ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    uncanny พิสูจน์ไม่ได้(รีไรท์รอบสามแล้วโว้ย)

    ลำดับตอนที่ #10 : ลางสังหรณ์ที่IX:ถูกจับII(รีไรท์4)

    • อัปเดตล่าสุด 14 พ.ค. 54


    ลางสังหรณ์ที่IX:ถูกจับII(100%)

           สองขาก้าววิ่งและวิ่ง เธอวิ่งอย่างที่ไม่เคยวิ่งมาก่อน ทั้งชีวิตเธอไม่เคยวิ่งเร็วและระยะทางมากขนาดนี้มาก่อน ชาช่าหอบหายใจ หัวใจของเธอเต้นเร็วและแรงราวกับจะหลุดออกมานอกอกของเธอให้ได้ งูตัวนั้นตามเธอมาหรือเปล่านะ ครั้งนี้มันจะต้องเอาเธอตายจริงๆอย่างแน่นอน แล้วนี่เธอจะต้องตายจริงๆหรือเปล่านะ หรือทั้งหมดเป็นเพียงแค่ความฝัน แล้วทำไมในฝันมันถึงได้เจ็บข้อเท้าแบบนี้กันนะ ฟันขาวกัดกรอดๆอย่างขบความเจ็บปวด หากในฝันคนเราจะไม่เจ็บปวดอย่างนั้นสินะ ตอนนี้เธอได้รู้ความจริงว่าเธอไม่ได้ฝันไป...

                ...เธอจะต้องตายจริงๆอย่างนั้นสินะ...

                 ใบหน้าของเธอเจื่อนลง อา...มันไม่ใช่ทางเลือกที่ดีเอาเสียเลย การที่เธอจะมาเอาชีวิตไปทิ้งเพราะเธอเผลอไปปากเสียกับมันเท่านั้น ลุงผีเองก็คงไม่อยากให้มันจบแบบนี้แน่ๆเพราะไม่อย่างนั้นลุงผีคงไม่มาเสี่ยงตายช่วยเธอแบบนี้หรอก เธอเม้มริมฝีปากล่างอย่างครุ่นคิด สมองของเธอต้อทำงานอีกแล้วอย่างนั้นสินะ เอาไงดี

               /ไอ้หนู...เดี๋ยวลุงช่วย หนีไปนะ/

              เหล่าวิญญาณทั้งหลายโผล่มาจากไหนก็ไม่รู้ แต่ละตนเป็นวิญญาณที่เธอคุ้นหน้าคุ้นตาดี พวกเขารวมตัวกันเพื่อมาช่วยเธอ พวกเขาแปรเปลี่ยนสภาพกลายเป็นเกราะบางๆแต่ทว่าแข็งแกร่งป้องกันงูที่พยายามพุ่งเข้าชนเกราะ ไม่ให้ตามเธอมาได้แต่เหล่าวิญญาณต่างก็ได้รับความเจ็บปวดมาแทน งูใช้หัวของมันกระแทกเกราะแรงๆหลายครั้ง เหล่าวิญญาณข่มกัดฟันไม่ให้เสียงร้องเล็ดลอดออกไปได้ สีหน้าที่พวกเขาแสดงออกมานั้นเธอรับรู้ได้ว่ามันเจ็บปวดมากเพียงไร

              งูยังคงกระแทกไม่เลิก เหมือนจะยิ่งทวีความรุนแรงด้วย ในที่สุดเหล่าวิญญาณก็ทนไม่ไหว เผลอส่งเสียงร้องโหยหวนออกมาจนได้  และความอดทนของเธอก็หมดลง ณ ตรงนั้นเอง พวกเขาทำเพื่อเธอขนาดนี้ เธอจะมาเอาเปรียบพวกเขาโดยวิ่งหนีปัญหาที่เธอก่อได้อย่างไรกันหูของเธอได้ยินเสียงของเหล่าวิญญาณที่ร้องออกมาอย่างโหยหวนก็ทนไม่ได้ ขาที่วิ่งๆอยู่ก็หยุดไปเสียดื้อๆ เธอหันกลับมาเผชิญหน้ากับงู กัดฟัน กำหมัดแน่น ดวงตาของเธอแดงก่ำราวกับสะกดกลั้นน้ำตาเอาไว้อย่างเต็มที่ ลุงผี และเหล่าผีทั้งหลายต่างงุนงง

