ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Reyphanos ผู้พิทักษ์แห่งเซซินเนียร์

    ลำดับตอนที่ #9 : บทที่ 8

    • อัปเดตล่าสุด 1 พ.ค. 58


    บทที่ 8

                    เรนเดล คารอส และนักเรียนปีสี่หน่วยพิเศษทุกคนยกยิ้มให้เด็กที่บอกตัวเองว่าเป็นหลานแม่ทัพแห่งไฟร์ออนาซอย่างถูกใจ นี่อาจจะเป็นครั้งแรกในประวัติของหน่วยพิเศษเลยก็ว่าได้ ที่น้องใหม่สามารถผ่านการรับน้องอันแสนหฤโหดของรุ่นพี่ได้ภายในเวลาไม่ถึงสามชั่วโมง

                    แชนเดรีย บอกให้ปีหนึ่งถึงปีสามทั้งหมดมารวมตัวกันที่นี่ ฉันอยากให้ทุกคนได้ฟังว่ารุ่นน้องที่น่ารักของพวกเราผ่านเข้ามาข้างในทั้งที่ฉันบอกว่าอย่าให้อะไรเล็กรอดเข้ามาได้อย่างไร

                    แชนเดรีย หญิงสาวคนเดียวในกลุ่มปีสี่พยักหน้ารับคำสั่ง เธอเรียกลูกไฟสื่อสารออกมาแล้วถ่ายทอดคำสั่งไปให้ทุกคนอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง เพียงไม่นาน ห้องโถงรับรองบริเวณประตูปราสาทที่เคยกว้างขวางก็ดูแน่นลงไปถนัดเมื่อมีนักเรียนหน่วยพิเศษทั้งสี่สิบชีวิตอยู่ด้วยกัน

                    “เอาล่ะ การรับน้องจบลงแล้ว ไหนบอกมาสิว่าพวกนายเข้ามาข้างในโดยที่พวกพี่ไม่รู้ได้ยังไง

                    เรนเดลกวาดสายตามองไปทางปีหนึ่งทุกคนแล้วไปหยุดอยู่ที่นีลทำให้คนโดนจ้องโบกไม้โบกมือปฏิเสธเป็นพัลวัน

                    ผมไม่ได้รู้แผนอะไรมากมายหรอกครับ พี่ต้องถามเรฟ เจ้านั่นเป็นคนคิดแผนทั้งหมด

                    คนถูกโยนงานหันไปแยกเขี้ยวใส่เพื่อนอย่างหมันไส้ จะหันไปขอความช่วยเหลือกับคนอื่นก็ดูเหมือนจะหลบตากันเสียหมดทำให้เรฟถอนหายใจแล้วยอมแบไพ่ที่มีอยู่อย่างจำนน

                    อย่างแรกคือ...


                    . . . .

                    . . . .

                    . . . .


    ย้อนไปเมื่อ 3 ชั่วโมงที่แล้ว

                    ทุกคน ฟังฉันหน่อย เรฟานอสเรียกความสนใจจากทุกคน และเมื่อเห็นว่าเพื่อนตั้งใจฟังกันหมดแล้วจึงหันไปทางเอนเดลลิออนที่กำลังยืนหาวอยู่เงียบๆ

                    เอนด์ นายสร้างอัคคีมายาได้ใช่ไหม ช่วยทำให้ดูเหมือนพวกเรากำลังต่างคนต่างทุ่มพลังใส่ประตูนี่หน่อยสิ

                    นายกำลังจะบอกว่ามีคนแอบมองเราอยู่?

