ลำดับตอนที่ #6
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : -*+*-แพนซี vs ฮาสิกิ-*+*-
ตอนที่6 แพนซี vs ฮาสิกิ
“เรื่องของพวกนายจบไปแล้วมาพูดถึงเรื่องของเจ้ามัลฟอยดีกว่า”เฮอร์ไมโอนี่พุด
“ฉันอยากจะขอบคุณมันจัง”แฮร์รี่พูด
“เรื่องอะไร” ทุกคนพูดพร้อมกัน
“ปล่าว อย่าสนใจฉันเลย”
“แล้วเรื่องเจ้ามัลฟอยจะทำอย่างไรดี”รอนพูด
“ช่างมันเถอะ”ฮาสึกิพูด
“ทำไมพูดถึงมัลฟอยทำรเธอหน้าแดงทุกที”โดเรมีพูด
“ช่างมันไปเรียนกันเถอะ”ฮาสึกิพูด
ตอนนี้ฮาสึกิดังไปทั่วโรงเรียนในฐานะสาวน้อยผู้เรียนเก่งที่เก่งเท่าเฮอร์ไมโอนี่ (หายากมาก)
มีอยู่วันหนึ่งทั้งสองคนเกิดอยากเล่นสนุก โดยที่เฮอร์ไปยืดผมแล้วติดโบว์สีแดงแล้วรัดผม และใส่แว่น ฮาสึกิ ไปดัดผมแล้วเอาแว่นออก ทั้งสองหน้าเหมือนกันอยู่แล้ว พอทั้งสองลงมาจากหอแฮรี่ก็ทักผิดคน “ฮาสึกิเห็นอนปุไหม”
“ฉันเฮอร์ต่างห่าง นายอย่าบอกเรื่องนี้กับคนอื่นนอกจากคนในกลุ่มนะ”
ฝ่ายฮาสึกิออกไปเดินเล่นข้างนอกแล้วพบมัลฟอยเข้า
“สวัสดียัยเลือดสีโคลน”
“สวัสดีนายฝอยทอง หัวเถิก ขี้เก็ก”
“เออ เธอรู้จักฮาสึกิดีแค่ไหนเล่าให้ฟังหน่อยสิ แล้วอย่าไปบอกเขานะ “
“เรื่องอะไรฉันจะต้องบอก”
“เป็นข้อแลกเปลี่ยนที่ฉันจะไม่แกล้งพวกโดเรมีไง”
“ก็ได้ จะถามเรื่องอะไรล่ะ”
“ฮาสึกิมีแฟนหรือยัง อายุเท่าไร ชอบสีอะไร เกิดวันที่เท่าไร”
“ โอย หยุดๆๆ ทีละคำถาม ช้าๆ”
“คือว่ายังไม่มีแฟน อายุ12(หมายถึงโดเรมีภาค4นะ) ชอบสีส้ม เกิดวันวาเลนไทน์”
“ขอบใจนะฉันจดข้อมูลหมดแล้ว”
แล้วมัลฟอยก็ยิ้มอย่างมีความสุขมากที่ได้ข้อมูลของฮาสึกิ แล้วเขาก็สุภาพมากเวลาขอข้อมูล (เพราะถ้าพูดไม่เพราะเขาคงไม่ให้หรอก)
ฮาสึกิได้ตกหลุมรักมัลฟอยเข้าอย่างไม่รู้ตัว
“นายพอไม่ถากถางฉันก็น่ารักเหมือนกันนะ”
“เสียใจนะ ฉันมีคนที่ชอบแล้ว อยู่กริฟฯด้วย”
