ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    -*+*-[fic:baramos]จอมใจมีดบิน-*+*-

    ลำดับตอนที่ #1 : การเริ่มต้น

    • อัปเดตล่าสุด 2 มี.ค. 49


    ................ตอนที่1 ................

    ท้องฟ้ามืดสนิท ทุกสิ่งเงียบสงบ เงียบซะจนแทบจะได้ยินเสียงหายใจของตัวเอง

     ท่ามกลางความเงียบสงบนั้น แม่คนเจ้าปัญหา กำลังหาเรื่องหาปัญหา



    "โกโดม  วันนี้จอมเวทย์แห่งเดมอสจะแสดงฤทธิ์เคลื่อนย้ายสิ่งของให้ดูนะ"

    เสียงหวานใสเอ่ยขึ้นพร้อมกับสายตาวาววับ


    'ส..สายตาอย่างนั้น'   แค่โกโดมคิดในใจก็สยองแล้ว


    "อย่าบอกว่าพระองค์จะเอาหม่อมชั้นเป็นหนูทดลองนะ พะยะค่ะ"


    "แหม…..อย่าตื่นเต้นไปหน่อยเลย วันนี้ฉันอุตส่าห์ลงทุนตื่นเช้ามาแอบเล่นเงียบจะได้

    ไม่เดือดร้อนใครแล้วนะเนี่ย  หน่านะโกโดม"


    เจ้าหญิงคนสวยพูดด้วยน้าเสียงออดอ้อนจนโกมโดมอดใจอ่อนเสียไม่ได้
    แต่ก็แอบเสียวอยู่เหมือนกัน





    และแล้วจอมเวทย์กำมะลอแห่งเดมอสก็เริ่มสำแดงฤทธิ์เดช 


    "ข้าแต่พลังมหาเวทย์มนตร์ดำอันยิ่งใหญ่ โปรดประทานพละกำลังแต่ข้า บันดาลให้ความมืดมิดกินแสงสว่าง ผันแปรเวลาและนาที จงย้ายสิ่งนี่ไปที่………."



    เสียงร่ายเวทย์ขาดตอนในทันใด เมื่อเจ้าคนร่ายเวทย์ เห็นอะไรบางอย่างที่กำลังพุ่งตรงมาทางเธอ

      

    อีกด้านหนึ่งของพุ่มไม้ที่เฟรินซ่อนตัวเพื่อเล่นสนุกอยู่


     

    ชายหนุ่มรูปร่างสูงสง่า กำลังเดินรอบๆป้อมอัศวินเพื่อตรวจเวรตามหน้าที่


     

    ช่างเป็นวันที่สงบสุขและมีความสุขเหลือเกิน เพราะไม่มีซาตานจอมกวนมาคอยรังควาน


     

    แต่แล้วเสียงกุ๊กกั๊กที่พุ่มไม้ฝั่งตรงข้ามก็ทำลายบรรยายกาศอันเงียบสงบนั่น

    "ฟิ้ว………ฉึก"มีดบินบินมา โดยไม่ต้องบอกก็รู้ว่าใครปามา และเหมือนกับเป็นการ รีแอคชัน เสียงร้องของผู้ที่อ้างว่าเป็นจอมเวทย์ผู้ยิ่งหญ่าย ก็ร้องสวนขึ้นมาในทันควัน 




    "อ๊าก…เดสมอเร่แน่เลย  คุณพระคุณเจ้าช่วยลูกด้วย" เสียงตะโกนโวกเหวกของสาวน้อยดังมาจากหลังพุ่มไม้

    "เฟลิโอน่า  ตื่นได้แล้ว"เสียงนุ่มทุ่มที่ดูเหมือนว่าไปup level ความหงุดหงิดซะเต็มแล้ว

    "อื้อ……อย่าเพิ่งปลุกนะคาโล กำลังฝันดีอยู่เชียว……"เฟรินเอ่ยแบบงัวเงีย



    ' เอ๊ะ…….เฟลิโอน่าหรอ………..ไอ้คาโลกับไอ้คิลมันไม่ปลุกอย่างนี้นี่หน่า แล้วน้ำเสียงอย่างนี้ คุ้นๆแบบบอกไม่ถูกนะ'   แค่คิดเฟรินก็ขนลุกโดยไม่รู้ตัว


     

    'อย่าบอกนะว่าเป็น……….'คราวนี้เจ้าหญิงนิทราก็รีบลุกขึ้นมาในทันใด พร้อมกับมองไปรอบๆกาย



    เบื้องหน้ามีบุรุษผู้ที่สีหน้าพี่เขาบ่งบอกว่า คงหมดอายุแล้ว เพราะหน้าพี่เขาดูอารมณ์เสียกว่าเดิม และหน้าบูดกว่าเดิม   แล้วข้างๆพี่เขาก็มีเจ้ากวางน้อย องค์รักษ์ผู้แสนจงรักษ์ภักดีของเธอที่บัดนี้ไม่ต้องพูดก็รู้ว่ามันลำบากใจแค่ไหน