                    เรฟพยักหน้ากับคำพูดของเอนเดลลิออนก่อนจะหันมาทางเพื่อนอีกแปดคนที่กำลังงงเป็นไก่ตาแตก

                    ฉันให้เอนด์สร้างภาพมายาไม่ให้พวกรุ่นพี่เห็นว่าเรากำลังประชุมกันอยู่ เรฟยิ้ม เอาล่ะ ฉันมีแผนดีๆที่ทำให้พวกเราไม่ต้องนอนตากน้ำค้างอยู่หน้าหอคืนนี้ พวกนายพร้อมที่จะร่วมมือกันฉันไหม

                    เกิดความเงียบขึ้นทันทีที่เรฟถามจบ หลายคนมองหนุ่มที่เสนอแผนขึ้นมาอย่างไม่เข้าใจ บางคนก็ฉายแววโกรธอย่างเห็นได้ชัดมีเพียงเรอาที่ส่งยิ้มหวานให้คนถาม

                    พูดอะไรอย่างนั้นครับคุณเรฟ ยังไงเราก็เป็นเพื่อนกันแล้ว ถ้าอะไรที่ช่วยกันได้เราก็ต้องช่วยกันไม่ใช่หรอครับ

                    นี่ๆๆ พูดเหมือนพวกฉันอีโก้สูงไม่ยอมฟังใครอย่างนั้นแหละ จะเสนอก็เสนอมาสิ!”

                    อย่าห่วงเลยค่ะคุณเรฟ ยังไงพวกเราก็ต้องผ่านมันไปด้วยกันค่ะ

                    และอีกหลากหลายเสียงที่แย่งกันพูดเสียจนฟังไม่ได้ศัพท์ เรฟยกมือขึ้นเป็นทำนองว่าให้เงียบเสียงลงก่อนจะบอกแผนการที่ตนคิดไว้

                    โอเคๆ แค่ถามเฉยๆเอง  เรฟบ่นอุบ แผนการแรกก็คือ ฉันจะให้พวกเราทำเป็นแตกคอกันเอง ต่างแคนต่างทุ่มพลังใส่ประตูแบบไม่สนใจใครเพื่อให้พี่เขาตายใจว่ายังไงเราก็คงจะผ่านมันไปไม่ได้ แล้วฉันจะเจาะม่านมนตราส่วนที่อ่อนแอที่สุดซึ่งก็คือหน้าต่างทางทิศตะวันตกเพื่อส่งพวกนายบางคนเข้าไป

                    เดี๋ยวนะเรฟ ฟารอสขัดขึ้น นายจะเจาะเข้าไปยังไง ในเมื่อแค่เราแตะไปที่ประตูพี่เขาก็รู้ตัวแล้ว

                    เรื่องนั้นสบายมาก นายคิดว่าเพลิงศักดิ์สิทธิ์ของฉันมีไว้แค่เผามนุษย์ดินหรอ เรฟยิ้ม เพลิงศักดิ์สิทธิ์คือเพลิงชั้นสูง ถ้านั่นไม่ใช่เพลิงที่สูงกว่าเพลิงศักดิ์สิทธิ์ก็ไม่มีทางจับได้หรอก

                    ซึ่งไม่มีเพลิงชนิดไหนที่สูงไปกว่าเพลิงศักดิ์สิทธิ์แล้วล่ะ เรฟต่อในใจ

                    เมื่อฉันเจาะเวทได้แล้ว ฉันจะให้เซฟิรอส เอนด์ ชารอน เรอา เข้าไปข้างในก่อน เอนด์คอยสร้างอัคคีมายาไม่ให้พี่ที่อยู่ทางทิศตะวันออกเห็นว่าใครกำลังถล่มหน้าต่างทางฝั่งนั้น เรอา นายใช้พลังพสุธาเปลี่ยนเส้นทางในหอ ทำยังไงก็ได้ให้พวกพี่ที่วิ่งมาสมทบเขาหลงมาทางทิศตะวันตกที่เซฟิรอสและชารอนคอยอยู่