ไม่รู้ว่าเพราะอะไรฮาสึกิเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าตัวเองเป็นอะไรแต่อยู่ดีๆน้ำตาหยดใสๆก็รินไหลมาจากตาของเธอ หัวใจเะฮที่เคยเต้นเป็ฯจังหวะก็เหมือนมันจะเต้นผิดจังหวะไปแล้วหยุดไปเฉยๆ เธอรู้สึกเหมือนตัวชาไปทั้งตัวไรความรู้สึกใดๆอีกแล้ว
แล้วฮาสิกิก็แต่งตัวเหมือนเดิม(คือเป็นฮาสิกิไม่ใช่เฮอร์) แล้วเธอก็ออกมาเดิน(ทำใจ)ไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมาย
“หวัดดี น้องแหว่นหนา ฮาสิกิ”แพนสีปราดเข้ามาขวางข้างหน้าเธอ
“ใครน้องคุณมิทราบค่ะ”ฮาสิกิตอบแต่ก็ยังแฝงแนวคุณหนู
“โอ๊ะโอ๋ คุณหนูเลือดสีโคลนพูดซะเพราะเชียวนะ แกบังอาจมากนะที่แย่งเดรโกของฉันไป”
“ฉันเลือดสีแดงนะค่ะ นี่คุณเป็นสัตว์ประหลาดจากต่างดาวหรือค่ะถึงไม่รู้ว่าเลือดคนสีอะไร”
“หน่อยแนะ ยัยแว่น หน้าตาก็ไม่สวยแล้วยังมาแย่งของของชาวบ้านเขาอีก”
“อ๋อหรอค่ะ ก็สวยกว่าคุณแล้วกัน แล้วฉันก็ไม่เคยคิดจะแย่งใครด้วย”
“งั้นเรามาสู้กันใครชนะต้องทำอะไรก็ได้ตามที่อีกฝ่ายบอกหนึ่งอย่าง”
“ได้ค่ะ แต่อย่าสู้ตรงนี้เลย เดี๋ยวฉันจะไปขออนุญาติใช้สนามต่อสู้ของชมรมการต่อสู้ตัวต่อตัว ถ้าสู้กันอย่างเป็ฯทางการอย่างน้อยก็ไม่โดนหักคะแนนบ้าน แล้วก็มีสักขีพยานการต่อสู้ด้วยนะค่ะ ถ้าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเจอกันพรุ่งนี้เที่ยงที่ชมรมค่ะ”
“ได้เลย”
.ห้องนั่งเล่นรวมกริฟฟินดอร์
“พรุ่งนี้ฉันจะสู้กับแพนซีนะ ไปเชียร์หน่อย”
“ได้อยู่แล้ว พรุ่งนี้เธอต้องใช้รอยัลบาทอเร็ลนะ ป้องกันไว้ดีกว่าแก้ ยัยนั่นอาจจะเสกมนตร์ดำก้ได้ ชุดนี้ป้องกันมนตร์ดำและศาสตร์มืดได้ แล้วเวทย์มนตร์รอยัลบาทอเร็ลก็มีพลังสูงอีกนะ”อนปุพูด
“จะดีหรอ ลูกแก้วหายากจะตาย”ฮาสิกิพุด
“ก็องค์ราชินีอนุญาติให้ใช้แล้วก็ใช้ไปเหอะหน่า อย่าคิดมาก”ไอโกะพูด
“จ๊ะ”ฮาสิกิตอบ
วันรุ่งขึ้น ณ ชมรมการต่อสู้ตัวต่อตัว ..
