ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    uncanny พิสูจน์ไม่ได้(รีไรท์รอบสามแล้วโว้ย)

    ลำดับตอนที่ #9 : ลางสังหรณ์ที่VIII:ถูกจับI(รีไรท์4)

    • อัปเดตล่าสุด 6 พ.ค. 54


    ลางสังหรณ์ที่VIII:ถูกจับI(100%)

    �������� � งูใช้หางและลำตัวของมัน ไถ ฟาด ทลายต้นไม้เพื่อที่จะหาร่างเล็กๆได้สะดวกขึ้น แต่ทุกครั้งที่เจอเหล่าวิญญาณจะรบกวนตลอดเวลาไม่ให้เธอถูกจับได้ งูเริ่มหงุดหงิด จะทำลายวิญญาณก็ไม่ได้เพราะเป็นเจ้าที่หากทำลายก็จะทำให้สมดุลของธรรมชาติเสียไป จะหาเธอก็ไม่ได้เพราะโดนขัดขวางทุกครั้ง แถมพอเกือบจะจับได้ เธอก็แลบลิ้นปลิ้นตาใส่ก่อนหนีไปต่อหน้าต่อตาทุกครั้งอารมณ์ที่เดือดพล่านอยู่แล้วยิ่งเดือดเข้าไปใหญ่

    ����������� มันไม่สบอารมณ์ขั้นรุนแรงคำรามลั่นพิพิธภัณฑ์เสียจนแสบแก้วหู ทลายต้นไม้มากขึ้น แต่ผลก็คือ ยิ่งทำให้เธอมีที่ซ่อนถ่วงเวลาเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่าตัวเลยทีเดียว เธอกระโดดหลบอย่างคล่องแคล่ว แทรกตัวไปตามพุ่มไม้หนาๆอย่างชำนาญจนลุงผีเองยุงตกใจ เพราะไม่เคยเห็นเธอทำอะไรแบบนี้มาก่อนเลย�ทุกทีเธอมักจะอยู่เงียบๆคนเดียวและเอาแต่อ่านหนังสือ เป็นเด็กที่เงียบขรึมและค่อนข้างซึมเศร้า

    ����������� "คึๆๆๆๆ"เธอหัวเราะชอบใจ เมื่อมองงูที่กำลังหัวเสียเพราะโดนเธอปั่นหัวจนเละ เธอต้องไม่แสดงความกลัวออกมาให้มันเห็นอย่างเด็ดขาด เธอเหลียวหลังมองงูที่กำลังไล่ตามเธออย่างไม่ลดละ ถึงแม้ว่าเธอจะหัวเราะที่งูโดนปั่นหัวแต่มันก็ไม่ได้เป็นความสะใจที่ออกมาจากใจเธอเลย ดวงตาของเธอฉายแววกังวลออกมา ถ้าหากมีคนสังเกตเรื่องแบบนี้...

    ������������ในความเป็นจริงแล้วชาช่าเป็นคนร่าเริง เป็นเด็กที่ขี้โวยวาย�เจ้าแผนการณ์ เจ้าเล่ห์�ชอบทำอะไรที่มันผาดโผนตามแบบฉบับอย่างเด็กผู้ชายและเล่นกับพจน์อยู่เป็นประจำ ตอนเด็กๆเธอยังแอบพ่อและแม่ของเธอปีนต้นไม้บ่อยๆ พอโตขึ้นความซุกซนก็หายไปยังคงเหลือแต่เพียงความโวยวายของเธอเท่านั้น� แต่เหตุผลนี้ทำให้เธอมีเพื่อนมากขึ้น ทว่าเธอก็เปลี่ยนไปราวกับว่าเป็นคนละคนเมื่อพจน์เพื่อนของเธอจากไปอย่างไม่มีวันกลับ...

    ����������� "นังหนู...ออกมานะ...ข้าจะจับเจ้าไปทำอาหารปลา!!"งูคำราม�เด็กสาวแสยะยิ้มอยู่หลังต้นไม้เอาหน้าแนบกับต้นไม้ เธอไม่ยอมออกไปง่ายๆหรอก

    ����������� “ออกก็โง่น่ะสิ”เธอพึมพำ ต่อไปก็ต้องล่อให้ไป...

