ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Reyphanos ผู้พิทักษ์แห่งเซซินเนียร์

    ลำดับตอนที่ #15 : บทที่ 14

    • อัปเดตล่าสุด 13 พ.ค. 58


    บทที่ 14


                    “อืม.. เด็กคนนี้สินะที่เจ้าเรนเดลเล่าให้ฟัง

                    เรฟานอสและทารีสส่งยิ้มให้ชายชราผู้มีศักดิ์เป็นถึงอดีตองค์จักรพรรดิเพื่อเป็นการยืนยันว่า เด็กคนนี้แหละที่พี่เรนเดลอ้อนวอนจนแทบจะทรุดลงไปกราบขอให้ท่านผู้อำนวยการผู้สูงศักดิ์ผู้นี้อนุญาตให้พวกเขาทั้งสองพาเด็กชายผู้มีรอยยิ้มสดใสเข้ามาพักด้วยกัน

                    อดีตองค์จักรพรรดิที่กำลังนั่งพิจารณาเด็กชายเจ้าของเรือนผมและดวงตาสีทองประกายอยู่บนโต๊ะทรงงานคลี่ยิ้มเล็กน้อยเมื่อเห็นท่าทางลุ้นจนตัวโก่งของชายหนุ่มทั้งสองและอาการเกร็งจนน่าจะเป็นเหน็บชาของเด็กชาย พระองค์จึงอดไม่ได้ที่จะสรวนออกมาเบาๆอย่างขบขัน

                    ทำตัวตามสบาย ไม่ต้องเกรงใจกันมากก็ได้

                    พะยะค่ะ

                    สามเสียงตอบรับอย่างเป็นมั่นเป็นเหมาะแต่ก็ยังไม่ลดอาการเกร็งลงเลยแม้แต่น้อยทำเอาคนพูดรู้สึกปลงแต่ก็ยอมปล่อยผ่าน

                    จากที่เจ้าทั้งสองเล่ามา เด็กคนนี้สมควรที่จะมาอยู่กับเราสักระยะจริงๆนั่นแหละนะ

                    ทรงอนุญาตใช่ไหมฝ่าบาท

                    ใช่ เราอนุญาต แต่...

                    เรฟานอสและทารีสที่ยิ้มออกมาเกือบจะพร้อมกันหุบลงฉับทันทีเมื่อได้ยินคำว่า แต่ ที่ฟังยังไงก็ไม่น่าพิสมัยเลยแม้แต่น้อย มันกลับดูน่าหวาดระแวงเสียจนทั้งคู่จับจ้องไปยังชายชราด้วยความไม่ไว้ใจ

                    พวกเจ้านี่ช่างขี้ระแวงเสียจริง อดีตองค์จักรพรรดิส่ายหน้าน้อยๆ สิ่งที่เราอยากจะพูดคือ ระหว่างที่เจราลอยู่ที่นี่ ข้าอยากให้พวกเจ้าทั้งสองช่วยดูแล คอยสอนทฤษฎีวิชาต่างๆและสอนการต่อสู้ให้เด็กคนนี้ด้วย

                    งานเข้า..

                    คำหนึ่งคำผุดขึ้นมาในหัวของเรฟานอสและทารีสโดยมิได้นัดหมาย จริงอยู่ที่เด็กคนนี้ถ้าได้รับการอบรมอย่างถูกต้องจะต้องเป็นบุคคลที่ยิ่งใหญ่ในอนาคตอย่างไม่ต้องสงสัย แต่ใช่ว่าพวกเขาจะสามารถอบรมเด็กคนนี้อย่างถูกต้องได้หรอกนะ!!

                    แต่ในเมื่ออดีตองค์จักรพรรดิพูดเอง พวกเขาก็คงต้องสอนเด็กคนนี้อย่างสุดความสามารถสินะ...

                    พะยะค่ะฝ่าบาท

                    เรฟานอสและทารีสโค้งคำนับอีกฝ่าย ก่อนที่ชายชราจะหันไปเอ่ยปากกับเจ้าชายหนุ่มด้วยรอยยิ้ม

                    เจ้าชายทารีส เจ้าช่วยพาเจราลไปเดินดูรอบๆโรงเรียนก่อนได้ไหม เรามีเรื่องจะคุยกับเรฟานอสสักครู่

                    เมื่อได้ยินคำขอร้องที่ดูเหมือนจะเป็นคำไล่กรายๆของผู้เป็นใหญ่แห่งแผ่นดิน เจ้าชายทารีสก็เลิกคิ้วอย่างแปลกใจ  แอบนึกสงสัยว่ามีเรื่องอะไรที่ทำให้อดีตองค์จักรพรรดิถึงกับต้องไล่พวกตนและรั้งคนที่ไม่ได้มียศถาบรรดาศักดิ์มากพอที่จะไปทำความรู้จักมักคุ้นกับพระองค์ไว้เพื่อคุยธุระต่อ