“เอาละนะ แปลงร่างเลยทุกคน”โดเรมีบอก แล้วทุกคนก็แปลงร่างเป็ฯชุดแม่มดธรรมดา แล้วก็เสกคาถาให้ไม้กายสิทธิ์เป็นโปลอนกายสิทธิ์
“โอมมะลิกกึ๊กกึ๊ย ด้วยความเรียบง่าย”โดเรมีร่ายมนตร์พร้อมกับชูคทาขึ้นฟ้า
“โอมมะลุกกุ๊กกู๋ ด้วยความอ่อนโยน”ฮาสิกิร่ายมนตร์แล้วทำเช่นเดียวกับโดเรมี
“โอมมะลิดกิ๊กกี๋ และเสียงอันดังก้อง”ไอโกะก็ร่ายมนตร์เช่นเดียวกัน
“โอมมะล็อกก็อกแก็ก ด้วยความสง่างาม”อนปุก็ร่ายมนตร์บ้าง
“เมจิเคิลเสตจ รอยัลบาทอเร็ล”ทุกคนพุดพร้อมกัน( ที่ไม่พูดว่าช่วยฮานะจังด้วยตามในทีวี เพราะนี่เป็ฯการแปลงร่างเป็นรอยัลบาทอเร็ลเพื่อจุดประสงค์อื่นที่ไม่ใช่การช่วยฮานะจัง จึงต้องเปลี่ยนคาถา)
แล้วพวกโดเรมีก็เดินเข้ามาในห้องที่เตรียมไว้สำหรับต่อสู้ ตอนนึคนอยู่แน่นเต็มห้องเลย อาจารรย์ทุกคนในฮอกวอตท์ก้มาชม พอพวกโดเรมีออกมาทุกคนก็เหลียวหลังไปมอง อย่างตกตะลึงกับความงามของชุด บางคนก็อ้าปากค้างกระทั่งรอนก็อ้าปากค้างพร้อมน้ำลายไหลเมื่อมองโดเรมี พวกโดเรมีใส่ชุดที่คล้ายดอกไม้ฟูฟ่อง แต่ทะมัดทะแมง ฮาสิกิใส่สีส้ม อนปุใส่สีม่วง โดเรมีใส่สีชมพู ไอโกะใส่สีฟ้า แล้วพวกโดเรมีก็ไปยืนข้างสนาม แล้วฮาสิกิกับแพนซีก็เดินขึ้นไปบนเวที
“เคารพกันและกัน Ready .Fight”ศาสตราจารย์เสนปซึ่งเป็นกรรมการร้อง แพนซี่เริ่มจู่โจมอย่างสายฟ้าแลป “เพื่อเดกโกของฉัน ฉันต้องชนะ  สตูเปพาย ”แพนซีเสกคาถาสะกดนิ่งใส่ฮาสิกิ แล้วก้หัวเราะอย่างบ้าคลั่ง ฮาสิกิที่ไม่ทันระวังตัวโดนคาถาเข้าอย่างจังและนิ่งไปซักพัก ทุกคนในห้องแทบจะหยุดหายใจ และแล้ว”กุ๊กกู๋ๆ ลมจงมา” ทันใดนั้นก็มีลมแรงขนาดพายุย่อมๆพัดเวี่ยงเอาตัวแพนซีขึ้นไปแล้วก็หมุนแพนซีค้างอยู่บนอากาศ ข้าวของในห้องเกลื่นกราด ศาสตราจารย์ฟลิตวิกที่สอนวิชาคาถาก็ตะลึงกับความร้ายและของคาถาของฮาสิกิ พอรู้สึกตัวก็รีบจดบันทึกลักษณะคาถา การร่ายคาถาและก็อนุภาพของคาถา
“โอ้ แปลกประหลาด ยอดเยี่ยมหัศจรรย์มาก เป็นเวทย์มนตร์ที่ง่ายและสมบูรณ์แบบที่สุด ขนาดลมยังขนาดนี้แล้วพายุล่ะจะขนาดไหน และเธอหลุดจากคาถาของมิสพากินสัน(แพนซี)ได้อย่างไรละ”ศาสตราจารย์ฟลิตวิกถาม
“ชุดนี่เป็นชุดที่ป้องกันศาสตร์มืดค่ะ“ฮาสิกิตอบขณะที่แพนซีหล่นตุ๊บลงมาที่พื้น
ฮาสิกิรีบวิ่งไปประคองแพนซี และแพนซีก็สลบไป
“มิสแพนซีหมดสภาพที่จะสู้ต่อ มิสฟุจิว่าร่าเป็นฝ่ายชนะ”ศาสตราจารย์สเนปกัดฟันพูด เขาคงเสียใจไม่น้อยที่เด็กบ้ายสลิธีรีนแพ้กริฟฟินดอร์อย่างหมดสภาพ
แล้วฮาสิกิกับเพื่อนๆก็ช่วยกันนำแพนซีไปห้องพยาบาล
.ห้องพยาบาล .
