ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : +++ลอเลนซ์เปลี๊ยนไป๋+++
----------------2--------------------
“เล่นก็ได้จ้า ..แล้วนึกไงเอาพี่ลอเลนซ์มาเป็นพระเอกเนี่ย ไม่มีคนที่ดีกว่านี้แล้วหรือไง”เฟรินสวนขึ้นมา
“หรือว่านายอยากให้คาโลมาเป็นพระเอกล่ะเฟริน”คิลแซวขึ้นมา
“จะบ้าหรอ ชั้นแค่กลัวว่าถ้าเล่นไม่ดีอาจจะถึงคาดก่อน”
“ก็คาโลได้รับตำแหน่งหัวหน้าป้อมแล้วไม่ใช่หรอ เขาก็ต้องไปประชุมสภาสูงสิ ไม่มีเวลามาซ้อมหรอก”แองจี้พูดขึ้น
“อ้าว .แล้วที4ผู้คุมกฏไหงลากมาซะครบเลยหล่ะ”คิลถามบ้าง
“ก็ตำแหน่งผู้คุมกฏกับหัวหน้าป้อมมันเหมือนกันซะที่ไหนล่ะ  งานก็ได้ไม่เหมือนกันอยู่แล้ว”แองจี้ชี้แจงขึ้นมา
“เสียเวลามามากแล้วอีกไม่กี่วันก็จะต้องแสดงแล้ว  ซ้อมเลยแล้วกัน 5..4..3..2 1 แอคชั่น”มาทิลด้าตัดบทอย่างรวบรัด
ในที่สุดการซ้อมก็จบลง แล้วทุกคนก็แยกย้ายกลับที่พัก คิลกับเฟรินก็กลับไปที่ห้อง
“ไอ้คาโลมันจะประชุมอะไรกันนักหนาวะเนี่ย ยังไม่กลับมาอีก”เฟรินเริ่มบ่น
“คิดถึงมันละซิ”
“เชอะ อย่าชั้นทำไมต้องไปคิดถึงมันด้วย”เฟรินพูดจบก็รีบเดินออกไปนอกห้องเพื่อปิดบังความอายไม่ให้เพื่อนร่วมห้องได้รู้
แล้วเฟรินก็เดินมาเรื่อยๆ จนมาถึงสวนดอกไม้แห่งหนึ่ง
“ว้า หลงทางซะแล้ว  แต่ชั่งมันเถอะ ถ้าไม่กลับไปห้องก็ไม่มีใครสนใจหรอก อีตาน้ำแข็งบ้าไม่เคยสนชั้นอยู่แล้ว”เฟรินพุดอย่างน้อยใจ จนเผลอเอ่ยพาดพิงถึงคนที่เจ้าตัวบอกว่าไม่คิดถึง
“พระจันทร์วันนี้ก็สวยดี”เธอพูดพร้อมกับยืนมองพระจันทร์
“เธอ มาทำอะไรค่ำมืดดึกดื่นขนาดนี้ ทำไมไม่กลับที่พัก”เสียงหงุดหงิดจากลอเรนซ์ดังมาจากข้างหลังเธอ
แล้วเฟรินก็หันหน้ากลับมามอง ผมสีน้ำตาลยาวสลวยพริ้วไหวไปกับสายลม
รับกับใบอันสวยหยาดเย้มเปล่งประกายใต้แสงจันทรยามค่ำคืน์ได้อย่างดี เป็นภาพที่งามไร้ที่ติ จนผู้ที่ชื่อว่านักบวชแห่งป้อมอัศวินตกอยู่ในภวังค์ สีหน้าที่เคยหงุดหงิดตลอดเวลากับอ่อนลง
“คือ ชั้นเดินเล่นมาเรื่อยๆแล้วก็หลงทางค่ะ” เฟรินพูดเพราะชนิดที่หาฟังได้ยากจากหญิงสาวนามว่าเฟลิโอน่า
“งั้นเดี๋วชั้นจะพาไปส่ง ว่าแต่เธอคือคนที่เล่นเป็นนางเอกเรื่องเจ้าหญิงนิทราใช่ไหม”
เฟรินไม่ตอบได้แต่พยักหน้ารับ
“แล้วเธอชื่อเฟรินหรอ ชื่อเหมือนเจ้าตัวยุ่งที่ชั้นรู้จักเลย ชื่อชั้นเธอคงรุ้ตอนประกาศรายชื่อนักแสดงแล้วใช่ไหม”
ลอเรนซ์เริ่มถามจุกจิกอย่างที่เขาไม่เคยเป็นมาก่อน ซึ่งเขาเองก็งงเหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขา
