ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    พลิกตำนานข้ามพิภพ

    ลำดับตอนที่ #5 : +++การทดสอบจากเทพารักษ์+++

    • อัปเดตล่าสุด 7 ต.ค. 47


    “เธอสอบผ่านแล้ว พ่อหนุ่มน้อย แม่หญิงคนนั้นจะปลอยภัย เจ้าใจกล้ามากนะ ข้าขอมอบดาบนี้ให้เจ้า ต่อไปนี้เจ้าคืออัศวินอินทรีเงินผู้พิทักษ์ธิดาอินทรีฟ้า ดาบเล่มนี้เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังแห่งความดี มันมีพลังอีกหลายอย่างที่ข้าไม่อาจค้นพบ มันรอการหวนคืนของผู้ครอบครองดาบที่แท้จริง และผู้นั้นจะสามารถใช้พลังของมันได้อย่างเต็มที่ เวลาที่เจ้าไม่ใช้มันเจ้าก็จงใส่ปลอกดาบซะ แล้วดาบนั้นจะกลายเป็นปากกาหมึกซึม เพื่อที่เจ้าจะได้สะดวกในการพกพา ข้านะมีหน้าที่เฝ้ารักษาดาบนี้เพื่อรอคอยผู้คู่ควรมานานแล้ว บัดนี้ข้าหมดหน้าที่แล้ว อ่ะ นี้คือแผนที่ถ้ำอินทรีแห่งภูเขาแบล็กก้า นครแบงเกอร์รับไปซะ”เทพประจำบ่อน้ำพูดแล้วก็ส่งแผนที่ให้ และแล้วเทพประจำบ่อน้ำก็เสกให้เฮอร์ไมโอนี่ลอยเข้ามาบนฝั่งแล้วก็วางเธอลง แล้วเทพองค์นั้นก็หายวับไป



    “เกรนเจอร์ เกรนเจอร์ เป็นอะไรหรือเปล่า”มัลฟอยเรียกพร้อมกับเขย่าตัวเฮอร์ไมโอนี่ แล้วเฮอร์ไมโอนี่ก็ลืมตาขึ้นมา

    “เกิดอะไรขึ้น”เธอถามพร้อมกับขยี้ตาอย่างงัวเงีย

    “เกรนเจอร์ เธอพบอัศวินในตำนานแล้ว ฉันไงละเทพประจำบ่อน้ำทดลองใจฉันแล้วก็ให้ดาบวิเศษเล่มนี้มา แล้วก็แผนที่นี้ด้วย”มัลฟอยพูด พร้อมกับโชว์ให้ดู



    “เดี๋ยวฉันขอเช็คหน่อยนะ”เออร์ไมโอนี่พูดพร้อมกับเปิดหนังสือตำนานอินทรีฟ้า

    “แม่หญิงน้อยเดินค้นพบอัศวินผู้พิทักษ์ในตำนาน มุ่งสู่การเดินทางไปดินแดนแบงเกอร์”เธออ่านในหนังสือ

    “จริงๆด้วย เธอคืออัศวินในตำนานดีใจจังเลยที่พบเธอ รีบเดินทางกันเถอะ”เธอพูดพร้อมกับออกเดินทางไปกับมัลฟอย

    ตอนนี้ทั้งคู่เดินออกมาจากป่าแล้ว เบื้องหน้าของพวกเขาคือนครนครหนึ่ง กำแพงสูงมากๆ แนวกำแพงไกลสุดลูกหูลูกตา มีทหารอยู่เต็มไปหมด รอบๆเมืองนั้นเต็มไปด้วยภูเขาน้อยใหญ่



    “ดูจากในแผนที่แล้วที่นี่คงคือนครแบงเกอร์ไม่ผิดแน่ แล้วภูเขาแบล็กก้าล่ะ(เธอกวาดสายตามมองพร้อมกับเอานิ้วไล่หาในแผนที่)อ้อเจอแล้ว อยู่ทางตะเหนือสุดของเมืองนี้ งั้นเราก็ต้องเข้าเมืองนี้ มัลฟอยเธอว่าเราปลอมตัวกันไหม ฉันไม่อยากให้ใครรู้ว่าเราคือใครเพราะมีสายสืบจอมมารเยอะมากเลย”เฮอร์ไมโอนี่พูดพร้อมกับจ้องมัลฟอย

