ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    uncanny พิสูจน์ไม่ได้(รีไรท์รอบสามแล้วโว้ย)

    ลำดับตอนที่ #11 : ลางสังหรณ์ที่X:ถ้ำใต้ดิน(รีไรท์4)

    • อัปเดตล่าสุด 14 พ.ค. 54


    ลางสังหรณ์ที่X:ถ้ำใต้ดิน(100%)

              เปลือกตาบางปรือขึ้นอย่างแช่มช้า ก่อนจะต้องปิดตาเพื่อปรับสายตาให้เข้ากับแสงสลัวๆในสถานที่ที่เธอไม่คุ้นเอาเสียเลยในตอนนี้ ภาพอย่างแรกที่ไหลเข้ามาสู่คลองจักษุทำให้เธอต้องแปลกใจในสิ่งที่เธอเห็น ไตร่ตรองดูว่าเธอมาอยู่ในสถานที่แบบนี้ได้อย่างไรกัน เธอรู้สึกมึนงงเหลือเกินในสิ่งที่เห็น...

              ...เพดานถ้ำ...

              "มาจากไหนวะ?" เธอเด้งตัวลุกขึ้น "ที่นี่ที่ไหน"เธอพึมพำเบาๆกับตัวเอง กลิ่นอับชื้นและกลิ่นคาวโชยมาแตะจมูกทันทีที่ประสาทสำผัสทุกส่วนของเธอตื่นตัว ดวงตาของเธอเริ่มปรับสภาพให้ชินกับความมืด เมื่อปรับได้ เธอก็หันไปหาคนที่เธอคิดว่าน่าจะอยู่แถวๆนี้แต่ก็ไม่พบแม้แต่เงา ทำให้เธอคิดไปเองว่าเขาอาจจะโดนจับกินไปแล้วหรือว่าอาจจะหนีเอาตัวรอดโดยไม่สนเธอ ออกไปจากที่นี่แล้วก็เป็นได้

             เสียงน้ำกระเซ็นก้องสะท้อนไปทั่วเวิ้งถ้ำทำให้เธอรู้สึกประหลาดใจปนสงสัยที่นี่มีน้ำตกด้วยหรือนี่   ร่างเล็กยันตัวลุกขึ้นยืนจะไปดู แต่ก็ต้องกลับลงไปนอนใหม่เนื่องจากว่าไม่มีแรง กล้ามเนื้อเกิดความอ่อนล้าหลังจากที่วิ่งมาเป็นเวลานาน เธอชักหงุดหงิดตัวเองที่ไม่ได้ออกกำลังกาย ที่ผอมเพราะเกิดจากกินไม่ได้นอนไม่หลับต่างหาก

             "เฮ่...มาช่วยทางนี้หน่อยเซ่!!"ไอวิญญาณสีเงินแผ่ออกมามากมายชนิดที่เจ้าของไม่ได้คิดจะปิดบังเลยสักนิดแถมเหมือนเต็มใจแผ่มาทางเธอเสียด้วย เธอหันขวับไปเจอเขาพลันคิ้วที่ขมวดว่าไอวิญญาณเป็นของใครก็ยิ่งเป็นปมมากยิ่งขึ้น พลังสีเงินคุ้นเคยนั่นทำให้แก้มของเธอรู้สึกร้อนผ่าวขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว

              "ทำไม...มีไอวิญญาณสองสีในร่างเดียวกันล่ะ"เธอพึมพำ พยายามสลัดความคิดบ้าๆออกไปจากหัว ที่น่าสงสัยนั่นคือเสียงเดิมที่เปลี่ยนโทนไปราวกับว่า เขานั้นมีสองคนในร่างเดียวหรือว่าเป็นประเภทโรคสองบุคลิกที่เธออ่านเจอในหนังสือบ่อยๆ แต่ว่ามันจะเกี่ยวกับไอวิญญาณหรือไม่เธอเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน

              "มัวทำอะไรอยู่...มาช่วยกันก๊อนนนนนนนน"เขาร้อง ฉุดเธอให้ตื่นขึ้นจากภวังค์ เห็นชายหนุ่มที่เคยช่วยเธอเอาไว้กำลังนั่งยุ่งอยู่กับผ้าพันแผลที่พันเขาไปทั้งตัวจนเขาขยับไม่ได้ดูแล้วคล้ายๆกับมัมมี่ชอบกล ภาพนั้นทำให้คนที่คิดว่าตัวเองเลิกยิ้มจากใจไปแล้วค่อยๆแย้มรอยยิ้มน่าเอ็นดูออกมา ก่อนจะ...เริ่มหัวเราะ

               "ฮิๆๆๆ...มัมมี่ตกสำรวจ"เธอชี้ไปที่เขาก่อนหัวเราะออกมาอย่างครื้นเครง ไม่ได้หัวเราะแบบนี้มานานเท่าไหร่แล้วนะ เธอเนี่ย ครั้งสุดท้ายก็คงเป็นก่อนพจน์จะจากไปล่ะมั้ง หญิงสาวโคลงหัวตัวเองเล็กน้อย "ไอวิญญาณสองสีอย่างนั้นหรือ...น่าสนแฮะหมอนี่"เธอคิดพลางหรี่ตาลงอย่างวิเคราะห์ในตัวเด็กหนุ่ม

               "มัมมี่บ้าอะไร...โว้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย"เขากลิ้งไปมาหวังว่าจะให้ผ้าพันแผลงี่เง่าออกไปจากตัวเขา แต่ว่ามันทำให้ผ้าพันเขามากยิ่งขึ้น เธอเกาหัวอย่างงงๆ ทำไม่เป็นแล้วจะทำทำไม อีกอย่างเขาไปเอาผ้าพันแผลพวกนี้มาจากไหนกัน คงไม่ใช่ว่างูเอามาให้หรอกนะ ร่างบางถอนหายใจ สภาพของเขามันช่าง...เหลือทนจริงๆ

               "แล้ว...ทำอะไรอยู่เนี่ย"เธอถาม พลางมองดูเขาที่กลิ้งไปมาอย่างอนาถพลางส่ายหน้าเบาๆอย่างเอือมระอา ทำไม่เป็นแล้วดันทุรังทำเนี่ย มันไม่น่ายื่นมือเข้าช่วยจริงๆเลย แต่เธอก็อดสงสารเด็กหนุ่มไม่ได้

               "ทำแผล"เขาตอบสั้นๆ "แต่ไม่คิดว่ามันจะยากขนาดนี้"เขาบ่นพึมพำอย่างหงุดหงิดเล็กน้อย เธอหัวเราะคิกอีกครั้งหนึ่ง เอาเถอะช่วยๆหน่อยดีกว่า

               เธอคลานมานั่งข้างๆเขาแล้วแก้ผ้าพันแผลออกมา จากนั้นก็พันแผลให้ใหม่อีกรอบ ไม่มีการสนทนาเพิ่มเติมนอกจากเธอจะเหลือบมองไอวิญญาณของเขาเป็นระยะๆ สักพักไอวิญญาณของเขาก็กลับเป็นสีทองดังเดิมอย่างรวดเร็วเหมือนว่าเขาจะไม่รู้ตัวเลยแม้แต่น้อย หรือไม่รู้ว่าเธอมองอยู่กันแน่นะ

               "!?!"เธอตกใจสะดุ้งเฮือก ทำไมจู่ๆถึงเปลี่ยนสีไอวิญญาณได้ล่ะ ชายหนุ่มขมวดคิ้วหันมาหา เธอกลัวว่าเขาจะรู้ตัวแล้วว่าเธอแบบจ้องมาทางเขาเกือบจะตลอดเวลาที่ทำแผลเลยทีเดียว นั่นก็เพื่อสังเกตความผิดปกติที่ออกมาจากตัวเขา