              /ไอ้หนูรีบหนีไปสิ...มัวยืนเซ่ออยู่ทำไม/ ลุงผีหันมาร้องบอกเธอ ก่อนจะหันไปดันงูที่ดันมาเช่นกันพลางกัดฟันกรอด ทั้งคู่ผลัดกันดันไปดันมาอย่างไม่มีใครยอมใคร ชาช่ามองดูเหตุการณ์อย่างตกใจ ปนกับเสียใจที่เธอทำร้ายจิตใจของลุงผีที่เธอรักมาโดยตลอด ลุงผีทำเพื่อเธอขนาดนี้... แล้วเธอล่ะ? และแล้วเธอก็ทนไม่ไหวอีกต่อไปความอดทนของเธอหมดลงเมื่อเสียงกรีดร้อง เสียงกรีดร้องอย่างเจ็บปวด สีหน้าอันทรมานของลุงผีและบรรดาผีทั้งหลายทำให้เส้นอารมณ์ของเธอขาดผึงลง

              "แก...กล้าทำเพื่อนฉัน"นัยน์ตาของเธอเรืองแสงวาบ ชั่วพริบตาเดียวมันก็หายไป สมาธิที่คอยควบคุมไอวิญญาณของเธอไม่ให้มากกว่าคนอื่นๆแตกกระเจิง ไอวิญญาณสีดำแผ่ออกมาเป็นวงกว้าง ลุงผีรู้สึกแปลกๆ และดีใจอย่างบอกไม่ถูก ที่ผ่านมา ชาช่าเห็นว่าพวกเขามีค่า เห็นเป็นเพื่อนมากกว่าจะเป็นวิญญาณแก่ๆ ที่ร้องขอส่วนบุญไปวันๆ แต่มันก็ไม่ใช่ในเวลานี้ ลุงผีรู้สึกว่าเธอควรจะหนีไปมากกว่าแต่พวกๆลุงๆป้าๆนั้นไม่เป็นไร จะตายอีกครั้งก็ไม่เป็นไร ขอให้ร่างบางตอนนี้ปลอดภัยเป็นพอ ทว่าตอนนี้ลุงผีไม่มีแรงจะกล่าวแล้ว

              "หืม...นังหนู...แกจะทำอะไรข้าได้...ลำพังตัวเองยังเอาไม่รอด"งูพูดอย่างดูแคลน ชาช่าไม่พูดอะไร แต่มองงูด้วยแววตาน่ากลัวและจิตสังหารที่พุ่งขึ้นสูงโดยไม่รู้ตัว แม้แต่เกราะซึ่งเกิดจากพวกวิญญาณก็แต่กระจาย เหล่าวิญญาณไปนอนกองอยู่ที่พื้นราวกับเป็นผ้าขี้ริ้ว ร้องเสียงโอดโอยอย่างเจ็บปวด จริงๆร่างบอบบางคงไม่ได้ตั้งใจให้พลังดังกล่าวไปโดนกับพวกวิญญาณหรอกแต่ว่าเธอยังควบคุมพลังไม่ค่อยคล่องสักเท่าไหร่ เลยทำให้พวกเขาพลอยโดนลูกหลงไปด้วย ชาช่ามองมาทางเหล่าวิญญาณด้วยสายตาที่ต้องการจะขอโทษ พลางยิ้มแหยๆ

