ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    FIC ONE PIECE | ACE X OC | ครั้งหนึ่งเมื่อดอกไม้ผลิบาน [ปิดตอนรีไรท์]

    ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ

    • อัปเดตล่าสุด 11 พ.ย. 65


     

    ครั้งหนึ่งเมื่อดอกไม้ผลิบาน

    | บทนำ |
     

    เกาะร่ายรำ หากพูดถึงชื่อนี้ก็คงไม่มีใครไม่เคยได้ยิน มันเป็นชื่อของเกาะที่ตั้งอยู่บริเวณกลางแกรนด์ไลน์ ผู้คนต่างล่ำลือกันว่ามันเป็นเกาะที่มีทรรศนียภาพงดงามที่สุดแห่งหนึ่ง เป็นทรรศนียภาพที่ไม่เหมือนกับที่ใดบนโลก

    พืชและดอกไม้นานาพันธุ์บานสะพรั่งตลอดปี มีทั้งพืชที่พบได้ทั่วไป พืชที่ปัจจุบันหาได้ยาก กระทั่งพืชที่ใกล้สูญพันธุ์เองก็เช่นกันดังนั้นสถานที่แห่งนี้จึงเป็นเหมือนกับศูนย์รวมของพืชและดอกไม้ทุกชนิดบนโลก

    เป็นสถานที่ที่นิยมสำหรับเหล่านักสำรวจ นักท่องเที่ยว นักผจญภัยหรือแพทย์และรัฐบาลที่ต้องการค้นคว้าสมุนไพรไปทำยารักษาโรคใหม่ๆ ไม่เว้นแม้แต่เหล่าโจรสลัดที่แวะเวียนมาบนเกาะก่อนจะมุ่งหน้าเข้าสู่ โลกใหม่

    และสิ่งสำคัญที่ทำให้เกาะแห่งนี้เป็นที่กล่าวขานอีกอย่างหนึ่งก็คือ การแสดงระบำ ซึ่งทุกๆ ปี ผู้คนที่อาศัยอยู่บนเกาะแห่งนี้จะจัดเทศกาลเฉลิมฉลองเพื่อขอบคุณดอกไม้รวมถึงพืชนานาพันธุ์บนเกาะ

    หากไม่มีพืชและดอกไม้หล่านั้น เกาะแห่งนี้คงไม่มีทิวทัศน์อันน่าอัศจรรย์เพราะทุกตารางนิ้วของที่นี่จะต้องมีดอกไม้หรือพืชขึ้นอยู่ไม่ขาดช่วง และพวกมันยังทำให้ผู้คนบนเกาะมีรายได้จากการส่งออกพืชหรือดอกไม้ รวมไปจนถึงการกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวของผู้คนที่ผ่านเส้นทางไปยังโลกใหม่

    เทศกาลขอบคุณจึงถูกจัดขึ้นซึ่งการแสดงระบำก็เป็นไฮไลท์สำคัญในการจัดเทศกาล 

    การแสดงระบำอันอ่อนช้อยและงดงาม โดยเฉพาะการแสดงพิเศษของนางระบำที่งดงามที่สุด...

    เพราะเป็นหน้าที่ที่สำคัญมากดังนั้นจึงต้องคัดเลือกนางระบำที่ร่ายรำได้งดงามที่สุดบนเกาะขึ้นแสดง ว่ากันว่าผู้ที่ได้รับตำแหน่งนี้ก็ถือว่าเป็นหญิงสาวที่งดงามที่สุดบนเกาะด้วยเช่นกัน มันจึงไม่แปลกหากนางระบำหลายร้อยคนบนเกาะจะอยากได้รับตำแหน่งดังกล่าวทว่าหญิงสาวหลายคนก็ต้องหมดหวังไปหลายต่อหลายครั้ง

    เพราะตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน คนที่ได้รับตำแหน่งที่ว่ามีเพียงเหล่านางระบำที่ได้รับการคัดเลือกจากตระกูล ฟาลัน เท่านั้น

    และหากกล่าวถึงตระกูลฟาลัน...ก็คงจะต้องนึกถึงตระกูลที่เก่าแก่ที่สุดบนเกาะ เป็นตระกูลที่ทำหน้าที่สอนการแสดงระบำให้กับหญิงสาวทุกคนที่นี่ รวมไปจนถึงเป็นบุคคลผู้ริเริ่มการจัดเทศกาลขอบคุณดอกไม้อีกด้วยซึ่งนางระบำคนแรกที่ได้ขึ้นแสดงในฐานะนางระบำที่งดงามที่สุดก็คือ ฟาลัน มิร่าโรส หญิงสาวผู้ซึ่งเป็นผู้นำตระกูลฟาลันรุ่นที่ 2