               "มีอะไรหรือครับ"คำพูดที่เอ่ยออกมาต่างจากเมื่อครู่ราวฟ้ากับเหว เหมือนกับว่าเขาคนนี้มีสองบุคลิกอยู่ในคนๆเดียวกัน โทนเสียงเปลี่ยนไปอีกแล้ว สงสัยเขาจะต้องเป็นโรคสองบุคลิกแน่ๆเลย ร่างบางกัดริมฝีปากของตัวเองเบาๆ

               "เปล่า...ที่นี่ที่ไหนเหรอ?"เธอเปลี่ยนเรื่องพลางกวาดตามองไปรอบๆ เพื่อหลบสายตาของชายหนุ่มที่จ้องเธอตาไม่กระพริบ

               "บ้านไอ้งูบ้าตัวนั้นแหละครับ"(ด่าแล้วใช่มั้ย)เขาตอบอย่างสุภาพ เธอพยักหน้าก่อนหันไปทางที่มีเสียงของน้ำที่กระเซ็นอยู่เรื่อยๆ ไม่ใช่เสียงน้ำตกแล้วล่ะ น่าจะเป็นพวกปลาหรือว่าอะไรทำนองนั้นมากกว่า

               "เสียงอะไรน่ะ"เธอผูกผ้าพันแผลแล้วตัดผ้าพันแผลออกมาจากหลอดผ้าพันแผลเป็นอันเสร็จพิธี ร่างสูงเอื้อมมือมาแตะๆมันเล็กน้อยเหมือนจะสำรวจความเรียบร้อยก่อนจะมอบรอยยิ้มน่ารักให้หญิงสาวอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ทำเอาเธอหนาวสันหลังแปลกๆ มันเป็นยิ้มที่ทำให้สาวๆใจละลายแต่มันช่างน่ากลัวเสียเหลือเกินในสายตาของเธอ ได้โปรดอย่ายิ้มแบบนี้อีกนะ มันอาจทำให้เธอชอคตาายได้เลยทีเดียว

               "ไปดูสิ...ผมเองก็อยากจะรู้อยู่เหมือนกัน"เขายันตัวลุกขึ้น ก่อนดึงเธอให้ลุกขึ้นมาบ้างเช่นกันร่างบางเซไปเล็กน้อย แต่ก็มีมือของเขามาประคองเอาไว้ ดวงตาของชาช่ามองออกไปจากสถานที่ๆพวกเขายืนอยู่ พลัน ดวงตาของเธอก็เบิกกว้าง เหมือนมีอะไรบางอย่างมาจุกอยู่ที่ลำคอ และรู้สึกชาวาบไปทั่วทั้งร่าง

               ...ปลาซอมบี้อัดแน่นอยู่ในบ่อเต็มไปหมด...

               "กริ๊..."มือหนาปิดปากเธออีกรอบ ก่อนก้มลงกระซิบข้างหูของเธอรอดไรฟันอย่างโกรธๆ ไอวิญญาณสีเงินแผ่ออกมาจางๆปนกับไอวิญญาณสีทอง นี่เป็นอีกเหตุการณ์ประหลาดอีกเหตุการณ์หนึ่งที่เธอเพิ่งจะได้ประสบพบเจอเป็นครั้งแรกในชีวิต

              "มันจับสัมผัสจากเสียงและการเคลื่อนไหว...ฉะนั้นเงียบๆไว้"เธอพยักหน้าดวงตาเบิกโพลงน้ำตาไหลพรากๆหากแต่ไร้ซึ่งเสียงสะอื้น เมื่อเขาปล่อย ร่างบางก็ทรุดลงไปร่างของเธอเหมือนไม่มีกระดูก เรี่ยวแรงหายไปไหนหมดก็ไม่รู้ ชายหนุ่มรู้สึกมึนงงที่ร่างในอ้อมแขนทรุดลงไป แต่เขาก็ไม่ได้ประคองให้เธอลุกขึ้น