                    แต่กระนั้นเจ้าชายหนุ่มก็มีมารยาทมากพอที่จะไม่เอ่ยปากถามหรือหันไปทำหน้ากดดันใส่เพื่อน ร่างสูงและเด็กน้อยลุกขึ้นและโค้งคำนับเป็นเชิงลาก่อนที่จะพากันออกไปจากห้องเงียบๆ

                    เมื่อทั้งสองออกไป เรฟานอสที่นั่งเงียบมาตลอดก็ยกยิ้มบางพลางเอ่ยถามสิ่งที่ค้างอยู่ในใจของตนเองมาเสียนาน

                    ท่านรู้เรื่องนี้อยู่แล้วใช่ไหม

                    ชายชราถอยหายใจ เราก็เพิ่งรู้เรื่องนี้พร้อมกับเจ้า ไม่สิ... บางทีเจ้าอาจจะรู้ก่อนหน้าเราเสียด้วยล่ะมั๊ง

                    ท่านกำลังจะบอกว่าท่านไม่รู้ตัวมาก่อนว่าโครนอนจะกลับมางั้นหรือ ทั้งๆที่ข้า ทารีส เอนเดลลิออน เซฟิรอส เรอา และเจราล ก็ยืนอยู่ตรงหน้าท่าน ท่านคิดจะหลอกตัวเองหรืออย่างไร

                    ใบหน้าคมคายฉายแววไม่เชื่อออกมาอย่างเด่นชัด เรฟานอสจับจ้องไปยังชายชราผู้มียศถาบรรดาศักดิ์สูงส่งที่กำลังมองตอบกลับมาเช่นเดียวกัน ดวงตาคมปราบของเรฟมองอีกฝ่ายราวกับต้องการที่จะมองทะลุไปจนถึงแก่นแท้จิตใจ ก่อนที่จะหรี่ตาลงแล้วกล่าวเสียงเข้ม

                    ท่านคิดจะขัดขวางข้าอย่างนั้นหรือ

                    เปล่าเลย เราไม่เคยคิดที่จะขัดขวางท่าน อดีตองค์จักรพรรดิส่ายหน้า จะว่าเราหลอกตัวเองก็ได้ เราแค่ยังไม่อยากจะเชื่อว่าท่านโครนอนจะเจ้าคิดเจ้าแค้นพวกท่าน และเรายังไม่อยากจะเชื่อว่าท่านจะจบเรื่องลงอย่างนี้จริงๆ

                    เรฟานอสไม่สนใจสรรพนามที่ชายชราจงใจเปลี่ยนการเรียกเขาจาก เจ้า เป็น ท่าน เรฟขยับยิ้มบางที่ต่อให้ดูกี่ครั้งก็เข้าข่ายของคำว่าแสยะยิ้มเสียมากกว่า

                    “เรื่องนี้ยืดเยื้อมานานเกินพอแล้ว ถึงเวลามันจะจบลงเสียที

                    ท่านมั่นใจแค่ไหนว่ามันจะจบลงจริงๆมิใช่เป็นเพียงแค่ผนึกพลังของท่านโครนอนไว้เหมือนเมื่อกาลก่อน ชายชราอดที่จะแย้งออกมาไม่ได้ อีกทั้งความทรงจำของท่านเทพทั้งหลายก็ยังไม่ฟื้นคืน แล้วท่านจะจัดการกับเรื่องนี้อย่างไร

                    ตอนแรกข้าคิดไว้ว่าจะค่อยๆฟื้นความทรงจำของพวกเขาทีละนิด แต่ในเมื่อเหตุการณ์มันกลายเป็นอย่างนี้ บุตรแห่งโครนอนได้มายืนอยู่ตรงหน้าพวกเราทั้งหมดแล้ว ถ้าหากพวกเขายังไม่ฟื้นความทรงจำขึ้นมา ข้าจะจัดการเรื่องทุกอย่างเอง

                    แต่ว่าท่านจะ...ชายชราชะงักเมื่อสบเข้ากับดวงตาดุๆที่เหมือนกับผู้ใหญ่ดุเด็กของเรฟานอสที่ดูยังไงก็ไม่เข้ากับสภาพของทั้งสองเลยแม้แต่น้อย

