ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    uncanny พิสูจน์ไม่ได้(รีไรท์รอบสามแล้วโว้ย)

    ลำดับตอนที่ #18 : ลางสังหรณ์ที่XVI:ห้องสมุด(แก้2)(15+)จบภาค1

    • อัปเดตล่าสุด 13 มิ.ย. 54


    ลางสังหรณ์ที่XVI:ห้องสมุด(100%)

    ขอคุยก่อนนะ

    คงแปลกใจว่าทุกทีจะเอาตรงนี้ไปอยู่ท้ายสุดแต่วันนี้อยากให้อ่าน

    จบภาคหนึ่งแร้ววววววววววววววววววววววววววววววว

    บอกแค่นี้แหละ

    ______________________________________________

                 "เฮ่ย...จะร้องทำไม...ผมไม่ได้ผิดนัดซะหน่อย!!"ชายหนุ่มเดินมาหาร่างเล็ก เมื่อเห็นน้ำตา เขาก็ใจหายวาบ

                  "หะ...หา"เธอรีบปาดน้ำตาอย่างรวดเร็ว เงยหน้าขึ้นมามองหาเจ้าของเสียงที่เธอคิดว่าจะไม่มาเสียแล้ว             

                  "มาหาอะไร...ดูซิ...ตาบวมหมดแล้ว"เขาเอื้อมมือมาปาดน้ำตาให้ร่างบาง พลางบ่นงึมงำเหมือนคนแก่

                  "รอนานแล้ว" เธอลอบยิ้มก่อนลากเขาเข้าไปในห้องสมุด เข้าไปยังส่วนที่ไม่มีใครมองเห็นและไม่มีใครผ่าน ไม่มีอาจารย์บรรณารักษ์เข้าไปตรวจดูเหมือนบริวณอื่นๆ หนังสือบริเวณนั้น มีฝุ่นและหยากไย่เกาะกันหนาแน่น บางเล่มก็เหลืองกรอบเสียจนแค่แตะก็อาจจะหลุดติดมือมาได้

                   "มาตรงนี้ทำไมหรือ"เขาถามพลางยิ้มแหยๆ ยิ่งไม่ค่อยพิศมัยฝุ่นผงเหล่านี้สักเท่าไหร่เสียด้วย

                   "ก้มลงมาสิ"เธอพูดเสียงเบาราวกับกระซิบ ชายหนุ่มโน้มใบหน้าไปหาร่างเล็กอย่างว่าง่ายและยังงงๆอยู่ว่า เธอนัดเขามาทำอะไรในสถานที่แบบนี้กัน

                   แขนบอบบางเกี่ยวคอชายหนุ่มให้ลงมาแนบริมฝีปาก ชายหนุ่มสะดุ้งโหยงก่อนตอบรับกลับไปอย่างเต็มใจกับคำเชิญชวนที่หอมหวานของเธอ พลางเรียกร้องให้มากกว่าเก่า เมื่อร่างเล็กสนองความต้องการของชายหนุ่ม เชาแทบคลั่ง หลุดครางเสียงต่ำในลำคอออกมา ร่างเล็กรีบถอนริมฝีปากออก

                    "อยากโดดเรียนคาบต่อไปมากหรือไงกัน"เขาเอียงหน้ามากระซิบข้างหูหญิงสาวเสียงต่ำ

                    "ปะ...เปล่า...ฉันไปล่ะนะ"เธอผละออกห่างจากเขาอย่างรวดเร็ว  เดินออกห่างจากเขาไปไม่ถึงสองก้าว เขาก็เข้ามาหาเธอในระยะประชิด โอบเอวบางของเธอไว้แน่นกันเธอไม่ให้หนีไปไหนได้อีก

                    "ไม่ทันแล้วล่ะ...สาวน้อย...เธอหนีไม่ทันแล้ว" เขาพูด ริมฝีปากร้อนแนบลงมาก่อนกดน้ำหนักลงไป

                    "อื้อ"ร่างเล็กเริ่มดิ้น อ้อมกอดจึงกระชับให้แน่นยิ่งขึ้น หัวสมองของร่างเล็กเหมือนโล่งว่างเปล่า ร่างกายเหมือนล่องลอยไปในที่แสนไกล มือหนาค่อยๆสอดเข้าไปใต้เสื้อร่างเรียนของร่างบาง

                    กริ๊ง!!!

