ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    uncanny พิสูจน์ไม่ได้(รีไรท์รอบสามแล้วโว้ย)

    ลำดับตอนที่ #4 : ลางสังหรณ์ที่III:เที่ยวพิพิธภัณฑ์มรณะI(รีไรท์4)

    • อัปเดตล่าสุด 21 เม.ย. 54


    ลางสังหรณ์ที่III:เที่ยวพิพิธภัณฑ์มรณะI(100%)

               --เดือนตุลาคน25XO--

              ร่างบางเดินลงมาจากข้างบนด้วยท่าทางงัวเงีย ทั้งๆที่อาบน้ำแปรงฟันเปลี่ยนชุดแล้วแท้ๆ แต่ทว่าดวงตาทั้งสองข้างยังคงปรือๆด้วยความง่วงงุง ชาช่าลงมางับขนมปัง  โฮลวีตหนึ่งแผ่นเตรียมขึ้นไปข้างบน พลันสายตาก็ไปสะดุดกับบางสิ่งบนโต๊ะ...หนังสือพิมพ์ฉบับเมื่อเช้า ปกติแม่จะไม่ซื้อหนังสือพิมพ์แต่ทำไมวันนี้ถึงได้ซื้อมากันล่ะเนี่ย แต่อะไรก็ไม่น่าสนใจเท่าตัวหนังสือตัวโตที่พาดหัวอยู่บนหนังสือพิมพ์ ซึ่งชวนอ่านเป็นอย่างยิ่ง...สำหรับเธอ

              'ตายสยอง!...ปลาประหลาดไล่กัดกินผู้คนในพิพิธภัณฑ์จังหวัดA  อ่านต่อหน้า12'

              ร่างบางเบิกตาที่ปรือด้วยความง่วงงุนขึ้นนิดหน่อยพอให้อ่านหัวข้อข่าวตัวโตที่หราบนหนังสือพิมพ์นั่นได้ เธอเลื่อนสายตาลงไปด้านข้าง ภาพปลาสีขาวลูกตากลมใสเหมือนลูกแก้ว หน้าตาเหมือนปลาช่อนอเมซอนไม่มีเกล็ด ผิวหนังสีขาวขาดรุ่งริ่งมันเหมือนอืดจนแทบปริ...ไม่ต่างจากศพขึ้นอืด ฟันคมกริบสีขาวเต็มปาก ตัวยาวประมาณ 2 เมตรและภาพแขนขาของใครไม่รู้ ไม่สามารถระบุได้ว่าเป็น อายุ เพศอะไร ภาพเล็กๆนั่นปรากฎอยู่ทางด้านล่างขวาของปลา

              คงเป็นภาพข่าวที่น่าสนใจมากสำหรับคนกำลังกินอาหารเช้าอย่างเธอ เธอยกนมขึ้นมาดื่มช้าๆพลางพลิกดูรายละเอียดในหน้าต่อๆไป ไม่มีอาการผิดปกติใดๆทั้งสิ้น หากเป็นคนอื่นคงจะกินข้าวไม่ลงหรือไม่ก็วางหนังสือพิมพ์ละความสนใจจากหน้านั้นเสีย แต่นี่กลับไม่สะทกสะท้านเลยสักนิดเดียว ดูจะสนใจอีกต่างหาก

             "ชาช่า...ปิดเทอมนี้ไปเที่ยวจังหวัด A กันนะลูกเนอะ"แม่โผล่อหน้าออกมาจากห้องครัวตะโกนเมื่อเห็นลูกลงมาแล้ว ดูเหมือนว่าจะไม่ได้อ่านหนังสือพิมพ์เลยนะแม่ของเธอเนี่ย แต่เอาเถอะอยากไปก็อยากไปไม่ได้ว่าอะไร คงไม่ได้ไปที่พิพิธภัณฑ์หรอกกระมัง เกิดเหตุการณ์แบบนี้น่าทางพิพิธภัณฑ์น่าจะปิดให้บริการ หรือไม่ก็แม่ของเธอคงจะไม่ให้เธอและน้องๆไปอย่างแน่นอนเป็นอันขาด