                    ก็แค่รับศึกสองด้าน ท่านจะกังวลไปทำไม.. ถึงจะบอกว่าไม่ต้องกังวล แต่ใบหน้าอันหล่อเหลากลับไม่มีความว่าสบายใจปะปนอยู่บนนั้นเลยแม้แต่น้อย ตอนนี้เหลือเวลาอีกไม่มากแล้ว ท่านรู้รึเปล่าว่าข้าจะจัดการจบเรื่องทั้งหมดนี้ยังไง

                    ดวงตาฝ้าฟางมองคนพูดอย่างไม่เข้าใจ ท่านคิดจะทำอะไร

                    “รู้อะไรไหม ชาเชล เรฟานอสลุกขึ้นและเอ่ยชื่ออดีตองค์จักรพรรดิอย่างผู้เหนือกว่า ตอนนี้กองทัพปีศาจจำนวนห้าพันตนกำลังยกทัพไปที่โรงเรียนของเจ้า

                    ท่าน.. ท่านว่าอย่างไรนะ!!”   ชาเชล ผุดลุกขึ้นด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความตื่นตระหนก เด็กและอาจารย์คนอื่นๆไม่รู้เรื่องอะไรด้วย ท่านกำลังทำร้ายผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องนะ!!”

                    แค่มีชีวิตอยู่ พวกเขาก็ปฏิเสธไม่ได้หรอกนะว่าไม่เกี่ยวข้องกับข้า

                    เรฟานอสยกยิ้มอย่างผู้ถือชัยชนะ

                    เอาล่ะ เจ้าคิดว่าเจ้าพวกที่อยู่โรงเรียนจะจัดการกับเรื่องนี้ยังไงนะ แค่คิดก็สนุกแล้ว เจ้าคิดอย่างนั้นไหม ท่านผู้อำนวยการที่เคารพ







    -------------------------------------------------------- 40%------------------------------------------------------------------








     

    วี๊ดดดดด!!!!!

    เสียงสัญญาณเตือนภัยดังก้องไปทั้งโรงเรียนเตรียมอัศวินคาเรเนียส เหล่านักเรียนและอาจารย์ที่กำลังทำกิจกรรมยามว่างในวันหยุดต่างสะดุ้งสุดตัวและเรียกอาวุธของตนเองขึ้นมาเตรียมพร้อมต่อสิ่งที่ไม่คาดฝัน ไม่ต่างกับเจ้าชายทารีสที่กำลังพาร่างน้อยๆของเจราลเดินชมโรงเรียนอยู่ก็เรียกดาบเล่มงามออกมาเช่นเดียวกัน

                    เป็นที่รู้กันดีว่าเมื่อใดที่เสียงสัญญาณของโรงเรียนดังขึ้น เมื่อนั้นจะหมายความได้ว่ามีผู้บุกรุกเข้ามายังที่แห่งนี้ อีกทั้งยังมีมากเสียจนสัญญาณดังไม่หยุดทำให้ใบหน้าของเจ้าชายหนุ่มเคร่งเครียดขึ้นเรื่อยๆ

                    นี่คือคำสั่งจากรองผู้อำนวยการ ให้นักเรียนทั้งหมดกลับไปประจำและรอตั้งรับที่ปราสาทของตัวเอง  ย้ำ! ไปรอตั้งรับอยู่ที่ปราสาทของตัวเอง อย่าอยู่กระจายกันเป็นอันขาด!!’

                    เสียงประกาศพร้อมด้วยน้ำเสียงอันทรงอำนาจของรองผู้อำนวยกระจายไปทั่วทั้งโรงเรียน ทำให้ทุกคนต่างพากันแยกย้ายไปแต่ละปราสาทที่ตนสังกัดด้วยความเร่งรีบ เจ้าชายทารีสที่ยังกุมมือเจราลไว้แน่นหันไปหาเด็กชายที่ยังแสดงสีหน้าไม่เข้าใจก่อนที่จะเอ่ยเสียงนุ่ม

                    ตอนนี้มีผู้บุกรุกเข้ามาที่นี่ เดี๋ยวข้าจะพาเจ้ากลับไปรอที่ห้อง พอกลับไปแล้ว เจ้าอย่าออกไปไหนนะรู้ไหม           

                    มีคนบุกรุกเข้ามาที่นี่อย่างนั้นหรอครับ ใบหน้าของเจราลตระหนกอย่างเห็นได้ชัด

                    ใช่ ตอนนี้ข้าจะพาเจ้าไปที่ห้อง เจ้าชายทารีสอุ้มเด็กชายขึ้นมา จับไว้ดีๆล่ะ

                    ยังไม่ทันที่เจราลจะร้องถาม ร่างสูงและเด็กน้อยก็หายวับไปจากตรงนั้นด้วยพลังเวทที่มากมายเสียจนทำให้บางคนที่ยังไม่ได้กลับไปประจำที่ปราสาทต่างตาค้างกันไปตามๆกัน

     


                     . . .