                    ทุกคนหน้าเริ่มเปลี่ยนสีเป็นซีดขาวเมื่อได้ยินแผนการของเรฟ

                    เซฟิรอสและชารอนต้องรอพี่ที่หลงมาที่หน้าต่างทิศตะวันตกที่ฉันส่งพวกนายเข้าไป ถ้าเกิดเหตุที่ต้องปะทะให้ใช้ความเร็วของลมหลบหลีกให้ดี อย่าเสี่ยงให้ตัวเองบาดเจ็บเด็ดขาด ถ่วงเวลาไว้ให้มากที่สุดจนกว่าแผนจะยุติ ส่วนทารีส นายใช้พลังของนายถล่มหน้าต่างทางทิศตะวันออกที่เอนด์สร้างอัคคีมายาไว้ ถล่มมันให้เละอย่าให้เหลือ

                    “ส่วนทางประตูใหญ่ ฉันเชื่อว่าพี่เรนเดลคงจะคิดว่าฉันใช้แผลถล่มหน้าต่างดึงความสนใจจนต้องเล่นไปตามน้ำและส่งพี่ๆปีสี่ระดับสูงมาคอยคุมเวทตรงประตูแน่ ฉันจะให้ ฟารอส เนล นีล ไอเมอร์ ถล่มเวทใส่ประตูไม่ให้ยั้ง มีเวทบทไหนใส่ไปให้หมด เรื่องเวทที่จะสะท้อนกลับฉันจะสร้างม่านมนตราไว้ให้พวกนายเอง

                    แล้วนายล่ะเรฟ นายทำอะไร เอนด์ถามอย่างสงสัย

                    ฉันหรอ ฉันก็เข้าไปหาห้องของพวกเรายังไงล่ะ

                    แล้วนายจะหายังไง ฉันคิดว่าหาคนเดียวยังไงก็ไม่เจอหรอก

                    แน่นอน ฉันถึงต้องใช้ไอ้นี่ยังไงล่ะ เรฟชูสร้อยที่มีจี้สีทองขึ้นมาแล้วยิ้ม นายไม่สังเกตหรอว่าทุกอย่างภายในโรงเรียนนี้ถูกตั้งกลไกให้ดำเนินการทุกอย่างไปได้ด้วยสร้อยประจำตัว ถ้าห้องของพวกเราจะถูกไขได้ด้วยสร้อยประจำตัวของแต่ละคนจะแปลกอะไร

                    อ๋อ..อย่างนี้นี่เอง เซฟิรอสยิ้มแล้วหันไปหาทุกคน ทุกคนเข้าใจแผนที่เรฟบอกแล้วใช่ไหม

                    ทุกคนพยักหน้าอย่างพร้อมเพรียง เรฟยิ้มกว้างแล้วชี้ไปที่ตัวปราสาทอย่างฮึกเหิม

                    เอาล่ะ ถึงเวลาของพวกเราแล้ว!”


                    . . . .

                    . . . .

                    . . . .


                    “แล้วผมก็ขอยืมสร้อยของเพื่อนทั้งหมดมาไว้ ไม่นึกว่าเดินไปเรื่อยๆแสงของจี้จะเกิดกระพริบขึ้นมา ผมเลยเดินตามแสงนี้ไป ยิ่งเดินแสงก็ยิ่งสว่างขึ้นเรื่อยๆเลยจนเจอห้องของทุกคนนี่ล่ะครับ

                    ไม่เพียงแค่รุ่นพี่เท่านั้น แม้แต่เพื่อนที่ร่วมแผนการด้วยกันมายังมองมาทางคนคิดแผนราวกับเพิ่งค้นพบสิ่งแปลกประหลาดก็มิปาน ทุกคนต่างคิดเป็นเสียงเดียวกันโดยมิได้นัดหมาย ให้ตายยังไงก็จะไม่ขอเป็นศัตรูกับไอ้หมอนี่เด็ดขาด!

