คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : การประกวดมิสเตอร์อินด์มิสจันทรา 1
การประกวดมิสเตอร์อินด์มิสจันทรา 1
พระจันทร์ลอยเลื่อนหลบไปอีกฟากหนึ่งของฟากฟ้า ขณะที่แสงอาทิตย์แรกของวันเริ่มทอแสงสีทองจากฝากตะวันออกของผืนฟ้า
วันนี้ต้องเกิดเหตุการณ์แปลกมากๆแน่ๆ ถ้าไม่ใช่ฝนตกห่าใหญ่ 7 วันก็ต้องมีอะไรที่ยิ่งใหญ่เทือกนั้น ทำไมหน่ะหรอ.............
ก็วันนี้เจ้าคนขี้เซาตื่นเช้าหน่ะสิ ทั้งที่ปกติปลุกยากยิ่งกว่ายากซะอีก
เหตุผลง่ายๆของเจ้าตัวตื่นสายที่ตื่นเช้าก็คือ อยากรีบเดินทางไปให้พ้นๆจากเมืองนี้ซะที
จะว่าไปวันนี้ก็แปลกจริงๆนะ ท้องถนนสองข้างทางประดับประดาไปด้วยดอกไม้และลูกโป่งมากมายหลากสีสัน พร้อมทั้งยังมีสายรุ้ง แล้วยังมีป้าย สุขสันต์วันจันทราติดอยู่เต็มท้องถนน
(แหม....ตอนแรกนึกว่าเขาจะฉลองดีใจที่คุณนายตื่นสายจะบานตอนเช้าซะอีก)
แล้วความอยากรู้อยากเห็นของเฟรินก็ชนะ สาวน้อยรีบวิ่งเข้าไปถามเถ้าแก่เจ้าของโรงแรมที่พักเมื่อคืนทันที
“เถ้าแก่ฮะ เกิดอะไรขึ้นหรอฮะ”ขโมยสาวขี้สงสัยถาม แล้วยิ่งได้ยินเสียงตัวเองที่เปล่งออกมายิ่งสงสัยเข้าไปอีก
“เห.....ทำไมประโยคมันไม่เปลี่ยนแล้วหล่ะ พูดตรงตามที่คิดเป๊ะเลย”สาวช่างสังเกตพึมพำเบาๆอย่างสงสัย
แต่แล้วความสงสัยนั้นก็กระจ่างทันนี้ที่เถ้าแก่เจ้าของโรงแรมตอบมา
ก็วันนี้เป็นวันจันทราที่ทั้งปีมีวันเดียว เป็นวันที่เมืองนี้จะโกหกไม่ได้เฉกเช่นเดียวกับนครจันทราเลย
“อ๋อ...แม่หนู......วันนี้มีประกวด มิสเตอร์แอนมิสจันทราด้วย ของรางวัลมีไอเท็มวิเศษด้วย เห็นว่ากันว่ารางวัลไม่ซ้ำกันซักปี ถ้าสนใจไปสมัครที่กองประกวดตรงลานน้ำพุนะแม่หนู”
ทันทีที่เถ้าแก่พูดจบ สาวน้อยของเราก็รีบจูงมือชายหนุ่มวิ่งไปที่ลานน้ำพุทันที
-------------------------------------------------------------------------------------
ลานน้ำพุกลางเมือง
ผู้คนมากมายยืนชุมนุมกันเต็มลานไปหมด จะพูดให้ถูกคือทั้งเป็นคนและไม่ใช่คน มีทั้งปีศาจ โคมุส และตัวประหลาดอีกมากมายด้วย
“เฮ้อ...คนเยอะอย่างนี้แล้วจะเข้าไปสมัครได้ยังไงเนี่ย”เฟรินบ่นอย่างเหนื่อยใจ
“ตุ่ง...ตุง...ตุ้ง....ตุ๊ง.....ขอให้ผู้ที่ต้องการสมัครทุกคนเดินมาด้านหลังลานน้ำพุค่ะ”เสียงผู้ประกาศสาวดังขึ้น