                     . . .

                     . . .

                     . . .





     

     

                   

                    นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันเนี่ย!!”

                    เสียงของใครสักคนดังขึ้นมาจากกลุ่มของนักเรียนอัศวินชั้นปีที่สี่ของหน่วยพิเศษที่กำลังใช้ดาบในมือฟาดฟันปีศาจที่กำลังดาหน้าเข้ามาไม่หยุดหย่อน บางคนก็ฟันดาบไปบ้างใช้เวทจู่โจมไปบ้าง หรือแม้แต่ใช้เวทจู่โจมไปบ้างบ่นไปบ้างก็มี...

                    อย่างเช่นใครบางคนที่กำลังทำอยู่ในตอนนี้...

                    โอ๊ย! เจ้าพวกนี้มันมาจากไหนเนี่ย ถึงจะเป็นแค่ลูกกะจ๊อกแต่มีเยอะแบบนี้ก็ไม่ไหวนะโว้ย

                    ตู้มมม!

                    เสียงบ่นที่มาพร้อมกับแรงระเบิดทำให้เหล่านักเรียนหน่วยพิเศษต่างหันไปทางหัวหน้าหน่วยที่เป็นจุดกำเนิดเสียงทันที

    พลังทำลายล้างที่มีไม่น้อยทำให้สภาพโดยรอบของปราสาทหน่วยพิเศษไม่ต่างกับสมรภูมิรบสักเท่าไหร่ ต้นไม้โดยรอบมีรอยของมีคมขีดข่วนอยู่ทั่วทุกต้น บางจุดมีรอยไหม้จากการใช้เพลิง บนพื้นมีหลุมมีบ่อเกิดขึ้นไปทั่ว หรือแม้แต่รอยเลือดที่หยดลงสู่ผืนดินก็มีมากขึ้นเรื่อยๆเช่นเดียวกัน

    คารอสที่กำลังร่ายเวทอยู่ใกล้ๆกระโดดหลบลูกหลงของพลังจากเรนเดลก่อนที่จะหันไปค้อนใส่เพื่อนที่ใช้พลังไม่ดูชาวบ้านชาวช่องอย่างเคืองๆ

    ถ้านายยังใช้พลังมั่วซั่วแบบนี้อีกฉันจะระเบิดนายแทนเจ้าปีศาจพวกนี้ คารอสกล่าวเสียงเย็น

    นายจะจัดการเจ้าปีศาจก็ทำไปสิ เรนเดลว่าพร้อมร่ายเวทเพลิงใส่ปีศาจตัวหนึ่ง จะมาบ่นฉันทำไม

    แต่ว่า... พี่เรนเดลเกือบจะสอยพวกเดียวกันแทนแล้วนะครับ…” เรอาที่น่าจะโดนลูกหลงจากพลังเมื่อสักครู่เช่นเดียวกันพูดเสียงอ่อยแต่มือทั้งสองก็ตวัดดาบไม่หยุด

    ฮ่าๆๆ พวกนายเก่งๆกันอยู่แล้ว แค่นี้หลบกันได้อยู่แล้วนี่

    คนที่ใช้พลังไม่สนโลกยังคงหัวเราะร่าไม่สนใจใครต่อไปทำเอาเพื่อนและรุ่นน้องที่แม้จะไม่ได้ตั้งใจฟังแต่บทสนทนาก็ยังลอยเข้าหูมาอยู่ดีกรอกตาไปมาอย่างไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาอธิบายกับหัวหน้าคนนี้ เสียงถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่ายของคารอสดังขึ้นก่อนที่เจ้าตัวจะหันไปจัดการปีศาจตรงหน้ารุนแรงขึ้นราวกับจะใช้มันระบายอารมณ์ที่คุกรุ่นอยู่ตอนนี้

    ถ้าในสถานการณ์ปกติก็คงหลบได้อยู่หรอกครับ เสียงนุ่มๆของเซฟิรอสที่สู้อยู่ไม่ไกลดังขึ้นมา แต่ตอนนี้พวกเรากำลังสู้ติดพันกับปีศาจนับพันตัวอยู่นะครับพี่

    เสียงสนทนาที่ดังไม่น้อยยังคงดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง นักเรียนหน่วยพิเศษแห่งคาเรเนียสยังคงสู้กันอย่างสบายๆไม่มีแววแห่งความเหนื่อยล้าออกมาตามคำบ่นเลยแม้แต่น้อย ถึงปีศาจเหล่านี้จะฝีมือไม่มาก แต่ด้วยจำนวนที่ไม่ลดลงเสียทีก็สร้างความหวั่นใจให้กับทุกคนได้ไม่น้อย

         ถ้าขืนยังสู้ต่อไปพวกเขาจะต้องพลังหมดหรือไม่ก็เหนื่อยตายไปก่อนแน่...
      