                    เอาล่ะ ในเมื่อเราได้รู้แล้วว่าเพลิงสีน้ำเงินน่ากลัวขนาดเจาะม่านมนตราของคารอสมาได้ก็ไม่มีอะไรสงสัยแล้วล่ะ เรนเดลหัวเราะ เดินมาตบหลังรุ่นน้องผมเงินด้วยความถูกใจเสียดังพลัก!

                    “ในเมื่อพวกนายมีที่ซุกหัวนอนแล้วก็แยกย้ายกันได้แล้ว ฉันเบื่อ ฉันจะนอน!”

     

     

     





     

     

     

     

               แล้วไหง...


               คนที่บอกว่าเบื่อ จะนอน...


               ถึงได้มาเคาะประตูน้องกลางดึก...


    เพื่อ...


    ตั้งวงไพ่กันล่ะเนี่ย!!


    แบบนี้มันผิดกฎโรงเรียนไม่ใช่รึไง
               เรฟานอสถอนหายใจแล้วมองไปทางวงไพ่ที่ส่งเสียงเฮฮากันสนุกสนาน โดยมีท่านหัวหน้าหน่วยเป็นเจ้ามือและเป็นแกนนำในการแหกกฎเสียเองจนน่าเป็นห่วงอนาคตหน่วยพิเศษที่สร้างชื่อเสียงระบือนามไปไกลว่าเจ๋งและเคร่งแค่ไหน

    ใครมันบอกว่าหน่วยพิเศษนั้นเคร่งในกฎ นิสัยอย่างกับปีศาจ เขาขอไปตั๊นหน้ามันหน่อยเถอะ!

    เอาน่าๆท่านหัวหน้าชั้นปี จะเครียดไปทำไมเล่า เซฟิรอสที่เดินแยกออกมาและบังเอิญได้ยินสิ่งที่เรฟบ่นพอดีเดินเข้าทักด้วยรอบยิ้มแม้ว่าใบหน้านั้นจะฉายแววง่วงงุนออกมาแค่ไหนก็ตาม

    และนี่เป็นอีกอย่างหนึ่งที่ทำให้เรฟชักสีหน้าอย่างไม่สบอารมณ์ ตอนสอบปฏิบัติรึก็ไม่ได้ตั้งใจอะไรสักเท่าไหร่แค่ถล่มห้องสอบไปเสียครึ่งแถบ ตอนสอบสัมภาษณ์ก็ไม่ได้คุยอะไรนอกจากเรื่องดราม่าที่ท่านอดีตจักรพรรดิชวนเขาเขาคุยจนเครียด แต่ไหงผลสอบออกมาถึงกลายเป็นว่าเขาได้ที่หนึ่งได้ละเนี่ย!!

    ถ้าพวกอาจารย์มาเห็นคงได้เห็นวงแตกกันบ้างล่ะเรฟบ่นออกมาอีก

    ไม่ต้องให้ถึงมืออาจารย์หรอก แค่พี่คารอสคนเดียวก็จอดแล้ว เซฟิรอสนึกถึงใบหน้ารุ่นพี่ที่เป็นถึงรองหัวหน้าหน่วยและชอบทำใบหน้าเคร่งเครียดอยู่ตลอดเวลาถึงกับเผยท่าทางสยดสยองต่อรุ่นพี่คนนี้จนเห็นได้ชัด

    เรฟได้เห็นท่าทางนั้นก็หัวเราะออกมาเบาๆ

    ก็จริงล่ะนะ เจ้านั่นชอบทำหน้าเครียดจนคนอื่นไม่กล้าเข้าใกล้มาแต่ไหนแต่ไรแล้วนี่

    คำพูดของเรฟานอสทำให้เด็กหนุ่มจากเวนเดลล่าหันไปมองอย่างสนใจ

    นายพูดเหมือนรู้จักพี่คารอสมาก่อนแล้วเลย

    ก็ใช่ เคยเล่นด้วยกันสมัยเด็กน่ะ แต่ไม่ได้เล่นด้วยของเล่นเหมือนเด็กทั่วไปหรอกนะ เล่นด้วยอาวุธต่างหาก..”  ประโยคหลังคนพูดพึมพำกับตัวเองเสียงเบาเสียจนคนฟังต้องเอ่ยถามอีกครั้ง