               "มันจะพาเรามาฆ่าเราจริงๆหรือนี่"เธอพึมพำราวกับเป็นคนไร้สติสัมประชันยะ "ไอ้ปลาบ้าพวกนั้นมันขึ้นมาบนบกได้"เธอพร่ำเพ้อออกมา มือทั้งสองข้างกุมหัวผมยุ่งกระเซิง เขามองเธอ ทำหน้าเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง ลองวิเคราะห์ดูแล้ว มันไม่น่าจะขึ้นไปข้างบนได้ หากมันขึ้นไปมันก็ต้องอยู่บนบกหรือขุดดินขึ้นไป

               "บ้า"เขาพึมพำกับความคิดของตัวเอง ก่อนนั่งลงข้างๆร่างที่กำลังสั่นด้วยความหวาดกลัวและเใช้สองมือเล็กๆของเธอกอดตัวเองเอาไว้

               "ไม่ต้องกังวลหรอกนะ...ผมก็นั่งอยู่ตรงนี้นี่"เขานั่งชันเข่าข้างหนึ่งขึ้นมาแล้วหันไปพูดกับเธอ พลางลูบหัวของเธออย่างอ่อนโยน รอยยิ้มน่ากลัวในสายตาของเธอปรากฏขึ้นอีกครั้งที่ริมฝีปากของเขา ทำไมเธอถึงต้องกลัวรอยยิ้มนี่ด้วยนะ ทั้งๆที่มันเหมือนเป็นรอยยิ้มของเทพองค์หนึ่งจากสวรรค์เลยทีเดียว

               "นายเองก็น่ากลัวไม่แพ้มันหรอก"เธอคิด กระถดถอยหนีออกจากร่างสูง อย่ายิ้มอีกนะ เธอขอร้องเขาในใจ แต่เขาก็ยังคงยิ้มไม่เลิก

               "สายันต์สวัสดิ์...ฟื้นแล้วหรือ"งูน้อย (?)  เลื้อยเข้ามา ยื่นหัวเข้ามาใกล้ๆทั้งสอง เขาคว้าแขนเธอดึงให้ไปอยู่ด้านหลัง จ้องตอบกลับ ไอวิญญาณสีเงินแผ่ออกมาอีกครั้ง คราวนี้ดูจะรุนแรงกว่าเดิมอีกด้วย

               "ต้องการอะไร"เขาถามเสียงเย็น หรี่ตามองงูอย่างไม่ไว้ใจ ส่วนงูหัวเราะในลำคอเบาๆอย่างตลกขบขัน

                "อวดดีนักนะ...พวกมนุษย์"งูพูดราวกับพึงพอใจในตัวของเด็กทั้งสองคนนี้ "อยากเป็นอาหารของลูกข้ามั้ย...มันชอบอาหารที่มีความแปลก...และพิเศษ..."หัวงูอ้อมมาด้านหลังดวงตาที่ใสราวกับลูกแก้วจ้องมองมาที่เธอ ราวแฝงความนัยบางอย่างเอาไว้ ก่อนจะแสยะยิ้มน่ากลัวออกมา รอยยิ้มของชายหนุ่มน่ากลัวกว่านี้หน่อยหนึ่ง
     
                เธอสะดุ้งเฮือก กลืนน้ำลายลงคอที่แห้งผากอย่างฝืดฝืน นัยน์ตาของเธอสะท้อนประกายบางอย่างออกมา แววตาของเธอสั่นระริกด้วยความหวาดกลัว

               
    "ปลานั่น...เป็นลูกของคุณ...อย่างนั้นหรือ"เธอพูดเหมือนเหม่อลอย ดวงตาของเธอไม่ได้จับจ้องไปที่สิ่งใด มันดูเลื่อนลอยจนดูน่ากลัว เธอชักจะกู่ไม่กลับเสียแล้ว

                "หึๆๆๆๆ...นึกไม่ถึงล่ะสิท่า...เจ้ามนุษย์"งูแสยะยิ้มอย่างผู้ที่ถือไพ่เหนือกว่า เธอสั่นด้วยความหวาดกลัว เธอกลัวปลาพวกนี้ เพราะว่ามันกินพจน์เข้าไป มันทำให้พจน์ต้องตายอีกครั้ง มันเป็นความผิดของเธอด้วยที่ลงน้ำไป