             "ค่ะ"เธอตอบกลับไปสั้นๆก่อนลุกขึ้นไปข้างบน "ไปวันไหนคะ"เธอตะโกนถามจากกลางบันได เหมือนกับว่าเพิ่งจะนึกขึ้นมาได้ หลังจากที่กลับมาจากงานศพของพจน์แม่ของเธอก็ไม่เคยสบตาตรงๆกับเธอเลย ราวกับว่ากลัวเวลาเธอจ้องตาแม่ แม่จะต้องตายอย่างไรอย่างนั้น

             "มะรืนนี้จ้า"แม่ตะโกนตอบกลับมาบ้าง แล้วล้างจานต่อ ไม่แม้แต่จะโผล่ออกมามองหน้าเธอเลยแม้แต่น้อย ร่างบางรู้สึกน้อยใจและห่างเหินอย่างบอกไม่ถูก เจ้าของหัวใจดวงน้อยเติบโตเติบโตขึ้นท่ามกลางความหวาดกลัวของคนรอบข้างและความโดดเดี่ยว ถึงแม้ชาช่าจะเข้มแข็ง จะไม่ร้องไห้ต่อหน้าพจน์ก็ตามที แต่ว่ามันก็เกิดบาดแผลขึ้นมาในจิตใจของเธอเสียแล้ว ความจริงอันโหดร้ายก็คือแม่และพ่อหวาดกลัวเธอ!!....

             ...แต่อีกนัยหนึ่งแม่และพ่ออาจจะรังเกียจเธอแบบคนอื่นก็เป็นได้...

             บนโลกนี้อะไรก็ถูกไขความลับออกมาได้หมด ไม่มีอะไรที่มนุษย์ไม่รู้ แทบจะรู้หมดเลยก็ว่าได้ แต่ทว่ามีสิ่งเดียวที่ทำอย่างไรมนุษย์ก็ไม่สามารถเข้าใจหรือเข้าถึงมันได้อย่างหมดจดเสียที เป็นสิ่งที่ไม่สามารถใช้วิทยาศาสตร์ทำความเข้าใจหรือทำการพิสูจน์ได้เลยแม้แต่น้อยสิ่งนั้นไม่ได้ไกลจากตัวเราแม้แต่น้อย...

             ...มันคือจิตใจอันวกวนของมนุษย์...

             ไม่ว่าอย่างไรเราก็ไม่สามารถเข้าใจได้เสียทีว่าจิตใจของเรานั้นเป็นอย่างไร แม้แต่มนุษย์เองก็ไม่สามารถเข้าใจของพวกเดียวกันเองได้เลยแม้แต่น้อย ว่าพวกเขารังเกียจ ชิงชัง อยากมีอยากได้ อยากเอาชนะกันเองมากเพียงไร ทั้งๆที่ก็เป็นพวกเดียวกันเองแท้ๆ แต่ทำไมพวกเขาต้องแข่งขัน ชิงดีชิงเด่นกันด้วยก็ไม่รู้ แต่อยากรู้ไปก็เท่านั้น มันไม่สามารถเปลี่ยนเปลงอะไรในอดีตของเธอที่เกิดขึ้นได้อีกแล้ว ทุกอย่าง มีแต่จะต้องดำเนินต่อไปข้างหน้าเท่านั้น

             พ่อของเธอทำธุกิจส่วนตัวและแม่ของเธอก็เป็นแม่บ้านเพราะฉะนั้นจะหยุดเมื่อไหร่ก็ได้แต่จะหยุดยาวจริงๆก็ช่วงปิดเทอมนี่แหละเพราะจะได้พาลูกๆไปเที่ยว ช่างดูเป็นครอบครัวที่อบอุ่นเสียจริงๆ แต่มันก็ตรงข้ามกับความห่างเหินที่พ่อและแม่ของเธอทำกับเธอ ยกเว้นแต่น้องสาวที่ยังคงเป็ยกำลังใจให้กับเธอ
     