    ������������ผั่วะ

    ����������� หางที่ฟาดไปมามั่วๆของมัน กระแทกโดนร่างบางเข้าอย่างจัง ร่างที่ทั้งบอบบางและเล็ก รวมไปถึงยังไม่ระวัง ไม่ได้ตั้งตัส เมื่อโดนหางงูที่ใหญ่กว่าขานดตัวของตนหลายเท่าจึงปลิวออกมาจากหลังต้นไม้ ไปกระแทกต้นไม้ที่ยืนต้นสูงตระหง่านอยู่แล้วครูดลงที่พื้น ร่างของเธอชักบอบช้ำ จากการที่โดนกระแทกซ้ำไปซ้ำมา ร่างบางกัดฟันกรอด

    ����������� “อึก”ร่างบางที่ครูดกับต้นไม้เป็นแผลแนวยาวที่แขนซ้าย ดูน่ากลัวเลือดสดๆไหลออกมาจากบาดแผลไม่หยุด มือขวาของเธอยกขึ้นมากุมบาดแผลเอาไว้ เธอหอบหายใจถี่ๆ ดวงตาเริ่มพร่าเลือน เธอพยายามลุกขึ้น

    ���������� "โอ้...ในที่สุดก็หาเธอเจอจนได้"งูเลื้อยมาทางเธอ
    มอบรอยยิ้มสมเพชให้กับเธอ “หึๆๆๆๆ...ไอ้ท่าทางอวดดีนั่น...มันไม่เหมาะกับเจ้านักหรอกนะ”งูยื่นหัวเขามาใกล้ร่างของเธอที่เหมือนจะขยับไปไหนมาไม่ได้อีกต่อไป หรือเป็นการแสดงละครกันแน่ไม่อาจรู้ได้เพราะเธอจ้องตอบกลับไปอย่างไม่สะทกสะท้านเลยแม้แต่น้อย

    ����������� “แต่...ฉันชอบ”มีดอีกเล่มถูกชักออกมาปักเข้าที่หน้าของมันเต็มๆ ก่อนเธอจะฝืนความปวดร้าวที่ร่างกายส่งสัญญาณประท้วงเธอลุกขึ้น กัดฟันวิ่งออกไปโดยดึงมีดติดมือไปด้วย งูคำรามลั่นเมื่อเลือดสีดำคล้ำของมันพุ่งออกมาจากบาดแผลเป็นเส้นยาวราวกับน้ำพุ บริเวณใบหน้าของมันเป็นส่วนที่อ่อนนุ่มที่สุด เพราะฉะนั้นแล้วหากจะโจมตีแล้วได้ผลก็มีอยู่ที่เดียวเท่านั้น และเธอก็ได้รู้แล้วแต่คงจะไม่มีโอกาสแบบนั้นอีกครั้ังแล้ว

    ����������� งูเลื้อยตามไปด้วยความเร็วสูงสุด พร้อมกับใบหน้าที่เต็มไปด้วยความแค้น ซึ่งแน่นอนว่ามันต้องน่ากลัวมากๆ ร่างเล็กหันมามองก็ต้องสะดุ้งเฮือก ก่อนจะเร่งความเร็วในการวิ่งที่เกินลิมิตของเธอแถมอาการเจ็บขาก็ดันกลับมาได้แบบไม่ดูเวล่ำเวลา อีกไม่นานมันคงต้องตามเธอมาทันอย่างแน่นอน ร่างบางหลับตา ขบฟันแน่นอย่างเจ็บใจ เธอไม่สามารถเร่งความเร็วได้มากกว่านี้ เธอเป็นคน ไม่ใช่หุ่นยนต์ไม่ใช่เครื่องยนต์ถึงได้เร่งความเร็ว งูตัวนี้มันเป็นตัวอะไรกันแน่ ใช่งูแน่เหรอ

    ����������� “หนอย !” งูเร่งความเร็วให้มากขึ้นเพื่อร่นระยะห่าง มันแยกเขี้ยว มันเองก็เริ่มจะเจ็บแล้วเหมือนกัน การที่มันต้องเลื้อยเร็วๆแบบนี้ แต่มันก็คุ้มหากจะทำให้ 'นาย' พอใจ หายโกรธมันขึ้นมาได้บ้าง และยอมให้มันกลับไปอยู่กับ 'นาย' ดังเดิม