    และแม้ตำแหน่งนางระบำที่งดงามที่สุดจะทรงเกียรติและเป็นที่ต้องการของเหล่านางระบำ ทว่ามันก็มีสิ่งที่ต้องนำไปแลกนั่นคือ อิสระ

    หลังรับตำแหน่ง หญิงสาวคนนั้นจะต้องขึ้นแสดงระบำจนกว่าจะครบ 5 ปี และระหว่างรับตำแหน่งหญิงสาวคนนั้นห้ามออกจากเกาะโดยเด็ดขาด ทุกๆ วันจะต้องฝึกซ้อม ควบคุมอาหารจนกว่าจะถึงวันเทศกาลในแต่ละปีซึ่งนั่นก็เพื่อความสมบูรณ์แบบของการแสดงที่จะต้องออกมาไร้ที่ติ และจะกลับไปมีชีวิตอย่างอิสระหลังจากหมดวาระ ใช้ชีวิตแบบหญิงสาวปกติได้เช่นเดิม

    สำหรับนางระบำที่ตั้งใจจะไขว่คว้าตำแหน่งนั้น นี่คงเป็นเรื่องเล็กน้อยที่ต้องนำมาแลก ทว่ามันกลับไม่ใช่กับนางระบำที่มีความใฝ่ฝันอยากออกทะเลเฉกเช่นนางระบำคนที่งดงามที่สุดคนปัจจุบัน

    ลิเทียร์ ไดอาน่า หญิงสาวผู้ที่กำลังจะไร้ซึ่งอิสระ

     


     

    “ดะ เดี๋ยวก่อนสิคะ! มาดามเอลลี่ ที่พูดมาหมายความว่ายังไงกันคะ” หญิงสาวกล่าวด้วยความตกใจ หลังฟังเรื่องราวจากปากของผู้เป็นอาจารย์

    “ก็อย่างที่พูดไปเมื่อกี้นั่นแหละ ไดอาน่า เธอน่ะถูกสั่งให้รับตำแหน่งนี้ไปอีก 5 ปี” หญิงอายุมากกล่าวพลางถอนหายใจ

    “แต่ว่าตำแหน่งนั่นน่ะที่จริงแล้วปีนี้เป็นปีสุดท้ายสำหรับฉันนะคะ แล้วทำไม...”

    “เป็นความต้องการของตระกูลฟาลัน ฉันเองก็ขัดไม่ได้หรอกนะ”

    “...อะไรกัน”

    “ได้ยินมาว่าตอนนี้ยังหาคนที่มีความสามารถมารับตำแหน่งต่อจากเธอไม่ได้เลยต้องให้เธอทำหน้าที่นี้ต่อไปก่อน”

    “แต่...ฉันมีเรื่องสำคัญที่ต้องทำ” เธอกล่าวด้วยน้ำเสียงสลดเมื่อนึกถึงช่วงเวลาหลังจากนี้

    “ฉันเข้าใจว่าเธออยากออกทะเลนะ ไดอาน่า” มาดามเอลลี่ถอนหายใจเฮือกใหญ่ ใช่ว่าเธอจะไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับเด็กคนนี้เลย

    ทั้งสองคนนั้นรู้จักกันมานาน มากพอที่จะรู้ทุกเรื่องของอีกฝ่าย และเธอก็รู้ว่าสิ่งที่เด็กคนนี้ต้องการจริงๆ แล้วคืออะไร

    “ฉันไม่อยากเป็นแล้วค่ะ” หญิงสาวถอนหายใจ ทรุดตัวลงกอดเข่าก่อนจะเอาหน้าซบลงไป “คิดว่าทนแค่ 5 ปีก็จะจบแล้วซะอีก”

    นั่นไม่ใช่คำพูดของคนที่รักในตำแหน่งนางระบำที่งดงามที่สุด

    จริงอยู่ที่ไดอาน่ารักการร่ายรำแต่ไม่ใช่การร่ายรำเพื่อหน้าที่ แต่เพื่อความสนุกต่างหาก

    ตั้งแต่จำความได้ไดอาน่าก็ถูกสอนการร่ายรำ ทำเหมือนกับว่ามันเป็นเริ่องปกติของเด็กตัวเล็กแบบเธอในตอนนั้น

    เพราะเป็นหนี้ชีวิตตระกูลฟาลันเมื่อครั้งในอดีต และพวกเขาขอเพียงแค่เธอสามารถเป็นนางระบำที่งดงามที่สุดได้แค่ครั้งเดียว

    เธอจึงตั้งใจที่จะเป็นนางระบำที่งดงามที่สุด และเมื่อครบวาระหลังจากนั้นก็จะออกเรือ เพราะแบบนั้นถึงต้องพยายามอย่างมากเพื่อให้เป้าหมายแรกสำเร็จลุล่วงและมันก็ผ่านไปได้ด้วยดี เธอเป็นนางระบำที่งดงามที่สุดได้ด้วยแค่อายุ 17 ปี