              สายลมเริ่มโหมกระหน่ำ จนทั้งเหล่าวิญญาณและงูตกใจ ดวงตาเบิกกว้าง ต้นไม้ที่ถูกงูหักโค่นทิ้งยกขึ้นราวกับมีมือที่มองไม่เห็นมายกมันขึ้นมา ก่อนเสียบเข้าที่ตาซ้ายของงูซึ่งเป็นแผลเก่า ที่มีดสั้นเสียบเมื่อครู่ปักเข้าไป เหล่าวิญญาณถึงกับอึ้งอีกครั้งไปเลย เธอทำให้พวกเขาตกใจมากๆมาหลายรอบแล้วโดยเฉพาะลุงผี

               /เธอไม่น่าจะนำพลังออกมาใช้ได้นี่นาพลังของเธอถูกสะกดไว้แล้วนี่/ ลุงผีคิด สีหน้าดูเคร่งเครียดไปถนัดตา /ต่อจากนี้จะต้องเกิดเรื่องยุ่งๆแน่/ลุงผีพึมพำ

               "หนอย...นังหนู...แสบมากนักนะ"งูกัดฟันกรอดๆอย่างเจ็บปวด

               "ทายามั้ยคะ...ระวังแผลมันเน่านะ"แผลนั่นเริ่มเน่า หญิงสาวหัวเราะคิกคักอย่างอารมณ์ดี ไม่คิดที่จะหนีแต่อย่างใด เธอพูดสิ่งใดมันจะเป็นแบบนั้นอย่างนั้นหรือนี่ งูหรี่ตามองชาช่าที่เหมือนจะไม่ได้รู้ตัวในสิ่งที่ตัวเองทำลงไป หรือว่านี่จะเป็นอีกตัวตนของเธอกันแน่นะ งูประมาทความสามารถของเด็กคนนี้มากไปหน่อย แต่ดูเหมือนว่าความสามารถนี้จะไม่ได้โผล่มาบ่อยๆเพราะฉะนั้นแล้วเวลาที่เธอเหมือนคนปกตินั้นต้องหาทางกำจัดหรือจับเธอให้ได้

              " เจ้า!!"หางกุดๆของงูตวัดเฉียดร่างเล็ก ที่หลบด้วยท่าทีสบายๆเพราะหางสั้นเกินไปทำให้กะระยะที่จะถึงตัวเธอได้ยากเย็นกว่าเก่า ดูท่าเด็กคนนี้จะเคี้ยวยากกว่าที่คิดเอาไว้แฮะ งูเหงื่อตกเพราะเด็กหญิงเพียงคนเดียว

              "อะไรๆ...แค่นี้ก็กะไม่ถูก...คึๆๆๆๆ"เธอยิ้มเยาะ ไม่ได้ดูบรรยากาศเบื้องหลังเลยว่า เธอพาดตัวเองมา ณ ที่แห่งใดกัน และกว่าเธอจะรู้ตัวมันก็สายเกินแก้เสียแล้ว ร่างบางรู้สึกหนาวสันหลังวาบ เธอสังหรณ์ว่าจะเจอคู่ปรับเก่า...

              วูบ

              ด้านหลังของเธอ ปรากฎปลาซอมบี้ตัวหนึ่งกำลังอ้าปากรอเธอให้เข้ามาในปาก แต่เธอไหวตัวทันหลบวูบเพราะรู้สึกอันตรายโดยที่ไม่ได้หันไปมอง เมื่อเธอหันไปมองก็กลืนน้ำลายเฮือก ใบหน้าของเธอซีดลงอย่างเห็นได้ชัด...

               ...ไอ้นี่เป็นสิ่งเดียวที่เธอจะกลัว...