    ����������� “ได้โปรด...ใครก็ได้ช่วยด้วย”เธอภาวนาในใจ เธอวิ่งไม่ไหวแล้ว ระยะห่างของงูกับเธอน้อยลงไปทุกที จริงๆแล้วเธอวิ่งไวมากกว่านี้ไม่ได้หรอกเนื่องจากเธอไม่ได้ออกกำลังกายเลยตั้งแต่พจน์จากไป ทว่าเป็นเพราะระยะห่างระหว่างงูและเธอต่างหากที่มากต่างหากและตอนนี้ระยะห่างระหว่างเธอกับมัน เหลือน้อยลงไปทุกที มันกำลังจะหมดลงแล้ว...เวลาของเธอด้วยหรือเปล่านะ ร่างบางหอบหายใจถี่ๆ ขณะที่กำลังวิ่งอย่างน่าสงสาร ชาช่าแน่นหน้าอกหายใจไม่ทัน และตอนนี้เธออยากจะหยุดพักและอาเจียนออกมาเหลือเกิน

    ����������� ฉั่วะ

    ������������"หือ?"งูหันไปมองหางของตนเพราะรู้สึกว่าด้านหลังมันเบาแปลกๆ ไม่ต้องลากไปมา�ใบหน้าของมันซีดลงเล็กน้อย เมื่อเห็นว่าด้านหลังของมันนั้นมีบางอย่างเปลี่ยนแปลงไปอย่างที่มันไม่อยากให้เป็นเลย

    ���������� "จ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก"มัน...แหกปากร้องลั่นป่า ฝูงนกแตกฮือ หางของมันขาดหายไปไหน!?! หญิงสาวที่กำลังวิ่งหยุดชะงักเพราะเสียงร้องดังกล่าว ก่อนจะหันไปมองว่าเหตุใดงูตัวโตถึงได้ร้องลั่นป่าขนาดนี้กันนะ จากนั้นก็เข้าใจได้ทันที พอมองออกไปหน่อยก็พบหางที่กำลังนอนแน่นิ่งและมีเลือดสีดำไหลออกมาเป็นน้ำตก ลุงผีแหละผีๆ กำลังถือมีดของเธอ รวบรวมพลังวิญญาณเพื่อที่จะตัดหางงูตัวนี้ให้ได้

    ���������� /ไปเร็ว...ไอ้หนู/

    �����������ลุงผีฉุดแขนเธอหนีไปอย่างรวดเร็ว�มันเร็วเสียจนกระทั่งภาพโดยรอบกลายเป็นเส้นตรงและพร่ามัว ไปเลยทีเดียว เธอไม่เคยคิดว่าลุงผีสามารถเร่งความเร็วในการพาเธอออกมาจากงูได้ถึงขนาดนี้ นี่มันความเร็วระดับพอๆกับชั่วโมงเร่งด่วนบนทางด่วนเลยนะเนี่ย!! ชาช่าได้แต่อึ้ง เธอต้องรู้ให้ได้ว่าลุงผีที่แท้จริงแล้วเป็นใครกันแน่ เธอต้องถามให้ได้ แต่คงไม่ใช่ในเวลานี้เป็นแน่ เธอต้องรอดออกไปให้ได้ก่อน

    ���������� "ละ...ลุง!"เธอเบิกตากว้าง เมื่อลุงผีลากพาเธอหนีมาซ่อนที่ไหนไม่รู้แต่เธอสังหรณ์ว่ามันต้องเป็นที่ไหนสักแห่งในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้เป็นแน่ ลุงผีไม่น่าจะพาเธอออกไปจากพิพิธภัณฑ์เพราะรู้ถึงจุดประสงค์ของเธอ ร่างบอบบางมอมแมมไปหมดเพราะโดนลากไถมากับดิน แต่เธอก็ไม่ได้รู้สึกเจ็บอะไรราวกับมีใครมารองรับตัวเธอเอาไว้อีกชั้น ก่อนจะถึงพื้นดิน