                    ถึงจะได้ชื่อว่าเป็นหน่วยปีศาจแต่ยังไงก็ยังเป็นมนุษย์อยู่วันยันค่ำ และพวกเขาต่างก็เชื่อว่าในบรรดาปีศาจทั้งหมดนี้ไม่ได้มีเพียงระดับล่างเป็นแน่ เพียงแต่ในเวลานี้ พวกปีศาจระดับสูงกำลังทำอะไรอยู่ที่ไหนพวกเขาก็ไม่อาจอธิบายได้เหมือนกัน

                    แต่แล้ว ท้องฟ้ายามเย็นที่เคยส่องสว่างก็ไม่เปล่งประกายของแสงตะวันอีกต่อไป เมฆสีดำทะมึนก้อนใหญ่คืบคลานเข้ามาบดบังดวงตะวันจนความมืดค่อยๆเข้าคลอบงำโรงเรียนเตรียมอัศวินช้าๆ เหล่านักเรียนต่างรับรู้ถึงลางร้ายที่กำลังเคลื่อนเข้ามายังพวกตนแต่ก็ไม่อาจทำอะไรได้ ได้แต่ร้อนรนและเฝ้าภาวนาว่าพวกเขาจะสามารถรับมือกับมันได้โดยที่ไม่มีใครเป็นอะไรไปเสียก่อน

                    ครืน ครืน

                    เปรี้ยง!!!

                    เสียงกัมปนาทดังกึกก้องจนหัวใจสั่นไหว เรนเดลที่เห็นท่าไม่ดีรีบถอยหลังไปหาสถานที่ว่างและร่ายม่านมนตราขนาดใหญ่ขึ้นมา

                    นักเรียนหน่วยพิเศษฟังคำสั่ง! เข้ามาหลบในม่านมนตราเดี๋ยวนี้ เร็ว!!”

                    เมื่อได้ฟังคำสั่งของคนที่นานๆทีจะจริงจังทำให้ทุกคนไม่ลังเลที่จะทำตามเลยแม้แต่น้อย ทุกคนต่างรีบจัดการกับปีศาจตรงหน้าของตนและรีบเข้าไปรวมตัวกันอยู่ในโดมสีแดงใสของท่านหัวหน้าหน่วยทันทีแม้จะยังไม่ค่อยเข้าใจอะไรก็ตาม

                    เมื่อทุกคนเข้ามาในม่านมนตราหมดแล้ว มันก็เป็นช่วงเวลาเดียวกันกับที่ก้อนเมฆคืบคลานเข้ามาจนท้องฟ้ากลายเป็นสีดำสนิท สายอัสนีฟาดลงมากระทบม่านมนตราหลายต่อหลายครั้งแต่ก็ไม่อาจจะทำอันตรายให้แก่เหล่านักเรียนหน่วยพิเศษได้

                    ทุกคนต่างจับจ้องไปยังภาพภายนอกม่านมนตราที่บัดนี้ค่อยๆปรากฏร่างของสิ่งที่เหมือนมนุษย์แต่บางตนกลับมีหูจิ้งจอก เขากระทิง หางเป็นพุ่มๆ หรืออะไรก็แล้วแต่แตกต่างกันออกไปขึ้นทีละตนสองตนจนกลายเป็นกองทัพขนาดย่อม ลักษณะของปีศาจที่เพิ่งปรากฏกายมีส่วนคล้ายกับมนุษย์เป็นอย่างมากบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าทุกตนต่างเป็นปีศาจชั้นสูง

                    ด้วยจำนวนที่เทียบกันไม่ติดทำให้นักเรียนหน่วยพิเศษรู้สึกหวาดหวั่นอยู่ในใจลึกๆแต่ไม่มีผู้ใดแสดงสีหน้าหวาดกลัวออกมาเลยแม้สักคนเดียวสร้างรอยยิ้มบางให้กับเรนเดลที่ลอบสังเกตปฏิกิริยาของทุกคนได้ไม่น้อย