               เมื่อเธอมองไปด้านหน้าก็เจองู เหลียวหลังกลับไปก็เจอกับปลาคู่ปรับเก่า(ตอนไหน) แต่เธอก็เลิกคิ้วอย่างแปลกใจที่ด้านหลังไม่ได้เป็นน้ำ แล้วปลามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร แต่นี่ไม่มีเวลามาคิดเรื่องเล็กน้อยแบบนี้อีกต่อไปแล้ว

               เธอกลืนน้ำลายเฮือกอีกรอบ ท่าทางอวดดีหายไปและดูท่าว่าจะกู่ไม่กลับเสียด้วย สมองของเธอเริ่มคิด ดวงตาของเธอกวาดมองไปรอบๆเพื่อที่จะหาทางหนีทีไล่

               "อย่าบอกนะว่า...ไอ้ปลานี่มัน...อยู่บนบกได้!"เธอคิด"งานเข้า!"เธอสรุปได้แค่นั้น เรี่ยวแรงที่ขาก็หายไปหมด เธอทรุดนั่งลงกับพื้น พร้อมๆกับที่งูใช้อดีตหางดึงต้นไม้นั้นออกจากดวงตาแล้วเหวี่ยงทิ้งให้พ้นตา ก่อนจะตวัดอดีตหางพันรอบตัวเธอเอาไว้

                ครืน!

               ท้องฟ้าที่ตอนนี้มืดมิดในฉับพลันที่งูจับเธอ คำรามราวกับไม่พึงพอใจในการกระทำของงูเสียสักเท่าไรนักที่จับมนุษย์ผู้เคยเป็นอดีตผู้มีอำนาจในนรกและอีกหนึ่งมนุษย์ผู้มีไอวิญญาณสีประหลาดไป ประกายไฟสีเงินแล่นแปลบปลาบอยู่บนท้องฟ้า

                งูไม่ใส่ใจกันปรากฎการณ์เหนือธรรมชาติที่เกิดขึ้น มันหัวเราะออกมาอย่างขบขัน ก่อนจะเลื้อยไป ท้องฟ้าเริ่มมืดครึ้มลมกรรโชกแรง เหล่าต้นไม้ต่างลอยขึ้นมาขัดขวางงูกันเต็มที่ นั่นยิ่งทำให้งูรู้สึกสนใจ มันเปลี่ยนใจอีกครั้ง ไม่ฆ่าแล้วจะเอาเธอกลับไปด้วย

                "โฮก!!...หลีกทาง...ข้าจะไปแล้ว"งูคำรามแต่ทว่า เหล่าต้นไม้ก็ยังไม่ยอมหลีกทางให้กับงู ซ้ำยังลอยเข้ามาเรื่อยๆ งูผงะก่อนถดถอยไปโดยไม่รู้ตัว "นังหนูนี่...สำคัญขนาดนั้นเลยหรือนี่"งูคิดมองไปทางเด็กสาวที่ถูกหางของมันมัดอย่างดิ้นไม่หลุด

                "พวกคุณพอเสียเถิด...เราเต็มใจจักไปกับมันเอง"วาจาที่ฟังดูแล้วนุ่มนวลแต่แฝงไปด้วยความแข็งแกร่งและเต็มไปด้วยอำนาจ ราวกับเป็นคนละคนกับชาช่าคนเดิมจริงๆมันเป็นคนละคนกันตั้งแต่ตอนที่บอกว่าแผลเน่าแล้วล่ะ

                เหล่ากิ่งไม้เริ่มลังเล มันสั่นเล็กน้อยเหมือนคนทำท่าฮึดฮัด ก่อนจะทิ้งตัวลงบนพื้นช้าๆและพร้อมจะพุ่งขึ้นมาได้อีก เมื่องูทำให้มันไม่พอใจอีกมากๆ แต่เมื่อเจอกับสายตาของเด็กสาวก็ต้องแน่นิ่งไปทันที

                "โฮ่...รู้ตัวนี่"งูพูดด้วยน้ำเสียงดูแคลนก่อนจะเลื้อยต่อไปข้างหน้า ท้องฟ้าคำรามครืนเครงและมืดมิดดูไม่ต่างจาก เวลากลางคืนเท่าไรนัก งูหัวเราะร่าเมื่อท้องฟ้าทำได้เพียงคำราม ไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากนี้ "มีปัญญาแค่นี้ล่ะว้า...ดีแต่ว่าคนอื่นไปทั่วสุดท้าย...ก็โดนข้าจับ"งูพูดอีกครั้งอย่างครึ้มอกครึ้มใจ