    �����������/ไง...ไอ้หนู ยังเจ็บอยู่มั้ย/ลุงผีถามเสียงอ่อนโยน กอดเธอเอาไว้แน่น

    ���������� "นิดหน่อยค่ะ...นึกว่าลุงจะโดนงาบไปแล้วซะอีก"เธอกอดตอบลุงผี น้ำตาพาลจะไหลเอาดื้อๆถึงแม้ว่าจะไม่อบอุ่นเหมือนอ้อมกอดของพ่อและแม่แต่มันก็เป็นอ้อมกอดที่คุ้นเคยและรู้สึกว่าสบายใจเหมือนกอดในครอบครัว ลุงผีลูบหัวของเธอเบาๆพลางหัวเราะ เธอไม่ได้แช่งนะ แต่เธอเป็นห่วงลุงผี และถามออกไปตามประสาคนปากไวเท่านั้น ซึ่งลุงผีก็ไม่ได้ว่าอะไร กลับกอดเธอแน่นเข้าไปอีก ราวกับว่าจะย้ำเตือนเธอว่า ลุงผียังอยู่ตรงนี้

    �����������/ลุงไม่เสร็จมันง่ายๆหรอก...ลุงแค่หาจังหวะเล่นงานมันเฉยๆ/ลุงผียิ้ม ผละออกจากอ้อมกอดของเธอ แล้วมองหน้าเด็กหญิง /อีกอย่าง...ลุงไม่ตายง่ายๆหรอก/ลุงแกย้ำอีกครั้งหนึ่ง เธอมองหน้าลุงผีก่อนจะโผกอดลุงอีกครั้ง เธอไม่สนแล้วว่าลุงผีจะเป็นใคร มาจากไหน ขอเพียงอย่าให้ลุงผีทรยศเธอ หรือทิ้งเธอไปไหนก็พอ

    �����������"ค่า~~"เธอลากเสียงยาวพลางแลบลิ้นอย่างขี้เล่น พลันเธอก็ดันไปนึกถึงใครบางคนที่เธอลืมไปเสียสนิท "เฮ่ย...ไอ้หมอนั่น...มันอยู่ไหนของมัน"เธอเด้งขึ้นมาราวกับเพิ่งนึกขึ้นได้ ดวงตาเบิกโพล่งอย่างตกใจ

    �����������/ใคร...ใช่คนที่อยู่ในพุ่มไม้นั่นหรือเปล่า/ลุงผีทำหน้างงๆทั้งๆที่ใจร้อนรน คนๆนั้นจะมาเกี่ยวข้องอะไรกับชาช่า /ไม่นะ...ข้ายังไม่อยากส่งเจ้าให้กับท่านผู้นั้นดูแล/ลุงผีคิดอย่างเป็นกังวล�แต่ชาช่าไม่สังเกตเห็นสีหน้าอันหนักใจเหล่านี้เพราะเธอกำลังมองหางูว่าตามเธอมาหรือยัง แต่ก็ไร้ซึ่งวี่แวว แต่ก็ไม่อาจจะไว้ใจได้

    ���������� "ค่ะ"เธอตอบ "เป็นอะไรหรือเปล่าคะ"เธอถามเมื่อเห็นลุงผีถามเธอ ว่าแต่ลุงผีรู้ได้อย่างไรกันนะ ว่ามีคนอยู่ในพุ่มไม้ทั้งๆที่ลุงผีไม่ได้ตามเธอไปตลอดสักหน่อย หรือว่าลุงผีตามเธอไปตลอดแต่เธอไม่รู้เรื่องและลุงผีก็ไม่ได้คิดจะช่วยเธอ แค่ตามเธอเฉยๆ ลุงผีทำหน้าเครียดกว่าเดิมเล็กน้อย มากกว่าครั้งที่แล้ว

    ���������� /ลองจับไอวิญญาณดูว่าเป็นสีอะไรหรือยัง/ ลุงผีถามออกมาอีกครั้ง ลุงยังไม่แน่ใจอาจจะเป็นแค่คนที่ยังหลงเหลืออยู่ ไม่ใช่คนพวกนั้นที่มารับเธอไปก็ได้ ลุงผีได้แต่ภาวนาแต่มันคงไม่มีทางเป็นจริงอย่างแน่นอนเพราะว่าลางสังหรณ์ของลุงผีรู้สึกเช่นนั้น