            "ฮ่าๆๆๆ...เจ้ช่า ดูการ์ตูนมั้ย"น้องคนโตชื่อลาล่าพูด ส่วนอีกคนชื่อซาซ๋าสองคนนั้นยังไม่ปิดเทอมแต่ก็ไม่เจียมตัวว่าจะกำลังสอบ กลับนั่งดูการ์ตูนเรื่องโปรดกันอยู่อีกต่างหาก เธอชักอยากถอดปลั๊กโทรทัศน์ทิ้งเสียแล้วสิ แต่ก็ปล่อยไว้เพราะว่ามันไม่ใช่เรื่องของเธอ อยากทำร้ายตัวเองดีนัก เกรดออกมาแล้วร้องไห้ไม่รู้ด้วยเหมือนกัน

           "ไม่เอา...ขี้เกียจ"เธอพูดพลางหาวและแน่นอนเธอจะไปนอนต่ออย่างไม่ต้องสงสัย เสียงของการ์ตูนดังจนน่ารำคาญ อยากให้น้องปิดเสียเหลือเกินเพราะเสียงมันดังขึ้นไปถึงข้างบนรบกวนการนอนของเธอ

            "ระวังน้า...ราจะขึ้นบนตัวพี่"ลาล่าตะโกนอย่างเล่นๆ ไม่ได้รับรู้ถึงความน่ากลัวที่ค่อยๆแผ่ออกมาจากร่างบอบบางของพี่สาวเลยแม้แต่น้อย

            "หึๆๆ...แต่พี่ว่าระวังตัวเองไว้ก่อนดีกว่านะเดี๋ยวจะมีเคราะห์โดยไม่รู้ตัว"ชาช่าแค่นหัวเราะเสียงเย็น ลาล่าสะดุ้งเฮือกก่อนจะหรี่เสียงโทรทัศน์แล้วลุกไปอ่านหนังสือสอบอย่างหวาดๆ

            "ขอบใจ"พี่สาวหัวเราะเบาๆ ก่อนจะเดินขึ้นไปข้างบน

                                      O[]O[]OO[]O[]O[]O[]O[]OO[]O[]O[]O[]O

            --จังหวัดA--

            พ่อของชาช่ากำลังขับรถไปจองห้องที่โรงแรมเป็นเวลา 4 วัน 3 คืนเธอลองส่องกระจกดูไอวิญญาณของตนเองแต่ก็ไม่รู้ว่ามันเป็นสีอะไรเพราะมันดำมืดไปหมดเลยต้องเรียกน้องมาดูเพราะเธอรู้สึกสังหรณ์อะไรบางอย่างแปลกๆ และลางสังหรณ์ของเธอมักจะไม่ค่อยจะดีเท่าไรนัก...

            ...ไอวิญญาณสีส้มหม่นลง...

            แสดงว่ากำลังจะมีเคราะห์ แน่นอนว่าเราไปกันเป็นหมู่คณะไม่แคล้วว่าจะต้องมีเคราะห์พร้อมๆกันหากน้องเธอไม่เซ่อซ่าจนเกินไป แต่เธอแอบมองไอวิญญาณของพ่อและแม่ ไอวิญญาณก็เป็นสีเลือดหมูตามปกติแต่พอมองซาซ่า...

            ...ไอวิญญาณสีเหลืองไข่หม่นลงเช่นกัน...

             ต้องมีอะไรเกิดขึ้นกับเธอและจอมจุ้นทั้งสองเป็นแน่แท้แต่ก็โชคดีที่ไม่มีใครถึงฆาต หากใครสักคนตายในครอบครัวของเธอตายไป เธอต้องโทษตัวเองไปตลอดชีวิตแน่ๆ แต่เธอก็ไม่พูดอะไรเพราะกลัวว่าทั้งหมดอาจจะแตกตื่น เธอจะคอยระวังเจ้าจอมซนทั้งสองเอาไว้เองจะดีกว่า