    นายว่าอะไรนะ

    อ๋อ ฉันบอกว่าเราเคยเล่นด้วยกันสมัยเด็กน่ะ แต่พอพี่คารอสโตขึ้นและกลับไปอยู่บ้านเกิดฉันก็ไม่ได้เจอเขาอีกเลยเรฟเอ่ยแก้

    อย่างนั้นหรอ...เซฟิรอสแม้จะยังคงสงสัยแต่ก็ไม่ได้ซักไซ้ต่อ ว่าแต่ นายรู้จักกับเอนด์มาตั้งแต่เด็กเหมือนกันหรอ

    ดูนายสนใจเรื่องของฉันจังนะ เรฟยิ้มบางแต่ก็ยอมกล่าวออกมา ฉันรู้จักกับเจ้านั่นตั้งแต่เจ็บขวบ วันนั้นฉันแอบตามท่านลุงเข้าไปในรถแม้ด้วยแต่ก็ถูกจับได้ แต่จะให้ย้อนกลับไปส่งก็ไกลเลยได้ติดไปที่วังของเจ้านั่นด้วยน่ะ ตอนนั้นฉันจำได้ว่าเอนด์สมัยเด็กเป็นคนที่หัวดื้อ เอาแต่ใจ และไม่ยอมฟังใครจนท่านอาเอเรียสมาบ่นให้ฉันฟังอยู่บ่อยๆ

    จะให้นึกถึงกี่ครั้งก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาทุกครั้งกับความเด็กของเจ้าชายจากไฟร์ออนาซและความบ้าจี้ของเขาที่ยอมทำตามเจ้านั่นจนสนิทกันได้

    ว่าแต่นายเถอะ ไม่มีเพื่อนสมัยเด็กบ้างหรอ

    เรฟานอสหันไปหาคนที่อุตส่ามายืนคุยเป็นเพื่อนเขาอยู่ข้างๆ เซฟิรอสยิ้มออกมาเล็กน้อย ท่าทางสบายๆที่มีอยู่เป็นนิจช่างคล้ายกับบุคลิกของเจ้าหลานชายท่านแม่ทัพแห่งไฟร์ออนาซเสียจนถ้าไม่รู้คงนึกว่ามาจากครอบครัวเดียวกันเป็นแน่

    ที่จริงก็ควรจะมีอยู่หรอก

    เรฟานอสมองคนที่เผยใบหน้าเศร้าสร้อยเสียจนหน้าใจหายอย่างสงสัย

    แล้ว...? พูดออกมาได้คำเดียวเรฟก็เงียบลงเมื่อไม่รู้จะกล่าวอะไรออกมาดี

    ฉันเกิดมาในตระกูลของอัศวินราชองครักษ์ มีหน้าที่ที่จะต้องปกป้องรัชทายาทและเคียงข้างท่านไปจนกว่าชีวิตจะหาไม่ มันเป็นกฎที่ว่าราชองครักษ์จะต้องเข้าไปถวายการรับใช้องค์รัชทายาทตั้งแต่เด็กเพื่อให้ทั้งสองคุ้นเคยกันและเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันในภายภาคหน้า

