” หญิงสาวเจ้าของต้นเหตุยกยิ้ม พร้อมทั้งหันมาหาดิวซ์แล้วใช้นิ้วชี้ผลงานของตัวเองให้ดู

    “ตอนแรกไม่คิดว่าจะทำได้นะ แต่พอคิดว่าให้ระเบิดมันก็ระเบิด สุดยอดไปเลยเนอะ!”

    “ดีใจอะไรของเธอเนี่ย! ตะกี้นี้ไม่ได้บอกว่านุ่มนวลที่สุดหรอกเร้อออ!!!” ดิวซ์ตะโกนห้ามความดีใจของเพื่อนสาว ถามว่าตกใจไหม ตกใจสิ! แต่ตอนนี้เขาชักกลัวเธอแล้วมากกว่า

    เล่นระเบิดไปซะขนาดนั้นแต่ยังมาทำท่าดีใจเหมือนเด็ก รู้ไหมมันน่ากลัว!

    “อ๊ะ ขอโทษ ฉันไม่เคยทำอะไรแบบนี้เลยตื่นเต้นไปหน่อย” เธอหัวเราะพลางลูบต้นคอแก้เขิน

    ความจริงไอเดียการระเบิดของดอกไม้ไม่เคยมีอยู่ในหัวของนางระบำสาวเลยแม้แต่น้อย เพียงแค่ชั่ววินาทีตอนนั้นภาพจินตนาการมันก็แล่นเข้ามาในหัวดื้อๆ

    “คุณไดอาน่าเท่ระเบิดไปเลยคร้าบบบ!!! ><” เลิฟที่อยู่ถัดไปอีกยกนิ้วโป้งพร้อมทั้งตะโกนด้วยสีหน้าของคนคลั่งไคล้ในความรัก

    “ยะ ยัยผู้หญิงนั่น…หน็อย!” เพราะเห็นพรรคพวกที่เขาอุตส่าห์พามาล้างแค้นถูกจัดการแบบง่ายๆ โดยผู้หญิงคนเดียว ความโกรธจึงทวีคูณมากขึ้น “ฉันจะฆ่าแก!!!”

    โอเรโดพุ่งเข้าไปหาหญิงสาวอย่างรวดเร็ว เร็วกว่าทุกทีกระทั่งเลิฟก็ไม่สามารถคว้าเอาไว้ได้

    “คุณไดอาน่า!!!”

    “อะ” ดวงตาอัญมณีเบิกโต แม้จะรู้ว่าตัวเองกำลังจะถูกโจมตีแต่ร่างบางก็ไม่ยอมขยับหนี

    ทำไมน่ะเหรอ?

    ---พลั่ก!!!

    การเคลื่อนไหวของโอเรโดหยุดชะงัก ใบหน้าด้านซ้ายยุบเพราะโดนแรงกระแทกจากรองเท้าบูท ผมสีดำหยักศกกับหมวกคาวบอยพลิ้วไหว ใบหน้าตกกระเต็มไปด้วยหยดเหงื่อจากการวิ่งทว่าไม่สามารถทำให้สีหน้าโมโหของ ‘เอส’ ดูน่ากลัวน้อยลงเลย

    “เอส!” ดิวซ์และไดอาน่าเรียกชื่อของกัปตันเรือพร้อมกัน


     


     


     


     


     


     


     


     

    _____________________________

     

    สวัสดีค่ะ! ทุกคน หายไปนานอีกแล้ว (อย่าเพิ่งปาของใส่กันนะคะ แหะๆ) ที่หายไปนานเพราะคนเขียนไปค่ายติวค่ะ กว่าจะได้กลับมาก็ใกล้เปิดเทอมแล้ว แงงงง

    'แอบ' สารภาพว่าไปแอบแต่งฟิคของ เรนโงคุ เคียวจูโร่ มาค่ะ ไรท์โดนพี่นกฮูก---ตก คงเพราะสำหรับไรท์แล้ว เคียวจูโร่เหมือนเอสมากทีเดียว ทั้งเป็นพี่ชายเหมือนกัน ทั้งมีปัญหากับพ่อเหมือนกัน ทั้งเป็นหนุ่มเพลิงที่ยิ้มเก่งเหมือนกัน! และ... (นั่นแหละค่ะ ไม่พูดดีกว่า)

    ปล.ฝากติดตามกันด้วยนะคะ ไว้พอบทนำพร้อมเดี๋ยวไรท์จะมาประกาศ ><


     

    เอาล่ะเข้าสู่เนื้อหาของนิยาย!

    เนื้อหาในตอนนี้ค่อนข้างไปเร็วใช่ไหมคะ ไม่รู้ว่าเราคิดไปคนเดียวหรือเปล่าเพราะคนเขียนตัดอะไรๆ ออกเยอะ กะจะเขียนตอนของเจ้าเลิฟให้จบในตอนนี้แต่ก็ดันไปเปลี่ยนใจตัดไปอีกสักตอนแล้วกัน แหะ ต้องขอประทานอภัยนะคะ ไว้จะกลับมาเขียนแก้ U_U

    แล้วก็...!!!!

    สุดท้ายนี้ก็จะมาแปะภาพคอมมิชชั่นของไดอาน่า ครั้งก่อนที่ปิดโหวตไปเรียบร้อย ขณะนี้น้องก็วาดเสร็จแล้ว พร้อมแล้วไปดูกันค่า!!!

    ...

    ..

    .


     


     


     


     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

            น้องมาธีมชมพูค่ะ คงคอนเซ็ปต์ บุปผาร่ายรำ มีดอกไม้เต็มไปหมดเลย ฮ่าๆ ส่วนตัวไรท์นี่อย่างชอบสีตาเลยค่ะ (ก็ต้องชอบสิ บรีฟเองนี่นา -*-)

    เนื่องจากเป็นคอมมิชชั่นที่คนเขียนสั่งวาดจึงขอความกรุณาทุกคนไม่เอาน้องไปใช้นะคะ พลีส~

    ซึ่งไรท์สั่งวาดมาจาก คุณคนนี้เลยค่า 

    FB : Sudarat Urakaew

    https://www.facebook.com/Hateyoudemon

     

    แล้วก็สุดท้ายจริงๆ ไรท์ขอเวลาไปปรับเปลี่ยนเนื้อหาสักนิดนะคะ จากนี้ไปไรท์จะเขียนให้ไดอาน่าได้อัพเลเวลแล้ว (น้องจะเก่งแล้ว!)

    ขอบคุณทุกคนที่ยังรอและติดตามนะคะ ไว้พบกันใหม่ค่า ><

     

    เครดิต : ภาพไดอาน่าจิบิเป็นคอมมิชันที่เราสั่งมาจากคุณคนนี้นะคะ (จิ้ม)

    เครดิต : โลโก้นามปากกาเราเป็นคอมมิชชันที่เราสั่งมาจากคุณคนนี้นะคะ (จิ้ม)

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×