    �����������"ทองค่ะ"สีนั้นทำให้ลุงผีสะดุ้งเฮือก สีนั้นอย่างนั้นหรือ สีนั่นเป็นสีไอวิญญาณเฉพาะของเทพชนชั้นสูงเท่านั้นนี่ โอ คงจถึงเวลาจริงๆแล้วอย่างนั้นสินะ

    ���������� /ทอง?/ลุงผีทวนคำอย่างไม่เชื่อหู /ไม่จริง...ทำไมมันถึงได้เร็วขนาดนี้/ลุงผีเหงื่อตก /มองผิดหรือเปล่า...ไอ้หนู/ลุงผีถามย้ำอีกครั้ง

    ���������� "ถูกแล้ว...เขายังเอามือถือให้หนูด้วย...ดูไอวิญญาณที่ตกค้างจากสิ่งของก็ได้นี่คะ"เธอยื่นโทรศัพท์ให้ลุงผีดู ไอวิญญาณสีทองเข้มข้นแผ่ออกมา ลุงผีพยักหน้าเบาๆพลางมองออกไปด้านหลังของตัวเอง

    ���������� /อืม.../ลุงผีตอบรับในลำคอ /ต้องออกไปช่วยเขาเสียหน่อย/ลุงผีพึมพำแต่เธอก็ได้ยินอยู่ดี ร่างบางผุดลุกขึ้นยืน

    ���������� "หนูออกไปเองละกัน...ลุงเหนื่อยแล้ว"เธอพูดอย่างอาสาก่อนจะกระโจนออกไป ไม่ทันทีลุงผีจะพูดห้ามหรือพูดอะไรได้ทัน

    ���������� /เฮ้อ...วัยรุ่นสมัยนี้ใจร้อนจัง/ลุงผีมองตามแผ่นหลังบอบบางออกไปอย่างปลงตก ต่อให้เอาช้างมาฉุดคงจะไม่ยอมกลับมานั่งรอลุงผีดีๆเป็นแน่ ทำไมลุงจะไม่รู้อยู่ดูกันมากี่ปี /ทำไม...ท่านถึงมาพรากนางไปจากข้าเร็วขนาดนี้/ ลุงผีคิดอย่างอาลัยอาวรณ์

    ��������������������������������������������������� O[]O[]O[]O[]O[]O[]O[]O[]O[]O

    ��������� ร่างบางวิ่งออกไปเรื่อยๆ เธอไม่ได้สังเกตเลยว่าหลังจากที่เธอกอดลุงผีแล้วแผลของเธอนั้นหายเป็นปกติดี�ยังคงเหลือแต่เพียงรอยคราบเลือดที่แห้งกรังเท่านั้น�เธอเสี่ยงที่จะเจองูมากกว่าเจอชายหนุ่มหลายเท่าตัว แต่มันก็ยังดีกว่าไม่เจอเลย เธออยากรู้ว่าเธอเพ่งไอวิญญาณผิดหรือเปล่า ธรรมดาเด็กรุ่นราวคราวเดียวกับเธอต้องเป็นสีแสดและเธอก็ไม่เคยเพ่งไอวิญญาณของใครได้เป็นสีทองมาก่อน...

    ��������� ...สีดำ มาจากผู้ทำงานในนรก...

    ��������� ...สีขาว ไอวิญญาณของผู้ไร้มลทิน...

    ��������� ...แต่ ไม่มีใครเคยบอกเธอเรื่องไอวิญญาณสีทองเลย!!...

    ��������
    � "เจอกันอีกแล้วนะ...นังหนู"เสียงของงูดังขึ้น ลำตัวของมันขวางอยู่เบื้องหน้าของเธอ พอหันไปด้านหลังก็เจอลำตัวขนาดมหึมามาขวางทางหนีของเธอไว้อีก คราวนี้เธอคงไม่รอดจากมันแน่ๆ มันเล่นเอาร่างมาล้อมเธอเอาไว้ขนาดนี้ ชาช่าหันซ้ายหันขวาเพื่อหาทางหนี แต่เธอก็ตระหนักได้แล้วว่ามันไม่มีทางอย่างแน่นอน ไม่รู้เลยว่าจะหนีออกไปได้อย่างไร ชาช่ามองหน้างู ดวงตาสีดำสะท้อนภาพของงู ดวงตาใสๆของงูก็กำลังสะท้อนภาพของเธออยู่เช่นกัน