                    เสียงกริ่งโรงเรียนดังขึ้น ทำให้เขาผละออกห่างจากเธอพลางสบถออกมายาวเหยียด ชนิดว่าเอาไม้มาวัดคงเป็นหลักกิโลได้เลย

                    "ฉะ...ฉันไปก่อนนะ!!"ร่างเล็กรีบสะบัดเขาออกแล้ววิ่งออกไปจากห้องสมุดทันที

                    "เฮ้อ...เหมือนลูกแมวไม่มีผิด"เขาถูจมูกตัวเองเบาๆ ยอมรับว่าทำเกินไป เขาแค่อยากจะหยอกลูกแมวในอ้อมแขนของเขาเท่านั้นเอง "จับลูกแมวมากินท่านจะโกรธมากมั้ยเนี่ย"เขาพึมพำ

                    

                    ร่างบางรีบวิ่งออกมาจากห้องสมุด วิ่งเข้าไปในห้องน้ำรีบล้างหน้าเผื่ออาการทั้งหมดจะหายไปแล้วทรุดตัวลงนั่งบนพื้นอย่างหมดเรี่ยวแรง ในหัวคิดถึงแต่ภาพสุดท้ายที่อยู่ใกล้ๆเขา

                    "โอย...ไม่เอาอีกแล้วจะไม่แกล้งหมอนั่นอีกแล้ว...เอาหนูไปส่งที...ลุงผี" เธอคิดเอื้อมมือราวกับจะไขว่คว้าบางสิ่งที่อยู่ในอากาศ เพราะเธอจะสัมผัสไอวิญญาณของลุงผีนั่นเอง

                    /โถ...ไอ้หนู...ไปยั่วไอ้หนุ่มนั่นทำไมเล่า/ลุงผีผ่อนลมหายใจอย่างอ่อนแรงแล้วเข้ามาหาเธอ

                    "ลุง...พอเถอะ...พาหนูไปส่งที่ห้องเรียนที"ร่างบางไม่สามารถยืนด้วยขาของตัวเองได้ เธออ่อนแรงไปหมดในยามนี้ เพียงเพราะจุมพิตของชายหนุ่มที่เธอเพิ่งจะรู้จักเมื่อเพียงไม่นาน

                    /ไปๆๆๆ...เราไปเรียนกัน/ลุงผีเลิกพูดถึงนิกรแล้วพาร่างของเธอไปส่งยังห้องเรียนตามที่เธอต้องการ

                    "ขอบคุณค่ะ"เธอพูดเสียงเบา 

                    งูสีขาวเหมือนงูที่อยู่ในพิพิธภัณฑ์เพียงแต่ตัวเล็กกว่าหลบอยู่บบนต้นไม้ใหญ่ในโรงเรียนที่รกครึ้มจ้องมองทั้งคู่ด้วยสายตาแข็งกร้าว มันขู่ฟ่อเล็กๆก่อนจะเลื้อยหายไปอีกครั้ง

                                     O[]O[]O[]OO[]O[]O[]O[]O[]OO[]O[]O[]O

                    ร่างสูงจ้องมองลูกแก้วที่มาจากการมองของงู ซึ่งก็คือลูกสมุนของตนอย่างโกรธๆ ตลอดเวลาที่ผ่านมา เธออยู่ใกล้ตัวเขามาโดยตลอดแล้วเหตุใด เขาถึงไม่เคยรู้สึกถึงพลังอำนาจที่แผ่ออกมาเลยสักครั้ง มันเริ่มชัดเจนขึ้นเมื่อนิกรเข้าใกล้และยิ่งแผ่รังสีเข้มขึ้นเมื่อเธอสวมเครื่องรางบางอย่างที่เขาไม่รู้จัก

                   "ไอ้ที่มันเหมือนเขี้ยวงูนั่นมันอะไร"สายตาของเขาจับจ้องไปที่เครื่องรางที่ปรากฎเด่นชัดบนลำคอระหง แผ่รังสีแห่งอำนาจและพลังการปกป้องอย่างชัดเจนจนเขาเหมือนจะแตะร่างบางนั้นไม่ได้อีกเลย

                   ฟ่อ~~

                   "ไม่จริง...นางต้องเป็นของฉัน!!"มือของร่างนั้นเผลอบีบหางงูที่เป็นลูกสมุนของตนอย่างลืมตัว มันขู่ฟ่อเพื่อที่จะให้นายของมันเลิกเอามันเป็นที่ระบายอารมณ์มิฉะนั้น มันคงฉกไม่เลือกหน้าเป็นแน่