สิ้นเสียงประกาศเฟรินก็ลากนักบวชหนุ่มเข้าไปทันทีโดยไม่ถามความเห็นจากเจ้าตัวเลย
“ให้ผู้สมัครทุกคนพยายามเปลี่ยนความรู้สึกตัวเองให้ต่างกับตอนนี้มากที่สุดนะค่ะ พื้นที่ที่ผู้สมัครทุกคนยืนอยู่ลงมนตราวัดความต่างด้านอารมณ์ไว้ ถ้าใครผ่านถึงเกณฑ์ก็จะหายตัวเข้าไปในกระโจมด้านข้างค่ะ แสดงออกให้ตรงกับใจ อย่าเก็บความรู้สึกไว้ โชคดีนะค่ะทุกคน” เสียงหวานๆอธิบายกติกาการแข่งขันของผู้ประกาศสาวเล่นเอาขโมยสาวแทบบ้า
“เฮ้อ....ไม่น่าสมัครเลยเรา” เจ้าคนเจ้ากี้เจ้าการสมัครบ่นเบาๆ ก็สมควรจะบ่นหรอกนะ คนที่เก็บความรู้สึกเก่งขนาดได้เกรด A วิชาหน้ากากฟาโรห์อย่างเธอ ถ้าต้องให้มาแฉความรู้สึกหมดเปลือก แล้วต้องทำให้ตรงกันข้ามกันแบบเร็วๆ ใครจะไปทำได้ฟระ แถมห้ามแสดงแบบนักแสดงแต่ต้องเป็นอารมณ์จริงๆของเรา ยิ่งคิดยิ่งเหนื่อย
‘ไม่ได้..ต้องคิดเรื่องอื่นสิจะได้เปลี่ยนอารมณ์เร็วๆ’เฟรินคิดพร้อมหันไปมองผู้ร่วมชะตากรรมที่รู้สึกเหมือนโลกจะลืมเขาไปแล้ว (ก็ใช่หน่ะสิ ตั้งแต่ขึ้นตอนใหม่ยังไม่มีบทเลย)
“เฮ้ย.....”เสียงร้องเสียงดัง ดังขึ้นจากเฟริน ทำไมหน่ะหรอ ก็หันไปเห็นลอเรนซ์หายวับไปกับตา หน่ะสิ
“อะไรวะ ...โดนลากมาสมัครทำไมผ่านก่อน”เฟรินเริ่มบ่นอย่างหงุดหงิดคนเดียว แต่พอเธอนึกถึงว่ารุ่นพี่ของเธอไม่อยากประกวดอะไรนี่เลยแต่โดนเธอลากมา แต่ดันเข้ารอบไปซะอีก พี่แกคงจะอารมณ์เสียหน้าดู
เธอคิดพลางนึกถึงลอเรนซ์หน้าบูดปามีดใส่กรรมการ แล้วเธอก็หัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง
“แวบ...บ”สาวน้อยผู้เปลี่ยนจากอารมณ์เสียเป็นหัวเราะผ่านเข้ารอบไปอีกคน
................................................................................................................................................
“เย้ๆๆๆ
.ดีใจจังเลยผ่านเข้ารอบแล้ว”สาวน้อยข้างกายของนักบวชหนุ่มกระโดดร้องอย่างยินดี เขาหน่ะหรอไม่ยินดีซักนิด ให้มาทำอะไรก็ไม่รู้ไร้สาระ
จะว่าไปเขาก็แทบไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าผ่านเข้ารอบตอนไหน รู้แต่ว่าอารมณ์แรกเขาเซ็งสุดๆที่ถูกเธอลากเข้ามาด้วย แต่สิ้นเสียงผู้ประกาศสาวที่แสนจะบาดหูพร้อมกับกติกาบ้าๆนั้นเองก็เรียกอารมณ์บูดๆของเขาได้อย่างดี แล้วเขาก็แวบมาโผล่ที่นี่