                ท้องฟ้าคำรามราวอีกครั้งราวกับไม่พอใจในคำพูดของงู ที่พูดกับเธอราวกับว่า หญิงสาวที่มีความน่ายำเกรงลึกๆผู้นี้เป็นเชลย งูแอบแสยะยิ้มเล็กๆดูท่าทางมันจะจับไม่ผิดคน เอาไปให้ 'นาย' จะต้องหายโกรธมันเป็นแน่

                "เราบอกให้ว่าให้พอ!...พวกคุณไม่เข้าใจหรือไง!!"เธอตวาด เสียงของเธอก้องกังวาล ท้องฟ้าก็พลันกลับมาสว่างสดใสเหมือนเดิมแทบจะทันที ราวกับว่ากำลังยำเกรงเธอผู้นี้อยู่ ร่างโปร่งแสงของลุงผีถึงกับเหงื่อตก

                "หึ!...อำนาจของเจ้าคงไม่ธรรมดาสินะ...ถึงกระทั่งสั่งท้องฟ้าได้"งูตัวนั้นชักสนใจในตัวเธอบ้างแล้ว เพราะเหตุนี้กระมัง 'นาย' ของมันถึงได้สนใจในตัวของหญิงสาวมากมายเป็นหนักหนา มากจนกระทั่ง 'นาย' โกรธที่มันหาเธอไม่เจอจนต้องไล่มันออกมา "นายคงต้องการอะไรในตัวของเจ้าสินะ" งูหรี่ตาลงอย่างครุ่นคิดพลางมองไปทางเธอ

                "ไม่ใช่กงการอะไรของแก"เธอหันมาตอบอย่างอวดดีอีกครั้ง เธอแยกเขี้ยวแข่งกับงูอย่างไม่เกรงกลัวถึงแม้ว่าการกระทำของเธอมันจะทำให้อายุของเธอหดสั้นลงไปจนไม่เหลือเลยก็ตามที  แต่งูก็ทำเพียงแค่หัวเราะในลำคอ ทำไมล่ะทั้งๆที่มันมีโอกาสจะฆ่าเธอแล้วแท้ๆ มันกลับไม่ทำอะไรเธอเลย โง่ดีแท้

                "อ้อ!...ปีกกล้าขาแข็งอีกแล้ว...ดี"งูทำเสียเหี้ยม ร่างของมันบีบรัดเข้ามาทำให้ร่างเล็กที่อยู่ในวงขดตัวของมันร้องลั่นด้วยความเจ็บปวด ตอนนี้เธอเป็นเพียงเสมือนลูกไก่ในกำมือของมันเท่านั้น จะบีบก็ตาย จะคลายก็รอด

                "อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!"เธอร้องออกมาอย่างทรมาน เหมือนกำลังจะถูกบีบอัดและมีเข็มทิ่มตามร่างของเธอมากมายจนชาไปทั่วทั้งร่าง ลุงผีหลับตา อยากจะเข้าไปช่วยแทบแย่ แต่เรี่ยวแรงที่มีถูกใช้ไปกับการป้องกันเด็กสาวไปเมื่อก่อนหน้านี้ ลุงผีนึกสมเพชตัวเองเสียเหลือเกินที่พลังของตัวเองนั้นช่างน้อยนิด เมื่อเทียบกับพลังที่แผ่ออกมาจากร่างบางในยามนี้ มันไม่ฆ่าเธอ แต่มันจะทรมานเธอแทนหรือนี่
                
                เธอคิดว่าหากเธอหนีก็รังแต่จะทำความเดือดร้อนให้ชาวบ้านที่ไม่รู้เรื่องอะไร สู้โดนจับดีกว่า ตายไปก็คงจะเหมือนเดิม ไม่มีใครเป็นอะไรเสียหน่อยและคงไม่มีใครมาร้องไห้เสียใจไปกับการตายของเธอด้วย ดีเสียด้วยซ้ำที่ทุกคนจะไม่เห็นเธอไม่เหม็นขี้หน้าเธออีกต่อไป หญิงสาวกัดฟันฝืนความเจ็บปวดที่เกิดขึ้น จ้องมองงูด้วยแววตาอวดดีอีกครั้ง