    "เอ่อ……."เจ้าคนก่อเรื่องอยากทำลายบรรยาศอึมครึมจึงเอ่ยขึ้นมา แต่ก็ไม่รู้จะพูดอะไรต่อ

    "เฟลิโอน่านี่ เธอทำอะไร แล้วเธอรู้ไหมเนี่ยว่าอยู่ที่ไหนแล้ว  เล่นอะไรไม่รู้จักคิด"

    เสียงเทศนาดังขึ้นจากนักบวชที่เริ่มทำหน้าที่เล่นเอาเฟรินอึ้งอ้าปากค้างไปเลย



    ไม่ใช่ว่าเธอสติแตกที่โดนว่า แต่เป็นเพราะไม่เคยเห็นพี่เขาพูดยาวขนาดนี้ ก็ปกติพี่เขาพูดไม่กี่คำ  น่าจะอัดใส่เทปไปขาย คงจะขายได้หลายตัง  โดยเฉพาะ แฟนคลับเบอร์หนึ่งอย่างพี่ลูคัส



    "เจ้าบังอาจมาก  กล้าว่าองค์หญิงของข้าเชียวหรอ"


    "อย่าไปว่าเขาเลยโกโดม ฉันผิดเองแหละ" เสียงของสาวน้อยหนึ่งเดียวดังขึ้น ไม่ใช่ว่ารู้สึกผิดหรอก แต่กลัวพี่เขาจะยิ่งบูดไปกว่านี้ แค่นี้ก็น่ากลัวตายชักแล้ว



    "ว่าแต่ที่นี่ที่ไหน แล้วทำไมฉันถึงมาอยู่ที่นี่หล่ะโกโดม และทำไม พี่ลอเรนซ์ถึงมาด้วย"



    "พระองค์ร่ายเวทย์ผิด  บัดนี้พระองค์อยู่ที่เมืองหน้าด่านของเดมอส  ส่วนท่านนี้ที่หลงมาด้วยเพราะเขาอยู่ในรัศมีที่ไอเวทย์มนตร์จะไปถึงพอดี องค์หญิงรีบเสด็จเถิดพะยะค…."

    ยังไม่ทันที่โกโดมจะกล่าวต่อ เสียงโอดครวญที่แสดงถึงความทุกทรมาณอย่างแสนสาหัสก็ดังขึ้นจากนับวชหนุ่ม
    พร้อมกับร่างที่ลงไปงออยู่ที่พื้น


     

    โกโดมรีบวิ่งไปหานักบวชหนุ่มทันทีพร้อมกับสำรวจตามร่างกาย  และแล้วสายตาของโกโดมก็มองเห็นเครื่องหมายรูปกากบาทสีทอง
    ที่ฝ่ามือด้านขวาของนักบวชหนุ่ม



    "พี่ลอเรนซ์เขาเป็นอะไรไปหรือโกโดม"



    "ร่างกายของเขาตอบสนองต่อพลังเวทย์มนตร์ที่พิดพลาดขององค์หญิง ถ้าปล่อยเอาไว้ต่อไป เขาก็จะทรมาณต่อไปเรื่อยๆ และพลังชีวิตก็จะหมดไปในที่สุดพะยะค่ะ"



    "แล้วมันมีทางใดที่ฉันจะช่วยเขาได้บ้าง"คนก่อเรื่องเอ่ยอย่างกังวล



    "หม่อมฉัน มิบังอาจทูล   คือ…..คือ..."โกโดมเอ่ยอย่างลังเลย



    "ชีวิตคนนะโกโดม ไม่ว่าจะทำอะไรฉันก็จะทำ ฉันจะรู้สึกผิดมากเลยรู้ไหมโกโดมถ้าคนนั้นจะต้องตายเพราะฉันแล้วฉันก็ไม่ช่วยเขาอีก"เฟรินเอ่ยอย่างมุ่งมัน



    "จุมพิตจากเจ้าหญิงแห่งคาโนวาลสามารถรักษาอาการบาดเจ็บและเรียกพลังกลับคืนได้ แต่ถ้าจะสะกดมนตร์ดำ หรือยับยั้งพิษจากไอเวทย์ต่างๆ ต้องใช้จุมพิตจากเจ้าหญิงแห่งเดมอสพะยะค่ะ"โกโดมละล่ำละลักตอบออกมา



    "หา………อารายนะ…….จะให้ฉันจูบกับ…..กับพี่ลอเรนซ์เนี่ยนะ….."เจ้าหญิงแห่งเดมอสซ็อคไปแล้ว



    "กระหม่อมสมควรตายพะยะค่ะ ไม่น่าทูลให้องค์หญิงเปลืองตัวเลย ลงโทษกระหม่อมเถิดพะยะค่ะ"โกโดมรีบทูลขอรับพระอาญา