“กล้าดียังไงมาว่าชั้นว่าเจ้าตัวยุ่ง”เฟรินสวนควับ
“งั้นแสดงว่าชื่อเฟรินสินะ”ลอเรนซ์พึมพำกับตัวเอง
“คือว่า .พี่ลอเรนซ์ค่ะ อย่าเพิ่งพาไปส่งที่ป้อมเลยนะค่ะ เฟรินขอเดินเล่นก่อนซักพักได้ไหมค่ะ เห็นว่าวันนี้พระจันทร์สวยดี”เฟรินใส่มารยาหญิงอย่างเต็มที่ ในใจลุ้นว่าลอเลนซที่ท่าทางซีเรียสตลอดเวลาอย่างนี้จะทำตามเขาบอกไหมน้อ
“ก็ได้ แต่อย่านานนะ”ลอเรนซ์รับคำอย่างว่าง่าย แต่ก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน
แล้วลอเรนซ์กับเฟรินก็นั่งดูพระจันทร์กันอยู่ซักพักหนึ่ง
“เธอเป็นใครกันนะ ทำไมถึงทำให้ชั้นทำตามที่เธอพูดทุกอย่าง ทำไมชั้นต้องตื่นเต้นทุกทีที่อยู่ใกล้เธอ ชั้นไม่เคยเป็นอย่างนี้มาก่อนนี่หน่า แล้วทำไมชั้นถึงอารมดีเมื่ออยู่ใกล้เธอ”ลอเลนซ์คิดอยู่ในใจขณะที่แอบมองเจ้าหญิงคนงามที่นั่งอยู่ข้างๆ
“งามใดเล่างามใด เทียบได้งดงามเท่าความรัก”เสียงหวานๆเพ้อขึ้นมาจากคนที่นั่งอยู่ข้างๆเขา
“คาโล ป่านนี้นายจะทำอะไรอยู่ ถ้านายกลับจากประชุมแล้วไม่เจอฉันในห้อง นายจะว้าวุ่นใจเหมือนชั้นตอนนี้ไหมน้อ”เฟรินคิดอยู่ในใจ
ลอเรนซ์สะดุดกึก ไม่นึกว่าคนข้างๆจะเพ้ออะไรออกมา
เสียงเธอช่างหวาน ไพเราะจับใจเขาจริงๆ แล้วรอยยิ้มที่แสนจะหายากบนในหน้าผู้คุมกฏจอมหงุดหงิดก็ปรากฏออกมา
แล้วเจ้าของรอยยิ้มก็รีบหุบยิ้มทันทีแล้วก็หันหน้าหนีเพื่อกลบเกลื่อน เมื่อเห็นเจ้าตัวแสบข้างๆจ้องมาที่เขา
\"อ้าวหยุดยิ้มทำไมหล่ะ  นานๆทีผมถึงจะได้ดูของแปลกซักที หันมายิ้มต่อเดี๋ยวนี้นะ\"เจ้าตัวดีพูดพร้อมยิ้มๆแล้วก็เริ่มพร่ามต่อ
\"น่าเสียดายทีลืมเอากล้องถ่ายรูปมาไม่งั้นละก็ จะถ่ายรูปเอาไปขาย รูปพี่ลอเรนซ์ยิ่มเนี่ยเป็นของแปลกคงจะขายได้หลายตังก์\"
แล้วเจ้าของความคิดก็นั่งหัวเราะกับความคิดของตนทำให้เจ้าของ \"ของแปลก\" แสยะยิ้มอย่างที่เห็นแล้วขนลุก
\"อ้า...กลับดีกว่า\"เฟรินเห็นท่าไม่ดีเลยรีบเผ่น แต่ยังไม่ทันไปได้ไกลเท่าไรนัก ก็มีมือหนึ่งมาจับข้อมือไว้
\"เดี๋ยวชั้นไปส่ง เป็นผู้หญิงเดินคนเดียวตอนกลางคืนมันอันตราย\"เสียงเอ่ยขึ้นจากรุ่นพี่จอมหงุดหงิดแต่ตอนนี้ไม่หงุดหงิดตังขึ้น
เฟรินก็เลยขัดคำบัญชาไม่ได้ เลยต้องเลยตามเลย
“ส่งที่หน้าป้อมก็พอฮะ เดี๋ยวผม เอ้ย ฉันเดินเข้าไปเอง ขอบคุณนะค่ะที่มาส่ง”เฟรินเกือบหลุดแมนออกมาด้วยความเคยชิน
จนนึกขึ้นได้ว่าอยู่ในร่างหญิงสาว แบบว่าขี้เกียจเล่าเรื่องประวัติความเป็นหญิงของเขาอันยืดยาว  แล้วเฟรินก็เดินเข้าไปในหอ
..