                "เดี๋ยว...ข้ามีอะไรให้เจ้าดูด้วย"งูพูดเหมือนเพิ่งนึกอะไรบางอย่างออกมันแสยะยิ้มอย่างชั่วร้าย พลางขยับตัวขยุกขยิกนิดหน่อย ร่างของใครบางคนก็โผล่พรวดขึ้นมาจากผิวหนังเน่าๆของมัน คนๆนั้นทำให้เธอตกใจ อ้าปากค้าง

                "นาย!"เธอเบิกตากว้าง ใบหน้าของชายหนุ่มที่คุ้นเคยซีดขาวราวกับกระดาษก็ไม่ปาน หมอนี่โดนจับได้และยังไม่ตายอีกต่างหาก

                "คุณ...ไม่...เป็น...อะ...ไร...ใช่...มั้ย"น้ำเสียงของเขาขาดเป็นห้วงๆ ดูยังไงๆก็เหมือนซอมบี้ชัดๆ!(มีซอมบี้โผล่มา3แล้วแฮะ)

                "เออ...นายล่ะ...หาเหาใส่หัว แกว่งเท้าหาเสี้ยนเป็นไง...งามไส้มั้ยล่ะ"เธอร่ายยาวเป็นชุดๆ พลางพ่นลมหายใจ น่าแปลก...ความเจ็บปวดค่อยๆหายไปราวกับว่ามันไม่เคยเกิดขึ้น แต่ทั้งสองนั้นก็ไม่ทันได้สังเกตอะไรมาก เพราะร่างบางกำลังบ่นร่างสูงเป็นชุดๆ ส่วนเขานั้นก็ไม่ได้สนใจเรื่องพวกนี้มาตั้งแต่ต้น

                "ผมน่ะ...ตายยยากอยู่แล้ว...ไม่ต้องห่วง...หรอกครับ"เขาพูดเสียงคล้ายๆซอมบี้ น่าแปลก...ทั้งๆที่หน้าสิ่วหน้าขวานแท้ๆ แต่ทั้งคู่กลับมาเถียงกันอยู่ได้ และเหมือนกับว่าจะไม่เห็นงูที่พันธนาการตนอยู่สักเท่าไหร่ ยิ่งน่าแปลกเมื่อเธอพูดคุยกับเขาอย่างวางใจเหมือนกับเป็นเพื่อนสนิทที่รู้จักกันมานาน เนื่องจากปกติแล้วเธอจะไม่พูดคุยกับคนที่ไม่รู้จัก แต่นี่เจอกันไม่กี่ชั่วโมง เธอก็พูดกับเขาจ้อเสียแล้ว

                "เออ...ฉันให้นายห้าห่วงไปเลยหน้าซีดอย่างกับคนตาย เสียงก็เหมือนซอมบี้...ถ้านายหลับไปเขาคงเอาไปสวดเวียนรอบเมรุ 3 รอบแล้วเผาเลยมั้ง...ไม่ต้องรอหมอพรทิพย์มาชันสูตร"เธอพูดด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด เขาฝืนยิ้มแห้งๆให้เธอ เพราะตอนนี้แรงจะเปิดหนังตาก็แทบจะไม่มีอยู่แล้ว แต่ยังไม่ทันที่ชายหนุ่มจะอ้าปากเถียงอะไรก็มีผู้ที่อยู่นอกบทสนทนามาโดยตลอดขัดขึ้นอย่างไม่เกรงใจทั้งคู่

                "นี่...พวกเจ้าไม่คิดจะถามหน่อยหรือไงว่า...ข้าจะพาพวกเจ้าไปไหน"งูหันมาถามเมื่อไม่ได้รับความสนใจ อย่างน้อยๆพวกเธอก็น่าจะดึงมันไปเป็นหัวข้อสนทนาเสียหน่อยนะ ทำอย่างนี้มันจะหยามกันมากเกินไปแล้วนะ