    “มันจะปลอมตัวอะไรได้ละ ไม่มีอุปกรณ์ปลอมตัวเลย”มัลฟอยพูด



    “ก็ไม่ต้องเปลี่ยนเสื้อก็ได้ เดี๋ยวฉันจะถักเปีย2ข้างแล้วม้วนเป็นก้อนบนหัวนะ แล้วเธอกับฉันก็ต้องเปลี่ยนชื่อ ส่วนเธอนะ ก็ขยี้ผมให้ยุ่งๆแบบแฮร์รี่แล้วกัน แล้วเราจะชื่ออะไรกันดีหนอ.. เอาเป็นว่าฉันจะเปลี่ยนชื่อเป็นรีอาแล้วกัน แล้วเธอก็ชื่อกาลาเตอร์แล้วถ้ามีคนถามว่าพวกเราเป็นใคร เธอก็บอกว่าเธอมารับจ้างกวาดถนนนะ ก็เธอมีไม้กวาดนี่ ไม่งั้นเขาจะสงสัย ส่วนฉันจะบอกว่าฉันเป็นนักขับลำนำพเนจร ก็เลยต้องใส่เสื้อคลุม อย่างงี้ฟังดูมีเหตุผลไหม แล้วเธอก็เริ่มใช้ชื่อใหม่ได้เลยนะ ใช้ให้ติดนะ”เฮอร์ไมโอนี่พูด



    “โอย......ให้ฉันเป็นคนกวาดขยะเนี่ยนะ ไม้กวาดฉันออกจะมีราศรีจะไปกวาดถนนก็คงแปลก แล้วชื่ออะไรก็ไม่รู้ด้วย ชื่อน่าเกลียดจัง”มัลฟอยพูด

    “ชื่อน่าเกลียดที่ไหนกัน”เฮอร์ไมโอนี่พูดพร้อมกับถักเปีย

    และแล้วทั้งสองคนก็เดินเข้าเมือง

    “เจ้าสองคนเป็นใคร”ทหารยามผุ้เผ้าประตูถาม ทหารคนนั้นสวมชุดเกราะ มีหนวดสีน้ำตาล รูปร่างท้วมๆ

    “ฉันชื่อกาลาเตอร์เป็นคนกวาดถนน รับจ้างกวาดถนนไปทั่วทุกสารทิศ ส่วนแม่หญิงคนนั้นชื่อรีอา เป็นภรรยาของข้าเป็นนักขับลำนำ”มัลฟอยพูดพร้อมกับมองเออร์ไมโอนี่แบบยียวนกวนประสาท



    “ฉันไม่ได้บอกให้พูดอย่างงั้นซะหน่อยนะ”เฮอร์ไมโอนี่กระทุ้งมัลฟอยเบาๆพร้อมกับพูดแบบกัดฟัน ส่วนมัลฟอยก็ยิ้มไม่ตอบอะไร

    “งั้นขอค้นตัวหน่อย”ทหารคนนั้นพูด พร้อมกับค้นตัวมัลฟอย แล้วก็ให้ผู้หญิงอีกคนหนึ่งค้นตัวเฮอร์ไมโอนี่ ผู้หณิงคนนั้นดูจากการแต่งตัว ค่อนข้างสะอาด ชุดธรรมดาสีฟ้ายาวถึงตาตุ่ม ผมสีดำยาวประบ่า ผิวขาวตาสีดำคล้ายๆคนเอเชีย อายุประมาณ30กว่าๆ

    “อ้อ สงสัยหรือจ๊ะว่าฉันเป็นใคร ฉันชื่อฟีเน่ รับจ้างค้นตัวนักเดินทางผู้หญิงจ๊ะ ถึงจะเงินเดือนน้อย แต่ก็มีความสุขนะ”เธอพูดพร้อมกับยิ้ม แล้วก็ค้นตัวเฮอร์ไมโอนี่ แล้วเฮอร์ไมโอนี่ก็ยิ้มตอบไม่ได้พูดอะไร