    ��������� "บ้าชะมัด"ร่างเล็กสบถเสียงดังจ้องไปก็ไม่ได้อะไรสู้เอาเวลาไปหาจุดอ่อนหรือช่องว่างของมันจะดีกว่า ชาช่าพ่นลมหายใจอย่างกลุ้มใจ มองไปทางไหนก็เจอแต่หนังขาดๆ ขาวๆ ยุ่ยๆ เปื่อยๆ ใกล้จะฉีกอยู่รอมร่อ บางแห่งเป็นรอยขาดเหมือนผ้ารุ่งริ่ง พลันสายตาของเธอ ก็เหลือบไปเห็นหางกุดๆของมัน ทำให้มันดูตัวสั้นลงไปมากโข "คิกๆๆๆ" เธอเผลอไปหัวเราะยั่วประสาทของมันเข้าอย่างไม่ได้ตั้งใจ เจ้างูยักษ์เส้นอารมณ์ชักกระตุก�ใกล้จะขาดผึงอยู่แล้ว และเธอก็คิดออกมาได้ว่าเธอควรจะทำอย่างไรต่อไป

    ����������"ขำอะไรวะ?"งูตวาด หวังให้เธอกลัว เมื่อเห็นหางตัวเองก็รู้ได้ทันทีว่าเธอขำอะไร จึงคำรามออกมา ก่อนพุ่งเข้ามารัดตัวเธออย่างรวดเร็ว ร่างบางหลบวืด ตอนนี้เธอได้ช่องว่างที่จะหนีออกไปแล้วจึงพุ่งตัวออกไปอย่างรวดเร็ว แต่ทว่าก็ช้ากว่าหางกุดๆของงูที่พุ่งตามเธอมาแล้วฟาดร่างผอมบางกระเด็นไปไกล มันไม่ใช่เรื่องดีสักนิด หากเธอโดนฟาดออกไปไกลๆแล้วตกลงบนพื้นหรือต้นไม้ก็ว่าไปอย่าง...แต่นี่มันบ่อปลานี่!!

    ���������� ร่างบอบบางหล่นตูมลงไปในน้ำ ผิวน้ำแตกกระจายไปรอบ ชาช่าดำดิ่งลงสู่ใต้ผืนน้ำอีกครั้งหนึ่ง คราวนี้ปลาประหลาดคงไม่ปล่อยเธอไป มันล้อมเธอเอาไว้ เธอถูกกักไว้เหมือนเป็นกรงวงกลมขนาดยักษ์ เธอหันซ้ายหันขวา ไม่มีช่องทางออกเสียแล้ว มือบางปิดปากตัวเอง เธอไม่ได้กลั้นหายใจนี่นา แล้วตอนนี้เธอกำลังจะหมดอากาศหายใจแล้ว

    ���������� สติของเธอเริ่มเลือนลาง ทุกอย่างที่เห็นเริ่มพร่ามัว ร่างกายชาจนไม่อาจจะขยับได้อีกต่อไป ปลายนิ้วเย็นเฉียบไร้ความรู้สึก อึดอัด ทรมาน นี่เป็นความรู้สึกของคนใกล้จะตายอย่างนั้นสินะ ชาช่าอ้าปากออก ฟองอากาศก็ลอยออกมาจากปาก น้ำจำนวนมากเข้าไปแทนที่ พวกฝูงปลาขยับมาใกล้เธอเรื่อยๆ ถึงแม้พจน์จะช่วยเธอไว้ แต่เธอก็ต้องตายอยู่ดีอย่างนั้นสินะ พจน์...ชาช่ากำลังจะตามไปแล้วนะ อีกไม่นานนี้

    ��������� หมับ!!