“เป็นอะไรมากหรือเปล่า ขอโทษด้วยนะที่ทำแรงเกินไป ไม่นึกว่าคาถามันจะแรงได้ขนาดนี้”ฮาสิกิพูดขณะที่แพนซีค่อยๆลืมตาขึ้น
“เชอะ เธอชนะแล้วนี่ก็พูดได้สิ ทำไมต้องช่วยฉันด้วยหา แลัวสัญญา1ข้ออยากให้ฉันทำอะไรก็ว่ามา จะให้ฉันเลิกยุ่งกับเดรโกใช่ม่ะฉันมันแพ้แล้วนี่แต่ฉันมีศักศรีไม่คืนคำหรอกย่ะ”
“อย่าคิดมากสิ ฉันช่วยเธอก็เพราะเธอก็เป็นเพื่นอร่วมโลกนะ ฉันไม่สั่งให้เธอเลิกกับเดรโกหรอก ทุกคนมีสิทธิที่ชะชอบใครก็ได้ มันไม่ใช่สิทธิของฉันที่จะไปห้ามเธอส่วนเรื่องคำขอ ฉันไม่ขออะไรมากหรอก  แค่ขอให้เธอสงบใจ ใช้ชีวิตให้เต็มที่และมีความสุขก็พอแล้ว  แล้วฉันก็ไม่ได้ชอบมัลฟอย(กัดฟันพูด) และมัลฟอยฟอยก็ไม่มีทางชอบฉันด้วย”
“ไม่จริงละมั้ง  ฉันได้ยินจากปากมัลฟอยเลยว่ามัลฟอยชอบเธอ และก็ฉันขอโทษด้วยนะที่ว่าเธอ เธอนะดีเกินไปที่จะคุยกับฉันด้วยซ้ำไป ยังไงก็ขอให้มีความสุขกับคนรักแล้วกัน”
“ขอบใจจ๊ะ เราคงเป็นเพื่อนกันได้นะ”
“จ๊ะ”
แล้วฮาสิกิก็เดินจากไปพร้อมกับคิดทบทวนเรื่องที่แพนซีพุดตลอดทาง
“ไม่จริงละมั้ง เขามีคนที่ชอบแล้วอยู่กริฟฟินดอร์ด้วย คงไม่ใช่ฉันหรอก”ฮาสิกิพูดพร้อมกับปาดน้ำตา ตอนนี้เธอเองก็รู้สึกสับสนตัวเองว่าทำไมต้องคิดถึงเขา
............โปรดติดตามตอนต่อไป................
“เรื่องของพวกนายจบไปแล้วมาพูดถึงเรื่องของเจ้ามัลฟอยดีกว่า”เฮอร์ไมโอนี่พุด
“ฉันอยากจะขอบคุณมันจัง”แฮร์รี่พูด
“เรื่องอะไร” ทุกคนพูดพร้อมกัน
“ปล่าว อย่าสนใจฉันเลย”
“แล้วเรื่องเจ้ามัลฟอยจะทำอย่างไรดี”รอนพูด
“ช่างมันเถอะ”ฮาสึกิพูด
“ทำไมพูดถึงมัลฟอยทำรเธอหน้าแดงทุกที”โดเรมีพูด
“ช่างมันไปเรียนกันเถอะ”ฮาสึกิพูด
ตอนนี้ฮาสึกิดังไปทั่วโรงเรียนในฐานะสาวน้อยผู้เรียนเก่งที่เก่งเท่าเฮอร์ไมโอนี่ (หายากมาก)
มีอยู่วันหนึ่งทั้งสองคนเกิดอยากเล่นสนุก โดยที่เฮอร์ไปยืดผมแล้วติดโบว์สีแดงแล้วรัดผม และใส่แว่น ฮาสึกิ ไปดัดผมแล้วเอาแว่นออก ทั้งสองหน้าเหมือนกันอยู่แล้ว พอทั้งสองลงมาจากหอแฮรี่ก็ทักผิดคน “ฮาสึกิเห็นอนปุไหม”
“ฉันเฮอร์ต่างห่าง นายอย่าบอกเรื่องนี้กับคนอื่นนอกจากคนในกลุ่มนะ”
ฝ่ายฮาสึกิออกไปเดินเล่นข้างนอกแล้วพบมัลฟอยเข้า
“สวัสดียัยเลือดสีโคลน”
“สวัสดีนายฝอยทอง หัวเถิก ขี้เก็ก”
“เออ เธอรู้จักฮาสึกิดีแค่ไหนเล่าให้ฟังหน่อยสิ แล้วอย่าไปบอกเขานะ “
“เรื่องอะไรฉันจะต้องบอก”
“เป็นข้อแลกเปลี่ยนที่ฉันจะไม่แกล้งพวกโดเรมีไง”
“ก็ได้ จะถามเรื่องอะไรล่ะ”