    มีบ้างที่เคยได้ยินคำครหา ว่าเธอขี้โกงเพราะเป็นสายเลือดของ ลิเทียร์ ไบรอา นางระบำที่งดงามที่สุดหลายรุ่นก่อนหน้า ว่ากันว่าพรสวรรค์ในการระบำถูกส่งผ่านสายเลือดทำให้ไดอาน่าผ่านการคัดเลือกอย่างง่ายดายราวกับไม่มีคู่แข่ง

    ตอนนั้นเธอรู้สึกเหมือนกับมีใคนสักคนชี้นิ้วและบอกกับเธอว่าเพราะเป็นลูกของคุณไบรอาก็เลยไม่ต้องทำอะไร ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงเธอคงไม่ต้องพยายามมากขนาดนี้

    และทั้งที่พยายามมากขนาดนั้นแท้ๆ พยายามมาด้วยตัวคนเดียวมาตลอดแท้ๆ



    ออกเรือตอนนี้คงยากไปหน่อย แต่รออีกหน่อย ช่วยรออีกหน่อยนะ...อีกแค่ 5 ปี 



    ไดอาน่าในอายุ 17 เคยบอกกับตัวเองไว้แบบนั้นแล้วขึ้นรับตำแหน่งนางระบำอย่างอย่างภาคภูมิ จนเวลาล่วงเลยมา 5 ปีกระทั่งเธออายุ 21 ปี และเทศกาลที่จะถูกจัดขึ้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้าก็เป็นการขึ้นแสดงครั้งสุดท้ายในฐานะนางระบำที่งดงามที่สุดของเธอ

    มันควรจะเป็นอย่างนั้น…ควรจะเป็นอย่างนั้นแท้ๆ

    “งั้นหนีไปเลยดีไหม?” ร่างบางผงะหลังได้ยินคำพูดที่หลุดออกจากปากของมาดามเอลลี่

    “ฉันเองก็ผิดที่ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นความรู้สึกของเธอมาตลอด…”

    ไดอาน่าเงยหน้าจากเข่า จ้องมองคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าก่อนจะคลี่ยิ้มจางๆ แต่กลับแฝงไปด้วยความขมขื่น

    “ขืนทำแบบนั้นคนที่เดือดร้อนก็จะเป็นมาดามนะคะ”

    “...”

    “ยังไง...คุณก็เป็นผู้มีพระคุณที่ช่วยดูแลฉันมาตลอด ฉันคงทนไม่ได้หรอกค่ะที่ต้องเห็นมาดามเอลลี่เดือดร้อนเพราะความเห็นแก่ตัวของฉัน”

    “นั่นน่ะเป็นสิ่งที่ฉันอยากทำให้ไบรอาในฐานะเพื่อนรักต่างหาก เธอไม่จำเป็นต้องมานั่งนึกถึงฉันหรอกนะ เด็กโง่”

    ไดอาน่าหุบยิ้ม ก้มหน้ามองพื้นด้วยสายสิ้นหวัง นั่นทำให้เอลลี่ถอนหายใจเฉือกใหญ่

    “ฉันจะไปเตรียมงานต่อแล้ว เธอลองไปคิดดูดีๆ แล้วกัน ว่าจริงๆ แล้วตัวเองต้องการอะไร?”

    “และความใจดีของเธอที่มีให้คนอื่นนั่นน่ะมันกำลังทำร้ายเธออยู่นะ”

    ทิ้งท้ายไว้แค่นั้น หญิงอายุมากก็เดินออกจากห้องไปปล่อยหญิงสาวเอาไว้เพียงลำพัง



    สิ่งที่ต้องการจริงๆ งั้นเหรอ?

    ถ้ารู้แล้ว ฉันจะทำอะไรได้อีก?

    ความจริงแล้ว

    มันไม่มีสิ่งที่ฉันในตอนนี้ทำได้เลยต่างหาก

     

     

    ทางด้านตะวันออกของเกาะร่ายรำ

    ธงโจรสลัดแห่งเพลิงที่มีสัญลักษณ์สเปดกับหัวกระโหลกสวมแว่นกำลังพลิ้วไหวตามสายลม เรือโจรสลัดกำลังแล่นอยู่กลางทะเลสีครามซึ่งกำลังมุ่งหน้าสู่เกาะที่ปลายสายตามองเห็น

    “เห็นเกาะแล้วล่ะ” ชายสวมหน้ากาก ผู้มีเรือนผมสีฟ้าเอ่ยขึ้นหลังจากใช้กล้องส่องทางไกลสำรวจเกาะด้านหน้า ชื่อของเขาคือ มาสค์ ดิวซ์ ซึ่งดิวซ์เป็นนามปากกาที่เขาใช้เขียนหนังสือการผจญภัย

