ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    once upon a time กาลครั้งหนึ่งซึ่งมีเธอ

    ลำดับตอนที่ #3 : รอยเท้าที่2:วิ่งสุดฝีเท้า(100เปอร์เซ็นต์)

    • อัปเดตล่าสุด 28 พ.ค. 57


    รอยเท้าที่2:วิ่งสุดฝีเท้า

                  เชลลีนวิ่งหนีเด็กชายทั้ง 3 คนอย่างรวดเร็ว เธอวิ่งอย่างที่ไม่เคยวิ่งมาก่อนในชีวิตนี้ ดวงตาสีเหลืองเหลือบมองไปด้านหลัง ทั้ง 3 คนยังวิ่งตามต่ออย่างไม่ลดละ ร่างขนปุกปุยยิ่งต้องเร่งฝีเท้า แล้วสะดุ้งสุดตัวเมื่อไปเหยียบก้อนกรวดร้อนๆเข้า ยิ่งวิ่งเธอก็ยิ่งไม่คุ้นในสถานที่ไม่รู้จัก ไม่มีความคุ้นเคย หากเป็นคนธรรมดาหลงทางก็กลัวจะแย่อยู่แล้ว แต่นี่เธอกลายเป็นเพียงแมวสีขาวตัวเล็กๆเท่านั้น ทำให้เธอยิ่งทวีความหวาดกลัวภายในจิตใจของตัวเองเข้าไปใหญ่

                  "ทำไมมันไวขนาดนี้วะ!!"เด็กชายคนที่เป็นเหมือนหัวโจกตะโกน และหยุดยืนหอบ ทำให้คนอื่นๆหยุดวิ่งไปด้วย และเป็นโอกาสดีที่จะให้เชลลีนหนีให้พ้นเงื้อมือของพวกเด็กพวกนี้ ร่างสีขาววิ่งไปหอบอยู่หลังพุ่มไม้พุ่มหนึ่ง เหงื่อเม็ดโป้งไหลอาบใบหน้าของแมวน้อย หน้าอกของมันกระเพื่อมขึ้นลงอย่างไม่เป็นจังหวะ ดูแล้วทรมานที่สุด เด็กสาวในร่างแมวน้อยแทบจะล้มทั้งยืน เธอไม่เคยวิ่งไว และระยะทางมากขนาดนี้มาก่อนเลยในชีวิต ตั้งแต่เกิดมาเป็น 'คน'

                  "แล้วพวกแกจะหยุดวิ่งทำปลากระป๋องอะไรไม่ทราบ...หามันต่อสิวะ!"เสียงของหัวโจกดังแว่วๆมาไกลๆ เชลลีนแทบจะทรุดลงไปนอนกองที่พื้น เธอพยายามทำตัวให้แบนและเล็กที่สุดเท่าที่จะำทำได้  แต่ว่ามันไม่ทางที่จะเป็นไปได้

                   "แล้วนายล่ะ...แทนที่จะเอาแมวตัวเก่ามาเล่น อยากได้ไปทำไมก็ไม่รู้"คนที่อ้วนที่สุดถามปนหอบ

                  "ใช่ๆ...วิ่งไล่ตัวนี้ทำไม"อีกคนถามบ้าง

                  "ก็ตัวเก่ามัน 'ตาย' ไปแล้วนี่หว่า...ไม่ทนมือทนเื้ท้าเลย"เด็กที่เป็นหัวโจกทำหน้าเื่บื่อเสียเต็มประดา

                 "เอาเหอะ...เราไปหาทางนั้นต่อดีกว่า"คนที่อ้วนที่สุดชี้ไปทางที่เชลลีนซ่อนอยู่ เธอสะดุ้งโหยง ตามสัญชาตญาณของสัตว์

                  "บ้าซิ...มันไม่เข้าไปหรอกน่า"เด็กหัวโจกว่า "ไปทางนั้นกันเหอะ"พูดจบ ทั้งกลุ่มก็วิ่งไปอีกทาง

                 "เฮ้อ...รอดไป"อุ้งเท้าหน้าของเชลลีนยกขึ้นมาแนบอก เธอไม่เคยเจออะไรแบบนี้มาก่อนเลยในชีวิต การที่มันเป็นสัตว์ตัวเล็กๆจะต้องมาเจอเรื่องแบบนี้เลยหรือนี่ แล้วถ้าหากว่าเป็นตัวที่มันเล็กกว่านี้ล่ะ เธอจะทำอย่างไร เชลลีนพักหอบหายใจจนจังหวะของหัวใจที่เต้นถี่ระรัวนั้นได้ปรับเกือบจะ้เป็นปกติแล้วก็ลุกขึ้น เตรียมตัวออกไปข้างนอกเพื่อตามหาทางกลับบ้านของตัวเองต่อ

                 แกรบ

                  ทันใดนั้นเองเธอก็ได้ยินเสียงอะไรบางอย่าง เลยนึกฉุกใจคิดที่เด็กชายพูดว่าทำไมถึงไม่เข้ามาในนี้ และทันใดนั้นเอง งูเห่าตัวโตก็ออกมาจากที่ซ่อน มันทำให้ขนสีขาวของเธอลุกตั้งขึ้นมาอย่างตกใจและหวาดกลัว