                "แสดงว่าไอ้งูนรกนี่มันก็ต้องมีมากกว่าหนึ่งตัวน่ะสิ!!"เธอคิดขยับเข้าไปใกล้ๆเขา ถึงจะไม่ไว้ใจคนๆนี้แม้แต่น้อยแต่ตอนนี้เขาเป็นคนเดียวที่ดูจะพึ่งพิงได้มากที่สุดในขณะนี้ก็มีแต่ชายหนุ่มเพียงคนเดียวเท่านั้น

                เขาเอื้อมมือมากุมมือของเธอเอาไว้เบาๆ เหมือนจะบอกให้ไว้ใจเขาก่อนจะเขาจะมองงูด้วยแววตากร้าว มือของเขาทำให้เธอรู้สึกโล่งใจไม่เหมือนกับรอยยิ้ม ดูเหมือนว่าเธอจะลืมสังเกตเขาไปว่าไอวิญญาณนั้นกลับมาเป็นสีเงินตั้งแต่ตอนที่งูเข้ามา เขาเปลี่ยนไอวิญญาณไปมาราวกับว่าเขาควบคุมมันได้ดังใจอย่างไรอย่างนั้น

                "หากแกจะแตะตัวเธอ...ข้ามศพฉันไปให้ได้ก่อนละกัน!!"แรงกดดันและจิตสังหารพวยพุ่งออกมาจากร่างของชายหนุ่ม งูผงะถอยออกห่างจากเธอและเขาพลางทำหน้าอารมณ์เสียเสียเต็มประดา ร่างสูงลุกขึ้นยืนเต็มความสูง เอียงคอไปมาได้ยินเสียงลั่นกรอบแกรบอย่างน่ากลัว ดวงตาของเขาแสดงออกถึงความรังเกียจงูตรงหน้า

                "ไม่ธรรมดาเหมือนกันนี่...แรงกดดันมากมายขนาดนี้น่ะ...แต่ว่า..."หางกุดๆของมันตวัดฟาดเข้ามา เขาผลักเธอไปอีกทางส่วนตัวเองโดนเต็มๆ!!ทำให้ร่างของเขากระเด็นไปเกือบตกลงไปด้านล่าง ชายหนุ่มหยุดตัวเองไว้ได้ทันก่อนที่จะตกลงไป แววตาเย็นชาเหลือบมองไปด้านหลัง ตรงนี้ก็เป็นบ่อปลาเช่นกัน หากตกลงไป...ตาย

               "เฮอะๆๆๆ...ทำได้แน่นี้เองรึ...ตาผมมั่งล่ะ"เขากระโจนขึ้นมาแล้วกระโดดลอยไปเหนือหัวของงู มือซ้ายเงื้อขึ้น ดวงตาเรืองแสงวาบ

               เธอเบิกตา ภาพที่เห็นคือกรงเล็บสีแดงยาวงอกออกมาจากมือของเขา ดวงตาข้างซ้ายของชายหนุ่มแปรเปลี่ยนเป็นสีเงิน เธอขยี้ตาภาพเหล่านั้นก็หายไปราวกับว่าเมื่อครู่เธอคิดมโนภาพขึ้นมาเองในหัว!!

                "เมื่อกี้มันอะไรกัน!!"เธอคิดอย่างตื่นตระหนก อย่างนี้มันไม่น่าจะใชคนแล้ว น่าจะเป็นปีศาจที่หลุดออกมาจากการ์ตูนที่น้องของเธอดูเสียมากกว่า

                เขาเงื้อมือขึ้นกรงเล็บแหลมยาวงอกออกมา ทำให้งูเบิกตากว้างอย่างตกใจ รวมถึงผู้ที่แอบดูเหตุการณ์นี้ด้วย

                'หยุด...ได้โปรด...อย่าเพิ่งวู่วาม...ใช้พลังของท่าน'เสียงหวานก้องกังวาลอยู่ในหัวของชายหนุ่มที่ดูจะอารมณ์ร้อนไปหน่อย