    แล้วผู้หญิงคนนั้นก็ส่งไม้กายสิทธิ์ให้ทหารเวร แล้วทหารเวรคนนั้นก็ค้นเจอไม้กายสิทธ์ในตัวมัลฟอยเช่นเดียวกัน



    “นี่ไม้อะไร มีไว้ทำไม”ทหารคนนั้นถาม

    “ท่านก็เห็นนี่ว่ามันมี2อัน มันก็ต้องใช้คู่กันสิ มันคือตะเกียบยักษ์”มัลฟอยตอบหน้าตาเฉย

    “คือว่า…เรามีเชื้อสายจีนเล็กน้อยนะค่ะ แล้วตะเกียบนี้ที่ไม่เก็บไว้ด้วยกันแต่ไว้คนละอันจะได้เข้าคู่กันค่ะ เราใช้แทนแหวนมั้นไงค่ะ””เฮอร์ไมโอนี่ตอบ

    “จีนอะไรว่ะ…เออ..ช่างเถอะ..ไปได้”ทหารตอบ

    ทหารคนนั้นก็ดันเชื่อแฮะ ปล่อยมัลฟอยกับเฮอร์ไมโอนี่เข้าเมืองไป  และแล้วมัลฟอยกับเฮอร์ไมโอนี่ก็เดินเข้าไปในเมือง ในเมืองนั้นผู้คนชุกชุมเต็มไปหมด มีทุกสีผิวเลยตั้งแต่ผิวขาวผิวเหลืองและผิวดำ ท้องฟ้าที่เมืองนั้นเป็นสีดำสนิท



    เฮอร์ไมโอนี่กับมัลฟอยก็แปลกใจเหมือนกันเพราะเมื้อกี้ตอนที่อยู่นอนเมืองฟ้ายังสว่างอยู่เลยแต่พอทั้งสองเข้าเมืองมาฟ้าก็มืด ผู้คนในเมืองนั้นหันมาจข้องมัลฟอยกับเฮอร์ไมโอนี่ แล้วก็มองพวกเขาเดินไปตลอดทาง จนกระทั่งมัลฟอยกับเฮอร์ไมโอนี่ออกนอกเขตเมือง แล้วทั้งคู่ก็มุ่งหน้าสู่ภูเขาแบล็กก้า มัลฟอยรู้สึกว่ามีคนตามมา แต่พอหันหลังกับไปมองก็ไม่มีอะไรมีเพียงเสียงลมหวิวประทะชายคอ มัลฟอยกับเฮอร์ไมโอนี่รู้สึกสันหลังวาบกันทั้งสองคน



    “รู้สึกแปลกๆยังไงชอบกลนะ ตามที่ฉันคิดมันนะจะมีอะไรมาขัดขวางการเดินทางสิ นี่เรากลับเดินทางมาสบายตลอดทางเลย”มัลฟอยพูด

    “ฉันว่ามันคงจะจ้องเรามาตลอดรอเพียงแค่โอกาสเหมาะสมที่จะเล่นงานเราเท่านั้นเอง ฉันว่าเตรียมตัวต่อสุ้ดีกว่านะ ฉันรู้สึกถึงแรงอัมหิต”เฮอร์ไมโอนี่พุด

    และแล้วเขาทั้งสองก็เดินทางมาถึงภูเขาแบล็กก้า แล้วก็เห็นอักขระโบราณที่อ่านไม่ออกสลักอยู่ที่แผ่นหิน

    “อักษรรูณ โอ้โห ของโบราณด้วย คราวนี้ฉันจะได้ใช้วิชาที่เรียนมาให้เป็นประโยชน์ อ่านว่าอะไรหนอ….อืม…เขาบอกว่าให้เอามือของธิดาอินทรีฟ้ากับมือของอัศวินอินทรีเงินวางลงบนแผ่นหิน แล้วประตูจะเปิด”เฮอร์ไมโอนี่พูดพร้อมกับทำทำท่าครุ่นคิด แล้วทั้งคู่ก็เอามือวางลงบนแผ่นหิน แล้วประตูลับเข้าสู่ถ้ำอินทรีก็เปิดออก…….................









    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×