              เมื่อก่อนเธอมีแต่ลางสังหรณ์ที่บางครั้งมันดูเหมือนจะเบาบาง เลยไม่ได้สังเกตและใส่ใจมากมายอะไรนักหนา เธอจึงเกือบเจ็บตัวอยู่หลายหนแต่พ่อของเธอก็ช่วยเอาไว้ได้ คราวนี้เธอมีความสามารถมองเห็นไอวิญญาณได้แล้วตามที่วิญญาณตนนั้นได้สอนเธอ ชาช่าจึงใช้ความรู้ตรงนี้ให้เป็นประโยชน์

            "ถึงแล้ว"พ่อของเธอเลี้ยวรถ เข้าไปจอดรถในสถานที่แห่งหนึ่ง...

            ...พิพิธภัณฑ์...

            ชาช่ากระตุกยิ้มมุมปาก ลางสังหรณ์ของเธอกำลังบอกว่ามีอะไรที่ไม่ธรรมดากำลังจะเกิดขึ้น เธอลงจากรถตามพ่อแม่และน้องๆเข้าไปชมปลาในนั้นพยายามควบคุมหัวใจและเลือดที่ฉีดพล่านในร่างของเธอ...

             ...เธอกำลังกลัวหรือตื่นเต้น...

             เธอไม่แน่ใจระหว่างความรู้สึกสองอย่างนี้ใจหนึ่งก็กลัวว่าน้องทั้งสองคนจะเป็นอะไรไป อีกใจหนึ่งก็ตื่นเต้นว่าจะเจอปลาในหนังสือพิมพ์หรือไม่ถ้าเจอแล้วจะทำอย่างไร ความรู้สึกทั้งสองอย่าง อย่างไหนมากกว่ากัน

             "ไปดูปลาที่เขาเพาะพันธุ์เอาไว้ด้านนอกมั้ยลูก...เขากำลังอนุรักษ์อยู่นะจ๊ะ"แม่บอกยิ้มๆอย่างไรก็ยังไม่หันมามองหน้าของเธออยู่ดี มองแต่น้องๆทั้งสองคนที่หันขวับไปทางเธออย่างอัตโนมัติ "ชวนพี่ไปด้วยนะ"

             "เอาสิคะๆๆ...เจ้ช่า...ล่าอยากไปดูลูกปลาตัวเล็กๆน่ะ"ลาล่าเริ่มมาเกาะแขนซ้ายของเธอแล้วเขย่าเบาๆ พอเป็นพิธีให้พี่สาวคนนี้เริ่มรู้ตัวว่าไปกับน้องสาวทั้งสองเสียดีๆ อย่าได้ขัดขืนหรือบ่ายเบี่ยงด้วยประการทั้งปวง

             "ซ่าเองก็อยากไปดูปลานะคะ"ซาซ่าเกาะแขนขวาของเธอเริ่มเขย่าแขนแรงกว่าลาล่าเล็กน้อย ชาช่าผ่อนลมหายใจ หมดทางหนีแล้วสินะเนี่ย ไม่มีตัวเลือกอื่นสำหรับพี่สาวเลยหรืออย่างไรกันนะ มาเที่ยวทีเหมือนพี่เลี้ยงเด็ก ไม่ได้พักบ้าง แม่ของชาช่ายิ้ม แม่เลี้ยงมาทั้งปี 4 วันนี้กะจะโยนสองตัวแสบมาให้เธอเลี้ยง

             "น้าๆๆๆๆๆ...นะๆๆๆ"เสียงใสๆประสานกันมันดูน่ารำคาญมากกว่าน่าสงสาร และการเขย่าประสานก็เป็นแรงประมาณ 2 ริกเตอร์ (เฮ่ย...จะบ้าเรอะเครื่องในเคลื่อนหมด)เธอสั่นตามแรงนั้น อย่างช่วยไม่ได้ แม่หัวเราะ

             "ใครเป็นน้าฟระ...ฉันยังไม่แก่ขนาดนั้นเฟร้ย"เธอพูดและแน่นอนหาเรื่องไม่ไปกับไอ้จอมยุ่งทั้งสองนี่เอง แต่ก็ทำไม่ได้...