                ชายหนุ่มชะงักมือ เปลี่ยนเป็นควักมีดออกมาปักลงไปกลางหัวของงูแทน พลางทิ้งน้ำหนักให้ตัวตกลงมาในขณะที่มือยังจับมีดหรือเรียกสั้นๆว่ากรีด ทำให้มีแผลเป็นทางยาวกลางหัวของงู มันง่ายดายเหลือเกินสำหรับเขาที่จะทิ่มแทง กรีด หรือแม้กระทั่ง 'ฆ่า' งูตัวนี้ให้ตายคากรงเล็บ แต่ในเมื่อมีคนขอมาก็ต้องละเว้นเอาไว้เสียก่อน

                เขาถอนมีดออกทิ้งตัวลงมา แล้วมองงูที่กรีดร้องด้วยความปวดแสบปวดร้อนจากไอวิญญาณที่เขาอัดใส่ในมีดด้วยความเต็มใจ พลางหอบหายใจถี่ระรัวอย่างเหนื่อยอ่อน ใช้มากๆก็ไม่ดีต่อร่างกายเลย ไอวิญญาณเนี่ย

               "มะ...เมื่อกี้มันเป็นเสียงของ..."เขาคิด เอามือข้างที่ว่างกุมหัวของตัวเอง ก่อนจะมองมาที่เธอ "ไม่เป็นอะไรใช่มั้ย!!"เขาเอามือป้องปากตะโกนอย่างเป็นห่วง เมื่อกี้ผลักเธอแรงไปหน่อย หวังว่าคงจะไม่ตกลงไปนะ

               "อะ...อืม"เธอพยักหน้ารับเบาๆ เขาหันไปมองงูที่ดูจะโอเวอร์แอคชั่นมากไปหน่อยกับแผลกรีดกลางหัวของมัน เพราะมันดีดดิ้นจนถ้ำสะเทือน หินชิ้นเล็กชิ้นเล็กชิ้นน้อยตกลงมาจากเพดานถ้ำ ถึงแม้ว่าจะเล็กแต่ก็มีความแหลมคมอยู่เหมือนกัน แต่ทว่าเธอก็ไม่โดนเศษหินนั้นบาดเลยแม้แต่น้อย เป็นเพราะร่างสูงที่ไม่รู้เดินเข้ามาหาเธอเมื่อไหร่ และใช้ร่างของตัวเองกันเศษหินเอาไว้ไม่ให้โดนร่างกายของเธอ แขนของเขาเหมือนโอบร่างบอบบางเอาไว้แน่น

              "ทำแสบมากนะ...ไอ้หนุ่มฝากไว้ก่อนเถอะ...แต่ตอนนี้ข้ามีบางอย่างอยากจะถามพวกแกมากกว่า"งูฮึ่มแฮ่ในลำคอ หงุดหงิดไม่น้อยที่ตอนนี้มีแผลถึงสามแผลบนร่างกายของมัน มันกัดฟันกรอดมองเด็กหนุ่มอย่างเจ็บแค้น

               หนึ่ง...คือแผลแรกที่หญิงสาวทำเอาไว้...

               สอง...คือแผลที่ลุงผีทำให้ ทำให้ความยาวของมันลดลงไป...

               และ...สาม...

               แผลที่ชายตรงหน้าทำได้เจ็บแสบที่สุด!!

               มันมองลึกลงไปในดวงตาของเขา อะไรบางอย่างที่แผ่ออกมาจากเขาตรงหน้ามันทำให้รู้สึกเหมือนว่าคนตรงหน้าสามารถฉีกมันเป็นชิ้นๆได้หากเขาเอาจริง และเขาก็เกือบจะเอาจริงแล้ว แต่เหมือนมีใครมาห้ามเอาไว้ก่อนทำให้ความรุนแรงในการจู่โจมลดลงไปมากโขจนเหลือเพียงสร้างรอยแผลเป็นให้มันแบบนี้