                "พาไปตาย"เขาพูดกลั้วหัวเราะ ดูไม่ยี่หระต่อสิ่งที่ตัวเองพูด ทั้งๆที่ความตายเป็นสิ่งที่น่ากลัวสำหรับคนธรรมดา เป็นสิ่งที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นกับตัวเองแน่ๆ แต่ทำไมชายหนุ่มผู้นี้ถึงได้พูดออกมาเฉยๆ ราวกับว่าเห็นความตายมานักต่อนักแล้ว

                "ง่ายไป...อย่างแรกแกต้องพาพวกฉันไปเลาะเอ็น กรีดตามตัว เอาน้ำเกลือสาดแล้วสุดท้ายก็โยนลงบ่อปลา" แต่ละอย่างที่เจ๊แกพูดมาเนี่ย ทั้งเขาทั้งงูนึกภาพออกในทันทีและก็เผลอกลืนน้ำลายเฮือกพร้อมกันกับชายหนุ่ม

                งูเลยเลิกพูดกับทั้งคู่เพราะดูเหมือนว่ามันจะหลงประเด็นไปกันไกลแล้ว เธอร่ายยาวเรื่องวิธีการตายโหดๆเป็นชุดให้ฟัง ส่วนเขาก็ฟังอย่างสนอกสนใจอย่างออกนอกหน้า ส่วนงูนั้นส่ายหน้าอย่างเอือมระอากับทั้งคู่แล้วก็คลานต่อไปแทนอย่างหมดอารมณ์จอยด้วย งูเลื้อยไปเรื่อยๆราวกับไร้จุดหมาย ทั้งคู่เองก็ไม่ได้สนใจทั้งคู่ไม่ได้มองเลยว่าเข้ามาในป่าลึกเพียงใด เพราะรู้แต่เพียงว่าอีกไม่นานตัวเองก็จะตายอยู่แล้่ว

                "สนุกมั้ยครับ...ไปพูดอย่างนั้น"ดูเหมือนว่าเขาจะลืมไปว่าตัวเองเลือดออกเกือบตายแหล่มิตายแหล่อยู่แล้วพูดขัดประโยคเธอด้วยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะ ดูสิเธอยังทำหน้าเหมือนกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นได้เลย

                "สะใจต่างหาก"เธอสวนกลับไปทันที พลันความรู้สึกบางอย่างก็พุ่งถาโถมเข้ามาหาเธออย่างรุนแรง ร่างบางสะดุ้งเฮือกอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ความดำมืดและความสะอิดสะเอียนถาโถมเข้ามาหาเธออย่างมากมายราวกับห่าฝน ร่างบางถูกอัดกระแทกจากสิ่งเหล่านั้นจนตัวงอ ใบหน้าของเธอซีดลง

                "เป็นอะไรไปครับ"เขาหันมาถามอย่างตกใจ เมื่อเห็นอาการไม่สู้ดีสักเท่าไหร่ของเธอ อยากจะตะโกนให้งูหยุดแล้วมาดูอาการของเธอ แต่ทว่าเขาเองก็ชักจะรู้สึกถึงพลังชั่วร้ายมหาศาลอัดถาโถมเข้ามาหาเขาเช่นกัน เด็กหนุ่มกัดฟันความรู้สึกนี้มันเหมือนกับตอนที่...เขาเจอกับ'พ่อใหม่'เป็นครั้งแรก

                "ความรู้สึกนี่...มันอะไรกัน"เธอคิด สีหน้าดูทรมาน เธอไม่เคยเจอความรู้สึกแบบนี้มาก่อนเลยแม้แต่น้อยตั้งแต่เกิดมาหรือแม้กระทั่งหลังจากที่ พจน์เพื่อนของเธอตายไปแล้ว ร่างบางกัดฟันอย่างอดกลั้น