    นายกำลังจะบอกว่าแม้แต่นายก็ไม่ได้พบเจ้าชายรัชทายาทอย่างนั้นหรอ

    เซฟิรอสพยักหน้าโดยที่ใบหน้าไม่เปลี่ยนไปเลยสักนิด

    ใช่ ในวันที่ฉันเข้าวังไปเพื่อถวายการรับใช้ เจ้าชายก็ได้หายตัวไปอย่างลึกลับ ทางราชวังแทบจะพลิกแผ่นดินหาก็ไม่เจอ จนเมื่อไม่กี่ปีก่อน ก็มีข่าวลือแพร่ออกไปว่าเจ้าชายแอบเข้ามาช่วยทหารปราบกบฏ จัมกุมพวกค้ามนุษย์ และอีกหลายอย่างที่อยู่ในเงามืดทำให้พระราชามีรับสั่งว่าให้หยุดค้นหา เพราะยิ่งไล่ตามเท่าไหร่ เจ้าชายผู้รักอิสระผู้นั้นก็ยิ่งห่างไกลออกไปทุกที

    มือแกร่งกำราวระเบียงแน่นอย่างคนอดกลั้น นัยน์ตาสีแดงประกายทองเหม่อมองออกไปยังท้องฟ้ายามราตรีราวกับกำลังเฝ้าคะนึงหาบุคคลที่อยู่ไกลแสนไกล

    ในฐานะของข้ารับใช้ผู้ภักดีแล้ว มันคือความผิดพลาดที่ปล่อยเวลาให้ล่วงเลยมาหลายปีก็ยังไม่มีโอกาสได้พบกับพระองค์ จนเมื่อได้รู้ข่าวเรื่องคำทำนายแห่งแผ่นดิน ฉันจึงได้เข้ามาที่นี่เพื่อตามหาท่าน

    เรฟานอสสะดุดกึกกับคำพูดของอีกฝ่าย เอ่ยทวนเบาๆอย่างไม่แน่ใจ

    คำทำนายแห่งแผนดิน?

    เซฟิรอสเลิกคิ้วก่อนจะเปล่งคำทำนายออกมาด้วยน้ำเสียงอันก้องกังวาน ทำให้เรฟถึงกับเห็นใบหน้าของทารีซ้อนทับขึ้นมาทันที

    เมื่อเหล่าบุตรแห่งเทพทั้งสี่เจริญวัยครบสิบเจ็ดพรรษา ทั้งหมดจะกลับมารวมตัวกันอีกครั้งณ จุดศูนย์กลางแห่งเผ่าพันธุ์ เมื่อนั้นโลกจะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ แต่หากเมื่อใดที่บุตรแห่งเทพองค์ใดองค์หนึ่งเกิดหลงทาง เมื่อนั้น ภัยพิบัติครั้งใหญ่จะเกิดขึ้น…”

    ภัยที่แม้เจ้าเทพเจ้าก็มิอาจจะแก้ไขได้

    เรฟกล่าวประโยคสุดท้ายพร้อมๆกับเซฟิรอสทำให้อีกฝ่ายรู้สึกแปลกใจไม่น้อยที่เรฟรู้เรื่องคำทำนายนี้ด้วย แต่เรฟานอสก็หันมายิ้มกว้างแล้วเฉลยข้อสงสัยของเขา

    พอดีได้ฟังมาจากทารีสน่ะเรฟกล่าวด้วยน้ำเสียงเรื่อยๆตามแบบฉบับ แต่ก็นะ เซฟิรอส..

    คนถูกเรียกนิ่งเงียบแต่ก็รอให้อีกฝ่ายพูดต่อ

    ทำไมทุกคนถึงได้ยึดมั่นกับคำทำนายนี้นัก แค่เพียงเพราะว่ามันเกี่ยวข้องกับความเป็นตายของอาณาจักรหรอ

    เซฟิรอสนิ่งคิดก่อนจะตอบ

    สำหรับอาณาจักรอื่นอาจจะใช่ แต่สำหรับชาวเวนเดลล่านี่คือความหวัง ความหวังที่จะได้พบองค์รัชทายาทที่หายไปอีกครั้ง

    หรอ ดูมุ่งมั่นดีนะ เรฟกล่าวอย่างไม่ใส่ใจ ก่อนที่ทั้งสองจะสะดุ้งสุดตัวเมื่อได้ยินเสียงเข้มตวาดขึ้นภายในห้องที่มีการตั้งวงไพ่กันอยู่จนทำเอาคนทั้งหมดแตกฮือราวกับผึ้งแตกรัง

    เรนเดล!! ใครใช้ให้นายทำผิดกฎแทนหะ! กลับห้องไปเดี๋ยวนี้! ทุกคนเลย อย่ามัวแต่อึ้ง!! ฉันจะหักคะแนนความประพฤติพวกนายคนละยี่สิบคะแนน!!”