                   "พลังของนางทั้งหมดต้องตกเป็นของฉัน"เขาคำรามอย่างเกรี้ยวกราด มือที่เคยบีบหางของงูคลายออกแล้วไปจับจ้องที่ลูกแก้วที่ฉายภาพของนิกร ลูกชายตัวดีที่ยื่นมือเข้ามายุ่งกับเป้าหมายของเขาอย่างไม่เข้าเรื่อง

                   *ให้ตายเหอะ...โดดดีกว่าไม่มีอารมณ์เรียนแล้ว*เสียงของนิกรดังออกมาจากลูกแก้วทำเอาเขากุมขมับ

                    "ไปตายซะ...ไอ้เด็กเวร"เขาสบถ ไม่เพียงยุ่งไม่เข้าเรื่องอย่างเดียวที่ทำให้เขาปวดหัว ไอ้เรื่องหาเรื่องโดดเรียนนี่ก็อีกเรื่อง แต่มันก็น่าแปลก ทั้งๆที่ไม่ค่อยได้เข้าเรียนแต่กลับสอบได้เป็นอันดับต้นๆของระดับชั้นก็ทำให้ลูกของเขา ดูน่าสนใจมากขึ้นรองจากเด็กสาวที่เป็นเป้าหมาย

                    *แล้วก็...ไอ้พ่อเฮงซวย...อย่าส่งไอ้งูบ้านี่ตามผมกับเธอมาอีก...ไม่งั้น* มือของนิกรเอื้อมมายังที่ๆงู ลูกน้องของเขาซ่อนก่อนจะบีบเละคามือ ส่งผลให้ภาพนั้นดับหายไปต่อหน้าต่อตา

                    "หึๆๆๆ...คิดว่าฉันไม่กล้านะนิกร...ถึงฉันจะเกรงใจแม่แกที่ให้ฉันอยู่สุขสบายมาจนถึงทุกวันนี้แต่แกกล้ามาปีนเกลียวแบบนี้...คงปล่อยไว้ไม่ได้"ร่างนั้นกัดฟันกรอดพลางกำหมัดแน่น ชนเส้นเอ็นปูดโปน เมื่อเห็นนิกรทำลายลูกสมุนของเขาด้วยมือเปล่าๆอย่างโกรธแค้น

                    "แล้วเราจะได้เห็นดีกัน...ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ"

                    งูนับร้อยเลื้อยออกไปจากสถานที่อันลึกลับแห่งนี้ เข้าแทรกแทรงสอดแนมวิถีชีวิตอันสงบสุขที่มีอยู่น้อยนิดของชาช่าและนิกรซึ่งมีท่าทีน่าสงสัยไม่น้อย

                   "หึๆๆๆ...เอาล่ะท่าน...เรามาลองของกันดีกว่าว่า...ระหว่างฉันกับท่าน...ใครมันจะแน่กว่ากัน"พูดจบ ร่างนั้นก็หัวเราะออกมาลั่นห้องราวกับคนเสียสติ 

                   ใครกันที่คนผู้นี้พูดถึง และนิกรมีภูมิหลังอย่างไร เหตุใดจึงมาอยู่กับ'คน'ผู้นี้ได้และในตัวของชาช่านั้นมีอะไรอยู่กันแน่ ทำไมเขาถึงอยากได้มันเป็นหนักหนาจนตัวสั่นขนาดนี้กันนะ?

                   "เอาล่ะ...เรามาเปิดม่านองก์ต่อไปกันดีกว่า ว่ามั้ยพวกเรา"ร่างนั้นใช้หางตามองไปด้านหลัง ท่ามกลางแสงอันน้อยนิดสะท้อนกับประกายบางอย่างในเงามืดนั่นที่มีนับร้อยๆเบียดเสียดกันอยู่

                   "เมซ...ถึงแกจะหักหลังฉัน...แต่ไม่ได้หมายความว่าสิ่งที่แกทำลงไปมันจะหมดไปหรอกนะ" ดวงตาของเขาเหลือบมองไปยังเหล่าปลาที่กำลังแหวกว่ายอยู่ในบ่อน้ำด้านหลังของเขา มันยังไม่ได้หายไปทั้งหมด อย่างที่งูเข้าใจ ชายตรงหน้าแอบเก็บเอาไว้ส่วนหนึ่งด้วย

                   "หึๆๆๆๆๆๆ...ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ"
    ____________________________________________

    THE END OF PART ONO 

    CONTINUE IS COMING SOON

    หลายคนอ่านตอนนี้แล้วบอกคนเขียนหื่น

    หนูเปล่านร้า~~(สะดีดสะดิ้งเหลือเกินนะเอ็ง)

    555+ฝากเรื่องนี้ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจของคนอ่านด้วยเน้อ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×