“เล่นก็ได้จ้า ..แล้วนึกไงเอาพี่ลอเลนซ์มาเป็นพระเอกเนี่ย ไม่มีคนที่ดีกว่านี้แล้วหรือไง”เฟรินสวนขึ้นมา
“หรือว่านายอยากให้คาโลมาเป็นพระเอกล่ะเฟริน”คิลแซวขึ้นมา
“จะบ้าหรอ ชั้นแค่กลัวว่าถ้าเล่นไม่ดีอาจจะถึงคาดก่อน”
“ก็คาโลได้รับตำแหน่งหัวหน้าป้อมแล้วไม่ใช่หรอ เขาก็ต้องไปประชุมสภาสูงสิ ไม่มีเวลามาซ้อมหรอก”แองจี้พูดขึ้น
“อ้าว .แล้วที4ผู้คุมกฏไหงลากมาซะครบเลยหล่ะ”คิลถามบ้าง
“ก็ตำแหน่งผู้คุมกฏกับหัวหน้าป้อมมันเหมือนกันซะที่ไหนล่ะ  งานก็ได้ไม่เหมือนกันอยู่แล้ว”แองจี้ชี้แจงขึ้นมา
“เสียเวลามามากแล้วอีกไม่กี่วันก็จะต้องแสดงแล้ว  ซ้อมเลยแล้วกัน 5..4..3..2 1 แอคชั่น”มาทิลด้าตัดบทอย่างรวบรัด
ในที่สุดการซ้อมก็จบลง แล้วทุกคนก็แยกย้ายกลับที่พัก คิลกับเฟรินก็กลับไปที่ห้อง
“ไอ้คาโลมันจะประชุมอะไรกันนักหนาวะเนี่ย ยังไม่กลับมาอีก”เฟรินเริ่มบ่น
“คิดถึงมันละซิ”
“เชอะ อย่าชั้นทำไมต้องไปคิดถึงมันด้วย”เฟรินพูดจบก็รีบเดินออกไปนอกห้องเพื่อปิดบังความอายไม่ให้เพื่อนร่วมห้องได้รู้
แล้วเฟรินก็เดินมาเรื่อยๆ จนมาถึงสวนดอกไม้แห่งหนึ่ง
“ว้า หลงทางซะแล้ว  แต่ชั่งมันเถอะ ถ้าไม่กลับไปห้องก็ไม่มีใครสนใจหรอก อีตาน้ำแข็งบ้าไม่เคยสนชั้นอยู่แล้ว”เฟรินพุดอย่างน้อยใจ จนเผลอเอ่ยพาดพิงถึงคนที่เจ้าตัวบอกว่าไม่คิดถึง
“พระจันทร์วันนี้ก็สวยดี”เธอพูดพร้อมกับยืนมองพระจันทร์
“เธอ มาทำอะไรค่ำมืดดึกดื่นขนาดนี้ ทำไมไม่กลับที่พัก”เสียงหงุดหงิดจากลอเรนซ์ดังมาจากข้างหลังเธอ
แล้วเฟรินก็หันหน้ากลับมามอง ผมสีน้ำตาลยาวสลวยพริ้วไหวไปกับสายลม
รับกับใบอันสวยหยาดเย้มเปล่งประกายใต้แสงจันทรยามค่ำคืน์ได้อย่างดี เป็นภาพที่งามไร้ที่ติ จนผู้ที่ชื่อว่านักบวชแห่งป้อมอัศวินตกอยู่ในภวังค์ สีหน้าที่เคยหงุดหงิดตลอดเวลากับอ่อนลง
“คือ ชั้นเดินเล่นมาเรื่อยๆแล้วก็หลงทางค่ะ” เฟรินพูดเพราะชนิดที่หาฟังได้ยากจากหญิงสาวนามว่าเฟลิโอน่า
“งั้นเดี๋วชั้นจะพาไปส่ง ว่าแต่เธอคือคนที่เล่นเป็นนางเอกเรื่องเจ้าหญิงนิทราใช่ไหม”
เฟรินไม่ตอบได้แต่พยักหน้ารับ
“แล้วเธอชื่อเฟรินหรอ ชื่อเหมือนเจ้าตัวยุ่งที่ชั้นรู้จักเลย ชื่อชั้นเธอคงรุ้ตอนประกาศรายชื่อนักแสดงแล้วใช่ไหม”
ลอเรนซ์เริ่มถามจุกจิกอย่างที่เขาไม่เคยเป็นมาก่อน ซึ่งเขาเองก็งงเหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขา
“กล้าดียังไงมาว่าชั้นว่าเจ้าตัวยุ่ง”เฟรินสวนควับ
“งั้นแสดงว่าชื่อเฟรินสินะ”ลอเรนซ์พึมพำกับตัวเอง