                    ปีศาจชั้นสูงทั้งนั้นเลยนี่
                    เรอารำพึงออกมาเสียงเบา นัยน์ตาสีเขียวมรกตมองภาพตรงหน้าอย่างไม่เชื่อสายตา แอบคิดไม่ได้ว่าหากเรนเดลไม่เรียกเข้ามาในม่านมนตราพวกเขาจะมีสภาพเช่นไร

                    “แบบนี้ต้องมีเบื้องหลังอะไรแน่ ทารีสพูดขึ้น และคนที่ส่งเจ้าพวกนี้มาต้องการจะทำอะไร

                    เอนเดลลิออนที่ยืนเงียบมาตลอดขมวดคิ้วเล็กน้อย ก่อนจะหันไปถามเพื่อนผมน้ำเงินด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความกังวล  ทารีส ทำไมนายมาอยู่ที่นี่

                    ทารีสที่ได้ฟังคำถามหันไปทางคนพูดอย่างไม่เข้าใจ ทำไมหรือ

                    นายออกไปข้างนอกกับเรฟไม่ใช่หรือ แล้วตอนนี้เรฟอยู่ที่ไหน ไม่ได้กลับมาด้วยหรอ

                    เรฟโดนผู้อำนวยการเรียกพบ แต่ฉันกลับมาก่อนเพราะมีคำสั่งให้มาพาเจราลไปเดินชมโรงเรียน...

                    เมื่อได้ฟังดังนั้นเอนเดลลิออนก็ทำหน้าเครียด พอกันกับทารีสที่ชะงักคำพูดเมื่อคิดอะไรบางอย่างขึ้นได้ ไม่ต่างจากเพื่อนและรุ่นพี่ที่ยืนอยู่รอบๆที่มีท่าทีขรึมลงเช่นเดียวกัน

                    นี่มันนานเกินไปแล้วนะเซฟิรอสนิ่วหน้า

                    ถ้าคุณเรฟกลับมาคนเดียว ก็มีโอกาสสูงที่คุณเรฟกำลังตกอยู่ในอันตรายน่ะสิครับ เรอาพูดด้วยน้ำเสียงร้อนรน ในใจนึกเป็นห่วงเพื่อนที่หายไปไม่น้อย

                    ทุกคนเงียบก่อน

                    เสียงเรียบของเรนเดลขัดบทสนทนาทุกอย่างจนพากับเงียบไปตามๆกัน เรนเดลที่แม้จะเป็นห่วงรุ่นน้องไม่น้อยแต่ก็ยังเชื่อว่าคนที่สอบเข้าที่นี่ด้วยคะแนนอันดับหนึ่งสามารถเอาตัวรอดได้อย่างแน่นอน

     เรนเดลมองภาพกองทัพปีศาจระดับสูงขนาดย่อมที่ตั้งขบวนอย่างเป็นระเบียบตรงหน้าพวกเขาแต่กลับไม่ลงมือปะทะหรือทำอะไรสักอย่างสร้างความสงสัยให้เขามากกว่าการหายตัวไปของรุ่นน้องเสียอีก

                    ปีศาจพวกนี้ผิดปกติเกินไป

         ทั้งๆที่มาข่มขวัญถึงที่แต่กลับไม่ลงมือทำอะไรสักอย่าง.. 

                    ต้องมีใครชักใยอยู่เบื้องหลังแน่..

                    หรือไม่ก็.. อาจจะกำลังรอใครสักคน..

                    สายตาคมกริบของเรนเดลกวาดมองไปทั่วแต่ก็ยังไม่เห็นผู้ใดที่คิดว่าน่าจะเป็นผู้บัญชาการกองทัพปีศาจทัพนี้ แต่ก่อนที่ร่างสูงจะหันกลับมาหาเพื่อปรึกษากับสมาชิกในหน่วย ร่างของเรนเดลก็ถูกพลังบางอย่างอัดกระแทกจนร่างปลิวไปปะทะม่านมนตราอีกด้านอย่างแรงท่ามกลางความตื่นตกใจของทุกคน

                    เปรี้ยง!!!

                    อั่ก!!

                    เรนเดลที่ถูกอัดกระแทกทรุดตัวลงกับพื้นกระอักลิ่มเลือดสีแดงฉานออกมา

                    พี่เรนเดล/เรนเดล!!”

                    ทุกคนตะโกนเรียกชื่อหัวหน้าหน่วยและรีบเข้าไปดูอาการอย่างตกใจ ภายในม่านมนตราอันแข็งแกร่งนี้ ไม่มีทางที่จะสร้างรอยขีดข่วนให้กับคนด้านในได้ตราบใดที่ม่านมนตรายังคงทำงานอยู่

               แต่น่าเสียดาย  

    ที่มันไม่สามารถป้องกันการโจมตีของคนที่อยู่ด้านในด้วยกันเองได้..