             "please~"ทั้งสองหยุดเขย่า ประสานสายตาน่าสงสารปนน่าถีบกับน้ำเสียงน่ารักเสียเหลือเกิน ทว่ามันใช้ไม่ได้ผลกับเธอนักหรอก ชาช่าค่อนข้างจะใจแข็งอยู่พอสมควรแต่สุดท้ายเมื่อเห็นว่าเป็นน้องสาว ดวงตากลมโตของเธอปิดลงอย่างเซ็งในอารมณ์ก่อนจะผ่อนลมหายใจ...ไปก็ได้

             "เอ้า...ไปก็ไป"เธอพูดอย่างเบื่อๆ สุดท้ายก็ใจอ่อนยอมไปจนได้ ในกรณีแบบนี้มันหลีกเลี่ยงไม่ได้ เธอต้องพาน้องไปแล้วให้แม่กับพ่อของเธอนั้นได้พักผ่อนจากเสียงอันน่ารักของน้องๆทั้งหลายเหล่านี้บ้าง

             "เย่!!"ทั้งคู่กระโดดหอมแก้มพี่พร้อมกัน ก่อนจะลากออกไปด้านนอกที่มีคนเดินออกไป

            "เฮ่ย...เบาๆ...ช้าๆด้วย!!"เธอโวยวายอย่างเสียมิได้ แขนทั้งสองข้างมีเจ้าตัวยุ่งทั้งสองเกาะอยู่ ไม่สามารถหาทางหนีทีไล่ได้เลย ลาล่ากับซาซ่าไม่ได้หลอกง่ายๆเหมือนตอนทั้งคู่ยังเด็กๆ ที่ชาช่ามักจะแอบสลัดทั้งคู่ทิ้งแล้วปล่อยให้ทั้งคู่วิ่งวนหาตัวเธอ โดยมองดูอยู่ห่างๆ เป็นการลงโทษที่ไปทำลายช่วงเวลาอันเงียบสงบของเธอให้มีแต่ความวุ่นวาย พอกลับไปหาน้องๆก็ฟ้องแม่ทำให้เธอเกือบถูกลงโทษ 

              ที่เธอแค่เกือบถูกลงโทษนั่นก็เป็นเพราะว่า ชาช่าทำหน้าเจ็บปวดแล้วพูดว่า "ก็พากลับมาได้ไม่ใช่หรือไง" สีหน้าท่าทางแบบนั้นทำให้แม่ของเธอนึกถึงตอนที่ชาช่าไม่สามารถช่วยพนจ์กลับมาได้ หากเธอต้องการจะทิ้งน้องสาวทั้งสองของเธอจริงๆแล้วล่ะก็ คงไม่พากลับมา และเธอเองก็ยังคงรู้สึกผิดที่ไม่สามารถช่วยพจน์ได้ 

               เธอไม่อยากจะสูญเสียใครไปอีกแล้ว...

                "เจ้ช่า...เป็นอะไรหรือเปล่า ไม่อยากมาจะกลับก็ได้นะ"ลาล่าถามขึ้น

                "เปล่า...แค่คิดเรื่องบางอย่างเฉยๆ...ไปกันเถอะ...ไอ้หนู"ชาช่าฉีกยิ้มให้กับน้องสาวอย่างฝืดฝืนเป็นที่สุด ลาล่าสลดลงเล็กน้อยใบหน้าน่ารักนั่นก้มลง ทำหน้าเหมือนกับว่าเป็นคนผิดเองที่ชวนพี่สาวมาด้วย

                "เจ้ช่าคิดถึงพี่พจน์ใช่มั้ย...อยากให้เขามาสนุกตรงนี้ด้วยใช่มั้ย"ลาล่าพูดด้วยน้ำเสียงเศร้าๆ ไม่สมกับวัยของตนเองเอาเสียเลย