    ���������� แสงสีเงินแสบตาพุ่งเข้ามาจับแขนของเธอเอาไว้แน่น แล้วดึงเธอให้เข้ามาใกล้กับกลุ่มก้อนแสงสีเงินนั่น ร่างบางที่ใกล้สิ้นสติเห็นดวงตาสีเงินของใครบางคนและโครงหน้าคุ้นเคย ความสงสัยผุดวาบขึ้นมาในหัว...ใครกันนะ แต่ยังไม่ทันที่เธอจะได้ทำอะไร ริมฝีปากของสิ่งนั้นก็ประกบเข้ากับปากของเธอ ร่างบางได้รับอากาศก่อนที่เธอจะถูกอะไรบางอย่างฉุดขึ้นไปด้านบน ลอยหวือขึ้นไปคว้างอยู่กลางอากาศ

    ��������� งูมีสีหน้าไม่พอใจเท่าไรนักเมื่อเห็นร่างของเธอกำลังจะร่วงลงมาตามแรงโน้มถ่วงของโลก ก่อนจะเหลือบมองไปทางบ่อน้ำที่มันจงใจจะให้เธอตกลงไปเมื่อเห็นเศษซากปลาประหลาดจำนวนมากก็กรีดร้องเสียงแหลมออกมา ภาพนั้นช่างดูคุ้นเคย เหมือนกับตอนที่เธอเห็นแม่ของเด็กที่เธอไปช่วยออกมาตอนนั้นไม่มีผิด

    ��������� "แก...กล้าทำแบบนี้ เห็นทีคงจะไม่ถึงมือ 'นาย' ซะแล้ว แกต้องตายยยยย"มันคำราม เธอไม่รู้หรอกว่ามันพูดถึงอะไร แต่ว่าตอนนี้ร่างที่กำลังลอยอยู่บนฟ้ากำลังจะตกลงสู่พื้นด้วยท่าเดียวกับเวลาเล่นบันจี้จัมพ์ งูก็ใช้หางกุดๆของมันคว้าหมับเข้าที่ข้อเท้าของเธออย่างแม่นยำ ร่างบางหอบหายใจและสำลักน้ำ มองงูด้วยดวงตาที่แข็งกร้าว

    ���������� "มีอะไรจะบอกก่อนลามั้ย"คราวนี้มันคงไม่ปล่อยเธอง่ายๆแบบตอนนั้นแน่ๆ เธอจึงไม่ได้พูดอะไร อีกอย่างงูจะปล่อยให้เธอตายตั้งแต่ตอนที่ฟาดเธอไปยังบ่อปลาแล้ว แต่ทว่าก็มีบางอย่างมาช่วยเธอเอาไว้ จะด้วยวิธีการใดนั้นเธอมองไม่ทันจริงๆ มันรวดเร็วเอามากๆจนเธอคิดว่ามันอาจจะเป็นการคิดไปเอง ที่งูดึงเธอขึ้นมาแล้วฟาดหางไปโดนปลาพวกนั้นจนมันตายหมดบ่อ เศษชิ้นส่วนกระจัดกระจายเต็มบ่อไปหมด...แต่สัมผัสเย็นเฉียบจากริมฝีปากนั้นยังคงตราตรึงอยู่ในหัวของเธอไม่ห่างหาย เธอเหม่อจนไม่รู้ว่าอันตรายอยู่ใกล้แค่ปลายจมูก

    ���������� "ไม่มี...โชค..."

    ���������� ฉึก!!

    ���������� ดวงตาที่ใสราวกับลูกแก้วถูกมีดสั้นเล่มหนึ่งปักตรงกลางอย่างแม่นยำ ของเหลวสีดำข้นๆหนืดๆ ไหลทะลักออกมา กลิ่นควาเลือดปนกลิ่เน่าเหม็นคละคลุ้งไปในอากาศ�ร่างบางมองมีเล่มนั้นก็จำได้ทันทีว่าเป็นมีดของเธอ แล้วหันไปมองทางต้นไม้ใหญ่ที่มีดสั้นเล่มนั้นพุ่งออกมา ดวงตาของเธอเบิกขึ้น�รู้สึกตกใจและดีใจอย่างบอกไม่ถูก

    ���������� "หนอย!...มีอีกคนรึ...หรือว่าจะเป็นลุงผีนั่นล่ะ"งูแสยะยิ้ม "เปลี่ยนใจแล้ว...เอาพวกแกกลับไปด้วยดีกว่า" งูปล่อยเธอกระแทกพื้น ก่อนใช้หางกุดๆฟาดเข้าที่ท้ายทอยของเธออย่างแรง

    ��������� "อัก!!"ร่างบางชาไปทุกส่วน แต่ว่าไม่ได้หมดสติไป "บ้าจริง...ลุงผีไปไหนนะ!!"เธอคิดอย่างเป็นกังวล