                "เอ้า!!...ข้าจะพาเจ้าดำดินแล้วล่ะนะ...กลั้นหายใจดีๆล่ะ ถ้าไม่อยากสำลักดิน"งูพูด หัวเริ่มมุดลงไปใต้ดินอย่างรวดเร็ว ดินโดยรอบกระจัดกระจายพุ่งขึ้นจากท้องฟ้า ดินบางส่วนได้กระเด็นไปถูกทั้งคู่ด้วยเช่นกัน

                เสมือนโทรทัศน์ถูกดึงปลั๊กออก สติของเธอดับวูบลงอย่างรวดเร็ว

               "เฮ่ย!!~...อย่าเพิ่งเป็นอะไรไปสิคุณ!!"นี่คือคำพูดสุดท้ายที่เธอได้ยินจากเขาก่อนที่สติของเธอจะดับวูบไป

               ดวงตาที่ใสดุจแก้วของบางสิ่งที่อยู่ในพุ่มไม้ไม่ไกลจากรูที่งูยักษ์ขุดลงไปสะท้อนภาพเหตุการณ์ทั้งหมดก่อนจะผลุบหายไปจากตรงนั้น ทิ้งไว้เพียงความเงียบและไร้ร่องรอยใดๆที่จะสาวไปถึงตัวของมันได้
     
                                                        O[]O[]O[]O[]O[]O[]O[]O[]O[]O

                ภายในห้องมืดๆแห่งหนึ่ง มีชายคนหนึ่งกำลังดูเหตการณ์ในลูกแก้วที่ผ่านดวงตาของบางสิ่งมือของเขาวางไว้บนลูกแก้ว ดวงตาเรียวนั้นเต็มไปด้วยความเคร่งเครียด

                "ยุ่งไม่เข้าเรื่องจริงๆ"เขาบ่นอย่างหงุดหงิด มองภาพของชายหนุ่มที่พยายามจะตะโกนเรียกสติเธออย่างไม่พอใจ ปนรำคาญ มือของชายคนนั้นกำแน่นจนเห็นเป็นเส้นเลือดปูดโปน หงุดหงิดเหลือเกินที่เห็นเด็กคนนี้ ทำไมเขาถึงไม่กำจัดมันไปตั้งแต่แรกที่เจอนะ เด็กสามหาวแบบนี้อยู่ไปก็เกะกะแผนการณ์เปล่าๆ

               ฟ่อ~

               งูที่เหมือนกับงูในพิพิธภัณฑ์เพียงแต่ตัวเล็กกว่าเลื้อยขึ้นมาพันที่ต้นแขนของเขา มันกระซิบบางอย่างข้างๆหูของเขา ร่างในความมืดสลัวเบิกตากับคำพูดของงูตัวนั้น เขาคำรามในลำคออย่างขัดใจเป็นที่สุด

               "ฮึ่ม...รู้ตัวแล้วอย่างนั้นรึ!!"มือของเขาปัดลูกแก้วตกลงพื้นแต่งูก็เลื้อยลงไปรับได้ทันก่อนจะนำมาวางไว้ที่เดิมแล้วเป่าปากเหมือนกับโล่งในที่ลูกแก้วลูกนี้ไม่แตก ทันใดนั้นเองมันก็ต้องสะดุ้งโหยงเพราะเสียงตวาดดังลั่นห้องของนายมันที่ทำให้ลูกแก้วสั่นจนเกือบจะตกแตกอีกหน แต่ก็ดีที่มันไม่ตกลงมา

               "ไป...ออกไปติดตามเธอแต่อย่าให้มันรู้ตัวเด็ดขาด!!" เขาโบกมือไล่แรง งูพยักหน้าเร็วๆก่อนจะรีบเลื้อยออกไปอีกครั้งหนึ่ง

    __________________________________

    จุใจ ร้อยแล้วจ้า!

    แต่ไม่มีอารมณ์อ่านเลยอ่ะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×