                "ล่า...ไม่เอาน่าพี่พจน์เขาไปสบายแล้ว...ป่านนี้พี่เขาก็คงมองเราอยู่บนสวรรค์ล่ะมั้ง"ชาช่าเอามือมาขยี้หัวน้องสาวของตัวเอง ถึงแม้บางทีชาช่าจะเป็นคนเงียบๆ ไม่พูดจาและจมอยู่กับอดีตที่เจ็บปวด แต่จริงๆแล้วเธอเองก็เป็นแค่พี่สาวคนหนึ่ง เป็นพี่สาวที่อบอุ่นและใจดีกับน้องๆอยู่เสมอ แค่ขี้แกล้งเกินไปหน่อยเท่านั้น

                "จริงๆนะ..."ลาล่าทำหน้าอึ้งๆไปเล็กน้อย กับอารมณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปของพี่สาว "เจ้ช่าไม่เศร้าเรื่องพี่พจน์แล้วเหรอ"น้องสาวถามพี่สาวอีกครั้งเป็นการย้ำให้แน่ใจ

               "หึๆ...คนตายทั้งคนใครจะไปหายเศร้า...ยิ่งตัวเองเป็๋นสาเหตุอีก...พี่คงโทษตัวเองไปตลอดชีวิตนั่นแหละ"เธอเปลี่ยนโหมดอีกแล้ว

               "หนูอยากได้พี่สาวที่ร่าเริงของหนูกลับมา...คนที่ใช้ชีวิตอย่างมีจุดหมายเหมือนเจ้ตอนเด็กๆ...ไม่ใช่คนที่ใช้ชีวิตแบบทำหน้าอยากตายเหมือนเจ้ในตอนนี้"ซาซ่าพูดพลางเบ้ปาก เด็กวัยหกขวบกลับพูดเป็นการเป็นงานอย่างไม่น่าเชื่อ ทำให้ชาช่าถึงกับอึ้งไปเลย ใช่ที่ผ่านมาตั้งแต่พจน์ตายเธอก็ใช้ชีวิตแบบของไปที แบบว่าวันนี้มีลมหายใจพรุ่งนี้อาจไม่มี ตายๆตามเพื่อนของเธอไปเลยได้ยิ่งดี

                "ซ่า...ล่า..."ร่างบางอึ้ง นี่เธอเปลี่ยนไปจนคนรอบข้างเป็นห่วงเธอขนาดนี้เลยหรือ ที่ผ่านมาเธอโทษแต่ตัวเอง จนไม่ได้ดูคนรอบข้างเลยว่าเขารู้สึกอย่างไร ชาช่ายิ้มออกมาจากใจจริงหลังจากที่ไม่ได้ยิ้มแบบนั้นมาหลายปี

                 "ต้องอย่างนี้สิ...พี่สาวเรา...เป็นแป๊ะยิ้มอย่างนี้สิของแท้"ลาล่าตบไหล่ของพี่สาว พลางหัวเราะ 

                  "ว่าไงนะ...ไอ้ตัวแสบบบบบ...ไม่ตายดีแน่ไอ้หนู!!!"พูดจบ มาดพี่สาวแสนดีก็หมดลง กลายเป็นปีศาจวิ่งแยกเขี้ยวฮึ่มแฮ่ใส่น้องสาวซึ่งเป็นปีศาจตัวน้อยจอมยั่วประสาทพี่สาวทั้งสองคน และแล้วทั้งสองตัวแสบก็หัวเราะออกมาอย่างครื้นเครงโดยไม่ได้รู้ตัวเลยว่า...

                  อันตรายได้คืบคลานเข้ามาหาทั้งหมดอย่างช้าๆ...

    ________________________________

    555+  ปั่นใหม่ๆ ยาวจุใจ(หรือเปล่า)

    พิมเร็วขึ้นจากประสบการณ์พิมพ์โครงงานเกือบร้อยหน้า

    พลิ้วเรยกรู แต่งานอื่นหมดสภาพต้องให้รุ่นน้องช่วยพิมพ์เหอๆ

    น่ารักชิบพิมพ์ให้ด้วยแหละ





    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×