    นาย.. นายทำบ้าอะไรของนายน่ะคารอส! นายโจมตีเรนเดลทำไม!!”

    เสียงพูดของแชนเดรียดังไม่ต่างจากเสียงตะโกน ใบหน้างามมองไปยังผู้ลงมืออย่างไม่เข้าใจ  คารอสที่ยังคงมีไอของพลังเวทแผ่กระจายออกมามองไปทางเพื่อนสาวเพียงคนเดียวของชั้นปีด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง

    ฉันแค่ต้องการกำจัดตัวเกะกะ

    นี่นาย.. ใบหน้าของแชนเดรียคล้ายจะร้องไห้แต่ก็กลั้นน้ำตาเอาไว้ เหล่านักเรียนปีสี่ต่างก็มองไปยังเพื่อนที่เรียกได้ว่าเป็นเพื่อนสนิทของเรนเดลอย่างผิดหวัง นายคงไม่ใช่..

    คำพูดที่ถูกละเอาไว้แต่ทุกคนกลับเข้าใจเป็นอย่างดี ทุกคนทุกชั้นปีต่างมองคนที่เป็นดังเพื่อน พี่ และครอบครัวด้วยสายตาผิดหวัง ในใจต่างก็ภาวนาให้เรฟานอสกลับมาเสียที กลับมาจัดการลูกศิษย์ของตัวเองที่กำลังผันตัวไปเป็นส่วนหนึ่งของกองทัพปีศาจเสียที เมื่อเรฟกลับมา ทุกอย่างที่เกิดขึ้นอาจจะเป็นเพียงความฝันก็ได้

    โดยหารู้ไม่ว่า ความจริงเป็นสิ่งที่น่ากลัวว่าความฝันหลายเท่าทีเดียว





    หืม? เล่นอะไรกันน่าสนุกเชียว

    เสียงนุ่มอันคุ้นเคยทำให้ทุกคนต่างหันไปมองอย่างมีความหวัง แต่แล้วก็ต้องตกใจแทบสิ้นสติเมื่อเห็นเสื้อผ้าและคนติดตามของรุ่นน้องที่ดูยังไงก็ไม่น่าจะใช่มนุษย์เสียเลย

    เส้นผมสีเงินยาวสยายพลิ้วไหวไปตามการก้าวเดิน ใบหน้าคมคายยังคงมีรอยยิ้มอบอุ่นที่เป็นเอกลักษณ์อยู่เช่นเดิมแต่เวลานี้กลับไม่ได้ทำให้รู้สึกสบายใจดังเช่นทุกครั้ง แต่สิ่งที่ทำให้ทุกคนชะงักนั้นกลับเป็นดวงตาสีแดงประกายทองที่ทำให้ใบหน้าหล่อเหลาแปลกตากว่าแต่ก่อน อาภรณ์ของชนชั้นสูงสีขาวขลิบน้ำเงินและผ้าคลุมยาวสีน้ำเงินเต็มยศทำให้ร่างที่สวมใส่นั้นสูงส่งราวกับจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ ภายในมือแกร่งนั้นมีง้าวเล่มงามที่เป็นดังเครื่องยืนยันว่าคนผู้นี้ไม่ได้เป็นเพียงสามัญชนดังที่เคยเข้าใจแต่อย่างใด

    ข้างกายของชายหนุ่ม มีบุรุษร่างสูงที่มีใบหูเรียวแหลมและใบหน้าคมคายหล่อเหลาเดินตามมาราวกับองครักษ์ อาภรณ์ที่สวมใส่ช่างงดงามไม่ต่างจากชายที่เดินนำแต่เป็นสีดำสนิททั้งตัวทำให้ร่างทั้งร่างแลดูน่าเกรงขามจนน่ากลัว

    อ้าว คารอส เจ้าเข้าไปอยู่ในกรงกับพวกนั้นทำไมกัน เสียงนุ่มของผู้มาใหม่ยังคงถามต่อ ออกมาได้แล้วน่า ข้าอยากกลับวังจะแย่ อุตส่ามาเล่นอยู่ที่นี่เสียหลายเดือนไม่เห็นจะมีอะไรน่าสนุกเลย

    คารอสที่ยังคงมีสีหน้าเรียบนิ่งเดินออกจากม่านมนตราและตรงเข้าไปขุกเข่าลงตรงหน้าคนเรียกท่ามกลางความตื่นตกใจของทุกคน เหล่านักเรียนหน่วยพิเศษโดยเฉพาะเอนเดลลิออน ทารีส เรอา และเซฟิรอสที่พอจะเดาเรื่องทั้งหมดได้ต่างมองไปทางสองศิษย์อาจารย์ที่กำลังพ่วงตำแหน่งราชาปีศาจอย่างไม่เชื่อสายตา