                "ถามอะไร"เขาถามด้วยน้ำเสียงสั้นห้วนจนเธอตกใจ เพราะน้ำเสียงมันช่างแตกต่างกับในครั้งที่เจอกันในคราแรก ที่ทั้งนุ่มนวลและอ่อนโยน ราวกับว่าคนตรงหน้าเธอนั้นมีสองบุคลิก!! แต่ตอนนี้เธอไม่สงสัยแล้ว เธอปักใจเชื่อว่าคนตรงหน้ามีสองบุคลิกจริงๆ

                "เราไม่เชื่อคุณหรอก"เธอพูดออกไป หินหยุดหล่น เขาจึงคลายอ้อมแขนออก และถอยออกห่างจากเธอ ไม่หันมามองหน้าเธอเลย ชายหนุ่มจ้องงูด้วยท่าทางเกรี้ยวกราดเป็นที่สุด ตอนนี้ตรงหน้าของเขามีแต่งูที่เขาอยากจะจัดการ เลือดในตัวมันพลุ่งพล่านอยากจะฆ่างูตัวนนี้เสียเหลือเกิน แต่กลับทำไม่ได้

               
    "เอาล่ะ...ที่ข้าพาเจ้าทั้งสองคนมา...ข้าไม่ได้จะมาฆ่าเจ้า"งูพูดด้วยน้ำเสียงแปรเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว จากโหดเหี้ยมเปลี่ยนเป็นจริงจัง ทั้งสองสงสัย จู่ๆก็อยากจะฆ่า แต่เดี๋ยวก็เปลี่ยนใจเสียอย่างนั้น งูตัวเปลี่ยนใจง่ายจริงๆ ถึงจะบอกว่าไม่ฆ่า สัตว์เดรัจฉานก็คือสัตว์เดรัจฉานอยู่วันยังค่ำ เชื่อในคำพูดไม่ได้สักนิด ยิ่งเป็นงูด้วยแล้วยิ่งไม่น่าไว้วางใจ กลับกลอก ปลิ้นปล้อนสิ้นดี เขาไม่อยากเป็นเหมืออดัมกับอีฟหรอกนะ

                "เอ๋"ร่างบางอุทานออกมาอย่างประหลาดใจ แต่สายตายังคงชำเลืองลงไปมองเหล่าปลาซอมบี้ที่ดิ้นพล่านอยู่ในบ่อราวกับบ่อน้ำนั่นเป็นน้ำเดือด ที่จะลวกพวกมันให้สุก หรือว่าจะเกี่ยวกับปลาประหลาดพวกนั้นกันนะ หัวใจดวงน้อยของเธอเต้นระรัว ขอร้องล่ะ อย่าให้มันเกี่ยวกันเลย เธอไม่อยากจะลงไปสำรวจภายในปลาประหลาดนะ

                "จะเชื่อใจแกได้ไง"เขาตอนนี้ที่มีไอวิญญาณสีเงินอยู่หรี่ตามองอย่างไม่ไว้ใจ เธอเบิกตาเล็กน้อย เปลี่ยนตั้งแต้เมื่อไหร่กันนะทำไมเธอไม่ได้สังเกตและไม่ได้รู้ตัวเลยสักนิดกัน ชาช่ากัดริมฝีปากล่างตัวเองเบาๆอย่างครุ่นคิด คงจะต้องจับตาดูผู้ชายคนนี้ตลอดเวลาเสียแล้วกระมัง ไม่อย่างนั้นคงไม่รู้แน่ว่าจริงๆแล้วทำไมเขาถึงมีไอวิญญาณสองสี

                "หากข้าจะข้าเจ้ากับนังหนูนี่...ข้าจับโยนลงบ่อปลาหรือไม่ก็หย่อนลงกระเพาะข้าแล้ว...ไม่ปล่อยให้นั่งพล่ามอยู่อย่างนี้หรอก"งูพูด ก็จริงของมัน แต่บางทีมันอาจจะชอบกินแบบที่มีสติอยู่ก็ได้ ชายหนุ่มเม้มริมฝีปาก ดวงตายังคงแสดงถึงความไม่ไว้ใจในคำพูดของงูอยู่ดี แต่งูก็รู้อยู่แล้วว่าทำอย่างไรคงจะไม่ทำให้พวกมนุษย์ไว้ใจได้ พวกมันเป็นสัตว์เดรัจฉานที่ไม่ควรน่าไว้ใจมาตั้งแต่ต้นอยู่แล้วนี่นา