“ฮาสึกิมีแฟนหรือยัง อายุเท่าไร ชอบสีอะไร เกิดวันที่เท่าไร”
“ โอย หยุดๆๆ ทีละคำถาม ช้าๆ”
“คือว่ายังไม่มีแฟน อายุ12(หมายถึงโดเรมีภาค4นะ) ชอบสีส้ม เกิดวันวาเลนไทน์”
“ขอบใจนะฉันจดข้อมูลหมดแล้ว”
แล้วมัลฟอยก็ยิ้มอย่างมีความสุขมากที่ได้ข้อมูลของฮาสึกิ แล้วเขาก็สุภาพมากเวลาขอข้อมูล (เพราะถ้าพูดไม่เพราะเขาคงไม่ให้หรอก)
ฮาสึกิได้ตกหลุมรักมัลฟอยเข้าอย่างไม่รู้ตัว
“นายพอไม่ถากถางฉันก็น่ารักเหมือนกันนะ”
“เสียใจนะ ฉันมีคนที่ชอบแล้ว อยู่กริฟฯด้วย”
ไม่รู้ว่าเพราะอะไรฮาสึกิเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าตัวเองเป็นอะไรแต่อยู่ดีๆน้ำตาหยดใสๆก็รินไหลมาจากตาของเธอ หัวใจเะฮที่เคยเต้นเป็ฯจังหวะก็เหมือนมันจะเต้นผิดจังหวะไปแล้วหยุดไปเฉยๆ เธอรู้สึกเหมือนตัวชาไปทั้งตัวไรความรู้สึกใดๆอีกแล้ว
แล้วฮาสิกิก็แต่งตัวเหมือนเดิม(คือเป็นฮาสิกิไม่ใช่เฮอร์) แล้วเธอก็ออกมาเดิน(ทำใจ)ไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมาย
“หวัดดี น้องแหว่นหนา ฮาสิกิ”แพนสีปราดเข้ามาขวางข้างหน้าเธอ
“ใครน้องคุณมิทราบค่ะ”ฮาสิกิตอบแต่ก็ยังแฝงแนวคุณหนู
“โอ๊ะโอ๋ คุณหนูเลือดสีโคลนพูดซะเพราะเชียวนะ แกบังอาจมากนะที่แย่งเดรโกของฉันไป”
“ฉันเลือดสีแดงนะค่ะ นี่คุณเป็นสัตว์ประหลาดจากต่างดาวหรือค่ะถึงไม่รู้ว่าเลือดคนสีอะไร”
“หน่อยแนะ ยัยแว่น หน้าตาก็ไม่สวยแล้วยังมาแย่งของของชาวบ้านเขาอีก”
“อ๋อหรอค่ะ ก็สวยกว่าคุณแล้วกัน แล้วฉันก็ไม่เคยคิดจะแย่งใครด้วย”
“งั้นเรามาสู้กันใครชนะต้องทำอะไรก็ได้ตามที่อีกฝ่ายบอกหนึ่งอย่าง”
“ได้ค่ะ แต่อย่าสู้ตรงนี้เลย เดี๋ยวฉันจะไปขออนุญาติใช้สนามต่อสู้ของชมรมการต่อสู้ตัวต่อตัว ถ้าสู้กันอย่างเป็ฯทางการอย่างน้อยก็ไม่โดนหักคะแนนบ้าน แล้วก็มีสักขีพยานการต่อสู้ด้วยนะค่ะ ถ้าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเจอกันพรุ่งนี้เที่ยงที่ชมรมค่ะ”
“ได้เลย”
.ห้องนั่งเล่นรวมกริฟฟินดอร์
“พรุ่งนี้ฉันจะสู้กับแพนซีนะ ไปเชียร์หน่อย”
“ได้อยู่แล้ว พรุ่งนี้เธอต้องใช้รอยัลบาทอเร็ลนะ ป้องกันไว้ดีกว่าแก้ ยัยนั่นอาจจะเสกมนตร์ดำก้ได้ ชุดนี้ป้องกันมนตร์ดำและศาสตร์มืดได้ แล้วเวทย์มนตร์รอยัลบาทอเร็ลก็มีพลังสูงอีกนะ”อนปุพูด
“จะดีหรอ ลูกแก้วหายากจะตาย”ฮาสิกิพุด
“ก็องค์ราชินีอนุญาติให้ใช้แล้วก็ใช้ไปเหอะหน่า อย่าคิดมาก”ไอโกะพูด
“จ๊ะ”ฮาสิกิตอบ
วันรุ่งขึ้น ณ ชมรมการต่อสู้ตัวต่อตัว ..