“คือว่า .พี่ลอเรนซ์ค่ะ อย่าเพิ่งพาไปส่งที่ป้อมเลยนะค่ะ เฟรินขอเดินเล่นก่อนซักพักได้ไหมค่ะ เห็นว่าวันนี้พระจันทร์สวยดี”เฟรินใส่มารยาหญิงอย่างเต็มที่ ในใจลุ้นว่าลอเลนซที่ท่าทางซีเรียสตลอดเวลาอย่างนี้จะทำตามเขาบอกไหมน้อ
“ก็ได้ แต่อย่านานนะ”ลอเรนซ์รับคำอย่างว่าง่าย แต่ก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน
แล้วลอเรนซ์กับเฟรินก็นั่งดูพระจันทร์กันอยู่ซักพักหนึ่ง
“เธอเป็นใครกันนะ ทำไมถึงทำให้ชั้นทำตามที่เธอพูดทุกอย่าง ทำไมชั้นต้องตื่นเต้นทุกทีที่อยู่ใกล้เธอ ชั้นไม่เคยเป็นอย่างนี้มาก่อนนี่หน่า แล้วทำไมชั้นถึงอารมดีเมื่ออยู่ใกล้เธอ”ลอเลนซ์คิดอยู่ในใจขณะที่แอบมองเจ้าหญิงคนงามที่นั่งอยู่ข้างๆ
“งามใดเล่างามใด เทียบได้งดงามเท่าความรัก”เสียงหวานๆเพ้อขึ้นมาจากคนที่นั่งอยู่ข้างๆเขา
“คาโล ป่านนี้นายจะทำอะไรอยู่ ถ้านายกลับจากประชุมแล้วไม่เจอฉันในห้อง นายจะว้าวุ่นใจเหมือนชั้นตอนนี้ไหมน้อ”เฟรินคิดอยู่ในใจ
ลอเรนซ์สะดุดกึก ไม่นึกว่าคนข้างๆจะเพ้ออะไรออกมา
เสียงเธอช่างหวาน ไพเราะจับใจเขาจริงๆ แล้วรอยยิ้มที่แสนจะหายากบนในหน้าผู้คุมกฏจอมหงุดหงิดก็ปรากฏออกมา
แล้วเจ้าของรอยยิ้มก็รีบหุบยิ้มทันทีแล้วก็หันหน้าหนีเพื่อกลบเกลื่อน เมื่อเห็นเจ้าตัวแสบข้างๆจ้องมาที่เขา
\"อ้าวหยุดยิ้มทำไมหล่ะ  นานๆทีผมถึงจะได้ดูของแปลกซักที หันมายิ้มต่อเดี๋ยวนี้นะ\"เจ้าตัวดีพูดพร้อมยิ้มๆแล้วก็เริ่มพร่ามต่อ
\"น่าเสียดายทีลืมเอากล้องถ่ายรูปมาไม่งั้นละก็ จะถ่ายรูปเอาไปขาย รูปพี่ลอเรนซ์ยิ่มเนี่ยเป็นของแปลกคงจะขายได้หลายตังก์\"
แล้วเจ้าของความคิดก็นั่งหัวเราะกับความคิดของตนทำให้เจ้าของ \"ของแปลก\" แสยะยิ้มอย่างที่เห็นแล้วขนลุก
\"อ้า...กลับดีกว่า\"เฟรินเห็นท่าไม่ดีเลยรีบเผ่น แต่ยังไม่ทันไปได้ไกลเท่าไรนัก ก็มีมือหนึ่งมาจับข้อมือไว้
\"เดี๋ยวชั้นไปส่ง เป็นผู้หญิงเดินคนเดียวตอนกลางคืนมันอันตราย\"เสียงเอ่ยขึ้นจากรุ่นพี่จอมหงุดหงิดแต่ตอนนี้ไม่หงุดหงิดตังขึ้น
เฟรินก็เลยขัดคำบัญชาไม่ได้ เลยต้องเลยตามเลย
“ส่งที่หน้าป้อมก็พอฮะ เดี๋ยวผม เอ้ย ฉันเดินเข้าไปเอง ขอบคุณนะค่ะที่มาส่ง”เฟรินเกือบหลุดแมนออกมาด้วยความเคยชิน
จนนึกขึ้นได้ว่าอยู่ในร่างหญิงสาว แบบว่าขี้เกียจเล่าเรื่องประวัติความเป็นหญิงของเขาอันยืดยาว  แล้วเฟรินก็เดินเข้าไปในหอ
..
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น