                พวกมนุษย์หวาดระแวงมนุษย์ด้วยกันเอง หวาดระแวงพวกสัตว์ต่างๆ แต่ก็กลับมาทำร้ายสัตว์ที่ไม่ได้ทำอะไรอยู่เฉยๆ ทำลายบ้าน ทำลายครอบครัว ทำลายชีวิตของพวกสัตว์ไปสิ้น ทั้งๆที่พวกมันไม่ได้ทำความเดือดร้อนอะไร เบียดเบียนหรือก็ไม่ พวกมนุษย์ต่างหากที่ต่างทำร้าย เบียดเบียนกันเอง แต่พวกมันก็กลับไปเข้าข้างกันเองเสียอย่างนั้น ช่างน่าสงสารเสียเหลือเกิน สำหรับสัตว์เดรัจฉานตัวน้อยๆ(?)เสียเหลือเกิน พวกมนุษย์ผู้เห็นแก่ตัวจะมีใครสักคนเข้าใจพวกมัน แล้วหยุดทำร้ายพวกมันสักทีได้ไหม?

              
      "ปากดีนักนะแก"เขายิ้มมุมปาก แต่ดวงตาไม่เป็นไปตามริมฝีปาก แสงสีเงินส่องประกายออกมาจากดวงตาคู่สวยคู่นั้น จะลองเดิมพันดูสักนิดก็ดีถึงแม้โอกาสจะน้อยก็ตามที "แล้วที่ว่าจะถามเนี่ย...มันอะไร"เขาเลิกคิ้ว

                "หากพวกเจ้าตอบคำถามที่ค้างคาใจข้าได้จะปล่อยไป...แต่ถ้าไม่ตกลง..."งูเว้นจังหวะ "ต้องหาทางเอาลูกของนายออกไป...นังนี่...จะจับเมื่อไหร่ก็ได้"งูคิด ถึงแม้ว่าชาช่าจะเหลี่ยมจัดเล่นไล่กันรอบพิพิธภัณฑ์จนเหนื่อยอีกต่างหาก แต่ก็ยอมล่ะนะ

                "อย่าทำให้ลุ้นนักสิวะ!!"เขาคิดอย่างหงุดหงิด เจ้างูตัวนี้มันคิดอะไรของมันอยู่กันแน่นะชายหนุ่มขมวดคิ้วเข้าหากัน

                "ตาย!!~"ร่างเล็กสะดุ้งกับเสียงตวาด เอาแขนของเขามากอดเอาไว้แน่นอย่างลืมตัว เธอกลัวจริงๆแล้ว กลัวปลาพวกนี้จากประสบการณ์ตรงนอกห้องเรียนของเธอเอง ชายหนุ่มสะดุ้งไปเล็กน้อยเมื่อเจอแรงกระชากจากเด็กสาวเขาเซไปด้านข้าง ก่อนจะกลับมาทรงตัวดังเดิม เล่นโพล่งออกมาแบบนี้ ผู้หญิงที่ไหนเขาไม่ตกใจบ้างล่ะ

               "ถามมาเลย!!"เขาพูด แววตาไร้ซึ่งความหวาดหวั่นใดๆทั้งสิ้น ริมฝีปากแสยะยิ้ม ดวงตาลุกวาวด้านท่าทางสนุกสนาน

               "คือ..."งูอ้าปากกำลังจะพูดแต่ก็มีสิ่งที่ไม่คาดคิดว่าจะเกิดแทรกขัดขึ้น

              "หากเราไม่รู้ล่ะ"เธอโพล่งขึ้นขัดทั้งคู่

    ___________________________________

    รีไรท์ใหม่อีกครา
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×