“เอาละนะ แปลงร่างเลยทุกคน”โดเรมีบอก แล้วทุกคนก็แปลงร่างเป็ฯชุดแม่มดธรรมดา แล้วก็เสกคาถาให้ไม้กายสิทธิ์เป็นโปลอนกายสิทธิ์
“โอมมะลิกกึ๊กกึ๊ย ด้วยความเรียบง่าย”โดเรมีร่ายมนตร์พร้อมกับชูคทาขึ้นฟ้า
“โอมมะลุกกุ๊กกู๋ ด้วยความอ่อนโยน”ฮาสิกิร่ายมนตร์แล้วทำเช่นเดียวกับโดเรมี
“โอมมะลิดกิ๊กกี๋ และเสียงอันดังก้อง”ไอโกะก็ร่ายมนตร์เช่นเดียวกัน
“โอมมะล็อกก็อกแก็ก ด้วยความสง่างาม”อนปุก็ร่ายมนตร์บ้าง
“เมจิเคิลเสตจ รอยัลบาทอเร็ล”ทุกคนพุดพร้อมกัน( ที่ไม่พูดว่าช่วยฮานะจังด้วยตามในทีวี เพราะนี่เป็ฯการแปลงร่างเป็นรอยัลบาทอเร็ลเพื่อจุดประสงค์อื่นที่ไม่ใช่การช่วยฮานะจัง จึงต้องเปลี่ยนคาถา)
แล้วพวกโดเรมีก็เดินเข้ามาในห้องที่เตรียมไว้สำหรับต่อสู้ ตอนนึคนอยู่แน่นเต็มห้องเลย อาจารรย์ทุกคนในฮอกวอตท์ก้มาชม พอพวกโดเรมีออกมาทุกคนก็เหลียวหลังไปมอง อย่างตกตะลึงกับความงามของชุด บางคนก็อ้าปากค้างกระทั่งรอนก็อ้าปากค้างพร้อมน้ำลายไหลเมื่อมองโดเรมี พวกโดเรมีใส่ชุดที่คล้ายดอกไม้ฟูฟ่อง แต่ทะมัดทะแมง ฮาสิกิใส่สีส้ม อนปุใส่สีม่วง โดเรมีใส่สีชมพู ไอโกะใส่สีฟ้า แล้วพวกโดเรมีก็ไปยืนข้างสนาม แล้วฮาสิกิกับแพนซีก็เดินขึ้นไปบนเวที
“เคารพกันและกัน Ready .Fight”ศาสตราจารย์เสนปซึ่งเป็นกรรมการร้อง แพนซี่เริ่มจู่โจมอย่างสายฟ้าแลป “เพื่อเดกโกของฉัน ฉันต้องชนะ  สตูเปพาย ”แพนซีเสกคาถาสะกดนิ่งใส่ฮาสิกิ แล้วก้หัวเราะอย่างบ้าคลั่ง ฮาสิกิที่ไม่ทันระวังตัวโดนคาถาเข้าอย่างจังและนิ่งไปซักพัก ทุกคนในห้องแทบจะหยุดหายใจ และแล้ว”กุ๊กกู๋ๆ ลมจงมา” ทันใดนั้นก็มีลมแรงขนาดพายุย่อมๆพัดเวี่ยงเอาตัวแพนซีขึ้นไปแล้วก็หมุนแพนซีค้างอยู่บนอากาศ ข้าวของในห้องเกลื่นกราด ศาสตราจารย์ฟลิตวิกที่สอนวิชาคาถาก็ตะลึงกับความร้ายและของคาถาของฮาสิกิ พอรู้สึกตัวก็รีบจดบันทึกลักษณะคาถา การร่ายคาถาและก็อนุภาพของคาถา