    “มาทันช่วงงานเทศกาลพอดีเลยล่ะครับ!” ถัดมาเป็นเสียงของชายผู้แต่งตัวประหลาดที่ตามร่างกายประดับไปด้วยโครงกระดูกและสวมหน้ากากหัวกระโหลก เขาคือ สคัล

    “แกจะเอาไง” ดิวซ์หันไปทางชายหนุ่มอีกคนที่ตอนนี้กำลังจ้องมองเกาะอย่างสนอกสนใจ

    ผมสีดำหยักศกถูกบดบังบางส่วนด้วยหมวกคาวบอยสีส้ม ชายหนุ่มสวมกางเกงสีดำสามส่วนเลยเข่า ท่อนบนเปลือยเปล่าเผยให้เห็นหมัดกล้าม ใบหน้าตกกระหันไปทางเกาะเบื้องหน้าโดยไม่มีทีท่าจะตอบกลับ

    เอส!” ดิวซ์เรียกชื่อของเขาเพื่อดึงความสนใจ

    “หือ? อะไร” คนถูกเรียกผละความสนใจก่อนหันมาจ้องมองพรรคพวกของตน

    “ฉันจะถามว่าแกจะอยู่ชมเทศกาลก่อนไหม หรือจะซื้อเสบียงแล้วออกเรือเลย”

    “พูดอะไรอย่างนั้นครับคุณดิวซ์! ต้องอยู่งานเทศกาลก่อนสิครับ!”

    “เทศกาลที่หนึ่งปีมีครั้งเดียว แล้วถ้าไปที่โลกใหม่แล้วอาจจะไม่มีโอกาสได้กลับมาดูอีกก็ได้นะ กัปตัน!”

    ลูกเรือบางส่วนร่วมมือกันหาเหตุผลที่จะทำให้การเดินเรือของพวกเขาหยุดพักที่นี่จนกว่างานเทศกาลจะจบ หลังได้ยินบทสนทนาของคุณกัปตันและรองกัปตันเรือ

    “เทศกาล?” เด็กหนุ่มเจ้าของชื่อ เอส ถามพลางขมวดคิ้ว

    “เป็นเทศกาลขอบคุณดอกไม้ของคนบนเกาะ ว่ากันว่าเป็นเทศกาลที่งดงามมากๆ แล้วก็มีการแสดงของนางระบำที่งดงามที่สุดด้วยล่ะครับ!” สคัลเอ่ยด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น เช่นเดียวกับเหล่าชายหนุ่มบนเรือที่เริ่มครึกครื้นหลังได้ยินคำว่านางระบำ แถมยังงดงามที่สุดอีกด้วย

    “เจ้านายเอสอยากแวะชมไหมครับ”

    “อืม ก็นะ...ของกินที่นั่นอร่อยไหม” เด็กหนุ่มถามราวกับไม่สนใจประเด็นสำคัญที่ถูกพูดถึงเท่าไหร่นัก

    “แกนี่นะ อย่าสนใจแต่ของกินจะได้ไหม” ดิวซ์ถอนหายใจ

    “พวกแกอยากอยู่ดูงั้นเหรอ” เอสผู้มีตำแหน่งเป็นกัปตันเรือของกลุ่มโจรสลัดสเปดถามขึ้น ก่อนใช้สายตากวาดมองลูกเรือที่ดูตื่นเต้นสุดๆ แต่กลับไม่มีใครตอบอะไรเขากลับมา

    “เทศกาลอันเลื่องชื่องั้นเหรอ ฟังดูดีเหมาะเขียนลงในบันทึกการผจญภัยของฉันแฮะ” ดิวซ์พึมพำกับตัวเอง “แกล่ะว่าไงเอส”

    “ถ้าเรื่องอาหารที่ถามเมื่อกี้ ที่นี่มีของอร่อยๆ ขึ้นชื่อเยอะเลยล่ะครับ!!”

    “งั้นเหรอ ถ้างั้นแวะสักหน่อยคงไม่เป็นไร” เอสยิ้มร่าพลางลูบท้องตัวเองที่เริ่มส่งเสียงดัง “ว่าไปงานเทศกาลอะไรนั่นก็ฟังดูน่าสนุกนะ”


     


     


     


     


     

    ___________________
     

    เรามือใหม่จริงๆ ค่ะ บทนำอาจจะไม่ได้ออกมาดีมากแต่จะพยายามเขียนตอนต่อไปให้ดีกว่านี้ค่ะ >O<

    เครดิต : ภาพไดอาน่าจิบิเป็นคอมมิชันที่เราสั่งมาจากคุณคนนี้นะคะ (จิ้ม)

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×