    เมื่อเห็นรุ่นพี่ที่ดำรงดำแหน่งรองหัวหน้าหน่วยเดินตรงมาทางพวกเขาทั้งสอง เรฟและเซฟิรอสจึงส่งยิ้มหวานไปขัดตาทัพ

    พวกนายไม่ได้เล่นใช่ไหม

    ทั้งสองส่ายหน้าหวือจนคอแทบหัก คารอสพยักหน้าเข้าใจก่อนจะปรายตามาทางเรฟานอสแวบนึงและเดินกลับเข้าไปในห้องเช่นเดิม

    งั้นฉันไปก่อนนะ เมื่อเห็นว่าทุกคนกลับห้องไปกันหมดแล้ว เซฟิรอสจึงหันมาลาเพื่อนจากไฟร์ออนาซเพื่อกลับไปพักผ่อนที่ห้องของตัวเอง

    อืม ฉันคิดว่ายืนรับลมอีกหน่อย นายกลับห้องไปเถอะ

    เรฟานอสมองส่งเพื่อนใหม่ไปจนลับตา นัยน์สีน้ำเงินใสเสกลับมามองยังฟ้ายามรัตติกาลเช่นเดิม ผมสีเงินปลิวไสวไปตามแรงลมช่างขัดกับความมืดมิดเบื้องหน้า แสงนวลของจันทราอาบไล้ไปทั่วทุกผืนแผ่นดิน แต่ช่างน่าแปลก ที่ในค่ำคืนนี้จันทรากลับมัวหมองต่างจากทุกวันราวกับกำลังร่ำไห้ให้กับอะไรบางอย่าง

    เรฟานอสเหม่อมองเข้าไปในความมืดมิด นานแสนนาน ก่อนจะเหยียดรอยยิ้มหยันออกมาเมื่อนึกถึงบทสนทนาของเขากับเพื่อนจากเวนเดลล่าเมื่อครู่

    สำหรับอาณาจักรอื่นอาจจะใช่ แต่สำหรับชาวเวนเดลล่านี่คือความหวัง ความหวังที่จะได้พบองค์รัชทายาทที่หายไปอีกครั้ง

    ความเชื่ออันไร้แก่นสาร กับความหวังลมๆแล้งๆที่ไม่มีทีท่าว่าจะสำเร็จ

    คำทำนายแห่งแผ่นดินงั้นหรอ...

    หึ... ก็แค่เรื่องไร้สาระที่มนุษย์สร้างขึ้นเท่านั้นแหละ...









    --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

    สั้นไปนิดนึง...แหะๆ 
    หลังจากที่แต่งไปได้สักพักไรต์ถึงได้รู้ตัวเองว่า  ไรต์ถนัดแต่งดราม่าเป็นอย่างมาก!!
    แต่งอะไรก็ดราม่าไปหมด! อยากจิกรี๊ด  T^T

    เมื่อวานไรต์นึกสนุก เลยวาดรูปเรฟานอสมาฝากทุกคนด้วย




    รูปอาจจะไม่ชัดเพราะใช้มือถือถ่าย อีกอย่างมันยังไม่สมประกอบเพราะไรต์ยังกาก 5555555
    อย่าลืมเม้นด้วยน๊าาาา ขอกำลังใจหน่อยนะพลีสสส T^T
    แล้วเจอกันตอนหน้าจ้า







     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×