    แต่แล้วโกโดมก็ต้องตกใจเมือเจ้าหญิงของเขาก้มลงจูบชายหนุ่มคนนั้นอย่างรวดเร็ว  แล้วก็รีบตั้งหลักถอยฉากพร้อมกับหันหน้าหนีไปคุยกับโกโดมเพื่อซ่อนหน้าแดงๆไว้

    แล้วเขาก็สงบลง แล้วก็ค่อยๆลืมตาขึ้น



    "ว่าแต่….. จูบครั้งเดียวแล้วก็หายเลยหรอ"เฟรินเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจังปนสยอง



    "พิษไอเวทย์ปรกติแต่จุมพิษครั้งเดียวก็หาย  แต่ไอเวทย์ครั้งนี้รุณแรงเพราะไม่ได้เกิดจากคนธรรมดา แต่เกิดจากเชื้อสายเจ้าปีศาจ

    ต้องจุมพิตทุกราตรีตอนเที่ยงคืน เพื่อเป็นการบรรเทาพิษจากไอเวทย์  และต้องพาไปประกอบพิธีกรรมล้างไอเวทย์ที่เมืองหลวงพะยะค่ะ"



    "หา………."แม่ตัวยุ่งร้องอย่างตกใจ



    "งั้นเดี่ยวกระหม่อมจะเดินทางล่วงหน้าไปเตรียมพิธีกรรมนะพะยะค่ะ องค์หญิงเดินทางตามลำพังกับไอ้หมอนี่ระวังพะองค์ด้วยพะยะค่ะ  แล้วนี่คือเงินของเดมอสพะยะค่ะ"ว่าแล้วพ่อมดแห่งเดมอสก็หายตัวไป



    "หา………" เฟรินร้องขึ้นมาอีกรอบ



    'แค่จูบกับรุ่นพี่หน้าบูดก็จะตายอยู่แล้ว  นี่ต้องมาออกเดินทางด้วยดันสองต่อสองหรือนี่'



    "แย่…..ตายแน่….ตายชัดๆ"แม่คนก่อเรื่องที่บัดนี้ยังหน้าแดงอยู่เอาหัวโคกต้นไม้อย่างคนเสียสติ



    "ฟิ้ว…………ฉึก"เสียงเรียกสติพร้อมกับมีกที่ปักอยู่บนต้นไม้นั้น ห่างจากหัวเธอไม่ถึง 2 cm



    "นี่…….พี่ลอเรนซ์จะฆ่ากันหรือไง  ฉันอุตส่าห์ช่วยชีวิตพี่ไว้นะ"เฟรินหันมาแหวใส่



    "…………."



    "นี่จะเลียนแบบไอ้คาโลกันหรือไง ปล่อยให้ฉันพูดคนเดียวฉันก็เหมือนคนบ้านะสิ"เฟรินอารมณ์เสีย ซึ่งไม่รู้ว่าแกล้งอารมณ์เสียแก้เขินหรือเปล่า



    "งั้นก็หยุดบ้าแล้วรีบเดินทางซะ"เสียงเข้มที่แม้นจะลดความหงุดหงิดลงแล้ว แต่ก็ฟังดูหงุดหงิด



    "อ๊ะ…..ลืมไปเลย แล้วเรื่องที่โรงเรียนหล่ะ"เฟรินเอ่ยปากถามหลังจากทำใจให้สงบลงแล้ว



    "ฉันเขียนจดหมายเวทย์ สงไปแจ้งข่าวตอนที่เธอกำลังบ้าอยู่"



    "นี่ใช้เวทย์ได้ก็ไม่ต้องรักษาแล้วใช่ไหม  ดีเลย  งั้นก็ต่างคนต่างไป ขืนอยู่กับพี่นานๆซักวันฉันจะต้องตัวพรุนแน่เลย"เฟรินพูดพร้อมกับจะเดินหนี



    "แล้วนั่นที่เดินไปหน่ะรู้ทางหรอ  ในเดมอส ภูติ ผี ปีศาจเยอะนะ"

    น้ำเสียงที่ฟังดูคล้ายๆว่าตัวเธอต้องหูฝาดแน่ๆ เพราะมันไม่มีเค้าของความหงุดหงิดแม้นแต่น้อย แต่เสียงเหมือนคนกำลังสะใจ



    'ผีหรอ'  ตอนนี้ในสมองเธอมีอยู่คำเดียว ว่าแล้วก็คนลุกชัน รีบวิ่งเข้ามาเกาะแขนของคนที่เธอเคยตราหน้าว่าจะไม่ขอเข้าใกล้เขาเด็จขาด



    สีหน้าหวาดกลัวของเธอเรียกรอยยิ้มบางๆที่มุมปากของผู้ที่จับจุดเธอได้ 

    แล้วการเดินทางก็เริ่มต้นขึ้น.......




    ..........................................

    เตรียมพบกับตอนที่2ได้เร็วๆนี้ (ถ้าคนแต่งไม่ขี้เกียจ)
    อย่าลืมให้กำลังใจด้วยการเม้นท์ด้วยนะค่ะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×