“โอ้ แปลกประหลาด ยอดเยี่ยมหัศจรรย์มาก เป็นเวทย์มนตร์ที่ง่ายและสมบูรณ์แบบที่สุด ขนาดลมยังขนาดนี้แล้วพายุล่ะจะขนาดไหน และเธอหลุดจากคาถาของมิสพากินสัน(แพนซี)ได้อย่างไรละ”ศาสตราจารย์ฟลิตวิกถาม
“ชุดนี่เป็นชุดที่ป้องกันศาสตร์มืดค่ะ“ฮาสิกิตอบขณะที่แพนซีหล่นตุ๊บลงมาที่พื้น
ฮาสิกิรีบวิ่งไปประคองแพนซี และแพนซีก็สลบไป
“มิสแพนซีหมดสภาพที่จะสู้ต่อ มิสฟุจิว่าร่าเป็นฝ่ายชนะ”ศาสตราจารย์สเนปกัดฟันพูด เขาคงเสียใจไม่น้อยที่เด็กบ้ายสลิธีรีนแพ้กริฟฟินดอร์อย่างหมดสภาพ
แล้วฮาสิกิกับเพื่อนๆก็ช่วยกันนำแพนซีไปห้องพยาบาล
.ห้องพยาบาล .
“เป็นอะไรมากหรือเปล่า ขอโทษด้วยนะที่ทำแรงเกินไป ไม่นึกว่าคาถามันจะแรงได้ขนาดนี้”ฮาสิกิพูดขณะที่แพนซีค่อยๆลืมตาขึ้น
“เชอะ เธอชนะแล้วนี่ก็พูดได้สิ ทำไมต้องช่วยฉันด้วยหา แลัวสัญญา1ข้ออยากให้ฉันทำอะไรก็ว่ามา จะให้ฉันเลิกยุ่งกับเดรโกใช่ม่ะฉันมันแพ้แล้วนี่แต่ฉันมีศักศรีไม่คืนคำหรอกย่ะ”
“อย่าคิดมากสิ ฉันช่วยเธอก็เพราะเธอก็เป็นเพื่นอร่วมโลกนะ ฉันไม่สั่งให้เธอเลิกกับเดรโกหรอก ทุกคนมีสิทธิที่ชะชอบใครก็ได้ มันไม่ใช่สิทธิของฉันที่จะไปห้ามเธอส่วนเรื่องคำขอ ฉันไม่ขออะไรมากหรอก  แค่ขอให้เธอสงบใจ ใช้ชีวิตให้เต็มที่และมีความสุขก็พอแล้ว  แล้วฉันก็ไม่ได้ชอบมัลฟอย(กัดฟันพูด) และมัลฟอยฟอยก็ไม่มีทางชอบฉันด้วย”
“ไม่จริงละมั้ง  ฉันได้ยินจากปากมัลฟอยเลยว่ามัลฟอยชอบเธอ และก็ฉันขอโทษด้วยนะที่ว่าเธอ เธอนะดีเกินไปที่จะคุยกับฉันด้วยซ้ำไป ยังไงก็ขอให้มีความสุขกับคนรักแล้วกัน”
“ขอบใจจ๊ะ เราคงเป็นเพื่อนกันได้นะ”
“จ๊ะ”
แล้วฮาสิกิก็เดินจากไปพร้อมกับคิดทบทวนเรื่องที่แพนซีพุดตลอดทาง
“ไม่จริงละมั้ง เขามีคนที่ชอบแล้วอยู่กริฟฟินดอร์ด้วย คงไม่ใช่ฉันหรอก”ฮาสิกิพูดพร้อมกับปาดน้ำตา ตอนนี้เธอเองก็รู้สึกสับสนตัวเองว่าทำไมต้องคิดถึงเขา
............โปรดติดตามตอนต่อไป................
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น