                 "ฟ่อ..."เจ้างูร้องขู่ มันทำให้เธอขาแข็ง วิ่งไม่ออกเลยทีเดียว ตัวของเชลลีนแข็งทื่อ เมื่อลิั้นสีน้ำเงินสองแฉกแลบออกมาและตวัดกลีับเข้าไป เธอภาวนาให้เจ้างูรีบเลื้อยห่างเธอไปไวๆ ตอนนี้เธอไม่มีแรงแม้แต่จะหายใจเลยด้วยซ้ำ แต่ดูเหมือนคำภาวนาจะไม่เป็นผลเลย งูเห่าตัวนั้นแยกเขี้ยวจะกัดเธอ เป็นผลให้เธอเผลอกางกรงเล็บออกมาแล้วข่วนหน้ามันเข้าเต็มๆ

                มันร้องด้วยความเจ็บปวดทำให้ร่างสีขาวอาศัยจังหวะนั้นวิ่งหนีไป เมื่องูสะบัดหัวไล่ความเจ็บปวดออกไปแล้วก็มองซ้ายมองขวาไม่แลเห็นสิ่งใดจึงเลื้อยกลับเข้าที่พักของตนไปอย่างอารมณ์เสีย

                 ร่างเล็กๆวิ่งต่อไปเรื่อยๆ ถึงแม้ว่าร่างกายของเธอจะอ่อนล้าเต็มกลืน แต่สัญชาตญาณของเธอบอกว่าให้เธอนั้นวิ่งเร็วขึ้น เร็วขึ้นและ เร็วขึ้นอีกเพื่อความอยู่รอดของตัวเอง ดวงตาสีอำพันมองไปด้านหลัง ไม่เห็นสิ่งใดวิ่งตามมาอีกแล้วจึงได้หยุดเพื่อที่จะหาวิธีการที่จะทำให้เธอกลับกลายเป็นคนอีกครั้ง เธอต้องคิดว่า วินดี้ต้องการอะไรจากเธอกันแน่ถึงได้ทำแบบนี้กับเธอ

                  "โฮ่งๆๆๆ"แต่ยังไม่ทันที่เธอจะได้คิดอะไรมากมายนัก เสียงของคู่ปรับตลอดกาลอย่างสุนัขก็ดังขึ้นอีกทำให้คนที่บัดนี้กลายเป็นแมวต้องออกวิ่งอีกครั้ง วันนี้มาตั้งแต่เธอกลายเป็นแมวเธอก็เจอแต่เรื่องมาโดยตลอด มีตอนไหนบ้างจะทำให้เธอหยุดวิ่งได้บ้างเนี่ย แมวต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ทุกๆวันเลยหรือเปล่านะ น่าสงสารเสียจริงๆ ถึงเวลานี้เธอเริ่มจะเห็นใจแมวขึ้นมาหน่อยๆ หากแมวจะต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ทุกๆวัน มันจะต้องเหนื่อยตายๆแน่ๆ

                 "บ้าจริง"เธอมองไปด้านหลังสุนัขดัชชุนตัวยาววิ่งไล่กวดเธอมาติดๆ พลางนึกคาดโทษตัวเองว่าทำไมไม่อยู่ในที่ที่มันมิดชิดมากกว่านี้หรือว่าไม่น่าวิ่งออกมาจากพุ่มไม้เลย เธอวิ่งต่อไปเรื่อยๆโดยไม่ทันได้สังเกตว่าตอนนี้เธอมาถึงหน้าถนนใหญ่และเธอกำลังจะวิ่งลงถนนไป

                 "เหวอ"ร่างของเธอถลาลงมาแล้ว แต่ทว่าก็มีแรง แรงหนึ่งมาฉุดคอของเธอเอาไว้ เจ้าหมาดัชชุนนั่นเอง เธอหอบหายใจถี่ระรัว

                 "ระวังหน่อยสิ...แล้วนี่เจ้าจะไปไหน"ดัชชุนพูด เสียงของมันดูบู้บี้เหมือนตอนคนเป็นหวัด ทำให้เธอเกือบขำออกมา แต่ก็ต้องพยายามปิดปากของตัวเองไว้ ทว่าเจ้าดัชชุนสังเกตเห็นเสียแล้ว จึงทำท่าฮึดฮัดใส่เธออย่างไม่พอใจ มันคงรู้ว่าเธอหัวเราะเสียงของมันและเธอก็ไม่มีมารยาทสกัดกลั้นอารมณ์เลยสักนิด ทั้งๆที่มันเองก็รู้ตัวว่าเสียงของมันตลกแค่ไหน แต่ใครอยากจะเกิดเป็นแบบนี้ล่ะ มันรู้ตัวดีไม่ว่าอะไรก็เลือกเกิดไม่ได้ทั้งนั้นแหละ เพราะอย่างนั้นแล้วมันจึงไม่ชอบให้ใครมาหัวเราะเท่าไหร่