    ทุกสายตาจับจ้องไปยังทั้งคู่ด้วยความสับสน ไม่เข้าใจ ผิดหวัง และเสียใจ แต่ไม่มีผู้ใดเลยที่จะแสดงความโกรธแค้นออกมาอย่างที่ควรเป็น

    นี่เอง... คือเหตุผลที่ว่าทำไมเรฟานอสถึงชอบหายตัวไปในเวลากลางคืน

    นี่เอง... คือเหตุผลที่ว่าทำไมเรฟานอสถึงมีพลังที่แปลกประหลาดแต่ยิ่งใหญ่จนนับประมาณไม่ได้

    นี่เอง... คือเหตุผลที่ว่าทำไมเรฟานอสถึงได้ดูราวกับสูงส่งเกินกว่าที่จะเป็นสามัญชนธรรมดา

    ทุกอย่างมันกระจ่างลงวันนี้นี่เอง

    ทุกอย่างกระจ่างลงด้วยเหตุผลที่ว่า.. คนคนนี้ก็ไม่ได้เป็นมนุษย์เสียด้วยซ้ำ

    เรฟ..ทำไมกัน..

    เอนเดลลิออนมองเพื่อนที่รู้จักกันมาตั้งแต่เด็กอย่างไม่อยากจะเชื่อ เรนเดลที่แม้จะลุกยังแทบไม่ไหวแต่สายตากลับไม่ได้ละไปจากใบหน้านิ่งเรียบของคารอสที่ร่วมเป็นร่วมตายกันมาตลอดสี่ปี ในเวลานี้ทั้งสองต่างมีความรู้สึกที่เหมือนกันโดยต้องบอกก็รู้ได้

    ผิดหวัง.. และเจ็บจากการถูกหักหลังจากคนที่ไว้ใจที่สุด

    เจ็บจนพูดไม่ออก

    หึ เรฟานอสแค่นหัวเราะออกมาเล็กน้อยกับคำถามที่ราวกับไม่ยอมรับความจริงของเอนเดลลิออน ก่อนที่จะก้มลงไปมองคนที่ยังคุกเข่าไม่เลิก

    ลุกขึ้นมาเถอะคารอส

    พะยะค่ะ

    คารอสลุกขึ้นยืนและเดินไปอยู่เคียงข้างของเรฟานอส คนออกคำสั่งยิ้มบางก่อนที่จะพูดด้วยน้ำเสียงสบายๆ

    รีบทำงานให้เสร็จแล้วกลับวังกันเถอะ

    พะยะค่ะ ท่านเอรอน



               . . .


               . . .


               . . .



     

    ไม่ว่าอย่างไร ประวัติศาสตร์ ก็เป็นเพียงเรื่องที่ถูกดัดแปลงขึ้นไม่มากก็น้อย สิ่งที่ถูกบันทึกไว้เท่านั้นจึงจะเรียกว่าประวัติศาสตร์ แต่มีอยู่สิ่งหนึ่ง ที่ประวัติศาสตร์ไม่ได้ลงบันทึกไว้


             ซึ่งนั่นก็คือ...



             . . .


             . . .


             . . .



     

     

    ผู้ที่เคียดแค้นและชิงชังในเหล่าเทพเจ้า ไม่ได้มีเพียงเทพโครนอนเพียงองค์เดียว




           












    ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


    อัชช้ะ!! ดราม่ามาแบบจัดเต็มเลยจ้ะนายจ๋าาา 55555
    บางคนถึงกับอินจัดจะให้เรฟฆ่าเพื่อนเลยทีเดียว!! ฮู้วววว ปรบมือ!
    แต่ใจเย็นก่อนนะคะรีด พระเอกเราไม่ชั่วขนาดน๊านนนน 
    ขอบคุณสำหรับคำแนะนำในการเขียนและขออภัยเรื่องคำผิดนะคะ
    บางทีมันอาจจะมีหลุดรอดไปบ้าง เดี๋ยวไรต์จะเอาไปปรับปรุงแก้ไขน๊าา ^^
    ทุกคอมเม้นไรต์อ่านหมดเลยนะอิอิ เจอกันตอนหน้าจ้าาา

    ปล. ใครที่บอกว่าติดเรื่องนี้งอมแงมก็อย่าทิ้งหายไปไหนนะคะ 5555





     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×