‘เฮ้อ....สงสัยต้องไปทำเรื่องอยู่ต่ออีกวัน’นักบวชหนุ่มที่เปลี่ยนอารมณ์กลับมาเป็นปกติได้เพราะสาวน้อยจอมยุ่งกลับมาอยู่ข้างกาย เริ่มคิดอย่างปลงตก
“รอบต่อไปเริ่มแข่งตอน4โมงเย็นที่เวทีหน้าลานน้ำพุนะค่ะ พวกคุณจะได้แหวนจริงใจคนละวง หน้าที่ของคุณ ก็แค่เปลี่ยนอารมณ์แบบเมื่อกี้ค่ะ คะแนนจะวัดจากเสียงปรบมือของผู้ชมนะค่ะ”พิธีกรสาวสวยผู้ที่ได้ยินแต่เสียงตลอด เดินออกมาอธิบายกติกา พร้อมกับจากไปอย่างรวดเร็ว
“อะไรเนี่ย....ยังอธิบายไม่เข้าใจเลย แล้วแหวนอะไรเนี่ยมันอยู่ที่ไหนหล่ะ”เฟรินบ่นพร้อมกับมองไปรอบๆ แต่แล้วมือของเธอก็ถูกมือใหญ่ของคนข้างๆจับขึ้นมา
“อ้าว...ไปอยู่บนนิ้วตอนไหนหล่ะเนี่ย”สาวน้อยผู้ไม่รู้ตัวว่าสวมแหวนตอนไหนบ่นพร้อมกับมองไปรอบๆ
ผู้คนรอบกายมี10คน หญิง 5 คน ชาย 5 คน แล้วยิ่งมองดูชุดของคนรอบข้างก็มีแต่ชุดแปลกๆ จะว่าไปชุดของพี่ลอเรนซ์ก็เปลี่ยนไป กลายเป็นชุดสีดำยาว พร้อมกับแว่นดำ เหมือนกับหลุดมาจากเดอะแมททริกซ์ ซึ่งก็เข้ากับหน้านิ่งๆของพี่แกเป็นอย่างดี
ยิ่งเห็นภาพตริงหน้าสาวเจ้าก็ยิ่งหัวเราะใหญ่ แต่ก็ก้มดูชุดของตัวเองบ้าง
“เฮ้ย...ไหงเป็นเงี่ย”เฟรินก้มมองชุดของตัวเองแล้วก็นั่งคิดแบบสงสัยเต็มที่
“เราไม่ได้ทำท่าไม่สบายเลยนะ ทำไมอยู่ในชุดคนป่วยแบบที่โรงพยาบาลหล่ะ”สาวที่ถูกแหวนหาว่าเป็นคนป่วยนั่งบ่นพึมพำ
“แหวนจริงใจ...ทำให้ชุดที่ใส่เปลี่ยนตามอารมณ์ แสดงว่ามันคิดว่าเธอบ้า”ลอเรนซ์ตอบเสียงเรียบพร้อมกับซ่อนรอยยิ้มที่เกือบจะเป็นหัวเราะไว้
“เดี๋ยว หาว่าฉันบ้าได้ไงมิทราบ”สาวผู้ถูกหาว่าบ้าย้อนนักบวชThe Matrix
“เดี๋ยวดีใจ เดี่ยวบ่น เดี๋ยวงง เดี๋ยวอารมณ์เสีย แล้วก็ดีใจอีก”นักบวชหนุ่มตอบพร้อมกับรอยยิ้มที่กลั้นไว้ไม่อยู่
“เอ๊ะ......ว่าชั้นหรอ”สาวน้อยที่ชอบบอกว่าตัวเองเป็นผู้ชายผู้ด้วยน้ำเสียงและสำเนียงที่เรียกได้ว่าสาวน้อยอารมณ์เสีย
“แล้วเอ๊ะทำไมจะว่าไม่ได้”นักบวชที่เคยมาดนิ่งอยู่เสมอตอบด้วยมาดนิ่งๆแต่น้ำเสียงกวนสุดๆ
“เมื่อก่อนทำเป็นไม่ค่อยพูด เดี๋ยวนี้ปากเสียชะมัด”สาวน้อยอารมณ์เสียเลิกอารมณ์เสียแต่เปลี่ยนเป็นขำกับท่าทีของนักบวชหน้าบูดที่เปลี่ยนไป
ถ้าคนในป้อมมาเห็นนักบวชหน้าบูดพูดน้อยย้อนคนแบบนี้คงช็อคกันทั้งป้อม!!!