                   "ฮึ!!...ข้าไม่ค่อยชอบให้ใครที่ล่วงเข้ามาในเขตของข้าแล้วหัวเราะข้าหรอกนะ"เจ้าตัวยาวพูด ร่างสีขาวพ่นลมหายใจ สะกดกลั้นอารมณ์อย่างยากลำบาก แต่เพื่อไม่ให้เป็นการเสียมารยาทกับผู้ที่ช่วยชีวิตเธอไม่ให้แบนเป็นกล้วยปิ้ง โดยรถบรรทุกสิบล้อเธอจึงต้องหยุดเสียงหัวเราะลง

                   "โอเคๆ...ฉันขอโทษที...เอาล่ะ...นายพอจะรู้ไหมว่าแถวนี้มันตรงไหนของประเทศไทยน่ะ"เชลลีนถามพลางมองไปรอบๆ ข้างๆของเธอนั้นเป็นป้ายรถเมล์ที่มีที่นั่งพักซึ่งเก่าคร่ำครึ ขาดการดูแล ตัวอักษรตามป้ายโฆษณาก็เลือนลางเสียจนอ่านอะไรไม่ออก ทำให้เธอไม่สามารถนึกได้ว่าที่นี่คือที่ไหน รู้แต่เพียงว่าคงยังอยู่ในเมืองหลวงนามกรุงเทพมาหนครอย่างแน่นอน นี่เป็นการแสดงให้เห็นว่า สร้างป้ายให้เปลืองงบประมาณโดยใช่เหตุเหลือเกินประเทศไทย
     
                    "แถวนี้หรือ...ก็ถนนCCไง...เจ้าเพิ่งมาใหม่ล่ะสิ...ข้าชื่อไส้กรอก"ดัชชุนสีน้ำตาลดอมแดงดูเหมือนไส้กรอกสมชื่อมันจริงๆ เธอพยักหน้า ไม่น่าล่ะ...เธอไม่คุ้นเอาเสียเลยเพราะเธอไม่เคยมาแถวนี้ อย่างมากเธอก็วนอยู่แค่ไม่กี่ที่ คือ บ้าน ห้าง และโรงเรียน ไม่เคยมาแถวนี้เลย

                    "ฉัน...เชลลีน...ขอบใจนะไส้กรอก...สำหรับการช่วยเหลือ...ฉันหลงทางมาคงต้องหาทางกลับล่ะ"เธอบอก

                     "บ้านเจ้าอยู่แถวไหนล่ะ...เผื่อข้าจะรู้จัก"ไส้กรอกกระดิกหางและแลบลิ้นอย่างกระตือรือร้น นั่นทำให้เชลลีนช่างใจอยู่ครู่ใหญ่เลยทีเดียว คิ้งสีขาวของเธอขมวดเข้าหากันเป็นปม

                     "ถนนOP"เท่านั้นเอง เจ้าตัวยาวก็เบิกตากว้างพร้อมกับอ้าปากออกมาอย่างตกใจ มันมองซ้ายมองขวาและสำรวจรอบๆตัวเธออย่างวิเคราะห์

                     "นี่...มันห่างจากที่นี่มากเลยนะ...เจ้าหลงมาอย่างไร"ไส้กรอกพูดอย่างตื่นตระหนก เชลลีนเองก็ตกใจมากเหมือนกัน วินดี้นะวินดี้เล่นตลกอะไรกับเธอกันเนี่ย พาเธอมาในที่ไกลๆแบบนี้กะเอาเธอให้ตายไปเลยหรืออย่างไร เธอกลอกตาก่อนหันไปมองเจ้าตัวยาวที่วิ่งพล่านเป็นวงกลมราวกับจะงับหางของตัวเองเล่น

                    "เอางี้...เจ้าเลาะไปทางนั้นนะ... มันจะต่อกันยาวไปเรื่อยๆ และคงใช้เวลาสัก2-3อาทิตย์ล่ะมั้ง กว่าจะเข้าถนนสายOPน่ะ"จมูกของไส้กรอกชี้ไปยังฝั่งตรงข้ามกับป้ายรถเมล์ เมื่อเธอได้ยินเรื่องเวลาก็แทบจะเป็นลม เธอยู่หัวถนนเสียเมื่อไหร่ แถมยังต้องเข้าไปในซอยอีกมากมายจนปวดหัว แล้วอย่างนี้เมื่อไหร่เธอจะกลับถึงบ้านได้กันล่ะ เธอทำอะไรผิดกันนะ วินดี้ถึงต้องส่งเธอมาไกลถึงขนาดนี้ด้วย

                   "เป็นอะไร"ไส้กรอกถาม เมื่อเห็นท่าทางของเธอไม่ค่อยดี

                   "ปะ...เปล่า...ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือนะ...หวังว่าเราคงได้พบกันอีก"เชลลีนเอ่ยขอบคุณอย่างจริงใจแล้วเดินจากไป จากไส้กรอก              

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×