    ��������� หางกุดๆของมันเอื้อมมาดึงมีดเล่มนั้นออกปากลับไปทางที่มันพุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว ก่อนจะหันมาหาเธออีกครั้งหนึ่ง ร่างเล็กใช้มุขเดิมคือปาทรายใส่ตางูอีกครั้งหนึ่งก่อนจะลุกวิ่งไปอีกครั้งหนึ่งงูคำรามลั่น สะบัดหัวไปมาพยายามทำให้ทรายออกจากตาของมัน แต่ทว่าก็ไม่สามารถทำได้ และในตอนนั้นเองมันก็เห็นบางอย่างที่เลือนราง มันเป็นพลังสีเงินที่พุ่งเข้าไปในต้นไม้ที่มันปามีดไป งูทำหน้าเหมือนคิดอะไรได้ก่อนจะเลื้อยพลางขยี้ตาไป

    ��������� /แบบนี้...ก็ไม่ต้องไปอาลัยอาวรณ์อะไรแล้วล่ะ...ชาช่า/

    ��������� ลุงผีจ้องมองก่อนจะค่อยๆหายไป

    ������������������������������������������� O[]O[]O[]O[]O[]O
    []O[]O[]O[]O[]O

    ��������� ชายหนุ่มหน้าหวานเอามือกุมต้นแขยของตัวเองที่มีเลือดไหลอาบ เขาหอบหายใจถี่ๆ ดวงตาข้างหนึ่งปิดลงอีกข้างหนึ่งพร่ามัว แผ่นหลังที่ดูแข็งแกร่งนั่นพิงต้นไม้อย่างหมดสภาพ ความเป็นจริงแล้วแค่มีดเล่มเดียวไม่ทำให้เขาเป็นได้ถึงขนาดนี้ ตอนนี้กำลังพุ่งเข้ามาหาเขา ดวงตาที่ตอนนี้แทนที่จะเป็นสีน้ำตาลกลับกลายเป็นสีทอง

    ��������� "พี่...บ้า..."เสียงแหบแห้งพึมพำ พลังสีเงินเริ่มก่อตัวเป็นรูปร่างเหมือนกับเขาไม่มีผิด เพียงแต่ดวงตาคู่สวยคู่นั้นเป็นสีเงินเปล่งประกาย แลดูดุกว่าเท่านั้นเอง ชายหนุ่มตาสีทองมองพลังสีเงินด้วยแววตาไม่ใคร่จะพอใจเท่าไรนัก

    �������� *แกก็น่าจะรู้นี่...ว่านางต้องรอด*พลังสีเงินบอก

    �������� "ก็ไม่ได้หมายความว่าให้พี่ออกไปโดยพละการนี่"ร่างสูงบ่นพึมพำ

    �������� *เลิกบ่นได้แล้ว*อีกฝ่ายทำหน้าเอือมระอากับร่างสูงเต็มกลืนก่อนจะค่อยๆ แทรกเข้าไปในร่างของชายหนุ่มอย่างช้าๆ อีกฝ่ายหลับตา รู้สึกเหมือนมีเหล็กเย็นๆ มาเสียบเข้าไปในร่างของตัวเอง พลังของเขาค่อยๆกลับคืนมาอีกครั้ง แต่มันก็ช้าเสียจนน่าหงุดหงิด มันฟื้นพลังให้เร็วกว่านี้ไม่ได้หรืออย่างไรกันนะ

    ������� พรึบ

    ������� เสียงของบางอย่างทำให้เขาต้องหันไปมอง ไม่มีอะไรน่าไว้ใจทั้งนั้นในสถานการณ์แบบนี้ ร่างสูงหลบวืดและดึงมีดที่แขนของตัวเองแล้วปักเข้ากับหน้าของงูที่กำลังยื่นเข้ามา มันหลบทันก่อนที่จะวกกลับมางับตัวเขาก่อนจะปล่อยตัวเขาให้จมหาไปกับผิวหนังยุ่ยๆของมัน ชายหนุ่มไม่มีโอกาสร้องอุธรณ์ใดๆทั้งสิ้น
    __________________________���������

    จัดหนัก และจัดเต็ม

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×