/////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////
ณ ลานประกวด เวลา 4 โมงเย็น
“สวัสดีค่ะท่านผู้ชมทุกท่าน ขอต้อนรับเข้าสู่การประกวดมิสเตอร์อินด์มิสจันทรา ประจำปีxxxx ของรางวัลแด่ผู้ชนะทั้งฝ่ายชายและฝ่ายหญิงคือบัตรเงินสด1หมื่นเหรียญ ทองคำหนัก10บาท ม้าพระราชทานพันธุ์ดีจากราชสำนักแห่งเดมอส กิฟว้อยเชอร์จากร้านเซเรนิตี้ เฮลตี้คลับแอนสปา สาขานครทราจัน และไอเท็มวิเศษในปีนี้คือแหวนจริงใจนั่นเองค่ะ”
สิ้นเสียงประกาศของโฆษกสาวเสียงฮือฮาของผู้ชมก็ดังขึ้น แต่แล้วก็หยุดลงเพราะผู้ประกาศสาวเริ่มประกาศต่อ
“คะแนนของแต่ละคนจะวัดจากเสียงปรบมือของทุกท่าน ซึ่งแท่นวัดคะแนนอยู่ด้านหลังดิฉันค่ะ ซึ่งจำไว้ว่าปรบได้คนละครั้งเท่านั้นนะค่ะ และจะให้ปรบมือหลังจากแสดงตัวผู้เค้าประกวดครบค่ะ”พิธีกรสาวว่าพลางผายมือไปด้านหลัง ปรากฏเป็นแท่งทรงสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่
“ขอเชิญพบกับผู้เข้าประกวดฝ่ายชายหมายเลข 1 ลอเรนซ์ ดอร์น”พิธีกรสาวพูดพร้อมกับผายมือไปข้างหลังอีกครั้ง แต่ก็ไม่มีใครออกมา
“เอ่อ....หมายเลข 1 ลอเรนซ์ ดอร์นค่ะ”เนื่องจากยังไม่มีใครออกมาพีธีกรสาวจึงพูดซ้ำอีกครั้ง
ร่างของชายหนุ่มเซถลาขึ้นมาข้างหน้าเนื่องจากแรงพลักและถีบของใครบางคน เล่นเอานักบวชหนุ่มของเราอยู่ในอารมณ์ที่เรียกได้ว่าบูดเต็มที่
แล้วแหวนก็เริ่มออกฤทธิ์เนื่องจากอารมณ์บูดๆของเขา ชุดหนังสีดำยาวปรากฏขึ้นบทกาย พร้อมับปีกค้างคาวสีดำสนิทที่งอกขึ้นมาจากด้านหลัง
เมื่อประกอบกับหน้าบูดๆและไออาฆาตทมึนๆที่แผ่รังสีสีดำออกมารอบๆ(อาฆาตคนพลักเขาขึ้นเวที)ทำให้พูดชมต่างสรุปว่าซาตานชัดๆ สงสัยส่งตรงมาจากทริสทอร์(ถ้ารู้ว่าเป็นนักบวชคงช๊อคกันแน่ๆ)
แต่ในขณะที่นักบวชหนุ่มขึ้นมาบนเวทีแล้วทำอะไรไม่ถูกนั้นก็รีบหันหน้ากลับไปดูตัวการทันที แล้วก็พบกับสายตาเว้าวอนเชิงขอโทษเต็มทีของสาวหน้าหวานดวงตาสีน้ำตาลคู่สวยส่งมาให้ แล้วสาวเจ้าก็ยิ้มหวานพร้อมกับชูสองนิ้วเป็นสัญลักษณ์วิกตอรี่(แบบเดียวกับสู้ตาย)
ดวงตาคู่นั้นที่เขามิอาจลืมได้ ใบหน้าที่เขาคุ้นเคยไม่เคยลืม จนเรียกได้ว่าคิดถึงทุกขณะจิต เรียกเอารอยยิ้มปรากฏบนในหน้าของนักบวชในชุดซาตาน ชุดของเขาเปลี่ยนจากซาตานกลายมาเป็นเทพบุตรสุดหล่อ
ชุดสีขาวผ่องบริสุทธิ์เปล่งรัศมีสีขาวอย่างกับเทพบุตรประกอบกับปีกนกสีขาวที่เปล่งประกายระยิบระยับเข้ามาแทนที่ปีกค้างคาว ชุดอันแสนงดงามกับท่าทีที่สง่างามไม่ได้สร้างความประหลาดใจให้กับผู้ชมเท่ากับรอยยิ้มที่แสนมีเสน่ห์ที่ปรากฏอยู่บนในหน้าคมคายที่บูดบึ้งเป็นนิจ เข้ากับผมสีทองเปล่งประกาย ยิ่งทำให้ชายหนุ่มคนนี้กลายเป็นพระเจ้าในสายตาหลายๆคน
การเปลี่ยนอารมณ์และเปลี่ยนชุดได้ขัดแย้งสุดๆเรียกเสียงปรบมือดีงกระหึ่ม เล่นเอาสาวน้อยหลังเวทีกระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจ
‘ขอให้ตอนตัดสินปรบมือแบบนี้อีกทีเถอะ รับรองรุ่นพี่ของเธอได้คว้าที่ 1 มานอนกอดแน่นอน’
ความคิดเห็น